2แผน
"ห๊ะ อะไรนะปลายฝันไม่ได้มาด้วยหรอกหรือ หมดสนุกเลยที่นี้อุตส่าห์ชวนเพื่อนพี่กายมาให้ด้วยแล้วนะ นี้พี่กายแฟนเราเอง"
น้ำมนต์กล่าวขึ้น
"ว้าวๆ ไปคบกันตอนไหนเนี้ย เห็นพี่กายจีบปลายฝันตั้งนานสองนานเสร็จยัยน้ำมนต์เสียแล้ว"
มลฤดีกล่าวขึ้น
"ปลายฝันแชทมาบอกเรานะว่ากำลังจะกลับนครพนมเลย บอกว่าย่าเสียเราในฐานะเพื่อนต้องไปงานศพย่าของปลายฝันหรือป่าว"
ต้นข้าวเอ๋ยขึ้น
"ก็มันไม่ได้บอกพวกเรามันบอกแกคนเดียวไม่ใช่หรือก็แสดงว่ามันไม่ต้องการให้พวกเราไปหรอกถ้ามันอยากให้พวกเราไปมันต้องบอกแล้วแหละ"
น้ำมนต์กล่าวขึ้น ต้นข้าวไม่คิดว่าเพื่อคนที่อยู่แก็งเดียวกันจะเป็นอย่างนี้ ต่อหน้าปลายฝันทุกคนดีกับปลายฝันกันทุกคน
"งั้นเดียวเราไปคนเดียวก็ได้"
ต้นข้าวกล่าวขึ้น แต่ก็ไม่มีใครสนใจสักเท่าไหร่ ต่างคนต่างสนุกกับปาร์ตี้กัน สักพักก็เมามาย ต้นข้าวได้สติอยู่คนเดียวเพราะเขาไม่ดื่มมากเพราะตอนเช้าเขาต้องรีบออกเดินทาง นั่งไปในใจก็คิดมาเพื่อนในกลุ่มตอนเรียนก็เหมือนรักกันดี แต่พอถึงวันจบทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ งานศพย่าเพื่อนก็ไมไปแถมยังไม่มีน้ำใจจะใส่ซองหรือคำปลอบใจอีก
"เราเสียใจด้วยนะปลายฝัน พรุ่งนี้เราก็จะกลับบ้านแล้ว เดียวรืนนี้้ไปหานะ"
ต้นข้าวพิมข้อความแชททิ้งไว้ให้เพื่อน ยิ่งดึงคนเริ่มมั่วกัน ต้นข้าวเลยขอกลับก่อนเพราะพรุ่งนี้จะออกเดินทาง
"เดียวให้พี่ไปส่งต้นข้าวเองนะพี่จะกลับอยู่พอดี"
เสียงพี่ท็อปเพื่อนพี่กายเอ่ยขึ้น พลางหันไปมองหน้าทุกคน
"เอาดิว่ะดึกแล้วปล่อยให้น้องกลับคนเดียวอันตราย ให้เพื่อนพี่ไปส่งเถอะ"
กายรีบบอกต้นข้าวพลางมองหน้าเพื่อนชายอย่างรู้ทัน
"ไม่เป็นไรค่ะ พี่สนุกกับเพื่อนต่อเถอะค่ะ หนูกลับเองได้สบายอยู่แล้ว"
ต้นข้าวเอ่ยขึ้นแล้วก็ออกไปทันที พี่ท็อปเพื่อนพี่กายก็รีบเดินตาม ต้นข้าวรู้ว่ามีคนเดินตามจึงเข้าห้องน้ำไป ในใจก็รู้สึกกลัวพี่คนนี้ขึ้นมา
"ขอบคุณมากนะแก ตอนนี้กินเลี้ยงกันสนุกหรือป่าว คนอื่นโกรธหรือป่าวที่เราไม่ได้ไปนะ"
ปลายฝันพิมพ์ข้อความกลับ เมื่อเพิ่งทำอะไรเสร็จกำลังจะนอนก็เห็นเพื่อนทักมา แต่มีเพียงต้นข้าวคนเดียว
"ไม่มีใครว่าหรอกเพราะแกมัความจำเป็นนิ ขอโทรคุยได้ป่าวมีเรื่องนิดหน่อย"
ต้นข้าวตอบแชทเพื่อนและตัดสินใจจะปรึกษาปลายฝัน
"ว่าไงต้นข้าว"
ปลายฝันเห็นข้อความเพื่อนจึงรีบโทรกลับ
"พอดีว่ามีคนแอบตามเรามาตอนเราจะกลับบ้านนะ เขาเป็นเพื่อนของพี่กาย คนที่เคยจีบแกนะตอนนี้พี่กายเขาคบกับน้ำมนต์แล้วนะ แกคงไม่ว่าอะไรหรอกนะ"
ต้นข้าวเอ่ยขึ้น
"จะไปว่าอะไรได้ล่ะ แล้วทำไมเขาถึงตามแกไปล่ะ เขามีธุระจะคุยด้วยหรือป่าว"
ปลายฝันถามขึ้น
"ไม่รู้สิแต่มันพิลึกอยู่เราก็เลยกลัวๆ แกคิดดูนะไม่มาคุยกับเราแต่พอบอกว่าจะกลับบ้านดันจะมาส่ง พอปฏิเสธก็เดินตาม มันแปลกไหมล่ะ คือว่าเราไม่ไว้ใจอ่ะน่ากลัว"
ต้นข้าวพูด
"อืมงั้นรอแปบนะอย่าพึ่งออกไป เดียวเราให้บิ้วตี้ไปรับนะ แกสะดวกหรือป่าวล่ะ"
ปลายฝันถามขึ้น
"อืม สดวกมากเลยขอบใจมากแก"
ต้นข้าวพูดขึ้น
"ยัยต้นข้าวเป็นไรมากหรือป่าวทำไมเข้าห้องน้ำนานจัง"
เสียงน้ำมนต์เรียกและเดินเข้ามาหาในน้องน้ำ เพราะ ท็อปเห็นว่าต้นข้าวเข้าห้องน้ำนานผิดปกติ กลัวว่าน้องจะกลับก่อนจะเสียแผนเอา คนพวกนี้ไม่มีไรมากเห็นผู้หญิงก็จะคิดอย่างเดียวเท่านั้น
"ไม่เป็นไรหรอกพอดีมึนๆเลยมาล้างหน้าในห้องน้ำอ่ะ แล้วแกตามมาทำไหมหรือจะกลับพร้อมกัน"
