Share

บทที่ 12 十二

Author: PinkyPaw
last update Last Updated: 2024-12-03 12:30:58

"วันแรกก็มาทำงานสายเสียแล้วสหายข้า"

ตงหลิงจวินเอ่ยทักเสียงสดใส คิดว่าหลังเสร็จพิธีเมื่อวานซีจงจวินคงนอนกกภรรยาจนไม่อยากลุกมาทำงาน

แต่ความจริงมันตรงกันข้ามเลยต่างหาก..

"ขออภัยด้วยขอรับ ข้าไม่ได้ตั้งใจให้พี่ตงหลิงลำบาก"

"ลำบากอะไรกันเล่า ข้าดีใจต่างหาก ในที่สุดเจ้าก็ได้มีความรักกับเขาสักที" ตงหลิงจวินเดินเข้ามาตบบ่าแล้วยิ้มกว้างกว่าเดิม ขณะที่ซีจงจวินมีสีหน้าเรียบเฉย

"ข้าคิดว่าข้ายังไม่เข้าใจสิ่งที่เรียกว่าความรักขอรับ"

"หืม? ก็เจ้ารักนางถึงแต่งกับนางไม่ใช่หรือซีจง"

"ข้าคิดว่าข้าอยากแต่งกับนางเพราะอยากอยู่ด้วยกันเท่านั้นขอรับ"

..ซีจงจวินจะเข้าใจอะไรยากขนาดนี้

"ก็เพราะพิศวาสนางไม่ใช่หรืออย่างไร เจ้าถึงได้อยากอยู่กับนาง อยากได้นางมาครอบครองเช่นนี้"

..เพราะรักถึงอยากอยู่ด้วยอย่างนั้นหรือ

..เป็นเช่นนี้เอง

"เข้าใจแล้วขอรับ ข้ารักมี่ฮวา"

ตงหลิงจวินถึงกับถอนหายใจเหนื่อยหน่าย รู้ว่าซีจงจวินซื่อบื้อ แต่มันก็ควรจะมีขอบเขตบ้างไม่ใช่หรือ

"เจ้าต้องคิดให้เร็วกว่านี้นะซีจง ผู้หญิงน่ะเอาใจยาก เข้าใจก็ยิ่งยาก เรื่องมากที่สุด จะครองทุกพื้นที่ในใจนางได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยรู้ไหม"

ซีจงจวินฟังแล้วก็พยักหน้าตามไป ราวกับศิษย์ที่ตั้งใจฟังอาจารย์สอนสั่ง

"สตรีน่ะชอบผู้ชายที่ปกป้องนางได้ ข้อนี้เจ้าผ่าน แต่เวลาอยู่กับนางก็ต้องอ่อนโยน นุ่มนวลที่สุด เข้าใจหรือไม่"

"เข้าใจแล้วขอรับ"

"โดยเฉพาะยามค่ำคืน เจ้าต้องดูแลนาง ชื่นชมรักใคร่ ถนอมน้ำใจให้มาก"

รักใคร่ ถนอมใจอย่างนั้นหรือ..

ข้อนี้ซีจงจวินคงยังทำไม่ได้เพราะมี่ฮวาไม่ให้เขาเข้าใกล้ ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากได้ยินเสียง หรือแม้แต่กลิ่นตัวเขานางก็ยังรังเกียจ

..เช่นนี้แล้ว เรื่องนอนด้วยกันคงต้องรอไปก่อน

"ขอบคุณพี่ตงหลิงที่ชี้แนะ ข้ารบกวนแล้ว"

"ไม่เลย มีอะไรเจ้าปรึกษาข้าได้ เรื่องรักๆใคร่ๆข้าถนัดนัก" คนพูดว่าสีหน้าภาคภูมิใจ

ซีจงจวินค้อมศีรษะให้ตงหลิงจวินอย่างสุภาพ เขาทำเช่นนี้กับทุกคนที่ดีกับเขา ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นใคร

หากมี่ฮวาเห็นข้อดีตรงนี้บ้างก็คงจะดี...

...

ฟ้ามืด ซีจงจวินกลับมาถึงก็รีบถอดชุดเกราะออกตรงเข้าครัวทันที

เขาจัดแจงเตรียมวัตถุดิบทำอาหาร ลงมือปรุงอย่างชำนาญ เร่งมือให้เร็วขึ้นเมื่อได้ยินเสียงมี่ฮวาบ่นว่าหิว

ไม่นานเกินรอ กับข้าวหกอย่างถูกจัดวางใส่ถาดสำรับดูน่ารับประทาน ซีจงจวินยกมันมาวางในห้องทานอาหาร รินน้ำชากลิ่นหอมอ่อนให้นาง เสร็จแล้วก็ยกถ้วยข้าวของตัวเองออกมานั่งมุมห้องห่างไปสิบฉื่อเหมือนเดิม

ขณะที่มี่ฮวาละเลียดกินช้าๆ ซีจงจวินกลับกินอย่างรีบร้อน เสร็จแล้วก็ไปเตรียมน้ำร้อนใส่อ่างไว้ให้อีก เมื่อกลับออกมาจากห้องน้ำพบว่ามี่ฮวากินเสร็จแล้ว ก็ตามเก็บสำรับที่เหลือตอนนางลุกไปอาบน้ำ

ตั้งแต่กลับมาถึงบ้าน ซีจงจวินไม่กล้าเปิดปากพูดแม้แต่ครึ่งคำ

เขากะว่าจะเก็บอีกสิบคำที่เหลือจากเมื่อเช้าเอาไว้บอกราตรีสวัสดิ์...

และก็จะมองหน้านางอีกครั้งก่อนเข้าห้องนอนด้วย...

"โอ๊ย!"

เสียงหนึ่งดังขึ้นในห้องน้ำ แม้มันจะเบามากแต่ซีจงจวินได้ยินชัดเจน

ด้วยความตกใจคิดว่าภรรยาลื่นล้ม ร่างของเทพอสูรพุ่งไปรวดเดียวถึงหน้าประตูทันที

ฟึ่บ!!

บานประตูถูกเลื่อนเปิดกว้าง ซีจงจวินยืนกางขาดวงตาเบิกโพลง

และภาพที่เห็นก็ทำให้ตกใจยิ่งกว่าเดิม เพราะมี่ฮวาไม่ได้เป็นอะไรเลย นางยืนเฉยๆอยู่ข้างอ่างไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นทั้งนั้น

แต่.. กายนางเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ห่อหุ้ม ทำให้ซีจงจวินเห็นเรือนร่างสะโอดสะองเต็มสองตาทุกสัดส่วน

ผิวนางขาวนวลผ่อง เนียนราวน้ำนมคั้นจากแม่โคพันธุ์ดี

ลำคอเล็กยาวระหง หัวไหล่มนเป็นสีชมพูอ่อนระเรื่อ

อกนางอวบใหญ่เกินตัว ที่ยอดถันประดับตุ่มเม็ดเล็กสีหวานสวยราวผลอิงเถา รอบเอวบางคอดกิ่ว

ไล่ลงมาที่จุดซ่อนเร้นไร้เส้นขนปกปิด ต้นขาขาวเรียว ทั้งที่สะโพกผายก้นกลมกลึง

ซีจงจวินเห็นความเย้ายวนตระการตาตรงหน้าเพียงแวบเดียว ใจก็เต้นระส่ำราวจะระเบิดเป็นจุณ..

