“เร็วเข้าสิพวกเจ้าข้าดูดีที่สุดหรือยังหล่อเหลาหรือยัง”น้ำเสียงตื่นเต้นร้อนรน“เพคะฝ่าบาททรงดูดีและหล่อเหลาที่สุด เพคะ”เหล่านางกำนัลต่างชวนกันสรรเสริญพร้อมเพรียงกัน“ไม่จริงใจเลยพวกเจ้านี่ ตั่วเค่อกลับมาหรือยัง สนมเอ่อนางมาหรือยัง ใครก็ได้ออกไปดูสิ ไม่ได้สิข้ากับนางต้องพบกันที่ซุ้มประตูตอนจุดพลุกับโคมไฟนี่ ตัวเค่อเตรียมการเรียบร้อยไหมมีข้อบกพร่องไหม”ร้อนรนจนน่าสงสาร“ชิงซีถวายพระพรฝ่าบาท”“นี่พวกเจ้าถุงหอมของข้าเล่าอยู่ที่ไหนพวกเจ้าเอากลิ่นที่หอมแรงที่สุดด้วยนะข้าเห็นว่าถุงหอมที่พวกเจ้าเย็บมักจะมีกลิ่นจางๆข้าต้องการที่มีกลิ่นแรงกว่านั้นหน่อย”ไม่ได้สนใจชิงซีที่ยืนอยู่ตรงนั้น“ฝ่าบาทเพคะ วันนี้ชิงซีอยากจะ…”“แล้วแต่เจ้าเลยจะเอาอย่างไรก็แล้วแต่เจ้าวันนี้ข้ามีเรื่องเร่งด่วนไม่อาจอยู่รอฟังสิ่งที่เจ้าต้องการได้”ชิงซีก้มหน้า“ฝ่าบาทฝ่าบาทเพฮะสนมเอ่อมาแล้วเพฮะ งดงามที่สุดเลยเพฮะ”เสียงของตัวเค่อกงงกงดังอยู่ด้านนอก“ ข้าอยากจะเห็นหน้านางแล้ว”“ไม่เพฮะพบพระสนมตอนนี้แล้วแผนที่วางไว้เล่า”กัวกั่วฮ่องเต้ยิ้มสดใส“จริงด้วย แต่ว่านางจะไม่ลำบากในการรอข้านานใช่ไหม”“หากฝ่าบาทอยากให้เป็นไปตามแผนการก็ต้อง
สนมหวงไปแล้ว ต้าเหนิงนั่งนิ่งทุกอย่างเหมือนความฝันเรื่องราวหักเหลี่ยมเฉือนคมในวังหลัง วังหลวงนี่น่ากลัวจริงๆ ต้าเหนิงไม่ยอมมอบกายให้ฝ่าบาทอะไรนั่นแต่มีคนที่อยากมอบกายเพราะหวังผลประโยชน์ หากแผนการของสนมหวงสำเร็จต้าเหนิงก็ต้องคิดแผนการใหม่ไม่ให้สนมหวงใช้ประโยชน์จากตรงนี้ เพื่อกดให้ต้าเหนิงอยู่ในอานัสของนาง ตอนนี้อับจนหนทางจริงๆต้าเหนิงจำต้องยอมตามแผนการของสนมหวงไปก่อนเพื่อเอาตัวรอดในคืนนี้“สนมเอ่อต้าเหนิงฝ่าบาทเชิญท่านที่ซุ้มประตูทางทิศเหนือ”เสียงบอกล่าวดังๆคงเป็นตัวเค่อกงกงนั่นแหละนางกำนัลสองสามคนรีบมา ตรงจรดูความเรียบร้อย พยุงต้าเหนิงช่วยจัดชุดที่สวมให้เข้ารูปเข้ารอยรู้สึกเหมือนกำลังเข้าพิธีวิวาห์อย่างงัยชอบกล แบบประมาณว่าเอาเสาลงหลุมสูดพลมหายใจเข้าอีกครั้ง ตัวเค่อกงกงเดินมาพยุงต้าเหนิงกระซิบเบาๆ“ไม่ต้องกลัวพ่ะย่ะฮะตัวเค่อไม่โดดเดี่ยวพระสนมแน่ๆ”ยิ้มพรายจนต้าเหนิงขนลุกเกรียวร่างงดงามที่สุดอาภรณ์สวยที่สุดเดิน ออกจากห้องพักยังซุ้มประตูทิศเหนือที่อยู่ห่างออกไปไกลนักเสียงพลุแสงสีที่ถูกจุดทำให้สะดุ้งได้เหมือนกัน แต่ต้าเหนิงตอนนี้กำลังคิดทบทวนแผนการที่วางไว้กับสนมหวง“พ่ะย่ะฮะต้องเดินไป
