Share

อ๋องฉินจวิ้นหวัง

“ไทเฮาพ่ะย่ะฮะ อย่าทรงโศกเศร้าเสียพระทัยไปนักเลย ถนอมพระวรกายด้วยพ่ะย่ะฮะ ควรส่งพระศพได้แล้วพ่ะย่ะฮะ พระสนมป่วยไข้เกรงว่าร่างกายจะ ไม่สวยงามอย่างที่ควรจะเป็น และเอ่อเอ่อ อาจเป็นโรคติดต่อได้”ป๊ะแกสิโรคติดต่อ

เฮอะคิดจะกำจัดฉันหรือ คิดว่าฉันจะเน่าเหม็นหรือ พวกแกนั่นแหละ มือบางค่อยๆขยับกำมือไทเฮาไว้ส่งสัญญาณว่ายังมีชีวิตอยู่แววตาเศร้าโศกเมื่อครู่ของไทเฮาเปลี่ยนเป็นประหลาดใจ และตกใจไม่น้อยรีบดึงมือออก

“ต้าเหนิงเจ้ายังไม่ตายหรอกหรือ”

พูดราวกับกระซิบ

ต้าเหนิงลืมตาขึ้นช้าๆ จ้องมองคนพูด

ไทเฮาสวมกอดต้าเหนิงไว้แน่น ต้าเหนิงยกมือขึ้นกอดตอบแต่ไม่อาจเปล่งเสียงพูด

“ตามหมอหลวง เจายี่รีบตามหมอหลวง”

เปล่งเสียงด้วยความดีใจ ต้าเหนิงถอนหายใจยาว ตัดไปที่เจายี่ที่อ้าปากค้างด้วยความตกใจต่อมาก็คือกำลังใช้สมองกำลังคิดหาคำแก้ตัว

ถลาเข้ามาข้างในม่าน

“พระสนม โธ่พระสนมไม่เป็นไรแล้วหรือเจ้าค่ะ”

น้ำตาแห่งความเสแสร้งมาอีกแล้วต้าเหนิงยิ้มเย็น ต้องเน้นๆแล้วแหละเจายี่เอ๊ย ยกเท้าขึ้นถีบไปที่ยอดหน้าของเจายี่อย่างแรงจนนางล้มลงก้นจ้ำเบ้า ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอาการชักกระตุกตาค้างดิ้นทุรนทุราย ไทเฮารีบเข้ามาพยุง

“ต้าเหนิง  ต้าเหนิงพวกเจ้าช้าอยู่ไยรีบตามหมอหลวงพระสนมชักใหญ่แล้ว”

ไทเฮาส่งเสียงตวาดดังๆ เจายี่ขยับตัวลุกขึ้นด้วยความงุนงงก็จะไม่งงได้อย่างไรก็โดนถีบยอดหน้าขนาดนั้นถึงกับวินกันเลยทีเดียว

ต้าเหนิง เล่นละครจนพอใจก่อนจะค่อยๆชักเกร็งให้ช้าลงกว่าเดิม แล้วค่อยๆสงบลงในอ้อมแขนของไทเฮา

“หมอหลวงมาหรือยัง”

หมอหลวงถือหลวมยาเดินชมนกชมไม่ได้เร่งรีบอะไร เดินทอดน่องสบายอารมณ์เหมือนกำลังถ่วงเวลาก็ถ่วงเวลานั่นแหละ

“หมอหลวงทำไมมาช้าเสียจริงเรือนรักษาอยู่ห่างไปไม่กี่ก้าว”

หยุดยืนอยู่หน้าตำหนักเก่า สีหมองคล้ำ ป้ายตำหนักเขียนไว้ชัดเจนตำหนัก16สนมคนที่สิบหกของฮ่องเต้

“อะแฮ่ม”

ก่อนจะถลาเข้าไปในห้องด้วยท่าทีร้อนรนผิดกับเมื่อครู่ที่ยังหวานเย็น

“มาแล้วพ่ะย่ะค่ะ โอ้พระสนมข้าน้อยคิดว่าท่านจะ…ตุยไม่น่าเชื่อว่าจะแข็งแกร่งเพียงนี้สวรรค์เมตตาจริงๆ ไทเฮาพ่ะย่ะค่ะข้าน้อยจะตรวจดูอาการพระสนมอีกครั้งเชิญไทเฮาด้านนอก”

ตรวจอะไรวะทำไมไทเฮาอยู่ไม่ได้ต้าเหนิงคันจมูกขึ้นมา

ดึงมือไทเฮาไว้เวลาแบบนี้จะไว้ใจใครได้ พยายามเปล่งเสียงขอร้องแต่ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา

“ไม่ต้องกลัวข้าอยู่ด้านนอก ไม่ห่าง ให้ท่านหมอดูแลเจ้า”

