2แผน
"ห๊ะ อะไรนะปลายฝันไม่ได้มาด้วยหรอกหรือ หมดสนุกเลยที่นี้อุตส่าห์ชวนเพื่อนพี่กายมาให้ด้วยแล้วนะ นี้พี่กายแฟนเราเอง"
น้ำมนต์กล่าวขึ้น
"ว้าวๆ ไปคบกันตอนไหนเนี้ย เห็นพี่กายจีบปลายฝันตั้งนานสองนานเสร็จยัยน้ำมนต์เสียแล้ว"
มลฤดีกล่าวขึ้น
"ปลายฝันแชทมาบอกเรานะว่ากำลังจะกลับนครพนมเลย บอกว่าย่าเสียเราในฐานะเพื่อนต้องไปงานศพย่าของปลายฝันหรือป่าว"
ต้นข้าวเอ๋ยขึ้น
"ก็มันไม่ได้บอกพวกเรามันบอกแกคนเดียวไม่ใช่หรือก็แสดงว่ามันไม่ต้องการให้พวกเราไปหรอกถ้ามันอยากให้พวกเราไปมันต้องบอกแล้วแหละ"
น้ำมนต์กล่าวขึ้น ต้นข้าวไม่คิดว่าเพื่อคนที่อยู่แก็งเดียวกันจะเป็นอย่างนี้ ต่อหน้าปลายฝันทุกคนดีกับปลายฝันกันทุกคน
"งั้นเดียวเราไปคนเดียวก็ได้"
ต้นข้าวกล่าวขึ้น แต่ก็ไม่มีใครสนใจสักเท่าไหร่ ต่างคนต่างสนุกกับปาร์ตี้กัน สักพักก็เมามาย ต้นข้าวได้สติอยู่คนเดียวเพราะเขาไม่ดื่มมากเพราะตอนเช้าเขาต้องรีบออกเดินทาง นั่งไปในใจก็คิดมาเพื่อนในกลุ่มตอนเรียนก็เหมือนรักกันดี แต่พอถึงวันจบทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ งานศพย่าเพื่อนก็ไมไปแถมยังไม่มีน้ำใจจะใส่ซองหรือคำปลอบใจอีก
"เราเสียใจด้วยนะปลายฝัน พรุ่งนี้เราก็จะกลับบ้านแล้ว เดียวรืนนี้้ไปหานะ"
ต้นข้าวพิมข้อความแชททิ้งไว้ให้เพื่อน ยิ่งดึงคนเริ่มมั่วกัน ต้นข้าวเลยขอกลับก่อนเพราะพรุ่งนี้จะออกเดินทาง
"เดียวให้พี่ไปส่งต้นข้าวเองนะพี่จะกลับอยู่พอดี"
เสียงพี่ท็อปเพื่อนพี่กายเอ่ยขึ้น พลางหันไปมองหน้าทุกคน
"เอาดิว่ะดึกแล้วปล่อยให้น้องกลับคนเดียวอันตราย ให้เพื่อนพี่ไปส่งเถอะ"
กายรีบบอกต้นข้าวพลางมองหน้าเพื่อนชายอย่างรู้ทัน
"ไม่เป็นไรค่ะ พี่สนุกกับเพื่อนต่อเถอะค่ะ หนูกลับเองได้สบายอยู่แล้ว"
ต้นข้าวเอ่ยขึ้นแล้วก็ออกไปทันที พี่ท็อปเพื่อนพี่กายก็รีบเดินตาม ต้นข้าวรู้ว่ามีคนเดินตามจึงเข้าห้องน้ำไป ในใจก็รู้สึกกลัวพี่คนนี้ขึ้นมา
"ขอบคุณมากนะแก ตอนนี้กินเลี้ยงกันสนุกหรือป่าว คนอื่นโกรธหรือป่าวที่เราไม่ได้ไปนะ"
ปลายฝันพิมพ์ข้อความกลับ เมื่อเพิ่งทำอะไรเสร็จกำลังจะนอนก็เห็นเพื่อนทักมา แต่มีเพียงต้นข้าวคนเดียว
"ไม่มีใครว่าหรอกเพราะแกมัความจำเป็นนิ ขอโทรคุยได้ป่าวมีเรื่องนิดหน่อย"
ต้นข้าวตอบแชทเพื่อนและตัดสินใจจะปรึกษาปลายฝัน
"ว่าไงต้นข้าว"
ปลายฝันเห็นข้อความเพื่อนจึงรีบโทรกลับ
"พอดีว่ามีคนแอบตามเรามาตอนเราจะกลับบ้านนะ เขาเป็นเพื่อนของพี่กาย คนที่เคยจีบแกนะตอนนี้พี่กายเขาคบกับน้ำมนต์แล้วนะ แกคงไม่ว่าอะไรหรอกนะ"
ต้นข้าวเอ่ยขึ้น
"จะไปว่าอะไรได้ล่ะ แล้วทำไมเขาถึงตามแกไปล่ะ เขามีธุระจะคุยด้วยหรือป่าว"
ปลายฝันถามขึ้น
"ไม่รู้สิแต่มันพิลึกอยู่เราก็เลยกลัวๆ แกคิดดูนะไม่มาคุยกับเราแต่พอบอกว่าจะกลับบ้านดันจะมาส่ง พอปฏิเสธก็เดินตาม มันแปลกไหมล่ะ คือว่าเราไม่ไว้ใจอ่ะน่ากลัว"
ต้นข้าวพูด
"อืมงั้นรอแปบนะอย่าพึ่งออกไป เดียวเราให้บิ้วตี้ไปรับนะ แกสะดวกหรือป่าวล่ะ"
ปลายฝันถามขึ้น
"อืม สดวกมากเลยขอบใจมากแก"
ต้นข้าวพูดขึ้น
"ยัยต้นข้าวเป็นไรมากหรือป่าวทำไมเข้าห้องน้ำนานจัง"
เสียงน้ำมนต์เรียกและเดินเข้ามาหาในน้องน้ำ เพราะ ท็อปเห็นว่าต้นข้าวเข้าห้องน้ำนานผิดปกติ กลัวว่าน้องจะกลับก่อนจะเสียแผนเอา คนพวกนี้ไม่มีไรมากเห็นผู้หญิงก็จะคิดอย่างเดียวเท่านั้น
"ไม่เป็นไรหรอกพอดีมึนๆเลยมาล้างหน้าในห้องน้ำอ่ะ แล้วแกตามมาทำไหมหรือจะกลับพร้อมกัน"
