แชร์

บทที่ 13 十三

ผู้เขียน: PinkyPaw
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-03 12:32:50

ชีวิตดำเนินไปอย่างปกติ นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ซีจงจวินทำตัวเหมือนเรือนนี้ไม่ใช่เรือนของเขา

ข้าวไม่เคยกินร่วมโต๊ะ ไม่เคยนอนร่วมเตียงเคียงหมอน จะอาบน้ำต้องไปที่ธารน้ำตก เช้าตื่นมารับใช้นาง กลับบ้านมืดค่ำก็ยังรับใช้นาง

ราวกับภรรยาเป็นนาย ส่วนเขาเป็นทาส..

แต่ซีจงจวินก็ยังทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ เพราะไม่รู้ว่าการเป็นสามีภรรายากันต้องปฏิบัติตัวอย่างไรถึงจะดี

ขอเพียงไม่หนีกันไปไหน จะเป็นตัวอะไรในสายตานางก็ช่างเถิด...

ตะวันใกล้ลาลับ ท้องฟ้าเปลี่ยนสีจากสว่างอ่อนเป็นครามคล้ำ ซีจงจวินและตงหลิงจวินยืนอยู่หน้าบันไดทางขึ้นเขาสวรรค์ รอเป่ยหานจวินและหนันอี้จวินมาผลัดเวรเช่นเดิม

"นั่นไง มานู่นแล้ว"

ตงหลิงจวินโบกไม้โบกมือให้เป่ยหานจวินและหนันอี้จวิน ส่วนซีจงจวินเมื่อเห็นร่างทั้งสองปรากฏอยู่ไกลๆก็หันมาเอ่ยลา

"ข้าขอตัวกลับเลยนะขอรับ"

"อ้าว ไม่อยู่คุยกับพี่เป่ยหานพี่หนันอี้ก่อนหรือ" ตงหลิงจวินแปลกใจ เพราะปกติซีจงจวินจะรอให้ทั้งสองมาถึงก่อน คุยกันเล็กน้อยแล้วจึงลากลับ

"ข้าจะรีบกลับไปทำอาหารเย็นให้มี่ฮวาขอรับ"

คราวนี้ตงหลิงจวินหันมาขมวดคิ้วมอง เช่นเดียวกับเป่ยหานจวินและหนันอี้จวินที่พึ่งมาถึง

"เมียเจ้าไม่ทำอาหารหรือ" เป่ยหานจวินเอ่ยถาม ซีจงจวินก็ส่ายหน้ารัวก่อนตอบ

"นางเป็นเทพธิดาในวังใหญ่โตมาก่อน มีแต่คนคอยรับใช้ขอรับ"

พอฟังจบทั้งสามก็งงงัน สามีทำงานทั้งวันแล้วยังต้องกลับไปทำงานบ้านอีก เช่นนี้ไม่เหนื่อยแย่หรือ

พวกเขาต่างก็มีภรรยาผู้น่ารักคอยปรนนิบัติ จึงไม่คุ้นชินเมื่อได้ยินว่าสามีต้องรับใช้ภรรยา

"ซีจง เจ้าไม่ลองยื่นข้อเสนออะไรไปหน่อยหรือ อย่างเช่นให้นางช่วยทำงานเล็กๆน้อยๆ หากทำกับข้าวไม่เป็นก็เตรียมของไว้ให้เจ้า อะไรแบบนี้" หนันอี้จวินบอก แต่ซีจงจวินก็ส่ายหน้าอีก

"ไม่ล่ะขอรับ ข้าทำให้นางแบบนี้ดีแล้ว"

ทั้งสามฟังแล้วได้แต่ยืนอึ้ง ไม่นึกว่าเพื่อนจะยอมภรรยาถึงขนาดนี้ นี่เป็นอานุภาพของความรักใช่หรือไม่

"เจ้ายอมนางก็ไม่เสียหายหรอก แต่มากไปก็ไม่ดี" หนันอี้จวินเอ่ยเตือน

"แต่ข้าว่า ไม่แน่นางอาจจะลองใจซีจงอยู่ก็ได้ ยอมๆไปก่อนน่าจะดีกว่านะ" เป็นตงหลิงจวินที่เสนอความคิด

"ลองใจคืออะไรขอรับ"

"ก็การแกล้งให้เจ้าทรมานเล่นๆ ดูว่าเจ้าจะทนรับนางได้แค่ไหนอย่างไรเล่า"

คราวนี้ซีจงจวินพยักหน้าตาม เริ่มคิดว่าบางทีมี่ฮวาอาจจะทำเพื่อลองใจเขา

"ข้าน่ะโดนมาหลายแบบเลยล่ะ แกล้งเอาแต่ใจงอแง โมโหบ่อยๆบ้าง หาเรื่องให้ทำนั่นนี่ให้บ้าง งอนไม่คุยด้วยบ้าง บางครั้งก็แกล้งหอบผ้าผ่อนหนีกลับบ้าน แต่ที่นางทำไปเพราะอยากรู้ว่าข้าจะตามง้อหรือไม่ พอข้าวิ่งเข้าหามากๆเข้านางก็ใจอ่อนไปเอง"

ที่ตงหลิงจวินพูดมาก็มีเหตุผล เป่ยหานจวินและหนันอี้จวินเห็นด้วย เพราะใช่ว่าภรรยาของพวกเขาจะไม่เคยทำเช่นนี้

"ถ้าอย่างนั้น ข้าคงต้องรีบกลับไปเอาใจนางให้มากขึ้นใช่ไหมขอรับ"

"อื้ม"

เมื่อได้รับคำยืนยัน ซีจงจวินไม่รอช้ารีบเหาะขึ้นท้องฟ้าสีนิลตรงกลับบ้านโดยเร็วที่สุด

...

สำรับเย็นที่มีกับข้าวแปดอย่างวางตรงหน้า ซีจงจวินนั่งกินข้าวตรงมุมห้องเหมือนเดิมแต่เขาไม่รีบกินเท่าวันก่อนๆนัก

เพราะอยากเอาใจมี่ฮวาให้มาก เลยลงมือปรุงกับข้าวเสียเยอะแยะกว่าทุกวัน หวังว่าจะถูกปากนางบ้าง สักจานก็ยังดี...

ดวงตาสีทองวาววับลอบมองตะเกียบในมือของอีกคน คีบเอาเนื้อปลาขึ้นมาใส่ปากเคี้ยวช้าๆ

ไม่มีสีหน้าแย้มยิ้ม หรือคำชมใดๆ...

