“ไม่ได้แอบดูแล้วทำไมถึงรู้ว่าข้าต้องเปลี่ยนอาภรณ์ตัวใหม่”อี้เหมยถอนหายใจ“เจ้าน่ะแกล้งโง่เสียบ้างจะฉลาดมากไปแล้วสงสัยมากไปแล้ว พี่ใหญ่ก็คือคนสำคัญของบ้านเฉิน หากเจ้าเที่ยวเอาเรื่องนี้ไปพูดว่าพี่ใหญ่แอบดูเจ้าอาบน้ำเพียงเราะเจ้าสงสัยเขาและ และอะไรก็แล้วแต่เจ้าก็ควรสงบคำเสียบ้างไม่มีใครสอนเจ้าเรื่องนี้เลยหรือว่าเรามาอาศัยบ้านของเขาก็ควรเคารพเจ้าบ้าน นี่เจ้าคิดว่าที่นี่เป็นบ้านตระกูลเอ่อที่แหลกสลายไปแล้วหรือว่าคิดว่าที่นี่คือตำหนักสิบหกของเจ้าจึงได้ทำตัวไม่อ้อนน้อมเช่นนี้”ต้าเหนิงกำลังขยับปากจะเถียงนี่ก็แสดงว่าเป็นเจ้าบ้านจะทำอะไรก็ได้สินะแล้ว แล้วให้อ่อนน้อมกับคนที่แอบดูต้าเหนิงอาบน้ำเนี๊ยนะ“พอแล้ว อี้เหมย พี่ใหญ่ของเจ้าผิดเองที่แอบเข้ามาโดยพลการที่แห่งนี้ยกให้หวางเย่แล้วข้าก็ไม่ควรเข้ามาวุ่นวายอีก เอาเป็นว่าข้าขอโทษเจ้าด้วยพระสนมเอ่อเดิมข้าตั้งใจจะเยี่ยมอาการบาดเจ็บของหวางเยว่แต่ว่ามาทีไรพบนางอยู่ที่นี่ทุกครั้งและคิดว่าท่านอ๋องคงยังไม่ฟื้นก็ควรรอให้ท่านอ๋องฟื้นขึ้นมาก่อนจึงจะมาอีกที” คิดว่าขอโทษแล้วก็จบหรือฝากไว้ก่อนเถอะ“พี่ใหญ่ หวางเยว่ฟื้นแล้ว”“ฟื้นแล้วแล้วทำไมพวกเจ้าไม่อยู่คอยดูเ
“เช่นนั้นขาจะส่งนางไปที่วิหารเทียมฟ้าเสียก็จะถือว่า บัญชาของไท่ซางหวงฝ่าบาททรงทำตามบัญชาแล้วต่อไปจะเป็นจะตายก็ไม่เกี่ยวกับเรา ไทฮองไทเฮาก็ทรงจำศีลที่นั่นบางทีหากนางบวชเสียกัวกั๋วจึงจะไม่ประหารนาง หรือหากจะทำอะไรนางก็ต้องเกรงใจไทฮองไทเฮาบ้างไม่มากก็น้อยตอนนี้ทางเดียวที่เราจะทั้งหมดจะรอดก็คือจะต้องให้ฝ่าบาทปลอดภัยและยอมที่จะทวงบัลลังก์คืน และตอนนี้ข้าว่าถึงเวลาแล้วทั้งฝ่าบาทและกัวกั๋วฮ่องเต้บาดหมางกันเกินกว่าที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”ลู่ซือห่าวถอนหายใจยาวในวันนั้นที่ลู่ซือห่าวเข้าพบฉินเกอหลงพร้อมกับถวายฎีกาและถามคำถามสำคัญสิ่งที่ฉินเกอหลงตอบกลับมาคือไม่ และไม่“ฝ่าบาทเคยตอบกลับข้ากับคำถามสำคัญนี่แล้วว่า …ไม่”“แล้วหากสิ่งที่พวกท่านคิดมันผิดเล่าฝ่าบาทมิได้ทำเพราะบัญชาของไท่ซางหวงหากแต่เป็นเพราะมีใจปฏิพัทธ์สนมเอ่อผู้งดงามที่แม้แต่กัวกั๋วฮ่องเต้ยังปรารถนาในตัวนางที่พูดว่าจะประหารก็คงแค่เพียงพูดให้ตัวองไม่ต้องอับอายแต่ในความเป็นจริงแล้วข้าเห้นว่ากัวกั๋วฮ่องเต้ปรารถนาในตัวนางเพียงใดถึงกับตั้งใจให้นางนั่งตำแหน่งฮองเฮาในเทศกาลโคมไฟใครๆก็เห็นว่ากัวกั๋วทำเพื่อนางทั้งหมด เช่นนั้นทำไมเราไม่ใช่สนม
