วังหลวงซุยเอ่อร์นางกำนัลที่มีประเด็นกับต้าเหนิงนางสวมใสอาภรณ์งดงาม นั่งลงข้างล่างตรงกางหว่างขาของกัวกั๋วฮ่องเต้บีบนวดขาอ่อน ราวกับเป็นของที่ต้องลูบไล้ได้ทั้งวัน“อ่าาาา อ่าาาซุยเอ่อร์เจ้านี่ อย่างไรก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังข้าละชอบเจ้าจริงๆ”“เพคะ กลับมาครั้งนี้เป็นเพราะซุ่ยเออร์ทนคิดคิดฝ่าบาทมิได้ตั้งใจจากไปเพื่อรักษาชีวิต สนมเอ่อโหดร้ายที่สุดนางจ้างวานให้คนผู้หนึ่งนำซุ่ยเอ่อร์ไปฆ่าที่นอกวังหลวง แต่ด้วยซุ่ยเอ่อร์ยังมีความหวังว่าจะได้พบฝ่าบาทจึงหาทางต่อรองกับคนของนางและรอดมาได้”ความจริงนะหรือหาใช่การต่อรองแต่เป้นการยอมทอดกายให้คนผู้นั้นยั่วยวนจนมือสังหารอ่อนหัดนั่นใจอ่อนยอมหลันนกับซุ่ยเอ่อร์และซุ่ยเอ่อร์ก็สังหารคนผู้นั้นอย่างเลือดเย็นในตอนที่เขาหลับไหลไปเพราะอิ่มเอมรสสวาทจากซุ่ยเอ่อร์“หากข้าจะบอกเจ้าว่า อยู่กับข้าเป็นคนของข้าทำนทุกค่ำคืนแต่อย่า ได้ยุ่งเกี่ยวกับเอ่อต้าเหนิงเจ้าจะทำได้หรือไม่”รอยยิ้มหวานหยดแต่ในใจกลับ รุ้สึกขัดใจ“ซุ่ยเออ่ร์ถูสั่งฆ่าโดยสนมเอ่อ ฝ่าบาทให้ซุ่ยเอ่เลิกแล้วต่อกันคงเป็นไปไม่ได้”กัวกั๋วฮ่องเต้สะบัดตัวลุกขึ้นยืนชี้หน้าซุ่ยเอ่อร์ด้วยความโมโห ซุ่ยเอ่อร์รีบถอยออกมาคุก
“นางเป็นใคร เจ้ารู้จักนางไหม”เอียงคอถามเจายี่“นางคือนางกำนัลซุ่ยเอ่อร์ เจ้าค่ะ คนนี้แหละเจ้าค่ะที่ ๆๆสั่งให้ข้าวางยาพระสนม”ต้าเหนิงกำลังเบื่อๆเซ็งๆพอดี เงยหน้าขึ้นยิ้มมุมปาก“ใครเป็นพี่เจ้า เป็นนางกำนัลถือดีอย่างไรมานับญาติกับสนมเอกอย่างข้า”เจายี่ก้มหน้ายิ้มซุ่ยเอ่อร์ยิ้มมุมปาก“สนมเอ่อ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร เห็นข้านอบน้อมเจ้ายังไม่สำนึก ข้าไม่เกรงใจแล้วข้าน่ะนะแวะมาสมน้ำหน้าเจ้าอย่างไรเล่า ฝ่าบาทกักบริเวณเจ้าไม่ให้ใครเข้าออก ทำทีไม่พอใจข้าหรือ ข้าไม่สงวนท่าทีกับเจ้าแล้วนางมาร ใครอยากจะเรียกเจ้าว่าพี่หญิงกัน เป็นไปได้ข้าอยากจะจิกหัวเรียกเจ้าอย่างที่เจ้าเคยทำกับข้าด้วยซ้ำไป พวกเจ้าจับนางจิ้งจอกเอ่อต้าเหนิงไว้โอหังดีนักข้าจะสั่งสอนนางว่าตอนนี้ใครกันที่ควรจะนอบน้อมกับใคร” นางกำนัลร่างใหญ่ที่ซุ่ยเอ่อร์นางเลบือกมาเดินเข้ามาับตัวต้าเหนิงไว้เจายี่รีบเข้ามาขวางกลับกูกนางกำนัลร่างใหญ่สะบัดมือเข้าใส่ใบหน้าจนล้มกลิ้งไปกับพื้น“ยอมเสียดีดีข้าอยากจะลองจิกผมเจ้าลากเจ้าไปกับพื้นลองเอามีดเย็นเฉียบนาบที่แก้มของเจ้าและ อยากจะลองตบเจ้าดูสักครั้ง พวกเจ้าจับนางไว้”นางกำนัลร่างใหญ่เดินเข้ามาประชิดตัวต