กัวกั๋วฮ่องเต้ลุกขึ้นจากแท่นนั่ง ยืนตะลึงจ้องมองใบหน้างดงามผุดผาดเหมือนไม่ใช่สนมเอ่อต้าเหนิงคนเดิม ต้าเหนิงเองก็จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาราวกับไม่มีพิษมีภัย ใบหน้าละม้ายฉินเกอหลงทว่าสายตาไม่ได้เรียบเฉยเป็นมิตรเช่นเดียวกับสายตาของฉินเกอหลง“งดงามงดงามที่สุด” เดินเข้ามาประคองกอดต้าเหนิงมือข้างหนึ่งเลื้อยลงไปลูบที่เอวกิ่วต้าเหนิงขืนตัวด้วยความไม่คุ้นชิน“หืมมมข้าละเลยเจ้าสินะจึง ได้ทำท่าที่ไม่พอใจข้าต่อไปนี้ข้าจะชดเชยให้เจ้าร้อยเท่า โดยเฉพาะคืนนี้”กระซิบข้างหูเบาๆ ลมหายใจร้อนผะผ่าวรินรดข้างหู ต้าเหนิง สะอิดสะเอียนอย่างที่สุด มือไม้ยังลุบไล้ที่เอวกับสะโพกกลม“ฝะฝะฝ่าบาทต้าเหนิงหิวไส้จะขาดแล้วเมื่อกลางวันจะกินพวกนางก็ไม่ให้กินกลัวว่าจะมาร่วมเสวยกับฝ่าบาทได้ไม่มากแล้วยังบอกว่าจะสวมอาภรณ์ชุดนี้ออกมาไม่สวยจึงห้ามไม่ให้กินอะไรตอนนี้หิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว”“ข้า..ก็หิวอยากจะกินเจ้าทั้งตัวเช่นกัน”เสียงกระซิบสั่นกระเส่า จนต้าเหนิงแทบจะอ้วกถอนหายใจยาว“ฝ่าบาทก็ให้ต้าเหนิงได้ดื่มกินก่อนดีไหมจะกินหรือ จะเลีย จะอะไรก็แล้วแต่เถอะ”“ข้ายินดีเลียทั้งตัว แล้วกลืนกินไม่ให้ใครได้เห็นเจ้าอีก หากคืนนี้เจ้า
ตัดสินใจยกมือรับคมกระบี่ ทั้งๆที่หลับตา“เช้งงงงงงงง”เสียงคมกระบี่ปะทะกันดังลั่นร่างเล็กถูกดึงเข้าหาตัวของฉินเกอหลง ถลาเข้าซบลงบอกกว้าง“ฉินเกอหลง”กัวกั๋วฮ่องเต้ยกกระบี่ชี้มาที่ใบหน้าของฉินเกอหลง“บังอาจ คืนนางมา เดี๋ยวนี้”น้ำเสียงดุดันด้วยโทสะที่เปี่ยมล้นฉินเกอหลงประสานมือตรงหน้าอย่างนอบน้อม“ฝ่าบาทพี่ใหญ่ได้โปรด ฉินเกอหลงแค่ทำตามบัญชาไท่ซางหวงปกป้องนางตามบัญชาเสด็จปู่”ยังใช้ไม้อ่อน“ฮะฮะฮะฮ่าาจริงรึนี่มีบัญชที่ข้าไม่รู้รึนี่ ไม่ได้ทำเพราะชอบนางใช่ไหม ไม่ได้ทำเพราะเจ้ามีใจให้นางใช่ไหมฉินเกอหลง เช่นนั้นก็น่าเห็นใจอยู่นะ แต่ข้าไม่เห็นใจ นางทั้งสองคนจงใจหลอกลวงเบื้องสูงแล้วขากัวกั๋วมิใช่คนที่ใครจะมาหลอกลวงได้ ข้าเกลียดที่สุดก็คือพวกที่คิดว่าข้าโง่งม”ตวัดคมกระบี่พุ่งเข้าหาใบหน้่างามของต้าเหนิงฉินเกอหลงพลิกตัวเอาร่างของตัวเองเข้าป้องต้าเหนิงไว้ คมกระบี่เสียบเข้าที่แผ่นหลัง อย่างจังสะดุ้งเฮือกกัดฟันข่มความเจ็บปวด ต้าเหนิงอ้าปากค้างกัวกั๋วชักกระบี่คืน แสยะยิ้ม“ส่งนางมา ข้ายังเห็นแก่ความเป็นพี่น้องไม่ฆ่าเจ้าอีกคน ส่งนางมาแล้วเจ้ากลับไปที่วัดทางเหนือเสีย”“พี่ใหญ่ข้าขออภัยท่านๆไม่ฆ่าข้า