เพียงพริบตากับจูบรสหวานฉินเกอหลงก็พลิกตัวลงในท่านอนหงายปล่อยต้าเหนิงเป็นอิสระ ต้าเหนิงรับจัดแต่งอาภรณ์ที่หลุดลุ่ย“ขอโทษ”น้ำเสียงออ่นโยนเหลือเกินทำให้รู้สึกว่าอีกคนรู้สึกผิดจริงๆ อาการตัวสั่นหายไปริมฝีปากที่ดำคล้ำก็กลายเป็นแดงใสเหมือนเดิม“มะมะไม่เป็นไรหรอก”ถึงจะบอกไปอย่างนั้นแต่รู้สึกนอยด์เหมือนกัน"ข้าไม่อาจระงับอาการเจ็บปวดได้ด้วยตัวเอง แต่เมื่อร่างกายของเจ้าที่ข้ากอดจูบทำให้ความเจ็บปวดบรรเทาเบาบาง”จะดีใจหรือเสียใจดี เขาหาอะไรทำให้ลืมความเจ็บปวดสินะต้าเหนิงทำตาโต ตายแล้ววววแล้วถ้าเขาเจ็บขึ้นมาอีกไม่มีต้าเหนิงแล้วบังเอิญในบังเอิญอี้เหมยหรือใครอยู่ใกล้ๆเขาไม่กอดจูบให้ตัวเองหายเจ็บปวดหรือๆไร แ้ลวถ้าไม่มีใครอย่างไรจึงจะหายเจ็บปวด“ หวางเย่ อี้เหมยนำชายามบ่ายกับขนมมาถวาย”อี้เหมยเดินเข้ามาพร้อมกับสาวใช้คนนั้น สาวใช้นามเสี่ยวฟางคนที่ยกสำรับมาให้อี้เหมยที่อยู่ๆก็เดินมากระแทกต้าเหนิงจนเกือบล้มอี้เหมยต้องประคองไว้ นางยัดอะไรบางอย่างในมือของต้าเหนิง“ขอโทษจริงๆเจ้าค่ะ พระสนมเปรอะเปื้อนแล้วไหมเล่าเจ้าค่ะ พระสนมไม่ออกไปล้างอาภรณ์ที่เปรอะที่ห้องน้ำเจ้าค่ะ”เสี่ยวฟางนางเป็นคนพูดเจื้อยแจ้วและก
“อยากกอดก็กอดเสียให้พอ”นั่งนิ่งไม่ไหวติง“แล้วถ้าอยากจะจูบเล่า ละละแล้วอยากทำมากกว่านั้นเล่า”สายตามากความหมายยังส่งมาให้ตลอดเวลา“ท่านอ๋องจะผูกมัดต้าเหนิงไปเพื่ออะไร”เสียงสั่น“เพื่อให้เจ้าเป็นของข้าคนเดียว”ฉินเกอหลงรั้งเอวบางให้แนบชิด“ช่างเถอะนั่นมันเรื่องของท่านอ๋อง.... ไว้ใจคนบ้านเฉินได้แค่ไหน”ฉินเกอหลงขมวดคิ้วแต่ยังไม่คลายอ้อมกอด“เจ้ากังวลใจอะไร”“ต้าเหนิงก็แค่คิดว่าหากไม่มีต้าเหนิงหรือหากแค่ฝ่าบาทที่บาดเจ็บมาเขาจะดูแล และจะดีกับฝ่าบาทใช่ไหม”ปลายเสียงเศร้าแต่อีกคนไม่ทันจับสังเกตุ“บ้านเฉินกับข้านะหรือ เดิมเป็นพวกเขาที่เสด็จพ่อให้การไว้วางใจข้าเชื่อใจพวกเขาแปดในสิบส่วนที่เดียว แต่หากกัวกั๋วฮ่องเต้จะกดดันพวกเขา ข้าก็คงไม่อาจรู้ว่าพวกเขาจะเลือกภักดี.... กับข้าหรือว่าเลือกทางรอด เจ้าไม่วางใจพวกเขาหรือไรหรือไร คนเราเมื่อถึงคราวที่ใกล้ตายหรือกำลังจะตายมักจะเผยธาตุแท้ ข้าสัญญาจะไม่ให้เจ้าต้องลำบากจะปกป้องเจ้า แม้ว่าจะไม่เหลือใครที่อยากให้เจ้ามีชีวิตอยู่ก็ตามขอให้รู้ไว้ว่ามีข้าที่จะไม่มีทางให้เจ้าต้องพบกับอันตราย” ต้าเหนิงยกมือกอดรอบเอวหนาซบหน้าลงบนอกกว้าง“ต้าเหนิงมาที่นี่เพียงลำพังเหลื