"เจ้าจ้องข้านานไปหรือไม่"

มี่ฮวาเอ่ยเสียงแข็ง นั่นเป็นการเตือนว่าหากซีจงจวินยังไม่หันไปทางอื่น นางจะอาละวาดให้มื้อเย็นเละเป็นโจ๊กทีเดียว

คนถูกเตือนรอบแรกทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งกินเงียบๆต่อไป

ไม่มีการสนทนาในวงโต๊ะเหมือนครอบครัวอื่น สิ่งที่คั่นกลางระหว่างมวลอากาศน่าอึดอัด..คือเสียงฝนสาดด้านนอกเรือนกับเสียงฟ้าร้องโครมครามเบาๆ เท่านั้นเอง

กระทั่งผ่านไปไม่นาน ได้ยินเสียงวางตะเกียบ ซีจงจวินจึงหันไปมองจานกับข้าว พบว่ามันไม่ได้พร่องไปมากเท่าไหร่เลย

"ไม่อร่อยหรือ"

เขาตัดสินใจถามไป วันนี้ตั้งแต่เช้ามายังไม่ได้คุยกันสักคำ ถามสักสี่ห้าคำก็ยังเหลืออยู่อีกตั้งหลายคำให้พูด

"เบื่อ"

มี่ฮวาตอบสั้นๆ นั่นยิ่งทำให้พ่อครัวสงสัยว่านางเบื่อจานไหนกัน

อยากรู้ว่านางชอบอะไรไม่ชอบอะไร หากมีอะไรที่นางไม่ชอบ เขาจะได้ไม่ทำให้กิน

"เบื่อสิ่งใดหรือ"

คราวนี้นางชายตามองอย่างเย็นชา ก่อนจะหลบไปมองทางอื่น คล้ายไม่อยากเห็นหน้าเขานานนัก

"เบื่อคนทำอาหาร"

"..."

"แต่ช่างมันเถอะ ข้าทำอะไรไม่ได้ต่อให้เบื่อแค่ไหน ในเมื่อเจ้าทำมาข้าก็ได้แต่ต้องก้มหน้ากินอยู่ดี"

นางว่าคล้ายปลงกับกับชีวิต ส่วนซีจงจวินฟังแล้วไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดต่อ

การได้เห็นเขากินข้าวคล่องปากทั้งที่ตัวนางแทบไม่อยากกลืนอะไรลงท้องเช่นนี้ คงทำให้ไม่พอใจสินะ

ซีจงจวินจำใจวางตะเกียบลง เก็บสำรับแล้วลุกไปเตรียมน้ำร้อนให้มี่ฮวาอาบ

ราวสองก้านธูป..

หญิงสาวแช่น้ำน้ำจนพอใจ เดินออกมาพบว่าชายหนุ่มเข้าไปในห้องนอนเพื่อเปลี่ยนผ้าปูเตียงให้

ซีจงจวินโบกมือครั้งหนึ่งเกิดลมพัดไหว ผ้าปูเตียงก็เปลี่ยนเป็นผืนใหม่อย่างง่ายดาย ก่อนหันมาเจอนางยืนมองอยู่หน้าประตู

มี่ฮวาในชุดนอนบางพลิ้วยามนี้ช่างดูราวกับภูติตัวน้อยที่ใช้กลีบผกาบางเบาห่อหุ้มกาย..

แค่เห็นภรรยาคนงามก็เพลินตา เผลอมองจนรู้สึกตัวอีกทีนางก็ทำตาขวางใส่อีกหนเสียแล้ว

"ชอบผ้าปูใหม่หรือไม่"

ซีจงจวินกระแอมไอเล็กน้อยแก้เขินก่อนหลบไปยืนอีกทางให้นางได้เข้ามาที่เตียง

"ไม่ชอบ"

หลังจากถามอ้อมแอ้มและได้คำตอบเสียงดังฟังชัด ซีจงจวินหันมองผ้าที่เขาพึ่งปูไป สงสัยว่านางไม่ชอบมันตรงไหนกัน

หรือมันไม่ใช่สีโปรดนาง..

บางทีนางอาจจะไม่ชอบลาย..

เนื้อผ้ามันหยาบเกินไปกระมัง...

"ไม่ชอบเพราะอะไรหรือ"

สารพัดความคิดผุดขึ้น สุดท้ายต้องซีจงจวินนับคำก่อนพูด นี่เป็นคำถามสุดท้ายของวัน เพราะเขาไม่อาจพูดเกินยี่สิบคำได้

"เพราะเจ้าเป็นคนเลือก"

ตอบเสียงดังฟังชัดแล้วมี่ฮวาก็โบกมือไล่ ส่วนทางคนฟังทำอะไรไม่ได้นอกจากก้มหน้าซ่อนแววตาสีหม่น เดินออกไปตามคำสั่ง

..เขาผิดเองที่เลือกของไม่เป็น เพราะปกติผ้าปูที่นอนเขาเป็นสีขาวเรียบง่ายตลอด

พอจะหาของสักอย่างที่เข้ากับผู้หญิงหน่อยก็กลับทำได้ไม่ดี..

ประตูห้องปิดลง เหลือเพียงร่างใหญ่ยักษ์ของเทพอสูรกับสีหน้าที่ดูผิดหวังเต็มประดา

"ข้านี่มันใช้ไม่ได้เลยจริงๆ"

เขาพูดเบาๆกับตัวเอง ไม่หวังให้อีกคนได้ยินเพราะรู้ว่านางคงไม่ชอบเสียงนี้

ซีจงจวินเดินกลับห้องไป ไร้เสียงฝีเท้าราวเป็นวิญญาณไร้ตัวตน

เขาผิดหวังกับตัวเองที่ทำอะไรก็ไม่ถูกใจนางไปเสียหมด

ทั้งที่เขากำลังพยายาม..

ทั้งที่เขากำลังยอม.. เพื่ออะไรก็ตามที่จะแลกมาซึ่งความรักตอบแทน

หากตั้งใจมากกว่านี้ คราวหน้าจะต้องสำเร็จใช่หรือไม่...

กระนั้นเทพอสูรก็ยังคงคาดหวัง.. หารู้ไม่ว่าที่มี่ฮวาทำลงไปทั้งหมดไม่ใช่การลองใจอย่างที่คิด

นางปฏิเสธเพราะชัง...

อคติที่มีต่อเขาไม่มีวันลบเลือนจางหาย...

แม้ไม่รู้ว่าไปโกรธเกลียดมาตั้งแต่ชาติปางไหน แต่มี่ฮวาก็ไม่คิดจะผูกสัมพันธ์ด้วยแน่

...

ฝนตกหนักเกิดเสียงน้ำระลอกใหญ่กระทบหลังคากระเบื้อง

แต่ในห้องนอนกลับเงียบสงัด คนบนเตียงเอามือข้างหนึ่งทาบอกตรงที่มีอวัยวะส่งเสียงเต้นเบาๆ

คล้ายจะถามว่าหัวใจเป็นอะไรหรือเปล่า...

มือหนึ่งกอดผ้าปูที่นอนผืนเก่าซึ่งหยิบติดมือมาจากห้องของภรรยา

กลิ่นของมี่ฮวาติดอยู่บนนั้นเต็มไปหมด ทั้งที่สูดดมจนชื่นอุรา ทว่าหัวใจกลับเจ็บแปลบ

นางเบื่อ เพราะข้าน่าเบื่อ...

