วังหลวงตำหนักม่านฟ้ากัวกั๋วฮ่องเต้นั่งจิบชาที่ริมศาลาไม้ยามบ่าย แรงงานยังคงลงมือสร้างตำหนักใหม่เพื่อสนมคนใหม่ของกัวกั๋ว ใครบ้างจะมีเวลามาสนใจสิ่งรอบข้างยกเว้นกั่วกั๋วฮ่องเต้ร่างบางของต้าเหนิงยืนหันหลังชื่นชมดอกเหมยอยู่ห่างออกไปจากศาลาทำเหมือนว่าไม่เห็นว่ากัวกั๋วอยู่ตรงนั้นพอดีกับที่สายผมพัดผ่านกัวกั๋วฮ่องเต้ หันไปตรงที่ต้าเหนิงยืนอยู่พอเหมาะพอเจาะกัวกั๋วฮ่องเต้อ้าปากค้าง ราวกับโลกกำลังหยุดหมุน“นางคือใคร”กัวกั๋วฮ่องเต้หยุดนิ่งเมื่อต้าเหนิงยืนอยู่ใต้ต้นดอกเหมยสีแดงงดงาม ระรานตาอาภรณ์สีชมพูหวานมวยผมถูกเกล้ารวบเรียบตึง ปล่อยปอยผมระข้างแก้มใสริมฝีปากสีชมพูใส สวยจนคนมองแทบหยุดหายใจ“สนมเอ่ออย่างนั้นหรือนางคือสนมเอ่อนั่นเอง”แววตาระยับด้วยความรู้สึกตื่นเต้นกับภาพงดงามตรงหน้า นางตั้งใจจัดฉากต่อหน้าเขาให้งดงามแหละไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผมหรือแม้แต่การยืนใต้ต้นดอกเหมย นั่นนางก็จงใจให้งดงามและเป็นสีที่เขาชอบ“เพฮะนั่นคือสนมเอ่อ”ขันทีข้างกายประสานมือสอพลอ ไม่เคยเอ่ยคำขัดใจสักครั้ง“นางตั้งใจมายั่วยวนข้าเพราะเห็นว่าข้ากำลังจะรับสนมคนใหม่เข้ามาท่านว่าอย่างนั้นไหมกงกง”ขันทีชรายิ้มประสานมือก้มศ
มาแล้วพ่ะย่ะค่ะ ยาที่พระสนมต้องการนี่คือสุดยอดยาปลุกกำนัดที่ได้ผลดีที่สุด”ต้าเหนิงพยักหน้ายิ้มๆ“รู้ได้อย่างไรเคยลองหรือ”ย้อนถามหมอหลวงกับคำอวดอ้างสรรพคุณ“เอ่อ อย่าบอกใครนะพ่ะย่ะค่ะข้าน้อยเคยลองมาแล้ว ทั้งคือพ่ะย่ะค่ะยานี่ได้ผลดีที่สุดรับรอง ฝ่าบาทจะต้อง โปรดปรานพระสนมเกินใคร”ต้าเหนิงยิ้มบางๆ“ดีมากซื่อสัตย์ยุติธรรมแบบนี้สิถึงเรียกว่าหมอหลวงที่จริงใจ เอ้านี่คือส่วนของท่าน หากได้ผลดีข้าจะจัดสรรเพิ่มเติมให้”วางกระสอบเงินลงตรงหน้า หมอหลวงตาโตเงินทั้งกระสอบ“ไปได้แล้วจำไว้อย่าบอกใครเชียว หากบอกใครไปคราวหลังพวกเหล่าสนมทั้งหลายก็จะถือเอาแบบเดียวกับข้าเพื่อผูกใจฝ่าบาท”“ข้าน้อยน้อมรับคำสั่งพระสนม”ยิ้มอย่างพออกพอใจแล้วหอบกระสอบเงินเดินออกจากตำหนักที่16 ด้วยสีหน้าสมหวังที่สุดเจายี่ถอนหายใจ หนักใจและไม่เข้าใจในเวลาเดียวกันว่าทำไมต้าเหนิงต้องทำอะไรขนาดนี้ด้วยค่ำแล้ว กัวกั๋วฮ่องเต้สาวเท้าอย่างรวดเร็วใบหน้าแย้มแยิ้มขันทีชราข้างกายเร่งฝีเท้าตามไปติดๆใจไปถึงที่ตำหนักสิบหกเสียนานแล้วอยู่ๆก็หยุดชะงักกึก“ข้า ดูดีหรือยังกงกง”ขันทีรีบเดินวนรอบตัวของกัวกั่วฮ่องเต้ องครักษ์ที่ยืนประจำการรีบก้มหน้ามอง