เสี้ยวลมหายใจที่เขาพรวดพราดเข้ามา มี่ฮวาหันไปทางต้นเสียง เห็นว่าคนที่มายืนจ้องนางเป็นใครก็ตกใจสุดขีด

"กรี๊ดดดดดด!!!!!"

หญิงสาวหวีดร้องลั่น คว้าขันไม้และอะไรก็ตามที่อยู่ใกล้มือมาขว้างปาใส่ไม่ยั้ง

"ทุเรศ! ไอ้ปีศาจวิปริต!!"

นางคว้าเอาอาภรณ์ตัวเก่าขึ้นมาบังไว้ ฉุนเฉียวบุรุษหน้าไม่อายผู้นี้เหลือทน

ซีจงจวินพึ่งรู้สึกตัวว่าเผลอทำสิ่งที่ไม่ควรไปเสียแล้ว เขาลนลานรีบก้มหน้าขอโทษ

"ขออภัย ข้าได้ยินเสียงท่านร้อง คิดว่าท่านลื่นล้มก็เลยวิ่งมาดู"

"ไม่ต้องมาแก้ตัว! เจ้ามันปีศาจจิตทรามหยาบช้า!!! สมองเจ้าหนีไม่พ้นเรื่องโสมมเช่นนี้จริงๆด้วย!!"

ข้าวของที่ถูกขว้างปาใส่กระแทกโดนหัวบ้าง อกบ้าง แขนบ้าง มันตกแตกเสียหายเต็มพื้น ส่วนซีจงจวินก็ยืนทื่อเป็นตอไม้อยู่เช่นนั้น มี่ฮวากำหมัดแน่นขบฟันจ้องเขม็ง

เสียงร้องนั่นเป็นเพราะนางกำลังจะลงไปแช่ในอ่างแต่น้ำมันร้อนเกินไปจึงสะดุ้งนิดหน่อยเท่านั้น

"จากนี้ไปข้าจะไม่ทำเช่นนี้อีก ได้โปรดให้อภัยข้าเถิดมี่ฮวา"

ซีจงจวินลืมเรื่องพูดสิบคำไปจนสิ้น เขาคุกเข่าอ้อนวอนที่หน้าประตู ไม่กล้าเงยหน้ามองเซียนสตรีผู้เป็นภรรยา

"คิดว่าแค่ขอโทษแล้วข้าจะให้อภัยเจ้าได้หรือ! คำขอโทษของเจ้ามันไร้ค่าสิ้นดี!!"

"เช่นนั้นให้ข้าทำอะไรก็ได้เพื่อเป็นการไถ่โทษ แต่ข้าขอร้องท่านอย่าโกรธข้าอีกเลยได้หรือไม่"

"ยังจะมีหน้ามาขอร้องข้าอีกหรือ เจ้าปีศาจชั่วช้าหน้าไม่อาย!!!"

ซีจงจวินได้แต่ก้มหน้ายอมรับถ้อยคำบาดหูสารพัด แม้ในใจรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย

หากนางโมโหมากไปกว่านี้อาจจะปวดหัวเอาได้ และหากยังตะโกนเสียงดังอยู่เช่นนี้คงต้องเจ็บคอแน่

และ...ที่สำคัญคือ หากไม่ทำอะไรสักอย่าง นางจะต้องหย่าแล้วกลับบ้านเลยแน่

ซีจงจวินไม่อยากให้เป็นแบบนั้น พึ่งแต่งกันได้วันเดียวแท้ๆ จะให้จบตรงนี้ได้อย่างไร

"ข้าสาบานว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว ต่อจากนี้นอกจากตอนเตรียมน้ำให้ท่านอาบกับทำความสะอาด ข้าจะไม่เข้าใกล้ห้องอาบน้ำอีก ถ้าท่านไม่พอใจสิ่งใดข้าจะไม่ทำ เท่านี้ได้หรือไม่ ได้โปรดอย่าพึ่งหย่าข้ากลับแดนอุดรเลยมี่ฮวา"

"จะให้ข้าเชื่อคนหน้าหนา กล้าสาบานพล่อยๆอย่างนั้นหรือ!!"

แม้อีกฝ่ายวิงวอนแต่นางไม่คิดฟัง มือเรียวคว้าเอาขวดกระเบื้องใส่น้ำมันหอมขวดสุดท้ายเขวี้ยงออกไปเต็มแรง

เพล้ง!!

ขวดกระเบื้องกระทบตาข้างหนึ่งของซีจงจวินจนแตก เศษแก้วปักเปลือกตาเลือดไหลจากปากแผลอาบแก้มก่อนหยดลงพื้น

คนเจ็บนั่งคุกเข่านิ่งไม่ขยับเขยื้อน เพียงหลับตาข้างนั้นไว้เฉยๆ

มี่ฮวาหอบหายใจแรง สติกลับคืนมามากขึ้นเมื่อเห็นของเหลวสีแดงสดสายนั้น...

จากที่โกรธ ตอนนี้กลับกลายเป็นเริ่มระแวง เพราะคิดว่าโดนขนาดนี้ซีจงจวินต้องเจ็บและแค้นไม่น้อยเช่นกัน

เกรงว่าหากควบคุมไม่อยู่ เกิดบันดาลโทสะขึ้นมา นางจะตายได้ง่ายๆในอุ้งมือเขา

เช่นนั้น.. นางจะยอมลงให้ก่อนก็ได้

"ในเมื่อเจ้ากล้าสาบานข้าจะลองเชื่อดูสักครั้ง แต่ถ้าเจ้าทำไม่ได้ตามที่พูด ข้าหย่าจริงแน่"

ได้ยินนางว่า แทนที่จะเคือง ซีจงจวินกลับเผยยิ้มบาง โล่งใจเหลือเกินที่นางไม่คิดเอาความมากกว่านี้

"ข้าจะระวังให้มาก ท่านอย่ากังวลเลย"

เทพอสูรรีบเก็บกวาดเสกซากของบนพื้น ถอยออกมาโดยเร็ว ปิดประตูและไม่หันไปมองอีก

มี่ฮวาข่มตานั่งลงแช่น้ำในอ่าง ใจยังคงหลงเหลือความโกรธและความอับอายที่ถูกเทพอสูรเห็นร่างเปลือยของนาง

คอยดูเถิด หากมีโอกาสจะเล่นงานให้หนักเลย!

...

ซีจงจวินทำแผลให้ตัวเองเสร็จก็ไปอาบน้ำตรงธารน้ำตกในป่า โชคดีที่แผลไม่ได้ลึกจนถึงขั้นตาบอด แค่ลืมตาไม่ได้ไปอีกหลายวันเท่านั้น

ความมืดทำให้น้ำที่ปกติเย็นอยู่แล้ว ยิ่งหนาวราวจะแช่แข็งกระดูกได้

เขารีบอาบรีบกลับบ้าน ไม่ใช่เพราะทนหนาวไม่ได้ แต่เพราะไม่กล้าทิ้งมี่ฮวาเอาไว้คนเดียวนานๆ เพราะกลางคืนอันตรายกว่ากลางวันมากนัก

เมื่อกลับมาถึงซีจงจวินเห็นไฟในห้องนางดับสนิท คิดว่าภรรยาน่าจะหลับแล้วจึงกลับเข้าห้องตัวเองไปเงียบๆ

เทพอสูรล้มตัวนอนบนเตียงที่เมื่อคืนเป็นที่นอนของมี่ฮวา

กลิ่นหอมจากกายนางยังติดอยู่บนเตียงไม่จางหาย...

