1ความเสียใจ
ัปลายฝันหญิงสาวที่หน้าตาน่ารัก จิ้มลิ้มคนหนึ่งณวันนี้เธอได้เรียนจบจากมหาวิทยาลัยในเมืองหลวงแล้ว หลังจากที่พวกเธอเรียนจบเพื่อนๆจึงนัดกันไปเลี้ยงฉลองกัน ในคืนนี้อาจจะได้เจอกับเพื่อนเป็นคืนสุดท้ายเพราะว่าเธอต้องกลับบ้านนอกของเธอ
"น้ำมนต์เธออย่าลืมชวนรุ่นพี่ที่ชื่อว่ากายที่เคยชอบปลายฝันมาด้วยนะ คืนนี้พวกเราเลี้ยงฉลองกันน่าจะเมาน่าดูยายปลายฝันไม่อยากจะมีแฟนนักพวกเราจับคู่ให้เขาเลยว่ายังไง"
มลฤดีโทรศัพท์คุยกับน้ำมนต์ด้วยความเฮฮา และบอกให้เพื่อนชวนรุ่นพี่ที่เคยชอบเพื่อนสาวมางานปาร์ตี้เลี้ยงจบมหาวิทยาลัยกัน น้ำมนต์มองหน้าคนข้างๆ
"เดี๋ยวจะลองชวนดูแล้วกันไม่รู้ว่าพี่เขาว่างหรือเปล่านะมีพวกเราทั้งหมด 6 คนใช่ไหมแล้วมีใครพาแฟนมาหรือเปล่าล่ะ"
เสียงน้ำมนต์ที่อยู่ปลายสายตอบพลางมองคนที่อยู่ข้าง น้ำมนต์เองตั้งใจจะพาพี่กายไปอยู่แล้วเพราะว่าน้ำมนต์กับพี่กายได้คบกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว
"แล้วแกอ่ะจะชวนแฟนแกมาหรือเปล่า แฟนแกคบกันมาสักพักแล้วไม่ใช่หรือยังไม่มาเปิดตัวให้เพื่อนๆดูเลยส่วนเราก็ว่าจะพาแฟนมาด้วย"
มนฤดีกล่าวขึ้น
"พาไปอยู่แล้วล่ะ แล้วพวกแกจะตกใจ"
น้ำมนต์กล่าวขึ้นยิ้มๆแล้ววางโทรศัพท์ไป
"แย่จังเลยนะพี่กายถ้าพี่ยังไม่คบกับหนูพี่อาจจะมีโอกาสคบกับยายปลายฝันก็ได้ ปลายฝันนั้นสวยกว่าหนูเก่งกว่าหนูในทุกๆอย่างถ้าพี่ได้เป็นแฟนกับมันพี่ก็คงจะดีใจกว่าเป็นแฟนกับหนูใช่ไหมล่ะ"
น้ำมนต์กล่าวกับแฟนหนุ่มเพื่อจะลองเชิงว่าแฟนหนุ่มจะว่าอย่างไร จะมีท่าทีชอบเพื่อนของตนเหมือนเดิมหรือไม่ ทางด้านกายเองก็ยิ้มๆและคิดไปไกลตั้งแต่ที่ได้ยินเสียงมลฤดีโทรมาว่าให้ชวนตัวเขาเองไปงานเลี้ยงฉลองจบของพวกเด็กๆแล้วเพราะตนชอบปลายฝันมาสักพักใหญ่ๆแล้วตามจีบมาก็นานแต่ไม่สามารถเอาชนะใจหญิงสาวได้ ตนจึงตกลงคบกับเพื่อนของหญิงสาวแทน แต่พอมาวันนี้เหมือนตนจะได้มีโอกาสอีกครั้งแต่ตอนนี้ตนก็คบกับเพื่อนปลายฝันแล้วมันก็เลยเป็นความที่เขาเองก็สองจิตสองใจ
"พี่เลิกคิดกลับปลายฝันนานแล้วก็ตอนนี้เราคบกันแล้วนิ ไม่ต้องพูดแกล้งพี่ได้อีกแล้วนะพี่รักหนูคนเดียวนะน้ำมนต์"
กายกล่าวขึ้นเพื่อให้น้ำมนต์ตายใจทั้งที่จริงแล้วเขาเองก็ต้องการปลายฝันแต่เขาพูดไม่ได้ก็แค่นั้น
"พี่กายน่ารักที่สุดเลยค่ะ ยังงั้นพี่กายก็หาเพื่อนมาสักคนนะคะเผื่อว่าทุกคนจะพาแฟนมาหมดแล้วมียายไปฝันคนเดียวที่ไม่พาแฟนมา เผื่อเมากันแล้วปลายฝันจะได้มีแฟนกับเขาบ้าง"
น้ำมนต์กล่าวขึ้น ทำให้กายยิ้มถ้าเมากันแล้วเขาจะจัดการยังไงก็ได้อย่างนั้นสิเขาต้องหาเพื่อนสักคนที่ไว้ใจได้มาเพราะว่าถ้าพวกผู้หญิงเมาหมดแล้วก็ไม่รู้แล้วว่าใครเป็นใคร
"งั้นเอาไอ้ท๊อปเพื่อนพี่ได้ไหมอ่ะ มันก็โสดอยู่นะตอนนี้หน้าตาก็ดีด้วยเดี๋ยวพี่ต้องถามมันก่อนแล้วกันว่ามันจะสะดวกไหมให้พี่พาไปแค่คนเดียวหรอ"
กายถามขึ้น
"พี่กายพามาสัก 2 คนก็ได้เพราะว่าเมษาเองก็น่าจะไม่พาใครมาด้วยหรอกเพราะเมษาเองก็ยังไม่มีแฟน"
น้ำมนต์กล่าวขึ้น
ทางด้านปลายฝันเมื่อเรียนจบแล้วก็เก็บของเพื่อที่จะกลับบ้านพรุ่งนี้เช้า และคืนนี้ก็จะไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนๆเขาไม่ชอบสถานที่เที่ยวเริงรมย์ตอนกลางคืนเลยสักนิดแต่เพราะครั้งนี้จะเจอเพื่อนทุกคนเป็นครั้งสุดท้ายตนจึงยอมไปพบกับเพื่อนๆในผับแห่งหนึ่งในเมืองกรุง
"ยายปลายฝัน ทำใจดีๆนะลูก คือคุณย่าของหนูไม่อยู่กับเราแล้วนะลูก ลูกจะกลับมาเย็นนี้เลยไหมหรือลูกจะไปฉลองกับเพื่อนก่อนแล้วค่อยกลับพรุ่งนี้ดี ทางบ้านจะจัดงานกันแล้ว "
เสียงคุณแม่โทรมาบอกกับปลายฝันว่าย่าไม่อยู่กับพวกเราแล้ว ย่าเป็นคนเลี้ยงปลายฝันมาตั้งแต่เด็กได้ฝันจึงผูกพันกับย่ามาก และเมื่อรู้ข่าวว่าย่าจากไปเธอก็เสียใจมาก จึงตัดสินใจที่จะกลับบ้านเลยจึงรีบเตรียมของทุกสิ่งทุกอย่างให้เสร็จเพื่อจะได้โทรเรียกรถให้มารับ ทีแรกปลายฝันจะกลับพรุ่งนี้ตอนเช้าไปกับเพื่อนอีกคนนึงที่ชื่อต้นข้าว ที่เขาอยู่นครพนมเหมือนกับปลายฟัน แต่วันนี้ปลายฝันต้องการที่จะกลับบ้านก่อนจึงต้องโทรเรียกรถเข้าไปรับ
"คุณแม่ปลายฝันว่าจะกลับวันนี้นะคะลูกเตรียมของเสร็จทุกอย่างแล้วเดี๋ยวลูกจะเรียกรถมารับมีคิวเข้ามารับก็เกือบจะ 5 โมง แล้วไปถึงบ้านเราก็น่าจะดึกอยู่ยังไงลูกก็กลับวันนี้เลยจ้ะแม่"
เสียงปลายฝันโทรกลับไปบอกแม่เมื่อแน่ใจแล้วว่าตอนจะกลับวันนี้เลย
"ทำไมแกไม่กลับกับพี่เมฆกับพี่มายล่ะลูกป้าไพเขาก็น่าจะกลับกันวันนี้ พวกเขาเอารถส่วนตัวมาด้วยจะได้ปลอดภัยเพราะรถประจำหรือรถตู้ตอนกลางคืนมันอันตรายนะ"
เสียงพ่อกล่าวขึ้นเมื่อได้ยินลูกสาวสนทนากับผู้เป็นแม่
"เดี๋ยวแม่จะให้พ่อโทรหาพี่เมฆกับพี่มายด์แล้วกันเผื่อจะได้มาพร้อมกันเพราะยังไงพี่เมฆพี่มาย์ก็ต้องมางานยายอยู่แล้วเพราะพี่เมฆพี่มายด์คือลูกป้าไพซึ่งเป็นพี่สาวพ่อ"
แม่กล่าวขึ้นและวางสายไป หลังจากที่ปลายฝันเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงมานั่งรอแม่ว่าแม่จะโทรมาว่าอย่างไรดี แล้วก็มีเสียงโทรศัพท์โทรเข้าซึ่งเป็นเบอร์แปลกๆ
"น้องปลายฝันใช่ไหม นี้พี่มาย์นะพอดีว่าน้าสมพรให้พี่ไปรับปลายฝันน่ะส่งโลเคชั่นมาให้พี่ด้วยนะ เดี๋ยวพี่เข้าไปรับเตรียมตัวเสร็จแล้วใช่ไหมเพราะว่าพี่กำลังจะออกกันแล้ว"
เสียงพี่มายดังขึ้นในโทรศัพท์
"เสร็จแล้วค่ะเดี๋ยวหนูส่งโลเคชั่นให้นะคะขอบคุณมากนะคะที่ให้หนูติดรถกลับไปด้วย"
ปลายฝันตอบกลับ
"ต้นข้าวพอดีว่าย่าเราเสียแล้วเราว่าเราจะกลับวันนี้เลยและงานเลี้ยงคืนนี้เราคงไม่ได้ไปเราฝากเธอบอกเพื่อนๆคนอื่นด้วยนะแล้วพรุ่งนี้เธอเดินทางคนเดียวนะ บาย"
ปลายฝันทิ้ง message ไว้ให้เพื่อน เพราะตนไม่อยากจะโทรไปเพราะถ้าโทรไปกลุ่มเพื่
อนต้องรบเร้าให้เขาอยู่ต่อแน่
2แผน"ห๊ะ อะไรนะปลายฝันไม่ได้มาด้วยหรอกหรือ หมดสนุกเลยที่นี้อุตส่าห์ชวนเพื่อนพี่กายมาให้ด้วยแล้วนะ นี้พี่กายแฟนเราเอง"น้ำมนต์กล่าวขึ้น"ว้าวๆ ไปคบกันตอนไหนเนี้ย เห็นพี่กายจีบปลายฝันตั้งนานสองนานเสร็จยัยน้ำมนต์เสียแล้ว"มลฤดีกล่าวขึ้น"ปลายฝันแชทมาบอกเรานะว่ากำลังจะกลับนครพนมเลย บอกว่าย่าเสียเราในฐานะเพื่อนต้องไปงานศพย่าของปลายฝันหรือป่าว"ต้นข้าวเอ๋ยขึ้น"ก็มันไม่ได้บอกพวกเรามันบอกแกคนเดียวไม่ใช่หรือก็แสดงว่ามันไม่ต้องการให้พวกเราไปหรอกถ้ามันอยากให้พวกเราไปมันต้องบอกแล้วแหละ"น้ำมนต์กล่าวขึ้น ต้นข้าวไม่คิดว่าเพื่อคนที่อยู่แก็งเดียวกันจะเป็นอย่างนี้ ต่อหน้าปลายฝันทุกคนดีกับปลายฝันกันทุกคน"งั้นเดียวเราไปคนเดียวก็ได้"ต้นข้าวกล่าวขึ้น แต่ก็ไม่มีใครสนใจสักเท่าไหร่ ต่างคนต่างสนุกกับปาร์ตี้กัน สักพักก็เมามาย ต้นข้าวได้สติอยู่คนเดียวเพราะเขาไม่ดื่มมากเพราะตอนเช้าเขาต้องรีบออกเดินทาง นั่งไปในใจก็คิดมาเพื่อนในกลุ่มตอนเรียนก็เหมือนรักกันดี แต่พอถึงวันจบทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ งานศพย่าเพื่อนก็ไมไปแถมยังไม่มีน้ำใจจะใส่ซองหรือคำปลอบใจอีก"เราเสียใจด้วยนะปลายฝัน พรุ่งนี้เราก็จะกลับบ้านแล้ว เดียวรืนนี
