ความรู้สึกอึดอัดจนอยากจะอาเจียน ความรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย แม่จ๋าช่วยหนูด้วย เหมือนกำลังโดนบีบคอ บีบคอ ใช่แล้วมีใครบางคนกำลังบีบคอ กรอบหน้าอ้วนของใครคนนั้นลอบเดนอยู่ตรงหน้า อี่อ้วนแกบีบคอฉันทำไม
“ไทเฮาเพคะ พระสนมกำลัง จะหมดลมหายใจแล้ว”่น้ำเสียงเศร้าสร้อยผิดกับท่าทีที่ออกแรงอย่างเต็มที่ในการบีบคอ ยังยังไม่ปล่อยอีกต้าเหนิงดิ้นรนแต่รุ้สึกว่าทำไมมีแรงเพีงแค่น้อยนิด
มือใหญ่ของยายป้าอ้วนบีบที่ลำคอไว้แน่น ริมฝีปากเหยียดยิ้มหยัน ดวงตามุ่งมาดให้ตายดับตรงหน้า นี่กล้าฆ่าคนเลยหรือ
ไทเฮาวัยกลางคนใบหน้ายังงดงามราวกับเพิ่งจะผ่านวัยสาวได้ไม่นานที่ยืนนอกม่านพยายามแหวกม่านสีทึมทึบเข้ามา ขันทีข้างกายรีบจับมือไว้เสีย ไม่ให้ได้ทำอย่างที่ใจคิด
“อย่าเลยพ่ะย่ะฮะ พระสนมต้าเหนิงกำลังจะเดินทางไปยังสรวงสวรรค์นางคงอยากให้ไทเฮาจดจำแต่ภาพงดงามของนางก็เท่านั้น อย่าเข้าไปเลยพ่ะย่ะฮะ ไทเฮาเองสุงส่งไม่บังควรจะต้องมาเห็นอะไรที่ไม่งดงามเช่นนั้น”ความตายเช่นไรจึงจะสวยงามคนใกล้ตายอย่างไรจึงจะสวยงาม อี่บ้า
ต้าเหนิงพยายามลืมตาขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียง และความอึดอัดที่ลำคอหายไป แต่ภาพที่เห็นคือร่างอ้วนของยายป้าคนเดิมกำลังยกหมอนปิดที่จมูกไว้ไม่ให้ได้หายใจ คงกลัวว่าจะเกิดร่องรอยที่ลำคอ หรือหมดแรงใบการบีบคอ หรืออีกอย่างกำลังคิดว่าตายยากตายเย็น คนที่คิดจะฆ่ามีถึงสองคนไอ้ขันทีนั่นกับยายป้าคนนี้ ต้าเหนิงพยายามดิ้นรนใช้เรียวแรงที่มีเพียงน้อยนิดแม้กระทั่งจะเปล่งเสียงร้องหรือไอออกมายังทำไม่ได้ พูดไม่ได้ ทำไมพูดไม่ได้ ทำไมไม่มีเสียง
“ยา ที่หมอหลวงจัดมาให้ไม่ช่วยอะไรเลยหรือ”
เสียงแสนปราณีและปนไปด้วยแววโศกสลดนั้นดังผ่านม่านหนาเข้ามา
นางกำนัลร่างใหญ่ออกแรงกดหมอนปิดปากปิดจมูกอีกครั้งแววตาทะมึ่งถึงแต่น้ำเสียงปรับให้เป็นเศร้าสร้อย
“พระสนมต้าเหนิง โธ่พระสนมจะดิ้นรนให้ตัวเองเจ็บปวดไปทำไมกัน หากข้าเจายี่เจ็บแทนท่านได้อึกๆๆๆ ข้าจะยอมแจ็บแทนท่านปล่อยวางเสียเจ้าค่ะไม่ต้องอาวรณ์สิ่งใด” มารดาแกสิแกเป็นคนทำฉันยัยป้าแกกำลังจะฆ่าฉัน ถ้าฉันหลุดไปได้แกจะต้องตายเท่านั้น เจายี่ฉันจะจำชื่อแกไว้เจายี่