นางไม่ชอบของที่ข้าให้ เพราะมันเป็นของของข้า...

เพราะนางอยากลองใจจริงๆ ใช่หรือไม่...

เพราะอยากให้ข้าอดทนมากๆ เลยพูดแบบนั้นสินะ...

เหตุใดแค่คำว่า 'เบื่อ' กับ 'ไม่ชอบ' ถึงให้ความรู้สึกราวกับมีคนกลิ้งหินทับอกเช่นนี้

ซีจงจวินเอาใบหน้าถูไถผ้าปูที่นอนผืนนั้น ไม่รู้ว่าทำแบบนี้แล้วได้อะไรขึ้นมา แต่อย่างน้อยการได้ดมกลิ่นนางก็ทำให้นอนหลับสบายขึ้น

หวังว่าสักวันสิ่งที่อยู่ในอ้อมกอดนี้จะเป็นกายหอมของภรรยา...

และยามเขาเชยชมดมดอม นางก็จะโอบกอดเขาไว้ด้วยความรักเช่นกัน...

"มี่ฮวา"

ชายหนุ่มเอ่ยเรียกเสียงหวาน ทั้งที่รู้ว่าสิ่งของมันพูดตอบไม่ได้

"มี่ฮวา ข้าทำสิ่งใดผิดหรือ"

กระนั้น... ซีจงจวินก็ยังหวังว่าผ้าปูที่นอนจะเป็นตัวแทนนางมาพูดกับเขา

"หากท่านบอก ข้าจะทำให้ใหม่หมดทุกอย่างเลยมี่ฮวา"

"..."

"ข้าอยากให้การลองใจจบลงเร็วๆ อยากให้ท่านใจดีกับข้า ..รักข้าบ้าง"

ดวงตาสีทองไม่ทอประกายแสงเหมือนก่อนอีกยามสูดกลิ่นสุคนธาหวานล้ำนั้น

"ถ้าข้ารอต่อไป ท่านจะรักข้าใช่หรือไม่"

ไม่ว่าจะพร่ำพูดหรือถามไถ่ รอบกายก็มีแต่ความเงียบงัน

ฝ่ามือไล่ลูบผืนผ้าเบาๆ ถนอมราวกับสิ่งของมีชีวิต ริมฝีปากพรมจูบ ลิ้นสากยาวแลบเลียจนชุ่มด้วยน้ำลายเหนียว

ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่ดูประหลาดแค่ไหน แต่อยากระบายความรู้สึกที่อัดอั้นข้างในออกมาเหลือเกิน

ภรรยาจะรู้หรือไม่ว่าการอยู่เช่นนี้ ทำให้หัวใจเขาไม่เป็นปกติ...

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 14 十四

    เกือบสองเดือนแล้วที่ซีจงจวินออกไปทำงานสายทุกวัน เพราะมัวแต่นั่งรอจะกินข้าวพร้อมภรรยาอันที่จริงไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ เพราะมี่ฮวาไม่ได้อยากเห็นหน้าเขาอยู่แล้วในใจมี่ฮวาชิงชังซีจงจวินเพราะเขาคืออสูรอัปลักษณ์ ร่างกายอันแปลกพิลึกนั่นไม่มีส่วนไหนน่าดูสักนิดที่สำคัญคืออสูรอัปลักษณ์ตนนั้นไม่เคยเจียมตัว คิดไขว่คว้าบุปผาสวรรค์มาเชยชม เพราะหลงเพียงเปลือกที่หุ้มตัวนางไว้ยิ่งรู้ว่าคนที่ช่วยบิดาจากวิญญาณร้ายแล้วยังให้สุราสวรรค์มาวันนั้นเป็นซีจงจวิน มี่ฮวาก็ยิ่งรู้สึกคับแค้นในอกคงกะให้ท่านพ่อติดหนี้บุญคุณสักหลายอย่าง แล้วค่อยเอ่ยขอลูกสาวมาเป็นเมียสินะ ไอ้ปีศาจเจ้าเล่ห์!นางทำสิ่งใดไม่ได้มากไปกว่าก่นด่าเขาวันละพันหน กับไม่ให้เขาเข้ามาใกล้นางมากนักอยากจะรู้เหลือเกิน ว่าหากผ่านไปนานกว่านี้อีกสักเดือนแล้วนางยังมีท่าทีรังเกียจอยู่ เขาจะทำอย่างไรแต่อสูรชั่วช้าเช่นนั้นจะทำอะไรได้เล่า.. นอกจากบังคับขืนใจนาง ให้ร่วมรักอย่างวิปริตผิดแปลกมองปราดเดียวก็รู้ สายตาที่เขาส่งมามักจะเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย ใคร่อยากจะแนบกายเกยชิดคนอยู่ว่างๆเอาแต่นั่งมองสวนดินอันว่างเปล่าที่ชวนให้รำคาญตา ระหว่างนั้นก็มีเสียงหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 15 十五

    เช้าวันถัดมา หลังจากซีจงจวินออกไปทำงานได้สักพักมี่ฮวาเริ่มเดินสำรวจรอบบ้านอีกครั้ง เพื่อเอาเมล็ดพันธุ์ที่บิดาให้ไว้มาเพาะแต่ก่อนอื่นต้องแก้ดินเสียก่อน เพราะมันแห้งจนไม่สามารถปลูกอะไรได้เพียงวาดแขนหนเดียว พื้นดินก็ชุ่มชื้นขึ้น เมล็ดพืชถูกหว่านวาง งอกเงยออกดอกเบ่งบานนางให้ต้นเหมยกับดอกโบตั๋นขึ้นตรงห้องที่มีประตูเปิดออกมาชมสวน สร้างเป็นทุ่งดอกไม้หลากสีสวยงามการจัดสวนสร้างความเพลิดเพลิน จนรู้ตัวอีกทีก็เกือบค่ำเสียแล้ว เมื่องานเสร็จนางไม่มีอะไรทำจึงต้องมานั่งรอซีจงจวินกลับบ้านยามนี้พระอาทิตย์ได้จากท้องฟ้าไปนานแล้ว..การรอคอยทำให้เกิดโทสะเพราะมันเลยเวลามาตั้งหนึ่งชั่วยาม เทพอสูรก็ยังไม่ยอมกลับมารับใช้นางสักทีจนเข้ายามซวี ประตูหน้าบ้านถึงเปิดออกซีจงจวินกลับถึงบ้านในสภาพอิดโรยเล็กน้อย เสื้อผ้าไม่ค่อยเข้าที่นัก ที่แขนซ้ายมีแผลคล้ายรอยเขี้ยวของสัตว์อสูรฝากไว้ เลือดไหลซึมไม่มากมี่ฮวารู้ว่าเขากลับมาแล้วจึงเดินกอดอกเชิดหน้าหมายจะเข้ามาหาเรื่องแต่พอเห็นสภาพซีจงจวินที่เหมือนพึ่งไปรบ สมองก็ตื้อไปครู่หนึ่งเสียอย่างนั้น"ไปไหนมา""ข้าไปทำงานไถ่โทษมา"ฟังแล้วมี่ฮวาขมวดคิ้วไม่เข้าใจ ทำงานไถ่โทษทำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 16 十六