3สอดรู้สอดเห็น"ยัยต้นข้าวนี้มันเล่นตัวนักนะ อุตส่าห์หาผู้ชายให้ทั้งคน ใครนะที่พี่ท๊อปบอกนั่น ชื่ออะไรนะ"น้ำมนต์กล่าวขึ้นหลังได้ฟังพี่กายเล่าให้ฟังว่าเพื่อนสาวทำแสบมาก"บิัวตี้เป็นกระเทยที่อยู่ใกล้ๆกับผับที่เราเข้านั้นแหละ หลอกให้ไปส่งยัยต้นข้าว และขับอ้อมเมืองเพื่อมาส่งนางที่หอข้างผับ ตลกไหมล่ะเพื่อนเธอ"กายพูดขึ้น"บิ้วตี้นี้มันเพื่อนปลายฝันนิไปรู้จักกับต้นข้าวได้อย่างไรกัน หรือยัยปลายฝันมันไม่ได้กลับบ้านมันจริงๆแต่ไม่อยากไปกินเลี้ยงกับเราเลยไปอยู่กับบิ้วตี้แล้วให้บิ้วตี้มาป่วนพี่ท๊อปเพราะมันรู้เรื่องของเราจากต้นข้าว แล้วไม่พอใจ แน่ทำไมสองคนนี้ร้ายจัง"น้ำมนต์กล่าวออกไปเพราะตัวเองคิดแบบนั้น"ปลายฝันเราขอบคุณแกเรื่องเมื่อคืนด้วยนะที่บอกให้บิวตี้มาส่งเรานั่นนะ แล้วเรามีอะไรจะเล่าให้เธอฟัง"ต้นข้าวพูดคุยกับปลายฝันทางโทรศัพท์"จร้ามีอะไรหรือป่าว บิ้วตี้เองก็บอกว่าไม่ได้อะไรมากหรอกได้นั่งรถชมเมืองอีกด้วย"ปลายฝันถามขึ้น"เรื่องของเพื่อนๆเรานั้นแหละเราว่า เขาไม่ได้โอเครกับเราตั้งแต่แรกแล้วป่ะ อันนี้เราไม่ได้จะปั่นอะไรนะ เรื่องเมื่อคืน ทุกคนพาแฟนมาหมดและมีผู้ชายเพื่อนพี่กายอีกสองคน ซึ่งมอ
4แม่เลี้ยงนวลจันทร์เช้าวันถัดมาต้นข้าวก็มาถึงและขอพักที่บ้านปลายฝันเพราะทางมาจากบ้านตัวเองก็ไกลอยู่พอสมควร และเธอเองกะจะอยู่จนงานจบแล้วค่อยกลับ "ปลายฝันขอแสดงความเสียด้วยอีกรอบนะแก "ต้นข้าวกล่าวขึ้นอีกรอบเมื่อเจอหน้ากันเพื่อน"จร้ารู้แล้วล่ะ แค่แกมาก็ขอบคุณมากแล้ว"ปลายฝันกล่าวขึ้น"เราได้งานที่ตัวอำเภอพอดีพ่อหาไว้ให้นะ แกเสร็จจากงานย่าแก่แล้วก็ลองหาแถวๆนี้ดูนะถ้าไปได้เดียวให้พ่อหาให้ เราว่าอยู่ใกล้บ้านจะได้ประหยัดค่าที่พักและค่าเดินทางด้วย ตอนไปเรียนก็ไปอยู่กรุงเทพใช้เงินเป็นว่าเล่นเลย ต่อไปนี้ก็ต้องหาเงินแล้วล่ะ"ต้นข้าวพูด เรื่องของคนบ้านนอกก็แบบนี้ ไม่ค่อยมีทรัพย์มากมาย ลงทุนกับการเรียนจบแล้วก็ต้องรีบทำงาน"เราก็กะว่าจะหาแถวนี้หล่ะจะได้ดูแลพ่อกับแม่ด้วย ทีแรกรู้ว่าเราเรียนจบแล้วเราจะมาดูแลย่าที่โรงพยาบาลเพราะย่าก็นอนโรงพยาบาลมาได้สักปีแล้วล่ะ ก่อนที่ท่านจะเสียนะแต่ตอนนี้ก็เหลือแต่พ่อกับแม่แล้ว"ปลายฝันกล่าวขึ้น ทั้งสองช่วยกันจัดโน้นจัดนี่บ้าง บางครั้งก็เข้าครัวเพื่อจะทำอาหารบ้าง ช่วยหั่นผักล้างจานที่แขกมาช่วยงานกินเสร็จ จึงทำให้ไม่มีเวลาที่จะให้พวกญาติๆสอบถามเรื่องส่วนตัวของปลา
สงสัย"พ่อแม่เลี้ยงคนนั้นเขาเป็นใครหรือ ทำไมเขาสนใจในตัวหนูจังแล้วก็มาพูดกับหนูแปลกๆว่าเขารู้จักกับย่าและเขาก็สนิทกับย่าด้วย แล้วเขาก็พูดว่าเดี๋ยวเสร็จงานส่งย่าแล้วเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน หนูก็ไม่ได้สอบถามเขาหรอกว่าคุยเรื่องอะไร"ปลายฝันเดินมาถามพ่อ"แม่เลี้ยงคนนั้นก็ชื่อนวลจันทร์ไง เขาเป็นผู้ที่ออกค่ารักษาให้ย่าแกจนถึงวินาทีสุดท้าย พ่อก็เพิ่งจะรู้เมื่อไม่กี่วันนี้เองตอนพ่อได้เก็บจดหมายของย่าแกเมื่อครั้งที่มาจัดงานศพแล้ว ก็มีผู้คนช่วยเก็บของและจดหมายถึงเอามาให้พ่อเพราะข้างในมันเกี่ยวกับแม่เลี้ยงนวนจันทร์แล้วก็ย่าแก พ่อจึงโทรบอกเขาเพื่อมาล่ำลาย่าแกเป็นครั้งสุดท้าย เอาเป็นว่าเสร็จสิ้นงานแล้วเดี๋ยวเราก็มาเปิดจดหมายอ่านกันตอนนี้ไปช่วยทางโน้นเขาจัดการในครัวก่อนเถอะ อีกไม่เท่าไรพระสวดก็จะสวดแล้ว แล้วเรื่องซองพระสวดนะไปดูแม่ด้วยว่าจัดการแล้วหรือยัง เดี๋ยวพ่อจะไปดูที่จอดรถเห็นว่าเมื่อคืนมีที่จอดรถไม่พอ"พ่อรีบกล่าวขึ้นแล้วจากไป ปลายฝันก็เร่งรีบที่จะไปทำงานของตนเหมือนกันจึงไม่ได้สนใจอะไร คนที่พ่อเรียกว่าแม่เลี้ยงกับพ่อเลี้ยงนั้นกลับได้ตอนที่พระสวดเสร็จแล้ว และวันต่อมาก็มานั่งฟังพระสวดอีกแต่วั