ต้นข้าวถามขึ้น แต่ความจริงก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นพี่ท๊อปไปตามมาแน่
"มันดึกแล้วให้พี่ท๊อปไปส่งเถอะ ไปคนเดียวมันอันตราย พี่ท๊อปเชื่อใจได้น่า กลับกับพี่เขาเถอะ"
น้ำมนต์พยายามเกลี่ยกล่อมต้นข้าว
"ก็ได้"
ต้นข้าวเอ่ยขึ้น เพราะปลายฝันส่งข้อความมาบอกว่าบิ้วตี้มาแล้วรออยู่ด้านนอก
"งั้นกลับกันดีๆนะเราไม่ไปส่งนะ เดียวไปต่ออีกแป๊บก็น่าจะกลับแล้วล่ะ โชคดีนะพี่ท๊อป"
น้ำมนต์กล่าวแล้วเดินจากไป ต้นข้าวก็หันไปยิ้มให้พี่ท๊อปและเดินนำหน้า ทำให้ท๊อปเองก็ยิ้มอยู่ในใจ ผู้หญิงคนนี้ไม่เมาเลยสักนิด ครั้นจะทำอะไรออกหน้าออกตาก็ไม่ได้ เขาเดินตามหลังพลางคิดแผนไปด้วยว่าจะเคลมน้องคนนี้ได้ยังไง ครั้นจะปล่อยไปก่อนก็คิดว่าคงไม่มีโอกาสแล้วหละ เพราะเห็นว่าจะกลับต่างจังหวัดแล้ว
"น้องต้นข้าวจะกลับต่างจังหวัดพรุ่งนี้หรือให้พี่ไปส่งหรือป่าว"
ท๊อปถามขึ้นเพื่อทำลาย บรรยากาศที่เงียบสงบ
"เดียวหนูขอถามบิ้วตี้ก่อนนะค่ะ พอดีว่าบิ้วตี้จะไปงานศพย่าของปลายฝันพอดี เลยว่าจะไปด้วยกันถ้าพี่ไปส่งคงดีไม่น้อย"
ต้นข้าวพูดยิ้มๆ ทำให้ท๊อปเองได้ใจคิดว่าหญิงสาวจะเล่นด้วย
"บิ้วตี้วันนี้มีคนไปส่งเราแล้วล่ะ ป่ะกลับบ้านกัน"
ต้นข้าวร้องเรียกคนผู้หนึ่งที่ยืนรออยู่ ทำให้ท็อปหันไปมองด้วยความตกใจ ก็พบว่าเป็นผู้ชายที่ร่างใหญ่แต่งตัวเป็นผู้หญิงแต่งหน้าจัดเต็ม
"ดีเลยมีคนไปส่งด้วยงั้นไปส่งต้นข้าวก่อนแล้วก็ไปส่งเรานะ"
บิ้วตี้กล่าวขึ้นและจูงมือของต้นข้าวออกมา ท๊อปเห็นแล้วก็ต้องจำใจไปส่งทั้งสอง พอท๊อปเอารถมาจอดทั้งสองก็ไปนั่งหลังรถปล่อยให้ท๊อปขับไปคนเดียว
"บิ้วตี้พรุ่งนี้พี่ท๊อปเขาอาสาจะไปส่งเรา ที่บ้านปลายฝันด้วย เราจะได้ไม่ต้องเสียเงินค่ารถกลับแล้วล่ะ แล้วตอนกลับเธอก็กลับกับพี่ท๊อปเลยก็ได้นะืถือเสียว่าพี่ท๊อปไปร่วมงานด้วย ไปกี่โมงดีค่ะพี่ท๊อป"
ต้นข้าวพูดขึ้น
"ขอโทษทีนะพอดีพรุ่งนี้พี่มีธุระคงไปไม่ได้แล้วละ พอดีพ่อพี่พึ่งโทรมาบอก"
ท๊อปรีบปฎิเสธทันที จะให้ไปอย่างไรเห็นคนที่นั่งรถกลับด้วยขับรถทั้งวันอาจมีหลอน
"เครงั้นก็ตามที่เราตกลงกันไว้นั้นแหละนะถ้าพี่เขาไม่ไปเราก็ไปสองคน......"
บิ๊วตี้พูดและทั้งสองก็คุยสนุกสนานจนไปถึงหอต้นข้าวและส่งต้นข้าว หลังจากนั้นบิ้วตี้ก็ไปนั่งข้างคนขับและบอกเส้นทาง ซึ่งบิ้วตี้ให้ท๊อปขับอ้อมไปเพราะตัวเองอยากนั่งรถเล่น และก็ไปหยุดอยู่ที่หอใกล้ๆกับผับที่ทั้งสามออกมา
"ถึงแล้วหรือ"
ท๊อปถามขึ้นเพราะเดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงผับ
"ค่าาาหอหนูอยู่แค่นี้เองขอบคุณนะค่ะที่พานั่งรถเล่น"
บิ้วตี้ตอบด้วยเสียงอันทุ้มต่ำ จึงทำให้ท๊อปไม่กล้าที่จะพูดอะไรมากกว่านี้แล้ว ท๊อปก็กลับบ้านด้วยความเจ็บใจ
3สอดรู้สอดเห็น"ยัยต้นข้าวนี้มันเล่นตัวนักนะ อุตส่าห์หาผู้ชายให้ทั้งคน ใครนะที่พี่ท๊อปบอกนั่น ชื่ออะไรนะ"น้ำมนต์กล่าวขึ้นหลังได้ฟังพี่กายเล่าให้ฟังว่าเพื่อนสาวทำแสบมาก"บิัวตี้เป็นกระเทยที่อยู่ใกล้ๆกับผับที่เราเข้านั้นแหละ หลอกให้ไปส่งยัยต้นข้าว และขับอ้อมเมืองเพื่อมาส่งนางที่หอข้างผับ ตลกไหมล่ะเพื่อนเธอ"กายพูดขึ้น"บิ้วตี้นี้มันเพื่อนปลายฝันนิไปรู้จักกับต้นข้าวได้อย่างไรกัน หรือยัยปลายฝันมันไม่ได้กลับบ้านมันจริงๆแต่ไม่อยากไปกินเลี้ยงกับเราเลยไปอยู่กับบิ้วตี้แล้วให้บิ้วตี้มาป่วนพี่ท๊อปเพราะมันรู้เรื่องของเราจากต้นข้าว แล้วไม่พอใจ แน่ทำไมสองคนนี้ร้ายจัง"น้ำมนต์กล่าวออกไปเพราะตัวเองคิดแบบนั้น"ปลายฝันเราขอบคุณแกเรื่องเมื่อคืนด้วยนะที่บอกให้บิวตี้มาส่งเรานั่นนะ แล้วเรามีอะไรจะเล่าให้เธอฟัง"ต้นข้าวพูดคุยกับปลายฝันทางโทรศัพท์"จร้ามีอะไรหรือป่าว บิ้วตี้เองก็บอกว่าไม่ได้อะไรมากหรอกได้นั่งรถชมเมืองอีกด้วย"ปลายฝันถามขึ้น"เรื่องของเพื่อนๆเรานั้นแหละเราว่า เขาไม่ได้โอเครกับเราตั้งแต่แรกแล้วป่ะ อันนี้เราไม่ได้จะปั่นอะไรนะ เรื่องเมื่อคืน ทุกคนพาแฟนมาหมดและมีผู้ชายเพื่อนพี่กายอีกสองคน ซึ่งมอ
