เพียงพริบตากับจูบรสหวานฉินเกอหลงก็พลิกตัวลงในท่านอนหงายปล่อยต้าเหนิงเป็นอิสระ ต้าเหนิงรับจัดแต่งอาภรณ์ที่หลุดลุ่ย“ขอโทษ”น้ำเสียงออ่นโยนเหลือเกินทำให้รู้สึกว่าอีกคนรู้สึกผิดจริงๆ อาการตัวสั่นหายไปริมฝีปากที่ดำคล้ำก็กลายเป็นแดงใสเหมือนเดิม“มะมะไม่เป็นไรหรอก”ถึงจะบอกไปอย่างนั้นแต่รู้สึกนอยด์เหมือนกัน"ข้าไม่อาจระงับอาการเจ็บปวดได้ด้วยตัวเอง แต่เมื่อร่างกายของเจ้าที่ข้ากอดจูบทำให้ความเจ็บปวดบรรเทาเบาบาง”จะดีใจหรือเสียใจดี เขาหาอะไรทำให้ลืมความเจ็บปวดสินะต้าเหนิงทำตาโต ตายแล้ววววแล้วถ้าเขาเจ็บขึ้นมาอีกไม่มีต้าเหนิงแล้วบังเอิญในบังเอิญอี้เหมยหรือใครอยู่ใกล้ๆเขาไม่กอดจูบให้ตัวเองหายเจ็บปวดหรือๆไร แ้ลวถ้าไม่มีใครอย่างไรจึงจะหายเจ็บปวด“ หวางเย่ อี้เหมยนำชายามบ่ายกับขนมมาถวาย”อี้เหมยเดินเข้ามาพร้อมกับสาวใช้คนนั้น สาวใช้นามเสี่ยวฟางคนที่ยกสำรับมาให้อี้เหมยที่อยู่ๆก็เดินมากระแทกต้าเหนิงจนเกือบล้มอี้เหมยต้องประคองไว้ นางยัดอะไรบางอย่างในมือของต้าเหนิง“ขอโทษจริงๆเจ้าค่ะ พระสนมเปรอะเปื้อนแล้วไหมเล่าเจ้าค่ะ พระสนมไม่ออกไปล้างอาภรณ์ที่เปรอะที่ห้องน้ำเจ้าค่ะ”เสี่ยวฟางนางเป็นคนพูดเจื้อยแจ้วและก
“อยากกอดก็กอดเสียให้พอ”นั่งนิ่งไม่ไหวติง“แล้วถ้าอยากจะจูบเล่า ละละแล้วอยากทำมากกว่านั้นเล่า”สายตามากความหมายยังส่งมาให้ตลอดเวลา“ท่านอ๋องจะผูกมัดต้าเหนิงไปเพื่ออะไร”เสียงสั่น“เพื่อให้เจ้าเป็นของข้าคนเดียว”ฉินเกอหลงรั้งเอวบางให้แนบชิด“ช่างเถอะนั่นมันเรื่องของท่านอ๋อง.... ไว้ใจคนบ้านเฉินได้แค่ไหน”ฉินเกอหลงขมวดคิ้วแต่ยังไม่คลายอ้อมกอด“เจ้ากังวลใจอะไร”“ต้าเหนิงก็แค่คิดว่าหากไม่มีต้าเหนิงหรือหากแค่ฝ่าบาทที่บาดเจ็บมาเขาจะดูแล และจะดีกับฝ่าบาทใช่ไหม”ปลายเสียงเศร้าแต่อีกคนไม่ทันจับสังเกตุ“บ้านเฉินกับข้านะหรือ เดิมเป็นพวกเขาที่เสด็จพ่อให้การไว้วางใจข้าเชื่อใจพวกเขาแปดในสิบส่วนที่เดียว แต่หากกัวกั๋วฮ่องเต้จะกดดันพวกเขา ข้าก็คงไม่อาจรู้ว่าพวกเขาจะเลือกภักดี.... กับข้าหรือว่าเลือกทางรอด เจ้าไม่วางใจพวกเขาหรือไรหรือไร คนเราเมื่อถึงคราวที่ใกล้ตายหรือกำลังจะตายมักจะเผยธาตุแท้ ข้าสัญญาจะไม่ให้เจ้าต้องลำบากจะปกป้องเจ้า แม้ว่าจะไม่เหลือใครที่อยากให้เจ้ามีชีวิตอยู่ก็ตามขอให้รู้ไว้ว่ามีข้าที่จะไม่มีทางให้เจ้าต้องพบกับอันตราย” ต้าเหนิงยกมือกอดรอบเอวหนาซบหน้าลงบนอกกว้าง“ต้าเหนิงมาที่นี่เพียงลำพังเหลื
