รถเคลื่อนที่ไปตามถนน บรรยากาศโดยรอบมีแต่น้ำทะเลสีสดใส เนตรนภานั่งอยู่ในรถแท็กซี่โดยมีลูกชายตัวแสบร้องเพลงสนุกสนานอยู่ภายในรถคันนั้น
"ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า..."
"อย่าเสียงดังสิลูก ในรถไม่ได้มีแค่เราสองคนนะครับ รบกวนคุณลุงเขา เดี๋ยวอยู่กันสองคนแล้วเราค่อยร้องเพลงกันนะ"
"ไม่เป็นไรหรอกหนู ให้เด็กน้อยเขาร้องไปเถอะ ก็สนุกไปอีกแบบดีนะ"
คุณลุงคนขับรถเอ่ยออกมาก่อนจะจ้องมองไปยังเบื้องหน้า เพื่อที่จะขับรถตรงไปยังเกาะบุรินทร์ ซึ่งเป็นเกาะส่วนตัว และเป็นเกาะที่เลี้ยงไข่มุกสายพันธุ์หายากมากมาย ความร่ำรวยนั้นเป็นที่เลื่องลือ บริษัทจิวเวลรี่ทั้งในประเทศ และนอกประเทศ ต่างแย่งกันจับจองเพราะไข่มุกที่เกาะนี้ขึ้นชื่อในเรื่องคุณภาพ
"ต้องขอโทษด้วยนะคะคุณลุง ว่าแต่ใกล้ถึงหรือยังคะ"
"ข้างหน้านี้ก็ถึงแล้ว ว่าแต่หนูจะไปทำอะไรที่เกาะบุรินทร์เหรอ"
"จะไปสมัครงานค่ะ"
"งั้นเหรอ... ถ้างั้นลุงน่าจะส่งได้แค่ปากทางนะ แล้วเดี๋ยวจะมีรถของเกาะพาเข้าไปข้างในอีกทีหนึ่ง ที่นี่ค่อนข้างมีระบบความปลอดภัยสูง ไม่ใช่ว่าใครก็เข้าไปได้"
คุณลุงเอ่ยออกมาพร้อมกับขับรถเข้าไปจอดตรงป้อมยามทางเข้าเกาะบุรินทร์ หญิงสาวมองออกไปนอกกระจก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้เข้ามาเหยียบที่นี่ เมื่ออดีตหลายปีก่อน เธอก็มาที่นี่บ่อยกับเจ้าของเกาะ ในสถานะเด็กเลี้ยงของเขา
"ขอบคุณคุณลุงมากเลยนะคะ นี่เงินค่ะ"
"ขอบใจมากจ้ะหนู ขอให้ได้งานนะ"
"ขอบคุณครับคุณลุง ขับรถกลับบ้านปลอดภัยนะครับ"
"ตัวแค่นี้เองดูคำพูดคำจาสิ เราก็เดินทางปลอดภัยล่ะ อย่าดื้อกับแม่นะรู้ไหม"
"ผมไม่ดื้อกับแม่หรอกครับคุณลุง"
เนตรนภายื่นมือไปลูบผมลูกชายด้วยความเอ็นดู จากนั้นก็ถือกระเป๋าโดยที่มืออีกข้างกุมมือลูกพาเดินลงไปจากรถแท็กซี่
"มาหาใครครับ"
"ฉันจะมาสมัครงานที่เกาะค่ะ ยังไงช่วยพาเข้าไปข้างในหน่อยได้ไหมคะ"
"ได้ครับถ้าอย่างนั้นขึ้นรถเลย เดี๋ยวผมพาเข้าไปเอง"
รปภ. ผายมือเชิญหญิงสาว และลูกชายให้ขึ้นไปนั่งที่รถไฟฟ้าของเกาะ เพราะที่นี่ถ้าไม่มีสติ๊กเกอร์ผ่านเข้าเกาะ จะไม่สามารถขับเข้าไปข้างในได้ จะต้องจอดรถข้างหน้าเกาะ และให้รปภ. พาเข้าไปเท่านั้น เพราะนายหัวบุรินทร์ไม่ชอบความวุ่นวาย จึงทำให้เกาะนี้กลายเป็นเกาะปิด ไม่ใช่ว่าใครก็จะเข้ามาได้โดยง่าย แต่จะมีจุดที่รถนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปซื้อของได้ จะเป็นอีกฝั่งของเกาะซึ่งที่นั่นสามารถจอดรถ และซื้อไข่มุกได้เลย
"น้องบูลเบลมาหาแม่ครับ จะเข้าไปในเกาะแล้วลูก"
"ครับแม่"
เด็กน้อยรีบวิ่งเข้ามาสวมกอดคนเป็นแม่ ก่อนจะพากันเดินขึ้นไปนั่งบนรถประจำเกาะ แล้วตอนนี้กำลังเดินทางเข้าไปใจกลางเกาะบุรินทร์ ซึ่งที่นั่นจะเป็นสถานที่เพาะเลี้ยงไข่มุก มีท่าเรือที่สามารถจอดเทียบท่าลงไปช้อปปิ้งเครื่องประดับที่ร้านบนเกาะได้ หาดส่วนตัวของเกาะบุรินทร์ และอีกหลายอย่าง
