“พระสนมเอ่อต้าเหนิงกลับมาแล้วเพฮะไทเฮา”ไทเฮายิ้มบางๆ
“ดีแล้วส่งเทียบยาบำรุง ที่ตำหนักของสนมเอ่อ”
“เพฮะไทเฮาแต่ทว่านางไม่ได้ล้มหมอนนอนเสื่อ อีกทั้งยังเดินเหินสะดวกเมื่อวานเจายี่บอกว่าพระสนมชักเกร็งแต่สีหน้ายิ่งผุดผาด ราวกับสาวแรกรุ่นข้าน้อยได้ยินเรื่อวที่นางได้ยาจากหมอเทวดามารักษา”ไทเฮาขมวดคิ้ว
“เจายี่ไม่ได้รับใช้นางแล้วหรือ”
“นางกำนัลเจายี่มาขออาศัยที่ตำหนักพระพันปีของไทเฮานางบอกว่าพระสนมเมื่อวานเกือบจะฆ่านาง ตอนนี้มีเพียง เอ่อ เอ่อไต้ซือเอ๊ย อ๋องฉินจวิ้นหวังที่คอยอารักขาพร้อมด้วยองครักษ์ข้างกายของจวิ้นหวังนามว่าหานจงเท่านั้น”
“ระวังปากของเจ้าอย่าได้เผลอเรียกจวิ้นหวังเช่นนี้อีกเป็นอันขาดจวิ้นหวังถึงจะเป็นคนพูดน้อยไม่เคยกล่าวโทษใครและไม่ถือสาทว่าเป็นถึงจวิ้นหวังเจ้าควรระวังปากมากกว่านี้”
“พ่ะย่ะค่ะ”ก้มหน้าสำนึกผิดปลอม
“ฝ่าบาทมีท่าทีเช่นไร”
“ไม่เช่นไรพ่ะย่ะฮะแค่ได้ยินว่าฝ่าบาททรงให้ช่างในวังหลวงบูรณะตำหนักไร้ชื่อหรือตำหนักที่16ของสนมเอ่อแล้วมีประทานอนุญาตให้อ๋องฉินพำนักที่นั่นได้…สักสองสามวัน”
“พำนักที่นั่นหรือสนมกับจวิ้นหวังเช่นไรจึงให้ใกล้ชิดกัน”ไทเฮาตั้งข้อสังเกต
“ฝ่าบาทอาจะทรงรู้ว่าท่านอ๋องฉิน อยู่ในเพศบรรพชิตก็ได้พ่ะย่ะค่ะ”
คืนเดือนมืดไร้แสงจากดวงจันทรามีเพียงดวงดาวพร่างพราวก็เท่านั้น
“หยาดน้ำตาไม่ร่วงริน
จึงไม่สิ้นซึ่งความหวัง
หายใจเข้าออกดังถูกกดทับทรมาน
ร้าวรานเจียนตาย กลับแย้มยิ้ม”
ไต้ซืออ๋องฉินผู้นั้นบรรเลงเพลงขลุ่ยล่องลอยยามราตรีมืดมน
ต้าเหนิงนั่งชันเข่าบนแท่นนอน
“คนอะไร เวลาอย่างนี้เป่าขลุ่ยเพลงหวานแล้วท่องกลอนเศร้า”บ่นงึมงำแล้วทิ้งตัวลงนอนบนแท่นนอน
“เช้งงงงง”เสียงอะไรอะ ต้าเหนิงผุดลุกขึ้นทันทีนี่มันเหมือนเสียงชักกระบี่
“หนี หนีหนี…..”กำลังจะมุดลงไปใต้เตียงเพื่อจะหนี แต่
กระบี่เย็นเฉียบฟาดอยู่ที่ลำคอขาว ต้าเหนิงกลืนน้ำลายลงคอช้าๆหัวใจกำลังจะวาย
ยกนิ้วขึ้นจิ้มไปที่คมกระบี่ให้ถอยออกไปแต่ไม่เป็นผลเมื่อไอ้หมอนั้นกดคมกระบี่กลับเข้าที่เดิมด้วยสีหน้าโหดหิน
“ตายเสีย”ต้าเหนิงได้ยินเสียงดังคมมีดกรีดลงก่อนคมกระบี่ด้วยซ้ำ
“ฉึบ”ต้าเหนิงหลับตาลงตายแน่ต้าเหนิงฮืออออออๆๆๆ
