“คุณ ไม่สิท่านอ๋อง จะเริ่มอย่างไรดี ฉัน..คือ..ต้าเหนิงคือข้า”อีกคนยังคงนั่งนับปะคำ
“นั่งลง อย่ามาเดินวนรอบตัวข้า”หลับตาแล้วเห้นว่าเดินวนได้อย่างไรแอบมองสิท่า
นั่งลงชันเข่าจ้องอีกคนที่นับปะคำ
“ไต้ซือ ท่านละทิ้งทางโลกได้จริงๆหรือ”เท้าคางมอง
ยังไม่ทันจะได้ิยนคำตอบหานจงกลับเข้ามาอีกครั้ง
“หวางซื่อองครักษ์ของวังหลังออกค้นหาคนร้ายในเขตวังหลังหานจงจึงกลับมาอารักขาท่านอ๋อง”
“หานจง ..ข้าพูดได้แล้ว” เดินมากางแขนหมุนรอบๆข้างหน้า หานจงเลิกคิ้วสูงยิ้มกว้าง
“หือ ยาของท่านหมอเทวดานี่ดีจริงๆ”ต้าเหนิงยิ้มกว้างสดใส อ๋องฉินหลุบตามอง
พื้นเสีย
“คิดว่าไม่พบแน่”
“ขอรับไม่มีทางจะพบไม่ว่าจะด้วยเหตุใด”
“ไปนอนได้แล้ว”อ๋องฉินสั่งต้าเหนิงที่มานั่งตากลมบ้องแบ๋วคอยฟังอ๋องฉินกับหานจงคุยกัน
“ยังไม่ง่วง”
“บอกให้ไปนอนก็ไปนอน นี่ยามโฉว่แล้วไปนอนได้แล้ว”
“ใครจะหลับลงเล่าเพิ่งจะผ่านการถูกความตายมาหมาดๆ”
“หานจง ส่งพระสนมเข้านอน”หานจงชี้มือที่อกของเขา
“เอ่อหวางซื่อ ให้หานจงหรือขอรับ”
“เจ้านั่นแหละนางพูดมากน่ารำคาญและเรื่องที่เราจะหารือกันนางก็ไม่ควรอยู่ตรงนี้คอยตะแคงหูฟัง”นี่ก็พูดตรงเกิน แต่ถ้าจะพูดตรงๆกว่านี้ว่านายกำลังจะนินทาฉัน
“ไปก็ได้ ไม่จำเป็นต้องให้ใครไปส่งนอนฉันไปเองก็ได้”ต้าเหนิงลุกขึ้นเดินช้าๆเข้ายังแท่นนอนด้านใน
“หวางซื่อ คิดอย่างไรกับเรื่องนี้”
“นางงดงามและยังทำตัวใกล้ชิดกับเราเกินไป”หานจงยิ้มเจื่อนๆ
“หานจงหมายถึงเรื่อง เรื่องการลอบสังหารในครั้งนี้” อ๋องฉิน เงยหน้าขึ้นถอนหายใจแก้เขิน
“ข้าเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า นางทำไมถึงมีคนอยากให้ตายมากขนาดนี้นางมีส่วนได้ส่วนเสียเรื่องไหนกันแน่”
“ไทฮองไทเฮาจะต้องให้คำตอบได้แน่”หานจงตั้งข้อสังเกต
“เสด็จย่าไม่ได้ใช้ชีวิตในวังหลวง ปีปีหนึ่งเร้นกายที่วิหารเทียมฟ้าเช่นไรจึงจะเข้าใจเรื่องราวในวังหลวง”
“เช่นนั้นคงต้องหาคำตอบเพียงลำพัง ข้าน้อยเห็นว่าพระสนมน่าเอ็นดูเพียงนี้หากจะมีใครสักคนที่อยากให้นางตายก็คงเป็นฮองเฮา กุ้ยเหรินกุ้ยเฟย สนมอันดับต่างๆของฝ่าบาทและอาจมีนางกำนัลอีกส่วนที่เคยรับใช้นางอย่างเช่นนางกำนัลเจายี่คนนั้น แต่พวกนางคงได้แค่คิดไม่ได้ลงมือ”