ต้นข้าวถามขึ้น แต่ความจริงก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นพี่ท๊อปไปตามมาแน่
"มันดึกแล้วให้พี่ท๊อปไปส่งเถอะ ไปคนเดียวมันอันตราย พี่ท๊อปเชื่อใจได้น่า กลับกับพี่เขาเถอะ"
น้ำมนต์พยายามเกลี่ยกล่อมต้นข้าว
"ก็ได้"
ต้นข้าวเอ่ยขึ้น เพราะปลายฝันส่งข้อความมาบอกว่าบิ้วตี้มาแล้วรออยู่ด้านนอก
"งั้นกลับกันดีๆนะเราไม่ไปส่งนะ เดียวไปต่ออีกแป๊บก็น่าจะกลับแล้วล่ะ โชคดีนะพี่ท๊อป"
น้ำมนต์กล่าวแล้วเดินจากไป ต้นข้าวก็หันไปยิ้มให้พี่ท๊อปและเดินนำหน้า ทำให้ท๊อปเองก็ยิ้มอยู่ในใจ ผู้หญิงคนนี้ไม่เมาเลยสักนิด ครั้นจะทำอะไรออกหน้าออกตาก็ไม่ได้ เขาเดินตามหลังพลางคิดแผนไปด้วยว่าจะเคลมน้องคนนี้ได้ยังไง ครั้นจะปล่อยไปก่อนก็คิดว่าคงไม่มีโอกาสแล้วหละ เพราะเห็นว่าจะกลับต่างจังหวัดแล้ว
"น้องต้นข้าวจะกลับต่างจังหวัดพรุ่งนี้หรือให้พี่ไปส่งหรือป่าว"
ท๊อปถามขึ้นเพื่อทำลาย บรรยากาศที่เงียบสงบ
"เดียวหนูขอถามบิ้วตี้ก่อนนะค่ะ พอดีว่าบิ้วตี้จะไปงานศพย่าของปลายฝันพอดี เลยว่าจะไปด้วยกันถ้าพี่ไปส่งคงดีไม่น้อย"
ต้นข้าวพูดยิ้มๆ ทำให้ท๊อปเองได้ใจคิดว่าหญิงสาวจะเล่นด้วย
"บิ้วตี้วันนี้มีคนไปส่งเราแล้วล่ะ ป่ะกลับบ้านกัน"
ต้นข้าวร้องเรียกคนผู้หนึ่งที่ยืนรออยู่ ทำให้ท็อปหันไปมองด้วยความตกใจ ก็พบว่าเป็นผู้ชายที่ร่างใหญ่แต่งตัวเป็นผู้หญิงแต่งหน้าจัดเต็ม
"ดีเลยมีคนไปส่งด้วยงั้นไปส่งต้นข้าวก่อนแล้วก็ไปส่งเรานะ"
บิ้วตี้กล่าวขึ้นและจูงมือของต้นข้าวออกมา ท๊อปเห็นแล้วก็ต้องจำใจไปส่งทั้งสอง พอท๊อปเอารถมาจอดทั้งสองก็ไปนั่งหลังรถปล่อยให้ท๊อปขับไปคนเดียว
"บิ้วตี้พรุ่งนี้พี่ท๊อปเขาอาสาจะไปส่งเรา ที่บ้านปลายฝันด้วย เราจะได้ไม่ต้องเสียเงินค่ารถกลับแล้วล่ะ แล้วตอนกลับเธอก็กลับกับพี่ท๊อปเลยก็ได้นะืถือเสียว่าพี่ท๊อปไปร่วมงานด้วย ไปกี่โมงดีค่ะพี่ท๊อป"
ต้นข้าวพูดขึ้น
"ขอโทษทีนะพอดีพรุ่งนี้พี่มีธุระคงไปไม่ได้แล้วละ พอดีพ่อพี่พึ่งโทรมาบอก"
ท๊อปรีบปฎิเสธทันที จะให้ไปอย่างไรเห็นคนที่นั่งรถกลับด้วยขับรถทั้งวันอาจมีหลอน
"เครงั้นก็ตามที่เราตกลงกันไว้นั้นแหละนะถ้าพี่เขาไม่ไปเราก็ไปสองคน......"
บิ๊วตี้พูดและทั้งสองก็คุยสนุกสนานจนไปถึงหอต้นข้าวและส่งต้นข้าว หลังจากนั้นบิ้วตี้ก็ไปนั่งข้างคนขับและบอกเส้นทาง ซึ่งบิ้วตี้ให้ท๊อปขับอ้อมไปเพราะตัวเองอยากนั่งรถเล่น และก็ไปหยุดอยู่ที่หอใกล้ๆกับผับที่ทั้งสามออกมา
"ถึงแล้วหรือ"
ท๊อปถามขึ้นเพราะเดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงผับ
"ค่าาาหอหนูอยู่แค่นี้เองขอบคุณนะค่ะที่พานั่งรถเล่น"
บิ้วตี้ตอบด้วยเสียงอันทุ้มต่ำ จึงทำให้ท๊อปไม่กล้าที่จะพูดอะไรมากกว่านี้แล้ว ท๊อปก็กลับบ้านด้วยความเจ็บใจ
3สอดรู้สอดเห็น"ยัยต้นข้าวนี้มันเล่นตัวนักนะ อุตส่าห์หาผู้ชายให้ทั้งคน ใครนะที่พี่ท๊อปบอกนั่น ชื่ออะไรนะ"น้ำมนต์กล่าวขึ้นหลังได้ฟังพี่กายเล่าให้ฟังว่าเพื่อนสาวทำแสบมาก"บิัวตี้เป็นกระเทยที่อยู่ใกล้ๆกับผับที่เราเข้านั้นแหละ หลอกให้ไปส่งยัยต้นข้าว และขับอ้อมเมืองเพื่อมาส่งนางที่หอข้างผับ ตลกไหมล่ะเพื่อนเธอ"กายพูดขึ้น"บิ้วตี้นี้มันเพื่อนปลายฝันนิไปรู้จักกับต้นข้าวได้อย่างไรกัน หรือยัยปลายฝันมันไม่ได้กลับบ้านมันจริงๆแต่ไม่อยากไปกินเลี้ยงกับเราเลยไปอยู่กับบิ้วตี้แล้วให้บิ้วตี้มาป่วนพี่ท๊อปเพราะมันรู้เรื่องของเราจากต้นข้าว แล้วไม่พอใจ แน่ทำไมสองคนนี้ร้ายจัง"น้ำมนต์กล่าวออกไปเพราะตัวเองคิดแบบนั้น"ปลายฝันเราขอบคุณแกเรื่องเมื่อคืนด้วยนะที่บอกให้บิวตี้มาส่งเรานั่นนะ แล้วเรามีอะไรจะเล่าให้เธอฟัง"ต้นข้าวพูดคุยกับปลายฝันทางโทรศัพท์"จร้ามีอะไรหรือป่าว บิ้วตี้เองก็บอกว่าไม่ได้อะไรมากหรอกได้นั่งรถชมเมืองอีกด้วย"ปลายฝันถามขึ้น"เรื่องของเพื่อนๆเรานั้นแหละเราว่า เขาไม่ได้โอเครกับเราตั้งแต่แรกแล้วป่ะ อันนี้เราไม่ได้จะปั่นอะไรนะ เรื่องเมื่อคืน ทุกคนพาแฟนมาหมดและมีผู้ชายเพื่อนพี่กายอีกสองคน ซึ่งมอ
4แม่เลี้ยงนวลจันทร์เช้าวันถัดมาต้นข้าวก็มาถึงและขอพักที่บ้านปลายฝันเพราะทางมาจากบ้านตัวเองก็ไกลอยู่พอสมควร และเธอเองกะจะอยู่จนงานจบแล้วค่อยกลับ "ปลายฝันขอแสดงความเสียด้วยอีกรอบนะแก "ต้นข้าวกล่าวขึ้นอีกรอบเมื่อเจอหน้ากันเพื่อน"จร้ารู้แล้วล่ะ แค่แกมาก็ขอบคุณมากแล้ว"ปลายฝันกล่าวขึ้น"เราได้งานที่ตัวอำเภอพอดีพ่อหาไว้ให้นะ แกเสร็จจากงานย่าแก่แล้วก็ลองหาแถวๆนี้ดูนะถ้าไปได้เดียวให้พ่อหาให้ เราว่าอยู่ใกล้บ้านจะได้ประหยัดค่าที่พักและค่าเดินทางด้วย ตอนไปเรียนก็ไปอยู่กรุงเทพใช้เงินเป็นว่าเล่นเลย ต่อไปนี้ก็ต้องหาเงินแล้วล่ะ"ต้นข้าวพูด เรื่องของคนบ้านนอกก็แบบนี้ ไม่ค่อยมีทรัพย์มากมาย ลงทุนกับการเรียนจบแล้วก็ต้องรีบทำงาน"เราก็กะว่าจะหาแถวนี้หล่ะจะได้ดูแลพ่อกับแม่ด้วย ทีแรกรู้ว่าเราเรียนจบแล้วเราจะมาดูแลย่าที่โรงพยาบาลเพราะย่าก็นอนโรงพยาบาลมาได้สักปีแล้วล่ะ ก่อนที่ท่านจะเสียนะแต่ตอนนี้ก็เหลือแต่พ่อกับแม่แล้ว"ปลายฝันกล่าวขึ้น ทั้งสองช่วยกันจัดโน้นจัดนี่บ้าง บางครั้งก็เข้าครัวเพื่อจะทำอาหารบ้าง ช่วยหั่นผักล้างจานที่แขกมาช่วยงานกินเสร็จ จึงทำให้ไม่มีเวลาที่จะให้พวกญาติๆสอบถามเรื่องส่วนตัวของปลา
สงสัย"พ่อแม่เลี้ยงคนนั้นเขาเป็นใครหรือ ทำไมเขาสนใจในตัวหนูจังแล้วก็มาพูดกับหนูแปลกๆว่าเขารู้จักกับย่าและเขาก็สนิทกับย่าด้วย แล้วเขาก็พูดว่าเดี๋ยวเสร็จงานส่งย่าแล้วเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน หนูก็ไม่ได้สอบถามเขาหรอกว่าคุยเรื่องอะไร"ปลายฝันเดินมาถามพ่อ"แม่เลี้ยงคนนั้นก็ชื่อนวลจันทร์ไง เขาเป็นผู้ที่ออกค่ารักษาให้ย่าแกจนถึงวินาทีสุดท้าย พ่อก็เพิ่งจะรู้เมื่อไม่กี่วันนี้เองตอนพ่อได้เก็บจดหมายของย่าแกเมื่อครั้งที่มาจัดงานศพแล้ว ก็มีผู้คนช่วยเก็บของและจดหมายถึงเอามาให้พ่อเพราะข้างในมันเกี่ยวกับแม่เลี้ยงนวนจันทร์แล้วก็ย่าแก พ่อจึงโทรบอกเขาเพื่อมาล่ำลาย่าแกเป็นครั้งสุดท้าย เอาเป็นว่าเสร็จสิ้นงานแล้วเดี๋ยวเราก็มาเปิดจดหมายอ่านกันตอนนี้ไปช่วยทางโน้นเขาจัดการในครัวก่อนเถอะ อีกไม่เท่าไรพระสวดก็จะสวดแล้ว แล้วเรื่องซองพระสวดนะไปดูแม่ด้วยว่าจัดการแล้วหรือยัง เดี๋ยวพ่อจะไปดูที่จอดรถเห็นว่าเมื่อคืนมีที่จอดรถไม่พอ"พ่อรีบกล่าวขึ้นแล้วจากไป ปลายฝันก็เร่งรีบที่จะไปทำงานของตนเหมือนกันจึงไม่ได้สนใจอะไร คนที่พ่อเรียกว่าแม่เลี้ยงกับพ่อเลี้ยงนั้นกลับได้ตอนที่พระสวดเสร็จแล้ว และวันต่อมาก็มานั่งฟังพระสวดอีกแต่วั