"เดี๋ยวคุณเข้าไปข้างในได้เลยนะครับ จะมีฝ่ายบุคคลอยู่ และข้างหน้าบริษัทจะมีตำแหน่งงานติดอยู่ ลองดูก่อนได้นะครับจะได้รู้ว่าเขารับตำแหน่งอะไรบ้าง"
"ขอบคุณมากเลยนะคะที่มาส่ง ไปครับบลูเบลเราไปกันเถอะ"
"ว้าว! สวยมากเลยครับ มองไปทางไหนก็มีแต่ทะเลเต็มไปหมดเลย บลูเบลชอบน้ำทะเลมากเลยครับ"
"ชอบก็ดีแล้ว เพราะว่าหนูจะต้องอยู่กับทะเลไปอีกนาน จำที่เราคุยกันได้ไหม หนูสัญญาอะไรกับแม่ไว้จำได้หรือเปล่า"
หญิงสาวนั่งยองอยู่ตรงหน้าลูกชาย จ้องมองไปยังใบหน้าเล็กด้วยความจริงจัง เพราะก่อนจะมาที่นี่เราสองคนได้ตกลงอะไรบางอย่างต่อกัน
"จำได้ครับ"
"ดีมากเลยค่ะลูกชาย ถ้าอย่างนั้นไปกันเถอะ"
ทั้งสองคนกุมมือกันก่อนจะเดินเข้าไปข้างในออฟฟิศสำนักงานใหญ่ของเกาะบุรินทร์ หรูหราสมกับเป็นเกาะที่ร่ำรวยติดอันดับ
และเมื่อเธอเดินเข้ามาก็เจอกับพนักงานหลายคนที่ส่งยิ้มมาให้ เธอกุมมือลูกชายก่อนจะเดินเข้าไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
"สวัสดีค่ะ พอดีว่าฉันจะมาสมัครงาน ไม่รู้ว่ามีตำแหน่งว่างหรือเปล่า"
พนักงานที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์จ้องมองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าสวยงามผิวพรรณขาวผ่อง หุ่นดีอย่างกับนางแบบ ถ้าถามว่าเหมาะกับตำแหน่งอะไร น่าจะเป็นฝ่ายขายจะดีกว่า
"มีพนักงานฝ่ายขายว่างอยู่ค่ะ คุณเป็นคนสวยน่าจะเหมาะกับตำแหน่งนี้นะคะ"
"แล้วนอกจากนี้มีตำแหน่งอะไรอีกไหมคะ"
"เดี๋ยวดูให้แป๊บหนึ่งนะคะ"
พนักงานเปิดแฟ้มเอกสารดูตำแหน่งที่ว่าง เพราะทุกวันฝ่ายบุคคลจะแจ้งตำแหน่งที่ว่างให้พวกเธอตลอด เพราะเวลามีคนมาถามว่าเกาะของเรารับพนักงานหรือเปล่า จะได้ให้คำตอบทันที
"ผู้ช่วยของนายหัวบุรินทร์ค่ะ เห็นว่าจะรับเพิ่มอีกคนหนึ่ง เขารับผู้หญิงด้วยนะคะ ว่าแต่คุณจบอะไรมาคะ ถ้าเกิดว่าวุฒิการศึกษาตรงตามที่นายหัวต้องการ ก็น่าจะสมัครตำแหน่งนี้ได้ค่ะ"
เนตรนภาส่งแฟ้มเอกสารของตัวเองไปให้พนักงานตรงหน้าดู เธอรับมาถือไว้ในมือก่อนจะเปิดแฟ้มอ่าน ประวัติการศึกษาดีมาก จบปริญญาโทจากสถาบันติดอันดับโลก คณะบริหารธุรกิจ
"ว้าว! พูดได้ 3 ภาษา เรียนจบปริญญาโทคณะบริหารธุรกิจ โปรไฟล์ดีมากเลยค่ะ แต่เสียตรงที่มีลูกติด แฮะ! ต้องขอโทษที่พูดแบบนี้นะคะ เพราะนายหัวสั่งไว้ว่าอยากได้ผู้หญิงโสดค่ะ ถ้าเกิดว่ามีพันธะจะทำงานลำบาก"
"ขอฉันคุยกับเขาได้ไหมคะ ถ้าเกิดว่าไม่ได้จริง ๆ ฉันอยากให้เขาเป็นคนปฏิเสธเอง"
"เอ่อ... แต่ว่ามัน"
"ติดต่อไปยังลูกค้าของเราทุกคนเลยนะ ว่าเราจะเปิดประมูลไข่มุกตาฮิติสี Peacoke เป็นสีหายากนำเข้ามาไม่เยอะด้วย ส่งเมลเข้ามาประมูลได้เลย ใครให้ราคาดีสุดผมจะให้คนนั้นไป"
นายหัวบุรินทร์เดินออกจากประตูลิฟต์พร้อมกับผู้ช่วยคนสนิท หรือณดล เป็นผู้ช่วยที่ทำงานอยู่ด้วยกันมานานหลายปี เรียกว่ารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเจ้านายก็ว่าได้
"ได้เลยครับเดี๋ยวผมจัดการให้ช่วงบ่าย"
"คุณบุรินทร์..."