ตำหนักพระพันปี“ไม่มีใครทำอะไรนางได้เลยหรือ”นางกำนัลข้างกายยืนก้มหน้าขันทีโจทย์เก่าของต้าเหนิงรีบชิงพูดขึ้นก่อน“เพฮะไทเฮา นางเก่งกาจยิ่งกลับมาคราวนี้ฝ่าบาททรงออกปากว่าห้ามใครแตะต้องนาง จึงได้เห็นฤทธิ์นางในแต่ละวันไม่มีแผ่วเลยเพฮะ”แต่นางกนัลข้างกายอยากจะบอกว่าสร้างเรื่องได้สะใจยิ่งเรื่องเล่าของต้าเหนิงดังไปทั่ววังหลวง นางกำนัลซุ่ยเอ่อร์คนนั้นพองขนจนน่าเกลียดป่านนี้ฝ่าบาทคงลงทัณฑ์ไปแล้วทั้งฝ่าฝืนบัญชาเข้าไปในตำหนักที่16และบังอาจทำให้สนมเอ่อหงุดหงิดหัวใจ“หรือสวรรค์จะกำหนดไว้แล้ว ฮ่องเต้ไม่ยอมทำให้นางเสียความมั่นใจโดยการข่มเหงนาง ทั้งยังตามใจนางยิ่งทำแบบนี้นางยิ่งได้ใจ ก่อนนั้นไม่ยอมถวายตัวมาถึงตอนนี้กลับถือไพ่เหนือกว่าฮ่องเต้ เพียงเพราะว่าฮ่องเต้ถือว่านางมีค่ามีราคากว่าสนมคนอื่น”ท่าทีหนักใจจนสังเกตุได้“ไม่มีทางทำอย่างไรเลยพรือเพฮะ” "จะต้องทำอะไรนางเพคะ"นางกำนัลข้างกายอดที่จะเข้าข้างต้าเหนิงเสียไม่ได้จะว่าไปก็ดีที่สนมเอ่อต้าเหนิงแข็งข้อแบบนี้ในวังหลวงมีการข่มเหงกันไม่เว้นแต่ละวัน สนมเอ่อต้าเหนิงอาจเป็นเพียงไม่กี่คนที่ไม่มีใครกล้าข่มเหงนาง“ข้าส่งสนมหวงสื่อหยินแต่ฝ่าบาทกลับประหารนาง
ห้องหนังสือบ้านลู่ ลู่สือห่าวนั่งบนเก้าอี้ จางเหมียน(อีกหหนึ่งคนในผู้นำสี่ตระกูลใหญ่นั่งเผชิญหน้ากัน“ข้าแค่รู้สึกไม่สู้ชอบใจกับสิ่งที่เฉินตงลี่ทำ การที่จะชิงบัลลังก์ เพื่อฝ่าบาทของเรา แต่เขากลับสร้างเงื่อนไขมากมายเพื่อให้ตัวเองได้ความได้เปรียบและอ้างความชอบธรรม คนบ้านเอ่อผิดอะไรจึงต้องทำร้ายนางแบบนั้น”“เฮ้อข้าเองก็ไม่ชอบ อดสงสารคุณหนูบ้านเอ่อ เอ่อต้าเหนิงเสียไม่ได้ที่ผ่านมานางพยายามด้วยตัวเองที่ไม่ต้องตกเป็นคนของกัวกั๋วฮ่องเต้ แค่เฉินตงลี่กลับส่งนางกลับคืนวังหลวง เพียงเพราะตั้งใจจะเบี่ยงเบนความสนใจของกัวกั๋วฮ่องเต้ข้าเองตอนนี้รู้สึกผิดกับนาง”“ข้าได้ยินว่า…กระซิบเบาๆราวกับว่ามีใครจะได้ยินทั้งที่อยุ่กันเพียงสองคน”ลู่สือห่าวขมวดคิ้ว“หากพลาดพลั้งไม่เท่ากับวางหัวนางบนแท่นประหารไปเสียแล้ว เฉินตงลี่ทำแบบนี้ก็ไม่ถูก ใช้นางเป็นเครื่องมือทำการใหญ่เพียงลำพังเช่นนั้นทำไมไม่ส่งลุกสาวไปเล่า ลูกสาวของเฉินตงลี่ก็งดงามเพียงนั้นกักตัวไว้ในบ้านไม่ให้พบปะผู้คนกลัวว่ากัวกั๋วฮ่องเต้จะเห็นนาง ข้าเข้าใจเจตนารมณ์เขาดีที่มาวันนี้จึงเพื่อบอกกับท่านว่าหากใครสักคนที่จะเหมาะสมกับฝ่าบาทของเราก็ควรเป็นคุณหนูบ้านเ