“ผลั๊กกกก”ฝ่ามืออรหันต์ของใครบางคนซัดเข้าใส่ร่างดำทะมึน ต้าเหนิงทรุดตัวลงกับพื้น คลำที่ลำคอมีเลือดไหลซึมออกมาช้าๆ
“เจ็บจัง เลือด”ต้าเหนิงราวกับถูกสตราฟนิ่งงันไม่พูดไม่จา กำลังช็อก
เสียงโคมครามหากเดาไม่ผิดไอ้มือสังหารนั่นกำลังหนีออกทางหน้าต่าง
“หวางเยว่”เสียงหานจงวิ่งเข้ามาสมทบ
ฉินอ๋องยกมือคว้ามือต้าเหนิงขึ้นมาคลำที่ชีพจรแล้วปล่อยมือต้าเหนิงให้ตกลงข้างกาย ก้าวขาจะตามมือสังหารออกไปเลิกสนใจต้าเหนิงเมื่อรู้ว่าต้าเหนิงยังไม่ตาย
“ฮืออออออเจ็บ เลือดๆๆทั้งนั้นเลย”
ยกมือที่เปื้อนเลือดขึ้นมาดูแล้วกอดฉับเข้าที่ขาแข้งของฉินเกอหลงที่รีบลากขาหนี
“อย่าทิ้งฉันไปฮือออถ้าพวกมันมาฆ่าฉันเล่า”ฉินเกอหลงถอนหายใจปล่อยให้ต้าเหนิงกอดขาไว้อย่างนั้น
ค่อยอุ่นใจหน่อย
หานจงกลับมาแล้ว ยืนประสานมือสำนึกผิดต่อหน้าไต้ซือ
“หวางซื่อ มือสังหารหลบเข้าไปในส่วนของวังหลังข้าน้อยหานจงอับจนหนทางจะตามเข้าไป”
คิ้วคมขมวดเข้าหากัน
“ไม่ต้องตามพรุ่งนี้ จึงจะเข้าไปยามธิวาเพื่อสอบถามเอาความกระจ่าง ตอนนี้ทำได้เพียงแจ้งองครักษ์ฝ่ายในเรื่องมีคนร้าย ให้องครักษ์ฝ่ายในช่วยอารักขาวังหลังด้วย”
หานจงประสานมือจากไป
ต้าเหนิงสะอื้นอย่างหนัก
ฉินเกอหลงดึงขาออกจากการกอดรัด
“หยุดร้องได้แล้ว”
“ก็ก็ขะขะขะข้ากลัวนี่แล้วก็ไม่รู้ว่าจะตายไหมเห็นไหมคอข้ามีแผลฮือออออออเจ็บที่สุดเลยฮืออออออออ”
ก็กลัวตายนี่หว่ากี่รอบกี่รอบก็เฉียดความตายตลอดอย่าบอกนะว่าอยากได้นางเอกที่ฉลาด เข้มแข็งไม่กลัวตาย เสียใจด้วยนั่นไม่ใช่ต้าเหนิงต้าเหนิงกลัวตายแต่ก็ไม่ใช่นางเอกและยังร้ายกาจไม่มีทางยอมให้ใครฆ่าได้ง่ายๆหรอก คนอื่นเขาย้อนเวลามาเป็นอัจฉริยะ ต้าเหนิงนี่ย้อนเวลามามีแต่คนอยากจะฆ่า
“ไม่ตายหรอก นี่ทายานี่เสีย หะ เจ้าพูดได้แล้วนี่”อ้าวจริงด้วยต้าเหนิงยิ้มกว้าง
“เฮ๊ยจริงด้วยพูดได้แล้ว ไม่เป็นใบ้แล้วนี่”
“เย้ๆๆๆๆๆๆๆดีใจจัง” พูดได้แล้วลุกขึ้นกระโดดไปรอบๆ ฉินเกอหลงถอนหายใจส่ายหน้าไปมา
“ไม่เจ็บ ไม่กลัวแล้วหรือ” ต้าเหนิงเหมือนเพิ่งจะนึกได้
พยักน้าขึ้นลงหงอยลงในทันที
“นี่ยา ทาแผลเจ้าเสีย แล้วถอยไปห่างๆข้า”ไม่พูดเปล่าใช้สองนิ้วหยิบขวดยาหย่อนลงบนอุ้งมือต้าเหนิง