“หวางเย่อย่าทำแบบนั้นพ่ะย่ะค่ะ”องครักษ์อีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ รีบเตือนสติ“ไปยืนตรงนู้นคอยดูต้นทาง”ฉินเกอหลงสั่งเบาๆองครักษ์นายนั้นรีบเดินไปยืน พิงกำแพงคกหลวงห่างออกไป“ข้าจะพาเจ้าหนี”กระซิบเบาๆ“อย่าทำแบบนี้ ไม่ให้ทำแบบนี้ท่านอ๋องกลับไปเสียต้าเหนิงทำทุกอย่างเพื่อท่านเพื่อที่ว่า เหมยเขียวม้าไม้ไผ่ของท่านกับคุณหนูรองบ้านเฉินจะได้ไม่ต้องคลาดจากกัน”“เจ้ากำลังน้อยใจและเข้าใจผิดเอาชีวิตมาเสี่ยง”“ข้าทำแบบนี้ส่งสัญญาณให้ใต้เท้าเฉินนำกำลังคนเข้ามาชิงบัลลังก์เพื่อท่านอ๋อง”“เจ้าคิดโง่ๆเจ้าคิดว่าเจ้าพอสำหรับมีค่าใต้เท้าเฉินหรือไรมีค่าสพอให้เขาร้อนรนเพราะเจ้าจะถูกประหารหรือ”“ใต้เท้าเฉินสัญญากับต้าเหนิงแบบนั้น”“นี่เจ้ายังไม่เข้ามใจอีกหรือที่เขาวางแผนไว้เพราะใช่เจ้าเป็นเหยี่อและข้าเป็นปลา เขาตั้งใจให้ความเป็นความตายของเจ้าส่งผลให้ข้ามาชิงตัวเจ้าไป”“ต้าเหนิงรับยาพิษชนิดเบามาจากใต้เท้าเฉินสับเปลี่ยนกับยาปลุกกำหนัดของหมอหลวง ตั้งใจแก้แค้นหมอหลวงคนนั้นให้ถูกกัวกั๋วฮ่องเต้ประหารโดยโยนความผิดว่าต้าเหนิงไม่รู้เรื่องยานั้นยานั่นำด้มาจากหมอหลวงที่คิดฆ่าเต้าเหนิงเพราะต้าเหนิงเพิ่งจะฟาดปากหมอหลวงตัวร้ายนั่
ตระกูลเฉิน หานจงวิ่งรนรานมาที่ห้องพักของเยี่ยนฉือ “เยี่ยนฉือ แย่แล้วท่านหมอแย่แล้วตื่นเร็วเข้า”“ทำไม เกิดอะไรขึ้น"สีหน้าตื่นตกใจ"หวางเย่ไม่ได้อยู่ในห้อง”หานจงละล่ำละลักเยี่ยนฉือผุดลุกจกแท่นนอนสะดุดขาตัเองหานจงอ้าปากค้างเมื่อร่างสูงของเยี่ยนฉือล้มทับหานจงเข้าเต็มเปาแต่นั่นไม่เลวร้ายเท่ากับริมฝีปากอุ่นประกบเข้ากับริมฝีปากของหานจงต่างคนต่างนิ่งงัน เนิ่นนาน เยียนฉือบดริมฝีปากกับปากสีแดงสดของหานจงเบาๆหานจงยกมือขึ้นดันอกกว้างของอีกคนทันที"ปลฃ่อยนะ"เยี่ยนฉือกับพลิกร่างเล็กไว้ใต้ร่างของเขาไม่ยอมปล่อยนึกโมโหที่อีกคนออกคำสั่งเสียงเข้มทั้งที่เขาอาวุโสกว่าเจ้าเด็กนี่อีก“อะ ปะปล่อยข้านะ เจ้าวายร้าย” เยียนฉือชี้มือข้าหาตัวเอง สีหน้างงงันจะมากไปแล้วกล้าว่าเขาเลยหรือเห็นจะต้องสั่งสอนกันบ้างก้มลงอีกครั้งแต่ไม่ทันระวังตัวหานจงอาศัยทีเผลอพลิกตัว หลุดออกจากการทาบทับ"เจ้าวายร้ายเยี่ยนฉือคนจ้าเล่ห์นี่กำลังหน้าสิ่วน้าขวาน เจ้าจอมวายร้าย"ยังย้ำคำเดิม"ข้าหรือเจ้าวายร้ายผิดแล้วมันก็แค่อุบัติเหตุ ข้าไม่ได้ตั้งใจด้วยซ้ำ”หานจงขมวดคิ้ว เบ้ปาก“อุบัติเหตุน่ะมันตอนที่ล้มหลังจากนั้นสมองของหมอเทวดาเยียนฉือก็ค