“ฮ่าาาาในที่สุดเจ้าก็เข้าใจอะไรเสียที การที่จะเอาบัลลังก์มังกรมาใส่พานให้กับฝ่าบาท เจ้าก็ต้องลงทุน”ต้าเหนิงยิ้มหวาน“ขอบคุณใต้เท้าเฉินที่สั่งสอน”เฉินซือกวานยทนเอามือกอดอกรู้สึกสับสนกับสิ่งที่ต้อตัดงสินใจ“ว่าแต่เจ้าจะไม่เสียใจทีหลัง แล้วกล่าวหาว่าข้ากดดันเจ้าใช่ไหมหากวันใดที่ไม่เป็นดั่งใจเจ้า”“ข้าต้าเหนิงตัดสินใจ ทำสิ่งใดลงไปแล้วไม่มีทางเสียใจตอนนี้ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว รอแค่ใต้เท้าส่งเสริมข้า ไปกันเถอะค่ะเวลาของเราเหลือน้อยแล้ว”ก้าวเดินออกจากห้องขึ้นไปบนเกี้ยวไม่เหลียวหลังเฉินซือกวาน ถอนหายใจยาววังหลวงต้าเหนิงเดินก้มหน้าเข้ามาพร้อมกับองครักษ์ที่เดินตามมาด้วยสองคน ไม่ได้มีท่าทีว่าหวาดกลัวคล้ายกับว่าต้าเหนิงคนที่กลวตายคนนั้นหายไปแล้วกัวกั๋วฮ่องเต้ ยิ้มเหยียดเดินเข้ามารวบเอวบางของต้าเหนิงบังคับให้เดินเข้าไปในตำหนัก“อยู่ในกำมือของข้าแล้วต่อก็เหลือแค่….จะทำอย่างไรให้หัวใจเจ้าอยู่ในกำมือข้าเช่นกันกับร่างกาย”เชยคางมนให้สบตาต้าเหนิงยิ้มเย็นสองสัปดาห์ผ่านไปหานจงที่กำลังปีนขึ้นไปบนผาสูงเยียนฉือยืนมือให้จับแต่อีกคนกลับมองผ่าน“นี่หากรังเกียจกันขนาดนี้ แม้แต่มือยังไม่ให้สัมผัสโดน เจ้าก็จะต
วังหลวง“หือ ซูบผอมไปที่เดียววันนี้ข้าให้เจายี่นางกำนัลคนเก่าที่เคยดูแลเจ้ากลับมาดูแลเจ้าอีกครั้ง”ต้าเหนิงก็แค่เหลือบตามมอง จะเป็นใครก็จะสำคัญอะไร เจายี่หอบห่อผ้าเข้ามาท่าทีกล้าๆกลัวๆ"พระสนม เจายี่กลับมาแล้ว"ภายใต้การกดดัน หลายวันที่ผ่านมาจะว่าเว้นระยะให้หายใจหรือะไรก็แล้วแต่แต่กัวกั๋วอ่องเต้ไม่ได้เหยียบเท้ามาที่นี่“เพคะ น้อมบัญชาฝ่าบาท”หัวใจหลุดลอยไปหาใครบางคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่“เจ้าควรจะเอาใจข้ามากกว่านี้ในเมื่อ ข้าไม่ประหารเจ้าอย่างที่พูดไว้แต่แรก”เดินมายหยุดตรงหน้าต้าเหนิงแลกกับการที่ต้าเหนิงยอมกลับมา จึงทำให้รู้ว่ากัวกั๋วที่ภายนอกมองเพียงผิวเผินก็แค่บุรุษมากรักคนหนึ่ง เหลาะแหละไม่ได้จริงใจอะไร แต่ภายในเขากลับเป็นคนที่น่ากลัวทีเดียว เป็นคนที่ตัดสินใจเด็ดขาดบอกว่าไม่ประหารก็คือไม่ประหาร บอกว่าไม่ตามฉินเกอหลงก็คือไม่ตาม แต่ใจจริงแล้ว คงรู้ว่าฉินเกอหลงบาดเจ็บปางตายหรืออาจเอาชีวิตไม่รอดเพราะพิษที่อาบไว้ในกระบี่เล่มนั้น พี่น้องก็คงไม่ต่างกันเพียงแต่แสดงออกต่างกัน“ช่างเถอะ อีกไม่นานเจ้าจะต้องยอมคุกเข่าต่อหน้าข้า ไม่อยากกดดันเจ้าในวันนี้แต่สักวันที่ข้าเหลือจะทน ข้าก็จะไม่ยอมนิ่งเฉ