ต้าเหนิงรับยาสมานแผลมาป้ายไปที่แผลที่ลำคอแสบเป็นบ้ายื่นยาส่งคืนให้กับ อ๋องฉินที่มองอยู่ก่อนแล้ว พยักหน้าบุ้ยใบ้ไปที่โต๊ะข้างๆเครื่องแต่งตัว ฉินอ๋องเดินมาหยิบยามาแล้วเดินมาหยุดตรงหน้าต้าเหนิง ป้ายยาลงไปบนลำคอของต้าเหนิงที่มีรอยเลือดไหลซึมต้าเหนิงเงยหน้ามองใบหน้าหล่อที่ไม่ได้แสดงสีหน้าว่ารู้สึกอะไร
“หล่อจัง”เสียงแหบหพร่า คนอะไรหล่อเป็นบ้าไม่ว่าจะมองมุมไหน
อ๋องฉินทายาเสร็จก็เดินไปจุ่มมือลงบนชามน้ำล้างมืออย่างละเมียดละมัย ขัดถูเสียนานราวกับช่วงโควิด
“เขาจะฆ่าข้าทำไม”ต้าเหนิงเปิดประเด็นที่สงสัยมานาน ทำไมมีแต่คนอยากจะฆ่าสนมต้าเหนิงคนนี้
“นั่นเป็นข้าที่ต้องถามเจ้าว่าทำอะไรให้ใครเขาแค้นแคืองมาก่อน”ต้าเหนิงย่นจมูก ส่ายหน้าไปมานั่งจุมปุ๊ก
“ที่ส่ายหน้าเพราะไม่รู้ จะเรียกว่าจำอะไรไม่ได้เลยก็ถูก”
“เช่นนั้นก็ จำต้องนั่งรอความตายจึงดี”
ฉินเกอหลงทรุดกายนั่งลงบนแท่นนั่ง หลับตานับปะคำในมือ
“คุณ ไม่สิท่านอ๋อง จะเริ่มอย่างไรดี ฉัน..คือ..ต้าเหนิงคือข้า”อีกคนยังคงนั่งนับปะคำ“นั่งลง อย่ามาเดินวนรอบตัวข้า”หลับตาแล้วเห้นว่าเดินวนได้อย่างไรแอบมองสิท่านั่งลงชันเข่าจ้องอีกคนที่นับปะคำ“ไต้ซือ ท่านละทิ้งทางโลกได้จริงๆหรือ”เท้าคางมองยังไม่ทันจะได้ิยนคำตอบหานจงกลับเข้ามาอีกครั้ง“หวางซื่อองครักษ์ของวังหลังออกค้นหาคนร้ายในเขตวังหลังหานจงจึงกลับมาอารักขาท่านอ๋อง”“หานจง ..ข้าพูดได้แล้ว” เดินมากางแขนหมุนรอบๆข้างหน้า หานจงเลิกคิ้วสูงยิ้มกว้าง“หือ ยาของท่านหมอเทวดานี่ดีจริงๆ”ต้าเหนิงยิ้มกว้างสดใส อ๋องฉินหลุบตามองพื้นเสีย“คิดว่าไม่พบแน่”“ขอรับไม่มีทางจะพบไม่ว่าจะด้วยเหตุใด”“ไปนอนได้แล้ว”อ๋องฉินสั่งต้าเหนิงที่มานั่งตากลมบ้องแบ๋วคอยฟังอ๋องฉินกับหานจงคุยกัน“ยังไม่ง่วง”“บอกให้ไปนอนก็ไปนอน นี่ยามโฉว่แล้วไปนอนได้แล้ว”“ใครจะหลับลงเล่าเพิ่งจะผ่านการถูกความตายมาหมาดๆ”“หานจง ส่งพระสนมเข้านอน”หานจงชี้มือที่อกของเขา“เอ่อหวางซื่อ ให้หานจงหรือขอรับ”“เจ้านั่นแหละนางพูดมากน่ารำคาญและเรื่องที่เราจะหารือกันนางก็ไม่ควรอยู่ตรงนี้คอยตะแคงหูฟัง”นี่ก็พูดตรงเกิน แต่ถ้าจะพูดตรงๆกว่านี้ว่านายกำลังจะน