ซีจงจวินเอาหน้าซุกกับหมอน สูดเอาไอกลิ่นนั้นเข้าปอดลึก ไม่รู้ว่าตอนนี้ตนทำสีหน้าแบบไหนอยู่

ความหื่นกระหายเกิดขึ้นในมโนจิต กำหนัดพลันแล่นพล่านทั่วสรรพางค์กาย ผิวสีแดงอ่อนนั้นเริ่มมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดซึม

หอม... หอมเหลือเกิน...

ยิ่งคิดถึงใบหน้าหวานแฉล้ม รอยยิ้มของเขาก็ยิ่งกว้างขึ้น..

ซีจงจวินเอามือขยำหมอน คิดว่าเป็นร่างของนางยามถูกมือทั้งหกสัมผัสต้อง

นุ่มเหลือเกิน...

เขาขยี้หมอนแรงขึ้น พลางนึกถึงภาพที่ได้เห็นเมื่อตอนค่ำ

ภาพเปลือยของแม่นางผู้มีผิวพรรณเปล่งปลั่ง ทรวดทรงงามล้ำ ดวงหน้าเปี่ยมเสน่ห์ ทำให้ความกระหายใคร่พุ่งสูงเกินจะต้าน

ยอดถัน บั้นท้าย หรือหมอนใบนี้ สิ่งใดจะนิ่มกว่ากัน...

เรียวแขนนางยามโอบกอดจะให้ความรู้สึกดีเพียงไหน...

และหากนางเอาขากระหวัดเกี่ยวรั้งไว้ด้วยเล่า.. จะสุขเท่าใด...

จินตนาการไปแสนไกล มือเลื่อนปลดกางเกงนอนโยนไปบนพื้นแล้วเริ่มประกอบกิจกามด้วยตนเอง

แท่งหินใหญ่ที่รอบโคนคลุมด้วยเส้นขนดำขลับเริ่มแข็งขืน ปลายกระดกขึ้นรับสัมผัสที่มือของตนมอบให้

เขากำเหนี่ยวรูดรั้งมัน จากเบาเป็นแรง จากช้าเป็นเร็ว เกิดเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้อง ขณะเดียวกันก็หยิบเอาหมอนขึ้นมาสูดกลิ่นบุปผาหอมหื่น

"มี่..ฮวา..."

เสียงครางกระเส่าเรียกชื่อนาง นึกไปว่าสิ่งที่อยู่ใต้ร่างเป็นภรรยาคนงาม กำลังนอนยิ้มส่งสายตายั่วยวนมาให้

ซีจงจวินขย่มเตียงชำเราตนอยู่เป็นนานกว่าของเหลวขุ่นข้นจะพวยพุ่งทะลักจากปลายลำแข็งตั้งชูชัน

ลมหายใจหอบถี่ส่งผลให้อกแกร่งกระเพื่อมเร็ว มองลงไปเห็นของเหลวนั้นเลอะอยู่เกือบทั่วเตียงแล้วก็ยิ้มเผล่

หากข้างใต้นี้เป็นนางที่เปรอะเปื้อนน้ำของเขาเล่า...

เพียงนึกภาพ ท่อนเอ็นใหญ่ก็ไม่อาจล้มได้เสียแล้ว ซีจงจวินหยิบหมอนขึ้นมาใช้มันทำความคุ้นเคยกับอามณ์รักอีกหลายรอบ

ผ่านไปค่อนคืน มือที่เลอะน้ำเหนียวต้องหยุดลง

หมอนใบนุ่มที่เขาทำเพียงแค่ขยำขยี้ไปมา บัดนี้ขาดวิ่นไม่มีชิ้นดีเพราะกรงเล็บทั้งสามสิบนิ้วนั้นใหญ่และแหลมคมมาก

มิน่า.. นางถึงได้หวาดกลัวรังเกียจถึงเพียงนั้น

ซีจงจวินเริ่มรู้สึกตัวว่าลักษณะของตนอาจจะดูน่ากลัวเกินไป จึงเดินไปเปิดลิ้นชักเอากรรไกรออกมาตัดเล็บ

ถึงจะเป็นอาวุธชั้นดีขนาดไหน แต่หากมีมันแล้วทำให้ภรรยาไม่กล้าเข้าใกล้เช่นนี้ ไม่เก็บไว้เสียจะดีกว่า

ทั้งตัดทั้งตะไบเอาเหลี่ยมคมออกให้หมดทุกนิ้ว เสร็จแล้วก็เพ่งมองอย่างภาคภูมิใจ คิดไปว่าหากวันหน้ามีโอกาสจริงๆเขาจะไม่ทำให้ร่างอันบอบบางมีรอยข่วนหรือรอยช้ำแม้แต่รอยเดียว

ต่อไปนี้เขาจะตัดเล็บทุกสามวัน เพื่อเฝ้ารอวันที่จะได้สัมผัสกายนาง

*********

อิงเถา คือผลเชอร์รี่

Related chapters

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 13 十三

    ชีวิตดำเนินไปอย่างปกติ นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ซีจงจวินทำตัวเหมือนเรือนนี้ไม่ใช่เรือนของเขาข้าวไม่เคยกินร่วมโต๊ะ ไม่เคยนอนร่วมเตียงเคียงหมอน จะอาบน้ำต้องไปที่ธารน้ำตก เช้าตื่นมารับใช้นาง กลับบ้านมืดค่ำก็ยังรับใช้นางราวกับภรรยาเป็นนาย ส่วนเขาเป็นทาส..แต่ซีจงจวินก็ยังทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ เพราะไม่รู้ว่าการเป็นสามีภรรายากันต้องปฏิบัติตัวอย่างไรถึงจะดีขอเพียงไม่หนีกันไปไหน จะเป็นตัวอะไรในสายตานางก็ช่างเถิด...ตะวันใกล้ลาลับ ท้องฟ้าเปลี่ยนสีจากสว่างอ่อนเป็นครามคล้ำ ซีจงจวินและตงหลิงจวินยืนอยู่หน้าบันไดทางขึ้นเขาสวรรค์ รอเป่ยหานจวินและหนันอี้จวินมาผลัดเวรเช่นเดิม"นั่นไง มานู่นแล้ว"ตงหลิงจวินโบกไม้โบกมือให้เป่ยหานจวินและหนันอี้จวิน ส่วนซีจงจวินเมื่อเห็นร่างทั้งสองปรากฏอยู่ไกลๆก็หันมาเอ่ยลา"ข้าขอตัวกลับเลยนะขอรับ""อ้าว ไม่อยู่คุยกับพี่เป่ยหานพี่หนันอี้ก่อนหรือ" ตงหลิงจวินแปลกใจ เพราะปกติซีจงจวินจะรอให้ทั้งสองมาถึงก่อน คุยกันเล็กน้อยแล้วจึงลากลับ"ข้าจะรีบกลับไปทำอาหารเย็นให้มี่ฮวาขอรับ"คราวนี้ตงหลิงจวินหันมาขมวดคิ้วมอง เช่นเดียวกับเป่ยหานจวินและหนันอี้จวินที่พึ่งมาถึง"เมียเจ้าไม่ทำอาหา

