ตำหนักพระพันปี“ไม่มีใครทำอะไรนางได้เลยหรือ”นางกำนัลข้างกายยืนก้มหน้าขันทีโจทย์เก่าของต้าเหนิงรีบชิงพูดขึ้นก่อน“เพฮะไทเฮา นางเก่งกาจยิ่งกลับมาคราวนี้ฝ่าบาททรงออกปากว่าห้ามใครแตะต้องนาง จึงได้เห็นฤทธิ์นางในแต่ละวันไม่มีแผ่วเลยเพฮะ”แต่นางกนัลข้างกายอยากจะบอกว่าสร้างเรื่องได้สะใจยิ่งเรื่องเล่าของต้าเหนิงดังไปทั่ววังหลวง นางกำนัลซุ่ยเอ่อร์คนนั้นพองขนจนน่าเกลียดป่านนี้ฝ่าบาทคงลงทัณฑ์ไปแล้วทั้งฝ่าฝืนบัญชาเข้าไปในตำหนักที่16และบังอาจทำให้สนมเอ่อหงุดหงิดหัวใจ“หรือสวรรค์จะกำหนดไว้แล้ว ฮ่องเต้ไม่ยอมทำให้นางเสียความมั่นใจโดยการข่มเหงนาง ทั้งยังตามใจนางยิ่งทำแบบนี้นางยิ่งได้ใจ ก่อนนั้นไม่ยอมถวายตัวมาถึงตอนนี้กลับถือไพ่เหนือกว่าฮ่องเต้ เพียงเพราะว่าฮ่องเต้ถือว่านางมีค่ามีราคากว่าสนมคนอื่น”ท่าทีหนักใจจนสังเกตุได้“ไม่มีทางทำอย่างไรเลยพรือเพฮะ” "จะต้องทำอะไรนางเพคะ"นางกำนัลข้างกายอดที่จะเข้าข้างต้าเหนิงเสียไม่ได้จะว่าไปก็ดีที่สนมเอ่อต้าเหนิงแข็งข้อแบบนี้ในวังหลวงมีการข่มเหงกันไม่เว้นแต่ละวัน สนมเอ่อต้าเหนิงอาจเป็นเพียงไม่กี่คนที่ไม่มีใครกล้าข่มเหงนาง“ข้าส่งสนมหวงสื่อหยินแต่ฝ่าบาทกลับประหารนาง
ห้องหนังสือบ้านลู่ ลู่สือห่าวนั่งบนเก้าอี้ จางเหมียน(อีกหหนึ่งคนในผู้นำสี่ตระกูลใหญ่นั่งเผชิญหน้ากัน“ข้าแค่รู้สึกไม่สู้ชอบใจกับสิ่งที่เฉินตงลี่ทำ การที่จะชิงบัลลังก์ เพื่อฝ่าบาทของเรา แต่เขากลับสร้างเงื่อนไขมากมายเพื่อให้ตัวเองได้ความได้เปรียบและอ้างความชอบธรรม คนบ้านเอ่อผิดอะไรจึงต้องทำร้ายนางแบบนั้น”“เฮ้อข้าเองก็ไม่ชอบ อดสงสารคุณหนูบ้านเอ่อ เอ่อต้าเหนิงเสียไม่ได้ที่ผ่านมานางพยายามด้วยตัวเองที่ไม่ต้องตกเป็นคนของกัวกั๋วฮ่องเต้ แค่เฉินตงลี่กลับส่งนางกลับคืนวังหลวง เพียงเพราะตั้งใจจะเบี่ยงเบนความสนใจของกัวกั๋วฮ่องเต้ข้าเองตอนนี้รู้สึกผิดกับนาง”“ข้าได้ยินว่า…กระซิบเบาๆราวกับว่ามีใครจะได้ยินทั้งที่อยุ่กันเพียงสองคน”ลู่สือห่าวขมวดคิ้ว“หากพลาดพลั้งไม่เท่ากับวางหัวนางบนแท่นประหารไปเสียแล้ว เฉินตงลี่ทำแบบนี้ก็ไม่ถูก ใช้นางเป็นเครื่องมือทำการใหญ่เพียงลำพังเช่นนั้นทำไมไม่ส่งลุกสาวไปเล่า ลูกสาวของเฉินตงลี่ก็งดงามเพียงนั้นกักตัวไว้ในบ้านไม่ให้พบปะผู้คนกลัวว่ากัวกั๋วฮ่องเต้จะเห็นนาง ข้าเข้าใจเจตนารมณ์เขาดีที่มาวันนี้จึงเพื่อบอกกับท่านว่าหากใครสักคนที่จะเหมาะสมกับฝ่าบาทของเราก็ควรเป็นคุณหนูบ้านเ