“สนมคนไหนพ่ะย่ะฮะที่ฝ่าบาทมีความ รู้สึกเช่นนั้นกับนาง”“นางหายป่วยหรือยัง ข้าได้ยินเขาพูดกันว่านางเข้ามาในวังหลวงครั้งนี้หายป่วยไข้แล้ว และยังมีใบหน้าสดใสผุดผาดมีน้ำมีนวล”ขันทีขมวดคิ้ว“ฝ่าบาททรงหมายถึงพระสนมเอ่อต้าเหนิงหรือพ่ะย่ะฮะ””ก็มีนางคนเดียว แต่พักหลังมาป่วยไข้จนน่ารำคาญจะว่าไปนางก็ทำให้ข้าสุขสมไม่น้อยแต่ทำไทำไม ถึงได้ป่วยไข้จนเสียของ”ตั่วเค่อพยักหน้าขึ้นลง“กระหม่อม จะไปสอดแนมหากว่าพระสนมแข็งแรงดีจะให้มาปรนนิบัติในอีกคืนต่อไป”“อืมม มีเนื้อมีหนังไหมข้าไม่ชอบหญิงผอมบางข้าชอบหญิงที่อวบอั๋นเต็มไม้เต็มมือ แห้งผอมเหมือนซากศพไม่อาจรับได้”“พ่ะย่ะฮ่ะ เดิม พระสนมต้าเหนิงงดงามอันดับสองรองจากฮองเฮาแต่ทว่าป่วยไข้จนหมดความงาม ฝ่าบาทก็ทรงให้หมอหลวงจัดยาบำรุงให้นางได้ทั้งพระสนมที่งดงามคืนมาได้ทั้งใจของพระสนมต้าเหนิงเพราะก่อนหน้านั้นฝ่าบาทละเลยนางมาเสียนาน แล้วยังจะได้สนมที่งดงามกลับคืนมา”พยักหน้าขึ้นลง“อืมมมข้าเกือบลืมเรื่องนี้ไปบัญชาออกไปให้หมอหลวงจัดเทียบยาบำรุง อีกอย่างอ๋องฉินอยู่ใกล้นางจะจิตใจสั่นไหวหรือไม่ไต้ซือนั่นยิ่งไม่เคยเข้าใกล้หญิงใดมาก่อน”“ฝ่าบาทอย่าทรงกังวลเลยพ่ะย่ะฮะไต้ซือ
“แล้วไม่กลัวว่าคนเขาจะรุมเกลียดเจ้าหรือ”“ไม่รู้ ข้าอะนะไม่เคยทำร้ายใครก่อนก็แล้วกัน…แค่เอาคืน”“เมื่อคืนข้าเห็นว่าเจ้ากลัวมือสังหารจนร้องห่มร้องไห้กลัวตายขนาดนั้น แล้วทำไมวันนี้ถึงไม่กลัวว่าสนมเอกคนนั้นจะจัดการกับเจ้าด้วยเล่ห์ลวงของวังหลวง”“นั่นสิถ้ามาแบบนางก็พอจะรับมือได้แต่หากถ้าใช้เล่ห์เหลี่ยมข้าจะรับมือไหวไหม ความจริงข้ากลัวตายนะกลัวว่าจะโดนฆ่าแต่เกลียดที่สุดก็คือคนที่มารังแกข้า แบบที่ข้าไม่รู้ ขอบคุณท่านนะที่ช่วยข้าเมื่อกี้”ฉินเกอหลงถอนหายใจ“ฝ่าบาทส่งยาบำรุงร่างกายและจะเสด็จที่นี่ ซึ่งข้าวิเคราะห์ตั้งนานนึกอย่าไงรก็นึกไม่ออกมาว่าเสด็จมาทำไมแต่พอเห็นว่าสนมเอกชิงซี พาคนมาทำร้ายเจ้าจึงเข้าใจได้ในทันทีว่า ฝ่าบาทกำลังทำให้ทุกคนรู้ว่ากำลังจะกลับมาโปรดปรานเจ้าอีกแล้ว”ต้าเหนิงเลิกคิ้วอ้าปากกว้าง“จะมาโปรดปรานข้าไม่น้าาาาาาาาข้ายังบริสุทธิ์ไม่สิ ข้ายังไม่เคยผ่านมือผู้ชาย ไม่สิข้ายังไม่เคยเป็นสนม …อะไรที่ว่านั่นเสียหน่อย”ฉินเกอหลงกับหานจงขมวดคิ้วแล้วกัวกั๋วฮองเต้ คนนั้นไม่เคยให้นางปรนนิบัติเลยหรือไร“เจ้าพูดจาโป้ปดอะไรอีก”ต้าเหนิงขมวดคิ้วพยายามขุดเอาความทรงจำของสนมต้าเหนิงกลับมาแต่เปล