    คืนนั้นมี่ฮวากลับเข้ามานอนในห้องของซีจงจวิน ความเหนื่อยล้าทำให้นางผล็อยหลับไปไม่รู้ตัวเช่นกันและเดินทางเข้าสู่ห้วงฝัน..ใต้ท้องฟ้าสีหม่นมัวที่ฝนปรอยลงมา รอบข้างเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจีดูไม่คุ้นเคย ตัวนางยืนหลบอยู่ใต้ต้นไม้ข้างกาย..เป็นชายผู้หนึ่งไม่รู้เหตุใดนางถึงเห็นใบหน้าเขาไม่ชัด..และเหมือนเขาจะพูดอะไรสักอย่าง แต่นางฟังไม่ถนัดเลย.."ท่านเป็นใคร"คำถามนั้นได้รับการตอบกลับ แต่นางฟังไม่ออก ยามชายผู้นั้นยื่นมือมาลูบหัว น่าแปลกที่มี่ฮวาไม่ขยับหนีแม้ในความฝันจะไม่ได้สัมผัสกันจริงๆ แต่นางกลับได้รับไออุ่นท่ามกลางสายฝนมาเต็มหัวใจ"ข้าคิดถึงท่าน"ไม่รู้ว่าพูดออกไปทำไม แต่ความรู้สึกด้านในมันบอกมาเช่นนั้นชายผู้นั้นโอบกอดนาง เนิ่นนานเหลือเกิน..และนางเองก็รู้สึกเหมือนอยากให้มันเป็นเช่นนี้ตลอดไป.....เสียงวิหคขับขาน บอกเวลาที่มันตื่นและโผบินออกจากรังเปลือกตาหนักอึ้งเปิดขึ้นช้าๆ กายของซีจงจวินล้าจนขยับแทบไม่ไหว แต่จำต้องฝืนลุกเพราะห่วงเตรียมสำรับให้ภรรยาเมื่อลุกขึ้นนั่งก็พบว่าบนตัวมีผ้าห่มหนาคลุมอยู่ ทั้งที่เมื่อคืนจำได้ว่าทำแผลเสร็จก็นอนไปบนพื้นเย็นๆทั้งอย่างนั้น...พลันรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 17 十七

    มี่ฮวาอาบน้ำเสร็จกำลังจะเดินเข้าห้องแต่ฝ่าเท้าหยุดชะงักเมื่อนางเปิดประตูและภาพวิญญาณเมื่อคืนผุดขึ้นมาในหัวมันน่ากลัว จนไม่กล้านอนคนเดียวอีก..."นี่"มี่ฮวาหันไปเรียกเทพอสูรที่ยืนรอส่งนางเข้าห้อง เขาเงยหน้าขึ้นเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม"คืนนี้ข้าจะนอนในห้องเจ้า เจ้านอนที่พื้นเหมือนคืนนั้น"แล้วนางก็เดินไปที่ห้องซึ่งอยู่ถัดไป ซีจงจวินได้แต่มองตามแล้วยิ้มออกมาอย่างมีความหวังอีกครั้ง..คิดว่ามี่ฮวาเริ่มไว้ใจเขามากขึ้น..เช่นนั้น.. หากแขนเขาขาดไปอีกสักข้าง นางจะยอมพูดด้วยหรือเปล่า..ซีจงจวินทำได้เพียงครุ่นคิด แต่ไม่กล้าเฉือนแขนทิ้งหรอก เท่านี้ก็เจ็บเกือบตายแล้วเขาหอบเสื้อผ้าออกไปอาบน้ำในป่าเหมือนเดิม แล้วจึงกลับเข้ามานอนที่มุมหนึ่งในห้องหลังจากเหนื่อยล้ามาตั้งแต่เมื่อคืนวาน คืนนี้ซีจงจวินหลับสนิทแม้จะนอนบนพื้นแข็งเย็นเยียบ...เท่านี้ก็ดีเกินพอเพราะนางอยู่ใกล้ เลยหายห่วงไปได้มาก...เวลาเดียวกัน มี่ฮวาไม่ได้หลับไปอย่างที่ซีจงจวินคิดนางแอบมองเทพอสูรที่นอนขดตัวอยู่ไกลๆ คิดว่าให้นอนบนพื้นไม้เย็นๆแบบนั้น เขาคงหนาวเหมือนกันแต่จะให้ขึ้นมานอนด้วยกันบนเตียงก็น่ากลัวเกินไปมี่ฮวาไม่ชอบเวลาที่รู้สึกเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 18 十八

    สุริยันสาดแสง ซีจงจวินในชุดเกราะเหล็กพร้อมทำงานกำลังยกสำรับขึ้นโต๊ะ โดยมีสัตว์อสูรเดินตามหลังเพื่อเรียนรู้การทำงาน"ทำไมนายท่านถึงทำกับข้าวเยอะขนาดนี้หรือขอรับ"อสรพิษธาราเอ่ยถามขณะมองจานสองใบในมือตัวเอง และอีกห้าใบในมือของผู้เป็นนาย ก็ในบ้านมีกันอยู่แค่สองคน แต่นายท่านทำเผื่อเหมือนอยู่กันหกเจ็ดคน"ข้าอยากให้มี่ฮวาได้กินของดีมากๆไว้"เขาตอบขณะเรียงจานบนโต๊ะอย่างสวยงามเป็นระเบียบ ก่อนหันมาตั้งเตาอุ่นน้ำชาเล็กๆข้างโต๊ะ"ของว่างตอนกลางวันอยู่ในครัว หากชากานี้หมดตอนเช้าก็ชงกาใหม่ให้มี่ฮวาด้วย""ชงอย่างไรหรือขอรับ"วิหควายุถาม ซีจงจวินจึงค่อยๆสอนพวกมันไปทีละขั้นตอนจนกว่าจะเข้าใจ เพื่อจะได้ไม่ทำอะไรผิดพลาดตอนรับใช้ภรรยาเขา"ถ้านางตื่นสายแล้วสำรับพวกนี้เย็นชืด เจ้าก็เอาไปตั้งเตาอุ่นใหม่เสีย น้ำแกงเอาลงหม้อต้มอย่างละใบ อุ่นข้าวใช้หม้ออันนี้ จะผัดของก็อย่าใส่น้ำมันมากเกิน"ซีจงจวินพาบ่าวทั้งสองมาดูอุปกรณ์ในครัวอีกครั้งพร้อมอธิบายไปด้วย ก่อนจะเปิดเข่งหมั่นโถวนุ่มฟูให้เด็กน้อยดูเขาหยิบขึ้นมาสองลูก ส่งให้มันคนละลูก เด็กน้อยรับของร้อนในมือมาเป่าแล้วมองผู้เป็นนายตาแป๋ว"ถ้าหิวก็เอาสิ่งนี้ไปกิน แต่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 19 十九