ตำหนัก16“หืออออ ดีใจจังท่านหมอก็มา”หมอเทวดาเยี่ยนฉือยิ้มบางๆกับท่าทีดีใจของต้าเหนิอดสงสารต้าเหนิงเสียไม่ได้“นางอยู่ด้วย ข้าไม่พูดกับเจ้า”หลบตามองพื้น“ธรรมดาเจ้าค่ะเจายี่ เคยทำไม่ดีมาก่อนข้าน้อยเจายี่ขอตัวก่อน”ย่อกายแล้วเดินจากไป ต้าเหนิงยิ้มตาหยี“ท่านหมอมาได้อย่างไร”“ข้าทีแรกตั้งใจจะเดินมาแต่มันไกลเหลือเกินก้เลยอาศัยเกี้ยวของบ้านลู่ที่ที่ผ่านมาประสบเข้าพอดี”ต้าเหนิงยิ้มเจื่อนๆกวนทีนละ555“หายเศร้ายังได้ยังเจอมุกนี้555”ต้าเหนิงยิ้มเศร้าๆ ก็หายนิดๆแหละ“ท่านหมออย่าพูดแบบนี้ต้าเหนิงจะร้องไห้”พูดไปพร้อมกับก้มหน้าเยี่ยนฉือตบที่หน้าอกพร้อมอ้าแขนกว้างต้าเหนิงเหลือบตามองรู้สึกเหมือนเด็กที่กำลังร้องไห้โยเยแล้วได้รับคำปลอบใจจากคนสูงวัยกว่าความห่วงใยอบอุ่นเหลือเกิน“มาซบอกข้าสิ อยากร้องมาซบอกข้าร้องไห้ได้ฟรีๆข้าไม่หวง”ต้าเหนิงน้ำตาปริ่มขอบตา ยิ้มทั้งที่น้ำตากำลังจะไหล“ถ้าจะเศร้าแบบนี้แล้วจะเข้ามาทำไม ทนอยู่ที่นั่นหรือหนีไปที่อื่นเสีย หรือไม่ก็บอกหวางเย่ไปสิว่าเจ้าถูกใต้เท้าเฉินกดดันให้เข้ามาที่นี่”ต้าเหนิงส่ายหน้าไปมา คำพูดมันจุกอยู่ที่อก “ไม่ต้องโทษคนอื่นหรอกน่า ข้าอยากเข้ามาเองไม่อยาก
บ้านเฉิน“เตรียมการพร้อมแล้วหรือยัง”ขอรับทัพของเราจากเผยจ่าย กำลังฝึกฝนใกล้จะได้เวลาแล้ว”ลู่ซือห่าวพูดตามความจริงกำลังคนยังขาดประสบการณ์ทางที่ดีต้องฝึกฝนให้มาก“ข้าร้อนใจยิ่งนักฝ่าบาทมีพระบัญชาให้พาอี้เหมยเข้าไปในวังหลวง ข้าแต่เดิมไม่เคยให้อี้เหมยเข้าวังหรืออกหน้าเพราะเกรงว่าวันนี้จะมาถึง”ลู่สือห่าวกระแอมเบาๆ จางเหมียนก้มหน้าซ่อนยิ้มเสียทีเรื่องของตัวเองแล้วเป็นเดือดเป็นร้อน แต่เรื่องของคนอื่นกลับนิ่งเฉย ใครบ้างไม่รักลูกตระกูลเอ่อก็คงรักต้าเหนิงและนางก้คงรักตัวเองไม่ยอมตกเป้นของกัวกั๋ว อยากจะรู้ว่าเฉินตงลี่จะแก้ไขสถานการณ์ลเวร้ายที่กำลังจะเกิดกับบุตตรีที่รักได้อย่างไร“ฝ่าบาทยามนี้มีพระสนมเอ่ออยู่แล้วทั้งคนก็ยังต้องการหญิงอื่นใดอีกหรือ เช่นนั้นแผนการของเราก็คงจะล่มในเมื่อกัวกั๋วฮ่องเต้ยังโหยหาหญิงอื่นเช่นนี้ ท่านเฉินท่านจะหลีกเลี่ยงอย่างไร”ลี่ฟานฟานนิ่วหน้า“จะทำเช่นไรได้บัญชาของกัวกั๋วใครกล้าขัดยิ่งข้ากับพวกท่านก็เป็นคนที่ฝ่าบาทเพ็งเล็ง หากแสดงว่าไม่ยินดีไม่พ้นหัวจะหลุดจากบ่า”เฉินตงลี่เหมือนจะกังวลใจจริงๆ“ เห็นว่า บุตตรีท่านสนิทชิดเชื้อกับหวางเย่ ท่านไม่รวมเอาบุตตรีไว้ในแผนการหรือไ
“ท่านหมอ พระสนมเอ่อให้ตามท่านที่ตำหนักที่16”หมอหลวงรีบรนรานหิ้วหลวมยากระซิบกับเจายี่เบาๆ“สนมเอ่อเป็นที่โปรดปรานเพียงนี้ ข้าควรจะเรียกเงินทองสักเท่าไหร่ดี”เจายี่ยิ้มเจื่อนๆ“ ท่านก็ลองบอกพระสนมเถอะเรื่องนี้ข้า….