วังหลวงซุยเอ่อร์นางกำนัลที่มีประเด็นกับต้าเหนิงนางสวมใสอาภรณ์งดงาม นั่งลงข้างล่างตรงกางหว่างขาของกัวกั๋วฮ่องเต้บีบนวดขาอ่อน ราวกับเป็นของที่ต้องลูบไล้ได้ทั้งวัน“อ่าาาา อ่าาาซุยเอ่อร์เจ้านี่ อย่างไรก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังข้าละชอบเจ้าจริงๆ”“เพคะ กลับมาครั้งนี้เป็นเพราะซุ่ยเออร์ทนคิดคิดฝ่าบาทมิได้ตั้งใจจากไปเพื่อรักษาชีวิต สนมเอ่อโหดร้ายที่สุดนางจ้างวานให้คนผู้หนึ่งนำซุ่ยเอ่อร์ไปฆ่าที่นอกวังหลวง แต่ด้วยซุ่ยเอ่อร์ยังมีความหวังว่าจะได้พบฝ่าบาทจึงหาทางต่อรองกับคนของนางและรอดมาได้”ความจริงนะหรือหาใช่การต่อรองแต่เป้นการยอมทอดกายให้คนผู้นั้นยั่วยวนจนมือสังหารอ่อนหัดนั่นใจอ่อนยอมหลันนกับซุ่ยเอ่อร์และซุ่ยเอ่อร์ก็สังหารคนผู้นั้นอย่างเลือดเย็นในตอนที่เขาหลับไหลไปเพราะอิ่มเอมรสสวาทจากซุ่ยเอ่อร์“หากข้าจะบอกเจ้าว่า อยู่กับข้าเป็นคนของข้าทำนทุกค่ำคืนแต่อย่า ได้ยุ่งเกี่ยวกับเอ่อต้าเหนิงเจ้าจะทำได้หรือไม่”รอยยิ้มหวานหยดแต่ในใจกลับ รุ้สึกขัดใจ“ซุ่ยเออ่ร์ถูสั่งฆ่าโดยสนมเอ่อ ฝ่าบาทให้ซุ่ยเอ่เลิกแล้วต่อกันคงเป็นไปไม่ได้”กัวกั๋วฮ่องเต้สะบัดตัวลุกขึ้นยืนชี้หน้าซุ่ยเอ่อร์ด้วยความโมโห ซุ่ยเอ่อร์รีบถอยออกมาคุก
“นางเป็นใคร เจ้ารู้จักนางไหม”เอียงคอถามเจายี่“นางคือนางกำนัลซุ่ยเอ่อร์ เจ้าค่ะ คนนี้แหละเจ้าค่ะที่ ๆๆสั่งให้ข้าวางยาพระสนม”ต้าเหนิงกำลังเบื่อๆเซ็งๆพอดี เงยหน้าขึ้นยิ้มมุมปาก“ใครเป็นพี่เจ้า เป็นนางกำนัลถือดีอย่างไรมานับญาติกับสนมเอกอย่างข้า”เจายี่ก้มหน้ายิ้มซุ่ยเอ่อร์ยิ้มมุมปาก“สนมเอ่อ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร เห็นข้านอบน้อมเจ้ายังไม่สำนึก ข้าไม่เกรงใจแล้วข้าน่ะนะแวะมาสมน้ำหน้าเจ้าอย่างไรเล่า ฝ่าบาทกักบริเวณเจ้าไม่ให้ใครเข้าออก ทำทีไม่พอใจข้าหรือ ข้าไม่สงวนท่าทีกับเจ้าแล้วนางมาร ใครอยากจะเรียกเจ้าว่าพี่หญิงกัน เป็นไปได้ข้าอยากจะจิกหัวเรียกเจ้าอย่างที่เจ้าเคยทำกับข้าด้วยซ้ำไป พวกเจ้าจับนางจิ้งจอกเอ่อต้าเหนิงไว้โอหังดีนักข้าจะสั่งสอนนางว่าตอนนี้ใครกันที่ควรจะนอบน้อมกับใคร” นางกำนัลร่างใหญ่ที่ซุ่ยเอ่อร์นางเลบือกมาเดินเข้ามาับตัวต้าเหนิงไว้เจายี่รีบเข้ามาขวางกลับกูกนางกำนัลร่างใหญ่สะบัดมือเข้าใส่ใบหน้าจนล้มกลิ้งไปกับพื้น“ยอมเสียดีดีข้าอยากจะลองจิกผมเจ้าลากเจ้าไปกับพื้นลองเอามีดเย็นเฉียบนาบที่แก้มของเจ้าและ อยากจะลองตบเจ้าดูสักครั้ง พวกเจ้าจับนางไว้”นางกำนัลร่างใหญ่เดินเข้ามาประชิดตัวต
ตำหนักพระพันปี“ไม่มีใครทำอะไรนางได้เลยหรือ”นางกำนัลข้างกายยืนก้มหน้าขันทีโจทย์เก่าของต้าเหนิงรีบชิงพูดขึ้นก่อน“เพฮะไทเฮา นางเก่งกาจยิ่งกลับมาคราวนี้ฝ่าบาททรงออกปากว่าห้ามใครแตะต้องนาง จึงได้เห็นฤทธิ์นางในแต่ละวันไม่มีแผ่วเลยเพฮะ”แต่นางกนัลข้างกายอยากจะบอกว่าสร้างเรื่องได้สะใจยิ่งเรื่องเล่าของต้าเหนิงดังไปทั่ววังหลวง นางกำนัลซุ่ยเอ่อร์คนนั้นพองขนจนน่าเกลียดป่านนี้ฝ่าบาทคงลงทัณฑ์ไปแล้วทั้งฝ่าฝืนบัญชาเข้าไปในตำหนักที่16และบังอาจทำให้สนมเอ่อหงุดหงิดหัวใจ“หรือสวรรค์จะกำหนดไว้แล้ว