"สวัสดีค่ะ"ปลายฝันกล่าวขึ้นและยกมือไหว้เมื่อมาถึงพ่อกับ แขกทั้งสอง"สวัสดีจร้า"เสียงผู้หญิงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเอ็นดู แต่ที่เป็นผู้ชายคนข้างๆกลับมองมาเฉยๆไม่ได้กล่าวอะไรออกมา"พึ่งจบมหาลัยสินะ ป้าว่าอยากชวนหนูไปทำงานอยู่ที่เชียงใหม่ สนใจหรือป่าวล่ะ"แม่เลี้ยงถามขึ้นอย่างเอาใจเด็ก พลางหันไปมองลูกชายที่ทำสีหน้าราวแบกโลกเอาไว้"หนูเพิ่งเรียนจบยังไม่มีประสบการณ์ทำงานนะค่ะ หนูว่าจะสมัครงานแถวนี้ดูก่อน เผื่อได้จะได้ดูแลพ่อแม่ด้วย"ปลายฝันปฏิเสธออกไป "ลองคิดดูก่อนก็ได้นะปลายฝัน ตาพงษ์คุยกับลูกสาวแล้วหรือ"แม่เลี้ยงกล่าวขึ้น"ยังเลยครับแม่เลี้ยง ยังไม่มีเวลาคุยกันเลย ผมว่าจะจัดการเรื่องคุณแม่เสร็จก่อนและจะเรียกญาติๆทุกคนมาและเปิดจดหมายคุณแม่ให้ทุกคนอ่านครับ ส่วนเรื่องปลายฝันผมก็ต้องคุยกับเขาก่อนอยู่แล้ว"พ่อของปลายฝันกล่าวขึ้น พลางมองหน้าลูกสาวยิ้มๆ"เรื่องอะไรหรือพ่อ"ปลายฝันถามขึ้น"มันมีเรื่องที่คุณย่ารับปากแม่เลี้ยงเอาไว้นะ ว่าจะให้ลูกแต่งงานกับลูกแม่เลี้ยง"ผู้เป็นพ่อกล่าวขึ้นแบบยิ้มๆเล็กน้อย"อะไรนะค่ะ"ปลายฝันพูดขึ้นอย่างตกใจ จนทำให้คนอื่นหันมามอง ที่แรกหลายๆคนก็สนใจผู้หญิงกับผู้ชา
เมื่อกลับไปถึงโรงแรมที่พักผู้เป็นลูกก็เรียกแม่เพื่อที่จะคุยเรื่องแต่งงานนี้"แม่ก็ดูท่าทีเด็กนั้นก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับผมเสียหน่อยแม่ลองเอาแบบนี้ดีไหมล่ะ ให้เขาติดหนี้เราไปก่อนถ้าเขายังไม่มีเงินจ่ายแล้วค่อยทยอยจ่ายภายหลังไม่ใช่ไปบังคับให้เขาแต่งงานแบบนั้นผมรู้สึกสงสารเขานะแม่"ตะวันพูดขึ้นเพราะตัวเองก็ไม่ต้องการที่จะถูกบังคับแต่งงานแต่อย่างใด แต่เรื่องเงินนั้นสำคัญเพราะว่าแม่บอกว่าถ้าเขาไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ แม่ก็จะไม่ให้เงินเขาใช้ ส่วนไร่ที่ตนเป็นคนทำนั้นเขาเองก็ไม่ได้รับเงินอยู่แล้ว แม่คอยจ่ายค่าคนงานในไร่ให้และจัดแจงค่าใช้จ่ายทุกอย่างรวมไปถึงรายเดือนที่ตะวันเองใช้จ่ายด้วย ซึ่งถ้าตนไม่มีเงินส่วนที่แม่ก็จะไม่มีเงินลงทุนผับที่ตัวเองแอบเปิด แต่ถ้าได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้แม่บอกว่าจะยอมให้เขาลองบริหารเงินของตัวเอง ตนจึงต้องตอบตกลงและตามแม่มาที่นี่"แกสงสารเขาหรือ ยิ่งแก่สงสารเขาแกก็ต้องรีบแต่งงานกับเขาเพื่อที่จะได้ยกฐานะของครอบครัวเขาให้สูงขึ้น เพราะถ้าเขาแต่งงานกับแกแล้วแม่ก็มีเงินให้กับครอบครัวเขาโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ถ้าให้ไปฟรีๆเขาก็จะคิดมาก ครอบครัวเราก็มีพร้อมแล้วแกเองก็จะ
เช้าวันต่อมาเป็นวันที่ทุกคนตื่นเช้าเพราะต้องไปเตรียมของที่วัดปลายฝันกับต้นข้าวรีบเดินทางไปวัดตั้งแต่ยังไม่ 6 โมงเพราะแม่บอกว่าให้ปลายฝันไปดูเรื่องอาหาร เตรียมของในครัวสำหรับพระทั้งหมด 9 ชุด และของแขกแขกที่มาอีก วันนี้น่าจะมีผู้มาเยอะอยู่ ส่วนต้นข้าวแม่ก็ให้ไปช่วยตรวจนับของที่ระลึก เพราะหลานของย่าลูกของป้ากับอานั้นเป็นผู้ชายจึงไม่ได้เข้ามาช่วยกันทำส่วนนี้ เพราะต้องไปเตรียมโกนผมแต่เช้าเพื่อที่จะบวชจูงย่า หน้าที่นี้เลยเป็นของลูกหลานที่เป็นฝ่ายหญิงซึ่งมีปลายฝันคนเดียวดีหน่อยที่ปลายฝันพาเพื่อนมา แม่จึงถือว่าต้นข้าวเป็นลูกอีกคน พ่อของปลายฝันไม่มีลูกชายตัวเองจึงต้องบวชเพื่อจูงแม่ พ่อของปลายฝันก็ไม่ได้เขามาช่วยส่วนนี้อีกแล้ว เรื่องรถก็ให้อาพจน์ทำต่อ ในเช้าวันนี้เสียงเปิดเครื่องเสียงแต่เช้าเป็นการเตือนให้หลายบ้านที่อยู่ใกล้เคียงรู้ว่าจะมีงานฌาปนกิจในวันนี้ ผู้ที่สนิทสนมกับผู้วายชนม์ก็จะมาช่วยกันจัดเตรียมของแต่เช้าส่วนผู้ที่ไม่ค่อยสนิทมากนักก็จะมารับประทานอาหารในเวลาสายๆ ย่าของปลายฝันน่าจะมีคนที่สนิทพอสมควรเพราะตอนที่จัดเตรียมอาหารในครัวก็มีคนมาช่วยอยู่มากโข และจุดนับของชำร่วยเองก็มีคนอยู่เยอะเ