ขอไม่ยุ่ง”เดินนำทันทีหมอหลวงส่ายหน้าไปมาเบ้ปาก“ชินางอ้วนเจายี่ เดี๋ยวไปเดี๋ยวกลับ เจ้าคงได้เงินทองมากมายสิท่าจึงกันท่าข้า” เดินตามเจายี่ไปอย่างเร่งรีบไม่ได้อืดอาดเหมือนตอนที่ต้าเหนิงกำลังจะตายในตอนนั้น วันนั้นหมอหลวงคนเดียวกันนี้ยังหวานเย็นไม่รู้สี่รู้แปดอะไรทำทีเหมือว่า ไม่ใช่ธุระของตัวเองสนมเอ่อจะตายหรือจะอยู่ก็ไม่เกี่ยวกับเขาตำหนัก16ต้าเหนิงนั่งไขว้ห้าง โบกพัดในมือไปมา ข้างข้างกันนั้นมีองครักษ์ของตำหนักสิบหกสี่ห้าคนยืนอารักขาอยู่ เจายี่ตกใจไม่น้อยคิดไม่ออกว่าต้าเหนิงเรียกองรักษ์พวกนี้มาตอนไหน และมาทำอะไรอย่าบอกนะว่าเอามาเก็บศพหมอหลวง“มาแล้วรึ”น้ำเสียงเรียบเฉยเย้นชาแต่ แฝงไว้ด้วยความตื่นเต้นตื่นเต้นที่จะได้ล้างแค้น“ฮ่าาาข้าน้อยงี้รีบมาเลยขอรับพระสนมเจ็บป่วยตรงไหน ข้าน้อยจะตรวจดูอาการให้อย่างดี”ปากก็พูดมือก็ล้วงเข้าไปในหลวมยาเพื่อคนหาอุปกรณ์ต่างๆในการตรวจอาการป่วยของต้าเ
บ้านเฉิน“เจ้าควรไปบอกหวางเย่เรื่องนี้เรื่องที่พระสนมอยู่แบบหวาดระแวง”หานจงพูดเบาๆราวกระซิบกับท่านหมอเยี่ยนฉือ“หวางเย่ไม่รู้ว่าข้าเข้าไปในวังหลวง ข้าฝืนบัญชาหวางเย่เรื่องนี้และถ้าร้ว่าข้าเขาไปแล้วไม่ได้รู้สึกอะไรไม่ได้ตื่นเต้นอะไรหรือคิดถึงสนมเอ่อต้าเหนิงเหมือนที่นางคิดถึงหวางเย่ เป็นข้าเองที่รู้สึกไม่ดี”“ข้าเชื่อในตัวหวางซือว่าจะไม่มีทางทำแบบนั้น หวางเย่กับสนมเอ่อมากกว่าคนเคียงข้างหวางเย่ของข้าทั้งห่วงใยและคอยปกป้องสนมเอ่อ”“นั่นอาจเป้นเพราบัญชาของไท่ซางหวงหรือเปล่าจึงจำต้องดูแลและปกป้อง”“กล้าพนันกับข้าไหมว่าฝ่าบาทมีใจให้กับสนมเอ่อ”เยี่ยนฉือยื่นมาหน้ามาใกล้ๆ“เดิมพันคืออะไร”“เงินเก็บทั้งชีวิตสามในสิบส่วนของข้า”หานจงพูดแบบไม่ต้องคิด“ไม่ได้ใจดำเพียงนั้นหากเจ้าแพ้พนันขอแค่ยอมตาใจข้าสามวัน ไม่ว่าข้าต้องการอะไรเจ้าจะต้องยินยอมหรือเรียกว่าเป็นทาสข้า สามวันเท่านั้น แบะหากข้าแพ้พนันก็เช่นเดียวกันข้ายินดีเป็นทาสเจ้าสามวันเช่นกัน”“ได้ ข้าหานจงไม่คยก้ลวสิ่งใด มะไปด้วยกันไปบอกหวางเย่ว่า พระสนมฝากความคิดถึงมาถึงหวางเย่”คว้ามือเยี่ยนฉืออย่างลืมตัวอีกคนก้มมองมือที่หานจงกำไว้แน่นด้วยความรู้สึก
“พอเถอะยิ่งพูดเหมือนข้ายิ่งเลวอย่างไงไม่รู้ ไปเดินเล่นกัน ที่ตำหนักม่านฟ้าดีกว่า”เอ่ยปากชวนยิ้มๆแต่ในใจรู้ดีว่ากำลังเริ่มแผนการตามขั้นตามตอนที่ตกลงกันไว้ใต้เท้าเฉินเจายี่ยิ้ม“เพคะ ฝ่าบาทเสด็จที่นั่น เห็นว่ากำลังสร้างตำหนักใหม่ให้กับสนมคนใหม่”ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลง “สนมคนใหม่มิน่าล่ะคงดีใจเหมือนได้แก้วกำลังจะได้สนมคนใหม่เร็วๆนี้ ว่าแต่ใครคือสนมคนใหม่แล้วทำไมข้าไม่เคยเห็นหน้านาง”อดสงสัยไม่ได้“สนมคนใหม่หรือเจ้าค่ะ ได้ยินขันทีข้างกายฝ่าบาท ที่ปากไม่มีหูรูดคนนั้น พูดว่าเป็นคุณหนูรองจากบ้าน..