น้ำเสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มถึงกับหันขวับไปมองตามเสียง อดีตเด็กเลี้ยงของเขาเมื่อ 5 ปีก่อน เธอชื่อเนตรนภา แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เดี๋ยวนั่นเด็กที่ไหน ทำไมหน้าเหมือนเขาจังวะ
"นั่นมันคุณเนตรนี่ เด็กเลี้ยงนายหัวไม่ใช่เหรอครับ"
"อดีตโว้ย! และนั่นลูกใคร"
"สวัสดีครับคุณลุง ผมชื่อน้องบลูเบล อายุ 4 ขวบครึ่ง เป็นลูกของแม่เนตรครับ"
"แล้วพ่อเด็กอยู่ไหน"
เขาเริ่มรู้สึกหัวใจเต้นรัวอย่างแปลกประหลาด อายุของเด็กถ้านับย้อนกลับไป ตอนที่อยู่ในท้องน่าจะเป็นช่วงเวลาที่เธออยู่ในความดูแลของเขาอยู่ รอดูหน้าสิทำไมเหมือนเห็นตัวเองตอนเด็กวะ
"ตายไปแล้วค่ะไม่ต้องสนใจหรอก"
เธอเอ่ยหน้าตาใสซื่อไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร แต่ทว่าคนที่หงุดหงิดน่าจะเป็นเขามากกว่า บอกว่าพ่อเด็กตายไปแล้ว แต่ถ้าปะติดปะต่อทุกอย่างกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีโอกาสเป็นลูกเขาสูงมาก แต่ไม่มีอะไรเป็นหลักฐานที่ชี้ชัดได้เท่ากับใบหน้าของเด็กอีกแล้ว ซึ่งมองยังไงก็เหมือนเขาที่สุด
"ทำไมหน้าเหมือนนายหัวจัง"
"แกว่าเหมือนใช่ไหม"
"99.99% เลยครับ ผมว่าใช่"
"เชี่ยเอ๊ย! เนตรนภามาคุยกันหน่อยดิ"
"ได้สิคะนายหัวบุรินทร์"
เขาเดินเข้ามาหาเนตรนภา และลูก จากนั้นก็ดึงมือทั้งสองคนให้ตามเข้าไปในห้องรับรองที่อยู่ชั้นล่างสุดของสำนักงานใหญ่ เมื่อทั้งสองคนเข้ามาข้างใน เขาก็ทำการปิดประตูล็อกอย่างแน่นหนา หันมามองสบตาหญิงสาวด้วยใบหน้าซีเรียส เพราะการที่เธอกลับมาที่นี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่"มาที่นี่ทำไม""มาสมัครงานไงคะ คุณบุรินทร์มีอะไรให้เนตรทำหรือเปล่า หนูทำได้ทุกอย่างเลยนะคะ""เอาดี ๆ เธอหายไปตั้ง 5 ปี แล้วกลับมาของานฉันทำเนี่ยนะ ใครจะเชื่อ"หญิงสาวหันไปจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความสงสัย"ทำไมคะ ทำไมถึงไม่เชื่อล่ะ ก็... เนตรเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศว่าจะหางานทำอยู่ที่ประเทศไทย แปลกตรงไหนคะที่จะมาสมัครงาน""แต่ที่ทำงานในประเทศนี้มีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องมาสมัครงานที่เกาะนี้ แถมยังพาลูกมาด้วยอีก เอาดี ๆ เด็กคนนี้ลูกใคร"เขาหันไปมองเด็กผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงโซฟา ส่งยิ้มมาให้อย่างน่าเอ็นดู และเมื่อนายหัวบุรินทร์เห็นแบบนั้นก็ใจอ่อนยวบ ไม่กล้าที่จะดุหญิงสาวตรงหน้ามาก กลัวว่าเด็กน้อยจะตกใจ"ก็บอกแล้วไงคะว่าพ่อเด็กมันตายไปแล้ว คุณจะเอาอะไรกับเนตรนักหนา สรุปว่าจะไม่ให้สมัครงานที่นี่ใช่ไหมคะ งั้นเราสองแม่ลู
