บ้านเฉิน“เตรียมการพร้อมแล้วหรือยัง”ขอรับทัพของเราจากเผยจ่าย กำลังฝึกฝนใกล้จะได้เวลาแล้ว”ลู่ซือห่าวพูดตามความจริงกำลังคนยังขาดประสบการณ์ทางที่ดีต้องฝึกฝนให้มาก“ข้าร้อนใจยิ่งนักฝ่าบาทมีพระบัญชาให้พาอี้เหมยเข้าไปในวังหลวง ข้าแต่เดิมไม่เคยให้อี้เหมยเข้าวังหรืออกหน้าเพราะเกรงว่าวันนี้จะมาถึง”ลู่สือห่าวกระแอมเบาๆ จางเหมียนก้มหน้าซ่อนยิ้มเสียทีเรื่องของตัวเองแล้วเป็นเดือดเป็นร้อน แต่เรื่องของคนอื่นกลับนิ่งเฉย ใครบ้างไม่รักลูกตระกูลเอ่อก็คงรักต้าเหนิงและนางก้คงรักตัวเองไม่ยอมตกเป้นของกัวกั๋ว อยากจะรู้ว่าเฉินตงลี่จะแก้ไขสถานการณ์ลเวร้ายที่กำลังจะเกิดกับบุตตรีที่รักได้อย่างไร“ฝ่าบาทยามนี้มีพระสนมเอ่ออยู่แล้วทั้งคนก็ยังต้องการหญิงอื่นใดอีกหรือ เช่นนั้นแผนการของเราก็คงจะล่มในเมื่อกัวกั๋วฮ่องเต้ยังโหยหาหญิงอื่นเช่นนี้ ท่านเฉินท่านจะหลีกเลี่ยงอย่างไร”ลี่ฟานฟานนิ่วหน้า“จะทำเช่นไรได้บัญชาของกัวกั๋วใครกล้าขัดยิ่งข้ากับพวกท่านก็เป็นคนที่ฝ่าบาทเพ็งเล็ง หากแสดงว่าไม่ยินดีไม่พ้นหัวจะหลุดจากบ่า”เฉินตงลี่เหมือนจะกังวลใจจริงๆ“ เห็นว่า บุตตรีท่านสนิทชิดเชื้อกับหวางเย่ ท่านไม่รวมเอาบุตตรีไว้ในแผนการหรือไ
“ท่านหมอ พระสนมเอ่อให้ตามท่านที่ตำหนักที่16”หมอหลวงรีบรนรานหิ้วหลวมยากระซิบกับเจายี่เบาๆ“สนมเอ่อเป็นที่โปรดปรานเพียงนี้ ข้าควรจะเรียกเงินทองสักเท่าไหร่ดี”เจายี่ยิ้มเจื่อนๆ“ ท่านก็ลองบอกพระสนมเถอะเรื่องนี้ข้า….ขอไม่ยุ่ง”เดินนำทันทีหมอหลวงส่ายหน้าไปมาเบ้ปาก“ชินางอ้วนเจายี่ เดี๋ยวไปเดี๋ยวกลับ เจ้าคงได้เงินทองมากมายสิท่าจึงกันท่าข้า” เดินตามเจายี่ไปอย่างเร่งรีบไม่ได้อืดอาดเหมือนตอนที่ต้าเหนิงกำลังจะตายในตอนนั้น วันนั้นหมอหลวงคนเดียวกันนี้ยังหวานเย็นไม่รู้สี่รู้แปดอะไรทำทีเหมือว่า ไม่ใช่ธุระของตัวเองสนมเอ่อจะตายหรือจะอยู่ก็ไม่เกี่ยวกับเขาตำหนัก16ต้าเหนิงนั่งไขว้ห้าง โบกพัดในมือไปมา ข้างข้างกันนั้นมีองครักษ์ของตำหนักสิบหกสี่ห้าคนยืนอารักขาอยู่ เจายี่ตกใจไม่น้อยคิดไม่ออกว่าต้าเหนิงเรียกองรักษ์พวกนี้มาตอนไหน และมาทำอะไรอย่าบอกนะว่าเอามาเก็บศพหมอหลวง“มาแล้วรึ”น้ำเสียงเรียบเฉยเย้นชาแต่ แฝงไว้ด้วยความตื่นเต้นตื่นเต้นที่จะได้ล้างแค้น“ฮ่าาาข้าน้อยงี้รีบมาเลยขอรับพระสนมเจ็บป่วยตรงไหน ข้าน้อยจะตรวจดูอาการให้อย่างดี”ปากก็พูดมือก็ล้วงเข้าไปในหลวมยาเพื่อคนหาอุปกรณ์ต่างๆในการตรวจอาการป่วยของต้าเ