“ฮืออออออพระสนมอย่าทรมานตัวเองเลยเจ้าค่ะไม่มีสิ่งใดให้อาวรณ์ฝ่าบาทตอนนี้ทรงเกษมสำราญมีสนมชิงซีถวายงานข้างกาย”ตั้งใจพูดให้เจ้าของร่างกัดลิ้นดิ้นตายไปเสียเพราะความริษยาสนมคนใหม่ แต่
ช่างหัวฝ่าบาทอะไรนั่นแก ปล่อยมือจากฉันนะ
เจายี่ร่างบยักษ์หน้าตาน่าเกลีดคนนั้น นางเสแสร้งจนน่าสงสารปานว่าจะขาดใจตายแทนได้กระนั้น
“แล้วมีใครกราบทูลฝ่าบาทหรือยัง เรื่องที่พระสนมต้าเหนิงกำลังจะเดินทางครั้งสุดท้าย”
เสียงปราณียังอยู่ตรงนั้น ต้าเหนิงอึดอัดที่สุด มีเพียงทางเดียวมีเพียงทางเดียว
ไทเฮา ไทเฮาจะเป็นใครก็ช่างคนคนนี้จะต้องช่วยได้แน่
นางกำนัลนางนั้นยิ่งกดปิดหมอนให้แน่นขึ้น
“พ่ะย่ะฮะข้าน้อยส่งคนกราบทูลฝ่าบาทแล้วตอนนี้ทรงพระสำราญ กำลังฟังพระสนมซิงซีบรรเลงฉินก่อนบรรทม บอกว่าถ้าว่างจะแวะมาดูใจพระสนมต้าเหนิง”
ขันทีจีบปากจับคอพูด
ไทเฮาส่ายหน้า ไม่มีใครช่วยได้นอกจากตัวของต้าเหนิงเอง
คิดออกแล้ว เขาว่าเจอหมีให้แกล้งตายยายนางกำนัลคนนี้ก็รูปร่างเหมือนหมี เฮอะพอๆๆๆไม่ตลก หาทางเอาตัวรอดก่อนต้าเหนิงคนงามสติมาปัญญาเกิด สติ สติต้าเหนิง ค่อยๆดิ้นช้าๆเบาๆๆๆลงเรื่อยๆคล้ายคนกำลังอ่อนแรงจริงๆก็ไม่ไหวนั่นแหละ จนกระทั่งหยุดดิ้นรน รู้ดีว่ายิ่งดิ้นยิ่งทรมานแบบนี้สบายกว่ากันเยอะ สองอึดใจที่มือใหญ่ที่กดหมอนอยู่ค่อยๆผ่อนแรงลงเรื่อยๆและเรื่อยๆ
นางกำนัลเจายี่รู้สึกได้ว่าร่างที่ดิ้นรนด้วยความทรมานเมื่อครู่สงบลงแล้วยกมือขึ้นอังที่จมูก
ต้าเหนิงฉลาดกลั้นลมหายใจไปก่อนแล้วนับหนึ่งถึงสิบ กำลังจะหมดลมแล้วมือเย็นเฉียบถอนออกจากปากครึ่งจมูก
นางกำนัลเจายี่ยิ้มเหยียดที่ริมฝีปาก แต่กลับทุดกายลงกับพื้นบีบน้ำตาได้อีก
“ฮือออออออพระสนม พระสนมไปดีเถิดเจ้าค่ะ ไปดีเจ้าค่ะอย่าได้อาวรณ์ เจายี่น้อมส่งพระสนม”
นางกำนัลเจายี่ที่หลายคนคิดว่าภักดีมาตลอดของสนมต้าเหนิงคนนี้ สะอื้นไห้อย่างหนัก ต้าเหนิงค่อยๆลอบสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอดตอนที่นางก้มหัวแสดงละครว่ากำลังน้อมส่งต้าเหนิง อย่างน้อยโชคก็เข้าข้างแกล้งตาย จนนางปล่อยมือจากหมอนต่อจากนี้ต้องใช้การแสดงล้วนๆจึงจะอยู่รอดปลอดภัย