ฮ่องเต้ไม่ยอมทำให้นางเสียความมั่นใจโดยการข่มเหงนาง ทั้งยังตามใจนางยิ่งทำแบบนี้นางยิ่งได้ใจ ก่อนนั้นไม่ยอมถวายตัวมาถึงตอนนี้กลับถือไพ่เหนือกว่าฮ่องเต้ เพียงเพราะว่าฮ่องเต้ถือว่านางมีค่ามีราคากว่าสนมคนอื่น”ท่าทีหนักใจจนสังเกตุได้“ไม่มีทางทำอย่างไรเลยพรือเพฮะ” "จะต้องทำอะไรนางเพคะ"นางกำนัลข้างกายอดที่จะเข้าข้างต้าเหนิงเสียไม่ได้จะว่าไปก็ดีที่สนมเอ่อต้าเหนิงแข็งข้อแบบนี้ในวังหลวงมีการข่มเหงกันไม่เว้นแต่ละวัน สนมเอ่อต้าเหนิงอาจเป็นเพียงไม่กี่คนที่ไม่มีใครกล้าข่มเหงนาง“ข้าส่งสนมหวงสื่อหยินแต่ฝ่าบาทกลับประหารนาง
ห้องหนังสือบ้านลู่ ลู่สือห่าวนั่งบนเก้าอี้ จางเหมียน(อีกหหนึ่งคนในผู้นำสี่ตระกูลใหญ่นั่งเผชิญหน้ากัน“ข้าแค่รู้สึกไม่สู้ชอบใจกับสิ่งที่เฉินตงลี่ทำ การที่จะชิงบัลลังก์ เพื่อฝ่าบาทของเรา แต่เขากลับสร้างเงื่อนไขมากมายเพื่อให้ตัวเองได้ความได้เปรียบและอ้างความชอบธรรม คนบ้านเอ่อผิดอะไรจึงต้องทำร้ายนางแบบนั้น”“เฮ้อข้าเองก็ไม่ชอบ อดสงสารคุณหนูบ้านเอ่อ เอ่อต้าเหนิงเสียไม่ได้ที่ผ่านมานางพยายามด้วยตัวเองที่ไม่ต้องตกเป็นคนของกัวกั๋วฮ่องเต้ แค่เฉินตงลี่กลับส่งนางกลับคืนวังหลวง เพียงเพราะตั้งใจจะเบี่ยงเบนความสนใจของกัวกั๋วฮ่องเต้ข้าเองตอนนี้รู้สึกผิดกับนาง”“ข้าได้ยินว่า…กระซิบเบาๆราวกับว่ามีใครจะได้ยินทั้งที่อยุ่กันเพียงสองคน”ลู่สือห่าวขมวดคิ้ว“หากพลาดพลั้งไม่เท่ากับวางหัวนางบนแท่นประหารไปเสียแล้ว เฉินตงลี่ทำแบบนี้ก็ไม่ถูก ใช้นางเป็นเครื่องมือทำการใหญ่เพียงลำพังเช่นนั้นทำไมไม่ส่งลุกสาวไปเล่า ลูกสาวของเฉินตงลี่ก็งดงามเพียงนั้นกักตัวไว้ในบ้านไม่ให้พบปะผู้คนกลัวว่ากัวกั๋วฮ่องเต้จะเห็นนาง ข้าเข้าใจเจตนารมณ์เขาดีที่มาวันนี้จึงเพื่อบอกกับท่านว่าหากใครสักคนที่จะเหมาะสมกับฝ่าบาทของเราก็ควรเป็นคุณหนูบ้านเ
ฉินเกอหลง ก่อนหน้านั้นเมื่อพันปีก่อนยืนโปรยเถ้ากระดูกของต้าเหนิง“ฝ่าบาท ท่านหมอเยี่ยนฉือกับหานจงขอประทานอนุญาตออกเดินท่องยุทธภพ หวังว่าฝ่าบาทจะประทานอนุญาติในครั้งนี้”เชียวกงเล่อประสานมือตรงหน้า ความรู้สึกเหมือนบางอย่างแหว่งเว้าหายไป“ในที่สุดเราทุกคนก็ได้แค่เพียงเป็นเถ้าธุลี ปลิวหายไปพร้อมกับสายลม ข้าเองแม้จะอยากทำตามใจเพียงใดสุดท้ายข้าก็ได้แค่เพียงสะกดกลั้นความคิดนั้นไว้เสีย”“พ่ะย่ะค่ะท่านพ่อ..