Share

ถังจ้าวเหว่ย 3

Author: LiHong
last update Huling Na-update: 2025-02-16 14:39:06

ในห้วงความคิดชั่วขณะนี้นั้น รัชทายาทหนุ่มกำลังนึกถึงใครบางคน จึงเอ่ยถามเสียงขรึมไปทางอู๋เจี๋ย

“ระหว่างที่ข้าหมดสติ เจ้าได้ไปสืบดูหรือเปล่า ว่านางกำลังวุ่นวายทำสิ่งใด?”

จ้าวเหว่ยแน่ใจว่าคนฉลาดเยี่ยงซานซาน ย่อมดูออกได้ไม่ยาก ว่านั่นคือศพปลอม

และนิสัยไม่ชอบอยู่เฉยของนาง บางทีอาจจะกำลังออกตามหาเขา ถึงขั้นติดประกาศตามหาสามีจนเรื่องราวบานปลาย ต้องเสี่ยงอันตรายเกินรับมือ

ระหว่างครุ่นคิด เสียงอู๋เจี๋ยพลันดังแทรก

“ทูลองค์ชาย กระหม่อมย่อมรู้พระทัย ช่วงที่พระองค์ทรงหลับใหลมิได้สติ กระหม่อมหาได้ใจเย็นไม่ จึงออกไปสืบข่าวของแม่นางชิงหลินโดยตลอด เพื่อรอรายงานพ่ะย่ะค่ะ”

จบคำก็ยิ้มกริ่มภาคภูมิใจยิ่ง ทว่าสิ่งที่ได้กลับมาคือสายตาคมกริบ คล้ายใบมีดจ่อคอหอย อันบอกเป็นนัยจากนายเหนือหัวว่า จงรีบเล่ามาอย่ามัวพล่ามไร้สาระ

อู๋เจี๋ยจึงกระแอมหนึ่งที แล้วรีบรายงาน

“นับแต่เกิดเรื่องแม่นางชิงหลินก็เสียใจสุดทานทน ร่ายรำทั้งน้ำตา หลังจากนั้นก็เฝ้าหลุมศพไม่ผละจาก ปลูกเพิงอยู่อาศัยริมลำธารไม่ยอมไปไหน มิได้วุ่นวายอันใดด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

จ้าวเหว่ยรับฟังเงียบเชียบ เม้มปากสนิท สองมือกำแน่น นัยน์ตาคมดำทอประกายลึกล้ำ ได้ยินคนสนิทเอ่ยอีกว่า

“จวบจนกระทั่งวันหนึ่ง ไม่รู้ว่านางคิดอะไรได้ จ้องมองหลุมศพเนิ่นนาน ก่อนขุดศพด้วยมือเปล่า จับซากเน่าเปื่อยนั้นพลิกไปพลิกมา แล้วก็ฝังกลับที่เดิมพ่ะย่ะค่ะ”

เรียวคิ้วจ้าวเหว่ยขมวดวูบ นางรู้แล้ว...

หัวใจบุรุษกระตุกแทบทะลุอก เอ่ยถามเสียงแหบต่ำว่า

“แล้วอย่างไรต่อ?”

เขาเกรงนางจะเข้าใจผิดคิดโกรธเคือง ที่ถูกสามีตีจากโดยไม่ล่ำลา

อู๋เจี๋ยกล่าวอีก “กระหม่อมคิดว่านางคงรู้แล้วเรื่องศพนั่นเป็นผู้อื่น เพราะเห็นนางลงเขามาด้วยท่าทางครุ่นคิดเคร่งเครียด  และไม่ไปเฝ้าหน้าหลุมศพอีกเลย คล้ายกับนั่งรอใครอยู่ที่เพิง” เขากลอกตาครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนเอ่ยอีกว่า “กระหม่อมคิดว่านางทำคล้ายภรรยารอสามีไปออกรบ รอคอยอย่างสงบ เสร็จศึกสามีย่อมกลับมา”

ครานี้จ้าวเหว่ยอึ้งงันไปทันที

ไม่นาน...ใบหน้าหล่อเหลาเป็นเอก พลันมีรอยยิ้มปรากฏตรงมุมปาก

นางฉลาดกว่าที่เขาคิดเอาไว้

และแน่นอนว่า เขาจำต้องออกรบจริงๆ ขอเพียงจัดการเรื่องราวในราชสำนักให้เรียบร้อย รวบอำนาจเบ็ดเสร็จไว้ในมือ  เรื่องระหว่างเขากับนางคงไม่ยากเย็น

ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบอีกครั้ง

“แค่เจ้า...ข้าไว้ใจแค่เจ้า อู๋เจี๋ย”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“จับตาดูนางไว้ คอยดูแลลับๆ สืบข่าวนางให้ข้า อีกอย่าง นางชอบเงินอย่างมาก ในสวนดงไผ่ห่างจากต้นสนโบราณสิบก้าว นางฝังหีบเงินเอาไว้ อย่าลืมไปเติมให้นาง”

อู๋เจี๋ยได้ฟังก็กะพริบตาปริบๆ สีหน้าเหลอหลา ได้ยินคำสั่งจากนายเหนือหัวอีกว่า

“เจ้าออกไปจัดการให้เรียบร้อย อย่าชักช้า”

“หา...อ่อ...พ่ะย่ะค่ะ”

อู่เจี๋ยประสานมือเคารพด้วยท่าทางขึงขังสีหน้าจริงจัง แล้วรีบออกจากห้องทันที ไม่มีรั้งรอ

คล้อยหลังองครักษ์หนุ่ม ภายในห้องจึงตกอยู่ในความเงียบงัน

เงียบเสียจนคนอยู่ในนี้ รู้สึกเหงาขึ้นมา

ภาพของสตรีผู้วิ่งวุ่นไปทั่วเรือนและหุบเขา นางผู้ชวนคุยและหยอกเย้าไม่ขาดสาย หญิงสาวที่หัวเราะอย่างเบิกบานยามเคียงข้างกาย 