ไทเฮาพรวดพราดเข้ามาคราวนี้ขันทีไม่ยักกะห้าม
หญิงกลางคนที่ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย ที่ถลาเข้ามาริมแท่นนอนสายตาอาวรณ์น่าสงสารยิ่งนัก คว้ามือต้าเหนิงเขย่าเบาๆ
“ต้าเหนิง สนมต้าเหนิงโธ่เจ้าคงทรมานไม่น้อยทั้งเป็นใบ้พูดไม่ได้และอาการป่วยไข้ที่เนิ่นนานนี่ หลับเสีย ไปสบายเถิด ไม่ต้องห่วงแล้ว”
ยกมือขึนลูบแก้มต้าเหนิงเบาๆ น้ำตาเต็มตา
มิน่าเล่า เป็นใบ้แล้วยังป่วยไข้แล้วยังมีคนอยากให้ตาย ต้าเหนิงเกิดใหม่ในร่างของสนมต้าเหนิงตอนกำลังจะถูกเขาฆ่า แล้วยังเป็นใบ้อีก เวรกรรมอะไรก่อน ดีนะที่แกล้งตายจึงรอดมาได้
นางกำนัลร่างยักษ์ถอยออกไปพยักหน้ากับขันทีข้างกายไทเฮายิ้มๆ ปัดไม่ปัดมือ ไอ้ที่สะอื้นเมื่อครู่ไม่มีแล้วมีเพียงหยาดน้ำตาที่นางเสแสร้งไว้
“ไทเฮาพ่ะย่ะฮะ อย่าทรงโศกเศร้าเสียพระทัยไปนักเลย ถนอมพระวรกายด้วยพ่ะย่ะฮะ ควรส่งพระศพได้แล้วพ่ะย่ะฮะ พระสนมป่วยไข้เกรงว่าร่างกายจะ ไม่สวยงามอย่างที่ควรจะเป็น และเอ่อเอ่อ อาจเป็นโรคติดต่อได้”ป๊ะแกสิโรคติดต่อเฮอะคิดจะกำจัดฉันหรือ คิดว่าฉันจะเน่าเหม็นหรือ พวกแกนั่นแหละ มือบางค่อยๆขยับกำมือไทเฮาไว้ส่งสัญญาณว่ายังมีชีวิตอยู่แววตาเศร้าโศกเมื่อครู่ของไทเฮาเปลี่ยนเป็นประหลาดใจ และตกใจไม่น้อยรีบดึงมือออก“ต้าเหนิงเจ้ายังไม่ตายหรอกหรือ”พูดราวกับกระซิบต้าเหนิงลืมตาขึ้นช้าๆ จ้องมองคนพูดไทเฮาสวมกอดต้าเหนิงไว้แน่น ต้าเหนิงยกมือขึ้นกอดตอบแต่ไม่อาจเปล่งเสียงพูด“ตามหมอหลวง เจายี่รีบตามหมอหลวง”เปล่งเสียงด้วยความดีใจ ต้าเหนิงถอนหายใจยาว ตัดไปที่เจายี่ที่อ้าปากค้างด้วยความตกใจต่อมาก็คือกำลังใช้สมองกำลังคิดหาคำแก้ตัวถลาเข้ามาข้างในม่าน“พระสนม โธ่พระสนมไม่เป็นไรแล้วหรือเจ้าค่ะ”น้ำตาแห่งความเสแสร้งมาอีกแล้วต้าเหนิงยิ้มเย็น ต้องเน้นๆแล้วแหละเจายี่เอ๊ย ยกเท้าขึ้นถีบไปที่ยอดหน้าของเจายี่อย่างแรงจนนางล้มลงก้นจ้ำเบ้า ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอาการชักกระตุกตาค้างดิ้นทุรนทุราย ไทเฮารีบเข้ามาพยุง“ต้าเหนิง ต้าเหน