“แต่ หวางซื่อนางอาจกำลังไม่สบาย”“นี่ยังไม่เข้าใจอีกหรือที่ผ่านมานางล้วนแต่เสแสร้ง”ในใจกลับรู้สึกย้อนแย้ง“หวางซื่อแต่”ฉินเกอหลงส่ายหน้ารีบเปิดประตูเข้าไปเพราะความเป็นห่วง ต้าเหนิงนั่งชันเข่าสะอื้นอย่างหนัก“เป็นอะไรไป”จวิ้นหวังทอดเสียงอ่อนโยน หานจงตามมาติดๆ“คิดถึงบ้านนนนนฮือๆๆๆๆทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ฮือออๆๆๆๆๆ”น้ำตาเต็มขอบตา จวิ้นหวังหันหน้าันหลังไม่ชอบนางตาผู้หญิงทำตัวไม่ถูกว่าต้องควรทำเช่นไร“ฮืออออคิดดูสิ มันน่าอนาถแ่ไหนอยู่สบายๆจู่ๆก็ต้องมาเอาชีวิตรอดในแต่ละวันแต่ละคนที่เข้ามาไม่มีใครไม่อยากเอาชีวิต ที่ปรึกษาก็ไม่มีพ่อแม่พี่น้องอยู่ตรงไหนฮืออออ”เดินเข้าไปยืนข้างๆทำสีหน้าเฉยชา แต่มือข้างหนึ่งกดศีรษะต้าเหนิงให้ซบที่อกตัวแข็งทื่อ นิ่งงัน ไม่เอ่ยคำใดปลอบใจแม้แต่น้อย “ฮืออออๆๆๆๆๆๆฮือออออ”มีไหมจูบซับน้ำตงน้ำตาเหมือนคนอื่นเขาหล่อก็หล่อท่าทางก็ดี แต่ดูเอาสิ ตัวแข็งอย่างกับท่อนไม้“หยุดร้องเถอะ”เอ่ยคำพูดแข็งทื่อเหมือนกันกับท่าทาง ต้าเหนิงรวบเอหนามาซบหน้าลงไปสะอื้นอย่างหนักเกลือกลิ้งใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาหานจงหันหลังก้าวเดินออกไปอารักขาอยู่ด้านนอกปล่อยจวิ้นหวังอยู่กับต้าเหนิงเพ
“พระมารดาของข้าต้องสังเวยให้กับการแย่งชิงในครั้งนี้ ท่านคิดว่าข้ายอมง่ายดายหรือหากมิใช่ชีวิตที่ไม่เคยเป็นสุขของพระมารดาอยู่ในมือเขา”“ แล้วฝ่าบาททรงรักษาชีวิตพระมารดาได้หรือไม่”ฉินเกอหลงยังจดจำเรื่องในอดีตไม่เคยลืมเลือน เขาในวัย16ปี วันที่ไท่ซางหวงทรงสวรรคต พระมารดาถูกจับตัวไว้ในคุกหลวง เขาถูกกักบริเวณ ขันทีตั๋วเค่อ เผาลักษ์อักษรมอบบัลัลงก์มังกรให้กับเขาของไท่ซางหวงทิ้งต่อหน้าฉินเกอหลงในตอนนั้นพร้อมกับบังคับให้ร่างสัญญายินยอมรับตำแหน่งจวิ้นหวังเพื่อแลกกับโทษประหารของพระมารดาที่วางยาพิษไท่ซางหวงจนสิ้นพระชนม์โดยการใส่ความของฮองเฮาสุยจือพระมารดาของกัวกั๋วฮ่องเต้ในตอนนั้น