บ้านเฉิน“เจ้าควรไปบอกหวางเย่เรื่องนี้เรื่องที่พระสนมอยู่แบบหวาดระแวง”หานจงพูดเบาๆราวกระซิบกับท่านหมอเยี่ยนฉือ“หวางเย่ไม่รู้ว่าข้าเข้าไปในวังหลวง ข้าฝืนบัญชาหวางเย่เรื่องนี้และถ้าร้ว่าข้าเขาไปแล้วไม่ได้รู้สึกอะไรไม่ได้ตื่นเต้นอะไรหรือคิดถึงสนมเอ่อต้าเหนิงเหมือนที่นางคิดถึงหวางเย่ เป็นข้าเองที่รู้สึกไม่ดี”“ข้าเชื่อในตัวหวางซือว่าจะไม่มีทางทำแบบนั้น หวางเย่กับสนมเอ่อมากกว่าคนเคียงข้างหวางเย่ของข้าทั้งห่วงใยและคอยปกป้องสนมเอ่อ”“นั่นอาจเป้นเพราบัญชาของไท่ซางหวงหรือเปล่าจึงจำต้องดูแลและปกป้อง”“กล้าพนันกับข้าไหมว่าฝ่าบาทมีใจให้กับสนมเอ่อ”เยี่ยนฉือยื่นมาหน้ามาใกล้ๆ“เดิมพันคืออะไร”“เงินเก็บทั้งชีวิตสามในสิบส่วนของข้า”หานจงพูดแบบไม่ต้องคิด“ไม่ได้ใจดำเพียงนั้นหากเจ้าแพ้พนันขอแค่ยอมตาใจข้าสามวัน ไม่ว่าข้าต้องการอะไรเจ้าจะต้องยินยอมหรือเรียกว่าเป็นทาสข้า สามวันเท่านั้น แบะหากข้าแพ้พนันก็เช่นเดียวกันข้ายินดีเป็นทาสเจ้าสามวันเช่นกัน”“ได้ ข้าหานจงไม่คยก้ลวสิ่งใด มะไปด้วยกันไปบอกหวางเย่ว่า พระสนมฝากความคิดถึงมาถึงหวางเย่”คว้ามือเยี่ยนฉืออย่างลืมตัวอีกคนก้มมองมือที่หานจงกำไว้แน่นด้วยความรู้สึก
“พอเถอะยิ่งพูดเหมือนข้ายิ่งเลวอย่างไงไม่รู้ ไปเดินเล่นกัน ที่ตำหนักม่านฟ้าดีกว่า”เอ่ยปากชวนยิ้มๆแต่ในใจรู้ดีว่ากำลังเริ่มแผนการตามขั้นตามตอนที่ตกลงกันไว้ใต้เท้าเฉินเจายี่ยิ้ม“เพคะ ฝ่าบาทเสด็จที่นั่น เห็นว่ากำลังสร้างตำหนักใหม่ให้กับสนมคนใหม่”ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลง “สนมคนใหม่มิน่าล่ะคงดีใจเหมือนได้แก้วกำลังจะได้สนมคนใหม่เร็วๆนี้ ว่าแต่ใครคือสนมคนใหม่แล้วทำไมข้าไม่เคยเห็นหน้านาง”อดสงสัยไม่ได้“สนมคนใหม่หรือเจ้าค่ะ ได้ยินขันทีข้างกายฝ่าบาท ที่ปากไม่มีหูรูดคนนั้น พูดว่าเป็นคุณหนูรองจากบ้าน..เฉิน”ต้าเหนิงขมวดคิ้ว“จะจะจริงหรือ แล้วนางยอมเข้ามาหรือไรยอมถวายตัวหรือไร”“โอ๊ย เจ้าค่ะใครๆเขาก็ยอมกันทั้งนั้นไม่มีใครเหมือนพระสนมหรอกเจ้าค่ะ”“นี่เจ้าบังอาจว่าข้าหรือ”“จริงๆเจ้าค่ะใครๆเขาก็อยากจะเป็นที่โปรดปราน”“เช่นนั้นเจ้ามาเนรมิตข้าที่ให้เป็นที่โปรดปรานบ้างเถอะ”เจ้ายี่ยิ้ม“พระสนมก็งดงามอยู่แล้วเจ้าค่ะ ฝ่าบาทชอบสีชมพูก็ต้องสวมใส่อาภรณ์สีชมพูเจ้าค่ะ”ต้าเหนิงคิดถึงใครบางคนที่ชอบสีอะไรก้ไม่รู้ รู้แต่ว่าต้าเหนิงเข้าใกล้ที่ไรเหมือนผื่นจะขึ้นป่านนี้ยังนับปะคำอยู่ไหมนะบ้านเฉิน ฉินเกอหลงนับปะคำในท