“ข้า อธิบายให้นางฟังแล้ว ด้วยหน่วยก้านของนาง คงพอจะดูแลฉินเกอหลงได้ดีกว่าใคร เพราะนางมีความตื่นกลัวและตื่นตัวในตัวของนาง คุณหนูเฉินมีเรื่องไหนที่สงสัย ก็ควรจะ…”“สงสัยต่อไป”ต้าเหนิงต่อประโยคให้ หมอเทวดาเยี่ยนฉือโค้งคำนับยิ้มบางๆ“ความจริงแล้วหากบอกว่าเป็นคนละเอียดรอบคอบเช่นคุณหนูเฉินอี้เหมยก็ควรจะรู้ว่าควรจะดูแลคนที่บาดเจ็บเช่นไร ข้าก็เกือบลืมย้ำเรื่องสำคัญว่าแต่ละวัน อ๋องฉินจะต้องดื่มยาให้ได้หนึ่งถ้วย ถ้าป้อนยาแล้วเขาไม่กลืน ก็ควรพยายามป้อนให้ได้หนึ่งถ้วยยาจึงจะส่งผลให้อาการบาดเจ็บดีขึ้น”ต้าเหนิงเม้มโมรี่ไว้หมดแล้ว ยิ้มแก้มใสท่านหมอเทวดาเยี่ยนฉือหันมายิ้มให้กับต้าเหนิง“จะไม่มีการป้อนยาแบบ ยกกระดกแล้วกดริมฝีปากนะ นั่นมันนิยายเกินไป เจ้าอย่าฝันไปไกลเพียงนั้น ทำอย่างไรก็ได้ให้เขาดื่มยา แม้จะไม่ได้สติก็ต้องดื่ม”รู้ทันต้าเหนิงไปเสียอีก“ท่านหมอก็แหม มันก็ธรรมดา ก็มันธรรมดา”เฉินอี้เหมยมองท่านหมอกับต้าเหนิงสลับกันไปมา“อย่าเพิ่งทำตลกไปเจ้ารู้ไหม ยาวิเศษที่ข้าจะไปหานี้500ปีถึงจะงอกมาต้นหนึ่งเจ้าดูแลจวิ้นหวังให้ดี หากได้ยากลับมานั่นจึงถือว่าสรรค์เมตตาเช่นนั้นทั้งสองคนช่วยกันดูแลจวิ้นหวังรอ
“ท่านอ๋อง เป็นโอรสที่เสี้ยนตี้ทรงรักมากว่าใคร ชีวิตที่ผ่านมาในวังหลวงไม่เคยต้องตรากตรำ เอาแต่เล่นสนุกไปวันๆเจ้ารู้ไหมคนที่เห็นเพื่อเล่นขอท่านอ๋องก็คือข้า เราสองคนสนิทสนมกันเกินใคร ตำแหน่งไท่จือของท่านอ๋องกับตำแหน่งไท่จือเฟยเป็นข้าที่คู่ควร แต่ทุกอย่างพังลงเพราะกัวกั๋ว ครั้งนี้ต้องไปบวชที่วัดทางเหนืออดมื้อกินมื้อ พอจะทำใจได้ก็ไม่อยากจะกลับมาท่านพ่อของข้าส่งฎีกาทุกวันให้กลับมาทวงบัลลังก์คืนก็ไม่ยอมกลับมาแต่เพราะบัญชาของไทฮองไทเฮาจึงได้กลับมาพบกับความเจ็บปวดแทบเอาชีวิตไม่รอดที่นี่”อี้เหมยพูดเหมือนกำลังเล่านิทาน“แล้วอย่างไง”เริ่มจะเข้าใจเจตนาของนางแล้วแต่แค่อยากได้ยินชัดๆจากปาก“แล้วอย่างไง ก็ให้เจ้าเสียใจก็ให้เจ้ารู้ว่า อย่ามายุ่งกับคนที่เป็นวาสนาของข้า เจ้าไม่คู่ควร ไปเสีย ถ้ายอมไปข้าจะหาที่ซ่อนตัวให้เจ้าบิดาข้ามีเงินทองและช่องสุมกำลังคนไว้มากมายเจ้าไปข้ายินดีช่วย”น้ำเสียงที่พูดเปลี่ยนไปทันทีอย่างนี้สิถึงจะเรียกว่าคู่ควร อย่างไรไหนถึงว่าไม่คุ่ควรคนที่ชวนให้เอาชนะนั่นแหละคือคู่ควรสำหรับต้าเหนิงต้องเล่นบทไหน แล้วใครกันจะเป็นผู้ที่อยู่สูงสุดของห่วงโซ่อาหาร ไม่ควรเป็นคนอื่นสินะต้องเห็นต้
“ตามข้าออกไปเถิดท่านองครักษ์ ข้าจะนำทองมามอบให้ท่าน”อี้เหมยก้ายก้าวเดินออกจากห้องไปแล้วหานจงมองฉินเกอหลงตาละห้อยประสานมือนอบน้อมตรงหน้าฉินเกอหลงอย่างที่คนภักดีคนหนึ่งคงวรกระทำเขาคงรู้สึกผิดเหมือนกันที่ปล่อยให้ฉินเกอหลงบาดจเ็บเพียงนี้ ทั้งหานจงและต้าเหนองตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันต่างคนต่างกำลังไถ่โทษเถอะ ต้าเหนิงถอนหายใจยาว“พระสนมท่านหมอฝากข้ามาย้ำกับท่านว่าท่านอ๋องต้องกินยานี่ทุกหนึ่งชั่วยามท่านต้องเคี่ยวยาไว้ตลอดห้ามให้ยาหมด