หนึ่งสัปดาห์ต่อมา...ตอนนี้อยู่ในช่วงลงคะแนนเสียง และช่วงค่ำน่าจะรู้แล้วว่าพรรคไหนจะได้คะแนนเสียงเยอะที่สุด ดูจากผลสำรวจก็น่าจะไม่ผิดโผสักเท่าไหร่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้"เดี๋ยวจะเริ่มนับคะแนนกันแล้ว หวังว่าพรรคของเราจะได้ทำเพื่อประชาชนอีกสมัยหนึ่งนะ"และที่ทำการพรรคทุกคนกำลังนั่งประชุมกันอยู่ และก็จะมีตัวแทนของแต่ละพรรค เข้าดูการนับคะแนนในแต่ละเขต เพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตในช่วงการนับคะแนนที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าและที่ทำการพรรคจะมีโปรแกรมนับคะแนนแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งตัวแทนที่อยู่ประจำหน่วยยืนดูเขานับคะแนน จะแจ้งผลเบื้องต้นให้ทางนี้รับทราบ ซึ่งคะแนนจะไม่เป็นทางการแต่ก็พอเดาได้ว่าพรรคไหนที่มีคะแนนนำในเวลานั้น"ยังไงผมต้องขอบคุณทุกคนมากเลยนะครับ ที่คอยแนะนำแล้วก็ให้โอกาสเด็กรุ่นใหม่อย่างผม ถ้าเกิดว่ามีโอกาสในการได้เป็นนายกรัฐมนตรี ผมจะตั้งใจทำเพื่อประชาชน แล้วก็จะไม่ทำให้ผู้ใหญ่ในพรรคผิดหวังเด็ดขาด"เนติขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะเอ่ยออกมาสัญญากับทุกคนที่อยู่ภายในห้องประชุมนั้น ถึงแม้ว่าทุกคนจะไม่ได้เลือกให้เขามายืนอยู่จุดนี้ แต่เป็นเพราะอำนาจของพี่เขยที่ยื่นข้อเสนอใ
และในที่สุดก็การประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งพรรครักประชาชนได้คะแนนเสียงจากประชาชนอย่างล้นหลาม ได้เก้าอี้คะแนนเสียงเกินครึ่งของสภา สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยไม่ต้องมีพรรคร่วม"ดีใจด้วยนะเนติในที่สุดก็ทำได้"นายหัวบุรินทร์ถือช่อดอกไม้มาแสดงความยินดีให้กับว่าที่นายกคนใหม่ รวมถึงเนตรนภาที่วิ่งเข้ามาสวมกอดพี่ชายด้วยความดีใจ"ดีใจจังเลยมีพี่ชายได้เป็นนายกแล้ว""ขอบคุณมากนะน้องสาว เพราะว่าเนตรมีสามีเป็นพี่บุรินทร์ เขาดีกับครอบครัวเรามาก แถมยังทำให้คุณพ่อเปลี่ยนไปเป็นคนละคนอีก ผมขอบคุณมากเลยนะครับสำหรับทุกอย่าง"เนติยกมือขอบคุณผู้ชายตรงหน้า เพราะเขาจึงทำให้ครอบครัวของเรากลับมารักกันเหมือนเดิม เปลี่ยนให้คุณพ่อกลายเป็นคนธรรมดา ไม่บังคับจิตใจของคนในบ้านอีกส่วนไอซ์ตอนนี้ก็เข้าไปอยู่ที่คฤหาสน์หลังใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมคุณพ่อกับคุณแม่ยังลงทุนเปิดคาเฟ่ให้อีก เรียกว่าตอนนี้กลายเป็นลูกรักแทนที่เขาเรียบร้อยแล้ว เพราะว่าไอซ์เขาเรียนเชฟมา ทำอาหารอร่อย ทำขนมก็เก่ง คุณพ่อกับคุณแม่ถูกใจมากเอ่ยปากชมไม่มีหยุด เขาก็เลยตกกระป๋องไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"ขอบคุณอะไรนักหนาเนี่ย ทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะ
ช่วงค่ำ...ในตอนนี้ท่านบรรพต คุณหญิงผกากรอง ท่านสมเกียรติ และคุณหญิงนพรัตน์ รวมถึงลูกชายซึ่งก็คือท่านนายกคนปัจจุบัน และแฟนของเขา นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารใจกลางคฤหาสน์สุดหรูของนายหัวบุรินทร์ และมีเนตรนภากับลูกชายนั่งอยู่ร่วมโต๊ะเช่นกัน"บลูเบลดีใจจังเลยครับที่ทุกคนมาเที่ยวหา""โธ่เอ๊ยเด็กแสบ ใครก็อยากจะมาอยู่กับเราทั้งนั้นแหละ แต่ทุกคนก็ต้องทำงานไง เข้าใจใช่ไหมครับ""เข้าใจอยู่แล้วครับ แค่นี้ก็ดีใจมากแล้วครับคุณลุง ถ้างั้นเรากินข้าวกันเถอะครับผมหิวแล้ว"เด็กน้อยชี้นิ้วไปที่หมูกรอบชิ้นใหญ่ตรงหน้า คุยโม้นักหนาว่าตัวเองชอบกินผัก แต่พออาหารตรงหน้าเป็นหมูกรอบ กับเลือกที่จะทิ้งสิ่งที่ชอบไว้บนจานทันที"แล้วบอกว่าตัวเองชอบกินผัก แต่เห็นหมูกรอบทีไรหยิบใส่ปากทันทีเลยนะ""แฮะ! ก็มันอร่อยนี่ครับ กรอบมาก"เด็กน้อยเอ่ยออกมาก่อนจะหยิบหมูกรอบใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย ผู้ใหญ่ที่เห็นก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ การมีเด็กมาวิ่งเล่นทั่วบ้านก็ทำให้พวกผู้ใหญ่ไม่เหงาเลย พูดจ้อไม่หยุดทำให้ทุกคนมีเรื่องสนทนาคุยกันทั้งวันทั้งคืน โดยเฉพาะเรื่องของหลานกลายเป็นบทสนทนาหลักในการคุยกันเสร็จแล้ว"แล้วเจ้าตัวเล็กอีกคนล่ะจะคลอดเมื่
สองปีผ่านไป...ในตอนนี้น้องบีน่าอายุได้สองขวบกว่าแล้ว พูดเก่งมากถามนั่นนี่ไม่หยุด ส่วนพี่ชายคนโตอายุอานามก็ประมาณ 7 ขวบกว่า เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พูดภาษาอังกฤษเก่งมาก แถมยังเรียนเก่งที่สุดในรุ่นอีกด้วย เป็นคนที่ไม่เคยทำให้พ่อผิดหวัง แต่นายหัวบุรินทร์ก็ไม่เคยพูดจาคาดหวังกับลูกชาย เพราะไม่อยากกดดันลูกมากนัก อยากให้เขาเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด"บีน่าพี่บอกแล้วไงว่าเวลากินห้ามใช้มือจับแบบนี้ ต้องใช้ส้อมจิ้มก่อน มานี่ครับเดี๋ยวพี่จะสอน"น้องบลูเบลอุ้มน้องสาวให้มานั่งที่เก้าอี้ จากนั้นก็ใช้ส้อมจิ้มผลไม้ที่อยู่ในจาน จากนั้นก็ส่งไปให้น้องสาวเธอไว้ หยิบทิชชูเช็ดริมฝีปากให้ด้วยความห่วงใย"อันนี้อย่อย""อร่อยก็กินเยอะ ๆ เลย ถ้าเกิดว่าหมดเดี๋ยวพี่ไปเอาใหม่มาให้ แล้วดูสิมือเลอะหมดเลยเห็นไหม เดี๋ยวพี่เช็ดให้ดีกว่า"พี่ชายคนดีใช้ผ้าขนหนูค่อย ๆ เช็ดมือให้น้องสาว ตั้งแต่น้องคลอดออกมาจนถึงตอนนี้ เขาดูแลน้องและหวงแหนเป็นอย่างมาก คนเป็นพ่อแม่สะกิดนิดเดียวยังไม่ได้เลย น้องร้องไห้ก็โอ๋เอง เรียกได้ว่าห่วงน้องหนักจนคนเป็นแม่เริ่มกังวล"พี่บุรินทร์คะ เนตรว่าน้องบลูเบลห่วงน้องหนักมากเกินไปนะคะ ถ้าเ
รถเคลื่อนที่ไปตามถนน บรรยากาศโดยรอบมีแต่น้ำทะเลสีสดใส เนตรนภานั่งอยู่ในรถแท็กซี่โดยมีลูกชายตัวแสบร้องเพลงสนุกสนานอยู่ภายในรถคันนั้น"ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า...""อย่าเสียงดังสิลูก ในรถไม่ได้มีแค่เราสองคนนะครับ รบกวนคุณลุงเขา เดี๋ยวอยู่กันสองคนแล้วเราค่อยร้องเพลงกันนะ""ไม่เป็นไรหรอกหนู ให้เด็กน้อยเขาร้องไปเถอะ ก็สนุกไปอีกแบบดีนะ"คุณลุงคนขับรถเอ่ยออกมาก่อนจะจ้องมองไปยังเบื้องหน้า เพื่อที่จะขับรถตรงไปยังเกาะบุรินทร์ ซึ่งเป็นเกาะส่วนตัว และเป็นเกาะที่เลี้ยงไข่มุกสายพันธุ์หายากมากมาย ความร่ำรวยนั้นเป็นที่เลื่องลือ บริษัทจิวเวลรี่ทั้งในประเทศ และนอกประเทศ ต่างแย่งกันจับจองเพราะไข่มุกที่เกาะนี้ขึ้นชื่อในเรื่องคุณภาพ"ต้องขอโทษด้วยนะคะคุณลุง ว่าแต่ใกล้ถึงหรือยังคะ""ข้างหน้านี้ก็ถึงแล้ว ว่าแต่หนูจะไปทำอะไรที่เกาะบุรินทร์เหรอ""จะไปสมัครงานค่ะ""งั้นเหรอ... ถ้างั้นลุงน่าจะส่งได้แค่ปากทางนะ แล้วเดี๋ยวจะมีรถของเกาะพาเข้าไปข้างในอีกทีหนึ่ง ที่นี่ค่อนข้างมีระบบความปลอดภัยสูง ไม่ใช่ว่าใครก็เข้าไปได้"คุณลุงเอ่ยออกมาพร้อมกับขับรถเข้าไปจอดตรงป้อมยามทางเข้าเกาะบุรินทร์ หญิงสาวมองออกไ
เขาเดินเข้ามาหาเนตรนภา และลูก จากนั้นก็ดึงมือทั้งสองคนให้ตามเข้าไปในห้องรับรองที่อยู่ชั้นล่างสุดของสำนักงานใหญ่ เมื่อทั้งสองคนเข้ามาข้างใน เขาก็ทำการปิดประตูล็อกอย่างแน่นหนา หันมามองสบตาหญิงสาวด้วยใบหน้าซีเรียส เพราะการที่เธอกลับมาที่นี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่"มาที่นี่ทำไม""มาสมัครงานไงคะ คุณบุรินทร์มีอะไรให้เนตรทำหรือเปล่า หนูทำได้ทุกอย่างเลยนะคะ""เอาดี ๆ เธอหายไปตั้ง 5 ปี แล้วกลับมาของานฉันทำเนี่ยนะ ใครจะเชื่อ"หญิงสาวหันไปจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความสงสัย"ทำไมคะ ทำไมถึงไม่เชื่อล่ะ ก็... เนตรเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศว่าจะหางานทำอยู่ที่ประเทศไทย แปลกตรงไหนคะที่จะมาสมัครงาน""แต่ที่ทำงานในประเทศนี้มีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องมาสมัครงานที่เกาะนี้ แถมยังพาลูกมาด้วยอีก เอาดี ๆ เด็กคนนี้ลูกใคร"เขาหันไปมองเด็กผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงโซฟา ส่งยิ้มมาให้อย่างน่าเอ็นดู และเมื่อนายหัวบุรินทร์เห็นแบบนั้นก็ใจอ่อนยวบ ไม่กล้าที่จะดุหญิงสาวตรงหน้ามาก กลัวว่าเด็กน้อยจะตกใจ"ก็บอกแล้วไงคะว่าพ่อเด็กมันตายไปแล้ว คุณจะเอาอะไรกับเนตรนักหนา สรุปว่าจะไม่ให้สมัครงานที่นี่ใช่ไหมคะ งั้นเราสองแม่ลู
ในตอนนี้นายหัวบุรินทร์อุ้มน้องบลูเบลไปเล่นน้ำด้วยกันอยู่ที่สระว่ายน้ำหน้าบ้าน ทั้งสองคนอยู่ในชุดว่ายน้ำ ซึ่งตอนนี้กำลังสนุกสนานเสียงดังลั่น ส่วนคนเป็นแม่ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งอยู่ขอบสระ จ้องมองไปทั้งคู่ด้วยความเป็นห่วง ณ ขณะนี้เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ทว่าไม่มีวี่แววจะขึ้นมาเลย"คุณบุรินทร์คะ ช่วยพาลูกของเนตรขึ้นมาหน่อยค่ะ นี่มันก็ครึ่งชั่วโมงแล้วนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอกค่ะ""แค่ครึ่งชั่วโมงเองจะรีบไปไหน อย่ามาไร้สาระน่า เห็นไหมว่าเด็กกำลังสนุก""แต่ลูกของเนตรจะไม่สบายนะคะ คุณรับผิดชอบไหวหรือไง"เนตรนภาเอ่ยออกมาเสียงดุ แต่ทว่าคนที่อยู่ในสระกลับทำเหมือนไม่สนใจ หันไปสาดน้ำเล่นสนุกสนานกับลูกชายของเธอ หญิงสาวถึงกับกุมขมับไม่รู้จะพูดกับเขายังไง ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ตัดสินใจพาลูกมาอยู่ที่นี่"คุณบุรินทร์คะ ถ้าเกิดว่าเล่นน้ำกันเสร็จเนตรจะพาลูกกลับบ้านแล้วนะ แล้วก็จะไม่ทำงานกับคุณแล้ว""ว่าไงนะ!"เขาหันขวับไปมองหญิงสาวด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบว่ายน้ำเข้าไปอุ้มจอมแสบมาไว้ในอ้อมแขน รีบพากันขึ้นมาจากสระเพราะดูเหมือนว่าประโยคข่มขู่จะทำให้เขากลัว"ไปเลยไอ้แสบเราเล่นน้ำกันนานแล้ว อาบน้
เขาดึงรั้งตัวหญิงสาวให้เดินออกมาจากห้องนอนของลูกชาย ตะโกนเรียกแม่บ้านให้ขึ้นมาคอยดูแลบลูเบล ในระหว่างที่เขาพาเนตรนภาไปเคลียร์กันให้เข้าใจอีกห้องหนึ่ง"มีใครอยู่ตรงนี้หรือเปล่าขึ้นมาหน่อย""มีอะไรหรือเปล่าคะนายหัว""เข้าไปเฝ้าบลูเบลในห้องให้หน่อย ถ้าเกิดว่าตื่นก็มาเรียกที่ห้องแล้วกันนะ ผมจะพาเนตรไปคุยด้วย"แม่บ้านได้ยินแบบนั้นก็โค้งตัวเล็กน้อย จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้อง เพื่อทำตามที่นายหัวบุรินทร์สั่ง ส่วนเขานั้นดึงมือหญิงสาวให้ตามไปที่ห้องนอน และเมื่อทั้งสองคนเข้ามาถึง ชายหนุ่มก็ทำการปิดล็อกประตูให้แน่นหนา จากนั้นก็หันมามองสบตากับอดีตเด็กเลี้ยงที่เขาทั้งรักทั้งหลงเมื่อ 5 ปีก่อน"รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าตัวเองท้อง""คุณจะรู้ไปทำไมคะ""ตอบ!"เขาไม่ได้สนใจในสิ่งที่หญิงถามกลับ จ้องมองไปยังใบหน้าของเธอเพื่อกดดันคาดคั้นเอาคำตอบ เนตรนภากำมือตัวเองเอาไว้แน่น มาถึงขนาดนี้แล้วก็คงต้องพูดความจริงทุกอย่างออกไป"รู้หลังจากที่ไปเมืองนอกได้เดือนเดียวค่ะ""แสดงว่าตอนที่อยู่ด้วยกันไม่รู้ใช่ไหมว่าตัวเองท้อง""ไม่รู้ค่ะ"เขาถอนหายใจออกมาทันที รู้ถัดจากนั้นเพียงแค่เดือนเดียวเอง ทำไมถึงไม่โทรศัพท์มาหาแล้วก็บ
สองปีผ่านไป...ในตอนนี้น้องบีน่าอายุได้สองขวบกว่าแล้ว พูดเก่งมากถามนั่นนี่ไม่หยุด ส่วนพี่ชายคนโตอายุอานามก็ประมาณ 7 ขวบกว่า เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พูดภาษาอังกฤษเก่งมาก แถมยังเรียนเก่งที่สุดในรุ่นอีกด้วย เป็นคนที่ไม่เคยทำให้พ่อผิดหวัง แต่นายหัวบุรินทร์ก็ไม่เคยพูดจาคาดหวังกับลูกชาย เพราะไม่อยากกดดันลูกมากนัก อยากให้เขาเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด"บีน่าพี่บอกแล้วไงว่าเวลากินห้ามใช้มือจับแบบนี้ ต้องใช้ส้อมจิ้มก่อน มานี่ครับเดี๋ยวพี่จะสอน"น้องบลูเบลอุ้มน้องสาวให้มานั่งที่เก้าอี้ จากนั้นก็ใช้ส้อมจิ้มผลไม้ที่อยู่ในจาน