เมื่องานฌาปนกิจของคุณย่าเสร็จสิ้นแล้ว พ่อของปลายฝันก็หยิบจดหมายของคุณย่าที่ฝากถึงพ่อไว้มาให้ปลายฝันและคุณแม่อ่าน เนื้อความในจดหมายเขียนไว้ว่า"แม่เป็นหนี้แม่เลี้ยงเป็นจำนวนเงินทั้งหมดเกือบจะสามล้านแล้ว แม่เลี้ยงใจดีที่ยื่นมือเข้ามาช่วยในการรักษาของแม่ให้แม่ดีขึ้น ณ วันนี้ แม่เลี้ยงเขาไม่ได้คิดว่ามันเป็นเงินที่แม่ไปติดหนี้เขา เพราะแม่เคยช่วยชีวิตพ่อของเขาไว้ แต่ที่แม่ช่วยชีวิตพ่อของเขานั้นแม่ไม่ได้เสียเงินสักบาท แถมตอนที่จากมาแม่ของแม่เลี้ยงเองก็ให้เงินแม่มาก้อนนึงแล้ว แต่แม่เลี้ยงนวลจันทร์ผู้นี้ก็ยินดีที่เข้ามาช่วยแม่ จึงถือว่าเขามีบุญคุณต่อแม่ถ้าพวกแกทั้งสาม หาเงินคืนเขาได้แม่ก็จะไม่ว่า แต่ถ้าถึงเวลาที่ไม่มีแม่จริงๆแล้วพวกแกยังหาเงินคืนแม่เลี้ยงไม่ได้แม่อยากจะขอร้องแกสักหน่อยนะพงษ์ ยกลูกสาวแกให้แต่งงานกับลูกของแม่เลี้ยงได้ไหม แม่เลี้ยงเขาเอ็นดูและชอบลูกสาวแกมาก ครั้งที่แม่เขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมาเขาก็ยังเล่าสารพัดสารเพเขาชอบปลายฝัน ถ้ามันไม่เหนือบ่ากว่าแรงจริงๆแม่อยากจะขอร้องแกนะพงษ์"จดหมายของคุณย่ามีแค่นี้ซึ่งก็เป็นตามที่ต้นข้าวเคยเกริ่นเอาไว้ว่าน่าจะเป็นเรื่องเงินซึ่งบ้านเราไม่มีเ
"ตะวันค่ะพอดีว่าอีกสองวันของขวัญจะกลับไทย ตะวันมารับขวัญที่สนามบินด้วยนะค่ะ "เสียงใสปลายสายเอ่ยขึ้น ทำให้หัวใจของตะวันพองโต ของขวัญผู้หญิงที่หน้าตาสวยอ่อนหวาน เขาปฏิเสธไม่ได้ว่าเขารักตะวันมาก แต่ด้วยที่บ้านของเขาฐะนะร่ำรวยและต้องขยายกิจการอยู่บ่อยๆ จึงต้องอาศัยกำลังทรัพย์มหาศาลเช่นกัน แม้ที่บ้านของตะวันจะเป็นเจ้าของไร่ที่ร่ำรวยกว่าเธอมาก แต่เรื่องการเงินของตะวันนั้นทุกอย่างต้องให้ผู้เป็นแม่จัดการ ตะวันจะซื้อคอนโดที่กรุงเทพฯยังต้องถามผู้เป็นแม่ ซึ่งทางบ้านของเธอเองไม่โอเครเพราะครอบครัวของตะวันไม่ชอบในตัวของเธอด้วย และเรื่องที่ตะวันต้องให้แม่จัดการให้ทุกอย่าง ตะวันเหมือนผู้ชายที่ยังไม่โตทั้งที่อายุก็สามสิบกว่าแล้ว คอนโดที่กรุงเทพฯของตะวันเองของขวัญไม่สามารถเข้าไปได้ ถ้าแม่เลี้ยงไม่ให้เข้า ของขวัญจะได้อยู่เฉพาะตะวันอยู่กรุงเทพฯเท่านั้น ทั้งที่คอนโดนั้นของขวัญต้องการที่จะให้ตะวันซื้อให้ของขวัญ แต่สรุปแม่เลี้ยงเข้ามาวุ่นวายจนทำให้ของขวัญเสียคอนโดนั้นไป การที่ของขวัญเองต้องแต่งานกับธาวินนั้นมันเป็นความผิดของตะวัน เพราะตะวันอ่อนแอเกินไป ของขวัญไม่เคยที่จะสำนึกผิดเลยสักนิดที่เรื่องเป็นแบบนี้
เรื่องของมานพและต้นข้าว ตะวันแค่แจ้งให้มานพรู้ว่า ต้นข้าวท้องลูกของมานพอยู่และใกล้คลอดออกมาแล้ว และตอนนี้ต้นข้าวอยู่ตอนโดวรโชติ ส่วนเรื่องอื่นๆให้มานพคิดและจัดการกับชีวิตเอาเอง"เพื่อนของคุณและเพื่อนของผมก็มีลูกกันแล้วเนาะ เราแต่งงานก่อนเขาเสียอีกยังไม่มีลูกเลย "ตะวันพูดขึ้น"ปลายว่าเราต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ วันนี้พ่อเลี้ยงจะกินอะไรค่ะปลายจะได้ทำให้"ปลายฝันพูดขึ้น"พ่อเลี้ยงอยากกินหนูปลายได้หรือป่าวครับ"พ่อเลี้ยงกระซิบขึ้นทำสีหน้าละลื่น ทำใหคนฟังหน้าแดง พลางใช้มือใหญ่ๆโอบเอวบางจับให้คนตัวเล็กกว่านั่งบนตักตัวเอง"มันยังไม่มืดเลยนะคะ เดียวปลายไปทำกับข้าวนะอุ๊ยๆๆๆ"ปลายฝันพูดขึ้นแต่พ่อเลี้ยงไม่ลดละความพยายามทำให้ปลายฝันร้องออกมา"บางครั้งเราต้องเปลี่ยนช่วงบาง ทำช่วงเดิมซ้ำๆจะมีลูกได้อย่างไร เปลี่ยนช่วงเปลี่ยนบรรยากาศเสียบ้าง"ตะวันเอ่ยเย้า พลางจับคางให้เธอหันหน้ามาหาเขาและบดจูบอย่างเต็มที ปลายฝันก็ไม่ได้ฟืนอะไรเขาตอบสนองพ่อเลี้ยงอย่างไว สักพักก็หันหน้าออก"แต่ไม่นานก็ต้องมีคนมาตามปลายไปทำกับข้าว ปลายไปทำกับข้าวก่อนนะคะ"ปลายฝันพูดขึ้นอย่างหอบๆ พลางพลักอกใหญ่ๆของพ่อเลี้ยงออก"ไม่มี
