Share

ร้ายกาจ

“แล้วไม่กลัวว่าคนเขาจะรุมเกลียดเจ้าหรือ”

“ไม่รู้ ข้าอะนะไม่เคยทำร้ายใครก่อนก็แล้วกัน…แค่เอาคืน”

“เมื่อคืนข้าเห็นว่าเจ้ากลัวมือสังหารจนร้องห่มร้องไห้กลัวตายขนาดนั้น แล้วทำไมวันนี้ถึงไม่กลัวว่าสนมเอกคนนั้นจะจัดการกับเจ้าด้วยเล่ห์ลวงของวังหลวง”

“นั่นสิถ้ามาแบบนางก็พอจะรับมือได้แต่หากถ้าใช้เล่ห์เหลี่ยมข้าจะรับมือไหวไหม ความจริงข้ากลัวตายนะกลัวว่าจะโดนฆ่าแต่เกลียดที่สุดก็คือคนที่มารังแกข้า แบบที่ข้าไม่รู้ ขอบคุณท่านนะที่ช่วยข้าเมื่อกี้”ฉินเกอหลงถอนหายใจ

“ฝ่าบาทส่งยาบำรุงร่างกายและจะเสด็จที่นี่ ซึ่งข้าวิเคราะห์ตั้งนานนึกอย่าไงรก็นึกไม่ออกมาว่าเสด็จมาทำไมแต่พอเห็นว่าสนมเอกชิงซี พาคนมาทำร้ายเจ้าจึงเข้าใจได้ในทันทีว่า ฝ่าบาทกำลังทำให้ทุกคนรู้ว่ากำลังจะกลับมาโปรดปรานเจ้าอีกแล้ว”

ต้าเหนิงเลิกคิ้วอ้าปากกว้าง

“จะมาโปรดปรานข้าไม่น้าาาาาาาาข้ายังบริสุทธิ์ไม่สิ ข้ายังไม่เคยผ่านมือผู้ชาย ไม่สิข้ายังไม่เคยเป็นสนม …อะไรที่ว่านั่นเสียหน่อย”ฉินเกอหลงกับหานจงขมวดคิ้ว

แล้วกัวกั๋วฮองเต้ คนนั้นไม่เคยให้นางปรนนิบัติเลยหรือไร

“เจ้าพูดจาโป้ปดอะไรอีก”ต้าเหนิงขมวดคิ้วพยายามขุดเอาความทรงจำของสนมต้าเหนิงกลับมาแต่เปล่าประโยชน์ไม่มีความทรงจำเหล่านั้นเหลืออยู่แม้แต่น้อย

“ฉันไม่เคยโป้ปดนะ”

“เช่นนั้นใครกันที่โป้ปดกัวกั๋วฮ่องเต้ที่โปรดปรานเจ้าเพราะเคยโปรดปรานหรือว่าเพราะเขายังไม่เคยได้เชยชมเจ้า”

“ข้าไม่รู้”

“แล้วเคยจะรู้อะไรบ้างในวังหลวงแห่งนี้เจ้ารู้อะไรบ้าง”

“ไม่รู้อะไรเลยรู้แต่ว่าจะต้องปกป้องตัวเองเพราะไม่มีใครแล้ว ไม่มีใครให้ถามอะไรแล้วข้าเองก็อยากรู้ว่าข้าทำไมอยู่ที่นี่เพียงลำพัง”

“เจ้าเป็นคนเดียวในตระกูลเอ่อที่เหลือรอดมาได้ เช่นนั้นที่ข้ามาที่นี่เพื่อรักษาชีวิตเจ้าไว้ตามคำสั่งเสียของเสี้ยนตี้ผู้ล่วงลับหากเจ้ายังเน้นใช้ชีวิตไม่เน้นมีชีวิตแบบนี้ข้าคงต้องลำบากใจอจับเจ้าผูกไว้กับข้าตลอดไปเพื่อป้องชีวิตเจ้า อยากจะรู้อะไรอีกไหม”

“แค่อยากจะรู้รังเกียจกันไหม ขอให้มันอย่าเป็นแบบนั้นเลย

อยากได้ยินเสียงคนที่คุ้นเคย อยากเจอะเธอคนเดิมที่เคยได้เจอในเมื่อวาน

หากพรุ่งนี้ทุกอย่างหมุนไป ฉันคนหนึ่งจะยืนตรงที่เก่า

อยู่เพื่อบอกเธอ คำที่ค้างใจต่อให้มันจะไม่มีวันเป็นจริง เลยก็ตาม

อยากให้รู้ว่า…หยุดหยุดร้องเพลงนี้ได้แล้ว”ต้าเหนิงโบกมือห้ามตัวเองที่ร้องเพลงด้วยเสียงอันไพเราะที่สุดของต้าเหนิง