หานจงห่วงว่าพระสนมจะลำบากเช่นนั้นหานจงจะรีบกลับมา”ยื่นหอยาเกือบสิบห่อตรงหน้าต้าเหนิง“ฮ่าๆๆๆๆไม่ต้องห่วงน่า อือๆๆแค่ไม่ต้องหลับต้องนอนกันไปเลยเคี่ยวยา ป้อนยาวนกันไป แป็บเดียวผ่านไปหนึ่งชั่วยามหนึ่งชั่วยามตายแน่ต้าเหนิง แต่ไม่เป็นไร ฮือออไม่เป็นไรจริงๆฮึบบบบอย่าห่วง ข้าต้าเหนิงต้องทำให้ได้”หานจงยิ้มเศร้าๆประสานมือตรงหน้าต้าเหนิงอีกครั้ง“ต้องอาศัยท่านแล้วล่ะพระสนมหวังว่าท่าจะไม่ยอมแพ้อะไรง่ายดาย”ต้าเหนิงยิ้มทั้งน้ำตา“ข้าน้อยขอลา”ประสานมืออีกครั้งรับเอาห่อยาไปที่เตาผิงข้างในห้องก่อกองไฟอย่างขมักเขม้น จะต้องทำได้สิ เรียนเนตรนารีมาตั้งแต่มอต้น ทำไมจะทำไมไ่ด้ไม่ได้
ห้องหนังสือจวนเสนาบดีเฉินกงหลี่“ยกเครื่องเสวยยังห้องลับหรือยัง”ร่างสูงที่นั่งร่างอักษร ถามคนสนิท“ยังขอรับ”“นี่มันยามไหนแล้ว คนในนั้นก็ต้องกิน อี้เหมยไม่ได้สั่งไว้หรือว่าให้ใครยกอาหารเช้า”“ขอรับคุณหนูรองไม่ได้สั่งอะไรไว้คงจะลืมขอรับ”“อืมมม ให้ใครยกของกินไปมากหน่อยที่ห้องลับ เลือกเครื่องสวยที่ดีที่สุดยกไปไวที่สุด” ไห่หยวนเดินออกไปสั่งสาวใช้เบาๆ“มีใครสำคัญในนั้นหรือขอรับ ในเมื่อท่านอ๋องยังไม่ฟื้น”“ไห่หยวน อย่าถามมาก ท่านพ่อเดินทางเข้าวังหลวงหรือยัง”“เอ่อ ขอรับนายท่านเข้าวังหลวงไปแล้วฝ่าบาททรงเรียกสี่ตระกูลใหญ่”เฉินซือกวานพยักหน้าขึ้นลง“คงอยากจะลองดูท่าทีของทั้งสี่ตระกูลใหญ่ว่าจะมีท่าทีเช่นไรหากสั่งให้มีการตามล่าตัวอ๋องฉินจวิ้นหวัง ท่านพ่อเองก็คงต้องแสดงละครว่าเห็นด้วยทั้งที่ไม่เห็นด้วย เตรียมการให้พร้อมจัดคนของเราเฝ้าเวรยามสั่งให้คนบ้านเฉินเตรียมเก้บข้าวของมีค่าควรเมืองซ่อนไว้ในที่ปลอดภัย เตรียมเสบียงใส่ไว้บนรถบรรทุกสินค้าให้เต็มสักหลายๆคันหน่อยส่งไปรั้งไว้ที่นอกเขตวังหลวงจัดคนเฝ้าไว้ เสื้อผ้าและของใช้จำเป็นเก็บและขนไปให้พอสั่งการเดี๋ยวนี้เลย”“คุณชายใหญ่ครับ กลัวว่านายท่านจะถูก
“ส่งข่าวบอกกับเสด็จย่า ข้ายังไม่สะดวกที่จะกลับไปแสวงบุญที่วิหารเทียมฟ้าอยู่อย่างนี้ก็ดีแล้วเวลานี้ไม่เหมาะสมที่จะโยกย้าย” หานจงถอนหายใจยาว หันหลังก้าวเดิน เสียงลูกดอกแหวกอากาศมาแต่ไกลพุ่งเข้าใส่ฉินเกอหลงที่นั่งนั่งทว่าฉินเกอหลงกลับใช้ประคำในมือตวัดเข้าใส่ดอกให้ตกลงข้างกายหานจงพุ่งตัวตามต้นตอของลูกดอก บุรษที่สวมอาภรณ์พรางตัว พุ่งตัววิ่งลัดเลาะบนกำแพงหนีออกจากวัดไปง่ายดาย“ไม่ต้องตาม”“หวางเย่ แย่แล้วใครกันที่คิดทำร้ายหวางเย่ได้อีกก็ในเมื่อร่างข้อตกลงว่าจะไม่ ทำร้ายและสังหารหวางเย่แล้วนอกจากนั้นหวางเย่ยังมีใครที่คิดจะทำร้ายอีก”ฉินเกอหลง ขมวดคิ้วดกดำ“นั่นสินะ ข้าไร้สามารถที่จะบอกว่าใครเป็นคนที่คิดจะจัดการกับข้า”“หวางเย่ ควรจะคิดเสียใหม่เถิด ใครจะปล่อยให้ศัตรูยังมีชีวิตอยู่เป็นหอกข้างแคร่ไปวันๆ”“นั่นสินะข้าเองที่เข้าใจผิดไปเองว่ายอมถอยแล้วกัวกั๋วฮ่องเต้จะปล่อยข้าไป” หมู่บ้านซูตง“เรีบบร้อยหรือไม่”“ขอรับท่านจ้าวบ้านข้าน้อยแค่ทำให้ฉินเกอหลงรู้ว่ามีคนปองร้าย”“ดีมากจัดการ ต่อไปได้เรื่อยๆ จนกว่าเขาจะยอมเดินทางกลับวังหลวง” เอ่อถูหวังซวนยิ้มมุมปาก“อีกไม่นานอีกไม่นานเท่านั้นฉินเกอหลงจะต้อง
บ้านเฉิน“นางกำนัลที่ชื่อเจายี่”“เจ้าค่ะคุณหนูรอง พูดคุยกับนางแล้วเจ้าค่ะ นางยินดีรับเงินที่คุณหนูรองมอบให้นางและนางยินดีทำตามคำสั่งของคุณหนูรองเจ้าค่ะ”“ดีมากมอบยาให้นางหรือยัง”“เจ้าค่ะ ข้าน้อยสงสัยเจ้าค่ะยานั่นไม่ทำให้ตายทำไมคุณหนูไม่ให้ยาที่ทำให้ตายได้เลยเจ้าคะจะยื้อเวลาไปทำไมกัน พระสนมเอ่อตายได้ก็สาวมาไม่ถึงคุณหนูรองอยู่ดี เพราะท่านเฉินเป็นถึงผู้นำสี่ตระกูลใหญ่”“ข้าตั้งใจให้นางค่อยๆ ป่วยและตายไปในที่สุดกว่าทุกอย่างจะพร้อมให้นางอยู่ในฐานะสนมให้สบายพอท่านอ๋องกลับมานางก็จากไปพอดีช่างน่าสมเพชยิ่งนัก” สาวใช้นิ่งงันคิดไม่ถึงว่าเฉินอี้เหมยจะมีความคิดที่ร้ายกาจเช่นนี้“ส่งยาเข้าไปเรื่อยๆ คงอีกสักพักว่านางจะล้มป่วย”ตำหนักสิบหก“เครื่องเสวยที่ฝ่าบาทประทานมาให้กับพระสนมเอ่อเป็นเครื่องเสวยที่ได้วัตถุดิบจากโพ้นทะเล อีกอย่างอาหารทะเลพวกนี้หายากยิ่งแล้วกว่าจะส่งมาต้องใช้กล่องไม้ที่สั่งทำเป็นพิเศษใส่น้ำทะเลลงไปให้สัตว์น้ำที่ต้องการ นำมาถวายเป้นเครื่องบรรณาการกับฝ่าบาทได้อาศัยและยังต้องให้อาหารเลี้ยงดุจนพวกมันอ้วนท้วนส่งมาถึงนี่เพื่อปรุงเครื่องเสวยที่สดใหม่” ขันทีตัวเค่อเดินยกปูม้าตัวใหญ่สองสาม
“ไม่มีจริงๆ แล้วสินะ ต้าเหนิง ลูกแม่แกเสียใจไหม” คุณปทุมถาม ต้าเหนิงน้ำเสียงเศร้าๆ“ไม่นี่แม่ ไม่ได้รู้สึกอะไรโล่งใจด้วยซ้ำ”“ต้าอย่าทำเป็นฝืนใจเลยต้า แม่ขอโทษ ที่ทำให้..หนูอายคนอื่นเขา”“ไม่ใช่แม่สักหน่อย เป็นคนพวกนั้นต่างหากที่ตั้งใจมาหลอกเราจะว่าไปได้ที่ดินตั้งเกือบร้อยไร่เพื่อต่อทุนทำไมพวกเขาไม่ยอมมาแต่งนะ” ตั้งข้อสังเกตคุณปทุมถอนหายใจยาว“ป๊าส่งคนตามกวนหยงแล้ว แต่จนป่านนี้ยังไม่ได้ข่าว”“ช่างเถอะค่ะใครสนกันไม่แต่งก็ไม่แต่งก็แค่ดูตัวไปเรื่อยๆ จะยากอะไร”คุณปทุมยิ้มเศร้าๆ“แม่กับป๊าไม่น่าบังคับต้าเลย” ต้าเหนิงกอดรอบเอวอวบของคุณปทุม“อย่าคิดมากน่าคุณนายปทุมใครเขาโทษป๊ากับแม่เล่า ดีจะตายไม่ได้แต่งไม่งั้นคืนนี้ไม่ได้หลับได้นอน” คุณปทุมขำกับความทะลึ่งของต้าเหนิง“ดีสิแบบนั้นแม่จะได้มีหลานเร็วๆ”“ไม่อย่างนั้นสิคะ ที่ไม่ได้นอนเพราะเอาแต่คิดรายรับรายจ่ายจนหัวหมุนกว่าจะขาดทุน” คุณปทุมอมยิ้ม“ป๊าแกก็เสียใจป่านนี้คงโทรไปต่อว่าคนพวกนั้น ดึกขนาดนี้ใครจะรับโทรศัพท์ ต้าไปนอนได้แล้วลูกเกือบจะตีหนึ่งแล้ว” ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลงอย่างว่าง่ายเดินขึ้นไปชั้นบนห้องนอนของต้าเหนิงที่ถูกจัดเป็นห้องหอผ่าน