แล้วฉินเกอหลงจะกล้าลังเลอย่างนั้นหรือ แต่ฟ้ายังตาในเมื่อวันที่ร่างลายลักษ์อักษรมอบบัลลังก์ให้กับฉินเกอหลงนั้น ใต้เท้าลู่ผู้นำสี่ตระกูลใหญ่ และทั้งสามตระกูลก็อยู่กับไท่ซางหวงด้วย“ฝ่าบาทได้โปรด”ใต้เท้าลู่ไม่เคยยอมแพ้ตลอดสามปีที่ฉินเกอหลงบวชอยู่ทางเหนือ ใต้เท้าลู่ส่งฎีกาในทุกวัน เพื่อให้ฉินเกอหลงกลับมาทวงบัลลังก์คืน“ไม่มีแล้วฉินเกอหลงคนนั้นไม่อยู่แล้ว ข้าในตอนนี้ไร้การแย่งชิง”“ดูดีหรือยังอาภรณ์ชุดนี้”กัวกั๋วฮ่องเต้ตื่น
ความรู้สึกอึดอัดจนอยากจะอาเจียน ความรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย แม่จ๋าช่วยหนูด้วย เหมือนกำลังโดนบีบคอ บีบคอ ใช่แล้วมีใครบางคนกำลังบีบคอ กรอบหน้าอ้วนของใครคนนั้นลอบเดนอยู่ตรงหน้า อี่อ้วนแกบีบคอฉันทำไม“ไทเฮาเพคะ พระสนมกำลัง จะหมดลมหายใจแล้ว”่น้ำเสียงเศร้าสร้อยผิดกับท่าทีที่ออกแรงอย่างเต็มที่ในการบีบคอ ยังยังไม่ปล่อยอีกต้าเหนิงดิ้นรนแต่รุ้สึกว่าทำไมมีแรงเพีงแค่น้อยนิดมือใหญ่ของยายป้าอ้วนบีบที่ลำคอไว้แน่น ริมฝีปากเหยียดยิ้มหยัน ดวงตามุ่งมาดให้ตายดับตรงหน้า นี่กล้าฆ่าคนเลยหรือไทเฮาวัยกลางคนใบหน้ายังงดงามราวกับเพิ่งจะผ่านวัยสาวได้ไม่นานที่ยืนนอกม่านพยายามแหวกม่านสีทึมทึบเข้ามา ขันทีข้างกายรีบจับมือไว้เสีย ไม่ให้ได้ทำอย่างที่ใจคิด“อย่าเลยพ่ะย่ะฮะ พระสนมต้าเหนิงกำลังจะเดินทางไปยังสรวงสวรรค์นางคงอยากให้ไทเฮาจดจำแต่ภาพงดงามของนางก็เท่านั้น อย่าเข้าไปเลยพ่ะย่ะฮะ ไทเฮาเองสุงส่งไม่บังควรจะต้องมาเห็นอะไรที่ไม่งดงามเช่นนั้น”ความตายเช่นไรจึงจะสวยงามคนใกล้ตายอย่างไรจึงจะสวยงาม อี่บ้า ต้าเหนิงพยายามลืมตาขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียง และความอึดอัดที่ลำคอหายไป แต่ภาพที่เห็นคือร่างอ้วนของยายป้าคนเดิมกำลังยกหมอน
