ห้องหนังสือจวนเสนาบดีเฉินกงหลี่“ยกเครื่องเสวยยังห้องลับหรือยัง”ร่างสูงที่นั่งร่างอักษร ถามคนสนิท“ยังขอรับ”“นี่มันยามไหนแล้ว คนในนั้นก็ต้องกิน อี้เหมยไม่ได้สั่งไว้หรือว่าให้ใครยกอาหารเช้า”“ขอรับคุณหนูรองไม่ได้สั่งอะไรไว้คงจะลืมขอรับ”“อืมมม ให้ใครยกของกินไปมากหน่อยที่ห้องลับ เลือกเครื่องสวยที่ดีที่สุดยกไปไวที่สุด” ไห่หยวนเดินออกไปสั่งสาวใช้เบาๆ“มีใครสำคัญในนั้นหรือขอรับ ในเมื่อท่านอ๋องยังไม่ฟื้น”“ไห่หยวน อย่าถามมาก ท่านพ่อเดินทางเข้าวังหลวงหรือยัง”“เอ่อ ขอรับนายท่านเข้าวังหลวงไปแล้วฝ่าบาททรงเรียกสี่ตระกูลใหญ่”เฉินซือกวานพยักหน้าขึ้นลง“คงอยากจะลองดูท่าทีของทั้งสี่ตระกูลใหญ่ว่าจะมีท่าทีเช่นไรหากสั่งให้มีการตามล่าตัวอ๋องฉินจวิ้นหวัง ท่านพ่อเองก็คงต้องแสดงละครว่าเห็นด้วยทั้งที่ไม่เห็นด้วย เตรียมการให้พร้อมจัดคนของเราเฝ้าเวรยามสั่งให้คนบ้านเฉินเตรียมเก้บข้าวของมีค่าควรเมืองซ่อนไว้ในที่ปลอดภัย เตรียมเสบียงใส่ไว้บนรถบรรทุกสินค้าให้เต็มสักหลายๆคันหน่อยส่งไปรั้งไว้ที่นอกเขตวังหลวงจัดคนเฝ้าไว้ เสื้อผ้าและของใช้จำเป็นเก็บและขนไปให้พอสั่งการเดี๋ยวนี้เลย”“คุณชายใหญ่ครับ กลัวว่านายท่านจะถูก
“ใครกันอยากจะทำแบบนั้น”“ไม่รู้สิแต่ข้าเวลาเหลืออดกับเจ้าอะนะหานจงวิธีทีเดียวที่ทำได้คือ แกล้งให้เจ็บใจเช่นการจูบเจ้าเสียหานจงจะได้รู้ว่าไม่ควรจะมาโกรธข้าในความจริงที่ข้าพูดมาถึงคนอย่างเยี่ยนฉือจะไม่มีวรยุทธ์แต่ก็มีวิชาแพทย์ข้าอาจปรุงยาปลุกกำหนัดแอบผสมสุราให้เจ้าดื่ม เผื่อว่าอะไรอะไรจะดีขึ้น”"ข้าเลิกพูดกับท่านแล้วเราสองคนต่างเป็นคนร่วมเดินทางทำเพื่อให้ได้ยาวิเศษก็พอข้าอาจแค่คุ้มกันท่านต่อไปเราไม่ต้องพูดกันอีกเลยจึงดี เมื่อได้ยาไปรักษาหวางซื่อแล้วต่างคนต่างแยกย้าย”คำพูดที่พูดออกมาเองกลับรู้สึกว่าเจ็บปวดไม่น้อย หานจงกลืนน้ำลายลงคอช้าๆอีกคนเล่าจะรู้สึกอย่างไร“ไม่มีทาง ใครกันให้เจ้าเป็นคนกะเกณฑ์ ข้าเยี่ยนฉือหาใช่คนที่ใครคอยกะเกณฑ์ได้ไม่”อารมณ์เดียวกับต้าเหนิงที่ต้องการอยู่จุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารหานจงหน้าเหวอคนอาไร ทำไมไม่เจ็บปวดทำไมไม่รู้สึกอะไรกับการที่หานจงกำลังจะตัดสัมพันธ์แต่ตรงกันข้ามเขากลับฮึกเหิม ดักทางหานจงไว้เสียหมดห้องลับบ้านเฉินวันที่ฟ้าสดใส วันที่ทุกอย่างกำลังจะลงตัวต้าเหนิงนอนแช่ในน้ำเย็นสบาย ถึงจะไม่ได้นอนก็เถอะ แต่กลับรู้สึกสบายใจ นางจิ้งจอกอี้เหมยป่านนี้ยังไม่โผล่หั