“ข้าเห็นว่าเจายี่เกือบจะลงมือกับนางแต่นางเสแสร้งว่าไม่รู้เรื่องนี้แล้วหาทางเอาคืนเจายี่ จะเห็นได้ชัดว่านางถีบกัดเจายี่จนนางต้องหนีไปไม่อยู่รับใช้เหมือนที่ควรจะเป็น”หานจงยิ้ม
“หวางซื่อท่านช่างสังเกตยิ่งแล้ว เช่นนั้นคงมีหลายคนที่อยากให้นางตายทว่าเหตุผลหลักๆก็ยังไม่อาจทราบได้”
“เจ้ายังไม่รู้อีกหรือหานจง เห็นได้ชัดว่านางร้ายกาจฉลาดเป็นกรดหากแต่ทำทีราวกับคนโง่งมต่อหน้าเรา ย้ำว่าต่อหน้าเรา เพราะเจายี่นางรับใช้สนมเอ่อมานานนางเองคงรู้ว่าต่อไปจะต้องลงปรโลกไปแน่หากยังอยู่ข้างกายสนมเอ่อ”
“หวางซื่อท่านมองพระสนมในแง่ร้ายไปหน่อยหรือไม่”
สีหน้าของอ๋องฉินยังคงเรียบเฉย หลุบตามองพื้น
“หญิงงามมักจะนำความยุ่งยากมาให้ เช่นนั้นไม่ควรวางใจพวกนาง”หานจงยิ้ม
“ราวกับหวางซื่อ เคยถูกหญิงงามกระทำย่ำยี”
“พรุ่งนี้จะต้องสืบหาตัวคนร้ายให้ได้ ในวังหลังไม่ยินยอมให้ผู้อื่นที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปข้างในเพราะเป็นที่ที่เหล่าสนมของฝ่าบาทรวมทั้งฮองเฮาและไทเฮาประทับที่นั่นเราก็ควรหาทางสืบข่าวด้วยตัวเอง”เปลี่ยนเรื่องเสีย
“ขอรับ พรุ่งนี้หานจงจะลองหาทางสอบถามเรื่องนี้กับคนจากวังหลัง”ฉินเกอหลงถอนหายใจ
“ติดต่อใต้เท้าลู่ให้ช่วยในเรื่องนี้ บางทีเราควรจะเปลี่ยนแผน”ต้าเหนิงเอาหูแนบกับบานประตูตั้งใจฟังคนทั้งสองพูดคุยและนินทาต้าเหนิง
“ชิ ใครๆก็อยากให้ฉันตายงั้นเหรอแล้วคิดว่าฉันจะยอมตายง่ายๆหรือไรไม่มีทางโป๊กกกก…”อ๋องฉินเปิดประตูกระแทกเข้าที่หน้าผากเนียน
ต้าเหนิงคลำหัวปอยๆ พยักนห้าใฟ้กับหานจงว่าให้มาดูความร้ายกาจของต้าเหนิงไม่ผิดกับที่พูดไว้ หานจงอมยิ้ม
“เจ็บนะโว๊ย”อ๋องฉินส่ายหน้า
“ไปนอนได้แล้ว พระสนมควรจะพักผ่อนมิใช่มายืนแอบฟังผู้อื่นคุยกันเช่นนี้”หานจงรีบพูดขึ้นก่อนที่ฉินเกอหลงจะโมโหผายมือเชิญ ต้าเหนิงให้กลับเข้าไปในแท่นนอน
ต้าเหนิงหน้าเง้า
“ก็ได้ไม่เห็นจำเป็นต้องดุนี่พูดดีดีก็ได้”เดินไปหน่อยนึงเหมือนเพิ่งจะคิดอะไรขึ้นมาได้ พุ่งตัวเข้าไปกระจุ๊บที่แก้มของอ๋องฉินจวิ้นหวังอย่างจัง