“ไทเฮาพ่ะย่ะฮะ อย่าทรงโศกเศร้าเสียพระทัยไปนักเลย ถนอมพระวรกายด้วยพ่ะย่ะฮะ ควรส่งพระศพได้แล้วพ่ะย่ะฮะ พระสนมป่วยไข้เกรงว่าร่างกายจะ ไม่สวยงามอย่างที่ควรจะเป็น และเอ่อเอ่อ อาจเป็นโรคติดต่อได้”ป๊ะแกสิโรคติดต่อเฮอะคิดจะกำจัดฉันหรือ คิดว่าฉันจะเน่าเหม็นหรือ พวกแกนั่นแหละ มือบางค่อยๆขยับกำมือไทเฮาไว้ส่งสัญญาณว่ายังมีชีวิตอยู่แววตาเศร้าโศกเมื่อครู่ของไทเฮาเปลี่ยนเป็นประหลาดใจ และตกใจไม่น้อยรีบดึงมือออก“ต้าเหนิงเจ้ายังไม่ตายหรอกหรือ”พูดราวกับกระซิบต้าเหนิงลืมตาขึ้นช้าๆ จ้องมองคนพูดไทเฮาสวมกอดต้าเหนิงไว้แน่น ต้าเหนิงยกมือขึ้นกอดตอบแต่ไม่อาจเปล่งเสียงพูด“ตามหมอหลวง เจายี่รีบตามหมอหลวง”เปล่งเสียงด้วยความดีใจ ต้าเหนิงถอนหายใจยาว ตัดไปที่เจายี่ที่อ้าปากค้างด้วยความตกใจต่อมาก็คือกำลังใช้สมองกำลังคิดหาคำแก้ตัวถลาเข้ามาข้างในม่าน“พระสนม โธ่พระสนมไม่เป็นไรแล้วหรือเจ้าค่ะ”น้ำตาแห่งความเสแสร้งมาอีกแล้วต้าเหนิงยิ้มเย็น ต้องเน้นๆแล้วแหละเจายี่เอ๊ย ยกเท้าขึ้นถีบไปที่ยอดหน้าของเจายี่อย่างแรงจนนางล้มลงก้นจ้ำเบ้า ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอาการชักกระตุกตาค้างดิ้นทุรนทุราย ไทเฮารีบเข้ามาพยุง“ต้าเหนิง ต้าเหน
“อุอะอะ”น่าเบื่อจากคนที่พูดได้ก็ไม่ได้พูดเดินตามมาตั้งใจชวนคุยและขอบคุณเขา แต่เปล่าเลยเขากลับไม่สนใจจะมองหน้าต้าเหนิงแม้แต่น้อย “หวางซื่อ ได้เรื่องแล้ว”หานจงเดินถือกระบี่และห่อของบางอย่างเข้ามา ในวิหารเทียมฟ้า“ว่าอย่างไร”รีบปัดมือลุกขึ้นไปหาหานจงไม่เหลือบตาแลต้าเหนิงที่หน้าเง้าอยู่ตรงนั้น “นี่คือยาที่ท่านหมอเทวดาจัดมาให้สนมเอ่อ ไม่ได้เป็นใบ้ตั้งแต่เกิดจึงพอจะมีทางรักษาอยู่บ้าง นางถูกวางยาจึงพูดไม่ได้ยานี่อาจช่วยฟื้นฟู มิใช่แค่วางยาให้พูดไม่ได้แต่นางถูกว่ายาสารพัดทั้งอาการป่วยไข้และ ร่างกายซูบผอมอ่อนแอ”“ดีเลย”ต้าเหนิงเดินเข้ามาเมียงมอง ทำเพื่อต้าเหนิงหรอกหรือ แต่ดูท่าทีเรียบเฉยนั่นสิโอ้แม่เจ้าคนอะไรจะนิ่งได้ขนาดนั้น นิ่งจริงน้ำนิ่งไหลลึกหรือว่าแอบนิ่งไปอย่างนั้นหน้าหล่อๆไม่น่านิ่งได้นาน“หวางซื่อ” กระซิบกระซาบกัน ไม่สนใจว่าต้าเหนิงจะตะแคงหูฟัง“ข้าเข้าใจแล้ว ไม่อยากใกล้นางเท่าไหร่เจ้าช่วยเอายานี่ไปให้กับนางกำนัลของเสด็จย่าให้ช่วยเคี่ยวให้สนมเอ่อ”หานจงพยักหน้า“มาแล้วหรือหานจง”เสียงไทฮองไทเฮาที่นางกำนัลพยุงมาที่ลานกว้างของวิหารเทียมฟ้าเอ่ยขึ้นเบาๆน้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยน“เสด็จย่า”