ตำหนัก16“หืออออ ดีใจจังท่านหมอก็มา”หมอเทวดาเยี่ยนฉือยิ้มบางๆกับท่าทีดีใจของต้าเหนิอดสงสารต้าเหนิงเสียไม่ได้“นางอยู่ด้วย ข้าไม่พูดกับเจ้า”หลบตามองพื้น“ธรรมดาเจ้าค่ะเจายี่ เคยทำไม่ดีมาก่อนข้าน้อยเจายี่ขอตัวก่อน”ย่อกายแล้วเดินจากไป ต้าเหนิงยิ้มตาหยี“ท่านหมอมาได้อย่างไร”“ข้าทีแรกตั้งใจจะเดินมาแต่มันไกลเหลือเกินก้เลยอาศัยเกี้ยวของบ้านลู่ที่ที่ผ่านมาประสบเข้าพอดี”ต้าเหนิงยิ้มเจื่อนๆกวนทีนละ555“หายเศร้ายังได้ยังเจอมุกนี้555”ต้าเหนิงยิ้มเศร้าๆ ก็หายนิดๆแหละ“ท่านหมออย่าพูดแบบนี้ต้าเหนิงจะร้องไห้”พูดไปพร้อมกับก้มหน้าเยี่ยนฉือตบที่หน้าอกพร้อมอ้าแขนกว้างต้าเหนิงเหลือบตามองรู้สึกเหมือนเด็กที่กำลังร้องไห้โยเยแล้วได้รับคำปลอบใจจากคนสูงวัยกว่าความห่วงใยอบอุ่นเหลือเกิน“มาซบอกข้าสิ อยากร้องมาซบอกข้าร้องไห้ได้ฟรีๆข้าไม่หวง”ต้าเหนิงน้ำตาปริ่มขอบตา ยิ้มทั้งที่น้ำตากำลังจะไหล“ถ้าจะเศร้าแบบนี้แล้วจะเข้ามาทำไม ทนอยู่ที่นั่นหรือหนีไปที่อื่นเสีย หรือไม่ก็บอกหวางเย่ไปสิว่าเจ้าถูกใต้เท้าเฉินกดดันให้เข้ามาที่นี่”ต้าเหนิงส่ายหน้าไปมา คำพูดมันจุกอยู่ที่อก “ไม่ต้องโทษคนอื่นหรอกน่า ข้าอยากเข้ามาเองไม่อยาก
บ้านเฉิน“เตรียมการพร้อมแล้วหรือยัง”ขอรับทัพของเราจากเผยจ่าย กำลังฝึกฝนใกล้จะได้เวลาแล้ว”ลู่ซือห่าวพูดตามความจริงกำลังคนยังขาดประสบการณ์ทางที่ดีต้องฝึกฝนให้มาก“ข้าร้อนใจยิ่งนักฝ่าบาทมีพระบัญชาให้พาอี้เหมยเข้าไปในวังหลวง ข้าแต่เดิมไม่เคยให้อี้เหมยเข้าวังหรืออกหน้าเพราะเกรงว่าวันนี้จะมาถึง”ลู่สือห่าวกระแอมเบาๆ จางเหมียนก้มหน้าซ่อนยิ้มเสียทีเรื่องของตัวเองแล้วเป็นเดือดเป็นร้อน แต่เรื่องของคนอื่นกลับนิ่งเฉย ใครบ้างไม่รักลูกตระกูลเอ่อก็คงรักต้าเหนิงและนางก้คงรักตัวเองไม่ยอมตกเป้นของกัวกั๋ว อยากจะรู้ว่าเฉินตงลี่จะแก้ไขสถานการณ์ลเวร้ายที่กำลังจะเกิดกับบุตตรีที่รักได้อย่างไร“ฝ่าบาทยามนี้มีพระสนมเอ่ออยู่แล้วทั้งคนก็ยังต้องการหญิงอื่นใดอีกหรือ เช่นนั้นแผนการของเราก็คงจะล่มในเมื่อกัวกั๋วฮ่องเต้ยังโหยหาหญิงอื่นเช่นนี้ ท่านเฉินท่านจะหลีกเลี่ยงอย่างไร”ลี่ฟานฟานนิ่วหน้า“จะทำเช่นไรได้บัญชาของกัวกั๋วใครกล้าขัดยิ่งข้ากับพวกท่านก็เป็นคนที่ฝ่าบาทเพ็งเล็ง หากแสดงว่าไม่ยินดีไม่พ้นหัวจะหลุดจากบ่า”เฉินตงลี่เหมือนจะกังวลใจจริงๆ“ เห็นว่า บุตตรีท่านสนิทชิดเชื้อกับหวางเย่ ท่านไม่รวมเอาบุตตรีไว้ในแผนการหรือไ
“ท่านหมอ พระสนมเอ่อให้ตามท่านที่ตำหนักที่16”หมอหลวงรีบรนรานหิ้วหลวมยากระซิบกับเจายี่เบาๆ“สนมเอ่อเป็นที่โปรดปรานเพียงนี้ ข้าควรจะเรียกเงินทองสักเท่าไหร่ดี”เจายี่ยิ้มเจื่อนๆ“ ท่านก็ลองบอกพระสนมเถอะเรื่องนี้ข้า….ขอไม่ยุ่ง”เดินนำทันทีหมอหลวงส่ายหน้าไปมาเบ้ปาก“ชินางอ้วนเจายี่ เดี๋ยวไปเดี๋ยวกลับ เจ้าคงได้เงินทองมากมายสิท่าจึงกันท่าข้า” เดินตามเจายี่ไปอย่างเร่งรีบไม่ได้อืดอาดเหมือนตอนที่ต้าเหนิงกำลังจะตายในตอนนั้น วันนั้นหมอหลวงคนเดียวกันนี้ยังหวานเย็นไม่รู้สี่รู้แปดอะไรทำทีเหมือว่า ไม่ใช่ธุระของตัวเองสนมเอ่อจะตายหรือจะอยู่ก็ไม่เกี่ยวกับเขาตำหนัก16ต้าเหนิงนั่งไขว้ห้าง โบกพัดในมือไปมา ข้างข้างกันนั้นมีองครักษ์ของตำหนักสิบหกสี่ห้าคนยืนอารักขาอยู่ เจายี่ตกใจไม่น้อยคิดไม่ออกว่าต้าเหนิงเรียกองรักษ์พวกนี้มาตอนไหน และมาทำอะไรอย่าบอกนะว่าเอามาเก็บศพหมอหลวง“มาแล้วรึ”น้ำเสียงเรียบเฉยเย้นชาแต่ แฝงไว้ด้วยความตื่นเต้นตื่นเต้นที่จะได้ล้างแค้น“ฮ่าาาข้าน้อยงี้รีบมาเลยขอรับพระสนมเจ็บป่วยตรงไหน ข้าน้อยจะตรวจดูอาการให้อย่างดี”ปากก็พูดมือก็ล้วงเข้าไปในหลวมยาเพื่อคนหาอุปกรณ์ต่างๆในการตรวจอาการป่วยของต้าเ
บ้านเฉิน“เจ้าควรไปบอกหวางเย่เรื่องนี้เรื่องที่พระสนมอยู่แบบหวาดระแวง”หานจงพูดเบาๆราวกระซิบกับท่านหมอเยี่ยนฉือ“หวางเย่ไม่รู้ว่าข้าเข้าไปในวังหลวง ข้าฝืนบัญชาหวางเย่เรื่องนี้และถ้าร้ว่าข้าเขาไปแล้วไม่ได้รู้สึกอะไรไม่ได้ตื่นเต้นอะไรหรือคิดถึงสนมเอ่อต้าเหนิงเหมือนที่นางคิดถึงหวางเย่ เป็นข้าเองที่รู้สึกไม่ดี”“ข้าเชื่อในตัวหวางซือว่าจะไม่มีทางทำแบบนั้น หวางเย่กับสนมเอ่อมากกว่าคนเคียงข้างหวางเย่ของข้าทั้งห่วงใยและคอยปกป้องสนมเอ่อ”“นั่นอาจเป้นเพราบัญชาของไท่ซางหวงหรือเปล่าจึงจำต้องดูแลและปกป้อง”“กล้าพนันกับข้าไหมว่าฝ่าบาทมีใจให้กับสนมเอ่อ”เยี่ยนฉือยื่นมาหน้ามาใกล้ๆ“เดิมพันคืออะไร”“เงินเก็บทั้งชีวิตสามในสิบส่วนของข้า”หานจงพูดแบบไม่ต้องคิด“ไม่ได้ใจดำเพียงนั้นหากเจ้าแพ้พนันขอแค่ยอมตาใจข้าสามวัน ไม่ว่าข้าต้องการอะไรเจ้าจะต้องยินยอมหรือเรียกว่าเป็นทาสข้า สามวันเท่านั้น แบะหากข้าแพ้พนันก็เช่นเดียวกันข้ายินดีเป็นทาสเจ้าสามวันเช่นกัน”“ได้ ข้าหานจงไม่คยก้ลวสิ่งใด มะไปด้วยกันไปบอกหวางเย่ว่า พระสนมฝากความคิดถึงมาถึงหวางเย่”คว้ามือเยี่ยนฉืออย่างลืมตัวอีกคนก้มมองมือที่หานจงกำไว้แน่นด้วยความรู้สึก
“ส่งข่าวบอกกับเสด็จย่า ข้ายังไม่สะดวกที่จะกลับไปแสวงบุญที่วิหารเทียมฟ้าอยู่อย่างนี้ก็ดีแล้วเวลานี้ไม่เหมาะสมที่จะโยกย้าย” หานจงถอนหายใจยาว หันหลังก้าวเดิน เสียงลูกดอกแหวกอากาศมาแต่ไกลพุ่งเข้าใส่ฉินเกอหลงที่นั่งนั่งทว่าฉินเกอหลงกลับใช้ประคำในมือตวัดเข้าใส่ดอกให้ตกลงข้างกายหานจงพุ่งตัวตามต้นตอของลูกดอก บุรษที่สวมอาภรณ์พรางตัว พุ่งตัววิ่งลัดเลาะบนกำแพงหนีออกจากวัดไปง่ายดาย“ไม่ต้องตาม”“หวางเย่ แย่แล้วใครกันที่คิดทำร้ายหวางเย่ได้อีกก็ในเมื่อร่างข้อตกลงว่าจะไม่ ทำร้ายและสังหารหวางเย่แล้วนอกจากนั้นหวางเย่ยังมีใครที่คิดจะทำร้ายอีก”ฉินเกอหลง ขมวดคิ้วดกดำ“นั่นสินะ ข้าไร้สามารถที่จะบอกว่าใครเป็นคนที่คิดจะจัดการกับข้า”“หวางเย่ ควรจะคิดเสียใหม่เถิด ใครจะปล่อยให้ศัตรูยังมีชีวิตอยู่เป็นหอกข้างแคร่ไปวันๆ”“นั่นสินะข้าเองที่เข้าใจผิดไปเองว่ายอมถอยแล้วกัวกั๋วฮ่องเต้จะปล่อยข้าไป” หมู่บ้านซูตง“เรีบบร้อยหรือไม่”“ขอรับท่านจ้าวบ้านข้าน้อยแค่ทำให้ฉินเกอหลงรู้ว่ามีคนปองร้าย”“ดีมากจัดการ ต่อไปได้เรื่อยๆ จนกว่าเขาจะยอมเดินทางกลับวังหลวง” เอ่อถูหวังซวนยิ้มมุมปาก“อีกไม่นานอีกไม่นานเท่านั้นฉินเกอหลงจะต้อง
บ้านเฉิน“นางกำนัลที่ชื่อเจายี่”“เจ้าค่ะคุณหนูรอง พูดคุยกับนางแล้วเจ้าค่ะ นางยินดีรับเงินที่คุณหนูรองมอบให้นางและนางยินดีทำตามคำสั่งของคุณหนูรองเจ้าค่ะ”“ดีมากมอบยาให้นางหรือยัง”“เจ้าค่ะ ข้าน้อยสงสัยเจ้าค่ะยานั่นไม่ทำให้ตายทำไมคุณหนูไม่ให้ยาที่ทำให้ตายได้เลยเจ้าคะจะยื้อเวลาไปทำไมกัน พระสนมเอ่อตายได้ก็สาวมาไม่ถึงคุณหนูรองอยู่ดี เพราะท่านเฉินเป็นถึงผู้นำสี่ตระกูลใหญ่”“ข้าตั้งใจให้นางค่อยๆ ป่วยและตายไปในที่สุดกว่าทุกอย่างจะพร้อมให้นางอยู่ในฐานะสนมให้สบายพอท่านอ๋องกลับมานางก็จากไปพอดีช่างน่าสมเพชยิ่งนัก” สาวใช้นิ่งงันคิดไม่ถึงว่าเฉินอี้เหมยจะมีความคิดที่ร้ายกาจเช่นนี้“ส่งยาเข้าไปเรื่อยๆ คงอีกสักพักว่านางจะล้มป่วย”ตำหนักสิบหก“เครื่องเสวยที่ฝ่าบาทประทานมาให้กับพระสนมเอ่อเป็นเครื่องเสวยที่ได้วัตถุดิบจากโพ้นทะเล อีกอย่างอาหารทะเลพวกนี้หายากยิ่งแล้วกว่าจะส่งมาต้องใช้กล่องไม้ที่สั่งทำเป็นพิเศษใส่น้ำทะเลลงไปให้สัตว์น้ำที่ต้องการ นำมาถวายเป้นเครื่องบรรณาการกับฝ่าบาทได้อาศัยและยังต้องให้อาหารเลี้ยงดุจนพวกมันอ้วนท้วนส่งมาถึงนี่เพื่อปรุงเครื่องเสวยที่สดใหม่” ขันทีตัวเค่อเดินยกปูม้าตัวใหญ่สองสาม
“ไม่มีจริงๆ แล้วสินะ ต้าเหนิง ลูกแม่แกเสียใจไหม” คุณปทุมถาม ต้าเหนิงน้ำเสียงเศร้าๆ“ไม่นี่แม่ ไม่ได้รู้สึกอะไรโล่งใจด้วยซ้ำ”“ต้าอย่าทำเป็นฝืนใจเลยต้า แม่ขอโทษ ที่ทำให้..หนูอายคนอื่นเขา”“ไม่ใช่แม่สักหน่อย เป็นคนพวกนั้นต่างหากที่ตั้งใจมาหลอกเราจะว่าไปได้ที่ดินตั้งเกือบร้อยไร่เพื่อต่อทุนทำไมพวกเขาไม่ยอมมาแต่งนะ” ตั้งข้อสังเกตคุณปทุมถอนหายใจยาว“ป๊าส่งคนตามกวนหยงแล้ว แต่จนป่านนี้ยังไม่ได้ข่าว”“ช่างเถอะค่ะใครสนกันไม่แต่งก็ไม่แต่งก็แค่ดูตัวไปเรื่อยๆ จะยากอะไร”คุณปทุมยิ้มเศร้าๆ“แม่กับป๊าไม่น่าบังคับต้าเลย” ต้าเหนิงกอดรอบเอวอวบของคุณปทุม“อย่าคิดมากน่าคุณนายปทุมใครเขาโทษป๊ากับแม่เล่า ดีจะตายไม่ได้แต่งไม่งั้นคืนนี้ไม่ได้หลับได้นอน” คุณปทุมขำกับความทะลึ่งของต้าเหนิง“ดีสิแบบนั้นแม่จะได้มีหลานเร็วๆ”“ไม่อย่างนั้นสิคะ ที่ไม่ได้นอนเพราะเอาแต่คิดรายรับรายจ่ายจนหัวหมุนกว่าจะขาดทุน” คุณปทุมอมยิ้ม“ป๊าแกก็เสียใจป่านนี้คงโทรไปต่อว่าคนพวกนั้น ดึกขนาดนี้ใครจะรับโทรศัพท์ ต้าไปนอนได้แล้วลูกเกือบจะตีหนึ่งแล้ว” ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลงอย่างว่าง่ายเดินขึ้นไปชั้นบนห้องนอนของต้าเหนิงที่ถูกจัดเป็นห้องหอผ่าน