4แม่เลี้ยงนวลจันทร์เช้าวันถัดมาต้นข้าวก็มาถึงและขอพักที่บ้านปลายฝันเพราะทางมาจากบ้านตัวเองก็ไกลอยู่พอสมควร และเธอเองกะจะอยู่จนงานจบแล้วค่อยกลับ "ปลายฝันขอแสดงความเสียด้วยอีกรอบนะแก "ต้นข้าวกล่าวขึ้นอีกรอบเมื่อเจอหน้ากันเพื่อน"จร้ารู้แล้วล่ะ แค่แกมาก็ขอบคุณมากแล้ว"ปลายฝันกล่าวขึ้น"เราได้งานที่ตัวอำเภอพอดีพ่อหาไว้ให้นะ แกเสร็จจากงานย่าแก่แล้วก็ลองหาแถวๆนี้ดูนะถ้าไปได้เดียวให้พ่อหาให้ เราว่าอยู่ใกล้บ้านจะได้ประหยัดค่าที่พักและค่าเดินทางด้วย ตอนไปเรียนก็ไปอยู่กรุงเทพใช้เงินเป็นว่าเล่นเลย ต่อไปนี้ก็ต้องหาเงินแล้วล่ะ"ต้นข้าวพูด เรื่องของคนบ้านนอกก็แบบนี้ ไม่ค่อยมีทรัพย์มากมาย ลงทุนกับการเรียนจบแล้วก็ต้องรีบทำงาน"เราก็กะว่าจะหาแถวนี้หล่ะจะได้ดูแลพ่อกับแม่ด้วย ทีแรกรู้ว่าเราเรียนจบแล้วเราจะมาดูแลย่าที่โรงพยาบาลเพราะย่าก็นอนโรงพยาบาลมาได้สักปีแล้วล่ะ ก่อนที่ท่านจะเสียนะแต่ตอนนี้ก็เหลือแต่พ่อกับแม่แล้ว"ปลายฝันกล่าวขึ้น ทั้งสองช่วยกันจัดโน้นจัดนี่บ้าง บางครั้งก็เข้าครัวเพื่อจะทำอาหารบ้าง ช่วยหั่นผักล้างจานที่แขกมาช่วยงานกินเสร็จ จึงทำให้ไม่มีเวลาที่จะให้พวกญาติๆสอบถามเรื่องส่วนตัวของปลา
สงสัย"พ่อแม่เลี้ยงคนนั้นเขาเป็นใครหรือ ทำไมเขาสนใจในตัวหนูจังแล้วก็มาพูดกับหนูแปลกๆว่าเขารู้จักกับย่าและเขาก็สนิทกับย่าด้วย แล้วเขาก็พูดว่าเดี๋ยวเสร็จงานส่งย่าแล้วเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน หนูก็ไม่ได้สอบถามเขาหรอกว่าคุยเรื่องอะไร"ปลายฝันเดินมาถามพ่อ"แม่เลี้ยงคนนั้นก็ชื่อนวลจันทร์ไง เขาเป็นผู้ที่ออกค่ารักษาให้ย่าแกจนถึงวินาทีสุดท้าย พ่อก็เพิ่งจะรู้เมื่อไม่กี่วันนี้เองตอนพ่อได้เก็บจดหมายของย่าแกเมื่อครั้งที่มาจัดงานศพแล้ว ก็มีผู้คนช่วยเก็บของและจดหมายถึงเอามาให้พ่อเพราะข้างในมันเกี่ยวกับแม่เลี้ยงนวนจันทร์แล้วก็ย่าแก พ่อจึงโทรบอกเขาเพื่อมาล่ำลาย่าแกเป็นครั้งสุดท้าย เอาเป็นว่าเสร็จสิ้นงานแล้วเดี๋ยวเราก็มาเปิดจดหมายอ่านกันตอนนี้ไปช่วยทางโน้นเขาจัดการในครัวก่อนเถอะ อีกไม่เท่าไรพระสวดก็จะสวดแล้ว แล้วเรื่องซองพระสวดนะไปดูแม่ด้วยว่าจัดการแล้วหรือยัง เดี๋ยวพ่อจะไปดูที่จอดรถเห็นว่าเมื่อคืนมีที่จอดรถไม่พอ"พ่อรีบกล่าวขึ้นแล้วจากไป ปลายฝันก็เร่งรีบที่จะไปทำงานของตนเหมือนกันจึงไม่ได้สนใจอะไร คนที่พ่อเรียกว่าแม่เลี้ยงกับพ่อเลี้ยงนั้นกลับได้ตอนที่พระสวดเสร็จแล้ว และวันต่อมาก็มานั่งฟังพระสวดอีกแต่วั