“ฮ่าาาาในที่สุดเจ้าก็เข้าใจอะไรเสียที การที่จะเอาบัลลังก์มังกรมาใส่พานให้กับฝ่าบาท เจ้าก็ต้องลงทุน”ต้าเหนิงยิ้มหวาน“ขอบคุณใต้เท้าเฉินที่สั่งสอน”เฉินซือกวานยทนเอามือกอดอกรู้สึกสับสนกับสิ่งที่ต้อตัดงสินใจ“ว่าแต่เจ้าจะไม่เสียใจทีหลัง แล้วกล่าวหาว่าข้ากดดันเจ้าใช่ไหมหากวันใดที่ไม่เป็นดั่งใจเจ้า”“ข้าต้าเหนิงตัดสินใจ ทำสิ่งใดลงไปแล้วไม่มีทางเสียใจตอนนี้ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว รอแค่ใต้เท้าส่งเสริมข้า ไปกันเถอะค่ะเวลาของเราเหลือน้อยแล้ว”ก้าวเดินออกจากห้องขึ้นไปบนเกี้ยวไม่เหลียวหลังเฉินซือกวาน ถอนหายใจยาววังหลวงต้าเหนิงเดินก้มหน้าเข้ามาพร้อมกับองครักษ์ที่เดินตามมาด้วยสองคน ไม่ได้มีท่าทีว่าหวาดกลัวคล้ายกับว่าต้าเหนิงคนที่กลวตายคนนั้นหายไปแล้วกัวกั๋วฮ่องเต้ ยิ้มเหยียดเดินเข้ามารวบเอวบางของต้าเหนิงบังคับให้เดินเข้าไปในตำหนัก“อยู่ในกำมือของข้าแล้วต่อก็เหลือแค่….จะทำอย่างไรให้หัวใจเจ้าอยู่ในกำมือข้าเช่นกันกับร่างกาย”เชยคางมนให้สบตาต้าเหนิงยิ้มเย็นสองสัปดาห์ผ่านไปหานจงที่กำลังปีนขึ้นไปบนผาสูงเยียนฉือยืนมือให้จับแต่อีกคนกลับมองผ่าน“นี่หากรังเกียจกันขนาดนี้ แม้แต่มือยังไม่ให้สัมผัสโดน เจ้าก็จะต
วังหลวง“หือ ซูบผอมไปที่เดียววันนี้ข้าให้เจายี่นางกำนัลคนเก่าที่เคยดูแลเจ้ากลับมาดูแลเจ้าอีกครั้ง”ต้าเหนิงก็แค่เหลือบตามมอง จะเป็นใครก็จะสำคัญอะไร เจายี่หอบห่อผ้าเข้ามาท่าทีกล้าๆกลัวๆ"พระสนม เจายี่กลับมาแล้ว"ภายใต้การกดดัน หลายวันที่ผ่านมาจะว่าเว้นระยะให้หายใจหรือะไรก็แล้วแต่แต่กัวกั๋วอ่องเต้ไม่ได้เหยียบเท้ามาที่นี่“เพคะ น้อมบัญชาฝ่าบาท”หัวใจหลุดลอยไปหาใครบางคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่“เจ้าควรจะเอาใจข้ามากกว่านี้ในเมื่อ ข้าไม่ประหารเจ้าอย่างที่พูดไว้แต่แรก”เดินมายหยุดตรงหน้าต้าเหนิงแลกกับการที่ต้าเหนิงยอมกลับมา จึงทำให้รู้ว่ากัวกั๋วที่ภายนอกมองเพียงผิวเผินก็แค่บุรุษมากรักคนหนึ่ง เหลาะแหละไม่ได้จริงใจอะไร แต่ภายในเขากลับเป็นคนที่น่ากลัวทีเดียว เป็นคนที่ตัดสินใจเด็ดขาดบอกว่าไม่ประหารก็คือไม่ประหาร บอกว่าไม่ตามฉินเกอหลงก็คือไม่ตาม แต่ใจจริงแล้ว คงรู้ว่าฉินเกอหลงบาดเจ็บปางตายหรืออาจเอาชีวิตไม่รอดเพราะพิษที่อาบไว้ในกระบี่เล่มนั้น พี่น้องก็คงไม่ต่างกันเพียงแต่แสดงออกต่างกัน“ช่างเถอะ อีกไม่นานเจ้าจะต้องยอมคุกเข่าต่อหน้าข้า ไม่อยากกดดันเจ้าในวันนี้แต่สักวันที่ข้าเหลือจะทน ข้าก็จะไม่ยอมนิ่งเฉ
วังหลวงซุยเอ่อร์นางกำนัลที่มีประเด็นกับต้าเหนิงนางสวมใสอาภรณ์งดงาม นั่งลงข้างล่างตรงกางหว่างขาของกัวกั๋วฮ่องเต้บีบนวดขาอ่อน ราวกับเป็นของที่ต้องลูบไล้ได้ทั้งวัน“อ่าาาา อ่าาาซุยเอ่อร์เจ้านี่ อย่างไรก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังข้าละชอบเจ้าจริงๆ”“เพคะ กลับมาครั้งนี้เป็นเพราะซุ่ยเออร์ทนคิดคิดฝ่าบาทมิได้ตั้งใจจากไปเพื่อรักษาชีวิต สนมเอ่อโหดร้ายที่สุดนางจ้างวานให้คนผู้หนึ่งนำซุ่ยเอ่อร์ไปฆ่าที่นอกวังหลวง