    ความเย็นชาของภรรยาไม่ได้ทำให้สามีจดจำสักนิด..วันนี้ดูเทพอสูรจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ทำกับข้าวไปก็ยังยิ้มไม่หุบจนซวนเฟยกับชิงเหลียงสงสัย"ทำไมวันนี้นายท่านถึงอารมณ์ดีนักหรือขอรับ" เจ้าครึ่งนกถาม"เดี๋ยวพวกเจ้าก็รู้" ซีจงจวินไม่ยอมบอก เพียงหันไปตักผัดผักใส่จานส่งให้เจ้าครึ่งงูเขากะเก็บไว้เป็นความลับ รอกระทั่งถึงตอนเย็นค่อยบอก..เมื่อคืนก่อน ในห้องห้องหนึ่งซึ่งเมื่อก่อนว่างโล่ง ตอนนี้มีเครื่องเรือนไม้วางตั้งทั้งตู้หนังสือ โต๊ะกว้างตรงกลางห้อง และตั่งยาวตรงข้างหน้าต่างจากนั้นก็ขนเอาของของมี่ฮวามาจัดใหม่ วางหนังสือเรียงเป็นระเบียบ ผืนผ้าหลากเนื้อหลายสีถูกพับเก็บเรียบร้อยในลิ้นชักเดียวกับอุปกรณ์เย็บปัก เครื่องเขียนถูกจัดวางบนโต๊ะครบครันจากการสังเกตมาสักพักรวมกับที่ถามจากเจ้าอสูรเด็กทำให้รู้ว่าตอนกลางวันมี่ฮวามักจะนั่งเย็บนู่นปักนี่ในห้องชมสวนหรือไม่ก็วาดรูปเขียนกลอน ส่วนตอนกลางคืนก็จะอ่านหนังสือในห้องนอนด้วยความอยากเอาใจ ซีจงจวินจึงแอบทยอยขนของของนางมาไว้ให้ และก็กะจะซื้อเพิ่มด้วยเขาชอบเวลาเห็นภรรยาตั้งใจทำอะไรสักอย่าง แม้จะเป็นงานเล็กๆน้อยๆฆ่าเวลาแต่คนมองก็ยังชุ่มชื่นหัวใจนอกจากนี้นางยั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 20 二十

    ซีจงจวินมาทำงานตอนเช้าและกลับตอนค่ำเหมือนเคย แต่วันนี้ก่อนปลีกตัวจากเหล่าสหาย ตงหลิงจวินก็กวักมือเรียกให้เข้ามาใกล้ๆ"เอ้า เอานี่ไป" ตงหลิงจวินยัดหนังสือเล่มหนึ่งใส่มือซีจงจวิน"นี่คือหนังสืออะไรหรือขอรับ"หลังจากยื่นให้ ตงหลิงจวินก็มีสีหน้ากระดี๊กระด๊าราวกับเป็นคนได้รับเสียเอง พยักพเยิดให้คนทำหน้าไม่เข้าใจรีบเปิดดู!!!!ดวงตาเทพอสูรแมงป่องเบิกกว้างทันทีเมื่อภาพด้านในฉายออกมาให้เห็นมันคือ..ภาพการร่วมรัก!เมื่อเปิดไล่ไปทีละหน้าก็พบว่าในนี้มีแต่ฉากร่วมรักเต็มไปหมด ทั้งภาพทั้งคำอธิบายชัดเจนแจ่มแจ้ง!!หลายท่าหลายทางดูพิสดารทว่าอัศจรรย์นัก ช่างดึดดูดสายตาน่าลองทำตามยิ่ง"เขาเรียกว่าตำราวังวสันต์"ตงหลิงจวินกลั้นหัวเราะกับท่าทางของซีจงจวินที่ไม่เคยเห็นของแบบนี้มาก่อนในชีวิต"..ตำรา..วังวสันต์?" ซีจงจวินทวนคำโดยที่ดวงตายังคงจดจ้องภาพการร่วมรักน่าอภิรมย์ค้างอยู่เช่นนั้น"ใช่ เป็นของที่มีขายในโลกมนุษย์"คราวนี้ซีจงจวินหันมาขมวดคิ้วมองตงหลิงจวินที่ยังยิ้มกรุ้มกริ่มไม่เลิก "พี่ตงหลิงมีได้อย่างไรขอรับ""จะยากอะไร เมียข้าไปหาซื้อมาไว้เต็มบ้าน""ภรรยา..ของท่าน!?" พอได้ยินดังนั้น คนฟังถึงกับอึ้งไปช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 21 二十一

    คืนวันผันเปลี่ยน มี่ฮวากับซีจงจวินอาศัยอยู่ด้วยกันแบบสามีภรรยาแต่แก่นแท้ในความสัมพันธ์กลับไม่พัฒนาไปไหนเลย..มีเพียงเทพอสูรที่จงรักชนิดยอมตายถวายหัว ไม่รู้เพราะเหตุนั้นหรือเปล่ามี่ฮวาที่ถูกตามใจตลอดถึงเคยตัวเช่นนี้หญิงสาวนั่งเล่นอยู่ในห้องชมสวนเหมือนอย่างเคย กำลังปักผ้าเช็ดหน้าลายดอกโบตั๋นสีแดงสดใสปลายยามอู่ ผ้าเช็ดหน้าแสนสวยก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อย"นายหญิงขอรับ มีคนมาขอพบขอรับ"เสียงของซวนเฟยเรียกสายตาจากผู้เป็นนายให้หันไปมองอย่างสงสัย"ใครหรือ""เขาบอกว่าชื่ออวี้เวินฉิงขอรับ"ได้ยินชื่อนั้น ดวงตากลมเบิกกว้างทันทีท่านอวี้เวินฉิงมาได้อย่างไรกัน?"ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้" มี่ฮวารีบลุกขึ้นจัดแจงเสื้อผ้า เดินออกไปรับแขกยังหน้าเรือนที่หน้าประตูมีร่างชายผู้หนึ่งยืนตัวตรงสง่า สายตาจ้องมองมาที่นางสื่อความคิดถึงเสียมากมายจนไม่อาจปิดกั้น"มี่ฮวา"บุรุษรูปงามที่แสนคุ้นเคยเรียกชื่อนางอย่างยินดี รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าดูราวกับเขามีความสุขเหลือเกิน"คารวะท่านอวี้เวินฉิง" มี่ฮวาเอ่ย ทำความเคารพพร้อมส่งยิ้มให้เช่นกันอวี้เวินฉิงน้ำตารื้นเมื่อมองสาวงามตรงหน้า ก่อนเดินเข้ามาจับมือนุ่มกุมไว้"มี่ฮวา..