"สวัสดีค่ะ"ปลายฝันกล่าวขึ้นและยกมือไหว้เมื่อมาถึงพ่อกับ แขกทั้งสอง"สวัสดีจร้า"เสียงผู้หญิงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเอ็นดู แต่ที่เป็นผู้ชายคนข้างๆกลับมองมาเฉยๆไม่ได้กล่าวอะไรออกมา"พึ่งจบมหาลัยสินะ ป้าว่าอยากชวนหนูไปทำงานอยู่ที่เชียงใหม่ สนใจหรือป่าวล่ะ"แม่เลี้ยงถามขึ้นอย่างเอาใจเด็ก พลางหันไปมองลูกชายที่ทำสีหน้าราวแบกโลกเอาไว้"หนูเพิ่งเรียนจบยังไม่มีประสบการณ์ทำงานนะค่ะ หนูว่าจะสมัครงานแถวนี้ดูก่อน เผื่อได้จะได้ดูแลพ่อแม่ด้วย"ปลายฝันปฏิเสธออกไป "ลองคิดดูก่อนก็ได้นะปลายฝัน ตาพงษ์คุยกับลูกสาวแล้วหรือ"แม่เลี้ยงกล่าวขึ้น"ยังเลยครับแม่เลี้ยง ยังไม่มีเวลาคุยกันเลย ผมว่าจะจัดการเรื่องคุณแม่เสร็จก่อนและจะเรียกญาติๆทุกคนมาและเปิดจดหมายคุณแม่ให้ทุกคนอ่านครับ ส่วนเรื่องปลายฝันผมก็ต้องคุยกับเขาก่อนอยู่แล้ว"พ่อของปลายฝันกล่าวขึ้น พลางมองหน้าลูกสาวยิ้มๆ"เรื่องอะไรหรือพ่อ"ปลายฝันถามขึ้น"มันมีเรื่องที่คุณย่ารับปากแม่เลี้ยงเอาไว้นะ ว่าจะให้ลูกแต่งงานกับลูกแม่เลี้ยง"ผู้เป็นพ่อกล่าวขึ้นแบบยิ้มๆเล็กน้อย"อะไรนะค่ะ"ปลายฝันพูดขึ้นอย่างตกใจ จนทำให้คนอื่นหันมามอง ที่แรกหลายๆคนก็สนใจผู้หญิงกับผู้ชา
เมื่อกลับไปถึงโรงแรมที่พักผู้เป็นลูกก็เรียกแม่เพื่อที่จะคุยเรื่องแต่งงานนี้"แม่ก็ดูท่าทีเด็กนั้นก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับผมเสียหน่อยแม่ลองเอาแบบนี้ดีไหมล่ะ ให้เขาติดหนี้เราไปก่อนถ้าเขายังไม่มีเงินจ่ายแล้วค่อยทยอยจ่ายภายหลังไม่ใช่ไปบังคับให้เขาแต่งงานแบบนั้นผมรู้สึกสงสารเขานะแม่"ตะวันพูดขึ้นเพราะตัวเองก็ไม่ต้องการที่จะถูกบังคับแต่งงานแต่อย่างใด แต่เรื่องเงินนั้นสำคัญเพราะว่าแม่บอกว่าถ้าเขาไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ แม่ก็จะไม่ให้เงินเขาใช้ ส่วนไร่ที่ตนเป็นคนทำนั้นเขาเองก็ไม่ได้รับเงินอยู่แล้ว แม่คอยจ่ายค่าคนงานในไร่ให้และจัดแจงค่าใช้จ่ายทุกอย่างรวมไปถึงรายเดือนที่ตะวันเองใช้จ่ายด้วย ซึ่งถ้าตนไม่มีเงินส่วนที่แม่ก็จะไม่มีเงินลงทุนผับที่ตัวเองแอบเปิด แต่ถ้าได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้แม่บอกว่าจะยอมให้เขาลองบริหารเงินของตัวเอง ตนจึงต้องตอบตกลงและตามแม่มาที่นี่"แกสงสารเขาหรือ ยิ่งแก่สงสารเขาแกก็ต้องรีบแต่งงานกับเขาเพื่อที่จะได้ยกฐานะของครอบครัวเขาให้สูงขึ้น เพราะถ้าเขาแต่งงานกับแกแล้วแม่ก็มีเงินให้กับครอบครัวเขาโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ถ้าให้ไปฟรีๆเขาก็จะคิดมาก ครอบครัวเราก็มีพร้อมแล้วแกเองก็จะ
เช้าวันต่อมาเป็นวันที่ทุกคนตื่นเช้าเพราะต้องไปเตรียมของที่วัดปลายฝันกับต้นข้าวรีบเดินทางไปวัดตั้งแต่ยังไม่ 6 โมงเพราะแม่บอกว่าให้ปลายฝันไปดูเรื่องอาหาร เตรียมของในครัวสำหรับพระทั้งหมด 9 ชุด และของแขกแขกที่มาอีก วันนี้น่าจะมีผู้มาเยอะอยู่ ส่วนต้นข้าวแม่ก็ให้ไปช่วยตรวจนับของที่ระลึก เพราะหลานของย่าลูกของป้ากับอานั้นเป็นผู้ชายจึงไม่ได้เข้ามาช่วยกันทำส่วนนี้ เพราะต้องไปเตรียมโกนผมแต่เช้าเพื่อที่จะบวชจูงย่า หน้าที่นี้เลยเป็นของลูกหลานที่เป็นฝ่ายหญิงซึ่งมีปลายฝันคนเดียวดีหน่อยที่ปลายฝันพาเพื่อนมา แม่จึงถือว่าต้นข้าวเป็นลูกอีกคน พ่อของปลายฝันไม่มีลูกชายตัวเองจึงต้องบวชเพื่อจูงแม่ พ่อของปลายฝันก็ไม่ได้เขามาช่วยส่วนนี้อีกแล้ว เรื่องรถก็ให้อาพจน์ทำต่อ ในเช้าวันนี้เสียงเปิดเครื่องเสียงแต่เช้าเป็นการเตือนให้หลายบ้านที่อยู่ใกล้เคียงรู้ว่าจะมีงานฌาปนกิจในวันนี้ ผู้ที่สนิทสนมกับผู้วายชนม์ก็จะมาช่วยกันจัดเตรียมของแต่เช้าส่วนผู้ที่ไม่ค่อยสนิทมากนักก็จะมารับประทานอาหารในเวลาสายๆ ย่าของปลายฝันน่าจะมีคนที่สนิทพอสมควรเพราะตอนที่จัดเตรียมอาหารในครัวก็มีคนมาช่วยอยู่มากโข และจุดนับของชำร่วยเองก็มีคนอยู่เยอะเ