"ที่แท้พ่อเลี้ยงตะวันกับคนพิภพก็เป็นพี่น้องกันหรือคะ เห็นเป็นข่าวใหญ่โตก็ไม่เห็นออกมายอมรับหลายๆคนนึกสงสัยและนำรูปมาเปรียบเทียบกันที่แท้พวกคุณก็หลอกสังคมอยู่นี่เอง ว่าพวกคุณไม่ใช่พี่น้องกันทั้งที่พวกคุณเป็นพี่น้องกัน"ของขวัญพูดขึ้นอย่างคนที่เหนือกว่าเขาเอาคำนี้ไปบอกนักข่าวรับรองว่าเป็นข่าวดังแน่ๆ"ผมไม่เคยบอกใครว่าผมกับตะวันไม่ใช่พี่น้องกัน และก็ไม่เคยยอมรับที่ไหนว่าเราเป็นพี่น้องกัน คุณว่าจริงหรือเปล่าครับ แล้วถ้าคุณจะเอาจุดนี้มาเป็นข้อได้เปรียบของพวกผมคุณคิดน้อยเกินไปแล้วล่ะครับคุณของขวัญ ตอนนี้ธุรกิจของผมก็ไปในทิศทางที่ดี ตะวันเองก็ไปในทิศทางที่ดีตอนนี้ถ้าทุกคนรู้ว่าเราเป็นพี่น้องกันชื่อเสียงของเราก็จะผลักดันกันครับ แต่เมื่อก่อนมันไม่ใช่เพราะถ้าทุกคนรู้ว่าพวกเราเป็นพี่น้องกันรั้งแต่จะฉุดให้อีกคนลงต่ำมา เพราะตะวันทำตัวเองไม่ได้เรื่อง มีแม่เลี้ยงที่พลอยอุ้มชูอยู่เท่านั้น คุณคงเข้าใจนะครับว่าทำไมผมไม่ออกมายอมรับว่าเขาคือน้องแต่ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธนะครับ"พิภพพูดขึ้นให้ของขวัญกระจ่าง แม่เลี้ยงเป็นคนวางแผนเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นให้เขาทั้งสองคนแยกกันอยู่เพราะเรื่องที่ว่าผู้หนึ่งได้ดี แล้วต้
ผับของตะวันเองไปได้สวยแล้ว ทางด้านแม่เลี้ยงก็เห็นเป็นอย่างดีจึงยอมที่จะให้ลูกชายจัดการไร่เองทั้งหมดรวมกับรายได้ของไร่ตะวันด้วย เขาจึงเรียกลูกชายทั้งสองกับลูกสะใภ้มาพร้อมๆกันที่ไร่ตะวัน"คุณพลอยไพลินฝากคุณหนูทั้งสองไว้กับป้าก็ได้นะ"ป้าสายพูดขึ้นเมื่อทั้งสี่เข้ามาถึงบ้านไร่ วันจึงเดินออกมาอุ้มน้องพริมและป้าสายก็จูงมือน้องพร้อมไป ทั้งสองจึงเข้าไปนั่งรอแม่เลี้ยงที่ห้องทำงานตะวัน ซึ่งตะวันก็นั่งรอพวกเขาอยู่แล้ว เมื่อคนทั้งสองมาปลายฝันจึงยกของว่างไปให้ทั้งสอง พลอยจึงยกน้ำส้มเข้าไปให้"สวัสดีคะพี่พิภพพี่พลอย ลองชิมขนมดูหน่อยค่ะปลายทำเองเลยนะ คุ๊กกี้สามรสค่ะ "ปลายฝันพูดและยื่นขนมให้กับพลอยไพลินลองชิม พลอยไพลินถือจานมาและหยิบไปหนึ่งชิ้นและวางจานลง ไม่นานแม่เลี้ยงก็เดินเข้ามานั่งอยู่หัวโต๊ะ ตะวันกับพิภพก็นั่งข้างๆและถัดมาปลายฝันกับพลอยไพลินก็นั่งตรงข้ามกัน"วันนี้ที่แม่เรียกทั้งสองมาก็เพราะว่าแม่เห็นว่าเกือบหนึ่ง ปีที่ผ่านมานี้ไร่ของตะวันดำเนินไปด้วยความสะดวกแล้ว แม่ต้องขอบคุณที่ปลายฝันเข้ามาช่วยตะวันดูแลไร่ ค่าใช้จ่ายในไร่ของตะวันลดน้อยลงแต่ก็ไม่ทำให้คนงานเดือดร้อน รวมทั้งค่าน้ำค่าไฟค่ากินค่
หลังจากที่ตะวันไปที่ผับแล้วก็เอาโทรศัพท์มาดูที่ปลายฝันตั้งหน้าโปรไฟล์ facebook ขึ้นว่าผับตะวันแล้วเขาก็นำรูปที่ตะวันถ่ายไว้ในโทรศัพท์ออกมาเป็นรูปโปรไฟล์ ตะวันจึงโทรไปหามานพเพื่อนที่อยู่นครพนมบอกให้เพิ่มเพื่อนกับเขาทางเฟสบุ๊ค"โถแต่ก่อนมึงไม่อยากจะมีเฟสทำไมตอนนี้ถึงมีเฟสได้ว่ะ"มานพถามขึ้น"แล้วมันไม่ดีหรอวะถ้ากูมีเฟสนะ"ตะวันพูดขึ้น"ก็ดีน่ะสิเพราะมึงทำงานเกี่ยวกับผับถ้ามึงเข้าถึงคนจำนวนมากได้ก็จะเป็นผลดีต่อมึงแล้ว