เฉินซือกวานเดินเข้ามาข้างใน“ผิดแล้ว ท่านพ่อ หวางเย่จะไม่มีทางนั่งบัลลังก์หากสิ่งที่หวางเย่ได้มาเพียงเพราะท่านใส่พานให้กับหวางเย่”“พูดเช่นนี้ราวกับจะเป็นศัตรูกัน”“ท่าพ่อได้โปรดไตร่ตรองมบอยาถอนพิษ ลูกจะนำไปให้เอ่อต้าเหนิงหากนางถือประหารในตอนนี้ เกรงว่าหวางเย่จะยิ่งเจ็บปวด คนของลูส่งข่างว่าไทเฮาจะประหารนางด้วยตัวเองหากว่ากัวกั๋วฮ่องเต้ไม่ฟื้น”“เฉินซือกวานเจ้าแซ่เฉินแล้วเหตุใดถึงไม่ยอมเดินตามทางบิดาของเจ้าที่วาดเสียทางไว้เพื่อเจ้า”“เช่นไรจึงเรียปูทาง ทางที่ที่เดินเหยียบย้ำผู้อื่นให้เจ็บปวดและปนไปด้วยคราบน้ำตา ข้าละอายใจในการก้าวเดิน”“ดีพูดได้ดี เช่นนั้น เสี้นทางนี้เก็บไว้ให้อี้เหมยเพียงคนเดียว”สะบัดชายเสื้อจากไปด้วยโทสะ เฉินซือกวานถอนหายใจยาว หากเราพยายามเชื่อว่าสิ่งถูกต้องเราจะพยายามทำให้สิ่งนั้นถูกต้องสำหรับคนอื่นด้วยวังหลวง“ลากตัวนางมาป้ายนี้ฮ่องเต้ยังไม่ฟื้น ข้าจะประหารนางเสียก่อนดวงตะวันจะโผล่พ้นขอบฟ้า”เสียงตวาดดังๆของไทเฮาทำเอาเจายี่หน้าถอดสี“ทำอย่างไรดี”พึมพำเบาๆความกลัวเริ่มเข้าครอบงำกลัวว่าต้าเหนิงจะถูกประหารแล้วจะหานายหญิงดีดีแบบนี้ได้จากที่ไหน”คิดหาทางหนีทีไล่ เมื่ออง
“พอพูดเรื่องจริงแล้วไม่เชื่อพอโกหกก็ดันอยากจะเชื่อ”“เด็กๆ พวกเจ้าเอาอะไรอุดปากนางไว้ อย่าให้นางพูดเพ้อเจ้ออะไรอีกแล้วนำตัวหมอหลวงมาสอบสวนหมอหลวงถูกลากตัวมาคุกเข่าตรงหน้าไทเฮา หันมองต้าเหนิงอย่างกล้าๆกลัวๆ“พูดไปสิ..ว่าท่านเป็นคนจัดยาเทียบนั้นให้ข้าเองกับมือ”ต้าเหนิงพูดขึ้นดังๆ หมอหลวงสะดุ้งอย่างแรงก้มลงศีรษะจรดพื้น โขกห้าปผาวกับว่าไทเฮาจะอภัยกระนั้น“ไทเฮาโปรดไว้ชีวิตด้วยข้าน้อยไม่รู้เรื่องยาเหล่านั้นที่จัดไปให้พระสนมนั่นเป็นยาปลุกกำหนัดชั้นเยี่ยมของตำหรับยา ไม่รู้เรื่องยาพิษที่ฝ่าบาทเสวยเข้าไปแม้แต่น้อยข้าน้อยถุกพระสนมใส่ความ ไทเฮาโปรดอภัยให้ข้าน้อยด้วย”น้ำตาร่วงกราว ฮะกล้าบีบน้ำตาเลยหรือหมอหลวงคนนี้นี่ไม่ธรรมดาจริงๆเพื่อเอาชีวิตรอดยอมทำทุกอย่าง"นี่ๆๆพูดแบบนี้ก็หาว่าข้าวางยาฝ่าบาทนะสิ”นี่พวกเจ้าสยังไม่มีใครเอาอะไรอุดปากนางอีกหรือ”“ไทเฮาสั่งดังลั่น ต้าเหนิงถอนหายใจยาว“ให้หมอหลวงพูดคนเดียวก็ยาวเลยที่นี้ใส่ความข้าไม่ยุิตธรรมเลยทำไมไม่ให้ข้าโต้แย้งในศาลยังมีทนายช่วยแก้ต่าง นี่ให้ข้าเงียบให้เขาใส่ความได้ตามใจหรือไร”ไทเฮายิ้มมุมปาก“ข้าไม่ใช่ศาลและข้าตัดสินว่าเจ้าผิดไปแล้วและกำลังจะห
“เหนื่อยแล้วอะพักก่อนได้ไหม”ฉินเกอหลงที่กำมือต้าเหนิงไว้ กลับตวัดแขนแบกเอาร่างของต้าเหนิงไว้บนบ่าพาเดินไปราวกับไม่หนักสักนิด“ไม่พักหรือ เหนื่อยแล้วนะวิ่งมาเกือบสิบกิโลได้ม้างงงง”ต้าเหนิงบ่นทั้งที่รู้สึกสบายแปลกๆ“หุบปาก”“อือ แต่ๆท่านอ๋องแบกต้าเหนิงแบบนี้ยิ่งจะเหนื่อยนะ”“ข้าจะเหนื่อยก็ที่ต้องคอยโต้เถียงกับเจ้าจนน่ารำคาญนี่แหละเงียบแล้วอยู่นิ่งๆเพิ่ง วิ่งมาแค่20ลี้ หากพวกเขามีม้า ก็จะตามเราทัน”“ทำไมเราไม่หาที่ซ่อนตัวนี่ก็สว่างแล้ว” มองเห็นดวงอาทิยต์ดวงกลมโตแดงฉานโผล่ขึ้นทางทิศตะวันออกสวยงามจนอ่างจะหยุดมองแต่อีกคนกับแบกเดินลิ่ว“ไม่เหนื่อยหรือ ท่านแบกข้าที่หนักขนาดนั้น”“บอกให้หุบปากเสีย” ต้าเหนิงเงียบเสียงเพราะเสียงดุดุของฉินเกอหลงก้มลงมองแผ่นหลังกว้างยามก้าวเดิน แขนสองข้างไม่อยู่สุขกอดรวบลำคอของคนตัวสูงที่สุดท้ายแล้วจากแบกก็ต้องกลายเป็นอุ้ม ตาจ้องตาเท้าหยุดก้าวเดิน ต้าเหนิงหลบตาคมเสียซุกหน้ากับอกกว้าง“มันพอจะหยุดพักได้แล้วไหมเล่า ข้ากลัวว่าท่านอ๋องจะเหนื่อย”“ไม่นี่ ข้าอุ้มเจ้าได้”น้ำเสียงเรียบเฉยไม่ได้บ่งบอกว่าลำบากอะไรอย่างที่ต้าเหนิงคิด“เราจะไปไหนกัน”“เราจะไปสุ่ยจิงจุดนัดพบก
“ท่านมาได้ทันเวลาพอดีเลยนะใต้เท้าเฉิน”รอมยิ้มหยักที่มุมปากไม่ได้บ่งบอกอะไรแม้แต่น้อยใครเดาออกกันเล่า“ข้าน้อยเพิ่งจะทราบข่าวรีบรุดมาที่นี่เพราะ…ห่วงใย”“ช่างเถอะยานี่ พอจะทำให้กัวกั๋วรอด ถึงจะต้องนอนป่วยเป็นผักก็ไม่เป็นไร ข้าเองก็ไม่อาจตัดใจให้เขาตาย ถึงจะไม่เคยเชื่อฟังข้าดื้อดึงมาตลอดแต่ในส่วนลึกแล้วเขาคือลูกคนเดียวของข้ามีแแม่สักกี่คนที่อยากเห็นลูกตายไปต่อหน้า”“ต่อไปอำนาจสั่งการทั้งหมดก็คือของพระนาง จะตัดชุดหงส์สีทองไว้รอก็ไม่น่าเกลียด ด้านหน้าเป้นฝ่าบาทที่นอนเป็นฉากหน้าให้เหล่าขุนนางได้เห็นด้านหลังม่านเป็นไทเฮา หรือจะให้เฉินตงลี่เรียกว่าหวงตี้ดี”ไทเฮายิ้มอีกครั้งส่งมือเรียวให้กับเฉินตงลี่“ดี ดีที่สุด”รอยยิ้มนี้ใครบ้างจะคาดเดาไม่ได้ เป็นรอยสมหวังอย่างที่สุดกลางป่า“หิวแล้ว”เสียงออดอ้อนจนน่าสงสาร“ท่านอ๋องงงงงงงข้าหิวแล้ว”เดินชนกับร่างสูงที่หยุดเดินกระทันหันฉินเกอหลงคว้าเอวบางไว้ก่อนที่จะล้มลงไปกับพื้น“เช่นนั้นต้องพักใช่ไหมระยาทางจากที่นี่ถึงสุ่ยจิงยังอีกไกลเราควรจะเร่งเดินทางพักเพียงชั่วประเดี๋ยว”จริงด้วย เหมือนในซีรีย์อะเนอะพระเอกก็เร่งนางเอกก็หิวก็เหนื่อยและขาแพลงต้าเหนิงก็ไม่
ฉินเกอหลง ก่อนหน้านั้นเมื่อพันปีก่อนยืนโปรยเถ้ากระดูกของต้าเหนิง“ฝ่าบาท ท่านหมอเยี่ยนฉือกับหานจงขอประทานอนุญาตออกเดินท่องยุทธภพ หวังว่าฝ่าบาทจะประทานอนุญาติในครั้งนี้”เชียวกงเล่อประสานมือตรงหน้า ความรู้สึกเหมือนบางอย่างแหว่งเว้าหายไป“ในที่สุดเราทุกคนก็ได้แค่เพียงเป็นเถ้าธุลี ปลิวหายไปพร้อมกับสายลม ข้าเองแม้จะอยากทำตามใจเพียงใดสุดท้ายข้าก็ได้แค่เพียงสะกดกลั้นความคิดนั้นไว้เสีย”“พ่ะย่ะค่ะท่านพ่อ..