แชร์

บทที่ 72 七十二

ผู้เขียน: PinkyPaw
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-12 10:22:35

ค่ำวันหนึ่งในวสันตฤดู มี่ฮวามายืนรอสามีหน้าประตูบ้าน เห็นเขากลับช้ากว่าปกติก็นึกเป็นห่วงขึ้นมา

ราวสามก้านธูปผ่านไปเขาก็ยังไม่มาทำเอานางร้อนใจไปหมด พวกลูกๆหิวจนทนไม่ไหวเลยพากันกินข้าวเย็นไปก่อนแล้ว เหลือแต่นางที่ยังรอกินพร้อมสามี

ทำไมถึงชักช้านัก..

เพียงหลังจากนั้นไม่นาน ปรากฏเงาร่างดำๆบนท้องฟ้าตรงหลังบ้าน ซีจงจวินเห็นมี่ฮวามองออกไปยังทางที่เขากลับทุกวันก็แปลกใจ

"มี่ฮวา ข้ากลับมาแล้ว"

ได้ยินเสียงเรียกนางจึงหันหลังเดินมาหาด้วยสีหน้าขุ่นเคือง

"ไปไหนมา"

"ข้าไปช่วยสัตว์อสูรอพยพอยู่เลยกลับช้า"

ได้ยินคำเขาบอก นางหรี่ตามองเล็กน้อยคล้ายไม่ค่อยพอใจนัก

"สัตว์อสูรที่ไหน"

"ตรงทางไปเขาสวรรค์นั่นแหละ พอดีข้าผ่านไปเห็นว่านางกำลังลำบากกับการย้ายถิ่นเลยช่วยไว้"

เขาชี้แจงด้วยสีหน้างง ขณะอีกคนสะดุดใจในประโยคเมื่อครู่ แต่สุดท้ายก็ต้องถอนหายใจยอมรามือจากการเค้นถาม

"เช่นนั้นก็แล้วไป วันนี้พวกลูกๆหิวจนรอเราไม่ไหว แต่ข้ายังไม่ได้กินข้าวเพราะรอท่าน" นางเข้ามาควงแขนเขาไว้ เอาใบหน้าถูไถออดอ้อนทำเอาสามีต้องอมยิ้ม

การทำแบบนั้นเขาคิดว่านางตั้งใจทำตัวน่ารัก แต่กลับกันนางกำลังแอบดมกลิ่นที่ติดตัวเขามาต่างหาก

ในใจยังรู
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 1 一

    "คารวะท่านเทพแห่งอรุณรุ่งทิวากาล ฮูหยิน และโอรสทั้งสาม"น้ำเสียงดุดันจากผู้เฝ้าบันไดขึ้นเขาสวรรค์ทั้งสี่ดังก้องทั่วแผ่นดินเทพเซียนหาได้สนใจเสียงเหล่านั้น เหาะเลียบบันไดนับพันขั้นไปยังวังมหาเทพที่ยอดเขาผู้เฝ้าบันไดทั้งสี่กลับมายืดตัวตรง ลดมือที่ประสานกันลง รอแขกกลุ่มต่อไปที่กำลังจะมาถึงเสียงดนตรีอึกทึกดังมาจากด้านบนเขา งานสังสรรค์ยิ่งใหญ่ที่ห้าพันปีจะจัดสักครั้ง เพื่อกระชับสัมพันธ์ระหว่างเผ่าเทพและมาร ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วยุทธภพแห่งนี้ปกครองโดยองค์มหาเทพ แบ่งแผ่นดินเป็นห้าส่วนเรียกตามทิศาดร สรวงสวรรค์ของพระองค์ตั้งอยู่บนขุนเขาสูงเหนือยอดเมฆาบนแผ่นดินใหญ่รอบแผ่นดินใหญ่ล้อมด้วยผืนโลกสี่แผ่น ได้แก่อุดร บูรพา ทักษิณ และประจิมแดนอุดรคือที่อยู่ของเผ่าเทพ แดนทักษิณคือที่อยู่ของเผ่ามาร แดนบูรพาคือพิภพมนุษย์ แดนประจิมคือนรกโลกวิญญาณ"มีขบวนเผ่ามารขึ้นมาจากทางใต้"หูทิพย์กระดิกเล็กน้อย เทพอสูรองค์แรกนามเป่ยหานจวิน เอ่ยบอกสหายทั้งสาม"เป็นท่านจอมมารราตรีกับหลานสาว"เป็นเสียงของเทพอสูรองค์ที่สองนามหนันอี้จวิน ผู้มีตาทิพย์มองเห็นไกลถึงเจ็ดร้อยลี้สามก้านธูปต่อมา ร่างจอมมารชุดดำปักเลื่อมลายแสงดา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 2 二