แต่ด้วยซุ่ยเอ่อร์ยังมีความหวังว่าจะได้พบฝ่าบาทจึงหาทางต่อรองกับคนของนางและรอดมาได้”ความจริงนะหรือหาใช่การต่อรองแต่เป้นการยอมทอดกายให้คนผู้นั้นยั่วยวนจนมือสังหารอ่อนหัดนั่นใจอ่อนยอมหลันนกับซุ่ยเอ่อร์และซุ่ยเอ่อร์ก็สังหารคนผู้นั้นอย่างเลือดเย็นในตอนที่เขาหลับไหลไปเพราะอิ่มเอมรสสวาทจากซุ่ยเอ่อร์“หากข้าจะบอกเจ้าว่า อยู่กับข้าเป็นคนของข้าทำนทุกค่ำคืนแต่อย่า ได้ยุ่งเกี่ยวกับเอ่อต้าเหนิงเจ้าจะทำได้หรือไม่”รอยยิ้มหวานหยดแต่ในใจกลับ รุ้สึกขัดใจ“ซุ่ยเออ่ร์ถูสั่งฆ่าโดยสนมเอ่อ ฝ่าบาทให้ซุ่ยเอ่เลิกแล้วต่อกันคงเป็นไปไม่ได้”กัวกั๋วฮ่องเต้สะบัดตัวลุกขึ้นยืนชี้หน้าซุ่ยเอ่อร์ด้วยความโมโห ซุ่ยเอ่อร์รีบถอยออกมาคุก
“นางเป็นใคร เจ้ารู้จักนางไหม”เอียงคอถามเจายี่“นางคือนางกำนัลซุ่ยเอ่อร์ เจ้าค่ะ คนนี้แหละเจ้าค่ะที่ ๆๆสั่งให้ข้าวางยาพระสนม”ต้าเหนิงกำลังเบื่อๆเซ็งๆพอดี เงยหน้าขึ้นยิ้มมุมปาก“ใครเป็นพี่เจ้า เป็นนางกำนัลถือดีอย่างไรมานับญาติกับสนมเอกอย่างข้า”เจายี่ก้มหน้ายิ้มซุ่ยเอ่อร์ยิ้มมุมปาก“สนมเอ่อ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร เห็นข้านอบน้อมเจ้ายังไม่สำนึก ข้าไม่เกรงใจแล้วข้าน่ะนะแวะมาสมน้ำหน้าเจ้าอย่างไรเล่า ฝ่าบาทกักบริเวณเจ้าไม่ให้ใครเข้าออก ทำทีไม่พอใจข้าหรือ ข้าไม่สงวนท่าทีกับเจ้าแล้วนางมาร ใครอยากจะเรียกเจ้าว่าพี่หญิงกัน เป็นไปได้ข้าอยากจะจิกหัวเรียกเจ้าอย่างที่เจ้าเคยทำกับข้าด้วยซ้ำไป พวกเจ้าจับนางจิ้งจอกเอ่อต้าเหนิงไว้โอหังดีนักข้าจะสั่งสอนนางว่าตอนนี้ใครกันที่ควรจะนอบน้อมกับใคร” นางกำนัลร่างใหญ่ที่ซุ่ยเอ่อร์นางเลบือกมาเดินเข้ามาับตัวต้าเหนิงไว้เจายี่รีบเข้ามาขวางกลับกูกนางกำนัลร่างใหญ่สะบัดมือเข้าใส่ใบหน้าจนล้มกลิ้งไปกับพื้น“ยอมเสียดีดีข้าอยากจะลองจิกผมเจ้าลากเจ้าไปกับพื้นลองเอามีดเย็นเฉียบนาบที่แก้มของเจ้าและ อยากจะลองตบเจ้าดูสักครั้ง พวกเจ้าจับนางไว้”นางกำนัลร่างใหญ่เดินเข้ามาประชิดตัวต
“ส่งข่าวบอกกับเสด็จย่า ข้ายังไม่สะดวกที่จะกลับไปแสวงบุญที่วิหารเทียมฟ้าอยู่อย่างนี้ก็ดีแล้วเวลานี้ไม่เหมาะสมที่จะโยกย้าย” หานจงถอนหายใจยาว หันหลังก้าวเดิน เสียงลูกดอกแหวกอากาศมาแต่ไกลพุ่งเข้าใส่ฉินเกอหลงที่นั่งนั่งทว่าฉินเกอหลงกลับใช้ประคำในมือตวัดเข้าใส่ดอกให้ตกลงข้างกายหานจงพุ่งตัวตามต้นตอของลูกดอก บุรษที่สวมอาภรณ์พรางตัว พุ่งตัววิ่งลัดเลาะบนกำแพงหนีออกจากวัดไปง่ายดาย“ไม่ต้องตาม”“หวางเย่ แย่แล้วใครกันที่คิดทำร้ายหวางเย่ได้อีกก็ในเมื่อร่างข้อตกลงว่าจะไม่ ทำร้ายและสังหารหวางเย่แล้วนอกจากนั้นหวางเย่ยังมีใครที่คิดจะทำร้ายอีก”ฉินเกอหลง