วังหลวงตำหนักม่านฟ้ากัวกั๋วฮ่องเต้นั่งจิบชาที่ริมศาลาไม้ยามบ่าย แรงงานยังคงลงมือสร้างตำหนักใหม่เพื่อสนมคนใหม่ของกัวกั๋ว ใครบ้างจะมีเวลามาสนใจสิ่งรอบข้างยกเว้นกั่วกั๋วฮ่องเต้ร่างบางของต้าเหนิงยืนหันหลังชื่นชมดอกเหมยอยู่ห่างออกไปจากศาลาทำเหมือนว่าไม่เห็นว่ากัวกั๋วอยู่ตรงนั้นพอดีกับที่สายผมพัดผ่านกัวกั๋วฮ่องเต้ หันไปตรงที่ต้าเหนิงยืนอยู่พอเหมาะพอเจาะกัวกั๋วฮ่องเต้อ้าปากค้าง ราวกับโลกกำลังหยุดหมุน“นางคือใคร”กัวกั๋วฮ่องเต้หยุดนิ่งเมื่อต้าเหนิงยืนอยู่ใต้ต้นดอกเหมยสีแดงงดงาม ระรานตาอาภรณ์สีชมพูหวานมวยผมถูกเกล้ารวบเรียบตึง ปล่อยปอยผมระข้างแก้มใสริมฝีปากสีชมพูใส สวยจนคนมองแทบหยุดหายใจ“สนมเอ่ออย่างนั้นหรือนางคือสนมเอ่อนั่นเอง”แววตาระยับด้วยความรู้สึกตื่นเต้นกับภาพงดงามตรงหน้า นางตั้งใจจัดฉากต่อหน้าเขาให้งดงามแหละไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผมหรือแม้แต่การยืนใต้ต้นดอกเหมย นั่นนางก็จงใจให้งดงามและเป็นสีที่เขาชอบ“เพฮะนั่นคือสนมเอ่อ”ขันทีข้างกายประสานมือสอพลอ ไม่เคยเอ่ยคำขัดใจสักครั้ง“นางตั้งใจมายั่วยวนข้าเพราะเห็นว่าข้ากำลังจะรับสนมคนใหม่เข้ามาท่านว่าอย่างนั้นไหมกงกง”ขันทีชรายิ้มประสานมือก้มศ
มาแล้วพ่ะย่ะค่ะ ยาที่พระสนมต้องการนี่คือสุดยอดยาปลุกกำนัดที่ได้ผลดีที่สุด”ต้าเหนิงพยักหน้ายิ้มๆ“รู้ได้อย่างไรเคยลองหรือ”ย้อนถามหมอหลวงกับคำอวดอ้างสรรพคุณ“เอ่อ อย่าบอกใครนะพ่ะย่ะค่ะข้าน้อยเคยลองมาแล้ว ทั้งคือพ่ะย่ะค่ะยานี่ได้ผลดีที่สุดรับรอง ฝ่าบาทจะต้อง โปรดปรานพระสนมเกินใคร”ต้าเหนิงยิ้มบางๆ“ดีมากซื่อสัตย์ยุติธรรมแบบนี้สิถึงเรียกว่าหมอหลวงที่จริงใจ เอ้านี่คือส่วนของท่าน หากได้ผลดีข้าจะจัดสรรเพิ่มเติมให้”วางกระสอบเงินลงตรงหน้า หมอหลวงตาโตเงินทั้งกระสอบ“ไปได้แล้วจำไว้อย่าบอกใครเชียว หากบอกใครไปคราวหลังพวกเหล่าสนมทั้งหลายก็จะถือเอาแบบเดียวกับข้าเพื่อผูกใจฝ่าบาท”“ข้าน้อยน้อมรับคำสั่งพระสนม”ยิ้มอย่างพออกพอใจแล้วหอบกระสอบเงินเดินออกจากตำหนักที่16 ด้วยสีหน้าสมหวังที่สุดเจายี่ถอนหายใจ หนักใจและไม่เข้าใจในเวลาเดียวกันว่าทำไมต้าเหนิงต้องทำอะไรขนาดนี้ด้วยค่ำแล้ว กัวกั๋วฮ่องเต้สาวเท้าอย่างรวดเร็วใบหน้าแย้มแยิ้มขันทีชราข้างกายเร่งฝีเท้าตามไปติดๆใจไปถึงที่ตำหนักสิบหกเสียนานแล้วอยู่ๆก็หยุดชะงักกึก“ข้า ดูดีหรือยังกงกง”ขันทีรีบเดินวนรอบตัวของกัวกั่วฮ่องเต้ องครักษ์ที่ยืนประจำการรีบก้มหน้ามอง
“หวางเย่อย่าทำแบบนั้นพ่ะย่ะค่ะ”องครักษ์อีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ รีบเตือนสติ“ไปยืนตรงนู้นคอยดูต้นทาง”ฉินเกอหลงสั่งเบาๆองครักษ์นายนั้นรีบเดินไปยืน พิงกำแพงคกหลวงห่างออกไป“ข้าจะพาเจ้าหนี”กระซิบเบาๆ“อย่าทำแบบนี้ ไม่ให้ทำแบบนี้ท่านอ๋องกลับไปเสียต้าเหนิงทำทุกอย่างเพื่อท่านเพื่อที่ว่า