เมื่องานฌาปนกิจของคุณย่าเสร็จสิ้นแล้ว พ่อของปลายฝันก็หยิบจดหมายของคุณย่าที่ฝากถึงพ่อไว้มาให้ปลายฝันและคุณแม่อ่าน เนื้อความในจดหมายเขียนไว้ว่า"แม่เป็นหนี้แม่เลี้ยงเป็นจำนวนเงินทั้งหมดเกือบจะสามล้านแล้ว แม่เลี้ยงใจดีที่ยื่นมือเข้ามาช่วยในการรักษาของแม่ให้แม่ดีขึ้น ณ วันนี้ แม่เลี้ยงเขาไม่ได้คิดว่ามันเป็นเงินที่แม่ไปติดหนี้เขา เพราะแม่เคยช่วยชีวิตพ่อของเขาไว้ แต่ที่แม่ช่วยชีวิตพ่อของเขานั้นแม่ไม่ได้เสียเงินสักบาท แถมตอนที่จากมาแม่ของแม่เลี้ยงเองก็ให้เงินแม่มาก้อนนึงแล้ว แต่แม่เลี้ยงนวลจันทร์ผู้นี้ก็ยินดีที่เข้ามาช่วยแม่ จึงถือว่าเขามีบุญคุณต่อแม่ถ้าพวกแกทั้งสาม หาเงินคืนเขาได้แม่ก็จะไม่ว่า แต่ถ้าถึงเวลาที่ไม่มีแม่จริงๆแล้วพวกแกยังหาเงินคืนแม่เลี้ยงไม่ได้แม่อยากจะขอร้องแกสักหน่อยนะพงษ์ ยกลูกสาวแกให้แต่งงานกับลูกของแม่เลี้ยงได้ไหม แม่เลี้ยงเขาเอ็นดูและชอบลูกสาวแกมาก ครั้งที่แม่เขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมาเขาก็ยังเล่าสารพัดสารเพเขาชอบปลายฝัน ถ้ามันไม่เหนือบ่ากว่าแรงจริงๆแม่อยากจะขอร้องแกนะพงษ์"จดหมายของคุณย่ามีแค่นี้ซึ่งก็เป็นตามที่ต้นข้าวเคยเกริ่นเอาไว้ว่าน่าจะเป็นเรื่องเงินซึ่งบ้านเราไม่มีเ
"ตะวันค่ะพอดีว่าอีกสองวันของขวัญจะกลับไทย ตะวันมารับขวัญที่สนามบินด้วยนะค่ะ "เสียงใสปลายสายเอ่ยขึ้น ทำให้หัวใจของตะวันพองโต ของขวัญผู้หญิงที่หน้าตาสวยอ่อนหวาน เขาปฏิเสธไม่ได้ว่าเขารักตะวันมาก แต่ด้วยที่บ้านของเขาฐะนะร่ำรวยและต้องขยายกิจการอยู่บ่อยๆ จึงต้องอาศัยกำลังทรัพย์มหาศาลเช่นกัน แม้ที่บ้านของตะวันจะเป็นเจ้าของไร่ที่ร่ำรวยกว่าเธอมาก แต่เรื่องการเงินของตะวันนั้นทุกอย่างต้องให้ผู้เป็นแม่จัดการ ตะวันจะซื้อคอนโดที่กรุงเทพฯยังต้องถามผู้เป็นแม่ ซึ่งทางบ้านของเธอเองไม่โอเครเพราะครอบครัวของตะวันไม่ชอบในตัวของเธอด้วย และเรื่องที่ตะวันต้องให้แม่จัดการให้ทุกอย่าง ตะวันเหมือนผู้ชายที่ยังไม่โตทั้งที่อายุก็สามสิบกว่าแล้ว คอนโดที่กรุงเทพฯของตะวันเองของขวัญไม่สามารถเข้าไปได้ ถ้าแม่เลี้ยงไม่ให้เข้า ของขวัญจะได้อยู่เฉพาะตะวันอยู่กรุงเทพฯเท่านั้น ทั้งที่คอนโดนั้นของขวัญต้องการที่จะให้ตะวันซื้อให้ของขวัญ แต่สรุปแม่เลี้ยงเข้ามาวุ่นวายจนทำให้ของขวัญเสียคอนโดนั้นไป การที่ของขวัญเองต้องแต่งานกับธาวินนั้นมันเป็นความผิดของตะวัน เพราะตะวันอ่อนแอเกินไป ของขวัญไม่เคยที่จะสำนึกผิดเลยสักนิดที่เรื่องเป็นแบบนี้
เมื่อคนของแม่เลี้ยงลากปลายฝันเข้าห้อง ก็ทิ้งปลายฝันไว้ตรงประตูห้องโดยที่พวกเขาไม่ได้เข้าห้องเลยแม้แต่นิดเดียวเขาทิ้งปลายฝันไว้อย่างนั้น โดยที่ไม่ได้ลากปลายฝันขึ้นเตียงพวกเขาจึงไม่รู้ว่าในห้องนั้นมีคนอยู่แล้ว พวกเขาก็ล็อคห้องไป หลังจากที่ปลายฝันรู้สึกตัวก็รู้สึกร้อนๆเขาจึงพยายามดึงเสื้อของตัวเองออกแล้วก็แนบกับพื้นห้องที่เย็นๆรู้สึกดีขึ้นไม่น้อย ปลายฝันต้องการน้ำเขาต้องการเข้าไปในห้องน้ำเพื่อแช่น้ำให้ตัวเย็นขึ้นปลายฝันถึงเดินสะเปะสะปะแต่ก็ไปสะดุดอยู่ที่เตียงจึงลมลงและก็ทับไปบนตัวของตะวันที่ตัวเย็นจากการตากแอร์อยู่ ตะวันเองไม่ชอบใส่เสื้อนอนอยู่แล้วพอร่างที่ร้อนของปลายฝันถูกกับความเย็นของตะวันเธอก็ได้ใจ ความแนบชิดของทั้งสองที่ไม่รู้ตัว ฤทธิ์ยาในตัวของปลายฝันก็รุนแรงมากขึ้นทำให้เธอร้อนรนไปหมด ประจวบด้วยที่เธอต้องการความเย็นในตัวตะวัน ทางด้านตะวันก็สลึมสลือด้วยความเมาเมื่อร่างอุ่นๆเข้ามาปะทะก็เกิดความรู้สึกดี หญิงสาวที่อยู่ไม่สุขถูไถไปบนร่างชายหนุ่ม ทำให้ชายหนุ่มที่หลับอยู่ดีๆก็ฟุ้มซานขึ้น ขนาดนอนอยู่ยังฝันดีขนาดนี้ ปากของทั้งคู่ประกบกันทำให้ตะวันตื่นเต็มตาพร้อมด้วยแรงปรารถนาในกายก็ตื่นขึ้น