    Last Updated : 2024-12-03
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 14 十四

    เกือบสองเดือนแล้วที่ซีจงจวินออกไปทำงานสายทุกวัน เพราะมัวแต่นั่งรอจะกินข้าวพร้อมภรรยาอันที่จริงไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ เพราะมี่ฮวาไม่ได้อยากเห็นหน้าเขาอยู่แล้วในใจมี่ฮวาชิงชังซีจงจวินเพราะเขาคืออสูรอัปลักษณ์ ร่างกายอันแปลกพิลึกนั่นไม่มีส่วนไหนน่าดูสักนิดที่สำคัญคืออสูรอัปลักษณ์ตนนั้นไม่เคยเจียมตัว คิดไขว่คว้าบุปผาสวรรค์มาเชยชม เพราะหลงเพียงเปลือกที่หุ้มตัวนางไว้ยิ่งรู้ว่าคนที่ช่วยบิดาจากวิญญาณร้ายแล้วยังให้สุราสวรรค์มาวันนั้นเป็นซีจงจวิน มี่ฮวาก็ยิ่งรู้สึกคับแค้นในอกคงกะให้ท่านพ่อติดหนี้บุญคุณสักหลายอย่าง แล้วค่อยเอ่ยขอลูกสาวมาเป็นเมียสินะ ไอ้ปีศาจเจ้าเล่ห์!นางทำสิ่งใดไม่ได้มากไปกว่าก่นด่าเขาวันละพันหน กับไม่ให้เขาเข้ามาใกล้นางมากนักอยากจะรู้เหลือเกิน ว่าหากผ่านไปนานกว่านี้อีกสักเดือนแล้วนางยังมีท่าทีรังเกียจอยู่ เขาจะทำอย่างไรแต่อสูรชั่วช้าเช่นนั้นจะทำอะไรได้เล่า.. นอกจากบังคับขืนใจนาง ให้ร่วมรักอย่างวิปริตผิดแปลกมองปราดเดียวก็รู้ สายตาที่เขาส่งมามักจะเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย ใคร่อยากจะแนบกายเกยชิดคนอยู่ว่างๆเอาแต่นั่งมองสวนดินอันว่างเปล่าที่ชวนให้รำคาญตา ระหว่างนั้นก็มีเสียงหน

    Last Updated : 2024-12-07
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 15 十五

    เช้าวันถัดมา หลังจากซีจงจวินออกไปทำงานได้สักพักมี่ฮวาเริ่มเดินสำรวจรอบบ้านอีกครั้ง เพื่อเอาเมล็ดพันธุ์ที่บิดาให้ไว้มาเพาะแต่ก่อนอื่นต้องแก้ดินเสียก่อน เพราะมันแห้งจนไม่สามารถปลูกอะไรได้เพียงวาดแขนหนเดียว พื้นดินก็ชุ่มชื้นขึ้น เมล็ดพืชถูกหว่านวาง งอกเงยออกดอกเบ่งบานนางให้ต้นเหมยกับดอกโบตั๋นขึ้นตรงห้องที่มีประตูเปิดออกมาชมสวน สร้างเป็นทุ่งดอกไม้หลากสีสวยงามการจัดสวนสร้างความเพลิดเพลิน จนรู้ตัวอีกทีก็เกือบค่ำเสียแล้ว เมื่องานเสร็จนางไม่มีอะไรทำจึงต้องมานั่งรอซีจงจวินกลับบ้านยามนี้พระอาทิตย์ได้จากท้องฟ้าไปนานแล้ว..การรอคอยทำให้เกิดโทสะเพราะมันเลยเวลามาตั้งหนึ่งชั่วยาม เทพอสูรก็ยังไม่ยอมกลับมารับใช้นางสักทีจนเข้ายามซวี ประตูหน้าบ้านถึงเปิดออกซีจงจวินกลับถึงบ้านในสภาพอิดโรยเล็กน้อย เสื้อผ้าไม่ค่อยเข้าที่นัก ที่แขนซ้ายมีแผลคล้ายรอยเขี้ยวของสัตว์อสูรฝากไว้ เลือดไหลซึมไม่มากมี่ฮวารู้ว่าเขากลับมาแล้วจึงเดินกอดอกเชิดหน้าหมายจะเข้ามาหาเรื่องแต่พอเห็นสภาพซีจงจวินที่เหมือนพึ่งไปรบ สมองก็ตื้อไปครู่หนึ่งเสียอย่างนั้น"ไปไหนมา""ข้าไปทำงานไถ่โทษมา"ฟังแล้วมี่ฮวาขมวดคิ้วไม่เข้าใจ ทำงานไถ่โทษทำ

    Last Updated : 2024-12-07
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 16 十六

    คืนนั้นมี่ฮวากลับเข้ามานอนในห้องของซีจงจวิน ความเหนื่อยล้าทำให้นางผล็อยหลับไปไม่รู้ตัวเช่นกันและเดินทางเข้าสู่ห้วงฝัน..ใต้ท้องฟ้าสีหม่นมัวที่ฝนปรอยลงมา รอบข้างเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจีดูไม่คุ้นเคย ตัวนางยืนหลบอยู่ใต้ต้นไม้ข้างกาย..เป็นชายผู้หนึ่งไม่รู้เหตุใดนางถึงเห็นใบหน้าเขาไม่ชัด..และเหมือนเขาจะพูดอะไรสักอย่าง แต่นางฟังไม่ถนัดเลย.."ท่านเป็นใคร"คำถามนั้นได้รับการตอบกลับ แต่นางฟังไม่ออก ยามชายผู้นั้นยื่นมือมาลูบหัว น่าแปลกที่มี่ฮวาไม่ขยับหนีแม้ในความฝันจะไม่ได้สัมผัสกันจริงๆ แต่นางกลับได้รับไออุ่นท่ามกลางสายฝนมาเต็มหัวใจ"ข้าคิดถึงท่าน"ไม่รู้ว่าพูดออกไปทำไม แต่ความรู้สึกด้านในมันบอกมาเช่นนั้นชายผู้นั้นโอบกอดนาง เนิ่นนานเหลือเกิน..และนางเองก็รู้สึกเหมือนอยากให้มันเป็นเช่นนี้ตลอดไป.....เสียงวิหคขับขาน บอกเวลาที่มันตื่นและโผบินออกจากรังเปลือกตาหนักอึ้งเปิดขึ้นช้าๆ กายของซีจงจวินล้าจนขยับแทบไม่ไหว แต่จำต้องฝืนลุกเพราะห่วงเตรียมสำรับให้ภรรยาเมื่อลุกขึ้นนั่งก็พบว่าบนตัวมีผ้าห่มหนาคลุมอยู่ ทั้งที่เมื่อคืนจำได้ว่าทำแผลเสร็จก็นอนไปบนพื้นเย็นๆทั้งอย่างนั้น...พลันรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบ

    Last Updated : 2024-12-13
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 17 十七