“อุอะอะ”น่าเบื่อจากคนที่พูดได้ก็ไม่ได้พูดเดินตามมาตั้งใจชวนคุยและขอบคุณเขา แต่เปล่าเลยเขากลับไม่สนใจจะมองหน้าต้าเหนิงแม้แต่น้อย “หวางซื่อ ได้เรื่องแล้ว”หานจงเดินถือกระบี่และห่อของบางอย่างเข้ามา ในวิหารเทียมฟ้า“ว่าอย่างไร”รีบปัดมือลุกขึ้นไปหาหานจงไม่เหลือบตาแลต้าเหนิงที่หน้าเง้าอยู่ตรงนั้น “นี่คือยาที่ท่านหมอเทวดาจัดมาให้สนมเอ่อ ไม่ได้เป็นใบ้ตั้งแต่เกิดจึงพอจะมีทางรักษาอยู่บ้าง นางถูกวางยาจึงพูดไม่ได้ยานี่อาจช่วยฟื้นฟู มิใช่แค่วางยาให้พูดไม่ได้แต่นางถูกว่ายาสารพัดทั้งอาการป่วยไข้และ ร่างกายซูบผอมอ่อนแอ”“ดีเลย”ต้าเหนิงเดินเข้ามาเมียงมอง ทำเพื่อต้าเหนิงหรอกหรือ แต่ดูท่าทีเรียบเฉยนั่นสิโอ้แม่เจ้าคนอะไรจะนิ่งได้ขนาดนั้น นิ่งจริงน้ำนิ่งไหลลึกหรือว่าแอบนิ่งไปอย่างนั้นหน้าหล่อๆไม่น่านิ่งได้นาน“หวางซื่อ” กระซิบกระซาบกัน ไม่สนใจว่าต้าเหนิงจะตะแคงหูฟัง“ข้าเข้าใจแล้ว ไม่อยากใกล้นางเท่าไหร่เจ้าช่วยเอายานี่ไปให้กับนางกำนัลของเสด็จย่าให้ช่วยเคี่ยวให้สนมเอ่อ”หานจงพยักหน้า“มาแล้วหรือหานจง”เสียงไทฮองไทเฮาที่นางกำนัลพยุงมาที่ลานกว้างของวิหารเทียมฟ้าเอ่ยขึ้นเบาๆน้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยน“เสด็จย่า”
วังหลวงต้าเหนิงนอนเอกคเนกในเกี้ยวหลังใหญ่ ฉินเกอหลงนั่งนิ่งนับประคำอยุ่อีกฝั่งหนึ่งนั่งตัวตรงหลังแข็งเพื่ออะไรกันระยะทางก็ไม่ใช่ใกล้ๆ หรือว่ารักษาภาพลักษณ์เหมือนพวกนักเรียนนายร้อยที่นั่งยืนตัวตรงตลอดเวลา มีจริงนะคนแบบนี้ ทางไกลมากต้องเปลี่ยนคนหามเกี้ยววนกันไปมาถึงยี่สิบสองคนจากวิหารเทียมฟ้าอย่างนั้นจะทนทรมานไปทำไมต้าเหนิงก็ควรนอนดีที่สุด ฮ่องเต้นั้นตั้งใจส่งเกี้ยวมารับเพื่ออะไรความทรงจำบางเบาของสนมต้าเหนิงในหัวบอกกับต้าเหนิงว่าหลายเดือนมาแล้วไม่เคยได้รับใช้ใกล้ชิด อีกทั้งต้าเหนิงยังนอนป่วยลุกไปไหนไม่ได้ฮ่องเต้นั่นก็ไม่เคยสนใจแล้วยังแต่งตั้งสนมชิงซี ที่ท่าทียั่วยวน เอว่าแต่ต้าเหนิงกับฝ่าบาทนี่ได้เสียเป็นเมียผัวกันหรือยังน้าเกี้ยวจอดลงที่หน้าตำหนักเก่าๆเดิมๆที่มีความทรงจำยอดแย่… ตำหนักที่16… นางกำนัลเจายี่เดินเข้ามาในกรอบหน้าของต้าเหนิง