"เมื่อกี่เห็นพ่อเลี้ยงนั่งอยู่ข้างบนนั้นมองมาที่พวกเราด้วย พอเขาเห็นเราเขาก็หันหน้าหนีไป เขาไม่ต้องการให้เราเห็นหรือว่าอะไรอะต้นข้าว"ปลายฝันถามเพื่อนอย่างไม่ค่อยเข้าใจ"คนข้างบนคือพ่อเลี้ยงตะวันหรือที่นั่งกับบอสมานพอะนะ เข้ารู้จักกันหรือ"ต้นข้าวถามขึ้นอย่างอยากรู้ แต่คนที่นั่งกับบอสนั้นก็มองปลายฝันเหมือนสนใจอยู่นะ ใช่พ่อเลี้ยงของปลายฝันจริงๆหรือ"แกรู้จักคนนั้นด้วยหรือ สงสัยจะมาปรึกษากันเรื่องไร่แน่เพราะว่าเดือนหน้าพ่อเลี้ยงก็ต้องจ่ายเงินคนงานที่ไร่เองแล้วเขามีที่ปรึกษาดีก็ดีแล้วแหละ"ปลายฝันพูดขึ้น"ทั้งสองจะมีเรื่องปรึกษาอะไรกันล่ะในเมื่อบอสมานพก็ทำงานอยู่ที่นครพนมส่วนพ่อเลี้ยงก็ทำงานอยู่เชียงใหม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันหรือ"ต้นข้าวถามขึ้น"เราว่าเหมือนท่าทางเขาจะเป็นเพื่อนกันนะ เหมือนจะสนิทสนมกันยังไงก็ไม่รู้ที่เราแอบมองอะนะ แต่ช่างเถอะยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับเราหรอกเนาะ"ปลายฝันพูดขึ้น"ออกไปจากนี้แล้วก็กลับกันเถอะนี่มันก็ดึกมากแล้วแหละเกือบจะตีสองแล้วผับปิดกี่โมงนะ ไม่รู้ว่าพี่ชาติจะขับรถเข้าไร่ได้หรือเปล่าเดี๋ยวพ่อเลี้ยงนั่นแหละเขาจะกลับไร่พร้อมแกไหม"ต้นข้าวพูดขึ้น"ไม่หรอกพ่อเ
ตอนเช้าปลายฝันกับต้นข้าวตื่นขึ้นก็ต้องรีบไปทำกับข้าวให้พ่อเลี้ยงและก็พากันนำกับข้าวไปใส่บาตที่วัดใกล้ๆก่อนที่จะไปเที่ยวกันต่อ ทั้งสี่ไปเที่ยววัดกันสักพักก็เตรียมตัวไปที่ผับเพราะการเดินทางจากทางไร่ไปหาตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เวลาพอสมควร พวกเขาพากันแวะนมัสพระที่วัดโมฬีกับวัดป่าดาราภิรมย์เท่านั้น และก็ไปยังตัวเมืองเชียงใหม่เลยแต่ก็เป็นเวลาเย็นแล้ว ทีแรกทั้งสี่จะเข้าไปในผับทั้งสี่คนเลย แต่พอจะเข้าผับพี่พลอยก็เห็นรถของพ่อเลี้ยงตะวันจึงขอตัวไปหาโรงแรมพักรอทั้งสองคน พอทั้งสองเข้าไปก็เห็นเพื่อนๆหลายๆคนอยู่ที่นั้นแล้ว น้ำมนต์มากับพี่กายและเพื่อนพี่กายอีกคน และพี่ท๊อป ส่วนเมษากับนฤมลน่าจะมากับแฟน"มาเร็วปลายฝัน ต้นข้าว ทางนี้พวกเรารออยู่"นฤมลเรียกทั้งสอง"อ้าวปลายฝันเห็นแต่งงานแล้วนิ ไม่พาสามีเธอมาด้วยล่ะ แต่งกับใครนะเราก็จำไม่ได้แต่เห็นจัดงานใหญ่โตเลย แถมไม่ชวนพวกเราด้วยนิ"น้ำมนต์พูดขึ้น ทำให้คนทั้งสองที่พึ่งเดินเขามาอึดอัด ความจริงทั้งสองไม่คิดว่าทุกคนจะพาแฟนมาด้วย"ก็แต่งงานแล้วนั่นแหละแต่ไม่คิดว่าทุกคนจะพาคนอื่นมาด้วยนี่นึกว่าจะมาแค่เพื่อนเราเท่านั้น"ต้นข้าวพูดขึ้น"ต้นข้าวแกว่าใครคนอื่นนี่ก
พอถึงวันหยุดยาวของปีใหม่จริงๆตะวันก็เกิดความเครียดด้วยเรื่องของเงินที่ไม่มีจ่ายให้คนงานในเดือนหน้า ดีหน่อยที่ปลายปีนี้แม่ของเขาได้จ่ายเงินเดือนพร้อมกับโบนัสให้คนงาน ทุกคนรวมกับเขาแล้ว ตอนนี้ถึงแม้ผับกำลังจะไปได้สวยแต่การลงทุนมันยังต้องการเพิ่มอยู่มาก เขาไม่สามารถเอาเงินส่วนนี้ออกไปจ่ายค่าคนงานในไรได้เลย เขาต้องการปรึกษาสักคนที่ไว้ใจได้ เขามีเพื่อนแค่คนเดียวคือมานพซึ่งมานพนั้นก็ไม่ต่างจากเขาสักเท่าไรต่างกันตรงที่มานพเคยบริหารตัวเองแล้วล้มเหลวจนต้องให้ผู้เป็นแม่คอยชักจูงตลอดซึ่งตอนนี้มานพมีบริษัทเป็นของตัวเองซึ่งอยู่ที่นครพนมถึงแม้จะเป็นเจ้าของบริษัทแต่เขาก็ทำงานไม่ต่างจากตนเลยสักนิด