"สวัสดีค่ะ"ปลายฝันกล่าวขึ้นและยกมือไหว้เมื่อมาถึงพ่อกับ แขกทั้งสอง"สวัสดีจร้า"เสียงผู้หญิงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเอ็นดู แต่ที่เป็นผู้ชายคนข้างๆกลับมองมาเฉยๆไม่ได้กล่าวอะไรออกมา"พึ่งจบมหาลัยสินะ ป้าว่าอยากชวนหนูไปทำงานอยู่ที่เชียงใหม่ สนใจหรือป่าวล่ะ"แม่เลี้ยงถามขึ้นอย่างเอาใจเด็ก พลางหันไปมองลูกชายที่ทำสีหน้าราวแบกโลกเอาไว้"หนูเพิ่งเรียนจบยังไม่มีประสบการณ์ทำงานนะค่ะ หนูว่าจะสมัครงานแถวนี้ดูก่อน เผื่อได้จะได้ดูแลพ่อแม่ด้วย"ปลายฝันปฏิเสธออกไป "ลองคิดดูก่อนก็ได้นะปลายฝัน ตาพงษ์คุยกับลูกสาวแล้วหรือ"แม่เลี้ยงกล่าวขึ้น"ยังเลยครับแม่เลี้ยง ยังไม่มีเวลาคุยกันเลย ผมว่าจะจัดการเรื่องคุณแม่เสร็จก่อนและจะเรียกญาติๆทุกคนมาและเปิดจดหมายคุณแม่ให้ทุกคนอ่านครับ ส่วนเรื่องปลายฝันผมก็ต้องคุยกับเขาก่อนอยู่แล้ว"พ่อของปลายฝันกล่าวขึ้น พลางมองหน้าลูกสาวยิ้มๆ"เรื่องอะไรหรือพ่อ"ปลายฝันถามขึ้น"มันมีเรื่องที่คุณย่ารับปากแม่เลี้ยงเอาไว้นะ ว่าจะให้ลูกแต่งงานกับลูกแม่เลี้ยง"ผู้เป็นพ่อกล่าวขึ้นแบบยิ้มๆเล็กน้อย"อะไรนะค่ะ"ปลายฝันพูดขึ้นอย่างตกใจ จนทำให้คนอื่นหันมามอง ที่แรกหลายๆคนก็สนใจผู้หญิงกับผู้ชา
เมื่อกลับไปถึงโรงแรมที่พักผู้เป็นลูกก็เรียกแม่เพื่อที่จะคุยเรื่องแต่งงานนี้"แม่ก็ดูท่าทีเด็กนั้นก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับผมเสียหน่อยแม่ลองเอาแบบนี้ดีไหมล่ะ ให้เขาติดหนี้เราไปก่อนถ้าเขายังไม่มีเงินจ่ายแล้วค่อยทยอยจ่ายภายหลังไม่ใช่ไปบังคับให้เขาแต่งงานแบบนั้นผมรู้สึกสงสารเขานะแม่"ตะวันพูดขึ้นเพราะตัวเองก็ไม่ต้องการที่จะถูกบังคับแต่งงานแต่อย่างใด แต่เรื่องเงินนั้นสำคัญเพราะว่าแม่บอกว่าถ้าเขาไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ แม่ก็จะไม่ให้เงินเขาใช้ ส่วนไร่ที่ตนเป็นคนทำนั้นเขาเองก็ไม่ได้รับเงินอยู่แล้ว แม่คอยจ่ายค่าคนงานในไร่ให้และจัดแจงค่าใช้จ่ายทุกอย่างรวมไปถึงรายเดือนที่ตะวันเองใช้จ่ายด้วย ซึ่งถ้าตนไม่มีเงินส่วนที่แม่ก็จะไม่มีเงินลงทุนผับที่ตัวเองแอบเปิด แต่ถ้าได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้แม่บอกว่าจะยอมให้เขาลองบริหารเงินของตัวเอง ตนจึงต้องตอบตกลงและตามแม่มาที่นี่"แกสงสารเขาหรือ ยิ่งแก่สงสารเขาแกก็ต้องรีบแต่งงานกับเขาเพื่อที่จะได้ยกฐานะของครอบครัวเขาให้สูงขึ้น เพราะถ้าเขาแต่งงานกับแกแล้วแม่ก็มีเงินให้กับครอบครัวเขาโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ถ้าให้ไปฟรีๆเขาก็จะคิดมาก ครอบครัวเราก็มีพร้อมแล้วแกเองก็จะ