    มี่ฮวาอาบน้ำเสร็จกำลังจะเดินเข้าห้องแต่ฝ่าเท้าหยุดชะงักเมื่อนางเปิดประตูและภาพวิญญาณเมื่อคืนผุดขึ้นมาในหัวมันน่ากลัว จนไม่กล้านอนคนเดียวอีก..."นี่"มี่ฮวาหันไปเรียกเทพอสูรที่ยืนรอส่งนางเข้าห้อง เขาเงยหน้าขึ้นเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม"คืนนี้ข้าจะนอนในห้องเจ้า เจ้านอนที่พื้นเหมือนคืนนั้น"แล้วนางก็เดินไปที่ห้องซึ่งอยู่ถัดไป ซีจงจวินได้แต่มองตามแล้วยิ้มออกมาอย่างมีความหวังอีกครั้ง..คิดว่ามี่ฮวาเริ่มไว้ใจเขามากขึ้น..เช่นนั้น.. หากแขนเขาขาดไปอีกสักข้าง นางจะยอมพูดด้วยหรือเปล่า..ซีจงจวินทำได้เพียงครุ่นคิด แต่ไม่กล้าเฉือนแขนทิ้งหรอก เท่านี้ก็เจ็บเกือบตายแล้วเขาหอบเสื้อผ้าออกไปอาบน้ำในป่าเหมือนเดิม แล้วจึงกลับเข้ามานอนที่มุมหนึ่งในห้องหลังจากเหนื่อยล้ามาตั้งแต่เมื่อคืนวาน คืนนี้ซีจงจวินหลับสนิทแม้จะนอนบนพื้นแข็งเย็นเยียบ...เท่านี้ก็ดีเกินพอเพราะนางอยู่ใกล้ เลยหายห่วงไปได้มาก...เวลาเดียวกัน มี่ฮวาไม่ได้หลับไปอย่างที่ซีจงจวินคิดนางแอบมองเทพอสูรที่นอนขดตัวอยู่ไกลๆ คิดว่าให้นอนบนพื้นไม้เย็นๆแบบนั้น เขาคงหนาวเหมือนกันแต่จะให้ขึ้นมานอนด้วยกันบนเตียงก็น่ากลัวเกินไปมี่ฮวาไม่ชอบเวลาที่รู้สึกเ

    Last Updated : 2024-12-13
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 18 十八

    สุริยันสาดแสง ซีจงจวินในชุดเกราะเหล็กพร้อมทำงานกำลังยกสำรับขึ้นโต๊ะ โดยมีสัตว์อสูรเดินตามหลังเพื่อเรียนรู้การทำงาน"ทำไมนายท่านถึงทำกับข้าวเยอะขนาดนี้หรือขอรับ"อสรพิษธาราเอ่ยถามขณะมองจานสองใบในมือตัวเอง และอีกห้าใบในมือของผู้เป็นนาย ก็ในบ้านมีกันอยู่แค่สองคน แต่นายท่านทำเผื่อเหมือนอยู่กันหกเจ็ดคน"ข้าอยากให้มี่ฮวาได้กินของดีมากๆไว้"เขาตอบขณะเรียงจานบนโต๊ะอย่างสวยงามเป็นระเบียบ ก่อนหันมาตั้งเตาอุ่นน้ำชาเล็กๆข้างโต๊ะ"ของว่างตอนกลางวันอยู่ในครัว หากชากานี้หมดตอนเช้าก็ชงกาใหม่ให้มี่ฮวาด้วย""ชงอย่างไรหรือขอรับ"วิหควายุถาม ซีจงจวินจึงค่อยๆสอนพวกมันไปทีละขั้นตอนจนกว่าจะเข้าใจ เพื่อจะได้ไม่ทำอะไรผิดพลาดตอนรับใช้ภรรยาเขา"ถ้านางตื่นสายแล้วสำรับพวกนี้เย็นชืด เจ้าก็เอาไปตั้งเตาอุ่นใหม่เสีย น้ำแกงเอาลงหม้อต้มอย่างละใบ อุ่นข้าวใช้หม้ออันนี้ จะผัดของก็อย่าใส่น้ำมันมากเกิน"ซีจงจวินพาบ่าวทั้งสองมาดูอุปกรณ์ในครัวอีกครั้งพร้อมอธิบายไปด้วย ก่อนจะเปิดเข่งหมั่นโถวนุ่มฟูให้เด็กน้อยดูเขาหยิบขึ้นมาสองลูก ส่งให้มันคนละลูก เด็กน้อยรับของร้อนในมือมาเป่าแล้วมองผู้เป็นนายตาแป๋ว"ถ้าหิวก็เอาสิ่งนี้ไปกิน แต่

    Last Updated : 2024-12-13
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 19 十九

    ความเย็นชาของภรรยาไม่ได้ทำให้สามีจดจำสักนิด..วันนี้ดูเทพอสูรจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ทำกับข้าวไปก็ยังยิ้มไม่หุบจนซวนเฟยกับชิงเหลียงสงสัย"ทำไมวันนี้นายท่านถึงอารมณ์ดีนักหรือขอรับ" เจ้าครึ่งนกถาม"เดี๋ยวพวกเจ้าก็รู้" ซีจงจวินไม่ยอมบอก เพียงหันไปตักผัดผักใส่จานส่งให้เจ้าครึ่งงูเขากะเก็บไว้เป็นความลับ รอกระทั่งถึงตอนเย็นค่อยบอก..เมื่อคืนก่อน ในห้องห้องหนึ่งซึ่งเมื่อก่อนว่างโล่ง ตอนนี้มีเครื่องเรือนไม้วางตั้งทั้งตู้หนังสือ โต๊ะกว้างตรงกลางห้อง และตั่งยาวตรงข้างหน้าต่างจากนั้นก็ขนเอาของของมี่ฮวามาจัดใหม่ วางหนังสือเรียงเป็นระเบียบ ผืนผ้าหลากเนื้อหลายสีถูกพับเก็บเรียบร้อยในลิ้นชักเดียวกับอุปกรณ์เย็บปัก เครื่องเขียนถูกจัดวางบนโต๊ะครบครันจากการสังเกตมาสักพักรวมกับที่ถามจากเจ้าอสูรเด็กทำให้รู้ว่าตอนกลางวันมี่ฮวามักจะนั่งเย็บนู่นปักนี่ในห้องชมสวนหรือไม่ก็วาดรูปเขียนกลอน ส่วนตอนกลางคืนก็จะอ่านหนังสือในห้องนอนด้วยความอยากเอาใจ ซีจงจวินจึงแอบทยอยขนของของนางมาไว้ให้ และก็กะจะซื้อเพิ่มด้วยเขาชอบเวลาเห็นภรรยาตั้งใจทำอะไรสักอย่าง แม้จะเป็นงานเล็กๆน้อยๆฆ่าเวลาแต่คนมองก็ยังชุ่มชื่นหัวใจนอกจากนี้นางยั

    Last Updated : 2024-12-13
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 20 二十

