3สอดรู้สอดเห็น
"ยัยต้นข้าวนี้มันเล่นตัวนักนะ อุตส่าห์หาผู้ชายให้ทั้งคน ใครนะที่พี่ท๊อปบอกนั่น ชื่ออะไรนะ"
น้ำมนต์กล่าวขึ้นหลังได้ฟังพี่กายเล่าให้ฟังว่าเพื่อนสาวทำแสบมาก
"บิัวตี้เป็นกระเทยที่อยู่ใกล้ๆกับผับที่เราเข้านั้นแหละ หลอกให้ไปส่งยัยต้นข้าว และขับอ้อมเมืองเพื่อมาส่งนางที่หอข้างผับ ตลกไหมล่ะเพื่อนเธอ"
กายพูดขึ้น
"บิ้วตี้นี้มันเพื่อนปลายฝันนิไปรู้จักกับต้นข้าวได้อย่างไรกัน หรือยัยปลายฝันมันไม่ได้กลับบ้านมันจริงๆแต่ไม่อยากไปกินเลี้ยงกับเราเลยไปอยู่กับบิ้วตี้แล้วให้บิ้วตี้มาป่วนพี่ท๊อปเพราะมันรู้เรื่องของเราจากต้นข้าว แล้วไม่พอใจ แน่ทำไมสองคนนี้ร้ายจัง"
น้ำมนต์กล่าวออกไปเพราะตัวเองคิดแบบนั้น
"ปลายฝันเราขอบคุณแกเรื่องเมื่อคืนด้วยนะที่บอกให้บิวตี้มาส่งเรานั่นนะ แล้วเรามีอะไรจะเล่าให้เธอฟัง"
ต้นข้าวพูดคุยกับปลายฝันทางโทรศัพท์
"จร้ามีอะไรหรือป่าว บิ้วตี้เองก็บอกว่าไม่ได้อะไรมากหรอกได้นั่งรถชมเมืองอีกด้วย"
ปลายฝันถามขึ้น
"เรื่องของเพื่อนๆเรานั้นแหละเราว่า เขาไม่ได้โอเครกับเราตั้งแต่แรกแล้วป่ะ อันนี้เราไม่ได้จะปั่นอะไรนะ เรื่องเมื่อคืน ทุกคนพาแฟนมาหมดและมีผู้ชายเพื่อนพี่กายอีกสองคน ซึ่งมองๆแล้วคือหามาให้เราสองคนนั้นแหละ เราก็เคยบอกแล้วว่าเราเด็กบ้านนอกไปอยากสนใจคนในเมือง เพราะถ้าเราเรียนจบก็ต้องกลับบ้านอยู่ดี เราไปหาคนที่จริงใจแถวบ้านเราไม่ดีกว่าหรือ แล้วไอ้พี่ท๊อปนั้นตัวอย่างพ่อเลย ใครๆก็รู้ประวัติดียังจะมาเสนอให้เพื่อนอีก แล้วทำไมมันไม่เอากันเองก็ไม่รู้"
ต้นข้าวพูดอย่างเดือดดาล
"แกก็ใจเย็นๆนะ เราคนบ้านนอกก็งี้แหละพวกเขาคบก็เพราะหวังให้ช่วยเรื่องเรียน เพราะคนบ้านนองแบบเราจำเป็นต้องขยันเรียน"
ปลายฝันกล่าวขึ้น เพราะตัวเองก็พอรู้อยู่บ้างแล้ว
"แต่มันยังไม่หมดนะสิ เรื่องย่าแกเราก็พูดกับทุกคน เขาก็มาบอกกับเราว่า แกบองเราแค่คนเดียวก็ไปคนเดียวสิ คือฟังแล้วโมโหอ่ะ ทีแรกไม่อยากจะเล่าให้แกฟังหรอกนะ แต่มันยอมไม่ได้เพราะมันทำกับเราแบบนี้เราไม่อยากจะให้เพื่อนทะเลาะกันหรอก แต่เราอยากบอกให้เธอรู้นิสัยของเพื่อนให้รู้บ้าง"
ต้นข้าวพูดด้วยความอัดอั้น
"ช่างเถอะแกคนเราก็ดูกันช่วงเวลานี้แหละ และอีกอย่างพวกเขาไม่สนใจอะไรพวกเรา พวกเราก็อยู่กันได้เพราะพวกเราอยู่ไกลกับพวกเขาแล้ว และเราว่าเราจะหางานทำแถวบ้านนี่แหละ"