บัดนี้ ...ล้วนอันตรธานหายไป

จ้าวเหว่ยค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นยืน พาร่างสูงเดินไปที่โต๊ะตัวหนึ่ง บนนั้นมีกระดาษวางอยู่ เขาเอื้อมมือหยิบพู่กัน ทำท่าจุ่มน้ำหมึก ในใจพลางคิดไปว่า ควรเขียนจดหมายบอกความจริงทั้งหมด หวังเพียงสตรีผู้ซุกซนจักรอเขาอย่างใจเย็น ไม่ใจร้อนวู่วามไปทางใด

ทว่าแค่อึดใจเท่านั้น ฝ่ามือพลันชะงัก ร่างสง่ายืนนิ่ง

ผ่านไปไม่นาน ท้ายที่สุดจ้าวเหว่ยก็ตระหนักขึ้นมาได้ว่าการส่งจดหมายติดต่อกัน ย่อมทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้สืบสาวโดยง่าย อาจนำพาซึ่งอันตรายไปสู่นาง

ชายหนุ่มวางพู่กันกลับที่เดิม ยืนเคว้งอยู่กับที่

ใบหน้าหล่อเหลามีเรียวคิ้วที่ขมวดมุ่น เรือนกายสูงส่งเงียบขรึมไม่ขยับเขยื้อน

บุรุษสูงศักดิ์ผู้เคยสุขุมเยือกเย็น พยายามเหลือเกินกับการข่มกลั้นความกระวนกระวายในใจลง

เนิ่นนานทีเดียวกว่าจะสงบได้

ภายในห้องหรูหรา ม่านโปร่งสีทองพลิ้วไหว บานหน้าต่างหนึ่งเปิดอ้าไม่กว้างเท่าไหร่ ทว่ากลับดึงดูดบุรุษหนุ่มได้ไม่ยาก

จ้าวเหว่ยผินวงหน้าเบนสายตาเงียบงัน ร่างสูงส่งงามสง่ายืนมองนิ่งอยู่เช่นนั้น

เบื้องหน้าจากนี้หลายพันลี้ คือหมู่บ้านผิงเหยียนอันห่างไกล

ซานซานจะรอเขาได้หรือไม่?

คำถามในใจไร้ซึ่งคำตอบ

รัชทายาทหนุ่มไม่อาจล่วงรู้ได้ว่า แท้จริงแล้วสตรีมิใช่ฝ่ายรอเสมอไปและยิ่งเป็นคนอย่างซานซาน 

นางไม่เคยชื่นชอบการรอคอย...

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   สกุลเดิม

    บนเตียงนอนขนาดกลางภายในเรือนหลังหนึ่งของบ้านหาน มีสตรีชุดขาวนอนทอดกายยาวเหยียดหลับใหลซานซานถูกเด็กหนุ่มนามชิงหลิวพาตัวกลับมาบ้านเดิม อยู่ภายในเรือนไผ่หยกหลังเดิม อันเป็นสถานที่ที่ชิงหลินเคยอาศัยอยู่ตั้งแต่เกิดจนถึงก่อนแต่งงาน ชิงหลิว เป็นน้องชายแท้ๆ ของชิงหลินยามนี้ชิงหลิวอายุสิบสามปีแล้ว ถึงแม้จะเป็นที่รักของบิดาและมารดา แต่กลับมีนิสัยคล้ายพี่สาวอยู่ไม่น้อยชิงหลินเป็นสตรีขี้ขลาดอ่อนแอ ชิงหลิวจึงเป็นบุรุษขี้อายพูดน้อยภายในห้องนอนของเรือนไผ่หยก ชิงหลิวนั่งเฝ้าพี่สาวอยู่เงียบๆ ที่โต๊ะมุมห้อง สายตามองอีกฝ่ายอย่างห่วงใย ในใจคิดว่าโชคดีเหลือเกินที่เขาชวนมารดาเดินทางไปเยี่ยมพี่สาว จึงได้เห็นนางนอนสลบไสลอยู่ในเพิงไม้ไผ่การแต่งงานอันรวบรัดของพี่สาวกับกงหนิวท้ายหมู่บ้าน ตัวเขาที่เป็นน้องชายกลับไม่ค่อยรู้เรื่องราวสักเท่าไหร่ หากเอ่ยตามจริงก็รู้พอๆ กับพี่สาวไม่มากไปกว่ากัน แต่กระนั้นเขาก็มิได้นึกสงสัยอันใด เพราะบุรุษที่ล่วงเกินสตรีย่อมต้องรับผิดชอบแต่งเข้าบ้านอยู่แล้วกงหนิวผู้นั้นกับพี่สาวของเขาหายไปด้วยกันหนึ่งคืนเชียวหากมองข้ามเรื่องผลประโยชน์ทางการค้าที่หานอี้ซวนให้ความสำคัญเหนือสิ่งใ

    Huling Na-update : 2025-02-16
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   กลับเข้าสกุลหาน