เหมยเขียวม้าไม้ไผ่ของท่านกับคุณหนูรองบ้านเฉินจะได้ไม่ต้องคลาดจากกัน”“เจ้ากำลังน้อยใจและเข้าใจผิดเอาชีวิตมาเสี่ยง”“ข้าทำแบบนี้ส่งสัญญาณให้ใต้เท้าเฉินนำกำลังคนเข้ามาชิงบัลลังก์เพื่อท่านอ๋อง”“เจ้าคิดโง่ๆเจ้าคิดว่าเจ้าพอสำหรับมีค่าใต้เท้าเฉินหรือไรมีค่าสพอให้เขาร้อนรนเพราะเจ้าจะถูกประหารหรือ”“ใต้เท้าเฉินสัญญากับต้าเหนิงแบบนั้น”“นี่เจ้ายังไม่เข้ามใจอีกหรือที่เขาวางแผนไว้เพราะใช่เจ้าเป็นเหยี่อและข้าเป็นปลา เขาตั้งใจให้ความเป็นความตายของเจ้าส่งผลให้ข้ามาชิงตัวเจ้าไป”“ต้าเหนิงรับยาพิษชนิดเบามาจากใต้เท้าเฉินสับเปลี่ยนกับยาปลุกกำหนัดของหมอหลวง ตั้งใจแก้แค้นหมอหลวงคนนั้นให้ถูกกัวกั๋วฮ่องเต้ประหารโดยโยนความผิดว่าต้าเหนิงไม่รู้เรื่องยานั้นยานั่นำด้มาจากหมอหลวงที่คิดฆ่าเต้าเหนิงเพราะต้าเหนิงเพิ่งจะฟาดปากหมอหลวงตัวร้ายนั่
ตระกูลเฉิน หานจงวิ่งรนรานมาที่ห้องพักของเยี่ยนฉือ “เยี่ยนฉือ แย่แล้วท่านหมอแย่แล้วตื่นเร็วเข้า”“ทำไม เกิดอะไรขึ้น"สีหน้าตื่นตกใจ"หวางเย่ไม่ได้อยู่ในห้อง”หานจงละล่ำละลักเยี่ยนฉือผุดลุกจกแท่นนอนสะดุดขาตัเองหานจงอ้าปากค้างเมื่อร่างสูงของเยี่ยนฉือล้มทับหานจงเข้าเต็มเปาแต่นั่นไม่เลวร้ายเท่ากับริมฝีปากอุ่นประกบเข้ากับริมฝีปากของหานจงต่างคนต่างนิ่งงัน เนิ่นนาน เยียนฉือบดริมฝีปากกับปากสีแดงสดของหานจงเบาๆหานจงยกมือขึ้นดันอกกว้างของอีกคนทันที"ปลฃ่อยนะ"เยี่ยนฉือกับพลิกร่างเล็กไว้ใต้ร่างของเขาไม่ยอมปล่อยนึกโมโหที่อีกคนออกคำสั่งเสียงเข้มทั้งที่เขาอาวุโสกว่าเจ้าเด็กนี่อีก“อะ ปะปล่อยข้านะ เจ้าวายร้าย” เยียนฉือชี้มือข้าหาตัวเอง สีหน้างงงันจะมากไปแล้วกล้าว่าเขาเลยหรือเห็นจะต้องสั่งสอนกันบ้างก้มลงอีกครั้งแต่ไม่ทันระวังตัวหานจงอาศัยทีเผลอพลิกตัว หลุดออกจากการทาบทับ"เจ้าวายร้ายเยี่ยนฉือคนจ้าเล่ห์นี่กำลังหน้าสิ่วน้าขวาน เจ้าจอมวายร้าย"ยังย้ำคำเดิม"ข้าหรือเจ้าวายร้ายผิดแล้วมันก็แค่อุบัติเหตุ ข้าไม่ได้ตั้งใจด้วยซ้ำ”หานจงขมวดคิ้ว เบ้ปาก“อุบัติเหตุน่ะมันตอนที่ล้มหลังจากนั้นสมองของหมอเทวดาเยียนฉือก็ค
“ไม่ต้องพูดได้ไหม”รีบเดินเลี่ยง ฉินเกอหลงที่เอนตัวพิงอยู่กับพนังห้องรีบคว้ามือบางไว้“เอ่อต้าเหนิงมีช่วงเวลานี้ด้วยหรือ”“ช่วงเวลาอะไร”ฉินเกอหลงยิ้มกรุ้มกริ่ม“ช่วงเวลาเขินอายข้าเห็นก่อนหน้านั้นยามที่ข้าไม่อยากเข้าใกล้เจ้า เจ้าก็หาทางเข้ามาใกล้ชิดข้าก่อน”“อย่ามาพูดแบบนี้นะ ก็ท่านอ๋องเอาแต่เก็กไม่ยอม… ไม่ยอมพูดกับต้าเหนิงนี่”ดวงตากลมโตหลุบตามองพื้นเสียกลัวอีกคนเป็นความในใจจากดวงตา“ใกล้ชิดเจ้าแล้วอย่างไรใกล้ชิดเจ้าแล้ว ข้าแทบจะหยุดหายใจ ข้าแทบจะสะกดกลั้นความรู้สึกเสน่หาเจ้าไม่ได้แล้วจะไม่ให้ทำที่ว่าเฉยชาได้อย่างไรกัน