เฉิน”ต้าเหนิงขมวดคิ้ว“จะจะจริงหรือ แล้วนางยอมเข้ามาหรือไรยอมถวายตัวหรือไร”“โอ๊ย เจ้าค่ะใครๆเขาก็ยอมกันทั้งนั้นไม่มีใครเหมือนพระสนมหรอกเจ้าค่ะ”“นี่เจ้าบังอาจว่าข้าหรือ”“จริงๆเจ้าค่ะใครๆเขาก็อยากจะเป็นที่โปรดปราน”“เช่นนั้นเจ้ามาเนรมิตข้าที่ให้เป็นที่โปรดปรานบ้างเถอะ”เจ้ายี่ยิ้ม“พระสนมก็งดงามอยู่แล้วเจ้าค่ะ ฝ่าบาทชอบสีชมพูก็ต้องสวมใส่อาภรณ์สีชมพูเจ้าค่ะ”ต้าเหนิงคิดถึงใครบางคนที่ชอบสีอะไรก้ไม่รู้ รู้แต่ว่าต้าเหนิงเข้าใกล้ที่ไรเหมือนผื่นจะขึ้นป่านนี้ยังนับปะคำอยู่ไหมนะบ้านเฉิน ฉินเกอหลงนับปะคำในท
วังหลวงตำหนักม่านฟ้ากัวกั๋วฮ่องเต้นั่งจิบชาที่ริมศาลาไม้ยามบ่าย แรงงานยังคงลงมือสร้างตำหนักใหม่เพื่อสนมคนใหม่ของกัวกั๋ว ใครบ้างจะมีเวลามาสนใจสิ่งรอบข้างยกเว้นกั่วกั๋วฮ่องเต้ร่างบางของต้าเหนิงยืนหันหลังชื่นชมดอกเหมยอยู่ห่างออกไปจากศาลาทำเหมือนว่าไม่เห็นว่ากัวกั๋วอยู่ตรงนั้นพอดีกับที่สายผมพัดผ่านกัวกั๋วฮ่องเต้ หันไปตรงที่ต้าเหนิงยืนอยู่พอเหมาะพอเจาะกัวกั๋วฮ่องเต้อ้าปากค้าง ราวกับโลกกำลังหยุดหมุน“นางคือใคร”กัวกั๋วฮ่องเต้หยุดนิ่งเมื่อต้าเหนิงยืนอยู่ใต้ต้นดอกเหมยสีแดงงดงาม ระรานตาอาภรณ์สีชมพูหวานมวยผมถูกเกล้ารวบเรียบตึง ปล่อยปอยผมระข้างแก้มใสริมฝีปากสีชมพูใส สวยจนคนมองแทบหยุดหายใจ“สนมเอ่ออย่างนั้นหรือนางคือสนมเอ่อนั่นเอง”แววตาระยับด้วยความรู้สึกตื่นเต้นกับภาพงดงามตรงหน้า นางตั้งใจจัดฉากต่อหน้าเขาให้งดงามแหละไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผมหรือแม้แต่การยืนใต้ต้นดอกเหมย นั่นนางก็จงใจให้งดงามและเป็นสีที่เขาชอบ“เพฮะนั่นคือสนมเอ่อ”ขันทีข้างกายประสานมือสอพลอ ไม่เคยเอ่ยคำขัดใจสักครั้ง“นางตั้งใจมายั่วยวนข้าเพราะเห็นว่าข้ากำลังจะรับสนมคนใหม่เข้ามาท่านว่าอย่างนั้นไหมกงกง”ขันทีชรายิ้มประสานมือก้มศ
ฉินเกอหลง ก่อนหน้านั้นเมื่อพันปีก่อนยืนโปรยเถ้ากระดูกของต้าเหนิง“ฝ่าบาท ท่านหมอเยี่ยนฉือกับหานจงขอประทานอนุญาตออกเดินท่องยุทธภพ หวังว่าฝ่าบาทจะประทานอนุญาติในครั้งนี้”เชียวกงเล่อประสานมือตรงหน้า ความรู้สึกเหมือนบางอย่างแหว่งเว้าหายไป“ในที่สุดเราทุกคนก็ได้แค่เพียงเป็นเถ้าธุลี ปลิวหายไปพร้อมกับสายลม ข้าเองแม้จะอยากทำตามใจเพียงใดสุดท้ายข้าก็ได้แค่เพียงสะกดกลั้นความคิดนั้นไว้เสีย”“พ่ะย่ะค่ะท่านพ่อ..