    ใครๆในใต้หล้าต่างก็รู้ว่าเทพเซียนเป็นผู้ถือตัวยิ่ง เพราะต่างก็มีรูปโฉมงดงามหลากหลายสำหรับเผ่ามาร แม้มีบ้างที่รูปโฉมงาม ทว่าส่วนใหญ่ก็จะหาได้ไม่มากนักส่วนเทพอสูรนั้นไม่ต้องพูดถึง พวกเขามีรูปกายอัปลักษณ์ ดังนั้นจึงต้องหาภรรยาที่ไม่รังเกียจกัน นั่นคือสัตว์อสูรเป่ยหานจวินมีชายาเป็นอสูรนางแมวแสนซน หนันอี้จวินมีชายาเป็นอสรพิษธารา ตงหลิงจวินมีชายาเป็นอดีตมนุษย์ ทว่าตายแล้วได้เกิดใหม่เป็นอสูรกระต่ายป่าน่าทะนุถนอมส่วนซีจงจวิน...ไม่เคยรู้จักเทพ หรือมารตนใด เพราะเขตเรือนของเขาติดชายแดนปรโลก ไม่มีสิ่งสวยงามเฉียดมาใกล้แถวนั้นมากนักดังเช่นเขตเรือนของสหายทั้งสามจะมีก็แต่วิญญาณผีร้ายที่หลุดออกมาจากนรกให้ต้องช่วยกำจัดและส่งคืนไปเท่านั้นงานเลี้ยงยังคงดำเนินไป คนบนตำหนักสวรรค์ร่วมพบปะกินดื่มกันอย่างสำราญ"คารวะมหาเทพ ขอพระองค์ทรงปกครองผืนฟ้า ปกปักษ์พสุธาแสนปี แสนๆปี"ชุนหรงเซิน เทพผู้ดูแลมวลพฤกษาพนาไพรประสานมือถวายบังคม ขณะเดินเข้าตำหนักรับรองด้านหลังชุนหรงเซินคือธิดาทั้งแปด ถอนสายบัวอย่างอ่อนช้อย"เจ้าแห่งพฤกษามาเยือนเขาสวรรค์ครานี้ ดอกไม้คงบานทั่วเขาไปอีกพันๆปี"มหาเทพเอ่ย มองเลยไปยังธิดาผู้งดง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 3 三

    งานเลี้ยงวันนั้นได้ผ่านมาแล้วอีกหลายปีเป็นหลายปีที่น่ารำคาญใจยิ่ง ด้วยมีข่าวลือแพร่สะพัดไปว่ามี่ฮวาแย่งชิงอวี้เวินฉิงมาจากจื่อสุ่ยจิงแรกๆมี่ฮวาไม่รู้อะไรจึงออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกตามปกติ กระทั่งเห็นสายตาคนรอบข้างที่เปลี่ยนนั่นแหละ ความรู้สึกนางถึงเปลี่ยนตามประกอบกับเหล่าคนใช้ที่ไปตลาดเช้าชอบเอาข่าวแปลกๆมาเล่าให้ฟัง ทำให้ยิ่งระคายหูจากนั้นนางก็เอาแต่ขลุกตัวอยู่ในวัง แทบไม่กล้าย่างกรายออกจากตำหนักด้วยซ้ำ บิดานางก็อยากจะช่วยแก้ปัญหาให้ แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ตกเสียทีเขารู้ว่าลูกทุกข์ใจขนาดไหน นางไม่เคยมีเรื่องด่างพร้อยในชีวิต กลับต้องมาติดในวังวนที่ใครก็ไม่รู้เป็นผู้สร้างเช่นนี้วันนี้ก็ยังเหมือนเดิม มี่ฮวานั่งเหม่อลอยมองแจกันดอกไม้ในห้องโดยมีสายตาของพ่อและแม่แอบสอดส่องมาจากนอกหน้าต่างเห็นดวงตาไม่สดใสของลูกสาวแล้ว ฮูหยินต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่"เหตุใดผู้คนถึงขยันเล่าขานเรื่องไม่จริงกันนักนะ"นางบ่นน้ำเสียงหม่นลง กังวลกับคำร่ำลือไร้แก่นสารที่ฝังหัวคนนานเกินไป"เราจะช่วยลูกอย่างไรดีเจ้าคะ" นางหันมาถามตาละห้อยชุนหรงเซินเองก็ไม่รู้ เป็นที่ลือกันเช่นนี้ ไม่ว่าจะสูงส่งมาจากไหนก็ถูกรังเกียจได