กงเล่อหมายถึงท่านปู่ของฮองเฮาเอ่อถูหวังซวน เสียใจที่ต้องสูญเสียคนของตระกูลเอ่อไปจนไม่เหลือใครแม้กงเล่อขอใช้แซ่ของตระกูลเอ่อแต่ท่านพ่อก็ยังเศร้าโศกเช่นเดิมกงเล่อเข้าใจดีว่าไม่อาจทดแทนกันได้”“จริงสินะในที่สุดตระกูลฉินก็ไม่อาจปกป้องตระกูลเอ่อไว้ได้ ข้าที่ทุ่มเทตั้งแต่วันแรกที่พบนางก็ยังไม่อาจช่วยเหลือนางได้ทันเช่นนั้นจึงเรียกว่าเป็นความผิดของข้า”“ไม่มีใครผิดพ่ะย่ะค่ะสวรรค์กำหนดไว้แล้วหากไม่มีฝ่าบาทบางที่ตระกูลเอ่ออาจไม่เหลือรอดตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกฆ่าล้างตระกูลฝ่าบาททำดีที่สุดแล้ว”“จริงสินะในครั้งแรกที่ข้าพยายามช่วยชีวิตเอ่อต้าเหนิงจากคนชั่ว และครั้งที่สองข้าที่พยายามช่วยชีวิตนางจากการสั่งกา
หนึ่งปีผ่านไป“โอ้ๆๆๆๆอย่าร้องนะคนดีมาให้พ่ออุ้มเร็ว”ฉินเกอหลงพูดไทยสำเนียงแปลกๆคุณหมอดนัย ส่ายหน้าไปมา“เมื่อไหร่จะพูดไทยแข้งแรงสักทีบอกให้สอนกันหน่อยก็ไม่เอาวันๆเอาแต่ผลิตลูกดูสินี่ก้ท้องอีกแล้วหัวปีท้ายปีเชียว”ต้าเหนิงยิ้มดวงตาเป็นประกาย“คุณแม่ฮับลูกชายหิวนมแล้วฮับ”เสียงออดอ้อนของฉินเกอหลง ทำเอาต้าเหนิงส่ายหน้า รับเอาร่างกระจ้อยมากอดแนบอก แกะกระดุมป้อนนมทารกในอ้อมแขนฉินเกอหลงดวงตาเป็นประกาย หมอดนัยวางยาที่จัดมาสำหรับแม่ลูกอ่อนลงตรงหน้าฉินเกอหลง“อิจแาต้าเหนิงจังมีสามีที่คอยดูแลทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นกับข้าวกับปลาเลี้ยงลูกเตือนให้กินยา ถ้ามีแบบนี้รักตายเลย บ้านช่องก็เลยไม่กลับมาคตอยดูแลภรรยาตั้งสองสามเดือนแล้วธุรกิจที่นั่น ไม่ต้องห่วงหรือ”ฉินเกอหลงยิ้มกำลังเรียบเรียงคำพูด“ผมจัดเตรียมทุกอย่างและประชุม ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ในมุกเช้าจึงไม่ต้องห่วงอะไรหากว่ามีอะไรขัดข้องก็จะเรียกประชุมทันที ทางนี้ผมเองไม่อาจวางใจ ต้าเหนิงเขาต้องมีผมคอยดูแล เขาลำบากอุ้มท้องลุกของผม เขาต้องอุ้มเด็กอีกคนไว้ในท้องฉะนั้นผมเลยคิดว่าไม่มีใครจะดูแลต้าเหนิงได้ดีเท่าผมและควรจะดูแลต้าเหนิงอย่างดี”หมอดนัยส่าย
“คุณไม่อยากลองขอฉันแต่งงานดูอีกสักทีหรือ”อมยิ้มฉินเกอหลงเลิกคิ้วสูง“อยากสิ ถ้าอย่างนั้น แต่งงานกับผมนะครับ”คุกเข่าลงกับพื้นที่ด้านล่างมีกลับดอกเมหยสีชมพูดร่วงเกลื่อนกราดต้าเหนิงยิ้มพยักหน้าขึ้นลง ฉินเกอหลงรวบร่างบางไว้แนบอกอีกครั้ง“ขอบคุณขอบคุณจริงๆ ที่ยอมแต่งกับผม”ยิ้มหว้างสดใสจนต้าเหนิงต้องยิ้มตาม““ความจริงแล้วเธอไม่ได้ติดค้างอะไรหรอกนะที่ตามหาเพราะต้องการชดเชยให้คุณอย่างไรเล่า ต้าเหนิง”ต้าเหนิงเลิกคิ้วสูง เมื่อฉินเกอหลงกระซิบข้างหูเบาๆ“คุณพูดอะไรนะ อย่าบอกนะว่าคุณ เพิ่งจะข้ามภพมา”ฉินเกอหลงเองก็เลิกคิ้วสูง“ข้ามภพหรือ แค่ความฝันหรือเปล่าสิ่งที่ผมฝันในทุกๆคืนนั่นก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในอ้อมแขนของผม เธอกำลังเจ็บปวดและทรมานผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมามีหยาดน้ำตาทุกครั้ง