ปลายฝันกล่าวขึ้น ยังไม่คิดที่จะเอามาใส่ใจเพราะเพื่อนพวกนี้เขารู้นานแล้วว่าเป็นคนอย่างไร
"เดี๋ยวเราเจอกันก็แล้วกัน เก็บของขึ้นรถก่อนนะ"
ต้นข้าวกล่าวขึ้นและวางสายไป ปลายฝันไม่ได้ลุกขึ้นไปไหนนั่งอยู่ที่เดิมตัวเขาเองเหม่อลอยกำลังมองแมวสองตัวกัดอยู่ แมวตัวหนึ่งกัดตัวหนึ่งก็เอาแต่วิ่งหนีแต่พอวิ่งทันกันแล้ว ตัวที่วิ่งหนีกลับวิ่งไล่อีกตัว ดูแล้วช่างมีความสุขเสียเหลือเกิน
"ปลายฝันมัวทำอะไหร่อยู่มาช่วยพี่ห่อเหรียญโปรยทานดีกว่า"
เสียงเล็กแหลมดังขึ้น
"จร้าพี่"
ปลายฝันก็มานั่งห่อเหรียญโปรยทานกับพี่ๆ ญาติของพ่อ
"ปลายฝันพึ่งเรียนจบหรือมีแฟนหรือยังล่ะ แล้วคิดว่าอยากทำงานอะไรดี แถวนี้ให้พ่อพี่ฝากให้สิพ่อพี่รู้จักคนเยอะเลย"
พี่สาวลูกพี่ลูกน้องฝ่ายทางพ่อถามขึ้น ซึ่งเป็นคำถามที่ปลายฝันคิดว่าเสียมารยาทอยู่บ้าง ปลายฝันไม่ได้ตอบอ่ะไร ตัวเธอเองแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินและตั้งหน้าตั้งตาทำตามพี่คนที่นั่งข้างๆ เมื่อการสนทนาไร้ผู้ตอบทุกคนจึงหันไปมองผู้ที่กำลังถูกถาม จึงเห็นเป็นตาเดียวกันว่าปลายฝันนั้น กำลังมองคนข้างๆและทำตามอย่างตั้งใจ ผู้ที่ถามจึงเกิดความหงุดหงิดนิดหน่อยจึงแก้เขินด้วยการคุยกับคนอื่นแทน ปลายฝันก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ตั้งใจมองคนข้างๆและทำตามในที่สุดก็เสร็จแลัวหนึ่งอันจนได้
"น้องปลายฝันห่อเหรียญโปรยทานไม่เป็นหรือจ๊ะ ถึงได้ดูพี่อย่างตั้งใจขนาดนั้น แต่ก็เก่งนะทำรอบเดียวก็เป็นเลย'
ลูกพี่ลูกน้องคนที่ปลายฝันถามขึ้น
"หนูทำไม่ค่อยเป็นหรอกค่ะ ถ้าไม่ดูก็ทำไม่ได้เลย เดี๋ยว อันต่อไปหนูก็ขอดูพี่อีกนะคะเพราะถ้าจะให้ทำเลยก็น่าจะทำยังไม่ได้ เพราะเมื่อกี้ก็ตั้งใจดูแต่น่าจะจำยังไม่ได้ขอหนูดูอีกสักรอบสองรอบนะคะ"
ปลายฝันกล่าวเพื่อขอตั้งใจดูอีก จะได้หลุดออกจางวงสนนาในครั้งนี้
"ดูไปหลายๆรอบก็ได้จ้ะแต่ทำครั้งแรกก็สวยแล้วนะ แล้วก็ความจำหนูก็น่าจะดีอยู่เพราะว่าพี่ก็ทำปกติหนูก็ยังทำตามได้"