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 4 四

    ที่นี่...ที่ไหน?ชุนหรงเซินเปิดเปลือกตาหนักอึ้งช้าๆ สิ่งที่เห็นอย่างแรกเป็นเพดานไม้สูง คล้ายอยู่ในเรือนใครสักคนเทพเซียนไล่มองไปรอบๆ สายตาไปสะดุดเข้ากับร่างใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างๆเทพอสูร!!!เป็นเทพอสูรตัวแดงผู้มีสี่เขาหกมือ ด้านหลังมีหางปล้องสีดำเงาเยี่ยงแมงป่องพิษร้ายคนเจ็บทำท่าจะขยับตัวหนี ทว่าร่างกายกลับไม่ทำตามสมองสั่ง นอนนิ่งอยู่เช่นนั้นรอให้เทพอสูรเคลื่อนกายเข้ามาหาช้าๆกรงเล็บยาวยื่นมาใกล้ใบหน้า ชุนหรงเซินหลับตาปี๋ ใจเต้นดังดั่งเสียงประทัดด้วยความลุ้นระทึกข้ากำลังจะถูกฆ่า!!..แปะ..มือข้างหนึ่งที่ใหญ่เท่าศีรษะของเทพเซียนวางลงกลางหน้าผาก ครู่หนึ่งจึงยกออก"ไข้ลดแล้ว พักอีกสักหน่อยท่านก็จะหายดีขอรับ"น้ำเสียงเข้มดุของเทพอสูรทำให้ชุนหรงเซินค่อยๆลืมตาอีกครั้ง กะพริบปริบๆมองบุรุษที่นั่งชะโงกหน้ามองเขาเช่นกัน"รับโจ๊กเลยไหมขอรับ ข้าพึ่งต้มเสร็จคาดว่าท่านน่าจะตื่นมายามนี้พอดี"ฟังแล้วชวนให้ขมวดคิ้วงุนงง คราแรกไม่กล้ารับอาหารจากเทพอสูร แต่หลังจากได้กลิ่นโจ๊กหอม กระเพาะเจ้าปัญหาก็ส่งเสียงประท้วงขึ้นมาอย่างถูกจังหวะเสียอย่างนั้น"ค่อยๆลุกนะขอรับ"ฝ่ามือใหญ่ช้อนประคองร่างเทพเซียนขึ้นม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 5 五

    "เหงาเป็นอย่างไรหรือขอรับ"คำถามนั้นทำให้คนตอบถึงกับสะอึก ถ้อยคำทั้งหมดจุกอยู่ที่คอเทพอสูรผู้นี้ตายด้านไปแล้วอย่างนั้นหรือ.."ความเหงาก็คือห้วงอารมณ์หนึ่ง เป็นความรู้สึกอ้างว้างเดียวดาย จนเจ็บหน่วงในใจ"ชุนหรงเซินขยายความขึ้นเล็กน้อย แต่นั่นก็ยังไม่คลายความสงสัยได้มากพอ ซีจงจวินจึงถามต่อ"แล้วเมื่อใดถึงจะรู้สึกเหงาหรือขอรับ""ก็.. อย่างตอนที่อยากคุยกับใครสักคนแล้วไม่มีคนให้พูดด้วย หรือไม่มีคนที่ทำให้รู้สึกสบายใจอยู่ด้วย ทำให้คิดถึงจนรู้สึกโหวงเหวงในใจอะไรเทือกนั้น"หลังจากอธิบายไปแล้ว ซีจงจวินเพียงมองชุนหรงเซินนิ่งๆเช่นเดิม สีหน้าเขาไม่บ่งบอกสิ่งใดเลยแต่มือข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นมากุมอกซ้ายเอาไว้ ราวกับจะถามหัวใจว่าเป็นอย่างไรบ้าง.."เช่นนั้น ข้าก็รู้สึกเหงาแล้วขอรับ"ท่าทางของซีจงจวินทำให้เทพเซียนแห่งผืนป่าเข้าใจขึ้นมาทันทีนึกถอนคำพูดในใจที่ว่าเขาตายด้าน เพราะซีจงจวินยังมีหัวใจรับรู้ความรู้สึก เพียงแต่ไม่รู้จักมันเท่านั้น"ท่านเองก็เหงาเป็น คิดถึงเป็นเหมือนกันสินะ""ขอรับ ข้าคิดถึงขอรับ""ท่านคิดถึงผู้ใดหรือ"คำถามของชุนหรงเซินทำให้ซีจงจวินชะงักไป เขาทวนคิดคำพูดของตนก่อนหน้านี้แล้วก็ไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 6 六

    เทพเซียนทั่วทั้งแผ่นดินอุดรเดินทางมายังวังของเทพแห่งพฤกษาเพื่อเข้าร่วมงานดูตัวที่จัดอย่างสมฐานะเซียนตระกูลใหญ่ในตำหนักรับรองมีบุรุษนั่งปั้นยิ้มหน้าสลอนกันเต็มไปหมด ต่างสวมใส่อาภรณ์ชั้นดีเพื่อบ่งบอกความร่ำรวยและอำนาจตระกูลตั้งแต่นั่งคุยเช้าจรดค่ำ ไม่มีใครเลยที่ทำให้มี่ฮวาพึงใจ ทุกคนล้วนแต่เข้ามาเพื่ออวดอ้างว่าตนทำสิ่งนั้นได้สิ่งนี้ได้ ไม่ก็พยายามหาของมาเพื่อหลอกล่อซื้อใจนางบ้างป้อนคำหวาน ป้อยอกันจนระคายหู หาได้มีความจริงใจสักนิด เพราะได้เห็นรูปโฉมงดงามจึงอยากได้มี่ฮวาไปประดับเรือน ราวกับนางเป็นสิ่งของ...ไม่ดูถูกกันมากเกินไปหน่อยหรือสุดท้ายก็จบลงด้วยการให้เทพเซียนเหล่านั้นกลับวังของตัวเองไป โดยมี่ฮวาอ้างว่านางต้องใช้เวลาในการตัดสินใจสักหน่อย"ไม่มีใครถูกใจเจ้าบ้างหรือ"ชุนหรงเซินเอ่ยถาม มี่ฮวาที่นั่งฝั่งตรงข้ามก็ได้แต่ส่ายหน้า"จะให้ข้าชอบได้อย่างไรเจ้าคะ พวกเขาถูกใจที่รูปโฉม หากแต่งให้แล้ววันหนึ่งความสวยข้าโรยราดั่งดอกไม้เหี่ยวเฉาไปตามกาล จะไม่โยนทิ้งไปเสียง่ายๆหรือเจ้าคะ"บิดาฟังเข้าใจ นิสัยบุรุษเป็นเช่นนั้นจริง เมื่อแรกยังไม่ได้ก็จะทำทุกทางเพื่อให้ได้มา แต่หากลองได้เบื่อแล้วก็คง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 7 七