วันนี้ต้าเหนิงถูกคุณปทุมคุมตัวมานั่งที่ห้องด้านล่างเพื่อใช้สำหรับแต่งตัว ไมไ่ด้จัดงานที่โรงแรมอย่างที่ควรจะเป็นเพียงจัดที่บ้านหลังใหญ่ราคาหลายสิบหลานที่ป๊าของต้าเหนิงเป็นคนสร้างมันขึ้นเองกับมือไม่มีแขกมีแค่ญาติผู้ใหญที่มาคอยดูความสำเร้จของลูกหลาน ตามธรรมเนียมไทยแท้“วาสนาจริงๆ นะคะเนี๊ยะ ดูสิสินสอดตั้ง100ล้านทำบุญด้วยอะไรคะเนี๊ยะ” หนึ่งในญาติผู้ใหญ่ที่แม่บอกต้าเหนิงแต่ความจริงแล้วก้แค่เพื่อนสมัยปฐมของแม่ที่ยังแวะเวียนกินข้าวเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกัน ตั้งประเด็นให้คนอื่นพลอยชื่นชมสิ่งที่ต้าเหนิงและคุณปทุมกำลังจะได้รับ“มีลูกสาวสวยก้บแบนี้แหละค่ะ ว่าแต่หนูต้านี่26แล้วใช่ไหมคะทำไมหน้าเด็กๆ แล้วยังสวยกว่าดาราบางคนอีก” เพื่อนอีกคนที่มักจะชอบพูดไปในด้านดีเสียหมดพูดขึ้นบ้างคุณปทุมยิ้มจะได้โอกาสคุยโม้ก็วันนี้แหละ“ยัยต้านะเหรอคะโอ๊ย เขาก็หน้าเด็กแบบนี้แหละค่ะ แต่สมองอะนะเกินตัวคิดอะไรนี่อย่างกับคอมพิวเตอร์ มียัยต้าคนเดียวสบายแปดอย่างนี่เขาเหมือนพ่อเขานะ เดินทางสายอสังหาเหมือนกันเดือนๆ หนึ่งยัยต้าขายบ้านได้เป็นสิบๆ หลังได้เงินมาก็คงไปแต่งสวยเขาแหละแม่กับพ่อไม่เคยขอสักบาทแต่จะว่าไปของแทร่ทั้งนั้น
“ต้องแต่งแล้วหรือคะ ตายแล้วต้ายังไม่ได้บอกเพื่อนๆ เลยเรื่องนี้ ไวไปไหมคะ”จะมีกี่คนกันศัตรูจะมากมากกว่าสินะฮ่าาาาคุณปทุมส่ายหน้าระอาใจ“สมัยนี้เขาก็แต่งกันสายฟ้าแลบแบบนี้แหละ ใครๆเขาก็ทำกัน”“เขาแน่ใจหรือคะ ว่าเขาอยากจะแต่งหนูหน้าก็ยังไม่เคยเป็นกันสักครั้ง” นัดสองครั้งต้าเหนิงก็แกล้งไปไม่ตรง เวลาจนผู้ชายคนนั้นไม่รอใครจะรอเล่าไปสายสองชั่วโมงแต่มาบอกกับคุณปทุมว่า เป็นฝ่ายชายที่ไม่มาให้ต้าเหนิงรอเก้อถึงอย่างนั้นแม่กับพ่อก็ยังไปตกลงให้ต้าเหนิงแต่งกับเขาอีก“อย่างไงก็ต้องแต่ป๊าแกตกลงกับ พ่อกับแม่เขาไว้แล้ว”“แม่ ผู้ชายคนนั้นไม่มาดูตัวต้าเลยนะแม่คิดว่าเขารักลูกแม่จริงหรือ….” คุณ ปทุมถอนหายใจ“ป๊าแกอะ ตอนนี้ยังอยู่กับก๊วนเพื่อนตีกอล์ฟอยู่เมืองจีน เขาบอกว่าผู้ชายเขาเตรียมขันหมากมาแล้วเราแค่จัดสถานที่ไว้รอ เขาไปกินข้าวกับพ่อกับแม่ของผู้ชายตกลงกันแล้วเรียบร้อย ต้าก็แค่ยอมแต่งไปเขามีกิจการใหญ่โต กำลังขยายกิจการมาลงทุนในไทย แล้วต้าอะนะปีนี้26แล้วอยู่นานไปไม่ดีนะคนจีนเขาว่ายิ่งแต่งไวยิ่งสบายไปข้างหน้า แม่จ้างออแกไนท์ไว้แล้วเราแค่จัดสถานที่พรุ่งนี้ขันหมากก็มา”ต้าเหนิงขมวดคิ้วทำมต้องเป็นฝ่ายหญิงที