จากนั้นก็ส่งไปให้น้องสาวเธอไว้ หยิบทิชชูเช็ดริมฝีปากให้ด้วยความห่วงใย"อันนี้อย่อย""อร่อยก็กินเยอะ ๆ เลย ถ้าเกิดว่าหมดเดี๋ยวพี่ไปเอาใหม่มาให้ แล้วดูสิมือเลอะหมดเลยเห็นไหม เดี๋ยวพี่เช็ดให้ดีกว่า"พี่ชายคนดีใช้ผ้าขนหนูค่อย ๆ เช็ดมือให้น้องสาว ตั้งแต่น้องคลอดออกมาจนถึงตอนนี้ เขาดูแลน้องและหวงแหนเป็นอย่างมาก คนเป็นพ่อแม่สะกิดนิดเดียวยังไม่ได้เลย น้องร้องไห้ก็โอ๋เอง เรียกได้ว่าห่วงน้องหนักจนคนเป็นแม่เริ่มกังวล"พี่บุรินทร์คะ เนตรว่าน้องบลูเบลห่วงน้องหนักมากเกินไปนะคะ ถ้าเ
ช่วงค่ำ...ในตอนนี้ท่านบรรพต คุณหญิงผกากรอง ท่านสมเกียรติ และคุณหญิงนพรัตน์ รวมถึงลูกชายซึ่งก็คือท่านนายกคนปัจจุบัน และแฟนของเขา นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารใจกลางคฤหาสน์สุดหรูของนายหัวบุรินทร์ และมีเนตรนภากับลูกชายนั่งอยู่ร่วมโต๊ะเช่นกัน"บลูเบลดีใจจังเลยครับที่ทุกคนมาเที่ยวหา""โธ่เอ๊ยเด็กแสบ ใครก็อยากจะมาอยู่กับเราทั้งนั้นแหละ แต่ทุกคนก็ต้องทำงานไง เข้าใจใช่ไหมครับ""เข้าใจอยู่แล้วครับ แค่นี้ก็ดีใจมากแล้วครับคุณลุง ถ้างั้นเรากินข้าวกันเถอะครับผมหิวแล้ว"เด็กน้อยชี้นิ้วไปที่หมูกรอบชิ้นใหญ่ตรงหน้า คุยโม้นักหนาว่าตัวเองชอบกินผัก แต่พออาหารตรงหน้าเป็นหมูกรอบ กับเลือกที่จะทิ้งสิ่งที่ชอบไว้บนจานทันที"แล้วบอกว่าตัวเองชอบกินผัก แต่เห็นหมูกรอบทีไรหยิบใส่ปากทันทีเลยนะ""แฮะ! ก็มันอร่อยนี่ครับ กรอบมาก"เด็กน้อยเอ่ยออกมาก่อนจะหยิบหมูกรอบใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย ผู้ใหญ่ที่เห็นก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ การมีเด็กมาวิ่งเล่นทั่วบ้านก็ทำให้พวกผู้ใหญ่ไม่เหงาเลย พูดจ้อไม่หยุดทำให้ทุกคนมีเรื่องสนทนาคุยกันทั้งวันทั้งคืน โดยเฉพาะเรื่องของหลานกลายเป็นบทสนทนาหลักในการคุยกันเสร็จแล้ว"แล้วเจ้าตัวเล็กอีกคนล่ะจะคลอดเมื่
และในที่สุดก็การประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งพรรครักประชาชนได้คะแนนเสียงจากประชาชนอย่างล้นหลาม ได้เก้าอี้คะแนนเสียงเกินครึ่งของสภา สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยไม่ต้องมีพรรคร่วม"ดีใจด้วยนะเนติในที่สุดก็ทำได้"นายหัวบุรินทร์ถือช่อดอกไม้มาแสดงความยินดีให้กับว่าที่นายกคนใหม่ รวมถึงเนตรนภาที่วิ่งเข้ามาสวมกอดพี่ชายด้วยความดีใจ"ดีใจจังเลยมีพี่ชายได้เป็นนายกแล้ว""ขอบคุณมากนะน้องสาว เพราะว่าเนตรมีสามีเป็นพี่บุรินทร์ เขาดีกับครอบครัวเรามาก แถมยังทำให้คุณพ่อเปลี่ยนไปเป็นคนละคนอีก ผมขอบคุณมากเลยนะครับสำหรับทุกอย่าง"เนติยกมือขอบคุณผู้ชายตรงหน้า เพราะเขาจึงทำให้ครอบครัวของเรากลับมารักกันเหมือนเดิม เปลี่ยนให้คุณพ่อกลายเป็นคนธรรมดา ไม่บังคับจิตใจของคนในบ้านอีกส่วนไอซ์ตอนนี้ก็เข้าไปอยู่ที่คฤหาสน์หลังใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมคุณพ่อกับคุณแม่ยังลงทุนเปิดคาเฟ่ให้อีก