ลูกพี่ลูกน้องกล่าวขึ้น และอันถัดๆไปปลายฝันก็มองพี่คนเดิมและตั้งใจทำเพื่อที่เหรียญโปรยทานจะหมดไวๆเพราะเธอไม่ต้องการที่จะสนทนากับคนอื่นที่ต้องการสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเธอ หลังจากทำเหรียญโปรยทานเสร็จแล้วก็นำถาดที่ใส่เหรียญไปเก็บ ญาติๆทุกคนพยายามรั้งให้ปลายฝันอยู่ต่อ เพื่อต้องการที่จะสนทนาด้วย แต่ปลายฟังก็ปฏิเสธเพราะตนว่าต้องไปดูของฝั่งโน้นเผื่อพ่อของเธอต้องการใช้งานและก็รีบเดินจากไป
4แม่เลี้ยงนวลจันทร์เช้าวันถัดมาต้นข้าวก็มาถึงและขอพักที่บ้านปลายฝันเพราะทางมาจากบ้านตัวเองก็ไกลอยู่พอสมควร และเธอเองกะจะอยู่จนงานจบแล้วค่อยกลับ "ปลายฝันขอแสดงความเสียด้วยอีกรอบนะแก "ต้นข้าวกล่าวขึ้นอีกรอบเมื่อเจอหน้ากันเพื่อน"จร้ารู้แล้วล่ะ แค่แกมาก็ขอบคุณมากแล้ว"ปลายฝันกล่าวขึ้น"เราได้งานที่ตัวอำเภอพอดีพ่อหาไว้ให้นะ แกเสร็จจากงานย่าแก่แล้วก็ลองหาแถวๆนี้ดูนะถ้าไปได้เดียวให้พ่อหาให้ เราว่าอยู่ใกล้บ้านจะได้ประหยัดค่าที่พักและค่าเดินทางด้วย ตอนไปเรียนก็ไปอยู่กรุงเทพใช้เงินเป็นว่าเล่นเลย ต่อไปนี้ก็ต้องหาเงินแล้วล่ะ"ต้นข้าวพูด เรื่องของคนบ้านนอกก็แบบนี้ ไม่ค่อยมีทรัพย์มากมาย ลงทุนกับการเรียนจบแล้วก็ต้องรีบทำงาน"เราก็กะว่าจะหาแถวนี้หล่ะจะได้ดูแลพ่อกับแม่ด้วย ทีแรกรู้ว่าเราเรียนจบแล้วเราจะมาดูแลย่าที่โรงพยาบาลเพราะย่าก็นอนโรงพยาบาลมาได้สักปีแล้วล่ะ ก่อนที่ท่านจะเสียนะแต่ตอนนี้ก็เหลือแต่พ่อกับแม่แล้ว"ปลายฝันกล่าวขึ้น ทั้งสองช่วยกันจัดโน้นจัดนี่บ้าง บางครั้งก็เข้าครัวเพื่อจะทำอาหารบ้าง ช่วยหั่นผักล้างจานที่แขกมาช่วยงานกินเสร็จ จึงทำให้ไม่มีเวลาที่จะให้พวกญาติๆสอบถามเรื่องส่วนตัวของปลา
สงสัย"พ่อแม่เลี้ยงคนนั้นเขาเป็นใครหรือ ทำไมเขาสนใจในตัวหนูจังแล้วก็มาพูดกับหนูแปลกๆว่าเขารู้จักกับย่าและเขาก็สนิทกับย่าด้วย แล้วเขาก็พูดว่าเดี๋ยวเสร็จงานส่งย่าแล้วเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน หนูก็ไม่ได้สอบถามเขาหรอกว่าคุยเรื่องอะไร"ปลายฝันเดินมาถามพ่อ"แม่เลี้ยงคนนั้นก็ชื่อนวลจันทร์ไง เขาเป็นผู้ที่ออกค่ารักษาให้ย่าแกจนถึงวินาทีสุดท้าย พ่อก็เพิ่งจะรู้เมื่อไม่กี่วันนี้เองตอนพ่อได้เก็บจดหมายของย่าแกเมื่อครั้งที่มาจัดงานศพแล้ว ก็มีผู้คนช่วยเก็บของและจดหมายถึงเอามาให้พ่อเพราะข้างในมันเกี่ยวกับแม่เลี้ยงนวนจันทร์แล้วก็ย่าแก พ่อจึงโทรบอกเขาเพื่อมาล่ำลาย่าแกเป็นครั้งสุดท้าย เอาเป็นว่าเสร็จสิ้นงานแล้วเดี๋ยวเราก็มาเปิดจดหมายอ่านกันตอนนี้ไปช่วยทางโน้นเขาจัดการในครัวก่อนเถอะ อีกไม่เท่าไรพระสวดก็จะสวดแล้ว แล้วเรื่องซองพระสวดนะไปดูแม่ด้วยว่าจัดการแล้วหรือยัง เดี๋ยวพ่อจะไปดูที่จอดรถเห็นว่าเมื่อคืนมีที่จอดรถไม่พอ"พ่อรีบกล่าวขึ้นแล้วจากไป ปลายฝันก็เร่งรีบที่จะไปทำงานของตนเหมือนกันจึงไม่ได้สนใจอะไร คนที่พ่อเรียกว่าแม่เลี้ยงกับพ่อเลี้ยงนั้นกลับได้ตอนที่พระสวดเสร็จแล้ว และวันต่อมาก็มานั่งฟังพระสวดอีกแต่วั
"สวัสดีค่ะ"ปลายฝันกล่าวขึ้นและยกมือไหว้เมื่อมาถึงพ่อกับ แขกทั้งสอง"สวัสดีจร้า"เสียงผู้หญิงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเอ็นดู แต่ที่เป็นผู้ชายคนข้างๆกลับมองมาเฉยๆไม่ได้กล่าวอะไรออกมา"พึ่งจบมหาลัยสินะ ป้าว่าอยากชวนหนูไปทำงานอยู่ที่เชียงใหม่ สนใจหรือป่าวล่ะ"แม่เลี้ยงถามขึ้นอย่างเอาใจเด็ก พลางหันไปมองลูกชายที่ทำสีหน้าราวแบกโลกเอาไว้"หนูเพิ่งเรียนจบยังไม่มีประสบการณ์ทำงานนะค่ะ หนูว่าจะสมัครงานแถวนี้ดูก่อน เผื่อได้จะได้ดูแลพ่อแม่ด้วย"ปลายฝันปฏิเสธออกไป "ลองคิดดูก่อนก็ได้นะปลายฝัน ตาพงษ์คุยกับลูกสาวแล้วหรือ"แม่เลี้ยงกล่าวขึ้น"ยังเลยครับแม่เลี้ยง ยังไม่มีเวลาคุยกันเลย ผมว่าจะจัดการเรื่องคุณแม่เสร็จก่อนและจะเรียกญาติๆทุกคนมาและเปิดจดหมายคุณแม่ให้ทุกคนอ่านครับ ส่วนเรื่องปลายฝันผมก็ต้องคุยกับเขาก่อนอยู่แล้ว"พ่อของปลายฝันกล่าวขึ้น พลางมองหน้าลูกสาวยิ้มๆ"เรื่องอะไรหรือพ่อ"ปลายฝันถามขึ้น"มันมีเรื่องที่คุณย่ารับปากแม่เลี้ยงเอาไว้นะ ว่าจะให้ลูกแต่งงานกับลูกแม่เลี้ยง"ผู้เป็นพ่อกล่าวขึ้นแบบยิ้มๆเล็กน้อย"อะไรนะค่ะ"ปลายฝันพูดขึ้นอย่างตกใจ จนทำให้คนอื่นหันมามอง ที่แรกหลายๆคนก็สนใจผู้หญิงกับผู้ชา
เมื่อกลับไปถึงโรงแรมที่พักผู้เป็นลูกก็เรียกแม่เพื่อที่จะคุยเรื่องแต่งงานนี้"แม่ก็ดูท่าทีเด็กนั้นก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับผมเสียหน่อยแม่ลองเอาแบบนี้ดีไหมล่ะ ให้เขาติดหนี้เราไปก่อนถ้าเขายังไม่มีเงินจ่ายแล้วค่อยทยอยจ่ายภายหลังไม่ใช่ไปบังคับให้เขาแต่งงานแบบนั้นผมรู้สึกสงสารเขานะแม่"ตะวันพูดขึ้นเพราะตัวเองก็ไม่ต้องการที่จะถูกบังคับแต่งงานแต่อย่างใด แต่เรื่องเงินนั้นสำคัญเพราะว่าแม่บอกว่าถ้าเขาไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ แม่ก็จะไม่ให้เงินเขาใช้ ส่วนไร่ที่ตนเป็นคนทำนั้นเขาเองก็ไม่ได้รับเงินอยู่แล้ว แม่คอยจ่ายค่าคนงานในไร่ให้และจัดแจงค่าใช้จ่ายทุกอย่างรวมไปถึงรายเดือนที่ตะวันเองใช้จ่ายด้วย ซึ่งถ้าตนไม่มีเงินส่วนที่แม่ก็จะไม่มีเงินลงทุนผับที่ตัวเองแอบเปิด แต่ถ้าได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้แม่บอกว่าจะยอมให้เขาลองบริหารเงินของตัวเอง ตนจึงต้องตอบตกลงและตามแม่มาที่นี่"แกสงสารเขาหรือ ยิ่งแก่สงสารเขาแกก็ต้องรีบแต่งงานกับเขาเพื่อที่จะได้ยกฐานะของครอบครัวเขาให้สูงขึ้น เพราะถ้าเขาแต่งงานกับแกแล้วแม่ก็มีเงินให้กับครอบครัวเขาโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ถ้าให้ไปฟรีๆเขาก็จะคิดมาก ครอบครัวเราก็มีพร้อมแล้วแกเองก็จะ
เช้าวันต่อมาเป็นวันที่ทุกคนตื่นเช้าเพราะต้องไปเตรียมของที่วัดปลายฝันกับต้นข้าวรีบเดินทางไปวัดตั้งแต่ยังไม่ 6 โมงเพราะแม่บอกว่าให้ปลายฝันไปดูเรื่องอาหาร เตรียมของในครัวสำหรับพระทั้งหมด 9 ชุด และของแขกแขกที่มาอีก วันนี้น่าจะมีผู้มาเยอะอยู่ ส่วนต้นข้าวแม่ก็ให้ไปช่วยตรวจนับของที่ระลึก เพราะหลานของย่าลูกของป้ากับอานั้นเป็นผู้ชายจึงไม่ได้เข้ามาช่วยกันทำส่วนนี้ เพราะต้องไปเตรียมโกนผมแต่เช้าเพื่อที่จะบวชจูงย่า หน้าที่นี้เลยเป็นของลูกหลานที่เป็นฝ่ายหญิงซึ่งมีปลายฝันคนเดียวดีหน่อยที่ปลายฝันพาเพื่อนมา แม่จึงถือว่าต้นข้าวเป็นลูกอีกคน พ่อของปลายฝันไม่มีลูกชายตัวเองจึงต้องบวชเพื่อจูงแม่ พ่อของปลายฝันก็ไม่ได้เขามาช่วยส่วนนี้อีกแล้ว เรื่องรถก็ให้อาพจน์ทำต่อ ในเช้าวันนี้เสียงเปิดเครื่องเสียงแต่เช้าเป็นการเตือนให้หลายบ้านที่อยู่ใกล้เคียงรู้ว่าจะมีงานฌาปนกิจในวันนี้ ผู้ที่สนิทสนมกับผู้วายชนม์ก็จะมาช่วยกันจัดเตรียมของแต่เช้าส่วนผู้ที่ไม่ค่อยสนิทมากนักก็จะมารับประทานอาหารในเวลาสายๆ ย่าของปลายฝันน่าจะมีคนที่สนิทพอสมควรเพราะตอนที่จัดเตรียมอาหารในครัวก็มีคนมาช่วยอยู่มากโข และจุดนับของชำร่วยเองก็มีคนอยู่เยอะเ
เมื่องานฌาปนกิจของคุณย่าเสร็จสิ้นแล้ว พ่อของปลายฝันก็หยิบจดหมายของคุณย่าที่ฝากถึงพ่อไว้มาให้ปลายฝันและคุณแม่อ่าน เนื้อความในจดหมายเขียนไว้ว่า"แม่เป็นหนี้แม่เลี้ยงเป็นจำนวนเงินทั้งหมดเกือบจะสามล้านแล้ว แม่เลี้ยงใจดีที่ยื่นมือเข้ามาช่วยในการรักษาของแม่ให้แม่ดีขึ้น ณ วันนี้ แม่เลี้ยงเขาไม่ได้คิดว่ามันเป็นเงินที่แม่ไปติดหนี้เขา เพราะแม่เคยช่วยชีวิตพ่อของเขาไว้ แต่ที่แม่ช่วยชีวิตพ่อของเขานั้นแม่ไม่ได้เสียเงินสักบาท แถมตอนที่จากมาแม่ของแม่เลี้ยงเองก็ให้เงินแม่มาก้อนนึงแล้ว แต่แม่เลี้ยงนวลจันทร์ผู้นี้ก็ยินดีที่เข้ามาช่วยแม่ จึงถือว่าเขามีบุญคุณต่อแม่ถ้าพวกแกทั้งสาม หาเงินคืนเขาได้แม่ก็จะไม่ว่า แต่ถ้าถึงเวลาที่ไม่มีแม่จริงๆแล้วพวกแกยังหาเงินคืนแม่เลี้ยงไม่ได้แม่อยากจะขอร้องแกสักหน่อยนะพงษ์ ยกลูกสาวแกให้แต่งงานกับลูกของแม่เลี้ยงได้ไหม แม่เลี้ยงเขาเอ็นดูและชอบลูกสาวแกมาก ครั้งที่แม่เขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมาเขาก็ยังเล่าสารพัดสารเพเขาชอบปลายฝัน ถ้ามันไม่เหนือบ่ากว่าแรงจริงๆแม่อยากจะขอร้องแกนะพงษ์"จดหมายของคุณย่ามีแค่นี้ซึ่งก็เป็นตามที่ต้นข้าวเคยเกริ่นเอาไว้ว่าน่าจะเป็นเรื่องเงินซึ่งบ้านเราไม่มีเ
"ตะวันค่ะพอดีว่าอีกสองวันของขวัญจะกลับไทย ตะวันมารับขวัญที่สนามบินด้วยนะค่ะ "เสียงใสปลายสายเอ่ยขึ้น ทำให้หัวใจของตะวันพองโต ของขวัญผู้หญิงที่หน้าตาสวยอ่อนหวาน เขาปฏิเสธไม่ได้ว่าเขารักตะวันมาก แต่ด้วยที่บ้านของเขาฐะนะร่ำรวยและต้องขยายกิจการอยู่บ่อยๆ จึงต้องอาศัยกำลังทรัพย์มหาศาลเช่นกัน แม้ที่บ้านของตะวันจะเป็นเจ้าของไร่ที่ร่ำรวยกว่าเธอมาก แต่เรื่องการเงินของตะวันนั้นทุกอย่างต้องให้ผู้เป็นแม่จัดการ ตะวันจะซื้อคอนโดที่กรุงเทพฯยังต้องถามผู้เป็นแม่ ซึ่งทางบ้านของเธอเองไม่โอเครเพราะครอบครัวของตะวันไม่ชอบในตัวของเธอด้วย และเรื่องที่ตะวันต้องให้แม่จัดการให้ทุกอย่าง ตะวันเหมือนผู้ชายที่ยังไม่โตทั้งที่อายุก็สามสิบกว่าแล้ว คอนโดที่กรุงเทพฯของตะวันเองของขวัญไม่สามารถเข้าไปได้ ถ้าแม่เลี้ยงไม่ให้เข้า ของขวัญจะได้อยู่เฉพาะตะวันอยู่กรุงเทพฯเท่านั้น ทั้งที่คอนโดนั้นของขวัญต้องการที่จะให้ตะวันซื้อให้ของขวัญ แต่สรุปแม่เลี้ยงเข้ามาวุ่นวายจนทำให้ของขวัญเสียคอนโดนั้นไป การที่ของขวัญเองต้องแต่งานกับธาวินนั้นมันเป็นความผิดของตะวัน เพราะตะวันอ่อนแอเกินไป ของขวัญไม่เคยที่จะสำนึกผิดเลยสักนิดที่เรื่องเป็นแบบนี้