ภัตตาคารแห่งหนึ่งต้าเหนิงหอบกระเป๋าวิ่งเข้าไปข้างในเลยเวลานัดอีกแล้วจูหรานนั่งอยู่อีกมุมหนึ่งคอยมองผู้หญิงที่ใส่เดสสีขาวสะอาดนั่นก็คือต้าเหนิง“สวยไม่เบา” พูดขึ้นเบาๆกวนหยงหลุบตามองโต๊ะอาหาร สวยสิสวยจนเขาตกตะลึงสวยกว่าจูหรานไม่น้อยเขานิยมผู้หญิงสวยหวานเวลานอนร่วมเตียงยามที่กำลังนัวเนียกัน จะหวานขนาดไหน แต่พูดไปเสียอีกทาง“นัดบ่ายสี่โมง มาหกโมงเย็น ใครจะรอ”“คุณอย่างไรเล่า คุณสือกวนหยงที่นั่งรออยู่ที่นี่แต่ไม่ไปพบ”“การนัดหมายของเราสองคนสิ้นสุดแล้วเขาไม่มาตอนสี่โมงก้เท่ากับไม่มาถ้าผมแสดงตัวว่ารอเขาตั้งสองชั่วโมงเขาก็จะหัวเราะเยาะหาว่าผมอยากแต่งกับเขาจนตัวสั่นสินะ”จูหรานยิ้มบางๆ“ผู้หญิงคนนี้เขาจะสำนึกไหมว่าตัวเองมาสายเลยทำให้ไม่เจอคุณ คุณไม่ออกไปพบเขาหน่อยหรือ”“ความจริงผมก็อยากจะพบเขานะแต่ จะลองนัดไปดูอีกครั้งว่าจะมาสายอีกไหม” จูหรานอมยิ้ม“สวยไหม”“ไม่เท่าไหร่” ลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปชะโงกแต่รีบหันหลังไม่ให้ต้าเหนิงเห็นเพราะต้าเหนิงที่เดินจ้ำกลับมาทางเดิมพร้อมกับคุยโทรศัพท์กับคุณปทุม“ไม่เจอค่ะคุณแม่คนอะไรให้ต้ามารอตั้งนานต้าไม่รอแล้วนะคะกลับบ้านดีกว่าค่ะเสียเวลา” กวนหยงยิ้มมุมปาก
“เป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจจริงๆ เลยครับ”“ผมเคยไปดูตัวมาแล้วผู้หญิงคนนี้เหมาะที่จะเป็นโสดจนตาย” หนุ่มคนหนึ่งพูดนินทาให้หนุ่มคนหนึ่งฟังเรื่องต้าเหนิง“เราพบผู้หญิงคนเดียวกันใช่ไหม”“นั่นใช่นางเลยแหละต้าเหนิงคนนั้นคนที่ ปากจัดเหลี่ยมเยอะ” ต้าเหนิงที่นั่งหันหลังอยู่อีกฝั่งของชายหนุ่มทั้งสองยิ้มมุมปากคุณปทุมส่ายหน้าไปมา“แย่จริง พรุ่งนี้แม่นักคนดูตัวให้อีกคนจากประเทศจีนอีกแล้ว”“ใครคะ”“ญาติห่างๆๆๆๆ กับเรา เขามีธุรกิจเป็นของตัวเองหล่อรวยและโปรไฟล์ดี”“ก็แบบนี้ทุกคน แต่คนนี้ไม่เชิงว่าดูตัวแม่กับพ่อลงความเห็นกันแล้วเราแค่อยากให้พวกลุกได้พบกันความจริงเราทาบทามและหาฤกษ์ดีไว้แล้ว”ต้าเหนิงเลิกคิ้ว ใช้ตะเกียบในมือพันเส้นหมี่ฮกเกี้ยนในจาน“มัดมือชกเลยหรือ”“กินข้าวกันสองสามครั้งแล้วแต่งเลยพรุ่งพบกันที่ร้านเดิมที่แม่เคยนัดหนุ่มๆ ไว้ให้ต้านั่นแหละลูก” ต้าเหนิงถอนหายใจเฉิงตู“ยังโสดครับท่าน ชื่อว่าคุณต้าเหนิงโสดสนิท มีคนมาดูตัวแต่ก็ไม่เคยตกลงกับใคร” ฉินเกอหลงพยักหน้าขึ้นลง “หาทางพามาที่นี่ได้หรือยัง” หานจงถอนหายใจ (หานจงก็มา) “ยังไม่รู้ว่าจะเอาแบบไหนเลยครับผมไม่รู้จะจัดการอย่างไร ถ้าเป็นที่นี่ใครๆ