ขข้าแต่เดิมไม่เคยเข้าใกล้หญิงใดมาก่อนวันนี้ต้องมาใกล้ชิดกับสนมคนงามของกัวกั๋วที่นางพยายามจะเข้าใกล้ถูกเนื้อต้องตัวข้าตลอดเวลา เจ้าคิดว่าบุรุษที่ไม่เคยใกล้ชิดหญิงใดเช่นข้าบำเพ็ญเพียรเป็นนักบวชมาตั้งนานจะไม่ตะบะแตกหรือไร”“ นั่นมันเรื่องของท่านอ๋อง ต้าเหนิงไม่พูดด้วยแล้ว”เขินจนไม่รู้จะไปอย่างไร เดินเอาห่อยาไปยังเตาไฟเพื่อจะเคี่ยวยา“โอ้ไม่น่าเชื่อแค่เพียงคนเร่ร่อนรอนแรมเหตุใดได้มาพักในเรือนรับรองของแขกคนสำคัญของซูตงกันเลยนะ”เชียวไฉหรานเดินเข้ามาข้างในห้องอย่างถือวิสาสะ ไม่ท
“ที่นี่คือ”“ซูตงขอรับ”“ซูตง”“ดินแดนซูตงที่โอบลอ้มไปด้วยหุบเขาและแมกไม้พวกท่านไม่มีทางผ่านเข้ามาได้หากไม่เคยมาที่นี่ และมีคนนำทาง”ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลงจริงด้วยเพราะตอนที่ขเ้ามาต้าเหนิงเอาแต่ห่วงฉินเกอหลงจนไม่มีเวลาได้ชื่นชมทิวทัศน์รอบๆตัวรู้แค่ว่ามันคือหุบเขาทางเข้าเป็นม่านน้ำตกข้างในเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อนคงเคยเป็นปล่องภูเขาไฟแต่ตอนนี้มอดดับจึงเหลือแต่ความอุดมสมบูรณ์ของหมู่แมกไม้และสายน้ำลำธาร“เคยได้ยินคนผู้หนึ่งกล่าวถึงที่นี่เยียนฉือ เจ้ารู้จักท่านหมอที่ชื่อเยียนฉือหรือไม่”เสี่ยวจิ้งยิ้มดวงตาพร่างพราวท่านหมอวางหลวมยาพร้อมกับเดินเข้ามาจับชีพจร“ท่านหมอเทวดาเยี่ยนฉือคือคนที่สอนวิชาแพทย์แก้ข้าน้อย หากว่าท่านคือสหายเช่นนั้นข้าน้อยคงต้องดูแลท่านราวกับสหายคนหนึ่งเช่นกัน”ฉินเกอหลงถอนหายใจ“แหมท่านหมอนะหรือสนิทกันที่สุดเลยเป็นคนสนิท..อุ๊ป”รีบยกมืออุดปากตัวเองพูดมากไปแล้วต้าเหนิง“ท่านหมอกับเราสองคนมีมิตรภาพพี่ดีต่อกันอย่าพูดว่าเป็นดังสหายเรากับท่านหมอ รู้จักเพียงผิวเผิน”ฉินเกอหลงรีบแก้ต่าง ต้าเหนิงขมดคิ้วว่าทำไมไม่ขิงไปเลยว่าสนิทกับท่านหมอเทวดานั่นพวกเขาจะได้รู้สึกว่าเป็นคนกันเอง“โอ้
“ไฉหรานเจ้าทำแบบนี้พี่ใหญ่เฉินของเจ้าจะแบกรับภาระไม่ไหวนะ”เชียวกงเล่อพูดยิ้มๆ“เชอะก็ข้าอยากจะฝึกกระบี่ให้เก่งกาจขึ้นกว่าเดิมจะได้ จัดการกับคนเร่รอนสองคนนั่นให้พวกเขาเห็นว่าคนซูตงเก่งกาจเพียงใด”“น้องสาวเจ้าก็เก่งอยู่แล้วนี่จะต้องกลัวอะไรแล้วใครกันทำน้องสาวข้าให้อยากเอาชนะเพียงนี้”“พี่ใหญ่เฉินท่านถามพี่ใหญ่เชียวดูสิเขาชื่นชมคนเหล่านั้นทำให้ข้าโดนท่านพ่อตำหนิแล้วยังห้ามไม่ให้ข้าจัดการพวกเขาเสียก่อนให้อยู่หมัดไม่เข้าใจริงๆว่าทำไมต้องเอาใจพวเขาเพียงนั้น ถึงกับต้องรั้งพวกเขาอยู่ที่นี่”“นี่เจ้าแอบฟังข้ากับท่านพ่อคุยกันหรือไรไร้มารยาท”“พี่ใหญ่เฉินเห็นไหมพวกเขากันข้าออกจากฝูงแล้วเอาใจคนอื่น”เสียงยังออดอ้อน“ใครกันคนแปลกหน้าเหมือนว่าคนพวกนั้นจะทำให้ไฉหรานขุ่นเคืองไม่น้อยแล้วทำให้พี่ใหญเชียวของเราออกโรงปกป้องเพียงนั้น”“ฮะฮะฮะฮ่า อย่าได้สนใจเลยก้แค่คนเร่ร่อนธรรมดา ไฉหรานก็แค่หาใครในซูตง ประอลงด้วยไม่ได้ทุกคนต่างยอมแพ้ก็เลยคันไม้คันมือก็เท่านั้น ส่วนข้าก็ในฐานะจ้าวบ้านก็ต้องดูแลแขกบ้าน”“หือ คนในซูตต่างยอมแพไฉหรานหมดเลยหรือ ไม่น่าเชื่อว่าจะฝีมือก้าวหน้าเพียงนี้” เชียวกงเล่อยิ้มขำ“ใครบอกที่