    ซีจงจวินมาทำงานตอนเช้าและกลับตอนค่ำเหมือนเคย แต่วันนี้ก่อนปลีกตัวจากเหล่าสหาย ตงหลิงจวินก็กวักมือเรียกให้เข้ามาใกล้ๆ"เอ้า เอานี่ไป" ตงหลิงจวินยัดหนังสือเล่มหนึ่งใส่มือซีจงจวิน"นี่คือหนังสืออะไรหรือขอรับ"หลังจากยื่นให้ ตงหลิงจวินก็มีสีหน้ากระดี๊กระด๊าราวกับเป็นคนได้รับเสียเอง พยักพเยิดให้คนทำหน้าไม่เข้าใจรีบเปิดดู!!!!ดวงตาเทพอสูรแมงป่องเบิกกว้างทันทีเมื่อภาพด้านในฉายออกมาให้เห็นมันคือ..ภาพการร่วมรัก!เมื่อเปิดไล่ไปทีละหน้าก็พบว่าในนี้มีแต่ฉากร่วมรักเต็มไปหมด ทั้งภาพทั้งคำอธิบายชัดเจนแจ่มแจ้ง!!หลายท่าหลายทางดูพิสดารทว่าอัศจรรย์นัก ช่างดึดดูดสายตาน่าลองทำตามยิ่ง"เขาเรียกว่าตำราวังวสันต์"ตงหลิงจวินกลั้นหัวเราะกับท่าทางของซีจงจวินที่ไม่เคยเห็นของแบบนี้มาก่อนในชีวิต"..ตำรา..วังวสันต์?" ซีจงจวินทวนคำโดยที่ดวงตายังคงจดจ้องภาพการร่วมรักน่าอภิรมย์ค้างอยู่เช่นนั้น"ใช่ เป็นของที่มีขายในโลกมนุษย์"คราวนี้ซีจงจวินหันมาขมวดคิ้วมองตงหลิงจวินที่ยังยิ้มกรุ้มกริ่มไม่เลิก "พี่ตงหลิงมีได้อย่างไรขอรับ""จะยากอะไร เมียข้าไปหาซื้อมาไว้เต็มบ้าน""ภรรยา..ของท่าน!?" พอได้ยินดังนั้น คนฟังถึงกับอึ้งไปช

    Last Updated : 2024-12-13

Latest chapter

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 62 六十二

    สามวันผ่านไปจากนั้น อวี้เวินฉิงต้องข้อหาหลายคดี ทั้งละทิ้งหน้าที่ บุกรุกจวนแม่ทัพยามวิกาล ทำร้ายร่างกาย และขโมยของคดีสุดท้ายนั้นแม่ทัพจงตั้งใจป้ายสีเอง ด้วยอยากให้อวี้เวินฉิงถูกจับโยนเข้าตาราง ขังลืมไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันในห้องขังมืดสนิทมีเพียงช่องลมติดลูกกรงหนาเท่านั้นเป็นที่ให้แสง อวี้เวินฉิงอยู่ในชุดนักโทษมอซอหมดสง่าราศี ข้อมือและข้อเท้าติดโซ่ตรวนเหล็กห้อยยาวในสถานที่แห่งนี้ไม่มีเสียงใดนอกจากเสียงความทุกข์ทรมานกับเสียงสายโซ่กระทบพื้นลากไปมานานๆทีหูจะได้ยินเสียงฝีเท้าหนักแน่นของคนภายนอกสักครั้ง และครั้งนี้อวี้เวินฉิงรู้ว่าใครมาทั้งที่ไม่ต้องเงยหน้ามอง"อยู่นิ่งๆก็เป็นรึ มือปราบอวี้"คนที่จะเอ่ยวาจาเช่นนี้กับเขาได้มีเพียงคนที่จับเขาโยนเข้ามาในคุกเท่านั้นอวี้เวินฉิงไม่ตอบ เพียงเลื่อนสายตามามองแม่ทัพยืนเหยียดยิ้มอยู่นอกประตูลูกกรง"ข้าเคยเตือนแล้ว เป็นเจ้าที่รนหาที่ เลือกมาจบชีวิตตรงนี้เอง""..."ไร้การตอบสนองจากคนในคุก อวี้เวินฉิงยังนั่งมองกำแพงว่างเปล่าด้วยตาไร้แววอยู่เช่นเดิมถูกโยนเข้าคุกไม่เท่าไหร่ แต่หัวใจที่ยังเป็นแผลก่อนหน้านี้นี่สิ..."ข้าจำได้ว่าก่อนจับเจ้าเข้าคุกไม่ได

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 61 六十一

    หลังจากคืนนั้นจงซีจ้านไม่เรียกมี่ฮวาเข้าห้องนอนอีก จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วค่ำคืนอันเดียวดายทำร้ายหัวใจเสียยิ่งกว่าตอนถูกกระทำย่ำยีอย่างโหดร้าย มี่ฮวานอนกอดตัวขดกลมอยู่บนเตียง หวนนึกถึงสัมผัสอบอุ่นของซีจงจวินคืนแล้วคืนเล่าเทศกาลหยวนเซียวผ่านมาอีกครั้ง ด้านนอกไกลๆมีเสียงความคึกครื้นลอยมาเรื่อยๆคิดถึงปีนั้นที่ซีจงจวินพามาเที่ยวเล่นในโลกมนุษย์ครั้งแรก.. คิดถึงยามเขาพูดคุยสบตา ยามได้เดินจับมือ..คิดถึง...หญิงสาวลุกขึ้นมานั่งกอดเข่าซุกหน้าร้องไห้ไม่รู้สึกตัวเลยว่าตั้งแต่มาอยู่โลกมนุษย์นี้นางเสียน้ำตาไปแล้วกี่ครั้งก๊อก.. ก๊อก..เสียงหนึ่งดังขึ้นจากหน้าต่างไม้ หยุดน้ำตาไว้"ใคร"นางถามด้วยความประหลาดใจ คิดว่าไม่ใช่คนใช้ในเรือนแน่"ข้าเองมี่ฮวา"เสียงคุ้นหูนั้นอีกแล้ว เจ้าของชื่อจำได้แม่นยำ คนมาเรียกคืออวี้เวินฉิงไม่ผิดแน่บานหน้าต่างเปิดออก เทพแห่งแสงในคราบมือปราบหนุ่มใส่ชุดคลุมสีดำมิดชิด ปกปิดใบหน้าจนเหลือแค่ลูกตาเท่านั้น"ท่านมีธุระอะไรเจ้าคะ""ข้ามาพาเจ้าไป"ไป.. ไปไหนกัน?"ไม่ไปเจ้าค่ะ" ไม่รอให้อีกฝ่ายไขข้อข้องใจก็ปฏิเสธเสียแล้วมี่ฮวาไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวอีก บทเรียนจากคราว

