เขาดึงรั้งตัวหญิงสาวให้เดินออกมาจากห้องนอนของลูกชาย ตะโกนเรียกแม่บ้านให้ขึ้นมาคอยดูแลบลูเบล ในระหว่างที่เขาพาเนตรนภาไปเคลียร์กันให้เข้าใจอีกห้องหนึ่ง
"มีใครอยู่ตรงนี้หรือเปล่าขึ้นมาหน่อย"
"มีอะไรหรือเปล่าคะนายหัว"
"เข้าไปเฝ้าบลูเบลในห้องให้หน่อย ถ้าเกิดว่าตื่นก็มาเรียกที่ห้องแล้วกันนะ ผมจะพาเนตรไปคุยด้วย"
แม่บ้านได้ยินแบบนั้นก็โค้งตัวเล็กน้อย จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้อง เพื่อทำตามที่นายหัวบุรินทร์สั่ง ส่วนเขานั้นดึงมือหญิงสาวให้ตามไปที่ห้องนอน และเมื่อทั้งสองคนเข้ามาถึง ชายหนุ่มก็ทำการปิดล็อกประตูให้แน่นหนา จากนั้นก็หันมามองสบตากับอดีตเด็กเลี้ยงที่เขาทั้งรักทั้งหลงเมื่อ 5 ปีก่อน
"รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าตัวเองท้อง"
"คุณจะรู้ไปทำไมคะ"
"ตอบ!"
เขาไม่ได้สนใจในสิ่งที่หญิงถามกลับ จ้องมองไปยังใบหน้าของเธอเพื่อกดดันคาดคั้นเอาคำตอบ เนตรนภากำมือตัวเองเอาไว้แน่น มาถึงขนาดนี้แล้วก็คงต้องพูดความจริงทุกอย่างออกไป
"รู้หลังจากที่ไปเมืองนอกได้เดือนเดียวค่ะ"
"แสดงว่าตอนที่อยู่ด้วยกันไม่รู้ใช่ไหมว่าตัวเองท้อง"
"ไม่รู้ค่ะ"
เขาถอนหายใจออกมาทันที รู้ถัดจากนั้นเพียงแค่เดือนเดียวเอง ทำไมถึงไม่โทรศัพท์มาหาแล้วก็บอกความจริง เขาไม่ได้ใจร้ายถึงขั้นทิ้งลูกเมียสักหน่อย
"แล้วทำไมถึงไม่ทักมาบอก โทรศัพท์มาก็ได้ เธอเห็นฉันเป็นคนยังไงเนตรนภา"
หญิงสาวจ้องมองไปยังใบหน้าของชายหนุ่ม ก่อนจะส่งสายตาด้วยความน้อยอกน้อยใจ เขาไม่เคยรับรู้เลยว่าเธอผ่านอะไรมาบ้าง แม้กระทั่งตอนนั้นที่เธอร้องขอ เขายังเลือกที่จะทิ้งไปเลย
"ก็คุณเองไม่ใช่เหรอคะที่ทิ้งหนู"
"ทิ้งตรงไหน ฉันให้เธอเลือกแล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าเกิดว่าอยากไปเรียนต่อต่างประเทศ ฉันก็จะไม่เลี้ยงดูเธอต่อ ถ้าเธอไม่อยากเลิกกับฉัน แล้วเธอจะไปต่างประเทศทำไม"
เขาไม่ได้สนใจเลยว่าเธอจะมีปัญหาอะไรในชีวิต เพียงแค่ตอนนั้นเขารัก และหลงเธอมาก ให้ทุกอย่างที่หญิงสาวต้องการ แต่ทว่าวันหนึ่งเดินมาบอกเขาว่าได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ แล้วไปตั้งหลายปีคิดเหรอว่าคนอย่างเขาจะอดทนรอได้ จึงเป็นที่มาของการแยกย้ายเกิดขึ้น ณ ตอนนั้น
"หนูก็ต้องไปเพื่ออนาคตตัวเองไม่ใช่เหรอคะ"
"แล้วเรียนที่ประเทศไทยมันไม่มีอนาคตตรงไหน มหาวิทยาลัยแพง ๆ เยอะแยะ อีกอย่างฉันเป็นคนส่งเสียเลี้ยงดูเธอทั้งหมด จะมาซีเรียสอะไรกับเรื่องค่าเทอม"
หญิงสาวสะบัดหน้าใส่ชายหนุ่ม ยังคงรู้สึกโกรธกับเรื่องเมื่อ 5 ปีก่อน เขาทำเธอไว้เจ็บแสบมาก ก็สมควรแล้วที่จะไม่ได้เจอหน้าลูกตั้ง 5 ปี