จวิ้นหวังส่ายหน้า ในความรั่วของต้าเหนิง หานจงอมยิ้ม

“นั่นคือบทกลอนอะไรของเจ้าเพ้อเจ้อถึงผู้ใดกัน”

ต้าเหนิงถอนหายใจยิ้มๆ

“ช่างเถอะ ต่อไปสัญญาจะไม่เน้นใช้ชีวิตอีกแล้วจะเจียมเนื้อเจียมตัวเป็นคนดีของสังคมและบลาๆๆๆๆ”

“พอได้แล้ว เจ้าไม่มีทางทำได้หรอก แค่ต่อไปอย่างอยู่ห่างข้าก็พอ”ต้าเหนิงอมยิ้ม วิ่งเข้ากอดฉินเกอหลงไว้แน่น หานจงอมยิ้มส่ายหน้าไปมา

“อะ ปล่อยข้านะ”ต้าเหนิงอ้าปากค้างคำพูดนี้ต้องเป็นของต้าเหนิงที่เป็นผู้หญิงไม่ใช่หรือในนิยายแบบพระเอกกำลังจะฟัดนางเอกนางเอกก็จะพูดว่าอะ ปล่อยข้านะ

กอดซะแนบแน่นดูสิจะทำอะไรได้ หานจงรีบมาดึงตัวต้าหนิงออก

อีกคนที่เพิ่งจะผ่านการโดนกอดรีบล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดมือเช็ดแขนที่ถูกต้าเหนิงแตะตัวไปทั้งยังปัดเสื้อผ้าราวกับต้าเหนิงเป็นฝุ่น หรือหนอนบุ้ง

ต้าเหนิงยิ้มแก้มปริ จะแกล้งเสียให้เข็ด

“หานจงส่งนางเข้าไปข้างใน”หานจงผายมือเชิญต้าเหนิงที่ดวงตาเป็นประกายนึกสนุกที่ได้แกล้งไต้ซือ 

“ไม่ต้องส่งทำไมต้องส่งไม่ใช่เด็กๆไม่ใช่นักโทษ” ฉินเกอหลงถอนหายใจยาวทั้งหนักใจและโล่งใจในเวลาเดียวกันโล่งใจที่ต้าเหนิงออกห่างๆตัวหนักใจที่ต้าเหนิงไม่รู้จักระวังตัว

“คราวหลังอย่าให้นางเข้าใกล้ตัวข้าเจ้าต้องรีบก่อนที่นางจะถึงตัวข้าเข้าใจไหมหานจง”เมื่อหานจงกลับออกมาอ๋องฉินรีบสั่งการ

“หวางซื่อรู้สึกอย่างไรขอรับ นางงดงามน่าเอ็นดูใช่ไหมขอรับ”ฉินเกอหลง ส่ายหน้าหยิบปะคำขึ้นมาถือไว้นั่งขัดสามธินับปะคำในมือไม่ตอบคำถามของหานจง

แต่ถึงกระนั้นจิตใจก็หาสงบไม่

“นางไม่ระวังตัว ทุกครั้งนางไม่ระวังตัว ข้าไม่อยากให้นางเข้าใกล้กว่านี้แล้ว”

“ขอรับ หานจงเข้าใจดี”

“เข้าใจก็ต้องช่วยข้า การนับปะคำปกติจะช่วยให้จิตใจสงบได้แต่ครั้งนี้ยิ่งทำให้ข้าตื่นตัว”หานจงถอนหายใจ ฉินเกอหลงใช้คำว่าตื่นตัวได้ดี มองเห้นภาพเลยทีเดียวว่าอะไรกำลังตื่นตัว

หญิงชายจะเป็นแค่สายลมแสงจันทร์ได้อย่างไรในเมื่อทั้งสองเหมาะสมกันเพียงนี้ สนมต้าเหนิงเองนางก็น่ารักสดใส

“ฮืออๆๆๆอึกอึกอึก”เสียงสะอื้นดังแว่วออกมาจากข้างใน ฉินเกอหลงขมวดคิ้ว

“เอ่อ เอ่อหานจงจะเข้าไปดูพ่ะย่ะค่ะ”

“นางเป็นถึงสนมเราเข้าไปในห้องนอนของนางไม่ควร”ในใจคิดไปไกลกว่านั้น เขาไม่กล้าแล้วเช่นไรจึงกล้าให้หานจงเข้าไป

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status