“พอแล้วต้าเหนิงกำลังจะตาย”ฉินเกอหลงยิ้มบางอีกแล้ว“ปล่อยเถอะค่ะ แบบนี้ท่านอ๋องจะเจ็บที่บาดแผล”ต้าเหนิงค่อยๆขยับตัวลงจากอกของคนเจ็บ ที่แอบยิ้มพราย“ไม่เจ็บแล้วหรือ”ตากลมจ้องมองใหบน้าหล่อเลหานิ่ง“เจ็บสิ”“เจ็บแล้วทำไม…ยังจูบต้าเหนิงได้อีก”“หืมมข้านะหรือ ไม่ใช่เจ้าที่จูบข้าก่อนหรอกหรือ” ต้าเหนิงยิ้มเจื่อนๆ“ก็ต้องป้อนยา นี่ ต้าเหนิงปะปะป้อนยาท่านอ๋องนะไม่ได้ตั้งใจจูบสักหน่อย”พูดอ้อมแอ้ม“แสดงว่าข้าเข้าใจเจ้าผิดสินะ เช่นนั้นก็ควรจะเข้าใจว่าเจ้าแค่ป้อนยา ไม่ได้ใจสั่นเวลาที่ป้อนยาข้าหัวใจเจ้าที่ข้าได้ยินมันแทบจะทะลุออกจากอกไม่ได้เต้นโครมคราม ยามที่อยู่บนตัวข้ายามที่ป้อนยาข้าเช่นนั้นข้าก็ไม่ได้จูบเจ้าหรอกนะ ข้าก็แค่ใช้ริมฝีปากของข้าค้นหาความจริงในใจเจ้าเท่านั้น”ต้าเหนิงก้มหน้าเขินอายจนมุมก็ใจเจ้ากรรมก่อนหน้านั้นเต้นจนแทบทะลุออกจากอกจริงๆ“ไม่นับปะคำแล้วหรือ”เปลี่ยนเรื่องพูดเสียทันทีอีกคน หลุบตามองมือตัวเอง“นับสิตราบที่เจ้ายังไม่รู้ใจตัวเอง”“คุณหนูเจ้าขาฟื้นแล้วจริงๆเจ้าค่ะท่านอ๋องฟื้นแล้ว”เสียงดังมาก่อนจะเ้นตัวด้วยซ้ำ ฉินเกอหลงแทบไม่ต้องปรับสีหน้าที่เรียบเฉยมึนตึงเพราะคำพูดของต้าเหนิง“
“ไม่ได้แอบดูแล้วทำไมถึงรู้ว่าข้าต้องเปลี่ยนอาภรณ์ตัวใหม่”อี้เหมยถอนหายใจ“เจ้าน่ะแกล้งโง่เสียบ้างจะฉลาดมากไปแล้วสงสัยมากไปแล้ว พี่ใหญ่ก็คือคนสำคัญของบ้านเฉิน หากเจ้าเที่ยวเอาเรื่องนี้ไปพูดว่าพี่ใหญ่แอบดูเจ้าอาบน้ำเพียงเราะเจ้าสงสัยเขาและ และอะไรก็แล้วแต่เจ้าก็ควรสงบคำเสียบ้างไม่มีใครสอนเจ้าเรื่องนี้เลยหรือว่าเรามาอาศัยบ้านของเขาก็ควรเคารพเจ้าบ้าน นี่เจ้าคิดว่าที่นี่เป็นบ้านตระกูลเอ่อที่แหลกสลายไปแล้วหรือว่าคิดว่าที่นี่คือตำหนักสิบหกของเจ้าจึงได้ทำตัวไม่อ้อนน้อมเช่นนี้”ต้าเหนิงกำลังขยับปากจะเถียงนี่ก็แสดงว่าเป็นเจ้าบ้านจะทำอะไรก็ได้สินะแล้ว แล้วให้อ่อนน้อมกับคนที่แอบดูต้าเหนิงอาบน้ำเนี๊ยนะ“พอแล้ว อี้เหมย พี่ใหญ่ของเจ้าผิดเองที่แอบเข้ามาโดยพลการที่แห่งนี้ยกให้หวางเย่แล้วข้าก็ไม่ควรเข้ามาวุ่นวายอีก เอาเป็นว่าข้าขอโทษเจ้าด้วยพระสนมเอ่อเดิมข้าตั้งใจจะเยี่ยมอาการบาดเจ็บของหวางเยว่แต่ว่ามาทีไรพบนางอยู่ที่นี่ทุกครั้งและคิดว่าท่านอ๋องคงยังไม่ฟื้นก็ควรรอให้ท่านอ๋องฟื้นขึ้นมาก่อนจึงจะมาอีกที” คิดว่าขอโทษแล้วก็จบหรือฝากไว้ก่อนเถอะ“พี่ใหญ่ หวางเยว่ฟื้นแล้ว”“ฟื้นแล้วแล้วทำไมพวกเจ้าไม่อยู่คอยดูเ
“เช่นนั้นขาจะส่งนางไปที่วิหารเทียมฟ้าเสียก็จะถือว่า บัญชาของไท่ซางหวงฝ่าบาททรงทำตามบัญชาแล้วต่อไปจะเป็นจะตายก็ไม่เกี่ยวกับเรา ไทฮองไทเฮาก็ทรงจำศีลที่นั่นบางทีหากนางบวชเสียกัวกั๋วจึงจะไม่ประหารนาง หรือหากจะทำอะไรนางก็ต้องเกรงใจไทฮองไทเฮาบ้างไม่มากก็น้อยตอนนี้ทางเดียวที่เราจะทั้งหมดจะรอดก็คือจะต้องให้ฝ่าบาทปลอดภัยและยอมที่จะทวงบัลลังก์คืน