    ชุนหรงเซินหันมองที่ซีจงจวินทันที หัวคิ้วขมวดปมแน่นซีจงจวินไปทำอะไรที่แม่น้ำลืมเลือน ซึ่งอยู่ถึงสุดเขตดินแดนบูรพากันนะ..แต่ไม่ทันจะได้ถามต่อ ร่างของเทพอสูรก็ทรุดฮวบลงกองกับพื้นเสียแล้วเปลือกตาของซีจงจวินปิดสนิท บ่งบอกว่าเข้าสู่ห้วงนิทราไปเรียบร้อยชุนหรงเซินได้แต่ถอนหายใจกับปริศนาที่ชายผู้นี้ทิ้งเอาไว้ให้ ก่อนจัดแจงให้เขานอนในท่าที่ดูเรียบร้อยขึ้น แล้วตนก็นั่งดื่มสุราต่อผู้เดียวทั้งคืน...ดวงตะวันเริ่มเลื่อนขึ้นสู่ท้องฟ้า เหล่าสัตว์อสูรตื่นจากการหลับใหลซีจงจวินเองก็ตื่นตามเวลาปกติเช่นกัน แต่เช้านี้รู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย"โอยยย..."เขาครางเสียงต่ำ ฤทธิ์สุราสวรรค์ช่างร้อนแรง เล่นเอาปวดหัวตาลายจนไม่อาจทรงตัวได้ดีนัก"ตื่นแล้วหรือ"ชุนหรงเซินยังคงนั่งอยู่ที่เดิมตั้งแต่เมื่อคืน มองซีจงจวินที่ตอนนี้อยู่ในท่าประหลาดเทพอสูรคุกเข่าก้มตัวต่ำศีรษะแทบติดพื้น มือสองข้างกุมขมับ อีกสี่ข้างยันพื้นเอาไว้ หางปล้องยาวชูขึ้นสูงดูๆไปแล้วก็เหมือนแมงป่องจริงๆ เป็นแมงป่องยักษ์ที่กำลังอารมณ์ไม่ดี เกรงว่าหากเข้าไปกวนใจจะโดนฆ่าตายได้ง่ายๆ"ดื่มน้ำยาสร่างเมานี่เสีย"ชุนหรงเซินยื่นถ้วยยาส่งให้ซีจงจวิน เขารับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 8 八

    มี่ฮวาตื่นรับอรุณอันแจ่มใส ลุกมาทานสำรับเช้าพร้อมบิดามารดาและพี่ๆอย่างอารมณ์ดี"เจ้าคงหาสามียากขึ้นอีกแน่" สองฝาแฝดไป๋หลันและหวงหลันเอ่ย มี่ฮวาเพียงยู่ปากเล็กน้อยก่อนคีบกับข้าวกินแบบไม่ใส่ใจนัก"หากได้ไม่ดี ไม่มีเลยดีเสียกว่า" นางว่า ชุนหรงเซินก็ทำท่าหนักใจแม้จะโล่งที่อย่างน้อยลูกสาวก็ไม่ต้องแต่งให้คนที่ไม่เหมาะสม แต่ต่อไปคงมีข่าวลือเกี่ยวกับมี่ฮวากระจายไปทั่วอีกแน่แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง เมื่อเหล่าสาวใช้กลับจากตลาดก็วิ่งเข้ามาหาพวกเขาพร้อมบอกข่าวที่เก็บได้จากการออกไปข้างนอกว่า'ลูกสาวคนเล็กของเทพแห่งพฤกษาปฏิเสธการเลือกคู่เพื่อรอเทพแห่งแสงผู้เคยเป็นคนรักของหลานจอมมาราตรี'ตะเกียบในมือหล่นทันทีหลังฟังจบ สาวใช้ยังบอกอีกว่า บางคนก็เล่าลือกันไปว่า'ว่ากันว่าแม่นางมี่ฮวาต้องการให้อวี้เวินฉิงกลับมาหานาง แต่อวี้เวินฉิงไม่มานางจึงไม่เลือกชายใด''แม่นางมี่ฮวาไม่รู้สูงต่ำ กลั่นแกล้งเทพเซียนปั่นหัวบุรุษแล้วตัดเยื่อใยไม่ไว้ไมตรี''ลูกสาวเทพแห่งวสันต์ต้องการเพิ่มระดับความนิยมของตน จึงจัดงานดูตัวปลอมๆขึ้นมา''ตอนนี้เหล่าเทพรู้ซึ้งแล้ว ต่อให้งามเพียงใด แต่คิดร้ายหมายล่มเมือง พวกเขาไม่มีใครอยากแต่งน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03