"ไม่ต้องมาเชิดหน้าใส่แบบนั้น ถามว่าทำไมถึงไม่ติดต่อมา พาลูกไปลำบากอยู่ที่นั่นทำไมตั้งหลายปี"
เขาขยับเข้ามาแนบชิดใกล้ก่อนจะดึงรั้งเอวเธอเข้ามาสวมกอดไว้ประชิดตัว เนตรนภาหันไปมองสบตากับเขา ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงโกรธจัด
"ทำไมหนูถึงจะไม่ติดต่อมาหาคุณคะ คุณเองไม่ใช่เหรอที่นอกใจหนูไปมีคนอื่นก่อน"
"นอกใจอะไร"
เขาเลิกคิ้วด้วยความมึนงง และสงสัยในสิ่งที่เธอพูดมา หมายความว่ายังไงที่เธอบอกว่าเขานอกใจมีคนอื่น
"สรุปยังไงฉันไปนอกใจเธอตอนไหน"
"คุณกับหนูเพิ่งเลิกคุยกันได้ไม่ถึงเดือน คุณก็เลี้ยงผู้หญิงคนใหม่ ใช่สิหนูมันไม่ใช่คนโปรดของคนแล้วนี่"
"เดี๋ยวก่อนนะ ตั้งแต่ฉันเลิกคุยกับเธอเนี่ย ฉันไม่เคยยุ่งกับผู้หญิงคนไหนเลยนะ จะรู้ไหมว่าบุรินทร์น้อยมันเหี่ยวเฉามากแค่ไหน 5 ปีเลยนะเว้ยไม่ใช่ 5 วัน เธอคิดว่าฉันต้องอดทนมากขนาดไหน หือ"
เขาเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ที่เนตรนภาไม่ได้อยู่ทำหน้าที่เป็นเด็กเลี้ยงคนโปรดของเขา บุรินทร์ก็ไม่สามารถที่จะมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นได้ เนื่องจากว่าผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาไม่อาจนอกใจไปมีคนอื่นได้เลย และยังรอคอยว่าสักวันเธอจะกลับมา แต่ก็ไม่คิดว่าการกลับมาครั้งนี้จะทำให้เขาช็อกไปหลายอย่าง อย่างเช่นการที่เราสองคนมีลูกด้วยกัน
"ไม่จริง มีคนบอกหนูว่าคุณเลี้ยงผู้หญิงคนใหม่"
เนตรนภาจ้องมองไปยังเขาอย่างไม่เชื่อในประโยคคำพูด ผู้ชายมันก็เหมือนกันหมดแหละ โกหกหลอกลวง คิดว่าคนอย่างเธอจะเชื่อหรือไง
"ไม่เอาแบบนี้สิ เธอถามคนอื่นได้เลยว่าฉันเคยพาผู้หญิงคนไหนมาอยู่ที่นี่หรือเปล่า นอกจากเธอฉันก็ไม่เคยพาใครมาที่นี่ แม้กระทั่งซื้อกินคืนเดียวฉันยังไม่เคยทำเลย เธอจะมากล่าวหาว่าฉันนอกใจได้ยังไง"
เขากอดรัดหญิงสาวให้แน่นขึ้น ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ ใช้ริมฝีปากคลอเคลียก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงอ้อน
"ฉันมีเธอคนเดียว แล้วก็มีเธอคนเดียวมาตลอดด้วย อย่ามาใส่ร้ายเข้าใจไหม"
หญิงสาวจ้องมองสบตาเขาอย่างจับผิด แต่ดูจากแววตาแล้วดูจริงจังจนไม่อาจจะใส่ร้ายอะไรได้อีก ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้มีใคร แล้วทำไมคนในสายถึงพูดแบบนั้นล่ะ
"ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอได้ยินอะไรมา แต่ที่ผ่านมาฉันมีเธอคนเดียวมาโดยตลอด"
"หนูเชื่อคุณได้ใช่ไหมคะ"