“ดีขึ้นหรือยัง”กงเล่อเอ่ปากทักเมื่อเห้นว่าต้าเหนิงนั่งสัปหงกเอามือเท้าคางมองฉินเกอหลงบนแท่นนอนไม้ไผ่ เขาวางผ้าห่มผืนใหม่ลงบนโต๊ะข้างๆ“ไม่ดีขึ้นไม่เห็นว่าเขาเอ๊ยสามีข้าจะฟื้นคืนสติ หมอหลวงเอ๊ยหมอของพวกท่านเชื่อถือได้หรือไม่”คิดถึงท่านหมอเทวดาเยี่ยนแือขึ้นมาทันที แล้วหานจงหากรู้ว่าหวางเย่ของเขาบาดเจ้บแบบนี้จะต้อง หนักใจอีกแน่ สองคนนั้นป่านนี้เป็นอย่างไรบ้าง“ถึงจะเป็นหมอบ้านป่าแต่ก้พอจะดูแลคนบาดเจ็บได้แน่ๆ และอาจจะไม่มียาดีเพราะนี่คือบ้านป่าแต่สมุนไพรหลายอย่างที่มีคุณภาพกว่าสุมนไพรแห้งๆ”ทรุดกายยลงข้างๆต้าเหนิงที่รีบลุกขึ้นยืนเชียวกงเล่ออมยิ้มขำกับท่าทีระวังตัวของต้าเหนิง“กล้วข้าหรือ”ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลงหงึกหงัก เชียวกงเล่อยิ้มบางๆ“กลัวก็บอกว่ากลัว นับถือนับถือแต่ไม่ต้องกลัวข้าเพราะข้าไม่นิยมขืนใจภรรยาชาวบ้าน”พูดที่เล่นที่จริงเพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลาย“พูดแบบนี้แสดงว่าหากเป็นหญิงอื่นที่ผลัดหลงเข้ามาไม่มีสามีท่านก็จะขืนใจเช่นนั้นหรือ” เชียวกงเล่อยิ้มขำ แม่นางคนนนี้ช่างเจรจายิ่งนัก นางคงพูดจ้อได้ทั้งวันหากคนคนนั้นเป็นคนที่นางวางใจ“พูดแบบนี้ข้า เลยนึกขึ้นมาได้ว่าจะให้เสี่วจิ้งมาดูแลเจ้
เรือนใหญ่กลางหมู่บ้าน เชียวกงเล่อยืนก้มศรีษะตรงหน้าบิดาเชียวกวงเล่อข้างหน้าสาวน้อยวัยสดใสทว่าท่าทีราวกับจอมยุทธ์หนุ่มเชียวไฉหรานยืนอยู่ข้างๆบิดากับมารดา เชียวหรูเหมินที่อยู่ในวัยกลางคนทว่ายังสาว“อาการบาดเจ็บของคนแปลกหน้าคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง”“ขอครับท่านพ่อ บาดเจ็บไม่น้อยแต่เพราะเพลงกระบี่ของเขาเยี่ยมยอดทีเดียวเลยทำให้ พวกเราไม่อาจล้มเขาได้ต้องใช้ คนของเราถึงสอบสองคนจึงทำให้เขานิ่งได้ขอรับ”เชียวไฉยาอ้าปากค้าง“พวกท่าน ไร้ความสามารถกันเองหรือเปล่าถึงได้ พ่ายแพ้แก่เขาเพลงกระบี่ใครกันจะยอดเยี่ยมกว่าเพลงกระบี่ซูตงของเราได้อย่างไรกัน”น้ำเสียงหยิ่งยโสไม่ได้น่าเอ็นดูเหมือนหน้าตา“ไฉหราน”เสียงมารดาปรามเบาๆคิ้วเรียวขาวขมวดเข้าหากัน เชียวกงเล่อยิ้มน้อยๆ“ลูกอ่อนหัดจริงๆท่านพ่อเพียงสองกระบวนท่าก็แพ้ให้กับคนแปลกหน้านั้น หากไม่ใช้คนหมู่มากเหมือนที่ฮูหยินเขากล่าวโทษว่าพวกเราเป็นหมาหมู่ ก็คงไม่อาจเอาชนะเขาได้”ไฉหรานยิ้มมุมปาก“คนแปลกหน้าป่าเถื่อนนั่นจะเก่งกว่าคนซูตงของเราได้อย่างไร”“ไฉหรานเจ้าผิดแล้วคนจากวังหลวง บางคนสามารถต่อกรกับนักรบของเราได้ถึงสิบคนได้ง่ายๆการที่จะรับหน้าที่องครักษ์ของอ่องเ
กลางป่าหนทางมุ่งหน้าสู่สุ่ยจิง“ไหวไหม เยี่ยนแือพยุงร่างอ่อนแรงของหานจงยังถ้ำเล็กๆที่แทบจะมองไม่เป็นปากถ้ำเพราะมีต้นไม้ปกคลุมเป็นดงหนา หานจงอดสงสัยไม่ได้ว่าเยี่ยนฉือรู้ได้อย่างไรว่ามีถ้ำอยู่ที่นี่ คนอื่รับรองไม่มีใครรู้แน่แม้แต่หานจงที่เข้ามาในตอนแรกมองไม่เห็นปากถ้ำด้วยซ้ำไปแจ่เยียนฉือกับแหวกดงไม้หนาพาหานจงเร้นกายเข้ามาในถ้า หากจะลึกลับเพียงนี้หานจงคิดอยู่ที่นี่ได้ยาวๆเพราะไม่มีทางที่ใครจะหาเขากับเยียนฉือพบ“พักก่อนคงไม่มีใครตามมาแล้ว จากที่ข้าคาดเดาพวกเขาหยุดที่จะค้นหาเราแล้ว เพราะได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว”“เขาได้ตัวหวางเย่กับสนมเอ่อไปแล้วหรือ”“เจ้าน่ะนะเลิกเรียกเอ่อต้าเหนิงว่าพระสนมได้แล้วไม่เห็นหรือไรว่านางเป็นตายไม่ยอมทอดกายให้กับกัวกั๋ว ทำไมเราไม่ให้เกียรติในสิ่งที่นางไม่อยากเป็น เลิกยัดเยียดคำว่าพระสนมให้นางเสียที”“เข้าใจแล้วน่า”“นั่งลงก่อนสิ”หานจงพยักหน้าเจ็บปวดไปทั่วตัวบาดแผลก็มีทั้งลึกทั้งตื้นสร้างความเจ็บปวดให้กับหานจงไม่น้อย“โอ๊ะๆๆเจ็บจัง”หานจงทำหน้าตาเหยเก ทิ้งตัวลงบนพื้นเยี่ยนฉือรีบเข้าประคอง”“ฝีมือกระบี่เจ้ายังต้องพัฒนาอีกไกล เห็นได้ชัดว่าไม่อาจเอาชนะผู้ที่ผ่านการฝึ
“ลุกขึ้นหยุดร้อง”เชียวกงเล่อฉินเกอหลงก้มหน้าดวงตาพร่ามัว ไม่ชอบหยาดน้ำตาของต้าเหนิงไม่ว่านางจะเสแสร้งหรือจริงใจ สติดับวูบด้วยอาการบาดเจ็บ“สามี๊ฮือออออออออออออย่าตายนะ”ถลาแหวกฝูงชนเข้าไปกอดร่างสูงแน่นิ่ง ตกใจไม่น้อยอันนี้ไม่ได้แกล้งละหน้าเสีย ถ้าฉินเกอหลงตายจริงๆต้าเหนิงก็แย่สิ จะต้องพบกับอะไรอีกหนอ คราวนี้กลายเป็นน้ำตาจริงน้ำตาแห่งความกลัวและตื่นตกใจ“ม่ายยยยยนะจะตายไม่ได้นะฮือออออออย่าทิ้งข้าไปนะฮือออออแย่แล้ว ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยด้วยพวกเจ้าใจดำอำมหิต…เหลือเกิน ทำไมอยู่ดูเฉยๆเล่าช่วยเขาหน่อยฮืออออออออ”“ต้าเหนิงอย่าร้องไห้”ฉินเกอหลงลืมตาขึ้นช้าๆพูดเบาๆ แล้วหมดสติไปอีกครั้งอาจเพราะต้าเหนิงเขย่าตัวหรือจะด้วยอะไรก็แล้วแต่“พวกเจ้าช่วยเขา”เชียวกงเล่อสั่งดังประกาศิต ลูกสมุนเหล่านั้นต่างกรูกันเข้ามาพยุงดึงแขนดึงขา รับเอาร่างไร้สติของฉินเกอหลงขึ้นไปบนหลังมาแล้วพากลับหมู่บ้านของพวกเขา“เจ้าจะมากับเราไหม”ต้าเหนิงส่ายหน้า เรื่องอะไรจะขึ้นไปบนหลังม้าตัวเดียวกับคนแปลกหน้า“อย่างนั้นก้วิ่งตามม้าไป ไม่แน่นะจากที่ร้องไห้ฟูมฟายว่าสามีเจ้าจะตายทิ้งเจ้ากับ..ลูกในท้องอาจจะเป็น เจ้าที่ตายก่อนสามี”“มี