กงเล่อหมายถึงท่านปู่ของฮองเฮาเอ่อถูหวังซวน เสียใจที่ต้องสูญเสียคนของตระกูลเอ่อไปจนไม่เหลือใครแม้กงเล่อขอใช้แซ่ของตระกูลเอ่อแต่ท่านพ่อก็ยังเศร้าโศกเช่นเดิมกงเล่อเข้าใจดีว่าไม่อาจทดแทนกันได้”“จริงสินะในที่สุดตระกูลฉินก็ไม่อาจปกป้องตระกูลเอ่อไว้ได้ ข้าที่ทุ่มเทตั้งแต่วันแรกที่พบนางก็ยังไม่อาจช่วยเหลือนางได้ทันเช่นนั้นจึงเรียกว่าเป็นความผิดของข้า”“ไม่มีใครผิดพ่ะย่ะค่ะสวรรค์กำหนดไว้แล้วหากไม่มีฝ่าบาทบางที่ตระกูลเอ่ออาจไม่เหลือรอดตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกฆ่าล้างตระกูลฝ่าบาททำดีที่สุดแล้ว”“จริงสินะในครั้งแรกที่ข้าพยายามช่วยชีวิตเอ่อต้าเหนิงจากคนชั่ว และครั้งที่สองข้าที่พยายามช่วยชีวิตนางจากการสั่งกา
หนึ่งปีผ่านไป“โอ้ๆๆๆๆอย่าร้องนะคนดีมาให้พ่ออุ้มเร็ว”ฉินเกอหลงพูดไทยสำเนียงแปลกๆคุณหมอดนัย ส่ายหน้าไปมา“เมื่อไหร่จะพูดไทยแข้งแรงสักทีบอกให้สอนกันหน่อยก็ไม่เอาวันๆเอาแต่ผลิตลูกดูสินี่ก้ท้องอีกแล้วหัวปีท้ายปีเชียว”ต้าเหนิงยิ้มดวงตาเป็นประกาย“คุณแม่ฮับลูกชายหิวนมแล้วฮับ”เสียงออดอ้อนของฉินเกอหลง ทำเอาต้าเหนิงส่ายหน้า รับเอาร่างกระจ้อยมากอดแนบอก แกะกระดุมป้อนนมทารกในอ้อมแขนฉินเกอหลงดวงตาเป็นประกาย หมอดนัยวางยาที่จัดมาสำหรับแม่ลูกอ่อนลงตรงหน้าฉินเกอหลง“อิจแาต้าเหนิงจังมีสามีที่คอยดูแลทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นกับข้าวกับปลาเลี้ยงลูกเตือนให้กินยา ถ้ามีแบบนี้รักตายเลย บ้านช่องก็เลยไม่กลับมาคตอยดูแลภรรยาตั้งสองสามเดือนแล้วธุรกิจที่นั่น ไม่ต้องห่วงหรือ”ฉินเกอหลงยิ้มกำลังเรียบเรียงคำพูด“ผมจัดเตรียมทุกอย่างและประชุม ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ในมุกเช้าจึงไม่ต้องห่วงอะไรหากว่ามีอะไรขัดข้องก็จะเรียกประชุมทันที ทางนี้ผมเองไม่อาจวางใจ ต้าเหนิงเขาต้องมีผมคอยดูแล เขาลำบากอุ้มท้องลุกของผม เขาต้องอุ้มเด็กอีกคนไว้ในท้องฉะนั้นผมเลยคิดว่าไม่มีใครจะดูแลต้าเหนิงได้ดีเท่าผมและควรจะดูแลต้าเหนิงอย่างดี”หมอดนัยส่าย
“คุณไม่อยากลองขอฉันแต่งงานดูอีกสักทีหรือ”อมยิ้มฉินเกอหลงเลิกคิ้วสูง“อยากสิ ถ้าอย่างนั้น แต่งงานกับผมนะครับ”คุกเข่าลงกับพื้นที่ด้านล่างมีกลับดอกเมหยสีชมพูดร่วงเกลื่อนกราดต้าเหนิงยิ้มพยักหน้าขึ้นลง ฉินเกอหลงรวบร่างบางไว้แนบอกอีกครั้ง“ขอบคุณขอบคุณจริงๆ ที่ยอมแต่งกับผม”ยิ้มหว้างสดใสจนต้าเหนิงต้องยิ้มตาม““ความจริงแล้วเธอไม่ได้ติดค้างอะไรหรอกนะที่ตามหาเพราะต้องการชดเชยให้คุณอย่างไรเล่า ต้าเหนิง”ต้าเหนิงเลิกคิ้วสูง เมื่อฉินเกอหลงกระซิบข้างหูเบาๆ“คุณพูดอะไรนะ อย่าบอกนะว่าคุณ เพิ่งจะข้ามภพมา”ฉินเกอหลงเองก็เลิกคิ้วสูง“ข้ามภพหรือ แค่ความฝันหรือเปล่าสิ่งที่ผมฝันในทุกๆคืนนั่นก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในอ้อมแขนของผม