วันนี้ต้าเหนิงถูกคุณปทุมคุมตัวมานั่งที่ห้องด้านล่างเพื่อใช้สำหรับแต่งตัว ไมไ่ด้จัดงานที่โรงแรมอย่างที่ควรจะเป็นเพียงจัดที่บ้านหลังใหญ่ราคาหลายสิบหลานที่ป๊าของต้าเหนิงเป็นคนสร้างมันขึ้นเองกับมือไม่มีแขกมีแค่ญาติผู้ใหญที่มาคอยดูความสำเร้จของลูกหลาน ตามธรรมเนียมไทยแท้“วาสนาจริงๆ นะคะเนี๊ยะ ดูสิสินสอดตั้ง100ล้านทำบุญด้วยอะไรคะเนี๊ยะ” หนึ่งในญาติผู้ใหญ่ที่แม่บอกต้าเหนิงแต่ความจริงแล้วก้แค่เพื่อนสมัยปฐมของแม่ที่ยังแวะเวียนกินข้าวเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกัน ตั้งประเด็นให้คนอื่นพลอยชื่นชมสิ่งที่ต้าเหนิงและคุณปทุมกำลังจะได้รับ“มีลูกสาวสวยก้บแบนี้แหละค่ะ ว่าแต่หนูต้านี่26แล้วใช่ไหมคะทำไมหน้าเด็กๆ แล้วยังสวยกว่าดาราบางคนอีก” เพื่อนอีกคนที่มักจะชอบพูดไปในด้านดีเสียหมดพูดขึ้นบ้างคุณปทุมยิ้มจะได้โอกาสคุยโม้ก็วันนี้แหละ“ยัยต้านะเหรอคะโอ๊ย เขาก็หน้าเด็กแบบนี้แหละค่ะ แต่สมองอะนะเกินตัวคิดอะไรนี่อย่างกับคอมพิวเตอร์ มียัยต้าคนเดียวสบายแปดอย่างนี่เขาเหมือนพ่อเขานะ เดินทางสายอสังหาเหมือนกันเดือนๆ หนึ่งยัยต้าขายบ้านได้เป็นสิบๆ หลังได้เงินมาก็คงไปแต่งสวยเขาแหละแม่กับพ่อไม่เคยขอสักบาทแต่จะว่าไปของแทร่ทั้งนั้น
“ต้องแต่งแล้วหรือคะ ตายแล้วต้ายังไม่ได้บอกเพื่อนๆ เลยเรื่องนี้ ไวไปไหมคะ”จะมีกี่คนกันศัตรูจะมากมากกว่าสินะฮ่าาาาคุณปทุมส่ายหน้าระอาใจ“สมัยนี้เขาก็แต่งกันสายฟ้าแลบแบบนี้แหละ ใครๆเขาก็ทำกัน”“เขาแน่ใจหรือคะ ว่าเขาอยากจะแต่งหนูหน้าก็ยังไม่เคยเป็นกันสักครั้ง” นัดสองครั้งต้าเหนิงก็แกล้งไปไม่ตรง เวลาจนผู้ชายคนนั้นไม่รอใครจะรอเล่าไปสายสองชั่วโมงแต่มาบอกกับคุณปทุมว่า เป็นฝ่ายชายที่ไม่มาให้ต้าเหนิงรอเก้อถึงอย่างนั้นแม่กับพ่อก็ยังไปตกลงให้ต้าเหนิงแต่งกับเขาอีก“อย่างไงก็ต้องแต่ป๊าแกตกลงกับ พ่อกับแม่เขาไว้แล้ว”“แม่ ผู้ชายคนนั้นไม่มาดูตัวต้าเลยนะแม่คิดว่าเขารักลูกแม่จริงหรือ….” คุณ ปทุมถอนหายใจ“ป๊าแกอะ ตอนนี้ยังอยู่กับก๊วนเพื่อนตีกอล์ฟอยู่เมืองจีน เขาบอกว่าผู้ชายเขาเตรียมขันหมากมาแล้วเราแค่จัดสถานที่ไว้รอ เขาไปกินข้าวกับพ่อกับแม่ของผู้ชายตกลงกันแล้วเรียบร้อย ต้าก็แค่ยอมแต่งไปเขามีกิจการใหญ่โต กำลังขยายกิจการมาลงทุนในไทย แล้วต้าอะนะปีนี้26แล้วอยู่นานไปไม่ดีนะคนจีนเขาว่ายิ่งแต่งไวยิ่งสบายไปข้างหน้า แม่จ้างออแกไนท์ไว้แล้วเราแค่จัดสถานที่พรุ่งนี้ขันหมากก็มา”ต้าเหนิงขมวดคิ้วทำมต้องเป็นฝ่ายหญิงที