กงเล่อหมายถึงท่านปู่ของฮองเฮาเอ่อถูหวังซวน เสียใจที่ต้องสูญเสียคนของตระกูลเอ่อไปจนไม่เหลือใครแม้กงเล่อขอใช้แซ่ของตระกูลเอ่อแต่ท่านพ่อก็ยังเศร้าโศกเช่นเดิมกงเล่อเข้าใจดีว่าไม่อาจทดแทนกันได้”“จริงสินะในที่สุดตระกูลฉินก็ไม่อาจปกป้องตระกูลเอ่อไว้ได้ ข้าที่ทุ่มเทตั้งแต่วันแรกที่พบนางก็ยังไม่อาจช่วยเหลือนางได้ทันเช่นนั้นจึงเรียกว่าเป็นความผิดของข้า”“ไม่มีใครผิดพ่ะย่ะค่ะสวรรค์กำหนดไว้แล้วหากไม่มีฝ่าบาทบางที่ตระกูลเอ่ออาจไม่เหลือรอดตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกฆ่าล้างตระกูลฝ่าบาททำดีที่สุดแล้ว”“จริงสินะในครั้งแรกที่ข้าพยายามช่วยชีวิตเอ่อต้าเหนิงจากคนชั่ว และครั้งที่สองข้าที่พยายามช่วยชีวิตนางจากการสั่งกา
หนึ่งปีผ่านไป“โอ้ๆๆๆๆอย่าร้องนะคนดีมาให้พ่ออุ้มเร็ว”ฉินเกอหลงพูดไทยสำเนียงแปลกๆคุณหมอดนัย ส่ายหน้าไปมา“เมื่อไหร่จะพูดไทยแข้งแรงสักทีบอกให้สอนกันหน่อยก็ไม่เอาวันๆเอาแต่ผลิตลูกดูสินี่ก้ท้องอีกแล้วหัวปีท้ายปีเชียว”ต้าเหนิงยิ้มดวงตาเป็นประกาย“คุณแม่ฮับลูกชายหิวนมแล้วฮับ”เสียงออดอ้อนของฉินเกอหลง ทำเอาต้าเหนิงส่ายหน้า รับเอาร่างกระจ้อยมากอดแนบอก แกะกระดุมป้อนนมทารกในอ้อมแขนฉินเกอหลงดวงตาเป็นประกาย หมอดนัยวางยาที่จัดมาสำหรับแม่ลูกอ่อนลงตรงหน้าฉินเกอหลง“อิจแาต้าเหนิงจังมีสามีที่คอยดูแลทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นกับข้าวกับปลาเลี้ยงลูกเตือนให้กินยา ถ้ามีแบบนี้รักตายเลย บ้านช่องก็เลยไม่กลับมาคตอยดูแลภรรยาตั้งสองสามเดือนแล้วธุรกิจที่นั่น ไม่ต้องห่วงหรือ”ฉินเกอหลงยิ้มกำลังเรียบเรียงคำพูด“ผมจัดเตรียมทุกอย่างและประชุม ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ในมุกเช้าจึงไม่ต้องห่วงอะไรหากว่ามีอะไรขัดข้องก็จะเรียกประชุมทันที ทางนี้ผมเองไม่อาจวางใจ ต้าเหนิงเขาต้องมีผมคอยดูแล เขาลำบากอุ้มท้องลุกของผม เขาต้องอุ้มเด็กอีกคนไว้ในท้องฉะนั้นผมเลยคิดว่าไม่มีใครจะดูแลต้าเหนิงได้ดีเท่าผมและควรจะดูแลต้าเหนิงอย่างดี”หมอดนัยส่าย
“คุณไม่อยากลองขอฉันแต่งงานดูอีกสักทีหรือ”อมยิ้มฉินเกอหลงเลิกคิ้วสูง“อยากสิ ถ้าอย่างนั้น แต่งงานกับผมนะครับ”คุกเข่าลงกับพื้นที่ด้านล่างมีกลับดอกเมหยสีชมพูดร่วงเกลื่อนกราดต้าเหนิงยิ้มพยักหน้าขึ้นลง ฉินเกอหลงรวบร่างบางไว้แนบอกอีกครั้ง“ขอบคุณขอบคุณจริงๆ ที่ยอมแต่งกับผม”ยิ้มหว้างสดใสจนต้าเหนิงต้องยิ้มตาม““ความจริงแล้วเธอไม่ได้ติดค้างอะไรหรอกนะที่ตามหาเพราะต้องการชดเชยให้คุณอย่างไรเล่า ต้าเหนิง”ต้าเหนิงเลิกคิ้วสูง เมื่อฉินเกอหลงกระซิบข้างหูเบาๆ“คุณพูดอะไรนะ อย่าบอกนะว่าคุณ เพิ่งจะข้ามภพมา”ฉินเกอหลงเองก็เลิกคิ้วสูง“ข้ามภพหรือ แค่ความฝันหรือเปล่าสิ่งที่ผมฝันในทุกๆคืนนั่นก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในอ้อมแขนของผม เธอกำลังเจ็บปวดและทรมานผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมามีหยาดน้ำตาทุกครั้ง