เรียกว่าตอนนี้กลายเป็นลูกรักแทนที่เขาเรียบร้อยแล้ว เพราะว่าไอซ์เขาเรียนเชฟมา ทำอาหารอร่อย ทำขนมก็เก่ง คุณพ่อกับคุณแม่ถูกใจมากเอ่ยปากชมไม่มีหยุด เขาก็เลยตกกระป๋องไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"ขอบคุณอะไรนักหนาเนี่ย ทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา...ตอนนี้อยู่ในช่วงลงคะแนนเสียง และช่วงค่ำน่าจะรู้แล้วว่าพรรคไหนจะได้คะแนนเสียงเยอะที่สุด ดูจากผลสำรวจก็น่าจะไม่ผิดโผสักเท่าไหร่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้"เดี๋ยวจะเริ่มนับคะแนนกันแล้ว หวังว่าพรรคของเราจะได้ทำเพื่อประชาชนอีกสมัยหนึ่งนะ"และที่ทำการพรรคทุกคนกำลังนั่งประชุมกันอยู่ และก็จะมีตัวแทนของแต่ละพรรค เข้าดูการนับคะแนนในแต่ละเขต เพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตในช่วงการนับคะแนนที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าและที่ทำการพรรคจะมีโปรแกรมนับคะแนนแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งตัวแทนที่อยู่ประจำหน่วยยืนดูเขานับคะแนน จะแจ้งผลเบื้องต้นให้ทางนี้รับทราบ ซึ่งคะแนนจะไม่เป็นทางการแต่ก็พอเดาได้ว่าพรรคไหนที่มีคะแนนนำในเวลานั้น"ยังไงผมต้องขอบคุณทุกคนมากเลยนะครับ ที่คอยแนะนำแล้วก็ให้โอกาสเด็กรุ่นใหม่อย่างผม ถ้าเกิดว่ามีโอกาสในการได้เป็นนายกรัฐมนตรี ผมจะตั้งใจทำเพื่อประชาชน แล้วก็จะไม่ทำให้ผู้ใหญ่ในพรรคผิดหวังเด็ดขาด"เนติขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะเอ่ยออกมาสัญญากับทุกคนที่อยู่ภายในห้องประชุมนั้น ถึงแม้ว่าทุกคนจะไม่ได้เลือกให้เขามายืนอยู่จุดนี้ แต่เป็นเพราะอำนาจของพี่เขยที่ยื่นข้อเสนอใ
ชายหนุ่มดึงรั้งตัวภรรยาให้มานั่งลงอยู่บนเตียงนอน แต่เนื่องจากเธอมีอายุครรภ์ที่ค่อนข้างโต จึงไม่สามารถขึ้นไปคร่อมอยู่บนตัวของเธอได้ จึงเปลี่ยนใจอุ้มคนรักให้ขึ้นมาอยู่บนตัวของเขาแทน"ลำบากเหมือนกันนะคะเนี่ย"หญิงสาวถึงกับหลุดขำออกมาเมื่อการมีเซ็กซ์ของคุณแม่ลูกสองค่อนข้างดูทุลักทุเลไม่น้อย แต่เพื่อความสุขของสามียังไงเธอก็ต้องยอม มันไม่ใช่ข้ออ้างในการไม่ให้ความสุขแก่คนรัก เพราะถึงแม้จะท้องโตแต่ก็ใช่ว่าจะมีไม่ได้สักหน่อย"ไม่ลำบากหรอกหนูก็อยู่ข้างบนนั่นแหละ เดี๋ยววันนี้พี่จะทำเบา ๆ เดี๋ยวหนูจะปวดท้องเอาได้"เขานอนราบลงกับเตียง ก่อนจะจับเอวเล็กของภรรยาทั้งสองข้างจึงรั้งขึ้นมาบนตัวของเขา จากนั้นก็ค่อย ๆ เลิกกระโปรงขึ้นไปไว้ที่ช่วงเอวของเธอ ใช้นิ้วเรียวถูไถยังน้องสาวเพื่อเล้าโลมภรรยาสุดที่รัก"อื้อ อ้าส์~"เนตรนภาถึงกับสะกดกั้นอารมณ์ของตัวเองไว้ไม่ไหว ถึงแม้จะท้องโตขนาดนี้ แต่เรื่องบนเตียงเขาก็ยังคงทำให้เธอมีความสุขได้เสมอ โชคดีที่ชายหนุ่มเป็นคนมีเหตุผล เข้าใจว่าธรรมชาติของคนท้องไม่เหมือนกับมนุษย์ปกติทั่วไป เขาจะมีวิธีในการทำให้เธอมีความสุขโดยที่ไม่ต้องใช้ความรุนแรงเหมือนทุกครั้ง"หอมจัง""ไม