“อะอ่าอะอะ”ไทเฮาแกะมือต้าเหนิงออกยิ้มอ่อนโยนตบที่หลังมือต้าเหนิงเบาๆเดินออกจากม่านไปในทันที ต้าเหนิงหันซ้ายหันขวา

หมอหลวงยิ้มไม่บริสุทธิ์หรือเรียกว่าแสยะยิ้มนั่นแหละ ทรุดกายลงข้างแท่นนอน

“เจายี่ นำน้ำดื่มมาพระสนมต้าเหนิงกำลังจะกินยา”

ยาอะไร จะให้กินยาอะไร สายตาหมอหลวงที่ไม่น่าไว้ใจบวกกับรอยยิ้มเจ้าเลห์ของเจ้าหมอหลวงนั่นทำเอาต้าเหนิงใจหายแว๊บ

ต้าเหนิงพยายามจะเปล่งเสียงร้องแต่เปล่าประโยชน์หมอหลวงนามซุนเตอหลี่บีบปากให้อ้าออก เจายี่เดินถือจอกน้ำเข้ามา ซุนเตอหลี่ยกยาเม็ดเล็กชูขึ้นตรงหน้าต้าเหนิง ที่ไม่มีทางดิ้นรนเพราะถูกเจายี่จับตัวไว้แน่น

“อย่าดื้อเพคะพระสนมข้าน้อยรู้ดีว่าพระสนมไม่ชอบกินยาแต่นี่จะช่วยพระสนมได้”ต้าเหนิงดิ้นรน หนีเสือปะจระเข้จะเปล่งเสียงก็ไร้ซึ่งสรรพเสียงมือไม้ดิ้นรนเปะปะ เจายี่ตัวร้ายยิ้มอย่างผู้ชนะ

ยกชามน้ำเตรียมกรอกลงปากของต้าเหนิงหมอหลวงก็กำลังจะหย่อนยาลงในปาก

ราวกับมัจจุราชที่พร้อมจะพรากชีวิตของต้าเหนิงไปพยายามทำลำคอให่เล้กที่สุดโดนบีบปากแต่ต้าเหนิงจะไม่มีทางกลืนยางลงคอแน่ หลับตานับหนึ่งสองสามตั้งใจจะดิ้นรนครั้งสุดท้าย1….2

“เช้งงงงง”

ผ้าม่านสีทึบถูกคมกระบี่ปาดฉับจนขาดหวิ่น ร่วงลงพื้นกระจาย ไทเฮายืนมองขมวดคิ้วสีหม่นเข้าหากัน ร่างสูงที่ต้าเหนิงมองเห็นราวกับมีออร่าหรือแสงสว่างรอบตัวเดินเข้ามาพร้อมกับเก็บกระบี่คมเข้าไปในฝัก บุรุษองอาจอีกคนยืนสังเกตการณ์อยู่ไม่ห่าง

ยาเม็ดเล็กถูกหย่อนลงคอพร้อมกับหมอหลวงรีบปล่อยมือจากปากต้าเหนิงที่ ดันกลืนยาเข้าไปในลำคอ พวกเขายังไม่ยอมพลาดและทำทีว่าพลั้งมือหย่อนยาไปแล้ว กระบี่ในมือของบุรษชุดดำตวัดพาดไปที่ลำคอของหมอหลวงซุนเตอหลี่

ที่รีบทรุดกายลงคุกเข่ากับพื้นเสีย

“อั๊กกกก”

คนมาใหม่ที่หล่อราวกับเทพบุตรแล้วดันสวมชุดขาวคนนั้นทรุดกายลงกับแท่นนอนพยุงต้าเหนิงให้นั่งแล้วซัดฝ่ามือเข้าใส่เต็มแผ่นหลังเล็กจนจุกแอ่ก ทำให้ยาเม็ดเล็กที่หมอหลวงจงใจหย่อนลงไปกระเด็นหลุดออกมา แทบเท้าของเจายี่ที่ขยับเท้าเหยียบเม็ดยาไว้เสีย คนชุดขาวก็หาได้ติดใจไม่ ก้มมองหน้าซูบ ร่างผอมบางในอ้อมแขนของตัวเองด้วยสายตาเฉยชา ก่อนจะปล่อยร่างบางของต้าเหนิงให้ร่วงลงบนแท่นนอนดึงผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยออกจากอกเสื้อมาเช็ดถูที่มือไปมาราวกับรังเกียจต้าเหนิงเสียเต็มที

“คงไม่ช้าไป”

คนสนิทท่าทีองอาจนามหานจงประสานมือยิ้มน้อยๆ

เจ้ายี่คุกเข่าลงอีกคน

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status