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17

บทล่าสุด

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 62 六十二

    สามวันผ่านไปจากนั้น อวี้เวินฉิงต้องข้อหาหลายคดี ทั้งละทิ้งหน้าที่ บุกรุกจวนแม่ทัพยามวิกาล ทำร้ายร่างกาย และขโมยของคดีสุดท้ายนั้นแม่ทัพจงตั้งใจป้ายสีเอง ด้วยอยากให้อวี้เวินฉิงถูกจับโยนเข้าตาราง ขังลืมไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันในห้องขังมืดสนิทมีเพียงช่องลมติดลูกกรงหนาเท่านั้นเป็นที่ให้แสง อวี้เวินฉิงอยู่ในชุดนักโทษมอซอหมดสง่าราศี ข้อมือและข้อเท้าติดโซ่ตรวนเหล็กห้อยยาวในสถานที่แห่งนี้ไม่มีเสียงใดนอกจากเสียงความทุกข์ทรมานกับเสียงสายโซ่กระทบพื้นลากไปมานานๆทีหูจะได้ยินเสียงฝีเท้าหนักแน่นของคนภายนอกสักครั้ง และครั้งนี้อวี้เวินฉิงรู้ว่าใครมาทั้งที่ไม่ต้องเงยหน้ามอง"อยู่นิ่งๆก็เป็นรึ มือปราบอวี้"คนที่จะเอ่ยวาจาเช่นนี้กับเขาได้มีเพียงคนที่จับเขาโยนเข้ามาในคุกเท่านั้นอวี้เวินฉิงไม่ตอบ เพียงเลื่อนสายตามามองแม่ทัพยืนเหยียดยิ้มอยู่นอกประตูลูกกรง"ข้าเคยเตือนแล้ว เป็นเจ้าที่รนหาที่ เลือกมาจบชีวิตตรงนี้เอง""..."ไร้การตอบสนองจากคนในคุก อวี้เวินฉิงยังนั่งมองกำแพงว่างเปล่าด้วยตาไร้แววอยู่เช่นเดิมถูกโยนเข้าคุกไม่เท่าไหร่ แต่หัวใจที่ยังเป็นแผลก่อนหน้านี้นี่สิ..."ข้าจำได้ว่าก่อนจับเจ้าเข้าคุกไม่ได

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 61 六十一

    หลังจากคืนนั้นจงซีจ้านไม่เรียกมี่ฮวาเข้าห้องนอนอีก จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วค่ำคืนอันเดียวดายทำร้ายหัวใจเสียยิ่งกว่าตอนถูกกระทำย่ำยีอย่างโหดร้าย มี่ฮวานอนกอดตัวขดกลมอยู่บนเตียง หวนนึกถึงสัมผัสอบอุ่นของซีจงจวินคืนแล้วคืนเล่าเทศกาลหยวนเซียวผ่านมาอีกครั้ง ด้านนอกไกลๆมีเสียงความคึกครื้นลอยมาเรื่อยๆคิดถึงปีนั้นที่ซีจงจวินพามาเที่ยวเล่นในโลกมนุษย์ครั้งแรก.. คิดถึงยามเขาพูดคุยสบตา ยามได้เดินจับมือ..คิดถึง...หญิงสาวลุกขึ้นมานั่งกอดเข่าซุกหน้าร้องไห้ไม่รู้สึกตัวเลยว่าตั้งแต่มาอยู่โลกมนุษย์นี้นางเสียน้ำตาไปแล้วกี่ครั้งก๊อก.. ก๊อก..เสียงหนึ่งดังขึ้นจากหน้าต่างไม้ หยุดน้ำตาไว้"ใคร"นางถามด้วยความประหลาดใจ คิดว่าไม่ใช่คนใช้ในเรือนแน่"ข้าเองมี่ฮวา"เสียงคุ้นหูนั้นอีกแล้ว เจ้าของชื่อจำได้แม่นยำ คนมาเรียกคืออวี้เวินฉิงไม่ผิดแน่บานหน้าต่างเปิดออก เทพแห่งแสงในคราบมือปราบหนุ่มใส่ชุดคลุมสีดำมิดชิด ปกปิดใบหน้าจนเหลือแค่ลูกตาเท่านั้น"ท่านมีธุระอะไรเจ้าคะ""ข้ามาพาเจ้าไป"ไป.. ไปไหนกัน?"ไม่ไปเจ้าค่ะ" ไม่รอให้อีกฝ่ายไขข้อข้องใจก็ปฏิเสธเสียแล้วมี่ฮวาไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวอีก บทเรียนจากคราว

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 60 六十

    บนเตียงหลังใหญ่ในห้องที่แสงไฟสลัว ร่างหนึ่งกำลังละเลงลิ้นอย่างเมามันบนผิวเนื้อนุ่มของคนข้างใต้จนนางต้องครางดังเพราะแรงเสียวหนักหน่วงที่เขามอบให้"ท่าน.. ท่านแม่ทัพ อย่าเจ้าค่ะ!"หญิงสาวพยายามปรามไม่ให้คนด้านบนใช้ฟันคมกัดดึงตุ่มเนื้อยอดถันราวกับหมาป่าจะฉีกกระชากเหยื่อ จนตอนนี้ผิวส่วนนั้นกลายเป็นสีอมม่วงไปแล้วแต่จงซีจ้านที่กำหนัดพลุ่งพล่านอยู่มีหรือจะยอมฟัง ยิ่งเขากำลังฉุนเฉียวไม่หายจากเรื่องเมื่อกลางวันด้วยแล้ว ยิ่งพาลให้อยากลงไม้ลงมือกับมี่ฮวาหนักขึ้น"อ๊ะ!!!"เสียงร้องดังลั่นเพราะโดนกัดเข้าที่หัวไหล่อย่างแรง เขายังทิ้งรอยฟันกับรอยเลือดไว้ให้ปรากฏเด่นชัดร่างบางสั่นเทิ้มไปทั้งตัว นางไม่รู้ว่าต่อไปจงซีจ้านจะทำอะไรกับเรือนกายนี้เพราะดวงตาคู่งามถูกคาดปิดไว้ไม่ใช่เพียงเท่านั้น เขายังผูกข้อมือเล็กไว้กับเสาเตียง จับขาให้อ้าออกกว้างจนแทบฉีก กดกายโถมทับอย่างไม่กลัวว่านางจะหายใจไม่ออก"ท่านแม่ทัพเจ้าคะ..เบามือสักนิด..""เจ้าเป็นใครถึงมีสิทธิ์สั่งข้า!!"ว่าจะเอ่ยขอร้อง แต่ไม่ทันจบประโยคดีก็ถูกตวาดกลับเสียลั่นห้องมี่ฮวาต้องเก็บทุกคำพูดต่อจากนั้นลงคอไป น้ำตาไหลหยดหนึ่งซึ่งเขาไม่เห็นและถึงเห็นก