    เมื่อหันไปเจอสายตาของผู้เป็นมารดาที่เผยความนัยว่าบุตรสาวตรงหน้ามีชีวิตที่น่าสมเพชเวทนา ซานซานพลันหรี่ตา เอ่ยเสียงเย็นว่า“ท่านแม่ออกไปก่อนเถิด ข้าอยากอยู่คนเดียว”เจียหรู๋ได้ยินเช่นนั้น คิ้วโก่งก็ขมวดวูบ นึกสงสัยกับน้ำเสียงห่างเหินไม่เหมือนเดิมของบุตรสาว แววตายังแข็งกร้าว ทั้งยังกล้าไล่นางออกจากห้องเจียหรู๋ยืนอึ้งครู่หนึ่ง จึงเอ่ยถามตามตรง “เจ้าโกรธแม่เรื่องที่ส่งเสริมให้แต่งงานกับกงหนิวหรือ?”ซานซานไม่ตอบกลับคำถามนั้นเพียงเอ่ยเสียงเรียบ “ขอบคุณท่านแม่ที่เป็นห่วง ข้าคิดได้แล้วเจ้าค่ะ”แม้ยังรู้สึกฉงนกับความเปลี่ยนแปลงนี้ แต่เจียหรู๋ก็ทำได้แค่ถอนหายใจโล่งอก “อืม...เช่นนั้นย่อมดี เจ้าพักผ่อนเถอะ อย่าได้ฟุ้งซ่านจนเกินไป”นางเอ่ยอย่างจนใจ ก่อนหมุนกายเดินจากไป ในใจคิดว่า บุตรสาวคงเจอเรื่องสะเทือนขวัญจนนิสัยเปลี่ยนไปแล้วกระมังเมื่อได้อยู่เพียงลำพัง ซานซานจึงค่อยๆหยัดกายลุกขึ้นนั่ง ปรับลมหายใจครู่หนึ่งก็ยืนขึ้น แล้วเดินไปที่หน้าต่าง รับสายลมและแสงแดด เรียกสติสัมปชัญญะทั้งหมดกลับคืนให้แก่ตนเองไม่ว่าจะจากเป็นหรือจากตาย แต่เหย่หนิวของนางก็นับได้ว่าจากไปแล้วถึงแม้จะไม่อาจตัดใจแต่ก็ไม่อาจเว้า

    Huling Na-update : 2025-02-16
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   เร่งงานแต่ง 1

    ในช่วงค่ำคืนหนึ่งหานอี้ซวนกลับจากไปค้าขายต่างถิ่นพร้อมคณะเดินทางที่มีบ่าวไพร่สี่ห้าคนในจำนวนนั้น มีสตรีงดงามติดตามกลับมาด้วย ท่าทางของหานอี้ซวนบ่งบอกได้ว่ากำลังหลงใหลติดใจยิ่งนักทุกคืนต่อมา เขามักจะค้างแรมกับสตรีผู้นั้นไม่ว่างเว้น ยามกลางวันยังอยู่ด้วยกันไม่ห่างกายทำตัวประหนึ่งคู่รักในวัยแรกแย้มกระนั้นอนุใหม่นางนี้มีนามว่า จี้เหยาจี้เหยาเป็นสตรีที่มีเรือนร่างอรชรอ้อนแอ้น ระเหิดระหงสมส่วน กิริยานุ่มนวลอ่อนช้อย ท่วงท่ากรีดกรายงดงามหยาดเยิ้ม เรียวคิ้วดวงตาทรงเสน่ห์ตราตรึง ริมฝีปากอวบอิ่มแดงจัด พวงแก้มชมพูระเรื่อ ดวงหน้าจิ้มลิ้มชวนเอ็นดู ยามยิ้มยังหวานหยดลึกซึ้งติดตรึงใจ ชวนคะนึงฝันหาเพียงแรกพบประสบพักตร์ไม่รู้ว่าหานอี้ซวนไปเจอจี้เหยาในหอคณิกาเมืองใดเจียหรู๋แม้เจ็บปวดใจ แต่ก็ทำได้เพียงจำทน ทำตัวเป็นภรรยาเอกที่ดี ดูแลทั้งสามีและอนุภรรยาตามหน้าที่ ไม่ขาดตกบกพร่อง ในขณะที่อนุจูกลับเดือดร้อนแทนเนื่องจากแต่ไหนแต่ไรมา อนุจูเป็นคนที่หานอี้ซวนรักใคร่มาโดยตลอด ได้ครอบครองหานอี้ซวนมากกว่าเจียหรู๋เนิ่นนาน บัดนี้กลับมีสตรีอื่นมาแย่งชิงความโปรดปรานอนุจูที่เคยนุ่มนวลอ่อนหวาน จึงเปลี่ยนไป นางด

    Huling Na-update : 2025-02-17
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   เร่งงานแต่ง 2

    ซานซานยังเน้นทีละคำไปทางชิงลี่ “อันดับแรก ...เจ้าควรไปขอร้องให้ท่านพ่อยกเจ้าเป็นบุตรสาวของภรรยาเอกเสียก่อน บอกท่านพ่อว่า เมื่อฐานะเพิ่มสินสอดจะได้เพิ่มขึ้นมามากหน่อย”ชิงลี่ได้ฟังพลันเบิกตา “หา!”ซานซานคลี่ยิ้มละมุน “เห็นหรือไม่ ว่าข้าย่อมช่วยเจ้า”ชิงลี่กลายเป็นเบื้อใบ้ ไม่กล่าวสิ่งใดอีกอนุจูมองดรุณีทั้งสองตาปริบๆหลังจากปล่อยให้สตรีตรงหน้าเบื้อใบ้ ครานี้ซานซานหันมาทางอนุจูบ้าง นางกล่าวอย่างมีเหตุผลอันน่าเชื่อถือให้อนุจูฟังว่า“ท่านแม่รองลองตรองดูเถิด นานวันท่านก็ยิ่งโรยรา หมดเสน่หา ความงามยากย้อนคืน ต่อให้ไม่มีจี้เหยา ก็ต้องมีสตรีอื่น บุรุษนั้นแม้อายุมากขึ้น น้ำพิสุทธิ์ของพวกเขามีตลอดจนตัวตาย แค่สตรีฝ่ายเดียวที่ไม่อาจคงความเปล่งประกายมีน้ำมีนวลค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องแห้งเหี่ยว ในขณะที่อีกฝ่ายมีสตรีเคียงข้างได้ตลอดไปไม่จบไม่สิ้น มิสู้แม่รองหาหนทางยืนหยัดด้วยตัวเอง อาศัยช่วงนี้ที่บ้านหานยังมีเงินทองมากมาย เอ่ยปากขอตามไปดูแลบุตรสาวสุดที่รักออกเรือน ท่านพ่อย่อมต้องมอบทรัพย์สินให้ท่านไปตั้งตัว แต่หากท่านยังรั้งอยู่ไม่ยอมไปไหน ใจเย็นดั่งแม่น้ำไหลเอื่อยเฉื่อย รอจนน้ำแห้งเหือด แม้หิวกระหายก