เช้าวันต่อมาเป็นวันที่ทุกคนตื่นเช้าเพราะต้องไปเตรียมของที่วัดปลายฝันกับต้นข้าวรีบเดินทางไปวัดตั้งแต่ยังไม่ 6 โมงเพราะแม่บอกว่าให้ปลายฝันไปดูเรื่องอาหาร เตรียมของในครัวสำหรับพระทั้งหมด 9 ชุด และของแขกแขกที่มาอีก วันนี้น่าจะมีผู้มาเยอะอยู่ ส่วนต้นข้าวแม่ก็ให้ไปช่วยตรวจนับของที่ระลึก เพราะหลานของย่าลูกของป้ากับอานั้นเป็นผู้ชายจึงไม่ได้เข้ามาช่วยกันทำส่วนนี้ เพราะต้องไปเตรียมโกนผมแต่เช้าเพื่อที่จะบวชจูงย่า หน้าที่นี้เลยเป็นของลูกหลานที่เป็นฝ่ายหญิงซึ่งมีปลายฝันคนเดียวดีหน่อยที่ปลายฝันพาเพื่อนมา แม่จึงถือว่าต้นข้าวเป็นลูกอีกคน พ่อของปลายฝันไม่มีลูกชายตัวเองจึงต้องบวชเพื่อจูงแม่ พ่อของปลายฝันก็ไม่ได้เขามาช่วยส่วนนี้อีกแล้ว เรื่องรถก็ให้อาพจน์ทำต่อ ในเช้าวันนี้เสียงเปิดเครื่องเสียงแต่เช้าเป็นการเตือนให้หลายบ้านที่อยู่ใกล้เคียงรู้ว่าจะมีงานฌาปนกิจในวันนี้ ผู้ที่สนิทสนมกับผู้วายชนม์ก็จะมาช่วยกันจัดเตรียมของแต่เช้าส่วนผู้ที่ไม่ค่อยสนิทมากนักก็จะมารับประทานอาหารในเวลาสายๆ ย่าของปลายฝันน่าจะมีคนที่สนิทพอสมควรเพราะตอนที่จัดเตรียมอาหารในครัวก็มีคนมาช่วยอยู่มากโข และจุดนับของชำร่วยเองก็มีคนอยู่เยอะเ
เมื่องานฌาปนกิจของคุณย่าเสร็จสิ้นแล้ว พ่อของปลายฝันก็หยิบจดหมายของคุณย่าที่ฝากถึงพ่อไว้มาให้ปลายฝันและคุณแม่อ่าน เนื้อความในจดหมายเขียนไว้ว่า"แม่เป็นหนี้แม่เลี้ยงเป็นจำนวนเงินทั้งหมดเกือบจะสามล้านแล้ว แม่เลี้ยงใจดีที่ยื่นมือเข้ามาช่วยในการรักษาของแม่ให้แม่ดีขึ้น ณ วันนี้ แม่เลี้ยงเขาไม่ได้คิดว่ามันเป็นเงินที่แม่ไปติดหนี้เขา เพราะแม่เคยช่วยชีวิตพ่อของเขาไว้ แต่ที่แม่ช่วยชีวิตพ่อของเขานั้นแม่ไม่ได้เสียเงินสักบาท แถมตอนที่จากมาแม่ของแม่เลี้ยงเองก็ให้เงินแม่มาก้อนนึงแล้ว แต่แม่เลี้ยงนวลจันทร์ผู้นี้ก็ยินดีที่เข้ามาช่วยแม่ จึงถือว่าเขามีบุญคุณต่อแม่ถ้าพวกแกทั้งสาม หาเงินคืนเขาได้แม่ก็จะไม่ว่า แต่ถ้าถึงเวลาที่ไม่มีแม่จริงๆแล้วพวกแกยังหาเงินคืนแม่เลี้ยงไม่ได้แม่อยากจะขอร้องแกสักหน่อยนะพงษ์ ยกลูกสาวแกให้แต่งงานกับลูกของแม่เลี้ยงได้ไหม แม่เลี้ยงเขาเอ็นดูและชอบลูกสาวแกมาก ครั้งที่แม่เขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมาเขาก็ยังเล่าสารพัดสารเพเขาชอบปลายฝัน ถ้ามันไม่เหนือบ่ากว่าแรงจริงๆแม่อยากจะขอร้องแกนะพงษ์"จดหมายของคุณย่ามีแค่นี้ซึ่งก็เป็นตามที่ต้นข้าวเคยเกริ่นเอาไว้ว่าน่าจะเป็นเรื่องเงินซึ่งบ้านเราไม่มีเ
เมื่อคนของแม่เลี้ยงลากปลายฝันเข้าห้อง ก็ทิ้งปลายฝันไว้ตรงประตูห้องโดยที่พวกเขาไม่ได้เข้าห้องเลยแม้แต่นิดเดียวเขาทิ้งปลายฝันไว้อย่างนั้น โดยที่ไม่ได้ลากปลายฝันขึ้นเตียงพวกเขาจึงไม่รู้ว่าในห้องนั้นมีคนอยู่แล้ว พวกเขาก็ล็อคห้องไป หลังจากที่ปลายฝันรู้สึกตัวก็รู้สึกร้อนๆเขาจึงพยายามดึงเสื้อของตัวเองออกแล้วก็แนบกับพื้นห้องที่เย็นๆรู้สึกดีขึ้นไม่น้อย ปลายฝันต้องการน้ำเขาต้องการเข้าไปในห้องน้ำเพื่อแช่น้ำให้ตัวเย็นขึ้นปลายฝันถึงเดินสะเปะสะปะแต่ก็ไปสะดุดอยู่ที่เตียงจึงลมลงและก็ทับไปบนตัวของตะวันที่ตัวเย็นจากการตากแอร์อยู่ ตะวันเองไม่ชอบใส่เสื้อนอนอยู่แล้วพอร่างที่ร้อนของปลายฝันถูกกับความเย็นของตะวันเธอก็ได้ใจ ความแนบชิดของทั้งสองที่ไม่รู้ตัว ฤทธิ์ยาในตัวของปลายฝันก็รุนแรงมากขึ้นทำให้เธอร้อนรนไปหมด ประจวบด้วยที่เธอต้องการความเย็นในตัวตะวัน ทางด้านตะวันก็สลึมสลือด้วยความเมาเมื่อร่างอุ่นๆเข้ามาปะทะก็เกิดความรู้สึกดี หญิงสาวที่อยู่ไม่สุขถูไถไปบนร่างชายหนุ่ม ทำให้ชายหนุ่มที่หลับอยู่ดีๆก็ฟุ้มซานขึ้น ขนาดนอนอยู่ยังฝันดีขนาดนี้ ปากของทั้งคู่ประกบกันทำให้ตะวันตื่นเต็มตาพร้อมด้วยแรงปรารถนาในกายก็ตื่นขึ้น