ขมวดคิ้วดกดำ“นั่นสินะ ข้าไร้สามารถที่จะบอกว่าใครเป็นคนที่คิดจะจัดการกับข้า”“หวางเย่ ควรจะคิดเสียใหม่เถิด ใครจะปล่อยให้ศัตรูยังมีชีวิตอยู่เป็นหอกข้างแคร่ไปวันๆ”“นั่นสินะข้าเองที่เข้าใจผิดไปเองว่ายอมถอยแล้วกัวกั๋วฮ่องเต้จะปล่อยข้าไป” หมู่บ้านซูตง“เรีบบร้อยหรือไม่”“ขอรับท่านจ้าวบ้านข้าน้อยแค่ทำให้ฉินเกอหลงรู้ว่ามีคนปองร้าย”“ดีมากจัดการ ต่อไปได้เรื่อยๆ จนกว่าเขาจะยอมเดินทางกลับวังหลวง” เอ่อถูหวังซวนยิ้มมุมปาก“อีกไม่นานอีกไม่นานเท่านั้นฉินเกอหลงจะต้อง
บ้านเฉิน“นางกำนัลที่ชื่อเจายี่”“เจ้าค่ะคุณหนูรอง พูดคุยกับนางแล้วเจ้าค่ะ นางยินดีรับเงินที่คุณหนูรองมอบให้นางและนางยินดีทำตามคำสั่งของคุณหนูรองเจ้าค่ะ”“ดีมากมอบยาให้นางหรือยัง”“เจ้าค่ะ ข้าน้อยสงสัยเจ้าค่ะยานั่นไม่ทำให้ตายทำไมคุณหนูไม่ให้ยาที่ทำให้ตายได้เลยเจ้าคะจะยื้อเวลาไปทำไมกัน พระสนมเอ่อตายได้ก็สาวมาไม่ถึงคุณหนูรองอยู่ดี เพราะท่านเฉินเป็นถึงผู้นำสี่ตระกูลใหญ่”“ข้าตั้งใจให้นางค่อยๆ ป่วยและตายไปในที่สุดกว่าทุกอย่างจะพร้อมให้นางอยู่ในฐานะสนมให้สบายพอท่านอ๋องกลับมานางก็จากไปพอดีช่างน่าสมเพชยิ่งนัก” สาวใช้นิ่งงันคิดไม่ถึงว่าเฉินอี้เหมยจะมีความคิดที่ร้ายกาจเช่นนี้“ส่งยาเข้าไปเรื่อยๆ คงอีกสักพักว่านางจะล้มป่วย”ตำหนักสิบหก“เครื่องเสวยที่ฝ่าบาทประทานมาให้กับพระสนมเอ่อเป็นเครื่องเสวยที่ได้วัตถุดิบจากโพ้นทะเล อีกอย่างอาหารทะเลพวกนี้หายากยิ่งแล้วกว่าจะส่งมาต้องใช้กล่องไม้ที่สั่งทำเป็นพิเศษใส่น้ำทะเลลงไปให้สัตว์น้ำที่ต้องการ นำมาถวายเป้นเครื่องบรรณาการกับฝ่าบาทได้อาศัยและยังต้องให้อาหารเลี้ยงดุจนพวกมันอ้วนท้วนส่งมาถึงนี่เพื่อปรุงเครื่องเสวยที่สดใหม่” ขันทีตัวเค่อเดินยกปูม้าตัวใหญ่สองสาม
“ไม่มีจริงๆ แล้วสินะ ต้าเหนิง ลูกแม่แกเสียใจไหม” คุณปทุมถาม ต้าเหนิงน้ำเสียงเศร้าๆ“ไม่นี่แม่ ไม่ได้รู้สึกอะไรโล่งใจด้วยซ้ำ”“ต้าอย่าทำเป็นฝืนใจเลยต้า แม่ขอโทษ ที่ทำให้..หนูอายคนอื่นเขา”“ไม่ใช่แม่สักหน่อย เป็นคนพวกนั้นต่างหากที่ตั้งใจมาหลอกเราจะว่าไปได้ที่ดินตั้งเกือบร้อยไร่เพื่อต่อทุนทำไมพวกเขาไม่ยอมมาแต่งนะ” ตั้งข้อสังเกตคุณปทุมถอนหายใจยาว“ป๊าส่งคนตามกวนหยงแล้ว แต่จนป่านนี้ยังไม่ได้ข่าว”“ช่างเถอะค่ะใครสนกันไม่แต่งก็ไม่แต่งก็แค่ดูตัวไปเรื่อยๆ จะยากอะไร”คุณปทุมยิ้มเศร้าๆ“แม่กับป๊าไม่น่าบังคับต้าเลย” ต้าเหนิงกอดรอบเอวอวบของคุณปทุม“อย่าคิดมากน่าคุณนายปทุมใครเขาโทษป๊ากับแม่เล่า ดีจะตายไม่ได้แต่งไม่งั้นคืนนี้ไม่ได้หลับได้นอน” คุณปทุมขำกับความทะลึ่งของต้าเหนิง“ดีสิแบบนั้นแม่จะได้มีหลานเร็วๆ”“ไม่อย่างนั้นสิคะ ที่ไม่ได้นอนเพราะเอาแต่คิดรายรับรายจ่ายจนหัวหมุนกว่าจะขาดทุน” คุณปทุมอมยิ้ม“ป๊าแกก็เสียใจป่านนี้คงโทรไปต่อว่าคนพวกนั้น ดึกขนาดนี้ใครจะรับโทรศัพท์ ต้าไปนอนได้แล้วลูกเกือบจะตีหนึ่งแล้ว” ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลงอย่างว่าง่ายเดินขึ้นไปชั้นบนห้องนอนของต้าเหนิงที่ถูกจัดเป็นห้องหอผ่าน
วันนี้ต้าเหนิงถูกคุณปทุมคุมตัวมานั่งที่ห้องด้านล่างเพื่อใช้สำหรับแต่งตัว ไมไ่ด้จัดงานที่โรงแรมอย่างที่ควรจะเป็นเพียงจัดที่บ้านหลังใหญ่ราคาหลายสิบหลานที่ป๊าของต้าเหนิงเป็นคนสร้างมันขึ้นเองกับมือไม่มีแขกมีแค่ญาติผู้ใหญที่มาคอยดูความสำเร้จของลูกหลาน ตามธรรมเนียมไทยแท้“วาสนาจริงๆ นะคะเนี๊ยะ ดูสิสินสอดตั้ง100ล้านทำบุญด้วยอะไรคะเนี๊ยะ” หนึ่งในญาติผู้ใหญ่ที่แม่บอกต้าเหนิงแต่ความจริงแล้วก้แค่เพื่อนสมัยปฐมของแม่ที่ยังแวะเวียนกินข้าวเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกัน ตั้งประเด็นให้คนอื่นพลอยชื่นชมสิ่งที่ต้าเหนิงและคุณปทุมกำลังจะได้รับ“มีลูกสาวสวยก้บแบนี้แหละค่ะ ว่าแต่หนูต้านี่26แล้วใช่ไหมคะทำไมหน้าเด็กๆ แล้วยังสวยกว่าดาราบางคนอีก” เพื่อนอีกคนที่มักจะชอบพูดไปในด้านดีเสียหมดพูดขึ้นบ้างคุณปทุมยิ้มจะได้โอกาสคุยโม้ก็วันนี้แหละ“ยัยต้านะเหรอคะโอ๊ย เขาก็หน้าเด็กแบบนี้แหละค่ะ แต่สมองอะนะเกินตัวคิดอะไรนี่อย่างกับคอมพิวเตอร์ มียัยต้าคนเดียวสบายแปดอย่างนี่เขาเหมือนพ่อเขานะ เดินทางสายอสังหาเหมือนกันเดือนๆ หนึ่งยัยต้าขายบ้านได้เป็นสิบๆ หลังได้เงินมาก็คงไปแต่งสวยเขาแหละแม่กับพ่อไม่เคยขอสักบาทแต่จะว่าไปของแทร่ทั้งนั้น
“ต้องแต่งแล้วหรือคะ ตายแล้วต้ายังไม่ได้บอกเพื่อนๆ เลยเรื่องนี้ ไวไปไหมคะ”จะมีกี่คนกันศัตรูจะมากมากกว่าสินะฮ่าาาาคุณปทุมส่ายหน้าระอาใจ“สมัยนี้เขาก็แต่งกันสายฟ้าแลบแบบนี้แหละ ใครๆเขาก็ทำกัน”“เขาแน่ใจหรือคะ ว่าเขาอยากจะแต่งหนูหน้าก็ยังไม่เคยเป็นกันสักครั้ง” นัดสองครั้งต้าเหนิงก็แกล้งไปไม่ตรง เวลาจนผู้ชายคนนั้นไม่รอใครจะรอเล่าไปสายสองชั่วโมงแต่มาบอกกับคุณปทุมว่า เป็นฝ่ายชายที่ไม่มาให้ต้าเหนิงรอเก้อถึงอย่างนั้นแม่กับพ่อก็ยังไปตกลงให้ต้าเหนิงแต่งกับเขาอีก“อย่างไงก็ต้องแต่ป๊าแกตกลงกับ พ่อกับแม่เขาไว้แล้ว”“แม่ ผู้ชายคนนั้นไม่มาดูตัวต้าเลยนะแม่คิดว่าเขารักลูกแม่จริงหรือ….” คุณ ปทุมถอนหายใจ“ป๊าแกอะ ตอนนี้ยังอยู่กับก๊วนเพื่อนตีกอล์ฟอยู่เมืองจีน เขาบอกว่าผู้ชายเขาเตรียมขันหมากมาแล้วเราแค่จัดสถานที่ไว้รอ เขาไปกินข้าวกับพ่อกับแม่ของผู้ชายตกลงกันแล้วเรียบร้อย ต้าก็แค่ยอมแต่งไปเขามีกิจการใหญ่โต กำลังขยายกิจการมาลงทุนในไทย แล้วต้าอะนะปีนี้26แล้วอยู่นานไปไม่ดีนะคนจีนเขาว่ายิ่งแต่งไวยิ่งสบายไปข้างหน้า แม่จ้างออแกไนท์ไว้แล้วเราแค่จัดสถานที่พรุ่งนี้ขันหมากก็มา”ต้าเหนิงขมวดคิ้วทำมต้องเป็นฝ่ายหญิงที