อีกอย่างมันมีประโยชน์กับการที่มึงจะไปหาแหล่งซื้อเหล้าซื้อเบียร์พวกนี้ด้วยจะได้ของที่ถูกและดีขึ้น"มานพพูดแล้วเพิ่มเพื่อนตะวันไป หลังจากที่ตะวันเพิ่มเพื่อนไปหลายๆคน เขาก็นึกสงสัยเกี่ยวกับการแต่งงานของของขวัญจึงเข้าไปดูในเฟสของของขวัญ ก็พบว่าไม่ได้มีการแต่งงานหรืออะไรทั้งนั้น ตะวันจึงเข้าไปดูเฟสของธาวินเขาก็พบกับรูปแต่งงานตรงหน้าโปรไฟล์จึงกดเข้าไปดูก็พบว่าเป็นธาวินกับของขวัญจริงๆด้วย เขาช่างโง่เง้าเสียเหลือเกิน วันนั้นมันน่าจะเป็นข่าวใหญ่พอสมควร แต่เพราะเขามัวแต่อยู่ในไร่ไม่สนใจโทรทัศน์ข่าวคราวใดๆและไม่เล่นโซเชียลจึงทำให้เขาเหมือนคนโง่ มีคนงานในไร่พยายามที่จะพูดแต่พอแม่เลี้ย
หลังจากที่พ่อเลี้ยงกลับมาตอนบ่าย ๆ ก็กินข้าวเสร็จก็ถามหาปลายฝัน ตัววันดี เองก็ทำหน้าลำบากใจ เขาต้องเล่าให้พ่อเลี้ยงฟังหรือไม่ว่าคุณของขวัญมาที่ไร่ ทางคุณของขวัญก็ไม่ได้บอกว่าให้บอกพ่อเลี้ยงสักหน่อยแล้วพ่อเลี้ยงยัง ถามหาปลายฝันอีกไม่ใช่จะเอาเรื่องเขาหรือ วันดีคิดมากเหมือนคนทำผิดใหญ่หลวง"คุณปลายฝันไปทำงานตั้งแต่กลับมาแล้ว หลังจากทำกับข้าวให้พ่อเลี้ยงเสร็จก็ไปทำงานเลย พ่อเลี้ยงจะให้ป้าโทรตามคุณปลายฝันกลับมาหรือเปล่า วันนี้คุณของขวัญเข้ามาหาพ่อเลี้ยงด้วยแต่ก็มานั่งสักพักเขาไม่ได้รอและก็ออกไป"ป้าสายยืนรายงานพ่อเลี้ยงอยู่ พ่อเลี้ยงจึงเหลือบตาไปมองวันดีแป๊บนึง ทำให้วันดีก้มหน้าหลบทันที"โทรให้คุณปลายมาพบผมที่ห้องทำงานแล้วกันครับป้า วันดียกน้ำส้มไปให้ผมกับคุณปลายในห้องทำงานผมด้วย"หลังจากสั่งงานเสร็จพ่อเลี้ยงก็ขึ้นห้องไป ป้าสายจึงรีบโทรตามคุณปลายฝัน และเตรียมน้ำส้มให้ทั้งสองถ้าทั้งสองเข้าห้องทำงานแล้วจะได้ให้วันดียกไป"เป็นอะไรวันดีแกกำลังทำตัวมีพิรุธอยู่ ถ้าคุณปลายกับพ่อเลี้ยงเข้าไปในห้องทำงานแล้วยกน้ำส้มไปให้อย่าทำตัวมีพิรุธ อย่าทำให้น้ำส้มหกเลอะเทอะล่ะเดี๋ยวจะโดนโกรธ"ป้าสายพูดขึ้นและสั
ทางด้านตะวันเมามายได้ไม่นาน คนที่ผับติดต่อไม่ได้ก็ต้องโทรเข้าเบอร์บ้าน เพราะตอนนี้ของเริ่มหมดสต็อกอีกแล้ว พวกเขาต้องให้พ่อเลี้ยงตะวันอนุมัติเท่านั้นจึงต้องเร่ง"พ่อเลี้ยง คนทีผับโทรมาว่าติดต่อพ่อเลี้ยงไม่ได้ เขาว่ามันสำคัญมากป้าเลยเดินมาบอก"ป้าสายขึ้นมาบอกพ่อเลี้ยง"มีรถไปรับคุณปลายฝันกับวันดีแล้วหรือ เดียวผมจะออกไปผับเลยแล้วกันให้พลอยขึ้นมาเก็บห้องให้ด้วยนะครับเอาของพวกนั้นไปทิ้งให้หมดเลย"ตะวันพูดขึ้นพลางชีไปที่มุมห้อง"คนขับรถไปรับคุณปลายตั้งแต่เช้าแล้ว คุณตะวันจะกินอะไรก่อนไหมเดียวป้าไปทำให้"ป้าสายถามขึ้น"ไม่ต้องครับเดี๋ยวคุณปลายกลับมา แล้วให้เขาทำไว้รอผมแล้วกัน ผมอาบน้ำแล้วจะรีบไปพักเลย"ตะวันพูดขึ้นแล้วรีบไปอาบน้ำ ป้าสายจึงให้พลอยขึ้นมาทำความสะอาด แล้วให้คนงานขึ้นมายกของที่พ่อเลี้ยงต้องการทิ้ง ตะวันออกมาจากห้องน้ำเห็นพวกคนกำลังขนของลงไปเขาก็ไม่ได้ใส่ใจ และออกไปจากบ้านขับรถออกไปทันที"แม่เลี้ยงพ่อเลี้ยงออกไปแล้วค่ะ แล้วก็ให้คนงานขนของในห้องพ่อเลี้ยงออกไปทิ้งเป็นจำนวนหนึ่งน่าจะเป็นของของคุณของขวัญ"ป้าสายโทรไปรายงานแม่เลี้ยง"ดีแล้วล่ะเตรียมตัวรับมือกับของขวัญให้ดีแล้วกันเหมือ