"เมื่อกี่เห็นพ่อเลี้ยงนั่งอยู่ข้างบนนั้นมองมาที่พวกเราด้วย พอเขาเห็นเราเขาก็หันหน้าหนีไป เขาไม่ต้องการให้เราเห็นหรือว่าอะไรอะต้นข้าว"ปลายฝันถามเพื่อนอย่างไม่ค่อยเข้าใจ"คนข้างบนคือพ่อเลี้ยงตะวันหรือที่นั่งกับบอสมานพอะนะ เข้ารู้จักกันหรือ"ต้นข้าวถามขึ้นอย่างอยากรู้ แต่คนที่นั่งกับบอสนั้นก็มองปลายฝันเหมือนสนใจอยู่นะ ใช่พ่อเลี้ยงของปลายฝันจริงๆหรือ"แกรู้จักคนนั้นด้วยหรือ สงสัยจะมาปรึกษากันเรื่องไร่แน่เพราะว่าเดือนหน้าพ่อเลี้ยงก็ต้องจ่ายเงินคนงานที่ไร่เองแล้วเขามีที่ปรึกษาดีก็ดีแล้วแหละ"ปลายฝันพูดขึ้น"ทั้งสองจะมีเรื่องปรึกษาอะไรกันล่ะในเมื่อบอสมานพก็ทำงานอยู่ที่นครพนมส่วนพ่อเลี้ยงก็ทำงานอยู่เชียงใหม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันหรือ"ต้นข้าวถามขึ้น"เราว่าเหมือนท่าทางเขาจะเป็นเพื่อนกันนะ เหมือนจะสนิทสนมกันยังไงก็ไม่รู้ที่เราแอบมองอะนะ แต่ช่างเถอะยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับเราหรอกเนาะ"ปลายฝันพูดขึ้น"ออกไปจากนี้แล้วก็กลับกันเถอะนี่มันก็ดึกมากแล้วแหละเกือบจะตีสองแล้วผับปิดกี่โมงนะ ไม่รู้ว่าพี่ชาติจะขับรถเข้าไร่ได้หรือเปล่าเดี๋ยวพ่อเลี้ยงนั่นแหละเขาจะกลับไร่พร้อมแกไหม"ต้นข้าวพูดขึ้น"ไม่หรอกพ่อเ
ตอนเช้าปลายฝันกับต้นข้าวตื่นขึ้นก็ต้องรีบไปทำกับข้าวให้พ่อเลี้ยงและก็พากันนำกับข้าวไปใส่บาตที่วัดใกล้ๆก่อนที่จะไปเที่ยวกันต่อ ทั้งสี่ไปเที่ยววัดกันสักพักก็เตรียมตัวไปที่ผับเพราะการเดินทางจากทางไร่ไปหาตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เวลาพอสมควร พวกเขาพากันแวะนมัสพระที่วัดโมฬีกับวัดป่าดาราภิรมย์เท่านั้น และก็ไปยังตัวเมืองเชียงใหม่เลยแต่ก็เป็นเวลาเย็นแล้ว ทีแรกทั้งสี่จะเข้าไปในผับทั้งสี่คนเลย แต่พอจะเข้าผับพี่พลอยก็เห็นรถของพ่อเลี้ยงตะวันจึงขอตัวไปหาโรงแรมพักรอทั้งสองคน พอทั้งสองเข้าไปก็เห็นเพื่อนๆหลายๆคนอยู่ที่นั้นแล้ว น้ำมนต์มากับพี่กายและเพื่อนพี่กายอีกคน และพี่ท๊อป ส่วนเมษากับนฤมลน่าจะมากับแฟน"มาเร็วปลายฝัน ต้นข้าว ทางนี้พวกเรารออยู่"นฤมลเรียกทั้งสอง"อ้าวปลายฝันเห็นแต่งงานแล้วนิ ไม่พาสามีเธอมาด้วยล่ะ แต่งกับใครนะเราก็จำไม่ได้แต่เห็นจัดงานใหญ่โตเลย แถมไม่ชวนพวกเราด้วยนิ"น้ำมนต์พูดขึ้น ทำให้คนทั้งสองที่พึ่งเดินเขามาอึดอัด ความจริงทั้งสองไม่คิดว่าทุกคนจะพาแฟนมาด้วย"ก็แต่งงานแล้วนั่นแหละแต่ไม่คิดว่าทุกคนจะพาคนอื่นมาด้วยนี่นึกว่าจะมาแค่เพื่อนเราเท่านั้น"ต้นข้าวพูดขึ้น"ต้นข้าวแกว่าใครคนอื่นนี่ก
พอถึงวันหยุดยาวของปีใหม่จริงๆตะวันก็เกิดความเครียดด้วยเรื่องของเงินที่ไม่มีจ่ายให้คนงานในเดือนหน้า ดีหน่อยที่ปลายปีนี้แม่ของเขาได้จ่ายเงินเดือนพร้อมกับโบนัสให้คนงาน ทุกคนรวมกับเขาแล้ว ตอนนี้ถึงแม้ผับกำลังจะไปได้สวยแต่การลงทุนมันยังต้องการเพิ่มอยู่มาก เขาไม่สามารถเอาเงินส่วนนี้ออกไปจ่ายค่าคนงานในไรได้เลย เขาต้องการปรึกษาสักคนที่ไว้ใจได้ เขามีเพื่อนแค่คนเดียวคือมานพซึ่งมานพนั้นก็ไม่ต่างจากเขาสักเท่าไรต่างกันตรงที่มานพเคยบริหารตัวเองแล้วล้มเหลวจนต้องให้ผู้เป็นแม่คอยชักจูงตลอดซึ่งตอนนี้มานพมีบริษัทเป็นของตัวเองซึ่งอยู่ที่นครพนมถึงแม้จะเป็นเจ้าของบริษัทแต่เขาก็ทำงานไม่ต่างจากตนเลยสักนิด เขาจึงนัดมานพมาคุยกับเขาในผับตอนสิ้นปี"ว่ายังไงร้อยวันพันปีไม่เคยจะคิดโทรมาหากูวันนี้มีเรื่องอะไรหรือ"มานพถามเพื่อนรักขึ้น"กูมีปัญหานิดหน่อยว่ะตอนนี้กูกำลังทำผับเองที่เมืองเชียงใหม่ แต่กูมีปัญหาเรื่องการเงินซึ่งกูไม่ใช่ว่าจะทำผับอย่างเดียว ต้องทำไร่ส้มด้วยและแม่เลี้ยงก็ให้เงินมาก้อนหนึ่งแล้วกูก็ไปลงผับหมดเลย แล้วซึ่งกูคิดว่ามันจะได้กำไรมาจ่ายค่าแรงของคนงานในไร่ แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้วกูได้แค่ทำงานในผับวนอย