    Huling Na-update : 2025-02-17
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   เร่งงานแต่ง 3

    จางฉวนยิ้มกริ่มเอ่ยปากขึ้นอีกว่า “ให้ข้าเดินเล่นเป็นเพื่อนดีหรือไม่? ข้าพร้อมเดินกับเจ้าตลอดไป”ชายหนุ่มคิดว่าได้ผล เพราะชิงหลินไร้สามีให้พึ่งพิงแล้ว ควรหันมาซบอกเขาถึงจะถูกทว่าผู้ถูกชักชวนกลับเงียบงันไร้ซึ่งวาจา เรือนกายนางคล้ายแผ่ซ่านความเย็นเยียบหนาวยะเยือกออกมา นางปฏิเสธอย่างเย็นชาด้วยกิริยาแสนเรียบนิ่งซานซานยามนี้ปรายหางตามองจางฉวนอย่างเฉยเมย ไม่มีความคุ้นเคยให้เลยสักนิด สีหน้ายังเผยความหงุดหงิดออกมา ปราศจากความหลงใหลแม้เพียงเสี้ยว สายตายังฉายแววรำคาญมากอีกด้วยจางฉวนผงะไปเล็กน้อย ดวงตาคมทอประกายสั่นไหว ความมั่นใจในรูปโฉมของตนลดลงไปกึ่งหนึ่งเขากระแอมหนึ่งที แก้อาการเก้อกระดากที่กำลังบังเกิด ก่อนเดินเข้าใกล้อีกนิด กระซิบถามเสียงต่ำทรงเสน่ห์ล้ำลึก“เป็นไรไป ไยทำตัวห่างเหินเหลือเกิน เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นเช่นนี้ มิใช่ว่าเราไม่เคยเดินด้วยกัน ทำอะไรบางอย่างด้วยกัน”ช่างไม่สำนึกตัวว่าทำชั่วอันใดไว้ หน้าหนาเกินไปแล้วซานซานสบถในใจ ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “ขอบคุณพี่ฉวนที่เป็นห่วงเป็นใย แต่ข้าอยากอยู่กับลูกเพียงสองต่อสอง”คำพูดนี้คล้ายสายฟ้าฟาดกลางกระหม่อม เพราะความงามบังตาโดยแท้ จางฉวนจึงล

    Huling Na-update : 2025-02-17
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   เร่งงานแต่ง 4

    สิ้นวาจาซานซาน จางฉวนกับชิงลี่พลันผงะทว่าเพียงอึดใจเท่านั้น ก็กลับมาเป็นปกติชิงลี่เอ่ยว่า “พี่หลินล้อข้าเล่นแล้ว”ซานซานเพียงยกยิ้มไร้วาจา เผยสีหน้าเจ้าเล่ห์แวบหนึ่ง จากนั้นก็นั่งชมนกชมไม้ เหม่อมองทิวทัศน์เรื่อยเปื่อยเพื่อรอเวลาแท้จริงแล้ว ชิงลี่ถูกบังคับว่าต้องดื่มยาห้ามครรภ์ทุกครั้งหลังเสร็จกิจกับจางฉวน เพื่อมิให้เกิดเหตุผิดพลาดใดๆ เนื่องจากพวกเขายังมิได้แต่งงานกันทว่าอารมณ์กระสันไหนเลยจักหักห้ามได้ ในเมื่อยังไม่พร้อมแต่งด้วยเหตุผลของผู้ใหญ่ฝ่ายชาย พวกเขาจึงลักลอบสืบพันธุ์กันอย่างรื่นรมย์ โดยป้องกันเอาไว้อย่างดีทว่าวันนี้ไม่เหมือนวันวาน ซานซานแอบใส่ยาชนิดหนึ่งลงไปในขนมที่ชิงลี่ถือมา และชิงลี่ก็กินไปเสียหลายคำเวลาไม่ถึงครึ่งถ้วยชา ชิงลี่พลันมีอาการผิดปกติ“อ๊ะ...อุ๊บ”หญิงสาวอุทานเสียงหนึ่ง ก่อนยกมือขึ้นปิดปาก ทำท่าคล้ายอยากคลื่นไส้ หลังจากสะกดกลั้นเอาไว้ไม่ไหว ชิงลี่ก็ลุกขึ้นพรวดพราดออกจากศาลาไปอาเจียนอยู่ตรงพุ่มไม้ท่าทางของนางทรมานเป็นอย่างมาก เมื่ออาเจียนจนเหนื่อยก็นั่งลงตรงพื้นหญ้าหลังจากจางฉวนได้สติก็รีบเข้าไปลูบแผ่นหลังให้นาง พลางถามอย่างสงสัย “เจ้าเป็นอันใดรึ?”ชิงลี่

    Huling Na-update : 2025-02-18
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   เจรจาไกล่เกลี่ย 1

    ต้นเหมันต์ อากาศเย็นลงอย่างเห็นได้ชัดทุกค่ำคืนผู้คนบ้านหานต้องทนหนาว ทว่ามีเพียงสองคนที่ยังคงอบอุ่นลึกซึ้งท่ามกลางลมราตรีโชยแผ่ว ที่ศาลากลางสวนดอกไม้ หานอี้ซวนยืนโอบเอวอ้อนแอ้นของจี้เหยาอย่างถนอม พูดคุยหยอกเย้าอย่างรักใคร่ ครู่หนึ่งจึงพากันเดินหายไปในเรือนนอน เกิดเป็นเงาสะท้อนคลอเคลียแนบชิดก่อนดับเทียน ไม่ต้องคาดเดาก็พอรู้ ว่าเตียงนอนจักเร่าร้อนปานใด เสียงครวญครางจักหอบกระเส่าแค่ไหนซานซานเลิกคิ้วมองอย่างเย็นชา ข้างกายคือมารดากับน้องชายหลังจากกินอาหารเย็นจนอิ่มท้องตามด้วยดื่มยาบำรุง ซานซานจึงออกมาเดินเล่นก่อนกลับเข้านอน เจอชิงหลิวที่ยืนแอบมองเจียหรู๋อยู่ตรงทางระหว่างเรือน จึงเข้ามาสมทบ พบว่าเจียหรู๋กำลังลอบมองหานอี้ซวนกับจี้เหยาอยู่แล้วเป็นนานชิงหลิวเคยแอบเห็นเจียหรู๋ร้องไห้น้ำตาหลั่งริน สีหน้าเผยความเจ็บช้ำปวดใจเหลือเกินกับการกระทำของหานอี้ซวนหนุ่มน้อยย่อมเห็นใจมารดา แต่ตัวเขาก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้มากไปกว่าการแอบมองอยู่เงียบๆ มาโดยตลอดจี้เหยาผู้นี้อายุน้อย รูปร่างยั่วยวน งดงามปานเทพธิดา ทำหานอี้ซวนหลงใหลแทบคลั่ง เห็นได้ชัดว่าหลงรักหัวปักหัวปำยามนี้เจียหรู๋จึงมีสีหน้าย่ำแย่มาก