“ขอบคุณที่ช่วยข้า”ทำท่าจะกระโดดไปจุ๊บหานจงที่รีบยกมือกันไว้ อ๋องฉินแก้มแดงถึงใบหู
“อ่าพระสนมไม่ต้องเกรงใจขอรับ”หานจงรีบสั่งเสียงห้ามแต่อ๋องฉินกับ ออกลูกโมโห
“นี่เจ้าไม่มีสงวนท่าทีเช่นหญิงงามทั่วไปเจ้าเป็นถึงสนมของฝ่าบาท”ตอนโมโหนห้าแดงนี่น่ารักดีแฮะ
“ใครสน พวกท่านช่วยชีวิตข้าก็ต้องขอบคุณแต่ตอนนี้เงินสักอี่แปะยังไม่มีเลยข้ามาอยู่ที่นี่พี่น้องก็ไม่มี คนหวังดีก็ไม่มีมีแต่คนคอยจ้องจะฆ่าแกงพวกท่านเป็นใครก็ไม่รู้ปกป้องข้าเพียงนี้ก็ควรขอบคุณเถอะ”
“เลอะเลือนไปนอนเสีย”น้ำเสียงตำหนิชัดเจนแล้วก็ก้าวขาจากไป ต้าเหนิงเบ้ปากคนอะไร เหมือนกับน้ำแข็งเย็นชาสิ้นดี
ห้องบรรทมกัวกั๋วฮ่องเต้
“ฮืมมม หลายวันมานี้สนมซิงซีไม่มีอะไรดึงดูดใจข้าแล้ว ให้ตายสิข้ากำลังคิดถึงสนมคนหนึ่งที่นางยั่วยวนและเร้าใจข้าในยามอุ่นเตียงยิ่งนัก”
ขันทีชราตั่วเค่อประสานมืออมยิ้ม
“สนมคนไหนพ่ะย่ะฮะที่ฝ่าบาทมีความ รู้สึกเช่นนั้นกับนาง”“นางหายป่วยหรือยัง ข้าได้ยินเขาพูดกันว่านางเข้ามาในวังหลวงครั้งนี้หายป่วยไข้แล้ว และยังมีใบหน้าสดใสผุดผาดมีน้ำมีนวล”ขันทีขมวดคิ้ว“ฝ่าบาททรงหมายถึงพระสนมเอ่อต้าเหนิงหรือพ่ะย่ะฮะ””ก็มีนางคนเดียว แต่พักหลังมาป่วยไข้จนน่ารำคาญจะว่าไปนางก็ทำให้ข้าสุขสมไม่น้อยแต่ทำไทำไม ถึงได้ป่วยไข้จนเสียของ”ตั่วเค่อพยักหน้าขึ้นลง“กระหม่อม จะไปสอดแนมหากว่าพระสนมแข็งแรงดีจะให้มาปรนนิบัติในอีกคืนต่อไป”“อืมม มีเนื้อมีหนังไหมข้าไม่ชอบหญิงผอมบางข้าชอบหญิงที่อวบอั๋นเต็มไม้เต็มมือ แห้งผอมเหมือนซากศพไม่อาจรับได้”“พ่ะย่ะฮ่ะ เดิม พระสนมต้าเหนิงงดงามอันดับสองรองจากฮองเฮาแต่ทว่าป่วยไข้จนหมดความงาม ฝ่าบาทก็ทรงให้หมอหลวงจัดยาบำรุงให้นางได้ทั้งพระสนมที่งดงามคืนมาได้ทั้งใจของพระสนมต้าเหนิงเพราะก่อนหน้านั้นฝ่าบาทละเลยนางมาเสียนาน แล้วยังจะได้สนมที่งดงามกลับคืนมา”พยักหน้าขึ้นลง“อืมมมข้าเกือบลืมเรื่องนี้ไปบัญชาออกไปให้หมอหลวงจัดเทียบยาบำรุง อีกอย่างอ๋องฉินอยู่ใกล้นางจะจิตใจสั่นไหวหรือไม่ไต้ซือนั่นยิ่งไม่เคยเข้าใกล้หญิงใดมาก่อน”“ฝ่าบาทอย่าทรงกังวลเลยพ่ะย่ะฮะไต้ซือ