เมื่อของขวัญรับรู้เรื่องสิตาทำงานพลาดก็โกรธ สิตาไม่ได้ทำงานพลาดธรรมดา แต่เขาโง่เองที่ไม่รู้ว่าปลายฝันไม่เคยไปยุ่มย่ามในห้องของตะวันเลย ส่วนสิตาน่าจะคิดไม่ทันเพราะเขาสั่งไปแบบนั้น แต่ยังไงก็โทษสิตานั้นแหละที่โง่"ตะวันค่ะสิ้นปีนี้ขวัญจะกลับไปอยู่ที่ไทยแล้วนะค่ะ แล้วคุณกับเด็กนั้นจะหย่ากันตอนไหนห รือค่ะ ถ้าขวัญกลับไปจะได้อยู่กับคุณหรือป่าวค่ะ"ของขวัญกล่าวขึ้นเมื่อโทรหาตะวัน"คุณจะกลับมาทั้งครอบครัวเลยหรือป่าวครับ"ตะวันถามขึ้น"ค่ะ ขวัญจะกลับไปทั้งครอบครัวเลย"ของขวัญตอบ เขาเองก็ไม่อยากจะหลอกตะวันแล้วว่าเขาไปอยู่ต่างประเทศกับพ่อแม่ ทั้งที่พ่อแม่เขาอยู่ที่ไทย"ครับงั้นคุณกลับมาก็อยู่กับพ่อกับแม่คุณสิครับ คุณก็รู้นิเรื่องแม่เลี้ยงไม่ให้คุณเข้าไร่"ตะวันพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ เพราะตัวเขาเองรู้ดีว่าเรื่องที่สิตาทำนั้น เป็นสิ่งที่ของขวัญเองให้สิตาทำเอาจริง ๆ สิตาไม่ได้มีปัญหาอะไรกับปลายฝันเลยแม้แต่น้อย และถ้าให้สิตาทำเอง สิตาคงจะคิดให้ดีกว่านี้เพราะเขาเองก็รู้ว่าปลายฝันไม่เคยเข้าห้องตะวันเลย ทำแบบนี้มันก็จะจับได้อยู่ดี"ตะวันค่ะ เหมือนคุณจะไม่รักขวัญแล้วนะคะ ไหนคุณว่าจะทำอะไรเพื
ตั้งแต่เหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นปลายฝันก็ไม่ได้เข้าออฟฟิตอีกเลย เหมือนเขาจะพยามยามหลบหน้าพ่อเลี้ยงอีกด้วย กิจวัตประจำวันของเขาคือทำกับข้าวเช้าเย็น และตอนกลางวันทำงานในไร่ ปลายฝันไม่เคยกินข้าวเที่ยงที่ทางไร่ทำขึ้นให้เลย เธอจะห่อข้าวไปกินใต้ต้นส้มคนเดียวทุกวัน คนงานทุกคนในไร่ปฎิบัติกับเขาดีขึ้นทุกคน ปลายฝันตั้งใจทำงานของตัวเองจึงทำให้ทุกคนใจไร่เห็นใจกว่าเดิมอีก พ่อเลี้ยงตะวันพยายามที่จะขอโทษปลายฝันอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล อาจเป็นเพราะพ่อเลี้ยงไม่เข้าหาปลายฝันเองด้วย และปลายฝันก็หลบหน้าพ่อเลี้ยง เมื่อตำแหน่งบัญชีของไร่ว่างและรอปลายฝันเข้ามาทำ แต่ปลายฝันก็ปฏิเสธที่จะทำเพราะเมื่อเดือนที่แล้วมีปัญญากับพ่อเลี้ยง แม่เลี้ยงจึงสั่งให้พนักงานบัญชีจากไร่ใหญ่เข้ามาทำให้ โดยไม่ให้คนงานต้องรอเงินเดือนเพียงเพราะเจ้าของไร่ทั้งสองทะเลาะกัน ทำให้พ่อเลี้ยงไม่พอใจอย่างมากแทนที่แม่เลี้ยงจะสั่งให้ปลายฝันเข้ามาทำบัญชีแต่กลับให้คนของตัวเองมาทำ เหมือนแม่เลี้ยงไม่ปล่อยโอกาสให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันเลย ปลายฝันก็พลอยหลบหน้าพ่อเลี้ยงตะวันตลอด ถึงงานจะทำได้ดีแต่ไม่ปล่อยโอกาสให้พ่อเลี้ยงเข้าใกล้เพื่อขอโทษจนหนึ่ง