ปรับสีหน้าเศร้าสร้อยกระแอมเบาๆ“พระสนมโอ้พระสนมกลับมาแล้ว”น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ แต่ตีหน้าเศร้าต้าเหนิงยิ้มย่อกายลงจับไหล่ทั้งสองข้างของเจายี่ ยังกล้าเสนอหน้ามาอีกหรือก่อนหน้านั้นเจ้าคิดว่าคนอย่างต้าเหนิงสมองเสื่อมหรือไร เจายี่เงยหน้าขึ้นยิ้มกว้างแค่เพ
“พระสนมเอ่อต้าเหนิงกลับมาแล้วเพฮะไทเฮา”ไทเฮายิ้มบางๆ“ดีแล้วส่งเทียบยาบำรุง ที่ตำหนักของสนมเอ่อ”“เพฮะไทเฮาแต่ทว่านางไม่ได้ล้มหมอนนอนเสื่อ อีกทั้งยังเดินเหินสะดวกเมื่อวานเจายี่บอกว่าพระสนมชักเกร็งแต่สีหน้ายิ่งผุดผาด ราวกับสาวแรกรุ่นข้าน้อยได้ยินเรื่อวที่นางได้ยาจากหมอเทวดามารักษา”ไทเฮาขมวดคิ้ว“เจายี่ไม่ได้รับใช้นางแล้วหรือ”“นางกำนัลเจายี่มาขออาศัยที่ตำหนักพระพันปีของไทเฮานางบอกว่าพระสนมเมื่อวานเกือบจะฆ่านาง ตอนนี้มีเพียง เอ่อ เอ่อไต้ซือเอ๊ย อ๋องฉินจวิ้นหวังที่คอยอารักขาพร้อมด้วยองครักษ์ข้างกายของจวิ้นหวังนามว่าหานจงเท่านั้น”“ระวังปากของเจ้าอย่าได้เผลอเรียกจวิ้นหวังเช่นนี้อีกเป็นอันขาดจวิ้นหวังถึงจะเป็นคนพูดน้อยไม่เคยกล่าวโทษใครและไม่ถือสาทว่าเป็นถึงจวิ้นหวังเจ้าควรระวังปากมากกว่านี้”“พ่ะย่ะค่ะ”ก้มหน้าสำนึกผิดปลอม“ฝ่าบาทมีท่าทีเช่นไร”“ไม่เช่นไรพ่ะย่ะฮะแค่ได้ยินว่าฝ่าบาททรงให้ช่างในวังหลวงบูรณะตำหนักไร้ชื่อหรือตำหนักที่16ของสนมเอ่อแล้วมีประทานอนุญาตให้อ๋องฉินพำนักที่นั่นได้…สักสองสามวัน”“พำนักที่นั่นหรือสนมกับจวิ้นหวังเช่นไรจึงให้ใกล้ชิดกัน”ไทเฮาตั้งข้อสังเกต“ฝ่าบาทอาจะทรงรู้ว่า
“คุณ ไม่สิท่านอ๋อง จะเริ่มอย่างไรดี ฉัน..คือ..ต้าเหนิงคือข้า”อีกคนยังคงนั่งนับปะคำ“นั่งลง อย่ามาเดินวนรอบตัวข้า”หลับตาแล้วเห้นว่าเดินวนได้อย่างไรแอบมองสิท่านั่งลงชันเข่าจ้องอีกคนที่นับปะคำ“ไต้ซือ ท่านละทิ้งทางโลกได้จริงๆหรือ”เท้าคางมองยังไม่ทันจะได้ิยนคำตอบหานจงกลับเข้ามาอีกครั้ง“หวางซื่อองครักษ์ของวังหลังออกค้นหาคนร้ายในเขตวังหลังหานจงจึงกลับมาอารักขาท่านอ๋อง”“หานจง ..