“แล้วไม่กลัวว่าคนเขาจะรุมเกลียดเจ้าหรือ”“ไม่รู้ ข้าอะนะไม่เคยทำร้ายใครก่อนก็แล้วกัน…แค่เอาคืน”“เมื่อคืนข้าเห็นว่าเจ้ากลัวมือสังหารจนร้องห่มร้องไห้กลัวตายขนาดนั้น แล้วทำไมวันนี้ถึงไม่กลัวว่าสนมเอกคนนั้นจะจัดการกับเจ้าด้วยเล่ห์ลวงของวังหลวง”“นั่นสิถ้ามาแบบนางก็พอจะรับมือได้แต่หากถ้าใช้เล่ห์เหลี่ยมข้าจะรับมือไหวไหม ความจริงข้ากลัวตายนะกลัวว่าจะโดนฆ่าแต่เกลียดที่สุดก็คือคนที่มารังแกข้า แบบที่ข้าไม่รู้ ขอบคุณท่านนะที่ช่วยข้าเมื่อกี้”ฉินเกอหลงถอนหายใจ“ฝ่าบาทส่งยาบำรุงร่างกายและจะเสด็จที่นี่ ซึ่งข้าวิเคราะห์ตั้งนานนึกอย่าไงรก็นึกไม่ออกมาว่าเสด็จมาทำไมแต่พอเห็นว่าสนมเอกชิงซี พาคนมาทำร้ายเจ้าจึงเข้าใจได้ในทันทีว่า ฝ่าบาทกำลังทำให้ทุกคนรู้ว่ากำลังจะกลับมาโปรดปรานเจ้าอีกแล้ว”ต้าเหนิงเลิกคิ้วอ้าปากกว้าง“จะมาโปรดปรานข้าไม่น้าาาาาาาาข้ายังบริสุทธิ์ไม่สิ ข้ายังไม่เคยผ่านมือผู้ชาย ไม่สิข้ายังไม่เคยเป็นสนม …อะไรที่ว่านั่นเสียหน่อย”ฉินเกอหลงกับหานจงขมวดคิ้วแล้วกัวกั๋วฮองเต้ คนนั้นไม่เคยให้นางปรนนิบัติเลยหรือไร“เจ้าพูดจาโป้ปดอะไรอีก”ต้าเหนิงขมวดคิ้วพยายามขุดเอาความทรงจำของสนมต้าเหนิงกลับมาแต่เปล
“แต่ หวางซื่อนางอาจกำลังไม่สบาย”“นี่ยังไม่เข้าใจอีกหรือที่ผ่านมานางล้วนแต่เสแสร้ง”ในใจกลับรู้สึกย้อนแย้ง“หวางซื่อแต่”ฉินเกอหลงส่ายหน้ารีบเปิดประตูเข้าไปเพราะความเป็นห่วง ต้าเหนิงนั่งชันเข่าสะอื้นอย่างหนัก“เป็นอะไรไป”จวิ้นหวังทอดเสียงอ่อนโยน หานจงตามมาติดๆ“คิดถึงบ้านนนนนฮือๆๆๆๆทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ฮือออๆๆๆๆๆ”น้ำตาเต็มขอบตา จวิ้นหวังหันหน้าันหลังไม่ชอบนางตาผู้หญิงทำตัวไม่ถูกว่าต้องควรทำเช่นไร“ฮืออออคิดดูสิ มันน่าอนาถแ่ไหนอยู่สบายๆจู่ๆก็ต้องมาเอาชีวิตรอดในแต่ละวันแต่ละคนที่เข้ามาไม่มีใครไม่อยากเอาชีวิต ที่ปรึกษาก็ไม่มีพ่อแม่พี่น้องอยู่ตรงไหนฮืออออ”เดินเข้าไปยืนข้างๆทำสีหน้าเฉยชา แต่มือข้างหนึ่งกดศีรษะต้าเหนิงให้ซบที่อกตัวแข็งทื่อ นิ่งงัน ไม่เอ่ยคำใดปลอบใจแม้แต่น้อย “ฮืออออๆๆๆๆๆๆฮือออออ”มีไหมจูบซับน้ำตงน้ำตาเหมือนคนอื่นเขาหล่อก็หล่อท่าทางก็ดี แต่ดูเอาสิ ตัวแข็งอย่างกับท่อนไม้“หยุดร้องเถอะ”เอ่ยคำพูดแข็งทื่อเหมือนกันกับท่าทาง ต้าเหนิงรวบเอหนามาซบหน้าลงไปสะอื้นอย่างหนักเกลือกลิ้งใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาหานจงหันหลังก้าวเดินออกไปอารักขาอยู่ด้านนอกปล่อยจวิ้นหวังอยู่กับต้าเหนิงเพ