"แม่จะพูดอะไรของแม่ครับ แม่รับไม่ได้หรือที่ลูกสะใภ้สุดที่รักของแม่คิดจะโกงไร่ ซึ่งเป็นเงินของแม่เลี้ยงเองด้วย"ตะวันพูดด้วยความโมโห ตอนนี้มินร้องไห้หนักมาก"วันก่อนตอนกลางคืนปลายฝันได้โทรมาคุยกับแม่เลี้ยงเพื่อที่จะขอร้องให้แม่เลี้ยงจ่ายเงินคนงานทั้งไร่ เพราะแม่ได้โอนให้พ่อเลี้ยงตะวันมาบริหารไร่เองแล้ว แต่พ่อเลี้ยงกลับใช้จ่ายเงินหมด ปลายฝันเองจึงให้แม่เลี้ยงช่วยจ่ายให้ไร่ก่อน และได้ส่งข้อมูลการใช้จ่ายเงินเดือนให้แม่เลี้ยงตอนสองทุ่มครึ่ง แม่เลียงเลยส่งให้ฝ่ายบัญชีไร่ใหญ่เลยตอนสองทุ่มสามสิบห้า แม่เลี้ยงและฝ่ายบัญชีของไร่ใหญ่เช็คตอนแปดโมงจนจะอนุมัติเงินอยู่แล้ว ก็มีอีเมลของไร่ตะวันรายงานรายจ่ายเข้าไปอีกตอนแปดโมงครึ่งทำให้ฝ่ายบัญชีเกิดกการสับสน แม่เองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงได้โทรมาถามพ่อเลี้ยงตะวัน เพราะแม่เลี้ยงคิดว่า พ่อเลี้ยงตะวันต้องใช้เงินส่วนนี้ทำอะไรโดยที่ปลายฝันไม่รู้หรือป่าว เพราะปลายฝันรายงานจำนวนเงินก่อนหน้านี้แล้ว และอีกห้าหมื่นนั่นต้องอนุมัติภายหลังแม่เลี้ยงแค่โทรมาถาม แม่เลี้ยงไม่คิดเลยว่าเหตุการจะเลยเถิดขนาดนี้ ถ้าแม่เลี้ยงไม่จัดการอะไรเลยทุกคนก็จะคิดว่าเป็นความผิดของปลาย
แม่เลี้ยงแค่ตรวจสอบก็พบว่าเมล์ที่ส่งมาตอนแปดโมงครึ่งนั้นถูกทำใหม่และส่งมาที่ไร่ใหญ่ และปลายฝันเองไม่มีเมล์ของไร่ซึ่งอันนี้ต้องเป็นพนักงานบัญชีของไร่ตะวันที่ทำมาส่ง แต่ที่ปลายฝันส่งให้ตอนกลางคืนที่คุยกันเสร็จมันอันที่ไร่ตะวันส่งมาให้ไร่ใหญ่ตอนบ่ายๆ และวันนี้ปลายฝันไม่ได้เข้าไร่เพราะตะวันให้พักผ่อนอยู่ที่บ้าน ต้องเป็นคนที่อยู่ในออฟฟิตที่ส่งมาให้ไร่ใหญ่เป็นแน่ เรื่องนี้ต้องมีอะไรสักอย่างเป็นแน่ แม่เลี้ยงเลยตรวจดูบัญชีเก่าๆก็ไม่พบสิ่งที่ผิดพลาดใดๆ ไม่มีการรายงานเงินเกิน จึงคิดที่จะสืบดูข้อมูลส่วนตัวของผู้ที่ทำบัญชีของไร่ตะวัน คนนี้ก็เคยทำงานมาสักพักใหญ่แล้วนิ แม่เลี้ยงจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและพิมข้อความอะไรสักอย่าง และวางโทรศัพท์ลง"ครับแม่เลี้ยง"เสียงตนสายเอ่ยขึ้น"ใครทำบัญชีให้ไร่ตะวัน ทำไม่เดือนนี้เกิดผิดพลาดขึ้นได้"แม่เลี้ยงถามขึ้น"ทุกที่จะเป็นคุณมินครับแต่เห็นเมื่อวานคุณปลายฝันมาทำให้ และคุณมินก็หยุดงานไปครับ ผมก็รู้แค่นี้ครับ"เสียงคนรายงานให้แม่เลี้ยงรู้"วันนี้ปลายฝันไม่ได้เข้าไร่หรอ"เสียงแม่เลี้ยงถามขึ้น"ไม่เห็นคุณปลายฝันเข้ามานะครับ และช่วงเกือบเที่ยงเห็นพ่อเลี้ยงรีบๆขับร
เช้าวันต่อมาปลายฝันก็ทำอาหารแต่เช้าพอเสร็จสิ้นก็ตั้งใจจะออกไปไร่เลย วันนี้เธอรู้สึกแปลกๆ ตาขวากระตุกแปลกๆ พอเธอจะอาศัยรถกระบะคนงานรอบเช้าไปด้วย คนงานก็บอกว่าให้ปลายฝันรอพ่อเลี้ยง เพราะพ่อเลี้ยงต้องการคุยด้วย พอปลายฝันพบกับพ่อเลี้ยงแล้วพ่อเลี้ยงก็บอกข่าวดี เรื่องที่แม่เลี้ยงจะจัดการเรื่องการเงินให้และวันนี้ให้ปลายฝันหยุดพักผ่อน พรุ่งนี้ค่อยไปทำงาน พอพ่อเลี้ยงออกไปไร่ก็พบว่าวันนี้มินกลับมาทำงานแล้ว มินมองซ้ายมองขวาไม่เห็นปลายฝันก็อดเสียใจเล็กน้อย เขาต้องการเห็นปลายฝันที่เมื่อวานทำบัญชีไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง เขาไม่ได้ให้อีเมลไร่ใหญ่ไปปลายฝันไม่น่าจะส่งข้อมูลให้แม่เลี้ยงได้ เขาเลยแปลงข้อมูลนิดหน่อยและส่งให้แทน ปกติต้องส่งรายจ่ายตั้งแต่เมื่อวานเพราะว่าวันนี้แม่เลี้ยงต้องจัดการ และวันสิ้นเดือนเงินก็เข้าบัญชีพนักงานทุกคน"วันนี้พนักงานบัญชีคนใหม่ไม่มากหรือค่ะพอดีว่ามินไม่ได้สอนงานน้อง น้องน่าจะยังไม่ได้ส่งเมลให้แม่เลี้ยงตั้งแต่เมื่อวานแน่เลยคะ ครั้งนี้เงินอาจจะออกล่าช้า พ่อเลี้ยงต้องแจ้งพนักงานล่วงหน้าหรือป่าวคะ"มินพนักงานบัญชีภายในไร่ถามขึ้น"คงส่งไปแล้วล่ะ วันนี้ปลายฝันไม่ได้เข้าไร่หรอก เด