และตอนนี้ข้าว่าถึงเวลาแล้วทั้งฝ่าบาทและกัวกั๋วฮ่องเต้บาดหมางกันเกินกว่าที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”ลู่ซือห่าวถอนหายใจยาวในวันนั้นที่ลู่ซือห่าวเข้าพบฉินเกอหลงพร้อมกับถวายฎีกาและถามคำถามสำคัญสิ่งที่ฉินเกอหลงตอบกลับมาคือไม่ และไม่“ฝ่าบาทเคยตอบกลับข้ากับคำถามสำคัญนี่แล้วว่า …ไม่”“แล้วหากสิ่งที่พวกท่านคิดมันผิดเล่าฝ่าบาทมิได้ทำเพราะบัญชาของไท่ซางหวงหากแต่เป็นเพราะมีใจปฏิพัทธ์สนมเอ่อผู้งดงามที่แม้แต่กัวกั๋วฮ่องเต้ยังปรารถนาในตัวนางที่พูดว่าจะประหารก็คงแค่เพียงพูดให้ตัวองไม่ต้องอับอายแต่ในความเป็นจริงแล้วข้าเห้นว่ากัวกั๋วฮ่องเต้ปรารถนาในตัวนางเพียงใดถึงกับตั้งใจให้นางนั่งตำแหน่งฮองเฮาในเทศกาลโคมไฟใครๆก็เห็นว่ากัวกั๋วทำเพื่อนางทั้งหมด เช่นนั้นทำไมเราไม่ใช่สนม
เพียงพริบตากับจูบรสหวานฉินเกอหลงก็พลิกตัวลงในท่านอนหงายปล่อยต้าเหนิงเป็นอิสระ ต้าเหนิงรับจัดแต่งอาภรณ์ที่หลุดลุ่ย“ขอโทษ”น้ำเสียงออ่นโยนเหลือเกินทำให้รู้สึกว่าอีกคนรู้สึกผิดจริงๆ อาการตัวสั่นหายไปริมฝีปากที่ดำคล้ำก็กลายเป็นแดงใสเหมือนเดิม“มะมะไม่เป็นไรหรอก”ถึงจะบอกไปอย่างนั้นแต่รู้สึกนอยด์เหมือนกัน"ข้าไม่อาจระงับอาการเจ็บปวดได้ด้วยตัวเอง แต่เมื่อร่างกายของเจ้าที่ข้ากอดจูบทำให้ความเจ็บปวดบรรเทาเบาบาง”จะดีใจหรือเสียใจดี เขาหาอะไรทำให้ลืมความเจ็บปวดสินะต้าเหนิงทำตาโต ตายแล้ววววแล้วถ้าเขาเจ็บขึ้นมาอีกไม่มีต้าเหนิงแล้วบังเอิญในบังเอิญอี้เหมยหรือใครอยู่ใกล้ๆเขาไม่กอดจูบให้ตัวเองหายเจ็บปวดหรือๆไร แ้ลวถ้าไม่มีใครอย่างไรจึงจะหายเจ็บปวด“ หวางเย่ อี้เหมยนำชายามบ่ายกับขนมมาถวาย”อี้เหมยเดินเข้ามาพร้อมกับสาวใช้คนนั้น สาวใช้นามเสี่ยวฟางคนที่ยกสำรับมาให้อี้เหมยที่อยู่ๆก็เดินมากระแทกต้าเหนิงจนเกือบล้มอี้เหมยต้องประคองไว้ นางยัดอะไรบางอย่างในมือของต้าเหนิง“ขอโทษจริงๆเจ้าค่ะ พระสนมเปรอะเปื้อนแล้วไหมเล่าเจ้าค่ะ พระสนมไม่ออกไปล้างอาภรณ์ที่เปรอะที่ห้องน้ำเจ้าค่ะ”เสี่ยวฟางนางเป็นคนพูดเจื้อยแจ้วและก
“อยากกอดก็กอดเสียให้พอ”นั่งนิ่งไม่ไหวติง“แล้วถ้าอยากจะจูบเล่า ละละแล้วอยากทำมากกว่านั้นเล่า”สายตามากความหมายยังส่งมาให้ตลอดเวลา“ท่านอ๋องจะผูกมัดต้าเหนิงไปเพื่ออะไร”เสียงสั่น“เพื่อให้เจ้าเป็นของข้าคนเดียว”ฉินเกอหลงรั้งเอวบางให้แนบชิด“ช่างเถอะนั่นมันเรื่องของท่านอ๋อง.... ไว้ใจคนบ้านเฉินได้แค่ไหน”ฉินเกอหลงขมวดคิ้วแต่ยังไม่คลายอ้อมกอด“เจ้ากังวลใจอะไร”“ต้าเหนิงก็แค่คิดว่าหากไม่มีต้าเหนิงหรือหากแค่ฝ่าบาทที่บาดเจ็บมาเขาจะดูแล และจะดีกับฝ่าบาทใช่ไหม”ปลายเสียงเศร้าแต่อีกคนไม่ทันจับสังเกตุ“บ้านเฉินกับข้านะหรือ เดิมเป็นพวกเขาที่เสด็จพ่อให้การไว้วางใจข้าเชื่อใจพวกเขาแปดในสิบส่วนที่เดียว แต่หากกัวกั๋วฮ่องเต้จะกดดันพวกเขา ข้าก็คงไม่อาจรู้ว่าพวกเขาจะเลือกภักดี.... กับข้าหรือว่าเลือกทางรอด เจ้าไม่วางใจพวกเขาหรือไรหรือไร คนเราเมื่อถึงคราวที่ใกล้ตายหรือกำลังจะตายมักจะเผยธาตุแท้ ข้าสัญญาจะไม่ให้เจ้าต้องลำบากจะปกป้องเจ้า แม้ว่าจะไม่เหลือใครที่อยากให้เจ้ามีชีวิตอยู่ก็ตามขอให้รู้ไว้ว่ามีข้าที่จะไม่มีทางให้เจ้าต้องพบกับอันตราย” ต้าเหนิงยกมือกอดรอบเอวหนาซบหน้าลงบนอกกว้าง“ต้าเหนิงมาที่นี่เพียงลำพังเหลื
“ฮ่าาาาในที่สุดเจ้าก็เข้าใจอะไรเสียที การที่จะเอาบัลลังก์มังกรมาใส่พานให้กับฝ่าบาท เจ้าก็ต้องลงทุน”ต้าเหนิงยิ้มหวาน“ขอบคุณใต้เท้าเฉินที่สั่งสอน”เฉินซือกวานยทนเอามือกอดอกรู้สึกสับสนกับสิ่งที่ต้อตัดงสินใจ“ว่าแต่เจ้าจะไม่เสียใจทีหลัง แล้วกล่าวหาว่าข้ากดดันเจ้าใช่ไหมหากวันใดที่ไม่เป็นดั่งใจเจ้า”“ข้าต้าเหนิงตัดสินใจ ทำสิ่งใดลงไปแล้วไม่มีทางเสียใจตอนนี้ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว รอแค่ใต้เท้าส่งเสริมข้า ไปกันเถอะค่ะเวลาของเราเหลือน้อยแล้ว”ก้าวเดินออกจากห้องขึ้นไปบนเกี้ยวไม่เหลียวหลังเฉินซือกวาน ถอนหายใจยาววังหลวงต้าเหนิงเดินก้มหน้าเข้ามาพร้อมกับองครักษ์ที่เดินตามมาด้วยสองคน ไม่ได้มีท่าทีว่าหวาดกลัวคล้ายกับว่าต้าเหนิงคนที่กลวตายคนนั้นหายไปแล้วกัวกั๋วฮ่องเต้ ยิ้มเหยียดเดินเข้ามารวบเอวบางของต้าเหนิงบังคับให้เดินเข้าไปในตำหนัก“อยู่ในกำมือของข้าแล้วต่อก็เหลือแค่….จะทำอย่างไรให้หัวใจเจ้าอยู่ในกำมือข้าเช่นกันกับร่างกาย”เชยคางมนให้สบตาต้าเหนิงยิ้มเย็นสองสัปดาห์ผ่านไปหานจงที่กำลังปีนขึ้นไปบนผาสูงเยียนฉือยืนมือให้จับแต่อีกคนกลับมองผ่าน“นี่หากรังเกียจกันขนาดนี้ แม้แต่มือยังไม่ให้สัมผัสโดน เจ้าก็จะต
ฉินเกอหลง ก่อนหน้านั้นเมื่อพันปีก่อนยืนโปรยเถ้ากระดูกของต้าเหนิง“ฝ่าบาท ท่านหมอเยี่ยนฉือกับหานจงขอประทานอนุญาตออกเดินท่องยุทธภพ หวังว่าฝ่าบาทจะประทานอนุญาติในครั้งนี้”เชียวกงเล่อประสานมือตรงหน้า ความรู้สึกเหมือนบางอย่างแหว่งเว้าหายไป“ในที่สุดเราทุกคนก็ได้แค่เพียงเป็นเถ้าธุลี ปลิวหายไปพร้อมกับสายลม ข้าเองแม้จะอยากทำตามใจเพียงใดสุดท้ายข้าก็ได้แค่เพียงสะกดกลั้นความคิดนั้นไว้เสีย”“พ่ะย่ะค่ะท่านพ่อ..กงเล่อหมายถึงท่านปู่ของฮองเฮาเอ่อถูหวังซวน เสียใจที่ต้องสูญเสียคนของตระกูลเอ่อไปจนไม่เหลือใครแม้กงเล่อขอใช้แซ่ของตระกูลเอ่อแต่ท่านพ่อก็ยังเศร้าโศกเช่นเดิมกงเล่อเข้าใจดีว่าไม่อาจทดแทนกันได้”“จริงสินะในที่สุดตระกูลฉินก็ไม่อาจปกป้องตระกูลเอ่อไว้ได้ ข้าที่ทุ่มเทตั้งแต่วันแรกที่พบนางก็ยังไม่อาจช่วยเหลือนางได้ทันเช่นนั้นจึงเรียกว่าเป็นความผิดของข้า”“ไม่มีใครผิดพ่ะย่ะค่ะสวรรค์กำหนดไว้แล้วหากไม่มีฝ่าบาทบางที่ตระกูลเอ่ออาจไม่เหลือรอดตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกฆ่าล้างตระกูลฝ่าบาททำดีที่สุดแล้ว”“จริงสินะในครั้งแรกที่ข้าพยายามช่วยชีวิตเอ่อต้าเหนิงจากคนชั่ว และครั้งที่สองข้าที่พยายามช่วยชีวิตนางจากการสั่งกา
หนึ่งปีผ่านไป“โอ้ๆๆๆๆอย่าร้องนะคนดีมาให้พ่ออุ้มเร็ว”ฉินเกอหลงพูดไทยสำเนียงแปลกๆคุณหมอดนัย ส่ายหน้าไปมา“เมื่อไหร่จะพูดไทยแข้งแรงสักทีบอกให้สอนกันหน่อยก็ไม่เอาวันๆเอาแต่ผลิตลูกดูสินี่ก้ท้องอีกแล้วหัวปีท้ายปีเชียว”ต้าเหนิงยิ้มดวงตาเป็นประกาย“คุณแม่ฮับลูกชายหิวนมแล้วฮับ”เสียงออดอ้อนของฉินเกอหลง ทำเอาต้าเหนิงส่ายหน้า รับเอาร่างกระจ้อยมากอดแนบอก แกะกระดุมป้อนนมทารกในอ้อมแขนฉินเกอหลงดวงตาเป็นประกาย หมอดนัยวางยาที่จัดมาสำหรับแม่ลูกอ่อนลงตรงหน้าฉินเกอหลง“อิจแาต้าเหนิงจังมีสามีที่คอยดูแลทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นกับข้าวกับปลาเลี้ยงลูกเตือนให้กินยา ถ้ามีแบบนี้รักตายเลย บ้านช่องก็เลยไม่กลับมาคตอยดูแลภรรยาตั้งสองสามเดือนแล้วธุรกิจที่นั่น ไม่ต้องห่วงหรือ”ฉินเกอหลงยิ้มกำลังเรียบเรียงคำพูด“ผมจัดเตรียมทุกอย่างและประชุม ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ในมุกเช้าจึงไม่ต้องห่วงอะไรหากว่ามีอะไรขัดข้องก็จะเรียกประชุมทันที ทางนี้ผมเองไม่อาจวางใจ ต้าเหนิงเขาต้องมีผมคอยดูแล เขาลำบากอุ้มท้องลุกของผม เขาต้องอุ้มเด็กอีกคนไว้ในท้องฉะนั้นผมเลยคิดว่าไม่มีใครจะดูแลต้าเหนิงได้ดีเท่าผมและควรจะดูแลต้าเหนิงอย่างดี”หมอดนัยส่าย
“คุณไม่อยากลองขอฉันแต่งงานดูอีกสักทีหรือ”อมยิ้มฉินเกอหลงเลิกคิ้วสูง“อยากสิ ถ้าอย่างนั้น แต่งงานกับผมนะครับ”คุกเข่าลงกับพื้นที่ด้านล่างมีกลับดอกเมหยสีชมพูดร่วงเกลื่อนกราดต้าเหนิงยิ้มพยักหน้าขึ้นลง ฉินเกอหลงรวบร่างบางไว้แนบอกอีกครั้ง“ขอบคุณขอบคุณจริงๆ ที่ยอมแต่งกับผม”ยิ้มหว้างสดใสจนต้าเหนิงต้องยิ้มตาม““ความจริงแล้วเธอไม่ได้ติดค้างอะไรหรอกนะที่ตามหาเพราะต้องการชดเชยให้คุณอย่างไรเล่า ต้าเหนิง”ต้าเหนิงเลิกคิ้วสูง เมื่อฉินเกอหลงกระซิบข้างหูเบาๆ“คุณพูดอะไรนะ อย่าบอกนะว่าคุณ เพิ่งจะข้ามภพมา”ฉินเกอหลงเองก็เลิกคิ้วสูง“ข้ามภพหรือ แค่ความฝันหรือเปล่าสิ่งที่ผมฝันในทุกๆคืนนั่นก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในอ้อมแขนของผม เธอกำลังเจ็บปวดและทรมานผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมามีหยาดน้ำตาทุกครั้ง