เธอกำลังเจ็บปวดและทรมานผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมามีหยาดน้ำตาทุกครั้ง ตั้งแต่จำความได้ พอโตขึ้นมาสิ่งที่ผมตั้งใจทำมาตลอดคือตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ให้จิตกรมาวาดภาพเธอคนนั้นไว้ในห้องนอนเพื่อให้ได้เห็นหน้าเธอในทุกๆวัน คุณอยากเห็นรูปผู้หญิงคนนั้นไหม”ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลง“คุณอยากเห็นก็คงต้องไปส่องกระจกแล้วล่ะ เพราะรูปนั่นเหมือนคุณอย่างกับแกะ”ดึงมือต้าเหนิงให้เดินเคียงข้างกันไป“คุณฝันถึ
ฉินเกอหลงจอดรถลงข้างทางที่ประดับด้วยไฟหลากสีใต้ต้น ดอกเหมยสีชมพูเบ่งบาน ผู้คนเดินจูงมือคู่รัก“คุณชอบดอกเหมยหรือ”ต้าเหนิงถามเบาๆ“ชอบ อยากให้ต้าเหนิงได้เหนมันไงเล่ากว่าจะผ่านไปแต่ละปีจะต้องทนนับวันนับเดือนที่ดอกเหมยบานและร่วงโรยครั้งแล้วครั้งเล่าลำพังเดียวดายตราบนานเท่านาน”ต้าเหนิงก้มมองมือในอุ้งมืออุ่นของฉินเกอหลง ยอมให้เขากุมมือไว้ราวกับคู่รักแต่ไม่ยอมฟังคำพูดเศร้าๆของเขา“ฮ่าาาพามาแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย ไอ้เรารึคิดไปไกลเยว่าจะพาไป…ทำมิดีมิร้าย”ฉินเกอหลงส่ายหน้าไปมา“วางใจเถอะไม่เอาไปขายหรอก”“หือ ไม่ขายแต่ฆ่าหั่นศพและแย่เชียวฮ่าๆๆๆๆ”ยังตลกได้อีกฉินเกิอหลงหันมาทำสีหน้าจริงจังต้าเหนิงขนลุกเกรียวหรือว่า หรือว่า“จูบได้ไหม”“หา จะจูบเลยหรือ”“ก็ต้องจูบสิคนที่เขาลองคบกันก็ต้องลองหลายๆอย่างว่าเขากันได้ไหม”“อย่าทำแบบนี้นะมาถึงก็จูบเลยหรือจะไม่เอาเปรียบกันไปหน่อยหรือ”ฉินเกอหลงรวบร่างบางมากอดไว้แนบกายจมูกโด่งสูดดมเรือนผมที่หอมละมุนเนิ่นนาน“เจ้าเข้าสู่โหมดโรแมนติกแล้วนะ คิดถึงจังสบายดีไหม”ทอดเสียงอ่อนโยนจนต้าเหนิงตัวเย็น มือที่ยกขึ้นกอดรอบเอวของฉินเกอหลงอย่างกล้าๆกลัวๆก็เย็นเฉียบ“คือๆๆๆค
ต้าเหนิงยิ้มพยักหน้าหงึกหงักกำลังช่างใจว่ากัวกั๋วก็คือกํวกํ๋วหรือว่ากัวกํ่วคนนี้ไม่ใช่กัวกั๋ว“ขอบคุณ แต่จะว่าไปฉันไม่ได้หลงตัวเองนะแต่คุณสองคนกำลังแย่งฉันใช่ไหม”ฉินเกอหลงอมยิ้มกัวกั๋วงง“มีคนแบบนี้ด้วยหรือ คนที่คิดว่าคนอื่นกำลังแย่งคุณผู้หญิงไท่กัวเป็นแบบนี้ทุกคนไหมนะ”ฉินเกอหลงเปยเบาๆต้าเหนิงอมยิ้ม ความคนึงหาทีข้ามผ่านมาปีหนึ่งสิ้นสุดลง“เอาล่ะที่นี้ เราสองคนมาตกลงกันดีกว่าไหมพี่ใหญ่ว่าใครจะจีบก่อนจีบที่หลังไอ้ผมอะนะเริ่มชอบผู้หญิงไท่กัวคนนี้แล้ว”กัวกั๋วพูดขึ้นพร้อมกับใช้ตะเกียบในมือคีบอาหารในจานวางตรงถ้วยข้าวตรงหน้าต้าเหนิง ฉินเกอหลงที่เห็นก็รีบคีบของกินที่คิดว่าต้าเหนิงจะชอบวางลงบนถ้วยข้าวของต้าเหนิงบ้างไฉหรานอมยิ้ม“ต้าเหนิงของเราฮอตน่าดู”หันไปพูดกับเฉินซือกวาน“ก็นะบอกแล้วไงว่าฉันอะนะกำลังโดนแย่งจากคนสองคน”อมยิ้ม“ใครบอก กัวกั๋วนายนะมาทีหลังหลบไปเถอะไม่มีการแย่งชิงอะไรทั้งนั้น”ฉินเกอหลงทรุดกายลงกับพื้นคุกเข่าตรงหน้าพร้อมกับหยิบกล่องกำมยี่สีแดงออกมาจากกระเป๋าเปิดกล่องกำมยี่สีแดงออกแสงแวววาวจากเพชรเม้ดมะหึมาคงราวๆห้ากะรัตสุกสกาวต้องแสงไฟ ต้าเหนิงเลิกคิ้วสูง“แต่งานกบผมนะครับคุณต