ตั้งแต่จำความได้ พอโตขึ้นมาสิ่งที่ผมตั้งใจทำมาตลอดคือตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ให้จิตกรมาวาดภาพเธอคนนั้นไว้ในห้องนอนเพื่อให้ได้เห็นหน้าเธอในทุกๆวัน คุณอยากเห็นรูปผู้หญิงคนนั้นไหม”ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลง“คุณอยากเห็นก็คงต้องไปส่องกระจกแล้วล่ะ เพราะรูปนั่นเหมือนคุณอย่างกับแกะ”ดึงมือต้าเหนิงให้เดินเคียงข้างกันไป“คุณฝันถึ
ฉินเกอหลงจอดรถลงข้างทางที่ประดับด้วยไฟหลากสีใต้ต้น ดอกเหมยสีชมพูเบ่งบาน ผู้คนเดินจูงมือคู่รัก“คุณชอบดอกเหมยหรือ”ต้าเหนิงถามเบาๆ“ชอบ อยากให้ต้าเหนิงได้เหนมันไงเล่ากว่าจะผ่านไปแต่ละปีจะต้องทนนับวันนับเดือนที่ดอกเหมยบานและร่วงโรยครั้งแล้วครั้งเล่าลำพังเดียวดายตราบนานเท่านาน”ต้าเหนิงก้มมองมือในอุ้งมืออุ่นของฉินเกอหลง ยอมให้เขากุมมือไว้ราวกับคู่รักแต่ไม่ยอมฟังคำพูดเศร้าๆของเขา“ฮ่าาาพามาแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย ไอ้เรารึคิดไปไกลเยว่าจะพาไป…ทำมิดีมิร้าย”ฉินเกอหลงส่ายหน้าไปมา“วางใจเถอะไม่เอาไปขายหรอก”“หือ ไม่ขายแต่ฆ่าหั่นศพและแย่เชียวฮ่าๆๆๆๆ”ยังตลกได้อีกฉินเกิอหลงหันมาทำสีหน้าจริงจังต้าเหนิงขนลุกเกรียวหรือว่า หรือว่า“จูบได้ไหม”“หา จะจูบเลยหรือ”“ก็ต้องจูบสิคนที่เขาลองคบกันก็ต้องลองหลายๆอย่างว่าเขากันได้ไหม”“อย่าทำแบบนี้นะมาถึงก็จูบเลยหรือจะไม่เอาเปรียบกันไปหน่อยหรือ”ฉินเกอหลงรวบร่างบางมากอดไว้แนบกายจมูกโด่งสูดดมเรือนผมที่หอมละมุนเนิ่นนาน“เจ้าเข้าสู่โหมดโรแมนติกแล้วนะ คิดถึงจังสบายดีไหม”ทอดเสียงอ่อนโยนจนต้าเหนิงตัวเย็น มือที่ยกขึ้นกอดรอบเอวของฉินเกอหลงอย่างกล้าๆกลัวๆก็เย็นเฉียบ“คือๆๆๆค
ต้าเหนิงยิ้มพยักหน้าหงึกหงักกำลังช่างใจว่ากัวกั๋วก็คือกํวกํ๋วหรือว่ากัวกํ่วคนนี้ไม่ใช่กัวกั๋ว“ขอบคุณ แต่จะว่าไปฉันไม่ได้หลงตัวเองนะแต่คุณสองคนกำลังแย่งฉันใช่ไหม”ฉินเกอหลงอมยิ้มกัวกั๋วงง“มีคนแบบนี้ด้วยหรือ คนที่คิดว่าคนอื่นกำลังแย่งคุณผู้หญิงไท่กัวเป็นแบบนี้ทุกคนไหมนะ”ฉินเกอหลงเปยเบาๆต้าเหนิงอมยิ้ม ความคนึงหาทีข้ามผ่านมาปีหนึ่งสิ้นสุดลง“เอาล่ะที่นี้ เราสองคนมาตกลงกันดีกว่าไหมพี่ใหญ่ว่าใครจะจีบก่อนจีบที่หลังไอ้ผมอะนะเริ่มชอบผู้หญิงไท่กัวคนนี้แล้ว”กัวกั๋วพูดขึ้นพร้อมกับใช้ตะเกียบในมือคีบอาหารในจานวางตรงถ้วยข้าวตรงหน้าต้าเหนิง ฉินเกอหลงที่เห็นก็รีบคีบของกินที่คิดว่าต้าเหนิงจะชอบวางลงบนถ้วยข้าวของต้าเหนิงบ้างไฉหรานอมยิ้ม“ต้าเหนิงของเราฮอตน่าดู”หันไปพูดกับเฉินซือกวาน“ก็นะบอกแล้วไงว่าฉันอะนะกำลังโดนแย่งจากคนสองคน”อมยิ้ม“ใครบอก กัวกั๋วนายนะมาทีหลังหลบไปเถอะไม่มีการแย่งชิงอะไรทั้งนั้น”ฉินเกอหลงทรุดกายลงกับพื้นคุกเข่าตรงหน้าพร้อมกับหยิบกล่องกำมยี่สีแดงออกมาจากกระเป๋าเปิดกล่องกำมยี่สีแดงออกแสงแวววาวจากเพชรเม้ดมะหึมาคงราวๆห้ากะรัตสุกสกาวต้องแสงไฟ ต้าเหนิงเลิกคิ้วสูง“แต่งานกบผมนะครับคุณต