เขาจึงนัดมานพมาคุยกับเขาในผับตอนสิ้นปี"ว่ายังไงร้อยวันพันปีไม่เคยจะคิดโทรมาหากูวันนี้มีเรื่องอะไรหรือ"มานพถามเพื่อนรักขึ้น"กูมีปัญหานิดหน่อยว่ะตอนนี้กูกำลังทำผับเองที่เมืองเชียงใหม่ แต่กูมีปัญหาเรื่องการเงินซึ่งกูไม่ใช่ว่าจะทำผับอย่างเดียว ต้องทำไร่ส้มด้วยและแม่เลี้ยงก็ให้เงินมาก้อนหนึ่งแล้วกูก็ไปลงผับหมดเลย แล้วซึ่งกูคิดว่ามันจะได้กำไรมาจ่ายค่าแรงของคนงานในไร่ แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้วกูได้แค่ทำงานในผับวนอย
เมื่อของขวัญรับรู้เรื่องสิตาทำงานพลาดก็โกรธ สิตาไม่ได้ทำงานพลาดธรรมดา แต่เขาโง่เองที่ไม่รู้ว่าปลายฝันไม่เคยไปยุ่มย่ามในห้องของตะวันเลย ส่วนสิตาน่าจะคิดไม่ทันเพราะเขาสั่งไปแบบนั้น แต่ยังไงก็โทษสิตานั้นแหละที่โง่"ตะวันค่ะสิ้นปีนี้ขวัญจะกลับไปอยู่ที่ไทยแล้วนะค่ะ แล้วคุณกับเด็กนั้นจะหย่ากันตอนไหนห รือค่ะ ถ้าขวัญกลับไปจะได้อยู่กับคุณหรือป่าวค่ะ"ของขวัญกล่าวขึ้นเมื่อโทรหาตะวัน"คุณจะกลับมาทั้งครอบครัวเลยหรือป่าวครับ"ตะวันถามขึ้น"ค่ะ ขวัญจะกลับไปทั้งครอบครัวเลย"ของขวัญตอบ เขาเองก็ไม่อยากจะหลอกตะวันแล้วว่าเขาไปอยู่ต่างประเทศกับพ่อแม่ ทั้งที่พ่อแม่เขาอยู่ที่ไทย"ครับงั้นคุณกลับมาก็อยู่กับพ่อกับแม่คุณสิครับ คุณก็รู้นิเรื่องแม่เลี้ยงไม่ให้คุณเข้าไร่"ตะวันพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ เพราะตัวเขาเองรู้ดีว่าเรื่องที่สิตาทำนั้น เป็นสิ่งที่ของขวัญเองให้สิตาทำเอาจริง ๆ สิตาไม่ได้มีปัญหาอะไรกับปลายฝันเลยแม้แต่น้อย และถ้าให้สิตาทำเอง สิตาคงจะคิดให้ดีกว่านี้เพราะเขาเองก็รู้ว่าปลายฝันไม่เคยเข้าห้องตะวันเลย ทำแบบนี้มันก็จะจับได้อยู่ดี"ตะวันค่ะ เหมือนคุณจะไม่รักขวัญแล้วนะคะ ไหนคุณว่าจะทำอะไรเพื
ตั้งแต่เหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นปลายฝันก็ไม่ได้เข้าออฟฟิตอีกเลย เหมือนเขาจะพยามยามหลบหน้าพ่อเลี้ยงอีกด้วย กิจวัตประจำวันของเขาคือทำกับข้าวเช้าเย็น และตอนกลางวันทำงานในไร่ ปลายฝันไม่เคยกินข้าวเที่ยงที่ทางไร่ทำขึ้นให้เลย เธอจะห่อข้าวไปกินใต้ต้นส้มคนเดียวทุกวัน คนงานทุกคนในไร่ปฎิบัติกับเขาดีขึ้นทุกคน ปลายฝันตั้งใจทำงานของตัวเองจึงทำให้ทุกคนใจไร่เห็นใจกว่าเดิมอีก พ่อเลี้ยงตะวันพยายามที่จะขอโทษปลายฝันอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล อาจเป็นเพราะพ่อเลี้ยงไม่เข้าหาปลายฝันเองด้วย และปลายฝันก็หลบหน้าพ่อเลี้ยง เมื่อตำแหน่งบัญชีของไร่ว่างและรอปลายฝันเข้ามาทำ แต่ปลายฝันก็ปฏิเสธที่จะทำเพราะเมื่อเดือนที่แล้วมีปัญญากับพ่อเลี้ยง แม่เลี้ยงจึงสั่งให้พนักงานบัญชีจากไร่ใหญ่เข้ามาทำให้ โดยไม่ให้คนงานต้องรอเงินเดือนเพียงเพราะเจ้าของไร่ทั้งสองทะเลาะกัน ทำให้พ่อเลี้ยงไม่พอใจอย่างมากแทนที่แม่เลี้ยงจะสั่งให้ปลายฝันเข้ามาทำบัญชีแต่กลับให้คนของตัวเองมาทำ เหมือนแม่เลี้ยงไม่ปล่อยโอกาสให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันเลย ปลายฝันก็พลอยหลบหน้าพ่อเลี้ยงตะวันตลอด ถึงงานจะทำได้ดีแต่ไม่ปล่อยโอกาสให้พ่อเลี้ยงเข้าใกล้เพื่อขอโทษจนหนึ่ง