ภัตตาคารแห่งหนึ่งต้าเหนิงหอบกระเป๋าวิ่งเข้าไปข้างในเลยเวลานัดอีกแล้วจูหรานนั่งอยู่อีกมุมหนึ่งคอยมองผู้หญิงที่ใส่เดสสีขาวสะอาดนั่นก็คือต้าเหนิง“สวยไม่เบา” พูดขึ้นเบาๆกวนหยงหลุบตามองโต๊ะอาหาร สวยสิสวยจนเขาตกตะลึงสวยกว่าจูหรานไม่น้อยเขานิยมผู้หญิงสวยหวานเวลานอนร่วมเตียงยามที่กำลังนัวเนียกัน จะหวานขนาดไหน แต่พูดไปเสียอีกทาง“นัดบ่ายสี่โมง มาหกโมงเย็น ใครจะรอ”“คุณอย่างไรเล่า คุณสือกวนหยงที่นั่งรออยู่ที่นี่แต่ไม่ไปพบ”“การนัดหมายของเราสองคนสิ้นสุดแล้วเขาไม่มาตอนสี่โมงก้เท่ากับไม่มาถ้าผมแสดงตัวว่ารอเขาตั้งสองชั่วโมงเขาก็จะหัวเราะเยาะหาว่าผมอยากแต่งกับเขาจนตัวสั่นสินะ”จูหรานยิ้มบางๆ“ผู้หญิงคนนี้เขาจะสำนึกไหมว่าตัวเองมาสายเลยทำให้ไม่เจอคุณ คุณไม่ออกไปพบเขาหน่อยหรือ”“ความจริงผมก็อยากจะพบเขานะแต่ จะลองนัดไปดูอีกครั้งว่าจะมาสายอีกไหม” จูหรานอมยิ้ม“สวยไหม”“ไม่เท่าไหร่” ลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปชะโงกแต่รีบหันหลังไม่ให้ต้าเหนิงเห็นเพราะต้าเหนิงที่เดินจ้ำกลับมาทางเดิมพร้อมกับคุยโทรศัพท์กับคุณปทุม“ไม่เจอค่ะคุณแม่คนอะไรให้ต้ามารอตั้งนานต้าไม่รอแล้วนะคะกลับบ้านดีกว่าค่ะเสียเวลา” กวนหยงยิ้มมุมปาก
“เป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจจริงๆ เลยครับ”“ผมเคยไปดูตัวมาแล้วผู้หญิงคนนี้เหมาะที่จะเป็นโสดจนตาย” หนุ่มคนหนึ่งพูดนินทาให้หนุ่มคนหนึ่งฟังเรื่องต้าเหนิง“เราพบผู้หญิงคนเดียวกันใช่ไหม”“นั่นใช่นางเลยแหละต้าเหนิงคนนั้นคนที่ ปากจัดเหลี่ยมเยอะ” ต้าเหนิงที่นั่งหันหลังอยู่อีกฝั่งของชายหนุ่มทั้งสองยิ้มมุมปากคุณปทุมส่ายหน้าไปมา“แย่จริง พรุ่งนี้แม่นักคนดูตัวให้อีกคนจากประเทศจีนอีกแล้ว”“ใครคะ”“ญาติห่างๆๆๆๆ กับเรา เขามีธุรกิจเป็นของตัวเองหล่อรวยและโปรไฟล์ดี”“ก็แบบนี้ทุกคน แต่คนนี้ไม่เชิงว่าดูตัวแม่กับพ่อลงความเห็นกันแล้วเราแค่อยากให้พวกลุกได้พบกันความจริงเราทาบทามและหาฤกษ์ดีไว้แล้ว”ต้าเหนิงเลิกคิ้ว ใช้ตะเกียบในมือพันเส้นหมี่ฮกเกี้ยนในจาน“มัดมือชกเลยหรือ”“กินข้าวกันสองสามครั้งแล้วแต่งเลยพรุ่งพบกันที่ร้านเดิมที่แม่เคยนัดหนุ่มๆ ไว้ให้ต้านั่นแหละลูก” ต้าเหนิงถอนหายใจเฉิงตู“ยังโสดครับท่าน ชื่อว่าคุณต้าเหนิงโสดสนิท มีคนมาดูตัวแต่ก็ไม่เคยตกลงกับใคร” ฉินเกอหลงพยักหน้าขึ้นลง “หาทางพามาที่นี่ได้หรือยัง” หานจงถอนหายใจ (หานจงก็มา) “ยังไม่รู้ว่าจะเอาแบบไหนเลยครับผมไม่รู้จะจัดการอย่างไร ถ้าเป็นที่นี่ใครๆ