“ใครจะบังอาจเล่าค่ะ ต้าเหนิงเองเขาก็ไม่ใช่คนที่พูดมากหรือชอบนินทาใครต้าเหนิงเขาเป็นคนเรียบร้อยน่ารักที่สุด”ไฉหรานเชียร์เต็มที่ ต้าเหนิงยิ้มจื่อนๆ เรียบร้อยอย่างกับผ้าพับไว้ในโรงรับจำนำเถอะ“เรียบ จริงหรือครับ”“อืมมม เรียบร้อยครับคุณฉินไม่ใช่เรียบเฉยๆ” เฉินซือกวานรีบพูดแทรกขึ้นกลัวว่าต้าเหนิงจะรู้สึกไม่ดี เปล่าต้าเหนิง ที่รีบก้มมองหน้าอกของตัวเองมันก็ไม่ได้ราบแบนเสียหน่อยบริกรนำอาหารมาเสริ์ฟบนโต๊ะ ฉินเกอหลงผายมือ“มีที่พักหรือยังครับอี้ตวนของเรามีที่พักมากมายในเครือให้คุณ …ได้เลือกพัก”ต้าเหนิงเลิกคิ้วอมยิ้มแก้มป่องจากฝ่าบาทมากลายเป็นนักขายอย่างไรกัน“ต้าเหนิงเขาพักกับเราค่ะคุณฉินไม่ต้องห่วงเขามาที่นี่แค่5วันตั้งใจพาเที่ยว อย่างที่ต้าเหนิงอยากจะไปเรื่องที่พักก็เลยไม่ใช่ปัญหาที่บ้านของเราก็มีห้องวางอยู่หลายห้อง”ฉินเกอหลงพยักหน้าขึ้นลง บริกรเดินถือช่อดอกกุหลาบสีแดงนับพันดอกมุ่งตรงมาที่ ต้าเหนิงโค้งคำนับอย่างนอบน้อม“ต้าเหนิงรับเอาดอกกุหลาบช่อโตหยิบการ์ดที่สอดไว้ด้านหน้าขึ้นมาอ่าน”ฉินเกอหลงขมวดคิ้ว“ของใคร”ไฉหรานชะโงกมองเพราะความสงสัยแล้วหันไปสบตากับเฉินซือกวาน“เอ่อ คุณฉินกัวกั๋วครับ
ภัตตาคารหรูริมน้ำมองเห็นแสงสีสว่างไสวไปทั่งสะพานที่ทอดข้ามผ่านแม่น้ำสายใหญ่งดามท่ามกลางผู้คน ต้าเหนิงกับไฉหรานมาถึงแล้ว เฉินซือกวานรีบ เปิดประตูรถให้ทั้งสองคนลงมาจากรถด้วยท่าทีราวกับนักันไว้นั่นคือให้ช้าๆเข้าไว้ก็ต้าเหนิงไม่อยากพบเจ้าคนรวยอ้วนพุงพุ้ยและกินจุคนนั้นตั้งใจ ปิดภัตตาคารเพื่อจะได้กินอิ่มๆคนเดียวไม่ได้เพื่อให้ต้าเหนิงนั่งสบายหรือเปย์ต้าเหนิงหรอก“คุณครับ คุณฉินเชิญคุณทั้งสามบนชั้นสองขอรับ”บริกรก้มศรีษะนอบน้อม ต้าเหนิงเงยหน้ามองขึ้นไปบนชั้นสองที่สว่างไสวเห็นเพียงใครบางคนที่นั่งนระเบียงภัตตาคารหรู ต้าเหนิงเบ้ปากเข้าใจเลือกมุมให้มองเห็นพวกต้าเหนิงก่อนแหมร้ายจริง“คุณผู้หญิงครับนี่คือของขวัญต้อนรับสำหรับการยินยอมมารับประทานอาหารกับ...คุณฉิน”“คุณฉิน ฉินอะไร”ต้าเหนิงรับเอากล่องน้ำหอมระดับโลกไว้ในมือไฉหรานยิ้มสดใสดีใจยิ่งกว่าต้าเหนิงเสียอีก“เห็นไหมต้าเหนิงเขาจริงใจแค่ไหน”กระซิบต้าเหนิงเบาๆต้าเหนิงส่ายหน้าไปมาเดินตามไฉหรานที่ดึงมือให้เดินตามเฉินซือกวานขึ้นไปข้างบนชั้นสองพอ้าเหนิงยืนอยู่ชั้นบนเสียงดนตรีก็ดังขึ้นนักดนตรีบรรเลงเพลงหนึ่งทำนองคุ้นหูเหลือเกินต้าเหนิงหยุดนิ่งอยู่กับท