บทล่าสุด

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 72 七十二

    ค่ำวันหนึ่งในวสันตฤดู มี่ฮวามายืนรอสามีหน้าประตูบ้าน เห็นเขากลับช้ากว่าปกติก็นึกเป็นห่วงขึ้นมาราวสามก้านธูปผ่านไปเขาก็ยังไม่มาทำเอานางร้อนใจไปหมด พวกลูกๆหิวจนทนไม่ไหวเลยพากันกินข้าวเย็นไปก่อนแล้ว เหลือแต่นางที่ยังรอกินพร้อมสามีทำไมถึงชักช้านัก..เพียงหลังจากนั้นไม่นาน ปรากฏเงาร่างดำๆบนท้องฟ้าตรงหลังบ้าน ซีจงจวินเห็นมี่ฮวามองออกไปยังทางที่เขากลับทุกวันก็แปลกใจ"มี่ฮวา ข้ากลับมาแล้ว"ได้ยินเสียงเรียกนางจึงหันหลังเดินมาหาด้วยสีหน้าขุ่นเคือง"ไปไหนมา""ข้าไปช่วยสัตว์อสูรอพยพอยู่เลยกลับช้า"ได้ยินคำเขาบอก นางหรี่ตามองเล็กน้อยคล้ายไม่ค่อยพอใจนัก"สัตว์อสูรที่ไหน""ตรงทางไปเขาสวรรค์นั่นแหละ พอดีข้าผ่านไปเห็นว่านางกำลังลำบากกับการย้ายถิ่นเลยช่วยไว้"เขาชี้แจงด้วยสีหน้างง ขณะอีกคนสะดุดใจในประโยคเมื่อครู่ แต่สุดท้ายก็ต้องถอนหายใจยอมรามือจากการเค้นถาม"เช่นนั้นก็แล้วไป วันนี้พวกลูกๆหิวจนรอเราไม่ไหว แต่ข้ายังไม่ได้กินข้าวเพราะรอท่าน" นางเข้ามาควงแขนเขาไว้ เอาใบหน้าถูไถออดอ้อนทำเอาสามีต้องอมยิ้มการทำแบบนั้นเขาคิดว่านางตั้งใจทำตัวน่ารัก แต่กลับกันนางกำลังแอบดมกลิ่นที่ติดตัวเขามาต่างหากในใจยังรู

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 71 七十一

    เจ็ดร้อยปีผ่านไป..ซวนเฟยกับกับชิงเหลียงอายุพันสามร้อยปีแล้ว ร่างกายกลายเป็นหนุ่มน้อยไม่ใช่เด็กตัวกะเปี๊ยกอีกต่อไปทั้งคู่ยังคงตั้งใจทำงานอย่างขยันขันแข็ง ในเรือนมีนายน้อยและคุณหนูเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคนจนทั้งสองกลายสภาพจากคนรับใช้เป็นพี่เลี้ยงเด็กโดยสมบูรณ์"ถูตรงนั้นให้ดีๆล่ะ"ซวนเฟยสั่งแมวป่าน้อยที่มักจะถูพื้นบ้านด้วยความเร็วเกินไปจนไม่แน่ใจว่าสะอาดจริงหรือไม่"เจ้าค่าาา ทราบแล้วเจ้าค่ะท่านหัวหน้า" นางตอบกลับมาเสียงประชดเหมือนเคย"เจ้าด้วย บนเพดานยังมีฝุ่นอยู่เลย" คราวนี้หันไปว่าเจ้ากวางผา"ข้าจะปีนขึ้นเช็ดเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ" อสูรกวางผาตอบก่อนวิ่งไปหยิบไม้ปัดฝุ่นอย่างเร็วเพราะเจ้านายทั้งสองขยันมีลูกกันมาก เมื่อคนในบ้านเพิ่มงานก็เพิ่มตาม นายท่านจึงไปเสาะหาอสูรรับใช้ใหม่มาทำงานบ้าน ส่วนซวนเฟยกับชิงเหลียงมีหน้าที่อย่างเดียวคือเฝ้าจับตาดูลูกๆให้เจ้าวิหควายุเดินตรวจความเรียบร้อยตามส่วนต่างๆไปเรื่อย นายท่านของมันได้ขยายเรือนออกไปกว้างกว่าเดิมหลายส่วน ยิ่งทำความดีความชอบปกป้องยุทธภพด้วยแล้ว ยิ่งได้รับประทานรางวัลอย่างงาม ที่ดินอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ทำให้ต้องใช้เวลาเดินตรวจตรานานขึ้น"ซวนเฟย! ซ