ตั้งแต่จำความได้ พอโตขึ้นมาสิ่งที่ผมตั้งใจทำมาตลอดคือตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ให้จิตกรมาวาดภาพเธอคนนั้นไว้ในห้องนอนเพื่อให้ได้เห็นหน้าเธอในทุกๆวัน คุณอยากเห็นรูปผู้หญิงคนนั้นไหม”ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลง“คุณอยากเห็นก็คงต้องไปส่องกระจกแล้วล่ะ เพราะรูปนั่นเหมือนคุณอย่างกับแกะ”ดึงมือต้าเหนิงให้เดินเคียงข้างกันไป“คุณฝันถึ
ฉินเกอหลงจอดรถลงข้างทางที่ประดับด้วยไฟหลากสีใต้ต้น ดอกเหมยสีชมพูเบ่งบาน ผู้คนเดินจูงมือคู่รัก“คุณชอบดอกเหมยหรือ”ต้าเหนิงถามเบาๆ“ชอบ อยากให้ต้าเหนิงได้เหนมันไงเล่ากว่าจะผ่านไปแต่ละปีจะต้องทนนับวันนับเดือนที่ดอกเหมยบานและร่วงโรยครั้งแล้วครั้งเล่าลำพังเดียวดายตราบนานเท่านาน”ต้าเหนิงก้มมองมือในอุ้งมืออุ่นของฉินเกอหลง ยอมให้เขากุมมือไว้ราวกับคู่รักแต่ไม่ยอมฟังคำพูดเศร้าๆของเขา“ฮ่าาาพามาแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย ไอ้เรารึคิดไปไกลเยว่าจะพาไป…ทำมิดีมิร้าย”ฉินเกอหลงส่ายหน้าไปมา“วางใจเถอะไม่เอาไปขายหรอก”“หือ ไม่ขายแต่ฆ่าหั่นศพและแย่เชียวฮ่าๆๆๆๆ”ยังตลกได้อีกฉินเกิอหลงหันมาทำสีหน้าจริงจังต้าเหนิงขนลุกเกรียวหรือว่า หรือว่า“จูบได้ไหม”“หา จะจูบเลยหรือ”“ก็ต้องจูบสิคนที่เขาลองคบกันก็ต้องลองหลายๆอย่างว่าเขากันได้ไหม”“อย่าทำแบบนี้นะมาถึงก็จูบเลยหรือจะไม่เอาเปรียบกันไปหน่อยหรือ”ฉินเกอหลงรวบร่างบางมากอดไว้แนบกายจมูกโด่งสูดดมเรือนผมที่หอมละมุนเนิ่นนาน“เจ้าเข้าสู่โหมดโรแมนติกแล้วนะ คิดถึงจังสบายดีไหม”ทอดเสียงอ่อนโยนจนต้าเหนิงตัวเย็น มือที่ยกขึ้นกอดรอบเอวของฉินเกอหลงอย่างกล้าๆกลัวๆก็เย็นเฉียบ“คือๆๆๆค
ต้าเหนิงยิ้มพยักหน้าหงึกหงักกำลังช่างใจว่ากัวกั๋วก็คือกํวกํ๋วหรือว่ากัวกํ่วคนนี้ไม่ใช่กัวกั๋ว“ขอบคุณ แต่จะว่าไปฉันไม่ได้หลงตัวเองนะแต่คุณสองคนกำลังแย่งฉันใช่ไหม”ฉินเกอหลงอมยิ้มกัวกั๋วงง“มีคนแบบนี้ด้วยหรือ คนที่คิดว่าคนอื่นกำลังแย่งคุณผู้หญิงไท่กัวเป็นแบบนี้ทุกคนไหมนะ”ฉินเกอหลงเปยเบาๆต้าเหนิงอมยิ้ม ความคนึงหาทีข้ามผ่านมาปีหนึ่งสิ้นสุดลง“เอาล่ะที่นี้ เราสองคนมาตกลงกันดีกว่าไหมพี่ใหญ่ว่าใครจะจีบก่อนจีบที่หลังไอ้ผมอะนะเริ่มชอบผู้หญิงไท่กัวคนนี้แล้ว”กัวกั๋วพูดขึ้นพร้อมกับใช้ตะเกียบในมือคีบอาหารในจานวางตรงถ้วยข้าวตรงหน้าต้าเหนิง ฉินเกอหลงที่เห็นก็รีบคีบของกินที่คิดว่าต้าเหนิงจะชอบวางลงบนถ้วยข้าวของต้าเหนิงบ้างไฉหรานอมยิ้ม“ต้าเหนิงของเราฮอตน่าดู”หันไปพูดกับเฉินซือกวาน“ก็นะบอกแล้วไงว่าฉันอะนะกำลังโดนแย่งจากคนสองคน”อมยิ้ม“ใครบอก กัวกั๋วนายนะมาทีหลังหลบไปเถอะไม่มีการแย่งชิงอะไรทั้งนั้น”ฉินเกอหลงทรุดกายลงกับพื้นคุกเข่าตรงหน้าพร้อมกับหยิบกล่องกำมยี่สีแดงออกมาจากกระเป๋าเปิดกล่องกำมยี่สีแดงออกแสงแวววาวจากเพชรเม้ดมะหึมาคงราวๆห้ากะรัตสุกสกาวต้องแสงไฟ ต้าเหนิงเลิกคิ้วสูง“แต่งานกบผมนะครับคุณต