“ใครจะบังอาจเล่าค่ะ ต้าเหนิงเองเขาก็ไม่ใช่คนที่พูดมากหรือชอบนินทาใครต้าเหนิงเขาเป็นคนเรียบร้อยน่ารักที่สุด”ไฉหรานเชียร์เต็มที่ ต้าเหนิงยิ้มจื่อนๆ เรียบร้อยอย่างกับผ้าพับไว้ในโรงรับจำนำเถอะ“เรียบ จริงหรือครับ”“อืมมม เรียบร้อยครับคุณฉินไม่ใช่เรียบเฉยๆ” เฉินซือกวานรีบพูดแทรกขึ้นกลัวว่าต้าเหนิงจะรู้สึกไม่ดี เปล่าต้าเหนิง ที่รีบก้มมองหน้าอกของตัวเองมันก็ไม่ได้ราบแบนเสียหน่อยบริกรนำอาหารมาเสริ์ฟบนโต๊ะ ฉินเกอหลงผายมือ“มีที่พักหรือยังครับอี้ตวนของเรามีที่พักมากมายในเครือให้คุณ …ได้เลือกพัก”ต้าเหนิงเลิกคิ้วอมยิ้มแก้มป่องจากฝ่าบาทมากลายเป็นนักขายอย่างไรกัน“ต้าเหนิงเขาพักกับเราค่ะคุณฉินไม่ต้องห่วงเขามาที่นี่แค่5วันตั้งใจพาเที่ยว อย่างที่ต้าเหนิงอยากจะไปเรื่องที่พักก็เลยไม่ใช่ปัญหาที่บ้านของเราก็มีห้องวางอยู่หลายห้อง”ฉินเกอหลงพยักหน้าขึ้นลง บริกรเดินถือช่อดอกกุหลาบสีแดงนับพันดอกมุ่งตรงมาที่ ต้าเหนิงโค้งคำนับอย่างนอบน้อม“ต้าเหนิงรับเอาดอกกุหลาบช่อโตหยิบการ์ดที่สอดไว้ด้านหน้าขึ้นมาอ่าน”ฉินเกอหลงขมวดคิ้ว“ของใคร”ไฉหรานชะโงกมองเพราะความสงสัยแล้วหันไปสบตากับเฉินซือกวาน“เอ่อ คุณฉินกัวกั๋วครับ
ภัตตาคารหรูริมน้ำมองเห็นแสงสีสว่างไสวไปทั่งสะพานที่ทอดข้ามผ่านแม่น้ำสายใหญ่งดามท่ามกลางผู้คน ต้าเหนิงกับไฉหรานมาถึงแล้ว เฉินซือกวานรีบ เปิดประตูรถให้ทั้งสองคนลงมาจากรถด้วยท่าทีราวกับนักันไว้นั่นคือให้ช้าๆเข้าไว้ก็ต้าเหนิงไม่อยากพบเจ้าคนรวยอ้วนพุงพุ้ยและกินจุคนนั้นตั้งใจ ปิดภัตตาคารเพื่อจะได้กินอิ่มๆคนเดียวไม่ได้เพื่อให้ต้าเหนิงนั่งสบายหรือเปย์ต้าเหนิงหรอก“คุณครับ คุณฉินเชิญคุณทั้งสามบนชั้นสองขอรับ”บริกรก้มศรีษะนอบน้อม ต้าเหนิงเงยหน้ามองขึ้นไปบนชั้นสองที่สว่างไสวเห็นเพียงใครบางคนที่นั่งนระเบียงภัตตาคารหรู ต้าเหนิงเบ้ปากเข้าใจเลือกมุมให้มองเห็นพวกต้าเหนิงก่อนแหมร้ายจริง“คุณผู้หญิงครับนี่คือของขวัญต้อนรับสำหรับการยินยอมมารับประทานอาหารกับ...คุณฉิน”“คุณฉิน ฉินอะไร”ต้าเหนิงรับเอากล่องน้ำหอมระดับโลกไว้ในมือไฉหรานยิ้มสดใสดีใจยิ่งกว่าต้าเหนิงเสียอีก“เห็นไหมต้าเหนิงเขาจริงใจแค่ไหน”กระซิบต้าเหนิงเบาๆต้าเหนิงส่ายหน้าไปมาเดินตามไฉหรานที่ดึงมือให้เดินตามเฉินซือกวานขึ้นไปข้างบนชั้นสองพอ้าเหนิงยืนอยู่ชั้นบนเสียงดนตรีก็ดังขึ้นนักดนตรีบรรเลงเพลงหนึ่งทำนองคุ้นหูเหลือเกินต้าเหนิงหยุดนิ่งอยู่กับท