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 70 七十

    "ท่า..ท่านป้อ!"เด็กน้อยเกอซือชี้นิ้วไปที่บิดา เอ่ยเรียกแล้วยิ้มแป้น แก้มยุ้ยๆขึ้นสีระเรื่อช่างน่าเอ็นดูคนถูกเรียกตาเป็นประกาย อุ้มลูกขึ้นมาไว้ในมืออดใจไม่ได้ต้องจูบแก้มหนักๆสักหลายที"เก่งมากลูกพ่อ"ซีจงจวินดูจะภูมิใจเหลือเกิน มี่ฮวาที่นั่งปักผ้าอยู่ไม่ไกลมองพ่อลูกเล่นกันก็พลอยยิ้มตามไปด้วย"ท่าน..แม่!""จ้า เก่งมากเสี่ยวเกอ"นางยอมวางมือจากเข็มปักผ้าแล้วมาเล่นกับลูกบ้าง เกอซือเริ่มเติบโต ช่างน่ารักน่าเอ็นดู"ท่านตา ท่านยาย ท่านป้า"เกอซือเหมือนพยายามท่องคำที่ถูกสอนมา เสร็จแล้วก็หัวเราะตบมือเพราะคนเหล่านั้นใจดีและรักเกอซือเช่นกันตั้งแต่มี่ฮวาตั้งท้อง พ่อแม่นางมาเที่ยวหาอยู่บ่อยครั้ง เมื่อคลอดเกอซือออกมาตายายก็ดูจะเห่อหลานกันมาก ขยันมาบ้านนี้จนเด็กน้อยจำได้"พ่อจ๋า วันไหนว่างๆเราพาลูกไปเยี่ยมตายายดีหรือไม่"เดี๋ยวนี้สรรพนามที่ใช้เรียกสามีเปลี่ยนไป เพราะทั้งคู่อยากให้ลูกจำได้และเรียกตาม"เช่นนั้นข้าจะทำเรื่องลางานสักสองวัน"ภรรยาว่าอย่างไรเขาไม่เคยขัดอยู่แล้ว ในเมื่อนางอยากพาลูกออกไปเที่ยวเล่นบ้างเขาก็ตามใจดีเหมือนกัน นานๆทีจะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง นางกับลูกจะได้ไม่เบื่อความอุดอู้ใน

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 69 六十九

    สิบปีต่อจากนั้นมี่ฮวาตั้งครรภ์ครั้งแรก จากที่ได้รับการดูแลอย่างดี ตอนนี้สามีนางแทบไม่ให้ลุกเดินขยับไปไหนเลยด้วยซ้ำซวนเฟยกับชิงเหลียงเองก็ถูกสั่งให้ช่วยกันดูแลนางเป็นพิเศษกระทั่งลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัยเสียงร้องอุแว้ดังลั่นเรือน เซียนหมอสตรีมือฉมังจากแดนเทพที่ซีจงจวินไปเชิญเดินออกมาหาพ่อเด็กด้วยสีหน้ายินดี"เป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ"นางบอกแล้วยื่นห่อผ้าให้ซีจงจวินอุ้ม เทพอสูรมองหน้าเด็กทารกในมือแล้วแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เด็กคนนี้มีร่างกายเป็นเทพตัวขาวผ่องอมชมพูน่าทะนุถนอม แต่มีลักษณะคล้ายพ่อตรงที่บนหน้าผากมีเขาเล็กๆงอกออกมาสองคู่ ซึ่งมันจะค่อยๆขยายไปตามกาลเวลาซีจงจวินก้มลงหอมแก้มลูกเบาๆแล้วเดินเข้าไปหาภรรยาในห้องซวนเฟยมีหน้าที่ไปส่งท่านเซียนหมอ ชิงเหลียงช่วยเช็ดตัวให้มี่ฮวา ซีจงจวินนั่งลงข้างเตียงซับเหงื่อให้เล็กน้อยก่อนก้มลงจุมพิตที่หน้าผากนาง"ลูกเรา"เขายื่นเด็กน้อยให้นาง มี่ฮวารับเด็กที่ร้องไห้จ้าตั้งแต่เมื่อครู่มาไว้ในอ้อมแขน โอ๋กล่อมด้วยความรักใคร่"ตั้งชื่อว่าอะไรดีเจ้าคะ" นางถาม สามีใช้เวลาคิดครู่สั้นๆก่อนตอบเสียงนุ่มทุ้ม"เกอซือ"ได้ยินชื่อนั้นนางก็พยักหน้าเห็นด้วย ยิ้มให้