ข้าพูดได้แล้ว” เดินมากางแขนหมุนรอบๆข้างหน้า หานจงเลิกคิ้วสูงยิ้มกว้าง“หือ ยาของท่านหมอเทวดานี่ดีจริงๆ”ต้าเหนิงยิ้มกว้างสดใส อ๋องฉินหลุบตามองพื้นเสีย“คิดว่าไม่พบแน่”“ขอรับไม่มีทางจะพบไม่ว่าจะด้วยเหตุใด”“ไปนอนได้แล้ว”อ๋องฉินสั่งต้าเหนิงที่มานั่งตากลมบ้องแบ๋วคอยฟังอ๋องฉินกับหานจงคุยกัน“ยังไม่ง่วง”“บอกให้ไปนอนก็ไปนอน นี่ยามโฉว่แล้วไปนอนได้แล้ว”“ใครจะหลับลงเล่าเพิ่งจะผ่านการถูกความตายมาหมาดๆ”“หานจง ส่งพระสนมเข้านอน”หานจงชี้มือที่อกของเขา“เอ่อหวางซื่อ ให้หานจงหรือขอรับ”“เจ้านั่นแหละนางพูดมากน่ารำคาญและเรื่องที่เราจะหารือกันนางก็ไม่ควรอยู่ตรงนี้คอยตะแคงหูฟัง”นี่ก็พูดตรงเกิน แต่ถ้าจะพูดตรงๆกว่านี้ว่านายกำลังจะน
“สนมคนไหนพ่ะย่ะฮะที่ฝ่าบาทมีความ รู้สึกเช่นนั้นกับนาง”“นางหายป่วยหรือยัง ข้าได้ยินเขาพูดกันว่านางเข้ามาในวังหลวงครั้งนี้หายป่วยไข้แล้ว และยังมีใบหน้าสดใสผุดผาดมีน้ำมีนวล”ขันทีขมวดคิ้ว“ฝ่าบาททรงหมายถึงพระสนมเอ่อต้าเหนิงหรือพ่ะย่ะฮะ””ก็มีนางคนเดียว แต่พักหลังมาป่วยไข้จนน่ารำคาญจะว่าไปนางก็ทำให้ข้าสุขสมไม่น้อยแต่ทำไทำไม ถึงได้ป่วยไข้จนเสียของ”ตั่วเค่อพยักหน้าขึ้นลง“กระหม่อม จะไปสอดแนมหากว่าพระสนมแข็งแรงดีจะให้มาปรนนิบัติในอีกคืนต่อไป”“อืมม มีเนื้อมีหนังไหมข้าไม่ชอบหญิงผอมบางข้าชอบหญิงที่อวบอั๋นเต็มไม้เต็มมือ แห้งผอมเหมือนซากศพไม่อาจรับได้”“พ่ะย่ะฮ่ะ เดิม พระสนมต้าเหนิงงดงามอันดับสองรองจากฮองเฮาแต่ทว่าป่วยไข้จนหมดความงาม ฝ่าบาทก็ทรงให้หมอหลวงจัดยาบำรุงให้นางได้ทั้งพระสนมที่งดงามคืนมาได้ทั้งใจของพระสนมต้าเหนิงเพราะก่อนหน้านั้นฝ่าบาทละเลยนางมาเสียนาน แล้วยังจะได้สนมที่งดงามกลับคืนมา”พยักหน้าขึ้นลง“อืมมมข้าเกือบลืมเรื่องนี้ไปบัญชาออกไปให้หมอหลวงจัดเทียบยาบำรุง อีกอย่างอ๋องฉินอยู่ใกล้นางจะจิตใจสั่นไหวหรือไม่ไต้ซือนั่นยิ่งไม่เคยเข้าใกล้หญิงใดมาก่อน”“ฝ่าบาทอย่าทรงกังวลเลยพ่ะย่ะฮะไต้ซือ
“แล้วไม่กลัวว่าคนเขาจะรุมเกลียดเจ้าหรือ”“ไม่รู้ ข้าอะนะไม่เคยทำร้ายใครก่อนก็แล้วกัน…แค่เอาคืน”“เมื่อคืนข้าเห็นว่าเจ้ากลัวมือสังหารจนร้องห่มร้องไห้กลัวตายขนาดนั้น แล้วทำไมวันนี้ถึงไม่กลัวว่าสนมเอกคนนั้นจะจัดการกับเจ้าด้วยเล่ห์ลวงของวังหลวง”“นั่นสิถ้ามาแบบนางก็พอจะรับมือได้แต่หากถ้าใช้เล่ห์เหลี่ยมข้าจะรับมือไหวไหม