"แม่จะพูดอะไรของแม่ครับ แม่รับไม่ได้หรือที่ลูกสะใภ้สุดที่รักของแม่คิดจะโกงไร่ ซึ่งเป็นเงินของแม่เลี้ยงเองด้วย"ตะวันพูดด้วยความโมโห ตอนนี้มินร้องไห้หนักมาก"วันก่อนตอนกลางคืนปลายฝันได้โทรมาคุยกับแม่เลี้ยงเพื่อที่จะขอร้องให้แม่เลี้ยงจ่ายเงินคนงานทั้งไร่ เพราะแม่ได้โอนให้พ่อเลี้ยงตะวันมาบริหารไร่เองแล้ว แต่พ่อเลี้ยงกลับใช้จ่ายเงินหมด ปลายฝันเองจึงให้แม่เลี้ยงช่วยจ่ายให้ไร่ก่อน และได้ส่งข้อมูลการใช้จ่ายเงินเดือนให้แม่เลี้ยงตอนสองทุ่มครึ่ง แม่เลียงเลยส่งให้ฝ่ายบัญชีไร่ใหญ่เลยตอนสองทุ่มสามสิบห้า แม่เลี้ยงและฝ่ายบัญชีของไร่ใหญ่เช็คตอนแปดโมงจนจะอนุมัติเงินอยู่แล้ว ก็มีอีเมลของไร่ตะวันรายงานรายจ่ายเข้าไปอีกตอนแปดโมงครึ่งทำให้ฝ่ายบัญชีเกิดกการสับสน แม่เองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงได้โทรมาถามพ่อเลี้ยงตะวัน เพราะแม่เลี้ยงคิดว่า พ่อเลี้ยงตะวันต้องใช้เงินส่วนนี้ทำอะไรโดยที่ปลายฝันไม่รู้หรือป่าว เพราะปลายฝันรายงานจำนวนเงินก่อนหน้านี้แล้ว และอีกห้าหมื่นนั่นต้องอนุมัติภายหลังแม่เลี้ยงแค่โทรมาถาม แม่เลี้ยงไม่คิดเลยว่าเหตุการจะเลยเถิดขนาดนี้ ถ้าแม่เลี้ยงไม่จัดการอะไรเลยทุกคนก็จะคิดว่าเป็นความผิดของปลาย
แม่เลี้ยงแค่ตรวจสอบก็พบว่าเมล์ที่ส่งมาตอนแปดโมงครึ่งนั้นถูกทำใหม่และส่งมาที่ไร่ใหญ่ และปลายฝันเองไม่มีเมล์ของไร่ซึ่งอันนี้ต้องเป็นพนักงานบัญชีของไร่ตะวันที่ทำมาส่ง แต่ที่ปลายฝันส่งให้ตอนกลางคืนที่คุยกันเสร็จมันอันที่ไร่ตะวันส่งมาให้ไร่ใหญ่ตอนบ่ายๆ และวันนี้ปลายฝันไม่ได้เข้าไร่เพราะตะวันให้พักผ่อนอยู่ที่บ้าน ต้องเป็นคนที่อยู่ในออฟฟิตที่ส่งมาให้ไร่ใหญ่เป็นแน่ เรื่องนี้ต้องมีอะไรสักอย่างเป็นแน่ แม่เลี้ยงเลยตรวจดูบัญชีเก่าๆก็ไม่พบสิ่งที่ผิดพลาดใดๆ ไม่มีการรายงานเงินเกิน จึงคิดที่จะสืบดูข้อมูลส่วนตัวของผู้ที่ทำบัญชีของไร่ตะวัน คนนี้ก็เคยทำงานมาสักพักใหญ่แล้วนิ แม่เลี้ยงจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและพิมข้อความอะไรสักอย่าง และวางโทรศัพท์ลง"ครับแม่เลี้ยง"เสียงตนสายเอ่ยขึ้น"ใครทำบัญชีให้ไร่ตะวัน ทำไม่เดือนนี้เกิดผิดพลาดขึ้นได้"แม่เลี้ยงถามขึ้น"ทุกที่จะเป็นคุณมินครับแต่เห็นเมื่อวานคุณปลายฝันมาทำให้ และคุณมินก็หยุดงานไปครับ ผมก็รู้แค่นี้ครับ"เสียงคนรายงานให้แม่เลี้ยงรู้"วันนี้ปลายฝันไม่ได้เข้าไร่หรอ"เสียงแม่เลี้ยงถามขึ้น"ไม่เห็นคุณปลายฝันเข้ามานะครับ และช่วงเกือบเที่ยงเห็นพ่อเลี้ยงรีบๆขับร
เช้าวันต่อมาปลายฝันก็ทำอาหารแต่เช้าพอเสร็จสิ้นก็ตั้งใจจะออกไปไร่เลย วันนี้เธอรู้สึกแปลกๆ ตาขวากระตุกแปลกๆ พอเธอจะอาศัยรถกระบะคนงานรอบเช้าไปด้วย คนงานก็บอกว่าให้ปลายฝันรอพ่อเลี้ยง เพราะพ่อเลี้ยงต้องการคุยด้วย พอปลายฝันพบกับพ่อเลี้ยงแล้วพ่อเลี้ยงก็บอกข่าวดี เรื่องที่แม่เลี้ยงจะจัดการเรื่องการเงินให้และวันนี้ให้ปลายฝันหยุดพักผ่อน พรุ่งนี้ค่อยไปทำงาน พอพ่อเลี้ยงออกไปไร่ก็พบว่าวันนี้มินกลับมาทำงานแล้ว มินมองซ้ายมองขวาไม่เห็นปลายฝันก็อดเสียใจเล็กน้อย เขาต้องการเห็นปลายฝันที่เมื่อวานทำบัญชีไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง เขาไม่ได้ให้อีเมลไร่ใหญ่ไปปลายฝันไม่น่าจะส่งข้อมูลให้แม่เลี้ยงได้ เขาเลยแปลงข้อมูลนิดหน่อยและส่งให้แทน ปกติต้องส่งรายจ่ายตั้งแต่เมื่อวานเพราะว่าวันนี้แม่เลี้ยงต้องจัดการ และวันสิ้นเดือนเงินก็เข้าบัญชีพนักงานทุกคน"วันนี้พนักงานบัญชีคนใหม่ไม่มากหรือค่ะพอดีว่ามินไม่ได้สอนงานน้อง น้องน่าจะยังไม่ได้ส่งเมลให้แม่เลี้ยงตั้งแต่เมื่อวานแน่เลยคะ ครั้งนี้เงินอาจจะออกล่าช้า พ่อเลี้ยงต้องแจ้งพนักงานล่วงหน้าหรือป่าวคะ"มินพนักงานบัญชีภายในไร่ถามขึ้น"คงส่งไปแล้วล่ะ วันนี้ปลายฝันไม่ได้เข้าไร่หรอก เด