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 68 六十八

    ผ่านไปกี่คืนวันแล้วไม่รู้ตั้งแต่ซีจงจวินได้ร่างคืนมา เขาได้เป็นเทพเฝ้าประตูสวรรค์ดังเดิม ทุกวันทำงานตามปกติคล้ายเหตุการณ์เมื่อสี่สิบกว่าปี่ก่อนไม่เคยเกิดขึ้น"ข้ากลับมาแล้ว"ตะวันพึ่งลาลับขอบฟ้าไปได้ไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา ร่างเทพอสูรบึกบึนก็มาโผล่หน้าประตูเรียบร้อย น้ำเสียงของซีจงจวินดูร่าเริงมาก ผิดกับตอนเช้าก่อนออกไปทำงานที่จะอิดออดถ่วงเวลาอยู่นั่น"สำรับพร้อมแล้ว"ภรรยาผู้น่ารักเดินออกมาจากห้องอาหาร เนื้อตัวเป็นกลิ่นของคาวหวานคลุ้งไปหมด แต่สามีก็ยังวิ่งเข้ามาสวมกอดหอมฟัดนางเสียจนแทบล้มพับ"กินข้าวอาบน้ำก่อนซีจงจวิน"มี่ฮวาต้องรีบปราม ไม่เช่นนั้นนางจะไม่อาจหลุดจากอุ้งมือพันธนาการของสามีไปได้นับวันซีจงจวินยิ่งทำตัวเหมือนเป็นเด็กเข้าไปทุกที เขาชอบอ้อน ชอบเอาใจ จนบางครั้งมี่ฮวาก็อดคิดไม่ได้ว่าเพื่อนเขารู้ถึงตัวตนด้านนี้บ้างหรือเปล่าซีจงจวินยอมผละออกแต่โดยดี หลังจากถอดชุดเกราะออกแล้วก็มานั่งกินข้าว ไปอาบน้ำ เตรียมเข้านอนพร้อมภรรยาสุดที่รักแต่จะเรียกว่าเข้านอนเลยก็ไม่ได้เพราะก่อนหน้านั้นต้องมีกิจกรรมสำหรับคู่รักเสียก่อนซีจงจวินถึงจะยอมนอน"มี่ฮวา"สัมผัสจากปลายนิ้วสะกิดหลังเบาๆให้นางหันมาห

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 67 六十七

    เป็นจูบที่หวานที่สุดในชีวิตซีจงจวิน พอนางขยับเปิดปากเขาก็สอดลิ้นเข้าไปชิมรสชาติด้านใน กระหวัดเกี่ยวอย่างโหยหาเมื่อตักตวงจนมากพอแล้วมี่ฮวาผลักเขาออกเพื่อพักหายใจเล็กน้อย ดวงตายังสบประสานกันอย่างหวานฉ่ำ"เชื่อหรือยังว่าข้ารักเทพอสูรซีจงจวิน ไม่ใช่จงซีจ้านผู้นั้น"มี่ฮวารู้ว่าที่ซีจงจวินขอให้มหาเทพใส่จิตเขาลงไปในร่างของจงซีจ้านเพราะอะไรคนตอบพยักหน้าเล็กน้อย ช้อนสายตาขึ้นมองนางอย่างเด็กน้อยที่กลัวจะถูกว่าเมื่อทำผิด"ข้า.. เห็นว่าเจ้ายอมนอนกับข้าในร่างจงซีจ้าน เลยคิดว่าหากอยู่ในร่างนั้นเจ้าอาจจะชอบมากกว่า"ซีจงจวินไม่มั่นใจในตัวเองเอามากๆเลยสินะ ถึงได้มีความคิดแบบนี้มี่ฮวาระบายลมหายใจยาว กระเถิบขึ้นไปนั่งบนตักสวมกอดเขาไว้แน่นๆ ซุกหน้ากับแผ่นอกอีกรอบ"ข้าไม่สนว่าจะอยู่ในร่างไหน ขอแค่เป็นท่านก็พอ""เจ้าไม่รังเกียจข้าแล้วใช่หรือไม่""ไม่เลย ข้ากลับชอบด้วยซ้ำเวลาที่ท่านกอดข้าแบบนี้ข้ารู้สึกอบอุ่นปลอดภัย"นางชอบมือทุกข้างที่มอบความรู้สึกหลากหลายให้ มันมีความรักเจืออยู่ในทุกการกระทำร่างกายทั้งคู่ที่แนบชิดบดเบียดกันสร้างความร้อนขึ้นมา ตอนนี้ดูเหมือนว่าแค่กอดจากนางผู้เป็นที่รักเริ่มไม่เพียงพอเ

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 66 六十六

    ราชวังมหาเทพ ณ ยอดเขาสวรรค์ เทพบรรพกาลได้ก่อร่างกายทิพย์ของเทพอสูรขึ้นมาใหม่ดวงแสงสีขาวน้อยๆลอยส่องประกายริบหรี่ ปราณเซียนของซีจงจวินถูกนำมาตรึงใส่ไว้ในลูกแก้วกลมสุกใสในมือมหาเทพ"ไปพานางมา"พระองค์สั่ง เทพส่งสารก็รีบร้อนออกไปทันที รอไม่ถึงครึ่งชั่วยามร่างเซียนบุปผาก็มาปรากฏอยู่บนเขาสวรรค์มี่ฮวากลับมาอยู่ในร่างเทพเซียนดังเดิม แม้จะดูดีขึ้นแต่ก็เรียกไม่ได้ว่างดงามเหมือนก่อน"ในลูกแก้วเก็บวิญญาณนี้มีจิตของซีจงจวินอยู่"มหาเทพเอ่ยพร้อมยื่นลูกแก้วที่มีไอแสงสีนวลอ่อนให้นางดู ดวงตากลมสีหยกคู่นั้นดูจะเป็นประกายขึ้นมาซีจงจวินผ่านด่านเคราะห์บนโลกมนุษย์แล้วใช่หรือไม่.."ข้าจะใส่มันลงไปในร่างใหม่ของสามีเจ้าให้ตามสัญญา""ขอบพระทัยมหาเทพที่เมตตา" มี่ฮวาคุกเข่าก้มหัวหน้าผากจรดพื้น ดีใจจนเนื้อเต้นเก็บสีหน้าไม่อยู่"แต่ข้ายังมีข้อข้องใจอยากจะถามความเห็นเจ้าสักหน่อย"คำนั้นทำให้นางรีบเงยหน้าขึ้นมาขมวดคิ้วมองด้วยความสงสัย มหาเทพเอามือเท้าคางในท่าสบายๆเหมือนเคย ในมืออีกข้างกลิ้งดูลูกแก้วกลงกลึง"ข้ามีสองร่างให้พวกเจ้าเลือก ระหว่างร่างกายเดิมของซีจงจวินตอนยังเป็นเทพอสูร กับร่างกายใหม่ที่เป็นของจงซีจ้า