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 60 六十

    บนเตียงหลังใหญ่ในห้องที่แสงไฟสลัว ร่างหนึ่งกำลังละเลงลิ้นอย่างเมามันบนผิวเนื้อนุ่มของคนข้างใต้จนนางต้องครางดังเพราะแรงเสียวหนักหน่วงที่เขามอบให้"ท่าน.. ท่านแม่ทัพ อย่าเจ้าค่ะ!"หญิงสาวพยายามปรามไม่ให้คนด้านบนใช้ฟันคมกัดดึงตุ่มเนื้อยอดถันราวกับหมาป่าจะฉีกกระชากเหยื่อ จนตอนนี้ผิวส่วนนั้นกลายเป็นสีอมม่วงไปแล้วแต่จงซีจ้านที่กำหนัดพลุ่งพล่านอยู่มีหรือจะยอมฟัง ยิ่งเขากำลังฉุนเฉียวไม่หายจากเรื่องเมื่อกลางวันด้วยแล้ว ยิ่งพาลให้อยากลงไม้ลงมือกับมี่ฮวาหนักขึ้น"อ๊ะ!!!"เสียงร้องดังลั่นเพราะโดนกัดเข้าที่หัวไหล่อย่างแรง เขายังทิ้งรอยฟันกับรอยเลือดไว้ให้ปรากฏเด่นชัดร่างบางสั่นเทิ้มไปทั้งตัว นางไม่รู้ว่าต่อไปจงซีจ้านจะทำอะไรกับเรือนกายนี้เพราะดวงตาคู่งามถูกคาดปิดไว้ไม่ใช่เพียงเท่านั้น เขายังผูกข้อมือเล็กไว้กับเสาเตียง จับขาให้อ้าออกกว้างจนแทบฉีก กดกายโถมทับอย่างไม่กลัวว่านางจะหายใจไม่ออก"ท่านแม่ทัพเจ้าคะ..เบามือสักนิด..""เจ้าเป็นใครถึงมีสิทธิ์สั่งข้า!!"ว่าจะเอ่ยขอร้อง แต่ไม่ทันจบประโยคดีก็ถูกตวาดกลับเสียลั่นห้องมี่ฮวาต้องเก็บทุกคำพูดต่อจากนั้นลงคอไป น้ำตาไหลหยดหนึ่งซึ่งเขาไม่เห็นและถึงเห็นก

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 59 五十九

    ฤดูกาลหมุนเวียน แมกไม้ผลิดอกออกผลจนร่วงหล่นปลิวไป จากร้อนอบอ้าวเป็นเหน็บหนาวด้วยหิมะขาวโพลนคลุมแผ่นดินหลายเดือนเข้าไปแล้วที่มี่ฮวามาเป็นคนใช้ในจวน...แค่ตอนกลางวันเท่านั้น ส่วนกลางคืนนางจะกลายร่างเป็นนางคณิกาชั้นดี เป็นของเล่นให้เขาได้คลายเหงายาขมถูกส่งเข้าปากถ้วยแล้วถ้วยเล่า จนหญิงสาวไม่รู้เลยว่าตอนนี้มดลูกตัวเองจะยังสามารถใช้งานได้หรือไม่ความเห็นใจเป็นเหมือนความหวังลมๆแล้งๆ ซึ่งไม่มีทางได้รับจากผู้เป็นสามีเพราะเขาไม่มีความรักหลงเหลือให้นางหัวใจที่ทุกข์ระทมจำต้องทนรับความขมขื่นจากการกระทำอันโหดร้ายมี่ฮวาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองขณะนั่งส่องกระจกในห้องนอน ..ว่านางจะทนได้อีกนานเท่าไหร่กันภาพสะท้อนจากกระจกคือเรือนร่างซึ่งเมื่อก่อนเคยดูสมบูรณ์งดงาม แต่บัดนี้ดูทรุดโทรมแทบไม่มีส่วนใดน่ามองนางนึกถึงครั้งที่ซีจงจวินเคยอยู่ในสภาพเช่นนี้เมื่อหลายสิบปีก่อน ตอนนั้นนางเองก็ไม่สนใจเขาเหมือนกันท่านเอาคืนข้าได้สาสมจริงๆ...มี่ฮวาใส่เสื้อผ้าคนใช้เดินออกจากห้องเหมือนเช่นทุกเช้า"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะ" นางทักทายยามเดินผ่านพวกลุงคนใช้ ทุกคนโบกมือกลับอย่างใจดี แววตาโอบอ้อมอารีนั้นฉายความสงสารจับใจมี่ฮว

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 58 五十八

    "นางเป็นหมันเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ"แม่บ่านไห่นำคำของสาวใช้คนใหม่มารายงานท่านแม่ทัพตามหน้าที่ปัง!!เพียงได้ยินเท่านั้นมือใหญ่ที่ถือตำราอยู่ต้องกระแทกปิดมันกับโต๊ะอย่างแรง ระบายอารมณ์ขุ่นมัวทางสายตาใส่แม่บ้านชรา"คำลวงของสตรีมากเล่ห์ ข้าจำเป็นต้องเชื่อรึ!!"เขาขึ้นเสียง แม่บ้านไห่ก็ถึงกับยืนขาสั่นงันงก หลังที่งองุ้มนั้นต้องก้มลงหมอบกับพื้น"มะ.. ไม่เจ้าค่ะท่านแม่ทัพ""ไปพาตัวนางมา แล้วก็ไปต้มยานั่นมาใหม่ด้วย!!"คนหลังโต๊ะหนังสือชี้หน้าสั่งแม่บ้านชรา นางรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่แรงคนแก่จะทำได้ ไม่นานยาขมหม้อใหญ่ก็ถูกยกมาตั้งมี่ฮวาถูกพาตัวมาตรงกลางสวนร้างที่ตรงนั้นมีคนรับใช้ชายทั้งหมดรวมถึงแม่บ้านไห่อยู่ด้วย ทุกคนได้แต่ยืนก้มหน้าไม่กล้าสบตาคนนายใหญ่ของบ้านรู้เพียงว่าชะตาสาวใช้คนใหม่กำลังจะขาดเท่านั้นพอ..หญิงสาวนั่งคุกเข่ามองหม้อที่ส่งกลิ่นฉุนบนโต๊ะหิน เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดเกาะเต็มหน้าผาก"กิน"คำสั่งเด็ดขาดของแม่ทัพดังพอจะทำให้นางสะดุ้งโหยง มี่ฮวาต้องรีบเข้าไปหมอบตรงพื้นแทบเท้าเขา"ท่านแม่ทัพได้โปรดเมตตาข้าเถิดเจ้าค่ะ ข้าท้องไม่ได้แล้วจริงๆเจ้าค่ะ""ข้าไม่เชื่อ"น้ำแกงสีคล้ำ

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 57 五十七

    เช้าวันต่อมา มี่ฮวาตื่นแต่เช้าทั้งที่ร่างกายยังไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่นางมีงานต้องทำไม่อาจละเลยได้ในยามที่พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้น หญิงสาวลุกจากเตียงหันมองคนหลับ ใบหน้าของเขายามนี้เรียกได้ว่าดูหล่อเหลาคมคร้ามดั่งเทพสงครามบนสวรรค์แต่หากลืมตาขึ้นมาเมื่อใด.. คงดูไม่ต่างจากยักษ์อำมหิตตนหนึ่ง ไร้ซึ่งเมตตาการุณย์"ข้าคิดถึงท่านนัก"นางเอ่ยเสียงแผ่วเบา ลอยหายไปกับสายลมซึ่งพัดเข้ามาทางหน้าต่าง หลังจากสวมใส่อาภรณ์เรียบร้อยดีแล้วจึงกลับเรือนนอนของตัวเองไป...ตลาดเช้าที่นี่ดูคึกคักไม่ต่างจากที่แดนเทพ เป็นแหล่งรวมแม่บ้านซึ่งออกมาจ่ายตลาดและพูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระมี่ฮวาเดินตามแม่บ้านไห่ซื้อวัตถุดิบ โดยตลอดทางจะมีสายตาแปลกๆของทั้งพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าแถวนั้นจ้องมาตลอดนางทำเป็นไม่รับรู้ ยื่นเงินจ่ายให้แม่ค้าผลไม้ ส่วนแม่บ้านไห่ก็ยืนเลือกปลาอยู่ร้านข้างๆ"แม่นางมาจากจวนท่านแม่ทัพใช่หรือไม่" พ่อค้าร้านผักที่อยู่ไม่ไกลตะโกนถาม"ใช่เจ้าค่ะ"พอหญิงสาวตอบออกไปเช่นนั้น ผู้คนรอบข้างต่างก็ยืนอึ้ง บ้างเอามือป้องปากกระซิบกระซาบ"เหตุใดแม่ทัพปีศาจผู้นั้นถึงรับสาวใช้อย่างเจ้าเข้ามากัน""เจ้างามเ