ต้าเหนิง เดินทอดน่องอยู่บนสถานีรถไฟฟ้า“กริ้งๆๆๆๆ” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นรีบเอาแนบหู“สวัสดีค่ะ” ปลายสายพูดเบาๆ“ใครคะรู้จักเราด้วยหรือคะ”“ไม่รู้จักแค่จะโทรมาด่า อินังสารเลวอิชั่วแย่งผัวชาวบ้านอิหน้าด้าน อิ กระ…” ต้าเหนิงสตั้นแป็บ“นี่มาได้กันแบบนี้เลยหรือฉันไปทำอะไรให้คุณ”“ผัวฉันพูดถึงเธอทุกวัน คอยดูนะแม่จะบุกไปตบให้” ต้าเหนิงถอนหายใจ“ฉันแค่ขายบ้านผัวเธอชื่ออะไรฉันจะได้ไม่ต้องขายบ้านให้เคสนี้ขอผ่าน” เสียงปลายสายบ่นงึมงำ“คุณ กำธร” ต้าเหนิงถอนหายใจยาว“ขอบคุณ รอรับผลกรรมได้เลย” วางสายพร้อมกับยิ้มหยันยี่สิบนาทีต่อมา“เห็นไหมฉันอยู่กับใคร” ต้าเหนิงนอนบนเตียงด้วยชุดนอนบางเบา แกว่งเนกไทในมือไปมาวีดีโอคอลให้สาวคู่กรณีเมื่อครู่ได้เห็น“แกๆๆ นางต้าเหนิงแกเอาผัวฉันไปกกหรือ”“ฮะๆๆๆ ฮ่า ฉันไม่ได้กกเขา แต่เขากกฉันจริงไหมคะคุณกำธร อย่าลืมโอนเงินค่ามักจำบ้านด้วยนะคะเพิ่มอีก6แสน สำหรับเรื่องบนเตียงในวันนี้ของเรา ฮ่าาาา” หันไปทางด้านหลังทำหน้าเหยเกเหมือนกำลังกำลังโดนกระทุ้งด้วยอะไรบางอย่างอยู่ที่บั้นท้าย ปลายสายหน้าถอดสี“กรี๊ดดดดดดดฉันจะฆ่าแก แกนังต้าเหนิงฉันจะฆ่าแก” ต้าเหนิงกดวางสาย ยิ้มมุมปากเ
วิหารเทียมฟ้า“ไทฮองไทเฮาเพคะ มีคนผู้หนึ่งอยากจะไทฮองไทเฮาเพคะ”ร่างท้วมหยุดชะงักเงยหน้าขึ้นมองรูปสลักองค์พระประติมาที่แกะสลักจากหยกขาวสูงตระหง่านในวิหารเทียมฟ้า“เชิญเขาเข้ามาได้” ร่างสูงสวมหมวกปิดบังใบหน้า หนวดสีเทายาวลงมาที่กลางอกเดินเข้ามายืนตรงหน้าไทฮองไทเฮาที่หน้าถอดสี“ท่านผู้นี้ ท่านยังไม่ตายหรอกหรือ” เอ่อถูหวังชวนเงยหน้าขึ้นยิ้มน้อยๆ“ซีโหยว ท่านยังความทรงจำเกี่ยวกับข้าอีกหรือ”“ความทรงจำมากมายด้วยเรื่องของเราสามคน” ไทฮองไทเฮาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นน้อยๆ“ฮะฮะฮ่าาาา ข้ามาดีไม่ได้มาทวงความแค้นอะไรกับท่านหรอกแค่อยากจะบอกเรื่องที่เคยตกลงกันไว้”“เรื่องคนของตระกูลเอ่ออย่างนั้นหรือ ไท่ซางหวงพยายามตลอดมาที่จะให้คนในตระกูลเอ่ออยู่สบายแต่พอสิ้นไท่ซางหวง” ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปถึงจะบอกว่าพยายามก็ไม่อาจบังคับกะเกณฑ์ใครได้ ตอนนี้จึงได้ภาวนาให้นางรอดพ้นวิกฤติ” หมายถึงอะไรยังมีเหลือคนของตระกูลเอ่ออยู่อีกหรือไร”“ท่านไม่ได้มาเพราะเรื่องนี้หรือ ข้าไม่อาจห้ามปรามนางได้นางเข้าวังไปอาศัยบารมีของไทเฮา นางช่างเดียงสานักไม่รู้หรือไรว่ากำลังขี่หลังเสืออยู่ เดิมข้าคิดแค่เพียงว่านางเข้าไปเพื่อพบ…ฉินเกอห