ตั้งแต่จำความได้ พอโตขึ้นมาสิ่งที่ผมตั้งใจทำมาตลอดคือตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ให้จิตกรมาวาดภาพเธอคนนั้นไว้ในห้องนอนเพื่อให้ได้เห็นหน้าเธอในทุกๆวัน คุณอยากเห็นรูปผู้หญิงคนนั้นไหม”ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลง“คุณอยากเห็นก็คงต้องไปส่องกระจกแล้วล่ะ เพราะรูปนั่นเหมือนคุณอย่างกับแกะ”ดึงมือต้าเหนิงให้เดินเคียงข้างกันไป“คุณฝันถึ
ฉินเกอหลงจอดรถลงข้างทางที่ประดับด้วยไฟหลากสีใต้ต้น ดอกเหมยสีชมพูเบ่งบาน ผู้คนเดินจูงมือคู่รัก“คุณชอบดอกเหมยหรือ”ต้าเหนิงถามเบาๆ“ชอบ อยากให้ต้าเหนิงได้เหนมันไงเล่ากว่าจะผ่านไปแต่ละปีจะต้องทนนับวันนับเดือนที่ดอกเหมยบานและร่วงโรยครั้งแล้วครั้งเล่าลำพังเดียวดายตราบนานเท่านาน”ต้าเหนิงก้มมองมือในอุ้งมืออุ่นของฉินเกอหลง ยอมให้เขากุมมือไว้ราวกับคู่รักแต่ไม่ยอมฟังคำพูดเศร้าๆของเขา“ฮ่าาาพามาแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย ไอ้เรารึคิดไปไกลเยว่าจะพาไป…ทำมิดีมิร้าย”ฉินเกอหลงส่ายหน้าไปมา“วางใจเถอะไม่เอาไปขายหรอก”“หือ ไม่ขายแต่ฆ่าหั่นศพและแย่เชียวฮ่าๆๆๆๆ”ยังตลกได้อีกฉินเกิอหลงหันมาทำสีหน้าจริงจังต้าเหนิงขนลุกเกรียวหรือว่า หรือว่า“จูบได้ไหม”“หา จะจูบเลยหรือ”“ก็ต้องจูบสิคนที่เขาลองคบกันก็ต้องลองหลายๆอย่างว่าเขากันได้ไหม”“อย่าทำแบบนี้นะมาถึงก็จูบเลยหรือจะไม่เอาเปรียบกันไปหน่อยหรือ”ฉินเกอหลงรวบร่างบางมากอดไว้แนบกายจมูกโด่งสูดดมเรือนผมที่หอมละมุนเนิ่นนาน“เจ้าเข้าสู่โหมดโรแมนติกแล้วนะ คิดถึงจังสบายดีไหม”ทอดเสียงอ่อนโยนจนต้าเหนิงตัวเย็น มือที่ยกขึ้นกอดรอบเอวของฉินเกอหลงอย่างกล้าๆกลัวๆก็เย็นเฉียบ“คือๆๆๆค
ต้าเหนิงยิ้มพยักหน้าหงึกหงักกำลังช่างใจว่ากัวกั๋วก็คือกํวกํ๋วหรือว่ากัวกํ่วคนนี้ไม่ใช่กัวกั๋ว“ขอบคุณ แต่จะว่าไปฉันไม่ได้หลงตัวเองนะแต่คุณสองคนกำลังแย่งฉันใช่ไหม”ฉินเกอหลงอมยิ้มกัวกั๋วงง“มีคนแบบนี้ด้วยหรือ คนที่คิดว่าคนอื่นกำลังแย่งคุณผู้หญิงไท่กัวเป็นแบบนี้ทุกคนไหมนะ”ฉินเกอหลงเปยเบาๆต้าเหนิงอมยิ้ม ความคนึงหาทีข้ามผ่านมาปีหนึ่งสิ้นสุดลง“เอาล่ะที่นี้ เราสองคนมาตกลงกันดีกว่าไหมพี่ใหญ่ว่าใครจะจีบก่อนจีบที่หลังไอ้ผมอะนะเริ่มชอบผู้หญิงไท่กัวคนนี้แล้ว”กัวกั๋วพูดขึ้นพร้อมกับใช้ตะเกียบในมือคีบอาหารในจานวางตรงถ้วยข้าวตรงหน้าต้าเหนิง ฉินเกอหลงที่เห็นก็รีบคีบของกินที่คิดว่าต้าเหนิงจะชอบวางลงบนถ้วยข้าวของต้าเหนิงบ้างไฉหรานอมยิ้ม“ต้าเหนิงของเราฮอตน่าดู”หันไปพูดกับเฉินซือกวาน“ก็นะบอกแล้วไงว่าฉันอะนะกำลังโดนแย่งจากคนสองคน”อมยิ้ม“ใครบอก กัวกั๋วนายนะมาทีหลังหลบไปเถอะไม่มีการแย่งชิงอะไรทั้งนั้น”ฉินเกอหลงทรุดกายลงกับพื้นคุกเข่าตรงหน้าพร้อมกับหยิบกล่องกำมยี่สีแดงออกมาจากกระเป๋าเปิดกล่องกำมยี่สีแดงออกแสงแวววาวจากเพชรเม้ดมะหึมาคงราวๆห้ากะรัตสุกสกาวต้องแสงไฟ ต้าเหนิงเลิกคิ้วสูง“แต่งานกบผมนะครับคุณต