ภัตตาคารแห่งหนึ่งต้าเหนิงหอบกระเป๋าวิ่งเข้าไปข้างในเลยเวลานัดอีกแล้วจูหรานนั่งอยู่อีกมุมหนึ่งคอยมองผู้หญิงที่ใส่เดสสีขาวสะอาดนั่นก็คือต้าเหนิง“สวยไม่เบา” พูดขึ้นเบาๆกวนหยงหลุบตามองโต๊ะอาหาร สวยสิสวยจนเขาตกตะลึงสวยกว่าจูหรานไม่น้อยเขานิยมผู้หญิงสวยหวานเวลานอนร่วมเตียงยามที่กำลังนัวเนียกัน จะหวานขนาดไหน แต่พูดไปเสียอีกทาง“นัดบ่ายสี่โมง มาหกโมงเย็น ใครจะรอ”“คุณอย่างไรเล่า คุณสือกวนหยงที่นั่งรออยู่ที่นี่แต่ไม่ไปพบ”“การนัดหมายของเราสองคนสิ้นสุดแล้วเขาไม่มาตอนสี่โมงก้เท่ากับไม่มาถ้าผมแสดงตัวว่ารอเขาตั้งสองชั่วโมงเขาก็จะหัวเราะเยาะหาว่าผมอยากแต่งกับเขาจนตัวสั่นสินะ”จูหรานยิ้มบางๆ“ผู้หญิงคนนี้เขาจะสำนึกไหมว่าตัวเองมาสายเลยทำให้ไม่เจอคุณ คุณไม่ออกไปพบเขาหน่อยหรือ”“ความจริงผมก็อยากจะพบเขานะแต่ จะลองนัดไปดูอีกครั้งว่าจะมาสายอีกไหม” จูหรานอมยิ้ม“สวยไหม”“ไม่เท่าไหร่” ลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปชะโงกแต่รีบหันหลังไม่ให้ต้าเหนิงเห็นเพราะต้าเหนิงที่เดินจ้ำกลับมาทางเดิมพร้อมกับคุยโทรศัพท์กับคุณปทุม“ไม่เจอค่ะคุณแม่คนอะไรให้ต้ามารอตั้งนานต้าไม่รอแล้วนะคะกลับบ้านดีกว่าค่ะเสียเวลา” กวนหยงยิ้มมุมปาก
“เป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจจริงๆ เลยครับ”“ผมเคยไปดูตัวมาแล้วผู้หญิงคนนี้เหมาะที่จะเป็นโสดจนตาย” หนุ่มคนหนึ่งพูดนินทาให้หนุ่มคนหนึ่งฟังเรื่องต้าเหนิง“เราพบผู้หญิงคนเดียวกันใช่ไหม”“นั่นใช่นางเลยแหละต้าเหนิงคนนั้นคนที่ ปากจัดเหลี่ยมเยอะ” ต้าเหนิงที่นั่งหันหลังอยู่อีกฝั่งของชายหนุ่มทั้งสองยิ้มมุมปากคุณปทุมส่ายหน้าไปมา“แย่จริง พรุ่งนี้แม่นักคนดูตัวให้อีกคนจากประเทศจีนอีกแล้ว”“ใครคะ”“ญาติห่างๆๆๆๆ กับเรา เขามีธุรกิจเป็นของตัวเองหล่อรวยและโปรไฟล์ดี”“ก็แบบนี้ทุกคน แต่คนนี้ไม่เชิงว่าดูตัวแม่กับพ่อลงความเห็นกันแล้วเราแค่อยากให้พวกลุกได้พบกันความจริงเราทาบทามและหาฤกษ์ดีไว้แล้ว”ต้าเหนิงเลิกคิ้ว ใช้ตะเกียบในมือพันเส้นหมี่ฮกเกี้ยนในจาน“มัดมือชกเลยหรือ”“กินข้าวกันสองสามครั้งแล้วแต่งเลยพรุ่งพบกันที่ร้านเดิมที่แม่เคยนัดหนุ่มๆ ไว้ให้ต้านั่นแหละลูก” ต้าเหนิงถอนหายใจเฉิงตู“ยังโสดครับท่าน ชื่อว่าคุณต้าเหนิงโสดสนิท มีคนมาดูตัวแต่ก็ไม่เคยตกลงกับใคร” ฉินเกอหลงพยักหน้าขึ้นลง “หาทางพามาที่นี่ได้หรือยัง” หานจงถอนหายใจ (หานจงก็มา) “ยังไม่รู้ว่าจะเอาแบบไหนเลยครับผมไม่รู้จะจัดการอย่างไร ถ้าเป็นที่นี่ใครๆ