ยกมือขึ้นกอดรอบเอวหนาไว้ยิ้มสดใสขอกอดนอนสักคืนเถอะน่าคนอาไร้ น่ารักที่สุดกอดนอนแล้วอุ่นที่สุดเกลือกกลิ้งใบหน้ากับอกกว้างเป็นสุขหลับไหลไปในอ้อมกอดของฉินเกอหลงทั้งอุ่นทั้งรู้สึกปลอดภัยวังหลวงในตำหนักพระพันปีที่บัดนี้ในห้องมีเพียงเฉินตงลี่กับไทเฮาเพียงลำพังหลังจากที่ เฉินตงลี่แวะไปที่ตำหนักของกัวกั๋วฮ่องเต้ที่นอนไม่ได้สติ“เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาททรงได้รับยาถอนพิษแล้วแต่อาจจะยังไม่ฟื้นในตอนนี้ข้าน้อยเฉินตงลี่จะเรียกเรียกประชุมเหล่าขุนนางเพื่อแสดงความยินดีกับไทเฮาตำแหน่งผู้สั่งการ ในวังหลวงแทนฝ่าบาทในวันพรุ่งนี้หวังว่าไทเฮาจะเตรียมตัวให้พร้อม ”ไทเฮายิ้มลุกขึ้นยืน ส่งมือให้กับใต้เท้าเฉินที่จุมพิตหลังมือเบาๆ“ท่านจะเคียงข้างข้าใช่ไหมเฉินตงลี่แล้วท่านจะสามารถช่วยให้ทั้งสี่ตระกูลใหญ่สนับสนุนข้าใช่ไหม เรื่องนี้ท่านจะทำให้ข้าใช่ไหม”“มิใช่แค่สี่ตระกูลแต่ขุนนางน้อยใหญ่รวมทั้งแม่ทัพและค่ายฝึกที่เผยจ๋ายจะเชื่อฟังคำบัญชาของไทเฮาเพื่อตบแทนตำแหน่งราชครูของเฉินตงลี่”ไทเฮาเดินไปที่ราวแขนเสื้อคลุมเฉินตงี่รีบมา หยิบเสื้อคลุมปักลายหงส์สวมทับให้อย่างเอาใจ ไทเฮายิ้มยกมือขึ้นลูบไล้ลวดลายบนผ้าดวงตา ฉายแ
“ท่านมาได้ทันเวลาพอดีเลยนะใต้เท้าเฉิน”รอมยิ้มหยักที่มุมปากไม่ได้บ่งบอกอะไรแม้แต่น้อยใครเดาออกกันเล่า“ข้าน้อยเพิ่งจะทราบข่าวรีบรุดมาที่นี่เพราะ…ห่วงใย”“ช่างเถอะยานี่ พอจะทำให้กัวกั๋วรอด ถึงจะต้องนอนป่วยเป็นผักก็ไม่เป็นไร ข้าเองก็ไม่อาจตัดใจให้เขาตาย ถึงจะไม่เคยเชื่อฟังข้าดื้อดึงมาตลอดแต่ในส่วนลึกแล้วเขาคือลูกคนเดียวของข้ามีแแม่สักกี่คนที่อยากเห็นลูกตายไปต่อหน้า”“ต่อไปอำนาจสั่งการทั้งหมดก็คือของพระนาง จะตัดชุดหงส์สีทองไว้รอก็ไม่น่าเกลียด ด้านหน้าเป้นฝ่าบาทที่นอนเป็นฉากหน้าให้เหล่าขุนนางได้เห็นด้านหลังม่านเป็นไทเฮา หรือจะให้เฉินตงลี่เรียกว่าหวงตี้ดี”ไทเฮายิ้มอีกครั้งส่งมือเรียวให้กับเฉินตงลี่“ดี ดีที่สุด”รอยยิ้มนี้ใครบ้างจะคาดเดาไม่ได้ เป็นรอยสมหวังอย่างที่สุดกลางป่า“หิวแล้ว”เสียงออดอ้อนจนน่าสงสาร“ท่านอ๋องงงงงงงข้าหิวแล้ว”เดินชนกับร่างสูงที่หยุดเดินกระทันหันฉินเกอหลงคว้าเอวบางไว้ก่อนที่จะล้มลงไปกับพื้น“เช่นนั้นต้องพักใช่ไหมระยาทางจากที่นี่ถึงสุ่ยจิงยังอีกไกลเราควรจะเร่งเดินทางพักเพียงชั่วประเดี๋ยว”จริงด้วย เหมือนในซีรีย์อะเนอะพระเอกก็เร่งนางเอกก็หิวก็เหนื่อยและขาแพลงต้าเหนิงก็ไม่