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 65 六十五

    สิ้นเสียงสั่งของแม่ทัพ ศรเกาทัณฑ์หลายหมื่นพุ่งตกเป็นห่าฝน แต่ทหารแคว้นหยวนใช่จะไร้ฝีมือ อาวุธเหล่านี้หาได้สร้างความหวาดหวั่นอีกทั้งจำนวนทหารที่มากกว่าหลายเท่าตัวทำให้ไม่สะทกสะท้านเลยหากคนจะหายไปสักหมื่นต่างฝ่ายต่างวิ่งเข้าโรมรัน เชลยศึกถูกปล่อยจากกรงให้วิ่งหนีตายกันไปคนละทิศละทาง นี่เป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาพอจะทำได้ในตอนนี้สู้ไปก็ถอยไป ทหารต้าหลี่เหนื่อยล้าจากการเดินทางและการสู้ศึกถึงสองรอบในเวลาใกล้เคียงกัน พวกเขาค่อยๆล้มตายตามกันไปทีละหลายคนมีเพียงแม่ทัพที่ยังยืนหยัดสู้อยู่ ในบรรดาทหารจงซีจ้านเป็นคนเดียวที่มีฝีมือมากพอจะต่อกรกับคนนับหลายสิบในคราวเดียวได้โดยไม่สร้างบาดแผลใดๆจากไม่ถึงสองหมื่น ตอนนี้ทหารต้าหลี่ในสังกัดแม่ทัพจงเหลือไม่ถึงพันแล้ว ส่วนฝั่งแคว้นหยวนยังมีอีกหลายหมื่นนายดาหน้าเข้ามาไม่รู้จักหมดมี่ฮวาวิ่งหนีเช่นกัน แต่ไปได้ไม่ไกลก็ถูกทหารฝั่งนั้นไล่ตามมาสองคน ในมือถือดาบใหญ่หมายเอาชีวิตนางแน่ฝีเท้าของผู้หญิงหรือจะสู้ทหารที่ถูกฝึกมาเป็นสิบปี ไม่กี่ก้าวมันก็ตามมาทันฉัวะ!!!!เสียงดาบเหล็กฟาดลงกระทบเนื้ออย่างแรงไม่ทันได้ส่งเสียงร้องก็ขาดใจเสียแล้วทว่าคนขาดใจตายไม่ใช่แม่นางต

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 64 六十四

    หลายวันต่อมา จงซีจ้านเจรียมตัวอย่างดี เมื่อเดินออกมาจากตัวเรือนคนรับใช้ก็จูงม้าศึกคู่ใจมาให้จากวันนี้ไปไม่รู้อีกนานเท่าไหร่ถึงจะได้กลับมาเมืองหลวงอีกครั้ง.."ขอให้เดินทางปลอดภัยเจ้าค่ะ"เป็นเสียงแม่บ้านชรายืนค้อมศรีษะให้ผู้เป็นนายตรงหน้าประตู คนใช้ทั้งจวนรู้ว่าเขากำลังจะไปไหนยกเว้นมี่ฮวาคนเดียวเขาคิดว่าหากนางไม่รู้ว่าเขาไปไหนและเมื่อไหร่จะกลับมา นางจะได้ตั้งหน้าตั้งตารอและระแวงว่าหากเดินออกนอกลู่นอกทางแล้วเขาจะรู้ ดังนั้นนางก็จะไม่อาจไปหาชายอื่นได้จงซีจ้านจะไม่ทำผิดซ้ำสอง จะไม่มอบรักทั้งหัวใจให้ใครง่ายๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองต้องเสียใจอีก..."เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ"เสียงนั้นทำให้ฝีเท้าหยุดชะงัก น่าแปลกที่วันนี้มี่ฮวาตื่นเช้ากว่าเดิม ทั้งที่ปกติจงซีจ้านไม่ได้ออกจากบ้านเวลานี้นางก็ยังอุตส่าห์รู้หญิงสาววิ่งตามมายื่นของบางสิ่งให้เขา มันคือถุงบุหงาหอมรัญจวนที่นางตั้งใจทำให้ แล้วยังปักลวดลายจันทราในกลีบเมฆ ถักพู่ห้อยสวยงาม..นางไม่รู้ว่าเขาจะไป เหตุใดถึงเอามาให้ คล้ายเป็นของที่ระลึก"เอามาให้ข้าทำไม""ข้าเห็นช่วงนี้ท่านแม่ทัพดูท่าทางไม่ค่อยสบายเจ้าค่ะ คิดว่าเรื่องงานคงยุ่งยากกวน

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status