ในตอนนี้นายหัวบุรินทร์อุ้มน้องบลูเบลไปเล่นน้ำด้วยกันอยู่ที่สระว่ายน้ำหน้าบ้าน ทั้งสองคนอยู่ในชุดว่ายน้ำ ซึ่งตอนนี้กำลังสนุกสนานเสียงดังลั่น ส่วนคนเป็นแม่ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งอยู่ขอบสระ จ้องมองไปทั้งคู่ด้วยความเป็นห่วง ณ ขณะนี้เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ทว่าไม่มีวี่แววจะขึ้นมาเลย"คุณบุรินทร์คะ ช่วยพาลูกของเนตรขึ้นมาหน่อยค่ะ นี่มันก็ครึ่งชั่วโมงแล้วนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอกค่ะ""แค่ครึ่งชั่วโมงเองจะรีบไปไหน อย่ามาไร้สาระน่า เห็นไหมว่าเด็กกำลังสนุก""แต่ลูกของเนตรจะไม่สบายนะคะ คุณรับผิดชอบไหวหรือไง"เนตรนภาเอ่ยออกมาเสียงดุ แต่ทว่าคนที่อยู่ในสระกลับทำเหมือนไม่สนใจ หันไปสาดน้ำเล่นสนุกสนานกับลูกชายของเธอ หญิงสาวถึงกับกุมขมับไม่รู้จะพูดกับเขายังไง ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ตัดสินใจพาลูกมาอยู่ที่นี่"คุณบุรินทร์คะ ถ้าเกิดว่าเล่นน้ำกันเสร็จเนตรจะพาลูกกลับบ้านแล้วนะ แล้วก็จะไม่ทำงานกับคุณแล้ว""ว่าไงนะ!"เขาหันขวับไปมองหญิงสาวด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบว่ายน้ำเข้าไปอุ้มจอมแสบมาไว้ในอ้อมแขน รีบพากันขึ้นมาจากสระเพราะดูเหมือนว่าประโยคข่มขู่จะทำให้เขากลัว"ไปเลยไอ้แสบเราเล่นน้ำกันนานแล้ว อาบน้
เขาดึงรั้งตัวหญิงสาวให้เดินออกมาจากห้องนอนของลูกชาย ตะโกนเรียกแม่บ้านให้ขึ้นมาคอยดูแลบลูเบล ในระหว่างที่เขาพาเนตรนภาไปเคลียร์กันให้เข้าใจอีกห้องหนึ่ง"มีใครอยู่ตรงนี้หรือเปล่าขึ้นมาหน่อย""มีอะไรหรือเปล่าคะนายหัว""เข้าไปเฝ้าบลูเบลในห้องให้หน่อย ถ้าเกิดว่าตื่นก็มาเรียกที่ห้องแล้วกันนะ ผมจะพาเนตรไปคุยด้วย"แม่บ้านได้ยินแบบนั้นก็โค้งตัวเล็กน้อย จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้อง เพื่อทำตามที่นายหัวบุรินทร์สั่ง ส่วนเขานั้นดึงมือหญิงสาวให้ตามไปที่ห้องนอน และเมื่อทั้งสองคนเข้ามาถึง ชายหนุ่มก็ทำการปิดล็อกประตูให้แน่นหนา จากนั้นก็หันมามองสบตากับอดีตเด็กเลี้ยงที่เขาทั้งรักทั้งหลงเมื่อ 5 ปีก่อน"รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าตัวเองท้อง""คุณจะรู้ไปทำไมคะ""ตอบ!"เขาไม่ได้สนใจในสิ่งที่หญิงถามกลับ จ้องมองไปยังใบหน้าของเธอเพื่อกดดันคาดคั้นเอาคำตอบ เนตรนภากำมือตัวเองเอาไว้แน่น มาถึงขนาดนี้แล้วก็คงต้องพูดความจริงทุกอย่างออกไป"รู้หลังจากที่ไปเมืองนอกได้เดือนเดียวค่ะ""แสดงว่าตอนที่อยู่ด้วยกันไม่รู้ใช่ไหมว่าตัวเองท้อง""ไม่รู้ค่ะ"เขาถอนหายใจออกมาทันที รู้ถัดจากนั้นเพียงแค่เดือนเดียวเอง ทำไมถึงไม่โทรศัพท์มาหาแล้วก็บ