ความจริงข้ากลัวตายนะกลัวว่าจะโดนฆ่าแต่เกลียดที่สุดก็คือคนที่มารังแกข้า แบบที่ข้าไม่รู้ ขอบคุณท่านนะที่ช่วยข้าเมื่อกี้”ฉินเกอหลงถอนหายใจ“ฝ่าบาทส่งยาบำรุงร่างกายและจะเสด็จที่นี่ ซึ่งข้าวิเคราะห์ตั้งนานนึกอย่าไงรก็นึกไม่ออกมาว่าเสด็จมาทำไมแต่พอเห็นว่าสนมเอกชิงซี พาคนมาทำร้ายเจ้าจึงเข้าใจได้ในทันทีว่า ฝ่าบาทกำลังทำให้ทุกคนรู้ว่ากำลังจะกลับมาโปรดปรานเจ้าอีกแล้ว”ต้าเหนิงเลิกคิ้วอ้าปากกว้าง“จะมาโปรดปรานข้าไม่น้าาาาาาาาข้ายังบริสุทธิ์ไม่สิ ข้ายังไม่เคยผ่านมือผู้ชาย ไม่สิข้ายังไม่เคยเป็นสนม …อะไรที่ว่านั่นเสียหน่อย”ฉินเกอหลงกับหานจงขมวดคิ้วแล้วกัวกั๋วฮองเต้ คนนั้นไม่เคยให้นางปรนนิบัติเลยหรือไร“เจ้าพูดจาโป้ปดอะไรอีก”ต้าเหนิงขมวดคิ้วพยายามขุดเอาความทรงจำของสนมต้าเหนิงกลับมาแต่เปล
“แต่ หวางซื่อนางอาจกำลังไม่สบาย”“นี่ยังไม่เข้าใจอีกหรือที่ผ่านมานางล้วนแต่เสแสร้ง”ในใจกลับรู้สึกย้อนแย้ง“หวางซื่อแต่”ฉินเกอหลงส่ายหน้ารีบเปิดประตูเข้าไปเพราะความเป็นห่วง ต้าเหนิงนั่งชันเข่าสะอื้นอย่างหนัก“เป็นอะไรไป”จวิ้นหวังทอดเสียงอ่อนโยน หานจงตามมาติดๆ“คิดถึงบ้านนนนนฮือๆๆๆๆทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ฮือออๆๆๆๆๆ”น้ำตาเต็มขอบตา จวิ้นหวังหันหน้าันหลังไม่ชอบนางตาผู้หญิงทำตัวไม่ถูกว่าต้องควรทำเช่นไร“ฮืออออคิดดูสิ มันน่าอนาถแ่ไหนอยู่สบายๆจู่ๆก็ต้องมาเอาชีวิตรอดในแต่ละวันแต่ละคนที่เข้ามาไม่มีใครไม่อยากเอาชีวิต ที่ปรึกษาก็ไม่มีพ่อแม่พี่น้องอยู่ตรงไหนฮืออออ”เดินเข้าไปยืนข้างๆทำสีหน้าเฉยชา แต่มือข้างหนึ่งกดศีรษะต้าเหนิงให้ซบที่อกตัวแข็งทื่อ นิ่งงัน ไม่เอ่ยคำใดปลอบใจแม้แต่น้อย “ฮืออออๆๆๆๆๆๆฮือออออ”มีไหมจูบซับน้ำตงน้ำตาเหมือนคนอื่นเขาหล่อก็หล่อท่าทางก็ดี แต่ดูเอาสิ ตัวแข็งอย่างกับท่อนไม้“หยุดร้องเถอะ”เอ่ยคำพูดแข็งทื่อเหมือนกันกับท่าทาง ต้าเหนิงรวบเอหนามาซบหน้าลงไปสะอื้นอย่างหนักเกลือกลิ้งใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาหานจงหันหลังก้าวเดินออกไปอารักขาอยู่ด้านนอกปล่อยจวิ้นหวังอยู่กับต้าเหนิงเพ