“ทำไมต้องเป็นที่นั่น”อ่านชื่อภัตตาคารหรูริมแม่น้ำที่อาหารอร่อยมากตามรีวิวแต่ราคาแพงหูฉี่“หืออาหารอร่อยมากและที่สำคัญ…”ไฉหรานยิ้มดวงตาพร่างพราว"ฉันว่ามันมากไปฉันอยากกินของอร่อยๆก็จริงแต่ ก็ยังไม่อยากหมดตัวฮ่าาาา"ต้าเหนิงพูดไปยิ้มไปไฉหรานเองก็ยิ้ม"ฉันไม่สิคุณเฉินสามีฉันเขาบอกจะเลี้ยงเธอในฐานะที่เราไม่ได้ชวนเธอมางานแต่งของเราเขารู้ว่าฉันกับต้าเหนิงสนิทกันแค่ไหนก็แค่อยากจะเลี้ยงต้อนรับเธอสักครั้ง""มันหลายตังค์นะฉันเกรงใจ"ไฉหรานยิ้มอีกแล้ว"ไม่ต้องเกรงใจน่าเราตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องต้อนรับเธอให้ดีที่สุดให้เธอประทับใจที่สุดจนอยากจะอยู่ที่นี่เลยดีไหม""ไม่ใช่ล่ะ มันแปลกๆ ฉันว่ามันมีกลิ่นนะ เอาความจริงมาพูดกันเราสองคนคบกันมาตั้งปีหนึ่งฉันไว้ใจเธอมากเลยนะไฉหรานว่าเธอจะไว้ใจได้ และไม่โกหกฉัน"ไฉหรานยิ้มเจื่อนๆนั่งลงข้างๆต้าเหนิงเลื่อนแก้วกาแฟตรงหน้าต้าเหนิงอย่างเอาใจ“คุณเฉินเขานัดใครบางคนดูตัวเพื่อนสาวของเราต้าเหนิงซึ่งเขาก็แค่อยากจะกินข้าวแล้วก็ดูตัวต้าเหนิงไปด้วย คนคนนี้อะนะหล่อที่สุดนิสัยดีที่สุด และเอาใจเก่งที่สุด ที่สำคัญเป็นทายาทโดยตรงที่กำลังจะนั่งตำแหน่งท่านประทานของอี้ตวนในขณะนี้สาว
“แม่จ๋าหนูอยากจะไปเมืองจีน คุณแม่คนสวยใจดีที่สุดในโลกอนุญาตให้ลูกสาวตัวน้อยๆคนนี้ได้ไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจได้ไหม”คุณปทุมยิ้มแกล้งมองไปทางอื่นเสีย“น่านะคุณแม่ขา ต้าเหนิงอยากจะไปจริงๆบรรพบุรุษเราเป็นคนจีนพ้นทะเลๆไม่ใช่หรือแล้วนี่ไม่ให้ต้าเหนิงไปพอต้าเหนิงตายไปจะกล้ามองหน้าบรรพชนได้อย่างไร”แอบเอาประโยคยอดนิยมในซีรีย์จีนมาพูดกับคุณปทุม“จะไปทำไม”“หนูอยาก…เป็นกำแพงเมืองจีนอยากไปพระราชวังต้องห้ามอยากจะเที่ยวจางเจี่ยเจีย”“มีเงินแล้วหรืถึงอยากจะไปพอให้แต่งกับผู้ชายจีนที่เป็นญาติห่างๆกันก็ไม่เอา ทีแบบนี้แล้วอยากจะไปไปคนเดียวมันอันตรายนะ แม่ไม่อนุญาต”“หนูไปแค่ไม่กี่วัน คุณแม่ไม่ต้องห่วงน่าแล้วตอนนี้ที่นั่นก็มีไฉหราน”“ไฉหรานอะไรของแกนั่นไว้ใจเขาได้หรือไม่เคยเห็นตัวเป็นๆเขาสักหน่อยก็ไว้ใจเขา แม่ละท้อใจกับการไว้ใจคนและเข้ากับคนได้ง่ายๆอย่างหนูจังเลยแบบนี้ยิ่งจะทำให้คนชั่วมาตีสนิท”“ไฉหรานเขาไม่หลอกหนูหรอกค่ะเราพูดคุยแลกเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างจนสนิทกันแล้วระยะเวลาเกือบปีมานี้หนูคิดว่าหนูดูเขาดีพอแล้วค่ะ”คุณปทุมถอนหายใจ“แล้วที่หลับที่นอน โรงแรมที่พัก เล่าจัดเตรียมไว้แล้วหรือ”“เรียบร้อยแล้วค่ะตั