ต้าเหนิง เดินทอดน่องอยู่บนสถานีรถไฟฟ้า“กริ้งๆๆๆๆ” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นรีบเอาแนบหู“สวัสดีค่ะ” ปลายสายพูดเบาๆ“ใครคะรู้จักเราด้วยหรือคะ”“ไม่รู้จักแค่จะโทรมาด่า อินังสารเลวอิชั่วแย่งผัวชาวบ้านอิหน้าด้าน อิ กระ…” ต้าเหนิงสตั้นแป็บ“นี่มาได้กันแบบนี้เลยหรือฉันไปทำอะไรให้คุณ”“ผัวฉันพูดถึงเธอทุกวัน คอยดูนะแม่จะบุกไปตบให้” ต้าเหนิงถอนหายใจ“ฉันแค่ขายบ้านผัวเธอชื่ออะไรฉันจะได้ไม่ต้องขายบ้านให้เคสนี้ขอผ่าน” เสียงปลายสายบ่นงึมงำ“คุณ กำธร” ต้าเหนิงถอนหายใจยาว“ขอบคุณ รอรับผลกรรมได้เลย” วางสายพร้อมกับยิ้มหยันยี่สิบนาทีต่อมา“เห็นไหมฉันอยู่กับใคร” ต้าเหนิงนอนบนเตียงด้วยชุดนอนบางเบา แกว่งเนกไทในมือไปมาวีดีโอคอลให้สาวคู่กรณีเมื่อครู่ได้เห็น“แกๆๆ นางต้าเหนิงแกเอาผัวฉันไปกกหรือ”“ฮะๆๆๆ ฮ่า ฉันไม่ได้กกเขา แต่เขากกฉันจริงไหมคะคุณกำธร อย่าลืมโอนเงินค่ามักจำบ้านด้วยนะคะเพิ่มอีก6แสน สำหรับเรื่องบนเตียงในวันนี้ของเรา ฮ่าาาา” หันไปทางด้านหลังทำหน้าเหยเกเหมือนกำลังกำลังโดนกระทุ้งด้วยอะไรบางอย่างอยู่ที่บั้นท้าย ปลายสายหน้าถอดสี“กรี๊ดดดดดดดฉันจะฆ่าแก แกนังต้าเหนิงฉันจะฆ่าแก” ต้าเหนิงกดวางสาย ยิ้มมุมปากเ
วิหารเทียมฟ้า“ไทฮองไทเฮาเพคะ มีคนผู้หนึ่งอยากจะไทฮองไทเฮาเพคะ”ร่างท้วมหยุดชะงักเงยหน้าขึ้นมองรูปสลักองค์พระประติมาที่แกะสลักจากหยกขาวสูงตระหง่านในวิหารเทียมฟ้า“เชิญเขาเข้ามาได้” ร่างสูงสวมหมวกปิดบังใบหน้า หนวดสีเทายาวลงมาที่กลางอกเดินเข้ามายืนตรงหน้าไทฮองไทเฮาที่หน้าถอดสี“ท่านผู้นี้ ท่านยังไม่ตายหรอกหรือ” เอ่อถูหวังชวนเงยหน้าขึ้นยิ้มน้อยๆ“ซีโหยว ท่านยังความทรงจำเกี่ยวกับข้าอีกหรือ”“ความทรงจำมากมายด้วยเรื่องของเราสามคน” ไทฮองไทเฮาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นน้อยๆ“ฮะฮะฮ่าาาา ข้ามาดีไม่ได้มาทวงความแค้นอะไรกับท่านหรอกแค่อยากจะบอกเรื่องที่เคยตกลงกันไว้”“เรื่องคนของตระกูลเอ่ออย่างนั้นหรือ ไท่ซางหวงพยายามตลอดมาที่จะให้คนในตระกูลเอ่ออยู่สบายแต่พอสิ้นไท่ซางหวง” ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปถึงจะบอกว่าพยายามก็ไม่อาจบังคับกะเกณฑ์ใครได้ ตอนนี้จึงได้ภาวนาให้นางรอดพ้นวิกฤติ” หมายถึงอะไรยังมีเหลือคนของตระกูลเอ่ออยู่อีกหรือไร”“ท่านไม่ได้มาเพราะเรื่องนี้หรือ ข้าไม่อาจห้ามปรามนางได้นางเข้าวังไปอาศัยบารมีของไทเฮา นางช่างเดียงสานักไม่รู้หรือไรว่ากำลังขี่หลังเสืออยู่ เดิมข้าคิดแค่เพียงว่านางเข้าไปเพื่อพบ…ฉินเกอห