“ทำไมต้องเป็นที่นั่น”อ่านชื่อภัตตาคารหรูริมแม่น้ำที่อาหารอร่อยมากตามรีวิวแต่ราคาแพงหูฉี่“หืออาหารอร่อยมากและที่สำคัญ…”ไฉหรานยิ้มดวงตาพร่างพราว"ฉันว่ามันมากไปฉันอยากกินของอร่อยๆก็จริงแต่ ก็ยังไม่อยากหมดตัวฮ่าาาา"ต้าเหนิงพูดไปยิ้มไปไฉหรานเองก็ยิ้ม"ฉันไม่สิคุณเฉินสามีฉันเขาบอกจะเลี้ยงเธอในฐานะที่เราไม่ได้ชวนเธอมางานแต่งของเราเขารู้ว่าฉันกับต้าเหนิงสนิทกันแค่ไหนก็แค่อยากจะเลี้ยงต้อนรับเธอสักครั้ง""มันหลายตังค์นะฉันเกรงใจ"ไฉหรานยิ้มอีกแล้ว"ไม่ต้องเกรงใจน่าเราตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องต้อนรับเธอให้ดีที่สุดให้เธอประทับใจที่สุดจนอยากจะอยู่ที่นี่เลยดีไหม""ไม่ใช่ล่ะ มันแปลกๆ ฉันว่ามันมีกลิ่นนะ เอาความจริงมาพูดกันเราสองคนคบกันมาตั้งปีหนึ่งฉันไว้ใจเธอมากเลยนะไฉหรานว่าเธอจะไว้ใจได้ และไม่โกหกฉัน"ไฉหรานยิ้มเจื่อนๆนั่งลงข้างๆต้าเหนิงเลื่อนแก้วกาแฟตรงหน้าต้าเหนิงอย่างเอาใจ“คุณเฉินเขานัดใครบางคนดูตัวเพื่อนสาวของเราต้าเหนิงซึ่งเขาก็แค่อยากจะกินข้าวแล้วก็ดูตัวต้าเหนิงไปด้วย คนคนนี้อะนะหล่อที่สุดนิสัยดีที่สุด และเอาใจเก่งที่สุด ที่สำคัญเป็นทายาทโดยตรงที่กำลังจะนั่งตำแหน่งท่านประทานของอี้ตวนในขณะนี้สาว
“แม่จ๋าหนูอยากจะไปเมืองจีน คุณแม่คนสวยใจดีที่สุดในโลกอนุญาตให้ลูกสาวตัวน้อยๆคนนี้ได้ไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจได้ไหม”คุณปทุมยิ้มแกล้งมองไปทางอื่นเสีย“น่านะคุณแม่ขา ต้าเหนิงอยากจะไปจริงๆบรรพบุรุษเราเป็นคนจีนพ้นทะเลๆไม่ใช่หรือแล้วนี่ไม่ให้ต้าเหนิงไปพอต้าเหนิงตายไปจะกล้ามองหน้าบรรพชนได้อย่างไร”แอบเอาประโยคยอดนิยมในซีรีย์จีนมาพูดกับคุณปทุม“จะไปทำไม”“หนูอยาก…เป็นกำแพงเมืองจีนอยากไปพระราชวังต้องห้ามอยากจะเที่ยวจางเจี่ยเจีย”“มีเงินแล้วหรืถึงอยากจะไปพอให้แต่งกับผู้ชายจีนที่เป็นญาติห่างๆกันก็ไม่เอา ทีแบบนี้แล้วอยากจะไปไปคนเดียวมันอันตรายนะ แม่ไม่อนุญาต”“หนูไปแค่ไม่กี่วัน คุณแม่ไม่ต้องห่วงน่าแล้วตอนนี้ที่นั่นก็มีไฉหราน”“ไฉหรานอะไรของแกนั่นไว้ใจเขาได้หรือไม่เคยเห็นตัวเป็นๆเขาสักหน่อยก็ไว้ใจเขา แม่ละท้อใจกับการไว้ใจคนและเข้ากับคนได้ง่ายๆอย่างหนูจังเลยแบบนี้ยิ่งจะทำให้คนชั่วมาตีสนิท”“ไฉหรานเขาไม่หลอกหนูหรอกค่ะเราพูดคุยแลกเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างจนสนิทกันแล้วระยะเวลาเกือบปีมานี้หนูคิดว่าหนูดูเขาดีพอแล้วค่ะ”คุณปทุมถอนหายใจ“แล้วที่หลับที่นอน โรงแรมที่พัก เล่าจัดเตรียมไว้แล้วหรือ”“เรียบร้อยแล้วค่ะตั