ท่านสมเกียรติรู้สึกเกร็งไม่น้อยเลยกับการมาอยู่ที่นี่ อาจจะเพราะว่าตัวเองทำผิดพลาดไว้มาก แต่คนในครอบครัวไม่ถือโทษโกรธแถมยังให้อภัยง่ายดาย มันยิ่งทำให้เขารู้สึกแย่ในการกระทำของตัวเอง และสัญญาว่าจะไม่ทำเหมือนอย่างอดีตที่ผ่านมาอีก"คุณหญิงผมขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม""กินข้าวก่อนดีไหมคะ เดี๋ยวค่อยคุยก็ได้"คุณหญิงนพรัตน์รู้ดีว่าเขาเป็นกังวลมากแค่ไหน เธอกับลูกคุยกันว่าถ้าเจอคุณพ่อจะไม่มีใครพูดเรื่องอดีต เพราะสิ่งที่เขาได้รับมันหนักหนามากพออยู่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าเขายังคงมีอะไรภายในใจอยู่"คุยตอนนี้แหละ""ก็ได้ ลูกไปกินข้าวก่อนเลยนะ แม่กับพ่อจะไปคุยกันแป๊บหนึ่ง"เนตรนภา และนายหัวบุรินทร์ยิ้มออกมาก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็กุมมือลูกชายพากันเดินเข้าไปยังห้องอาหาร ปล่อยให้พวกผู้ใหญ่ได้เคลียร์ใจกันให้จบ จะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก"มีอะไรเหรอคะ ฉันไม่ได้โกรธหรือติดใจอะไรทั้งนั้น คุณจะคิดมากทำไม"คุณหญิงเอ่ยออกมาก่อนจะกุมมือของสามีเอาไว้ทั้งสองข้าง ท่านสมเกียรติดึงภรรยาเข้ามาสวมกอดอย่างกลัวว่าเธอจะหายไปไหนอีก เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ที่เขาใช้ชีวิตอยู่คนเดียว มันโดดเดี่ยว และรู้สึกทรมานหัวใจมาก จากที
เมื่อจบประโยคของลูกเขยท่านสมเกียรติก็นิ่งเงียบไปทันที ไม่รู้จะเอาประโยคไหนมาเถียงกลับ เพราะทุกสิ่งอย่างที่เขาทำมันก็เป็นประโยชน์ต่อตัวเขาทั้งนั้น เวลาผ่านมาที่เขาอยู่คนเดียว และคิดทบทวนกับทุกสิ่ง มันก็ได้คำตอบที่แน่ชัดเราว่าท้ายที่สุดตัวเราเองก็ต้องการแค่ครอบครัวที่อบอุ่นเท่านั้น"รู้แล้วน่าว่าฉันผิด แต่คงแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ทั้งลูกแล้วก็เมียหนีออกไปหมดเลย""ทำไมจะแก้ไขอะไรไม่ได้ล่ะครับ ไม่มีใครเกลียดคุณพ่อเลยสักคน ทุกคนแค่รอว่าคุณพ่อจะเป็นคนใหม่ตอนไหนก็เท่านั้น แต่ว่าตอนนี้ดีขึ้นเยอะเลยนี่ครับ ผมว่าน่าจะถึงเวลาแล้วที่คุณพ่อควรจะแก้ไขทุกอย่างที่เคยทำผิดพลาด ทุกคนพร้อมให้โอกาสนะครับ แล้วอีกอย่างหนึ่งกำลังจะเป็นคุณตาที่มีหลานถึงสองคน ทำหน้าตาให้มันดูสดใสหน่อยสิครับ"ท่านสมเกียรติถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย หมายความว่ายังไงที่บอกว่าเป็นคุณตาที่มีหลานถึงสองคน"นายหมายความว่ายังไง""ก็หมายความว่าตอนนี้เนตรกำลังอุ้มท้องลูกคนที่สองอยู่ ถ้าคุณพ่ออยากอยู่กับหลานผมแนะนำให้เป็นคนใหม่แล้วก็ไปง้อลูกง้อเมียนะครับ แต่ถ้าเกิดว่าไม่ก็คงจะต้องได้ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวจนตาย""ปากดีนักนะแกเนี่ย"ถึงจะบ่นแบบ