"ก็ต้องเชื่อได้อยู่แล้ว เธอก็รู้นี่ว่าฉันเป็นคนพูดจริงไม่เคยล้อเล่น ว่าแต่เธอเถอะไปอยู่ต่างประเทศตั้ง 5 ปี นอนกับผู้ชายคนอื่นหรือเปล่า ถ้าฉันรู้ว่าเธอนอกกายแล้วก็นอกใจ ฉันจะอุ้มเธอโยนลงทะเลไม่ให้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้"
เขาจ้องมองสบตากับเธอ ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงข่มขู่ เขารักนวลสงวนตัวไม่ให้หญิงใดมาแตะต้องเป็นเวลา 5 ปีแล้ว แต่ถ้าเกิดเนตรนภาแอบไปมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่น เขาคงจะโกรธ และลงโทษเธอให้ถึงที่สุด
"วัน ๆ เลี้ยงแต่ลูกแล้วก็เรียนหนังสือ จะเอาเวลาที่ไหนนอกใจคุณไปมีคนอื่นคะ"
เธอเอ่ยออกมาก่อนจะก้มหน้าลงต่ำ ไม่อาจต้านทานสายตาอันหวานฉ่ำของผู้ชายตรงหน้าได้ มันมีแรงดึงดูดบางอย่าง ซึ่งอาจจะทำให้ถ่านไฟเก่าของทั้งสองคนลุกโชนเป็นกองเพลิง
"เงยหน้าขึ้นมามองฉันเดี๋ยวนี้"
เขาจับปลายคางของเธอเชยขึ้นมาสบตากัน จ้องมองใบหน้านั้นอย่างหลงใหล ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปจูบหญิงสาวอย่างดูดดื่ม ถ่านไฟเก่าที่ไม่เคยดับลงบัดนี้ได้ลุกโชนลามทั่วห้องแล้ว
"อื้อ!"
"สงสัยต้องพิสูจน์ ว่าเธอแอบนอกใจฉันไปมีคนอื่นหรือเปล่า"
"พิสูจน์ยังไงคะ"
"พิสูจน์บนเตียงไง หึ..."
รถเคลื่อนที่ไปตามถนน บรรยากาศโดยรอบมีแต่น้ำทะเลสีสดใส เนตรนภานั่งอยู่ในรถแท็กซี่โดยมีลูกชายตัวแสบร้องเพลงสนุกสนานอยู่ภายในรถคันนั้น"ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า...""อย่าเสียงดังสิลูก ในรถไม่ได้มีแค่เราสองคนนะครับ รบกวนคุณลุงเขา เดี๋ยวอยู่กันสองคนแล้วเราค่อยร้องเพลงกันนะ""ไม่เป็นไรหรอกหนู ให้เด็กน้อยเขาร้องไปเถอะ ก็สนุกไปอีกแบบดีนะ"คุณลุงคนขับรถเอ่ยออกมาก่อนจะจ้องมองไปยังเบื้องหน้า เพื่อที่จะขับรถตรงไปยังเกาะบุรินทร์ ซึ่งเป็นเกาะส่วนตัว และเป็นเกาะที่เลี้ยงไข่มุกสายพันธุ์หายากมากมาย ความร่ำรวยนั้นเป็นที่เลื่องลือ บริษัทจิวเวลรี่ทั้งในประเทศ และนอกประเทศ ต่างแย่งกันจับจองเพราะไข่มุกที่เกาะนี้ขึ้นชื่อในเรื่องคุณภาพ"ต้องขอโทษด้วยนะคะคุณลุง ว่าแต่ใกล้ถึงหรือยังคะ""ข้างหน้านี้ก็ถึงแล้ว ว่าแต่หนูจะไปทำอะไรที่เกาะบุรินทร์เหรอ""จะไปสมัครงานค่ะ""งั้นเหรอ... ถ้างั้นลุงน่าจะส่งได้แค่ปากทางนะ แล้วเดี๋ยวจะมีรถของเกาะพาเข้าไปข้างในอีกทีหนึ่ง ที่นี่ค่อนข้างมีระบบความปลอดภัยสูง ไม่ใช่ว่าใครก็เข้าไปได้"คุณลุงเอ่ยออกมาพร้อมกับขับรถเข้าไปจอดตรงป้อมยามทางเข้าเกาะบุรินทร์ หญิงสาวมองออกไ