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 56 五十六

    ในกระโจมมืดที่มีแสงไฟสลัวจากตะเกียงอันเดียวสะท้อนเงาของชายหญิงคู่หนึ่งขย่มร่างบนเตียงไม้จนมันเลื่อนดังเอี๊ยดอ๊าด"อะ.. ทะ ท่านแม่ทัพ..."เสียงครางกระเส่าแว่วหวานจากริมฝีปากอิ่มแดง เคล้าไปกับเสียงเนื้อกระทบกันรัวเร็วดูเร่าร้อน สะโพกสอบของคนด้านบนขยับบดเบียดเข้าออกถี่ๆเร่งให้คนข้างใต้ขยับรับตามแทบไม่ทันทุกการกระทำเป็นไปอย่างหยาบโลน มือใหญ่เที่ยวเคล้นคลึง ขยำขยี้เนินอกนุ่มเต็มไม้เต็มมือไม่มีถนอมไม่มีผ่อนแรงปากเขาประทับตราตีความเป็นเจ้าของทั่วตัวนาง เน้นหนักตรงยอดถันประดับตุ่มไตชูชัน กัดกระชากไปมาเบาๆอย่างเมามัน ก่อนดูดดุนแรงๆราวจะคั้นเอาเลือดนางออกมาแท่งหินใหญ่ยักษ์ร้อนดั่งถูกเอาไปอังไฟก่อนเสียบเข้ามานั้นสร้างความเจ็บปวดแสนสาหัส ขณะแทงโดนจุดที่ทำให้ข้างในเสียวจุกจนเกินจะระงับเสียง"อ๊าา!!"หญิงสาวถึงฝั่งรอบที่สามแล้ว แต่คนด้านบนยังขยับต่ออย่างเอาแต่ใจ ไม่สนสิ่งใดทั้งสิ้นเสียงครางต่ำของเขากับเสียงหวานใสของนางช่างเข้ากันได้ดี เช่นเดียวกับร่างกายที่สอดประสานเป็นหนึ่งเดียวทว่าหัวใจ..กลับไม่เป็นเช่นนั้น"อาา..."ในที่สุด น้ำคาวขาวขุ่นก็ถูกฉีดอัดเข้าไปในช่องสวาทเต็มเหนี่ยว ล้นทะลักออกมาเป

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 55 五十五

    ราวกับเหตุการณ์เมื่อครู่เป็นแค่ห้วงฝันเพียงหนึ่งชั่วยาม ตอนนี้ในกระโจมวุ่นวายไปหมด มี่ฮวาวิ่งรักษาทหารอย่างไม่หยุดพัก พยายามทำแผลให้เร็วที่สุด เมื่อเสร็จจากคนในนี้แล้วจึงจะรีบไปหาเขาหวังว่าคราวนี้ จงซีจ้านจะยอมให้นางรักษาจริงๆสักที..''ท่านหมอ คือว่า..''เมื่อมาถึงกระโจมก็พบเข้ากับฮวนเกอซึ่งยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้า เขาดูลำบากใจนิดหน่อยที่จะเอ่ยบอกนาง''ท่านแม่ทัพไม่ให้ข้าเข้าไปอีกแล้วหรือ'' นางถาม ชายหนุ่มก็พยักหน้าตอบอย่างจริงจัง''หากไม่ใช่หมอชาย ท่านแม่ทัพไม่มีทางให้จับเนื้อต้องตัวเด็ดขาดเลย ท่านหมอทิ้งยากับผ้าพันแผลไว้ตรงนี้แล้ว.. อะ อ้าว! ท่านหมอ!!''ท้ายประโยคฮวนเกอเสียงหลงทันทีเพราะหมอสาวนางนี้ไม่สนใจคำเขา แหวกผ้าคลุมกระโจมเดินฉับๆเข้าไปด้านในอย่างไม่เกรงกลัวอำนาจใด''ใครให้เจ้าเข้ามา!!"ตามคาด เมื่อเห็นหน้านางโผล่มาเขาจะต้องตะคอกใส่เสียงกร้าวทันที''ไม่มีเจ้าค่ะ แต่ข้าต้องทำหน้าที่หมอ รักษาท่านให้ดีที่สุด''''ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากสตรี! หน้าที่เดียวของเจ้าคือไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า!!''''ข้าคงทำเช่นนั้นไม่ได้เจ้าค่ะ ขออภัยที่ต้องล่วงเกิน''ว่าแล้วมี่ฮวาก็เข้าไปทรุดกายนั่งลงข้า

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 54 五十四

    วันเวลาในค่ายทหารยังคงดำเนินต่อไป...อย่างไม่ค่อยจะปกติเท่าไหร่นัก''ท่านหมอ! ท่านหมอ! ข้าโดนน้ำร้อนลวกตอนต้มโจ๊กเมื่อเช้า ทำแผลให้ข้าที''''ท่านหมอรักษาแผลมีดบาดให้ข้าอยู่ไม่เห็นหรือ เจ้ารอไปก่อน''''แต่แผลข้าใหญ่กว่าเจ้า''''แต่ข้ามาก่อน''''พวกท่านทั้งสองอย่าทะเลาะกันเลยเจ้าค่ะ ข้ารักษาให้ทุกคนอยู่แล้ว''เป็นเสียงของหมอสาวเอ่ยห้ามทัพ ทหารทั้งสองนายจึงหยุดศึกชิงความสนใจจากหมอตามที่นางบอกนี่ก็ผ่านมาครึ่งเดือนได้แล้ว กำลังเสริมจากเมืองหลวงยังมาไม่ถึงก็จริง แต่ยามที่ศึกสงบเช่นนี้ พวกหน้าที่ใหญ่ๆที่จำเป็นต้องมีหมอไม่มีอีกแล้วช่างน่าแปลกที่หมู่นี้เหล่าทหารในค่ายต่างก็ชอบมีแผลมาให้นางช่วยรักษาทุกวี่วัน ไม่ว่าจะโดนน้ำร้อนลวก มีดบาด รอยฟกช้ำจากการซ้อมอาวุธ ข้อเท้าแพลงตอนวิ่ง ยันแผลแมลงเล็กๆกัดต่อยที่ทิ้งไว้ไม่นานก็หาย พวกเขาก็ยังวิ่งมาหาหมอกันจะมีก็แต่เขาคนนั้นที่มาหานางโดยไม่มีจุดประสงค์อื่นนอกจากไล่ให้ไปไกลๆ..''ยังอยู่อีกรึ''น้ำเสียงราบเรียบที่แดกดันกันชัดเจนดังมาจากหน้ากระโจม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นใครที่พึ่งเข้ามา''ก็ค่ายทหารขาดหมอไม่ได้นี่เจ้าคะท่านแม่ทัพ'' มี่ฮวาหันมายิ้มตอบอย่างส

DMCA.com Protection Status