“พระมารดาของข้าต้องสังเวยให้กับการแย่งชิงในครั้งนี้ ท่านคิดว่าข้ายอมง่ายดายหรือหากมิใช่ชีวิตที่ไม่เคยเป็นสุขของพระมารดาอยู่ในมือเขา”“ แล้วฝ่าบาททรงรักษาชีวิตพระมารดาได้หรือไม่”ฉินเกอหลงยังจดจำเรื่องในอดีตไม่เคยลืมเลือน เขาในวัย16ปี วันที่ไท่ซางหวงทรงสวรรคต พระมารดาถูกจับตัวไว้ในคุกหลวง เขาถูกกักบริเวณ ขันทีตั๋วเค่อ เผาลักษ์อักษรมอบบัลัลงก์มังกรให้กับเขาของไท่ซางหวงทิ้งต่อหน้าฉินเกอหลงในตอนนั้นพร้อมกับบังคับให้ร่างสัญญายินยอมรับตำแหน่งจวิ้นหวังเพื่อแลกกับโทษประหารของพระมารดาที่วางยาพิษไท่ซางหวงจนสิ้นพระชนม์โดยการใส่ความของฮองเฮาสุยจือพระมารดาของกัวกั๋วฮ่องเต้ในตอนนั้น แล้วฉินเกอหลงจะกล้าลังเลอย่างนั้นหรือ แต่ฟ้ายังตาในเมื่อวันที่ร่างลายลักษ์อักษรมอบบัลลังก์ให้กับฉินเกอหลงนั้น ใต้เท้าลู่ผู้นำสี่ตระกูลใหญ่ และทั้งสามตระกูลก็อยู่กับไท่ซางหวงด้วย“ฝ่าบาทได้โปรด”ใต้เท้าลู่ไม่เคยยอมแพ้ตลอดสามปีที่ฉินเกอหลงบวชอยู่ทางเหนือ ใต้เท้าลู่ส่งฎีกาในทุกวัน เพื่อให้ฉินเกอหลงกลับมาทวงบัลลังก์คืน“ไม่มีแล้วฉินเกอหลงคนนั้นไม่อยู่แล้ว ข้าในตอนนี้ไร้การแย่งชิง”“ดูดีหรือยังอาภรณ์ชุดนี้”กัวกั๋วฮ่องเต้ตื่น
ความรู้สึกอึดอัดจนอยากจะอาเจียน ความรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย แม่จ๋าช่วยหนูด้วย เหมือนกำลังโดนบีบคอ บีบคอ ใช่แล้วมีใครบางคนกำลังบีบคอ กรอบหน้าอ้วนของใครคนนั้นลอบเดนอยู่ตรงหน้า อี่อ้วนแกบีบคอฉันทำไม“ไทเฮาเพคะ พระสนมกำลัง จะหมดลมหายใจแล้ว”่น้ำเสียงเศร้าสร้อยผิดกับท่าทีที่ออกแรงอย่างเต็มที่ในการบีบคอ ยังยังไม่ปล่อยอีกต้าเหนิงดิ้นรนแต่รุ้สึกว่าทำไมมีแรงเพีงแค่น้อยนิดมือใหญ่ของยายป้าอ้วนบีบที่ลำคอไว้แน่น ริมฝีปากเหยียดยิ้มหยัน ดวงตามุ่งมาดให้ตายดับตรงหน้า นี่กล้าฆ่าคนเลยหรือไทเฮาวัยกลางคนใบหน้ายังงดงามราวกับเพิ่งจะผ่านวัยสาวได้ไม่นานที่ยืนนอกม่านพยายามแหวกม่านสีทึมทึบเข้ามา