เขาเดินเข้ามาหาเนตรนภา และลูก จากนั้นก็ดึงมือทั้งสองคนให้ตามเข้าไปในห้องรับรองที่อยู่ชั้นล่างสุดของสำนักงานใหญ่ เมื่อทั้งสองคนเข้ามาข้างใน เขาก็ทำการปิดประตูล็อกอย่างแน่นหนา หันมามองสบตาหญิงสาวด้วยใบหน้าซีเรียส เพราะการที่เธอกลับมาที่นี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่"มาที่นี่ทำไม""มาสมัครงานไงคะ คุณบุรินทร์มีอะไรให้เนตรทำหรือเปล่า หนูทำได้ทุกอย่างเลยนะคะ""เอาดี ๆ เธอหายไปตั้ง 5 ปี แล้วกลับมาของานฉันทำเนี่ยนะ ใครจะเชื่อ"หญิงสาวหันไปจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความสงสัย"ทำไมคะ ทำไมถึงไม่เชื่อล่ะ ก็... เนตรเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศว่าจะหางานทำอยู่ที่ประเทศไทย แปลกตรงไหนคะที่จะมาสมัครงาน""แต่ที่ทำงานในประเทศนี้มีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องมาสมัครงานที่เกาะนี้ แถมยังพาลูกมาด้วยอีก เอาดี ๆ เด็กคนนี้ลูกใคร"เขาหันไปมองเด็กผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงโซฟา ส่งยิ้มมาให้อย่างน่าเอ็นดู และเมื่อนายหัวบุรินทร์เห็นแบบนั้นก็ใจอ่อนยวบ ไม่กล้าที่จะดุหญิงสาวตรงหน้ามาก กลัวว่าเด็กน้อยจะตกใจ"ก็บอกแล้วไงคะว่าพ่อเด็กมันตายไปแล้ว คุณจะเอาอะไรกับเนตรนักหนา สรุปว่าจะไม่ให้สมัครงานที่นี่ใช่ไหมคะ งั้นเราสองแม่ลู
ในตอนนี้นายหัวบุรินทร์อุ้มน้องบลูเบลไปเล่นน้ำด้วยกันอยู่ที่สระว่ายน้ำหน้าบ้าน ทั้งสองคนอยู่ในชุดว่ายน้ำ ซึ่งตอนนี้กำลังสนุกสนานเสียงดังลั่น ส่วนคนเป็นแม่ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งอยู่ขอบสระ จ้องมองไปทั้งคู่ด้วยความเป็นห่วง ณ ขณะนี้เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ทว่าไม่มีวี่แววจะขึ้นมาเลย"คุณบุรินทร์คะ ช่วยพาลูกของเนตรขึ้นมาหน่อยค่ะ นี่มันก็ครึ่งชั่วโมงแล้วนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอกค่ะ""แค่ครึ่งชั่วโมงเองจะรีบไปไหน อย่ามาไร้สาระน่า เห็นไหมว่าเด็กกำลังสนุก""แต่ลูกของเนตรจะไม่สบายนะคะ คุณรับผิดชอบไหวหรือไง"เนตรนภาเอ่ยออกมาเสียงดุ แต่ทว่าคนที่อยู่ในสระกลับทำเหมือนไม่สนใจ หันไปสาดน้ำเล่นสนุกสนานกับลูกชายของเธอ หญิงสาวถึงกับกุมขมับไม่รู้จะพูดกับเขายังไง ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ตัดสินใจพาลูกมาอยู่ที่นี่"คุณบุรินทร์คะ ถ้าเกิดว่าเล่นน้ำกันเสร็จเนตรจะพาลูกกลับบ้านแล้วนะ แล้วก็จะไม่ทำงานกับคุณแล้ว""ว่าไงนะ!"เขาหันขวับไปมองหญิงสาวด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบว่ายน้ำเข้าไปอุ้มจอมแสบมาไว้ในอ้อมแขน รีบพากันขึ้นมาจากสระเพราะดูเหมือนว่าประโยคข่มขู่จะทำให้เขากลัว"ไปเลยไอ้แสบเราเล่นน้ำกันนานแล้ว อาบน้