    Huling Na-update : 2025-02-18
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   เจรจาไกล่เกลี่ย 2

    หลังจากร่ำลาอ้อยอิ่งครู่ใหญ่ หานอี้ซวนก็เดินจากไป คงเหลือไว้เพียงจี้เหยานั่งกรีดนิ้วกินขนมจิบชาอยู่ในศาลา แว่วยินเสียงสั่งการจากนายท่านหานว่า ห้ามมิให้เจียหรู๋ออกนอกเรือนจนกว่าเขาจะกลับมาซานซานกับชิงหลิวค่อยๆ เดินออกมาจากหลังพุ่มไม้ เมื่อสองพี่น้องปรากฏกาย สายตาของจี้เหยาก็เหลือบเห็นทันที นอกจากไม่ลุกขึ้นทักทายตามฐานะอนุอันพึงมีต่อบุตรภรรยาเอก นางกลับนั่งกินขนมต่อ แม้แต่สายตายังไม่เหลือบแลชั่วจังหวะนั้น เสียงราบเรียบของซานซานก็ดังขึ้นแผ่วเบา “แดดแรงเกินไป พี่อยากนั่งชมดอกไม้ในศาลา พาพี่เข้าไปหน่อย”ชิงหลิวขมวดคิ้วเล็กน้อย ด้วยไม่พอใจความหยิ่งจองหองของสตรีที่นั่งอยู่ในศาลา แต่ก็อดตามใจพี่สาวมิได้ จึงพานางไปนั่งในศาลา ทางฝั่งตรงกันข้ามกับจี้เหยาอีกฝ่ายเมื่อเห็นแขกไม่ได้รับเชิญมานั่งลงตรงหน้า จึงเอ่ยปากเสียงเหยียดว่า“ที่แท้ก็คุณหนูใหญ่กับคุณชายเล็กนี่เอง ไม่มีที่ไปหรือไร ถึงได้มานั่งที่นี่”ความหมายคือ ชิงหลินเป็นสตรีชั้นต่ำ ไร้ค่า ไม่มีที่ไป เป็นแค่น้ำที่สาดออกแล้ว เปื้อนดินแล้ว ไยกล้าเสนอหน้ากลับมานับว่าสามหาวไม่เลว ซานซานเลิกคิ้วมอง สีหน้าเฉยชา ไม่รู้สึกรู้สากับสายตาดูแคลนและ

    Huling Na-update : 2025-02-18

Pinakabagong kabanata

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   อาจารย์หญิง 5

    “อาจารย์ได้โปรดกลับไปกับข้าเถิด เป็นประมุขนารีแดง" ซานซานขมวดคิ้วมุ่น ครุ่นคิดเคร่งเครียดก่อนปฏิเสธตามตรง “ข้ายังไม่มีเงิน ยังไม่สามารถเลี้ยงสมุนมากมายปานนั้น กำลังอยู่ในช่วงตั้งตัว เอาไว้ร่ำรวยเมื่อใดค่อยกลับไปแล้วกัน”เรื่องเงินถือเป็นปัจจัยสำคัญของพวกนักฆ่ารับจ้าง หาใช่ลาภยศชื่อเสียงเยี่ยงคนของวังหลวงไม่ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันสำนักในยุทธภพเหล่านี้ทำงานให้ชนชั้นสูงอยู่เงียบๆ รับเงินเป็นกอบเป็นกำเพื่อดำรงชีพ ทำงานลึกลับฝังตัวซ่อนเร้นให้องค์กรใต้ดินมาช้านานเมื่อได้รับคำปฏิเสธ หยุนผิงจึงมีสีหน้าเศร้าสลด อดคิดมิได้ว่า ควรเร่งหาเงินให้มาก อาจารย์จะได้กลับสำนัก นางเอ่ยเสียงเครือ “อาจารย์...เช่นนั้นข้าจะช่วยท่านเก็บเงินอีกทางหนึ่ง”“หืม...” ซานซานมองหน้าหยุนผิง พลางถามเสียงเรียบ “คงมิใช่เร่งสังหารเป้าหมายหรอกกระมัง”“แล้วจะให้ทำเช่นใดเล่า งานสำเร็จย่อมได้เงินมากโข”ซานซานหรี่ตาใคร่ครวญลึกซึ้ง ก่อนถามเสียงขรึม“เมื่อครู่เจ้าบอกว่าถูกผู้มีอำนาจขู่บังคับให้ทำงานสังหารบุคคลสำคัญ ผู้ใดว่าจ้างให้มาสังหารใครรึ? ได้คุ้มเสียหรือไม่?”หยุนผิงมีสีหน้าลำบากใจยากเอื้อนเอ่ยซานซานนิ่งคิดใช้เวลาไตร่ตร

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   อาจารย์หญิง 4

    ซานซานปัดมืออีกฝ่ายออกจากไหล่ตนพลางเอ่ยเนิบช้า“ในเมื่อเจ้าล่วงรู้วิชาของข้า และข้าก็ล่วงรู้วิชาของเจ้า เกรงว่าสองเราคงเป็นศิษย์สำนักเดียวกันกระมัง”เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ซานซานก็นิ่งคิดชั่วครู่ไม่ถูก! เคล็ดวิชานี้ เป็นนางที่คิดค้นไว้ตั้งแต่ชาติที่แล้ว จะเป็นศิษย์สำนักเดียวกันได้อย่างไร นางควรเป็นอาจารย์ทวดของอีกฝ่ายถึงจะถูกต้อง!คิดเสร็จหญิงสาวก็โบกมือไม่ถือสา กล่าวเสียงเรียบว่า“เอาล่ะๆ นางมารเช่นเจ้ากล้าปลอมตัวเป็นนางรำเข้ามาในงานของวังหลวง คงถูกว่าจ้างมากระมัง จะสังหารใครรึ?”ประหนึ่งคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ หยุนผิงยิ่งอึ้งตะลึงงัน ปลายนิ้วสั่นเบาๆ เล็บแหลมคมเริ่มหดกลับเข้ามาในเนื้อ ผิวกายที่มีอักขระน่ากลัวค่อยๆ เลือนหาย ท้ายที่สุดนัยน์ตาสีแดงปานโลหิตก็ดำขลับเช่นเดิม เผยความงดงามหยาดเยิ้มดุจเดิมเพราะเคล็ดวิชาในตำนานมีเพียงอาจารย์ทวดต้นตำรับเท่านั้นที่สามารถล่วงรู้ได้ว่าวิชาที่ตกทอดเป็นเพียงหนึ่งในวิชาใดหยุนผิงคุกเข่ากระแทกพื้นเรียกซานซานเสียงสั่นเครือ “ท่านอาจารย์ทวด...”ถึงแม้จะทำใจเอาไว้แล้ว แต่หางคิ้วก็อดกระตุกมิได้ “เรียกเสียแก่เลยเชียว เรียกแค่อาจารย์หญิงก็พอกระมัง”หยุนผิงยืน

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   อาจารย์หญิง 3

    ค่ำคืนยาวนาน งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไปจ้าวเหว่ยนั่งลงมองเพียงปลายนิ้วมือที่ไล้วนจอกเหล้าด้วยความเบื่อหน่ายอีกครั้ง รอเวลาอันเชื่องช้าเคลื่อนผ่านอย่างเงียบงัน ในใจคิดถึงแต่ใครบางคนอันเป็นรางวัลแห่งค่ำคืนและแล้วภายใต้ใบหน้าอันแสนจะเย็นชา รัชทายาทหนุ่มพลันได้แผนการใหม่ในการจัดการกับภรรยาในใจปรารถนาให้สิ้นสุดงานเลี้ยงโดยไวการเสวนาโต้ตอบระหว่างฮ่องเต้กับบรรดาขุนนางยังคงมีไม่ขาดสาย พร้อมเชื้อเชิญกึ่งท้าประชันฝีมือระหว่างตระกูลด้วยการนำเสนอความสามารถของบุคคลชั้นสูงคุณหนูแต่ละคนได้รับการสนับสนุนให้ออกมาแสดงฝีมือกลางลานกว้าง เปลี่ยนทุกการแสดงจากการมอบความสำราญเป็นแสดงความสามารถอันหาได้ยากยิ่งแทน มีทั้งการบรรเลงพิณ แต่งโคลงต่อกลอน และร่ายรำเมื่อการแสดงรอบนี้เป็นสตรีชั้นสูง กระทั่งการร่ายรำบิดเอวส่ายสะโพกจึงมิใช่เป็นการแสดงชั้นต่ำ อีกทั้งยังสูงส่งเทียมฟ้าทุกนางล้วนงดงามสะกดสายตา ยิ่งชาติตระกูลสูงศักดิ์ ยิ่งกลายร่างเป็นโฉมสะคราญหยาดฟ้าแต่ละนางอวดโฉมในด้านที่ดีที่สุดให้องค์รัชทายาทได้ยล พยายามดึงดูดเขาด้วยรูปโฉมและฝีมือในศาสตร์ทุกแขนงเวลาแห่งค่ำคืนค่อยๆ ดำเนินไปช้าๆ ระหว่างนั้นซานซานก็กล

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   อาจารย์หญิง 2

    บรรดาคุณหนูในงานต่างโล่งใจที่เป็นซานซาน เพราะสตรีผู้นี้ย่อมไม่อาจได้รับสิทธิ์ปีนเตียงรัชทายาท หรือต่อให้ร่วมวสันต์จริง ก็ยังต้องเป็นได้แค่สาวใช้อุ่นเตียงไร้ค่า บนแท่นประทับ โอรสสวรรค์ยังคงแย้มพระสรวลน้อยๆ พระองค์ตรัสแล้วย่อมไม่อาจคืนคำ ในเมื่อประกาศแล้วว่าจะมอบรางวัลให้บุตรชาย ก็ควรต้องเป็นไป “เช่นนั้น เจ้า...” ฮ่องเต้ชี้นิ้วไปทางซานซาน “รั้งอยู่...”เบื้องหน้าคือองค์จักรพรรดิผู้มีอำนาจล้นฟ้า ถัดมายังเป็นองค์รัชทายาทผู้สูงส่ง รอบด้านยังมีแต่ชนชั้นสูงศักดิ์ ซานซานที่เป็นสตรีผู้น้อยต้อยต่ำมีหรือจะปฏิเสธได้ หญิงสาวจึงยอบกายแนบพื้นน้อมรับเสียงเบา มิอาจเป็นอื่นสิ้นคำตรัสฮ่องเต้ จ้าวเหว่ยเพียงตอบรับเสียงเรียบ “ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”ครานี้หลี่กุ้ยเฟยคลายหัวคิ้ว ยกยิ้มงาม เพราะเป็นซานซานย่อมดีกว่านางรำแปลกหน้า คนกันเองทั้งนั้น ไว้ใจได้เหตุที่หลี่ฮุ่ยเยี่ยนไว้ใจซานซานมิใช่เพียงแค่นั้น แต่เป็นเพราะซานซานชอบเพียงเงินทอง ไม่ฝักใฝ่อำนาจ ไม่เป็นอันตรายต่อตำแหน่งรัชทายาทของจ้าวเหว่ยแน่นอนปราศจากเสียงคัดค้าน มีเพียงสายตายอมรับได้ รอบด้านมิได้ริษยาซานซานเทียบเท่าหยุนผิงที่งามเลิศล้ำ สายตาคล้าย