“ใครจะบังอาจเล่าค่ะ ต้าเหนิงเองเขาก็ไม่ใช่คนที่พูดมากหรือชอบนินทาใครต้าเหนิงเขาเป็นคนเรียบร้อยน่ารักที่สุด”ไฉหรานเชียร์เต็มที่ ต้าเหนิงยิ้มจื่อนๆ เรียบร้อยอย่างกับผ้าพับไว้ในโรงรับจำนำเถอะ“เรียบ จริงหรือครับ”“อืมมม เรียบร้อยครับคุณฉินไม่ใช่เรียบเฉยๆ” เฉินซือกวานรีบพูดแทรกขึ้นกลัวว่าต้าเหนิงจะรู้สึกไม่ดี เปล่าต้าเหนิง ที่รีบก้มมองหน้าอกของตัวเองมันก็ไม่ได้ราบแบนเสียหน่อยบริกรนำอาหารมาเสริ์ฟบนโต๊ะ ฉินเกอหลงผายมือ“มีที่พักหรือยังครับอี้ตวนของเรามีที่พักมากมายในเครือให้คุณ …ได้เลือกพัก”ต้าเหนิงเลิกคิ้วอมยิ้มแก้มป่องจากฝ่าบาทมากลายเป็นนักขายอย่างไรกัน“ต้าเหนิงเขาพักกับเราค่ะคุณฉินไม่ต้องห่วงเขามาที่นี่แค่5วันตั้งใจพาเที่ยว อย่างที่ต้าเหนิงอยากจะไปเรื่องที่พักก็เลยไม่ใช่ปัญหาที่บ้านของเราก็มีห้องวางอยู่หลายห้อง”ฉินเกอหลงพยักหน้าขึ้นลง บริกรเดินถือช่อดอกกุหลาบสีแดงนับพันดอกมุ่งตรงมาที่ ต้าเหนิงโค้งคำนับอย่างนอบน้อม“ต้าเหนิงรับเอาดอกกุหลาบช่อโตหยิบการ์ดที่สอดไว้ด้านหน้าขึ้นมาอ่าน”ฉินเกอหลงขมวดคิ้ว“ของใคร”ไฉหรานชะโงกมองเพราะความสงสัยแล้วหันไปสบตากับเฉินซือกวาน“เอ่อ คุณฉินกัวกั๋วครับ
ภัตตาคารหรูริมน้ำมองเห็นแสงสีสว่างไสวไปทั่งสะพานที่ทอดข้ามผ่านแม่น้ำสายใหญ่งดามท่ามกลางผู้คน ต้าเหนิงกับไฉหรานมาถึงแล้ว เฉินซือกวานรีบ เปิดประตูรถให้ทั้งสองคนลงมาจากรถด้วยท่าทีราวกับนักันไว้นั่นคือให้ช้าๆเข้าไว้ก็ต้าเหนิงไม่อยากพบเจ้าคนรวยอ้วนพุงพุ้ยและกินจุคนนั้นตั้งใจ ปิดภัตตาคารเพื่อจะได้กินอิ่มๆคนเดียวไม่ได้เพื่อให้ต้าเหนิงนั่งสบายหรือเปย์ต้าเหนิงหรอก“คุณครับ คุณฉินเชิญคุณทั้งสามบนชั้นสองขอรับ”บริกรก้มศรีษะนอบน้อม ต้าเหนิงเงยหน้ามองขึ้นไปบนชั้นสองที่สว่างไสวเห็นเพียงใครบางคนที่นั่งนระเบียงภัตตาคารหรู ต้าเหนิงเบ้ปากเข้าใจเลือกมุมให้มองเห็นพวกต้าเหนิงก่อนแหมร้ายจริง“คุณผู้หญิงครับนี่คือของขวัญต้อนรับสำหรับการยินยอมมารับประทานอาหารกับ...คุณฉิน”“คุณฉิน ฉินอะไร”ต้าเหนิงรับเอากล่องน้ำหอมระดับโลกไว้ในมือไฉหรานยิ้มสดใสดีใจยิ่งกว่าต้าเหนิงเสียอีก“เห็นไหมต้าเหนิงเขาจริงใจแค่ไหน”กระซิบต้าเหนิงเบาๆต้าเหนิงส่ายหน้าไปมาเดินตามไฉหรานที่ดึงมือให้เดินตามเฉินซือกวานขึ้นไปข้างบนชั้นสองพอ้าเหนิงยืนอยู่ชั้นบนเสียงดนตรีก็ดังขึ้นนักดนตรีบรรเลงเพลงหนึ่งทำนองคุ้นหูเหลือเกินต้าเหนิงหยุดนิ่งอยู่กับท