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 59 五十九

    ฤดูกาลหมุนเวียน แมกไม้ผลิดอกออกผลจนร่วงหล่นปลิวไป จากร้อนอบอ้าวเป็นเหน็บหนาวด้วยหิมะขาวโพลนคลุมแผ่นดินหลายเดือนเข้าไปแล้วที่มี่ฮวามาเป็นคนใช้ในจวน...แค่ตอนกลางวันเท่านั้น ส่วนกลางคืนนางจะกลายร่างเป็นนางคณิกาชั้นดี เป็นของเล่นให้เขาได้คลายเหงายาขมถูกส่งเข้าปากถ้วยแล้วถ้วยเล่า จนหญิงสาวไม่รู้เลยว่าตอนนี้มดลูกตัวเองจะยังสามารถใช้งานได้หรือไม่ความเห็นใจเป็นเหมือนความหวังลมๆแล้งๆ ซึ่งไม่มีทางได้รับจากผู้เป็นสามีเพราะเขาไม่มีความรักหลงเหลือให้นางหัวใจที่ทุกข์ระทมจำต้องทนรับความขมขื่นจากการกระทำอันโหดร้ายมี่ฮวาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองขณะนั่งส่องกระจกในห้องนอน ..ว่านางจะทนได้อีกนานเท่าไหร่กันภาพสะท้อนจากกระจกคือเรือนร่างซึ่งเมื่อก่อนเคยดูสมบูรณ์งดงาม แต่บัดนี้ดูทรุดโทรมแทบไม่มีส่วนใดน่ามองนางนึกถึงครั้งที่ซีจงจวินเคยอยู่ในสภาพเช่นนี้เมื่อหลายสิบปีก่อน ตอนนั้นนางเองก็ไม่สนใจเขาเหมือนกันท่านเอาคืนข้าได้สาสมจริงๆ...มี่ฮวาใส่เสื้อผ้าคนใช้เดินออกจากห้องเหมือนเช่นทุกเช้า"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะ" นางทักทายยามเดินผ่านพวกลุงคนใช้ ทุกคนโบกมือกลับอย่างใจดี แววตาโอบอ้อมอารีนั้นฉายความสงสารจับใจมี่ฮว

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 58 五十八

    "นางเป็นหมันเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ"แม่บ่านไห่นำคำของสาวใช้คนใหม่มารายงานท่านแม่ทัพตามหน้าที่ปัง!!เพียงได้ยินเท่านั้นมือใหญ่ที่ถือตำราอยู่ต้องกระแทกปิดมันกับโต๊ะอย่างแรง ระบายอารมณ์ขุ่นมัวทางสายตาใส่แม่บ้านชรา"คำลวงของสตรีมากเล่ห์ ข้าจำเป็นต้องเชื่อรึ!!"เขาขึ้นเสียง แม่บ้านไห่ก็ถึงกับยืนขาสั่นงันงก หลังที่งองุ้มนั้นต้องก้มลงหมอบกับพื้น"มะ.. ไม่เจ้าค่ะท่านแม่ทัพ""ไปพาตัวนางมา แล้วก็ไปต้มยานั่นมาใหม่ด้วย!!"คนหลังโต๊ะหนังสือชี้หน้าสั่งแม่บ้านชรา นางรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่แรงคนแก่จะทำได้ ไม่นานยาขมหม้อใหญ่ก็ถูกยกมาตั้งมี่ฮวาถูกพาตัวมาตรงกลางสวนร้างที่ตรงนั้นมีคนรับใช้ชายทั้งหมดรวมถึงแม่บ้านไห่อยู่ด้วย ทุกคนได้แต่ยืนก้มหน้าไม่กล้าสบตาคนนายใหญ่ของบ้านรู้เพียงว่าชะตาสาวใช้คนใหม่กำลังจะขาดเท่านั้นพอ..หญิงสาวนั่งคุกเข่ามองหม้อที่ส่งกลิ่นฉุนบนโต๊ะหิน เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดเกาะเต็มหน้าผาก"กิน"คำสั่งเด็ดขาดของแม่ทัพดังพอจะทำให้นางสะดุ้งโหยง มี่ฮวาต้องรีบเข้าไปหมอบตรงพื้นแทบเท้าเขา"ท่านแม่ทัพได้โปรดเมตตาข้าเถิดเจ้าค่ะ ข้าท้องไม่ได้แล้วจริงๆเจ้าค่ะ""ข้าไม่เชื่อ"น้ำแกงสีคล้ำ

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 57 五十七

    เช้าวันต่อมา มี่ฮวาตื่นแต่เช้าทั้งที่ร่างกายยังไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่นางมีงานต้องทำไม่อาจละเลยได้ในยามที่พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้น หญิงสาวลุกจากเตียงหันมองคนหลับ ใบหน้าของเขายามนี้เรียกได้ว่าดูหล่อเหลาคมคร้ามดั่งเทพสงครามบนสวรรค์แต่หากลืมตาขึ้นมาเมื่อใด.. คงดูไม่ต่างจากยักษ์อำมหิตตนหนึ่ง ไร้ซึ่งเมตตาการุณย์"ข้าคิดถึงท่านนัก"นางเอ่ยเสียงแผ่วเบา ลอยหายไปกับสายลมซึ่งพัดเข้ามาทางหน้าต่าง หลังจากสวมใส่อาภรณ์เรียบร้อยดีแล้วจึงกลับเรือนนอนของตัวเองไป...ตลาดเช้าที่นี่ดูคึกคักไม่ต่างจากที่แดนเทพ เป็นแหล่งรวมแม่บ้านซึ่งออกมาจ่ายตลาดและพูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระมี่ฮวาเดินตามแม่บ้านไห่ซื้อวัตถุดิบ โดยตลอดทางจะมีสายตาแปลกๆของทั้งพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าแถวนั้นจ้องมาตลอดนางทำเป็นไม่รับรู้ ยื่นเงินจ่ายให้แม่ค้าผลไม้ ส่วนแม่บ้านไห่ก็ยืนเลือกปลาอยู่ร้านข้างๆ"แม่นางมาจากจวนท่านแม่ทัพใช่หรือไม่" พ่อค้าร้านผักที่อยู่ไม่ไกลตะโกนถาม"ใช่เจ้าค่ะ"พอหญิงสาวตอบออกไปเช่นนั้น ผู้คนรอบข้างต่างก็ยืนอึ้ง บ้างเอามือป้องปากกระซิบกระซาบ"เหตุใดแม่ทัพปีศาจผู้นั้นถึงรับสาวใช้อย่างเจ้าเข้ามากัน""เจ้างามเ