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   อาจารย์หญิง 1

    บนแท่นประทับมังกร ฮ่องเต้ตรัสกับขันทีด้านหลัง“พาแม่นางฮวาไคไปพำนักในห้อง รอพาตัวเข้าวังบูรพา”ขันทีค้อมกายน้อมรับคำสั่ง “พ่ะย่ะค่ะ”ถ้อยวาจาเหล่านี้ยังคงเรียกรอยยิ้มบางเบาให้ประดับบนใบหน้าหล่อเหลาของจ้าวเหว่ยเช่นเคย เขาลุกขึ้นยืนประสานมือแล้วเอ่ยกับพระบิดาทันที“ขอบพระทัยเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมพึงใจกับรางวัลในค่ำคืนนี้ เพียงแต่สตรีที่ปรบมือให้ หาใช่แม่นางผู้นั้นไม่ รางวัลก็ควรเปลี่ยนไป เป็นนางผู้นี้”ฮ่องเต้ขมวดพระขนง ปรายพระเนตรมองบุตรชาย “หืม?”โซวอ๋องชะงักนิ่ง หยุนผิงยอบกายแข็งค้างจ้าวเหว่ยเน้นอีกครั้งปรายสายตาไปทางซานซาน“เป็นนางพ่ะย่ะค่ะ”ยามนั้นทุกคนถึงได้สังเกตเห็นซานซานที่เดิมทีคล้ายวิญญาณ ประหนึ่งหมอกควันที่เห็นเพียงเลือนลางเวลาก่อนหน้านี้นับว่าเนิ่นนานทีเดียวที่หญิงสาวถูกความงามของหยุนผิงบดบังเอาไว้จนมิดชิดนางแค่อยู่ตามธรรมเนียมเพื่อรอรับรางวัล มิคาดฝันว่าจักกลายเป็นรางวัลเสียเอง...โซวอ๋องให้นึกกังขา จึงปรับสีหน้าตึงเครียดให้ราบเรียบดุจเดิมพลางเอ่ยด้วยเสียงทุ้มนุ่มเผยแววหยอกเอินว่า“การแสดงชุดใหญ่เพียงนี้ เหตุใดนางถึงได้รับความชอบเพียงผู้เดียวเล่า มีสิ่งใดพิเศษกระนั้

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   แม่นางฮวาไค 3

    การตกอยู่ในภวังค์เช่นนี้ราวกับเป็นเวลาชั่วกัปชั่วกัลป์ในความรู้สึก โดยมีซานซานทำตัวคล้ายหมอกมารไอปีศาจไร้ตัวตน นางคอยควบคุมบงการทุกคนได้อย่างเหนือชั้น ไร้ใครสังเกตและต้านทาน เครื่องมือคือหยุนผิงผู้โดดเด่นและนางรำทั้งหลายที่งดงามพร้อมครอบครองดลบันดาลเนิ่นนานผ่านไปเสียงพิณค่อยๆ แผ่วจาง แล้วหยุดลงในที่สุด ทุกคนพลันบังเกิดความรู้สึกนึกคะนึงหา มิอาจแยกจาก หากเพลงพิณรุนแรงกว่านี้เกรงว่าพวกเขาคงน้ำตาไหลพรากทว่าเมื่อได้สติกลับคืนปรากฏว่านางรำสิบกว่าคนกำลังพากันทยอยกรีดกรายจากไปคล้ายหมู่ภมรอิ่มน้ำหวานกลับถิ่น พริบตาคงเหลือเพียงมือพิณสองนางยอบกายแนบพื้นนอบน้อมตามธรรมเนียมปฏิบัติของแคว้นต้าถัง ผู้ดีดพิณย่อมอยู่ต่อเพื่อรอรับรางวัลจากผู้ชมชั่วขณะที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในภวังค์ต้องมนต์จนเงียบงัน ยามนั้นองค์รัชทายาทพลันได้สติกลับมาคนแรกชายหนุ่มคล้ายหลุดจากท่าทีสุขุมนุ่มลึกอันเย็นชาถึงกับลุกขึ้นยืนแล้วปรบมืออย่างช้าๆ เผยสีหน้าชื่นชมอารมณ์ดี ท่าทางประหนึ่งถูกครอบงำตราตรึงจากบางสิ่งจ้าวเหว่ยผู้ไม่เคยให้ความสนใจในการแสดงครั้งใดกลับแสดงว่าชมชอบการแสดงชุดนี้จนออกนอกหน้า ทุกคนจึงได้รู้ตัวได้สติกลับคืนมา