ขันทีข้างกายรีบจับมือไว้เสีย ไม่ให้ได้ทำอย่างที่ใจคิด“อย่าเลยพ่ะย่ะฮะ พระสนมต้าเหนิงกำลังจะเดินทางไปยังสรวงสวรรค์นางคงอยากให้ไทเฮาจดจำแต่ภาพงดงามของนางก็เท่านั้น อย่าเข้าไปเลยพ่ะย่ะฮะ ไทเฮาเองสุงส่งไม่บังควรจะต้องมาเห็นอะไรที่ไม่งดงามเช่นนั้น”ความตายเช่นไรจึงจะสวยงามคนใกล้ตายอย่างไรจึงจะสวยงาม อี่บ้า ต้าเหนิงพยายามลืมตาขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียง และความอึดอัดที่ลำคอหายไป แต่ภาพที่เห็นคือร่างอ้วนของยายป้าคนเดิมกำลังยกหมอน
“ไทเฮาพ่ะย่ะฮะ อย่าทรงโศกเศร้าเสียพระทัยไปนักเลย ถนอมพระวรกายด้วยพ่ะย่ะฮะ ควรส่งพระศพได้แล้วพ่ะย่ะฮะ พระสนมป่วยไข้เกรงว่าร่างกายจะ ไม่สวยงามอย่างที่ควรจะเป็น และเอ่อเอ่อ อาจเป็นโรคติดต่อได้”ป๊ะแกสิโรคติดต่อเฮอะคิดจะกำจัดฉันหรือ คิดว่าฉันจะเน่าเหม็นหรือ พวกแกนั่นแหละ มือบางค่อยๆขยับกำมือไทเฮาไว้ส่งสัญญาณว่ายังมีชีวิตอยู่แววตาเศร้าโศกเมื่อครู่ของไทเฮาเปลี่ยนเป็นประหลาดใจ และตกใจไม่น้อยรีบดึงมือออก“ต้าเหนิงเจ้ายังไม่ตายหรอกหรือ”พูดราวกับกระซิบต้าเหนิงลืมตาขึ้นช้าๆ จ้องมองคนพูดไทเฮาสวมกอดต้าเหนิงไว้แน่น ต้าเหนิงยกมือขึ้นกอดตอบแต่ไม่อาจเปล่งเสียงพูด“ตามหมอหลวง เจายี่รีบตามหมอหลวง”เปล่งเสียงด้วยความดีใจ ต้าเหนิงถอนหายใจยาว ตัดไปที่เจายี่ที่อ้าปากค้างด้วยความตกใจต่อมาก็คือกำลังใช้สมองกำลังคิดหาคำแก้ตัวถลาเข้ามาข้างในม่าน“พระสนม โธ่พระสนมไม่เป็นไรแล้วหรือเจ้าค่ะ”น้ำตาแห่งความเสแสร้งมาอีกแล้วต้าเหนิงยิ้มเย็น ต้องเน้นๆแล้วแหละเจายี่เอ๊ย ยกเท้าขึ้นถีบไปที่ยอดหน้าของเจายี่อย่างแรงจนนางล้มลงก้นจ้ำเบ้า ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอาการชักกระตุกตาค้างดิ้นทุรนทุราย ไทเฮารีบเข้ามาพยุง“ต้าเหนิง ต้าเหน
“อุอะอะ”น่าเบื่อจากคนที่พูดได้ก็ไม่ได้พูดเดินตามมาตั้งใจชวนคุยและขอบคุณเขา แต่เปล่าเลยเขากลับไม่สนใจจะมองหน้าต้าเหนิงแม้แต่น้อย “หวางซื่อ ได้เรื่องแล้ว”หานจงเดินถือกระบี่และห่อของบางอย่างเข้ามา ในวิหารเทียมฟ้า“ว่าอย่างไร”รีบปัดมือลุกขึ้นไปหาหานจงไม่เหลือบตาแลต้าเหนิงที่หน้าเง้าอยู่ตรงนั้น “นี่คือยาที่ท่านหมอเทวดาจัดมาให้สนมเอ่อ ไม่ได้เป็นใบ้ตั้งแต่เกิดจึงพอจะมีทางรักษาอยู่บ้าง นางถูกวางยาจึงพูดไม่ได้ยานี่อาจช่วยฟื้นฟู มิใช่แค่วางยาให้พูดไม่ได้แต่นางถูกว่ายาสารพัดทั้งอาการป่วยไข้และ ร่างกายซูบผอมอ่อนแอ”“ดีเลย”ต้าเหนิงเดินเข้ามาเมียงมอง ทำเพื่อต้าเหนิงหรอกหรือ แต่ดูท่าทีเรียบเฉยนั่นสิโอ้แม่เจ้าคนอะไรจะนิ่งได้ขนาดนั้น นิ่งจริงน้ำนิ่งไหลลึกหรือว่าแอบนิ่งไปอย่างนั้นหน้าหล่อๆไม่น่านิ่งได้นาน“หวางซื่อ” กระซิบกระซาบกัน ไม่สนใจว่าต้าเหนิงจะตะแคงหูฟัง“ข้าเข้าใจแล้ว ไม่อยากใกล้นางเท่าไหร่เจ้าช่วยเอายานี่ไปให้กับนางกำนัลของเสด็จย่าให้ช่วยเคี่ยวให้สนมเอ่อ”หานจงพยักหน้า“มาแล้วหรือหานจง”เสียงไทฮองไทเฮาที่นางกำนัลพยุงมาที่ลานกว้างของวิหารเทียมฟ้าเอ่ยขึ้นเบาๆน้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยน“เสด็จย่า”
วังหลวงต้าเหนิงนอนเอกคเนกในเกี้ยวหลังใหญ่ ฉินเกอหลงนั่งนิ่งนับประคำอยุ่อีกฝั่งหนึ่งนั่งตัวตรงหลังแข็งเพื่ออะไรกันระยะทางก็ไม่ใช่ใกล้ๆ หรือว่ารักษาภาพลักษณ์เหมือนพวกนักเรียนนายร้อยที่นั่งยืนตัวตรงตลอดเวลา มีจริงนะคนแบบนี้ ทางไกลมากต้องเปลี่ยนคนหามเกี้ยววนกันไปมาถึงยี่สิบสองคนจากวิหารเทียมฟ้าอย่างนั้นจะทนทรมานไปทำไมต้าเหนิงก็ควรนอนดีที่สุด ฮ่องเต้นั้นตั้งใจส่งเกี้ยวมารับเพื่ออะไรความทรงจำบางเบาของสนมต้าเหนิงในหัวบอกกับต้าเหนิงว่าหลายเดือนมาแล้วไม่เคยได้รับใช้ใกล้ชิด อีกทั้งต้าเหนิงยังนอนป่วยลุกไปไหนไม่ได้ฮ่องเต้นั่นก็ไม่เคยสนใจแล้วยังแต่งตั้งสนมชิงซี ที่ท่าทียั่วยวน เอว่าแต่ต้าเหนิงกับฝ่าบาทนี่ได้เสียเป็นเมียผัวกันหรือยังน้าเกี้ยวจอดลงที่หน้าตำหนักเก่าๆเดิมๆที่มีความทรงจำยอดแย่… ตำหนักที่16… นางกำนัลเจายี่เดินเข้ามาในกรอบหน้าของต้าเหนิง ปรับสีหน้าเศร้าสร้อยกระแอมเบาๆ“พระสนมโอ้พระสนมกลับมาแล้ว”น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ แต่ตีหน้าเศร้าต้าเหนิงยิ้มย่อกายลงจับไหล่ทั้งสองข้างของเจายี่ ยังกล้าเสนอหน้ามาอีกหรือก่อนหน้านั้นเจ้าคิดว่าคนอย่างต้าเหนิงสมองเสื่อมหรือไร เจายี่เงยหน้าขึ้นยิ้มกว้างแค่เพ