ต้าเหนิง เดินทอดน่องอยู่บนสถานีรถไฟฟ้า“กริ้งๆๆๆๆ” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นรีบเอาแนบหู“สวัสดีค่ะ” ปลายสายพูดเบาๆ“ใครคะรู้จักเราด้วยหรือคะ”“ไม่รู้จักแค่จะโทรมาด่า อินังสารเลวอิชั่วแย่งผัวชาวบ้านอิหน้าด้าน อิ กระ…” ต้าเหนิงสตั้นแป็บ“นี่มาได้กันแบบนี้เลยหรือฉันไปทำอะไรให้คุณ”“ผัวฉันพูดถึงเธอทุกวัน คอยดูนะแม่จะบุกไปตบให้” ต้าเหนิงถอนหายใจ“ฉันแค่ขายบ้านผัวเธอชื่ออะไรฉันจะได้ไม่ต้องขายบ้านให้เคสนี้ขอผ่าน” เสียงปลายสายบ่นงึมงำ“คุณ กำธร” ต้าเหนิงถอนหายใจยาว“ขอบคุณ รอรับผลกรรมได้เลย” วางสายพร้อมกับยิ้มหยันยี่สิบนาทีต่อมา“เห็นไหมฉันอยู่กับใคร” ต้าเหนิงนอนบนเตียงด้วยชุดนอนบางเบา แกว่งเนกไทในมือไปมาวีดีโอคอลให้สาวคู่กรณีเมื่อครู่ได้เห็น“แกๆๆ นางต้าเหนิงแกเอาผัวฉันไปกกหรือ”“ฮะๆๆๆ ฮ่า ฉันไม่ได้กกเขา แต่เขากกฉันจริงไหมคะคุณกำธร อย่าลืมโอนเงินค่ามักจำบ้านด้วยนะคะเพิ่มอีก6แสน สำหรับเรื่องบนเตียงในวันนี้ของเรา ฮ่าาาา” หันไปทางด้านหลังทำหน้าเหยเกเหมือนกำลังกำลังโดนกระทุ้งด้วยอะไรบางอย่างอยู่ที่บั้นท้าย ปลายสายหน้าถอดสี“กรี๊ดดดดดดดฉันจะฆ่าแก แกนังต้าเหนิงฉันจะฆ่าแก” ต้าเหนิงกดวางสาย ยิ้มมุมปากเ
วิหารเทียมฟ้า“ไทฮองไทเฮาเพคะ มีคนผู้หนึ่งอยากจะไทฮองไทเฮาเพคะ”ร่างท้วมหยุดชะงักเงยหน้าขึ้นมองรูปสลักองค์พระประติมาที่แกะสลักจากหยกขาวสูงตระหง่านในวิหารเทียมฟ้า“เชิญเขาเข้ามาได้” ร่างสูงสวมหมวกปิดบังใบหน้า หนวดสีเทายาวลงมาที่กลางอกเดินเข้ามายืนตรงหน้าไทฮองไทเฮาที่หน้าถอดสี“ท่านผู้นี้ ท่านยังไม่ตายหรอกหรือ” เอ่อถูหวังชวนเงยหน้าขึ้นยิ้มน้อยๆ“ซีโหยว ท่านยังความทรงจำเกี่ยวกับข้าอีกหรือ”“ความทรงจำมากมายด้วยเรื่องของเราสามคน” ไทฮองไทเฮาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นน้อยๆ“ฮะฮะฮ่าาาา ข้ามาดีไม่ได้มาทวงความแค้นอะไรกับท่านหรอกแค่อยากจะบอกเรื่องที่เคยตกลงกันไว้”“เรื่องคนของตระกูลเอ่ออย่างนั้นหรือ ไท่ซางหวงพยายามตลอดมาที่จะให้คนในตระกูลเอ่ออยู่สบายแต่พอสิ้นไท่ซางหวง” ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปถึงจะบอกว่าพยายามก็ไม่อาจบังคับกะเกณฑ์ใครได้ ตอนนี้จึงได้ภาวนาให้นางรอดพ้นวิกฤติ” หมายถึงอะไรยังมีเหลือคนของตระกูลเอ่ออยู่อีกหรือไร”“ท่านไม่ได้มาเพราะเรื่องนี้หรือ ข้าไม่อาจห้ามปรามนางได้นางเข้าวังไปอาศัยบารมีของไทเฮา นางช่างเดียงสานักไม่รู้หรือไรว่ากำลังขี่หลังเสืออยู่ เดิมข้าคิดแค่เพียงว่านางเข้าไปเพื่อพบ…ฉินเกอห