“ทำไมต้องเป็นที่นั่น”อ่านชื่อภัตตาคารหรูริมแม่น้ำที่อาหารอร่อยมากตามรีวิวแต่ราคาแพงหูฉี่“หืออาหารอร่อยมากและที่สำคัญ…”ไฉหรานยิ้มดวงตาพร่างพราว"ฉันว่ามันมากไปฉันอยากกินของอร่อยๆก็จริงแต่ ก็ยังไม่อยากหมดตัวฮ่าาาา"ต้าเหนิงพูดไปยิ้มไปไฉหรานเองก็ยิ้ม"ฉันไม่สิคุณเฉินสามีฉันเขาบอกจะเลี้ยงเธอในฐานะที่เราไม่ได้ชวนเธอมางานแต่งของเราเขารู้ว่าฉันกับต้าเหนิงสนิทกันแค่ไหนก็แค่อยากจะเลี้ยงต้อนรับเธอสักครั้ง""มันหลายตังค์นะฉันเกรงใจ"ไฉหรานยิ้มอีกแล้ว"ไม่ต้องเกรงใจน่าเราตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องต้อนรับเธอให้ดีที่สุดให้เธอประทับใจที่สุดจนอยากจะอยู่ที่นี่เลยดีไหม""ไม่ใช่ล่ะ มันแปลกๆ ฉันว่ามันมีกลิ่นนะ เอาความจริงมาพูดกันเราสองคนคบกันมาตั้งปีหนึ่งฉันไว้ใจเธอมากเลยนะไฉหรานว่าเธอจะไว้ใจได้ และไม่โกหกฉัน"ไฉหรานยิ้มเจื่อนๆนั่งลงข้างๆต้าเหนิงเลื่อนแก้วกาแฟตรงหน้าต้าเหนิงอย่างเอาใจ“คุณเฉินเขานัดใครบางคนดูตัวเพื่อนสาวของเราต้าเหนิงซึ่งเขาก็แค่อยากจะกินข้าวแล้วก็ดูตัวต้าเหนิงไปด้วย คนคนนี้อะนะหล่อที่สุดนิสัยดีที่สุด และเอาใจเก่งที่สุด ที่สำคัญเป็นทายาทโดยตรงที่กำลังจะนั่งตำแหน่งท่านประทานของอี้ตวนในขณะนี้สาว
“แม่จ๋าหนูอยากจะไปเมืองจีน คุณแม่คนสวยใจดีที่สุดในโลกอนุญาตให้ลูกสาวตัวน้อยๆคนนี้ได้ไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจได้ไหม”คุณปทุมยิ้มแกล้งมองไปทางอื่นเสีย“น่านะคุณแม่ขา ต้าเหนิงอยากจะไปจริงๆบรรพบุรุษเราเป็นคนจีนพ้นทะเลๆไม่ใช่หรือแล้วนี่ไม่ให้ต้าเหนิงไปพอต้าเหนิงตายไปจะกล้ามองหน้าบรรพชนได้อย่างไร”แอบเอาประโยคยอดนิยมในซีรีย์จีนมาพูดกับคุณปทุม“จะไปทำไม”“หนูอยาก…เป็นกำแพงเมืองจีนอยากไปพระราชวังต้องห้ามอยากจะเที่ยวจางเจี่ยเจีย”“มีเงินแล้วหรืถึงอยากจะไปพอให้แต่งกับผู้ชายจีนที่เป็นญาติห่างๆกันก็ไม่เอา ทีแบบนี้แล้วอยากจะไปไปคนเดียวมันอันตรายนะ แม่ไม่อนุญาต”“หนูไปแค่ไม่กี่วัน คุณแม่ไม่ต้องห่วงน่าแล้วตอนนี้ที่นั่นก็มีไฉหราน”“ไฉหรานอะไรของแกนั่นไว้ใจเขาได้หรือไม่เคยเห็นตัวเป็นๆเขาสักหน่อยก็ไว้ใจเขา แม่ละท้อใจกับการไว้ใจคนและเข้ากับคนได้ง่ายๆอย่างหนูจังเลยแบบนี้ยิ่งจะทำให้คนชั่วมาตีสนิท”“ไฉหรานเขาไม่หลอกหนูหรอกค่ะเราพูดคุยแลกเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างจนสนิทกันแล้วระยะเวลาเกือบปีมานี้หนูคิดว่าหนูดูเขาดีพอแล้วค่ะ”คุณปทุมถอนหายใจ“แล้วที่หลับที่นอน โรงแรมที่พัก เล่าจัดเตรียมไว้แล้วหรือ”“เรียบร้อยแล้วค่ะตั