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   แม่นางฮวาไค 2

    ยิ่งคิดเรียวคิ้วบุรุษยิ่งขมวดมุ่นจนเป็นปมยากคลายตัว ขัดแย้งกับบรรยากาศอันแช่มชื่นรอบกายเต็มทีหากปล่อยให้ซานซานเข้าใจผิดเรื่องเหย่หนิวต่อไป บางทีอาจจะเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย อย่างน้อยนางย่อมไม่ถูกเพ่งเล็ง ทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากเสด็จแม่ต่อไปให้อู๋เจี๋ยได้รับผลกรรมเป็นเหย่หนิว ถูกซานซานเกลียดชัง ถูกคนรักเข้าใจผิดมหันต์ไปเช่นนั้น รอจนกว่าซานซานหายโกรธ เขาย่อมปล่อยอู๋เจี๋ยออกมาส่วนตัวเขาก็จะกลายเป็นชายหนุ่มคนใหม่ที่เข้าหานาง เป็นรัชทายาทสูงศักดิ์ผู้เพียบพร้อม เหนือชั้นกว่าเหย่หนิวทุกอย่างส่วนหลิ่งเอ๋อร์ก็เป็นองค์หญิงตัวน้อยช่วยกุมหัวใจของเสด็จแม่อยู่อีกทางให้เวลาบ่มเพาะความรักขึ้นมาใหม่แอบคบหากันไปก่อน รอกระทั่งเขาได้ขึ้นครองราชย์ มีอำนาจสิทธิ์ขาดค่อยว่ากันภายใต้สีหน้าราบเรียบเฉยชาไร้อารมณ์ รัชทายาทหนุ่มยิ่งคิดยิ่งร้อนรุ่มดังมีไฟสุมอยู่ในทรวงอก จนเลือดเดือดพล่าน เพราะเรื่องแรกที่เขาคิดการณ์ คือต้องจัดการซานซานให้ได้ก่อนดูเถิดว่าเขาจะเกี้ยวนางได้หรือไม่?ขณะที่จ้าวเหว่ยได้ข้อสรุปที่เรียกได้ว่าชั่วร้ายเพื่อภรรยา เสียงปรบมือเปิดงานด้วยการแสดงจากหอนางรำเลื่องชื่อก็เริ่มขึ้นสตรีงดงาม

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   แม่นางฮวาไค 1

    งานเลี้ยงดำเนินไปด้วยบรรยากาศชื่นมื่นมีการสนทนาระหว่างฮ่องเต้ องค์ชาย องค์หญิง ขุนนางทั้งหลายฝ่ายบุรุษต่างมีสีหน้ารื่นรมย์เพราะถือเป็นโอกาสได้สำเริงสำราญเต็มที่ มีสตรีงดงามให้ได้ยล ทั้งยังสูงส่งมากความสามารถฝ่ายสตรียิ่งเบิกบานเพราะได้เปิดหูเปิดตาร่วมประชันโฉมและแสดงฝีมือหลังจากที่ต้องอดทนบ่มเพาะตัวตนแค่ในเรือนหัวข้อที่เสวนาล้วนแต่เป็นการสรรเสริญเยินยอประจบสอพลอ ยังมีต่อด้วยการโต้ตอบไปมาระหว่างอริที่เสแสร้งเป็นพันธมิตรนอกจากนั้นเรื่องที่คุยกันก็ไม่พ้นว่าบุตรชายหรือบุตรสาวบ้านใดเป็นใคร ยิ่งใหญ่แค่ไหน อายุเท่าไหร่มีความสามารถอันใด พร้อมออกเรือนหรือไม่ท่ามกลางถ้อยวาจาและเสียงหัวเราะที่แลกเปลี่ยนกัน มีเพียงบุรุษชุดม่วงขลิบทองยังคงเก็บอาการเบื่อหน่ายต่องานเช่นนี้เอาไว้ได้อย่างแนบเนียนด้วยท่าทางสุขุมนุ่มลึกใบหน้าหล่อเหลาซ่อนความเย็นชาในดวงตาคู่ดำด้วยการหลุบลงต่ำมองเพียงปลายนิ้วที่ไล้วนบนจอกเหล้าในมือขณะยกขึ้นจรดริมฝีปากเพื่อดื่มลงคอ ในใจของจ้าวเหว่ยที่เคยราบเรียบบัดนี้คล้ายมีระลอกคลื่นบางเบาเมื่อนึกถึงเรื่องราวบางประการภาพภายในห้องขังคุกหลวงอันมืดมิดปราศจากผู้อื่น ยามที่เจี้ยนจื้อห

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ภัยร้ายซ่อนเร้น 6

    หญิงสาวนางหนึ่งอายุราวยี่สิบปีค่อยๆ เผยโฉมออกมาจากกลุ่ม แล้วถามว่า “เจ้าคือคนของวังหลวงใช่หรือไม่? คิดใช้อำนาจข่มเหงพวกเราหรือไร?”ซานซานขมวดคิ้ววูบ “ข้ามิใช่คนของใครทั้งนั้น ไม่มีเหตุผลใดต้องข่มเหงเจ้า แค่มีวิธีดีๆ ให้ได้เงินง่ายๆ แบบทั่วถึงกัน”หญิงสาวคนเดิมจึงเดินมายืนประจันหน้ากับซานซาน นางมีผิวขาวราวหิมะ แต่งกายด้วยผ้าเนื้อบางเผยสัดส่วนชัดเจน ใบหน้ารูปไข่งดงามอ่อนหวานเย้ายวนอย่างที่สุด สะคราญโฉมพิลาศล้ำยิ่งกว่าองค์หญิงต้าถังด้วยซ้ำหญิงงามกล่าวกับซานซานด้วยน้ำเสียงแว่วหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า “ข้านามว่าหยุนผิง มือพิณ ทุกครั้งที่ขึ้นแสดงฝีมือ ข้าได้รับความโปรดปรานที่สุด เรียกเงินได้มากที่สุด แต่ก็เหน็ดเหนื่อยกับการเอาตัวรอดจากขุนนางบางคนที่คิดจะติดพันเพื่อซื้อตัวเข้าจวนที่สุดเช่นกัน หากเจ้าช่วยให้ข้าลดความเสี่ยงตรงนั้นได้ โดยที่ค่าตอบแทนไม่ลดลงจากที่เคยรับ ข้าก็ยินดีมอบหน้าที่ดูแลน้องสาวทุกคนในที่นี้ของข้าให้เจ้า”“พี่ผิง!” นางรำทุกคนอุทานอย่างตกใจหยุนผิงยกมือห้ามบรรดาน้องสาวมิให้โวยวาย แล้วกล่าวต่ออย่างใจเย็น “แต่หากเจ้าทำมิได้ ด้วยความงามของข้า รวมกับการได้รับเชิญขึ้นแสดงเพลงพิณ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status