“ใครจะบังอาจเล่าค่ะ ต้าเหนิงเองเขาก็ไม่ใช่คนที่พูดมากหรือชอบนินทาใครต้าเหนิงเขาเป็นคนเรียบร้อยน่ารักที่สุด”ไฉหรานเชียร์เต็มที่ ต้าเหนิงยิ้มจื่อนๆ เรียบร้อยอย่างกับผ้าพับไว้ในโรงรับจำนำเถอะ“เรียบ จริงหรือครับ”“อืมมม เรียบร้อยครับคุณฉินไม่ใช่เรียบเฉยๆ” เฉินซือกวานรีบพูดแทรกขึ้นกลัวว่าต้าเหนิงจะรู้สึกไม่ดี เปล่าต้าเหนิง ที่รีบก้มมองหน้าอกของตัวเองมันก็ไม่ได้ราบแบนเสียหน่อยบริกรนำอาหารมาเสริ์ฟบนโต๊ะ ฉินเกอหลงผายมือ“มีที่พักหรือยังครับอี้ตวนของเรามีที่พักมากมายในเครือให้คุณ …ได้เลือกพัก”ต้าเหนิงเลิกคิ้วอมยิ้มแก้มป่องจากฝ่าบาทมากลายเป็นนักขายอย่างไรกัน“ต้าเหนิงเขาพักกับเราค่ะคุณฉินไม่ต้องห่วงเขามาที่นี่แค่5วันตั้งใจพาเที่ยว อย่างที่ต้าเหนิงอยากจะไปเรื่องที่พักก็เลยไม่ใช่ปัญหาที่บ้านของเราก็มีห้องวางอยู่หลายห้อง”ฉินเกอหลงพยักหน้าขึ้นลง บริกรเดินถือช่อดอกกุหลาบสีแดงนับพันดอกมุ่งตรงมาที่ ต้าเหนิงโค้งคำนับอย่างนอบน้อม“ต้าเหนิงรับเอาดอกกุหลาบช่อโตหยิบการ์ดที่สอดไว้ด้านหน้าขึ้นมาอ่าน”ฉินเกอหลงขมวดคิ้ว“ของใคร”ไฉหรานชะโงกมองเพราะความสงสัยแล้วหันไปสบตากับเฉินซือกวาน“เอ่อ คุณฉินกัวกั๋วครับ
ภัตตาคารหรูริมน้ำมองเห็นแสงสีสว่างไสวไปทั่งสะพานที่ทอดข้ามผ่านแม่น้ำสายใหญ่งดามท่ามกลางผู้คน ต้าเหนิงกับไฉหรานมาถึงแล้ว เฉินซือกวานรีบ เปิดประตูรถให้ทั้งสองคนลงมาจากรถด้วยท่าทีราวกับนักันไว้นั่นคือให้ช้าๆเข้าไว้ก็ต้าเหนิงไม่อยากพบเจ้าคนรวยอ้วนพุงพุ้ยและกินจุคนนั้นตั้งใจ ปิดภัตตาคารเพื่อจะได้กินอิ่มๆคนเดียวไม่ได้เพื่อให้ต้าเหนิงนั่งสบายหรือเปย์ต้าเหนิงหรอก“คุณครับ คุณฉินเชิญคุณทั้งสามบนชั้นสองขอรับ”บริกรก้มศรีษะนอบน้อม ต้าเหนิงเงยหน้ามองขึ้นไปบนชั้นสองที่สว่างไสวเห็นเพียงใครบางคนที่นั่งนระเบียงภัตตาคารหรู ต้าเหนิงเบ้ปากเข้าใจเลือกมุมให้มองเห็นพวกต้าเหนิงก่อนแหมร้ายจริง“คุณผู้หญิงครับนี่คือของขวัญต้อนรับสำหรับการยินยอมมารับประทานอาหารกับ...คุณฉิน”“คุณฉิน ฉินอะไร”ต้าเหนิงรับเอากล่องน้ำหอมระดับโลกไว้ในมือไฉหรานยิ้มสดใสดีใจยิ่งกว่าต้าเหนิงเสียอีก“เห็นไหมต้าเหนิงเขาจริงใจแค่ไหน”กระซิบต้าเหนิงเบาๆต้าเหนิงส่ายหน้าไปมาเดินตามไฉหรานที่ดึงมือให้เดินตามเฉินซือกวานขึ้นไปข้างบนชั้นสองพอ้าเหนิงยืนอยู่ชั้นบนเสียงดนตรีก็ดังขึ้นนักดนตรีบรรเลงเพลงหนึ่งทำนองคุ้นหูเหลือเกินต้าเหนิงหยุดนิ่งอยู่กับท