เวลาผ่านไป...หลังจากที่นายหัวบุรินทร์จัดการทุกอย่างเรียบร้อย เนตรนภากับลูกก็ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมากขึ้น ไม่ต้องมาคอยระแวงว่าคุณพ่อจะบังคับให้ทำตามอำเภอใจอะไรอีก และที่สำคัญคุณแม่ย้ายมาอยู่ที่นี่สักพักใหญ่แล้ว ส่วนพี่ชายก็เดินหน้าหาเสียงอย่างเต็มกำลัง เป็นส.สบัญชีรายชื่อลำดับที่ 4 นับเป็นแคนดิเดตนายก ที่ทางพรรคจะส่งเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป"ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง พี่ชายก็ไม่กลับบ้านเลย คุณแม่ก็มาอยู่ที่นี่ เอาจริงหนูก็เริ่มเป็นห่วงท่านอยู่นะคะ"เนตรนภาเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเป็นกังวล ถึงแม้ว่าท่านจะทำตัวใจร้ายกับคนในครอบครัว แต่เธอไม่ใช่คนแบบนั้น ยังไงท่านก็เป็นคุณพ่อ ห่างหายกันไปนานแบบนี้ต้องอดเป็นห่วงไม่ได้ โดยเฉพาะตอนนี้ท่านอยู่คนเดียวด้วย"เดี๋ยวพี่ไปดูให้ ก็ไม่คิดว่าจะใจแข็งขนาดนี้นะ แต่เอาจริงก็ไม่ค่อยแปลกใจสักเท่าไหร่ คนดื้อรั้นแบบนั้นไม่ยอมฟังใครง่าย ๆ แน่"นายหัวบุรินทร์อุ้มภรรยาให้ขึ้นมานั่งลงบนตัก ลูบหน้าท้องของคนรักด้วยความเอ็นดู ตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์อยู่ เขาไม่อยากจะให้คิดมาก ส่วนเรื่องพ่อตาเดี๋ยวจะไปเคลียร์ด้วยตัวเอง"ห้ามเครียดนะรู้หรือเปล่า ตัวเองไม่ไ
ทุกคนไม่คิดว่าสิ่งที่นายหัวบุรินทร์ต้องการจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ท่านนายกคนปัจจุบันกำลังจะอำลาตำแหน่ง เนื่องจากว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งตอนนี้เขายังทำหน้าที่รักษาการอยู่ ประชาชนค่อนข้างที่จะรักท่านนายกรัฐมนตรีคนนี้มาก และถ้าเกิดว่าจะต้องเปลี่ยนแคนดิเดตนายกในเวลานี้ อาจจะทำให้ประชาชนเปลี่ยนใจเทคะแนนเสียงไปที่พรรคอื่นก็เป็นได้"ทำแบบนี้พรรคเราจะแย่เอานะครับ ประชาชนค่อนข้างรักท่านสมเกียรติ พวกเราถึงเลือกแคนดิเดตนายกเป็นท่านดังเดิม""ไร้สาระน่า การที่ประชาชนจะเลือกใครสักคนไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนคนเดียว พรรครักประชาชนสู้เพื่อประชาชนมาโดยตลอดเกือบ 20 ปี ไม่ว่าแคนดิเดตนายกจะเป็นใคร ผมเชื่อว่าประชาชนจะยังคงเลือกพรรคของเรา"ทุกคนไม่มีใครพูดหรือเถียงนายหัวบุรินทร์กลับ เนื่องจากว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นไม่ได้ผิดไปเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่ประชาชนไว้ใจพรรคไม่ว่าจะเลือกใครขึ้นมาเป็นผู้นำ ทุกคนก็พอใจทั้งนั้น ขอแค่เห็นประโยชน์ของประชาชนมาก่อนเสมอ แค่นี้ก็จะชนะใจคนทั้งประเทศได้แล้ว"ก็ได้ถ้านายต้องการแบบนั้น ถ้าอย่างนั้นก็ชี้ตัวมาเลยสิว่าจะเลือกใครมาแทนที่ฉันในตอนนี้ แต่ขอหาคนที่เห