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 56 五十六

    ในกระโจมมืดที่มีแสงไฟสลัวจากตะเกียงอันเดียวสะท้อนเงาของชายหญิงคู่หนึ่งขย่มร่างบนเตียงไม้จนมันเลื่อนดังเอี๊ยดอ๊าด"อะ.. ทะ ท่านแม่ทัพ..."เสียงครางกระเส่าแว่วหวานจากริมฝีปากอิ่มแดง เคล้าไปกับเสียงเนื้อกระทบกันรัวเร็วดูเร่าร้อน สะโพกสอบของคนด้านบนขยับบดเบียดเข้าออกถี่ๆเร่งให้คนข้างใต้ขยับรับตามแทบไม่ทันทุกการกระทำเป็นไปอย่างหยาบโลน มือใหญ่เที่ยวเคล้นคลึง ขยำขยี้เนินอกนุ่มเต็มไม้เต็มมือไม่มีถนอมไม่มีผ่อนแรงปากเขาประทับตราตีความเป็นเจ้าของทั่วตัวนาง เน้นหนักตรงยอดถันประดับตุ่มไตชูชัน กัดกระชากไปมาเบาๆอย่างเมามัน ก่อนดูดดุนแรงๆราวจะคั้นเอาเลือดนางออกมาแท่งหินใหญ่ยักษ์ร้อนดั่งถูกเอาไปอังไฟก่อนเสียบเข้ามานั้นสร้างความเจ็บปวดแสนสาหัส ขณะแทงโดนจุดที่ทำให้ข้างในเสียวจุกจนเกินจะระงับเสียง"อ๊าา!!"หญิงสาวถึงฝั่งรอบที่สามแล้ว แต่คนด้านบนยังขยับต่ออย่างเอาแต่ใจ ไม่สนสิ่งใดทั้งสิ้นเสียงครางต่ำของเขากับเสียงหวานใสของนางช่างเข้ากันได้ดี เช่นเดียวกับร่างกายที่สอดประสานเป็นหนึ่งเดียวทว่าหัวใจ..กลับไม่เป็นเช่นนั้น"อาา..."ในที่สุด น้ำคาวขาวขุ่นก็ถูกฉีดอัดเข้าไปในช่องสวาทเต็มเหนี่ยว ล้นทะลักออกมาเป

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 55 五十五

    ราวกับเหตุการณ์เมื่อครู่เป็นแค่ห้วงฝันเพียงหนึ่งชั่วยาม ตอนนี้ในกระโจมวุ่นวายไปหมด มี่ฮวาวิ่งรักษาทหารอย่างไม่หยุดพัก พยายามทำแผลให้เร็วที่สุด เมื่อเสร็จจากคนในนี้แล้วจึงจะรีบไปหาเขาหวังว่าคราวนี้ จงซีจ้านจะยอมให้นางรักษาจริงๆสักที..''ท่านหมอ คือว่า..''เมื่อมาถึงกระโจมก็พบเข้ากับฮวนเกอซึ่งยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้า เขาดูลำบากใจนิดหน่อยที่จะเอ่ยบอกนาง''ท่านแม่ทัพไม่ให้ข้าเข้าไปอีกแล้วหรือ'' นางถาม ชายหนุ่มก็พยักหน้าตอบอย่างจริงจัง''หากไม่ใช่หมอชาย ท่านแม่ทัพไม่มีทางให้จับเนื้อต้องตัวเด็ดขาดเลย ท่านหมอทิ้งยากับผ้าพันแผลไว้ตรงนี้แล้ว.. อะ อ้าว! ท่านหมอ!!''ท้ายประโยคฮวนเกอเสียงหลงทันทีเพราะหมอสาวนางนี้ไม่สนใจคำเขา แหวกผ้าคลุมกระโจมเดินฉับๆเข้าไปด้านในอย่างไม่เกรงกลัวอำนาจใด''ใครให้เจ้าเข้ามา!!"ตามคาด เมื่อเห็นหน้านางโผล่มาเขาจะต้องตะคอกใส่เสียงกร้าวทันที''ไม่มีเจ้าค่ะ แต่ข้าต้องทำหน้าที่หมอ รักษาท่านให้ดีที่สุด''''ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากสตรี! หน้าที่เดียวของเจ้าคือไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า!!''''ข้าคงทำเช่นนั้นไม่ได้เจ้าค่ะ ขออภัยที่ต้องล่วงเกิน''ว่าแล้วมี่ฮวาก็เข้าไปทรุดกายนั่งลงข้า

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 54 五十四

    วันเวลาในค่ายทหารยังคงดำเนินต่อไป...อย่างไม่ค่อยจะปกติเท่าไหร่นัก''ท่านหมอ! ท่านหมอ! ข้าโดนน้ำร้อนลวกตอนต้มโจ๊กเมื่อเช้า ทำแผลให้ข้าที''''ท่านหมอรักษาแผลมีดบาดให้ข้าอยู่ไม่เห็นหรือ เจ้ารอไปก่อน''''แต่แผลข้าใหญ่กว่าเจ้า''''แต่ข้ามาก่อน''''พวกท่านทั้งสองอย่าทะเลาะกันเลยเจ้าค่ะ ข้ารักษาให้ทุกคนอยู่แล้ว''เป็นเสียงของหมอสาวเอ่ยห้ามทัพ ทหารทั้งสองนายจึงหยุดศึกชิงความสนใจจากหมอตามที่นางบอกนี่ก็ผ่านมาครึ่งเดือนได้แล้ว กำลังเสริมจากเมืองหลวงยังมาไม่ถึงก็จริง แต่ยามที่ศึกสงบเช่นนี้ พวกหน้าที่ใหญ่ๆที่จำเป็นต้องมีหมอไม่มีอีกแล้วช่างน่าแปลกที่หมู่นี้เหล่าทหารในค่ายต่างก็ชอบมีแผลมาให้นางช่วยรักษาทุกวี่วัน ไม่ว่าจะโดนน้ำร้อนลวก มีดบาด รอยฟกช้ำจากการซ้อมอาวุธ ข้อเท้าแพลงตอนวิ่ง ยันแผลแมลงเล็กๆกัดต่อยที่ทิ้งไว้ไม่นานก็หาย พวกเขาก็ยังวิ่งมาหาหมอกันจะมีก็แต่เขาคนนั้นที่มาหานางโดยไม่มีจุดประสงค์อื่นนอกจากไล่ให้ไปไกลๆ..''ยังอยู่อีกรึ''น้ำเสียงราบเรียบที่แดกดันกันชัดเจนดังมาจากหน้ากระโจม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นใครที่พึ่งเข้ามา''ก็ค่ายทหารขาดหมอไม่ได้นี่เจ้าคะท่านแม่ทัพ'' มี่ฮวาหันมายิ้มตอบอย่างส

DMCA.com Protection Status