“ทำไมต้องเป็นที่นั่น”อ่านชื่อภัตตาคารหรูริมแม่น้ำที่อาหารอร่อยมากตามรีวิวแต่ราคาแพงหูฉี่“หืออาหารอร่อยมากและที่สำคัญ…”ไฉหรานยิ้มดวงตาพร่างพราว"ฉันว่ามันมากไปฉันอยากกินของอร่อยๆก็จริงแต่ ก็ยังไม่อยากหมดตัวฮ่าาาา"ต้าเหนิงพูดไปยิ้มไปไฉหรานเองก็ยิ้ม"ฉันไม่สิคุณเฉินสามีฉันเขาบอกจะเลี้ยงเธอในฐานะที่เราไม่ได้ชวนเธอมางานแต่งของเราเขารู้ว่าฉันกับต้าเหนิงสนิทกันแค่ไหนก็แค่อยากจะเลี้ยงต้อนรับเธอสักครั้ง""มันหลายตังค์นะฉันเกรงใจ"ไฉหรานยิ้มอีกแล้ว"ไม่ต้องเกรงใจน่าเราตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องต้อนรับเธอให้ดีที่สุดให้เธอประทับใจที่สุดจนอยากจะอยู่ที่นี่เลยดีไหม""ไม่ใช่ล่ะ มันแปลกๆ ฉันว่ามันมีกลิ่นนะ เอาความจริงมาพูดกันเราสองคนคบกันมาตั้งปีหนึ่งฉันไว้ใจเธอมากเลยนะไฉหรานว่าเธอจะไว้ใจได้ และไม่โกหกฉัน"ไฉหรานยิ้มเจื่อนๆนั่งลงข้างๆต้าเหนิงเลื่อนแก้วกาแฟตรงหน้าต้าเหนิงอย่างเอาใจ“คุณเฉินเขานัดใครบางคนดูตัวเพื่อนสาวของเราต้าเหนิงซึ่งเขาก็แค่อยากจะกินข้าวแล้วก็ดูตัวต้าเหนิงไปด้วย คนคนนี้อะนะหล่อที่สุดนิสัยดีที่สุด และเอาใจเก่งที่สุด ที่สำคัญเป็นทายาทโดยตรงที่กำลังจะนั่งตำแหน่งท่านประทานของอี้ตวนในขณะนี้สาว
“แม่จ๋าหนูอยากจะไปเมืองจีน คุณแม่คนสวยใจดีที่สุดในโลกอนุญาตให้ลูกสาวตัวน้อยๆคนนี้ได้ไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจได้ไหม”คุณปทุมยิ้มแกล้งมองไปทางอื่นเสีย“น่านะคุณแม่ขา ต้าเหนิงอยากจะไปจริงๆบรรพบุรุษเราเป็นคนจีนพ้นทะเลๆไม่ใช่หรือแล้วนี่ไม่ให้ต้าเหนิงไปพอต้าเหนิงตายไปจะกล้ามองหน้าบรรพชนได้อย่างไร”แอบเอาประโยคยอดนิยมในซีรีย์จีนมาพูดกับคุณปทุม“จะไปทำไม”“หนูอยาก…เป็นกำแพงเมืองจีนอยากไปพระราชวังต้องห้ามอยากจะเที่ยวจางเจี่ยเจีย”“มีเงินแล้วหรืถึงอยากจะไปพอให้แต่งกับผู้ชายจีนที่เป็นญาติห่างๆกันก็ไม่เอา ทีแบบนี้แล้วอยากจะไปไปคนเดียวมันอันตรายนะ แม่ไม่อนุญาต”“หนูไปแค่ไม่กี่วัน คุณแม่ไม่ต้องห่วงน่าแล้วตอนนี้ที่นั่นก็มีไฉหราน”“ไฉหรานอะไรของแกนั่นไว้ใจเขาได้หรือไม่เคยเห็นตัวเป็นๆเขาสักหน่อยก็ไว้ใจเขา แม่ละท้อใจกับการไว้ใจคนและเข้ากับคนได้ง่ายๆอย่างหนูจังเลยแบบนี้ยิ่งจะทำให้คนชั่วมาตีสนิท”“ไฉหรานเขาไม่หลอกหนูหรอกค่ะเราพูดคุยแลกเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างจนสนิทกันแล้วระยะเวลาเกือบปีมานี้หนูคิดว่าหนูดูเขาดีพอแล้วค่ะ”คุณปทุมถอนหายใจ“แล้วที่หลับที่นอน โรงแรมที่พัก เล่าจัดเตรียมไว้แล้วหรือ”“เรียบร้อยแล้วค่ะตั