หลังจากที่ทั้งสามจากไปตะวันก็นั่งอยู่ที่เดิม ทุกคนรู้เรื่องเกี่ยวกับของขวัญเพราะเล่นโซเชียลแต่เขาเองไม่รู้ และคิดว่าแม่ใส่ร้ายอีก ตะวันปกติอยู่แต่ในไรและเป็นหัวหน้าของทุกคน พอรู้เรื่องที่ว่าทุกคนรู้หมดยกเว้นตัวเขา เอาเข้าจริงๆมีคนพูดกับเขาหลายคนแต่เขาฟังขวัญเพียงคนเดียวจึงทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ ใช้ความแค้นครั้งนี้ขวัญต้องได้รับบทเรียน"อยากพักโรงแรมของพี่ที่ไหนจองได้เลย ถ้าแกพักที่คอนโดวรโชติห้อง1113ได้ ของที่แกซื้อให้ปลายฝันเขายกให้เพื่อนอยู่แล้ว"พิภพทิ้งข้อความไว้ให้น้องชายอ่าน แต่ตะวันไม่อยู่แล้ว กรุงเทพไม่เหมาะกับเขาเลยสักนิด"ผมจะกลับแล้วครับ พี่ช่วยจัดการทุกอย่างให้ผมด้วยผมจะกลับเชียงใหม่เลย"ตะวันพิมพ์ข้อความกลับไป เขาไม่ต้องการคุยกับใครทั้งนั้น รถที่มารับเขากลับไปส่งที่สนามบิน และมีผู้ติดตามเขากลับหนึ่งคนเป็นคนของคุณพิภพ เพราะกลัวน้องชายจะเกิดเรื่องจึงให้คนติดตามกลับไปด้วย พิภพแจ้งกับคนรถทางให้ให้มารอรับเมื่อตะวันใกล้ถึง ตะวันเพียงแค่นั่งเครื่องบินแล้วก็นั่งรถได้ต่อเลย พอมาถึงไร่ป้าสายก็วิ่งไปลากกระเป๋าแล้วลากขึ้นห้องโดยไม่พูดอะไรทั้งนั้น เพราะแม่เลี้ยงได้โทรมากำชับแล้ว พ่อ
ราวๆ 10:00 น. ก็มีรถตู้มาจอดหน้าบ้านป้าสายก็นึกว่าใครจึงวิ่งมาดูก็เห็นคนขับรถเดินออกมาแล้วขึ้นห้องของพ่อเลี้ยงไปพร้อมกับลากกระเป๋า 1 ใบลงมาจากห้องพ่อเลี้ยงและพ่อเลี้ยงก็เดินตามลงมา"ป้าผมจะไปทำธุระ 2-3 วันนะฝากบ้านด้วยนะครับ"ตะวันพูดเสร็จก็ขึ้นรถตู้ไปทันที ป้าสายได้แต่ยืนงง พ่อเลี้ยงเองเมื่อเห็นปลายฝันแล้ว ก็รู้สึกว่าขนาดเขาอยู่กับปลายฝันมาตั้งนาน พอเห็นแต่งตัวแบบนี้ยังเกิดอารมณ์ได้เลย แล้วถ้ามีคนไม่หวังดีกับปลายฝันเข้าจะทำอย่างไร และที่ปลายฝันบอกว่าจะไปเจอเพื่อนที่กรุงเทพฯอาจจะเป็นกลุ่มเดียวที่ใส่ยาพันธ์นั้นกับปลายฝัน เพราะว่าคนอย่างปลายฝันก็คงไม่รู้หรอกว่า ตัวเองถูกยาพันธ์นั้นในคืนนั้นก็คงจะคิดว่าตัวเองเมา จึงรีบที่จะตามปลายฝันไปแต่ตัวเขาไม่ต้องการให้ปลายฝันรู้ ส่วนเรื่องตั๋วเครื่องบินเขาก็โทรไปเช็คแล้วปลายฝันกับหนูดีขึ้นลำนี้แต่เขาต้องพยายามที่จะไม่ให้ทั้งสองรู้ว่าเขาตามไป หลังจากลงจากเครื่องบินแล้วปลายฝันก็รอต้นข้าว เพราะต้นข้าวบอกว่าจะมาถึงพร้อมๆกับเธอ"ปลายฝันคิดถึงจังเลยเมื่อตะกี้เห็นพ่อเลี้ยงด้วยไปไหนแล้วล่ะ"ต้นข้าวพูดขึ้นเมื่อมาถึงเพื่อนแล้ว"ตาฝาดแล้วล่ะเราไม่ได้มากับพ
"ต้นข้าวถ้าว่างโทรมานะ"ปลายฝันทิ้งข้อความไว้ให้ต้นข้าว พอรู้ว่าเรื่องนี้ไม่อยากจะพิมพ์ผ่านข้อความเพราะข้อมูลพวกนี้จะมีคนอื่นรู้เห็นต้องโทรคุยกันเท่านั้น"ปลายฝันว่าอย่างไรหรือ"ต้นข้าวถามขึ้นขณะโทรมาหาปลายฝัน"เราได้คอนโดแล้วนะชื่อว่าวรโชติอยู่แถวๆสยามถ้าแกหางานก็น่าจะหาแถวๆนั้นเผื่อจะได้สะดวกต่อการเดินทางสิ้นเดือนนี้ย้ายของเข้ามาได้เลย จะให้เราไปรับแกที่นครพนมหรือว่าแกจะมาหาเราที่เชียงใหม่หรือว่าเราจะนัดเจอกันที่กรุงเทพฯเลย"ปลายฝันรีบพูดเรื่องของตัวเอง เพราะกลัวว่าเพื่อนจะลำบากใจในการพูด"งั้นเรานัดเจอกันที่กรุงเทพฯก็แล้วกันนะ แกว่างวันเสาร์อาทิตย์ใช่ไหมงั้นวันอาทิตย์ที่ 31 เจอกันนะ"ต้นข้าวพูดขึ้น ใจชื้นขึ้นมาบ้างอย่างน้อยก็ยังมีที่อยู่และตอนนี้เขาต้องทำการยื่นสมัครงานไปแถวๆคอนโดที่พักถึงแม้จะสงสัยอยู่ไม่น้อย ว่าทำไมปลายฝันถึงหาคอนโดได้ แต่ในระดับพ่อเลี้ยงแล้วก็คงจะหาได้ไม่ยากแต่ไม่ใช่ว่าปลายฝันจะคุยกับพ่อเลี้ยงแล้วหรือเรื่องของเธอ และเธอเองก็ไม่ได้ถามอะไรมากเพราะไม่สะดวกคุยกันผ่านโทรศัพท์จึงคิดว่าเดี๋ยวไปคุยกันที่นู่นจะดีกว่า"เห็นว่าคุณปลายฝันจะให้คนเข้าพักนะครับ ทางคอนโดก็ไม่ไ