"ตะวันค่ะ พอดีว่าขวัญได้ข่าวว่าคุณจะแต่งงานหรือค่ะ ถึงว่าเหมือนคุณจะพลักไล่ขวัญยังไงยังงั้น ขออยู่คอนโดก็ไม่ได้ ขอไปอยู่ไร่ก็ไม่ได้ ที่แท้ก็เพราะว่าคุณจะทิ้งขวัญนี้เอง"เสียงปลายสายถามขึ้น เมื่อตะวันรับโทรศัพท์แล้ว เพื่อความแน่ใจขวัญจึงต้องการที่จะสอบถามให้หายสงสัย ตะวันก็ตกใจเล็กน้อยทั้งที่ขวัญอยู่ที่เมืองนอกแล้วจะรู้เรื่องของเขาที่พึ่งตัดสินใจลงไปเมื่อไม่กี่วันได้อย่างไรกัน หรืออาจจะเป็นแม่เลี้ยงที่ต้องการให้ขวัญรับรู้กันแน่"แต่งงานหรือครับ ขวัญเอาเรื่องนี้มาจากที่ไหนหรือครับทั้งที่ครอบครัวของขวัญเองก็ไม่ได้กลับไทยเลย อยู่ที่เมืองนอกตลอด"ตะวันถามขึ้นด้วยความสงสัยก่อน"ก็เพื่อนของแม่ขวัญที่อยู่เชียงใหม่สิคะเล่าให้คุณแม่ฟังคุณแม่ก็เลยถามขวัญดู ขวัญก็เลยถามตะวันดูค่ะ แล้วขวัญก็คิดว่าข่าวนั้นคงเป็นข่าวโคมลอย ขวัญก็ไม่ได้เอามาใส่ใจหรอกค่ะถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริง"ของขวัญกล่าวขึ้นพลางใจชื่นขึ้นมาทัั้งที่ยังไม่ได้คำตอบด้วยซ้ำ ก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง"ครับ คุณแม่ให้ผมแต่งงานกับคนที่คุณแม่หาให้ครับ ผมต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอกขวัญ เพราะผมเองก็ไม่รู้จะบอกกับขวัญว่าอย่างไร"ตะวันกล่าวขึ้นอย
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นมาก็ไม่มีใครลาออกและทุกคนก็ตั้งใจทำงานมากกว่าเดิม แต่ถามว่าเคืองไหมบอกเลยว่ามีคนงานยังเคืองปลายฝันอยู่ไม่น้อย พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เพราะพ่อเลี้ยงเองก็ไม่ได้ว่าอะไรคุณปลายฝัน แถมช่วงนี้ให้คุณปลายฝันเข้าไร่แทนตลอด ทางด้านพ่อเลี้ยงตอนนี้ผับของเขาก็ดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพราะได้เงินจากแม่เลี้ยงก้อนนั้นก็นำมาหมุนให้คล่องตัวอีกครั้งแล้วแม่เลี้ยงให้เวลาเพียงแค่ 3 เดือนก็จะให้เขาบริหารไร่เอง แต่เขาดูดูแล้วปลายฝันจัดการคนในไร่ได้ดีกว่าเขามากนัก เพราะตอนที่เขาทำงานเขาก็ไปช่วยคนงานทำ แต่ไม่ได้จัดแจงอะไรให้คนงานมากนักเพียงแค่ช่วยทำงานตกเย็น มาก็กินเหล้ากันบ้าง ส่วนปลายฝันจะดูนู่นดูนี่ตรงไหนขาดตกบกพร่องเธอก็จะเป็นคนเข้าไปจัดแจง คนงานต้องทำสิ่งใดก่อนหลัง และตอนนี้คนงานก็เชื่อฟังเธอมากขึ้นเพราะเมื่อครั้งใดที่คนงานไม่เชื่อเธอก็จะอ้างถึงแม่เลี้ยง"คุณขวัญค่ะตอนนี้คุณตะวันให้เด็กปลายฝันนั่นดูแลไร่ยังไงอย่างนั้น แล้วตัวเองก็ไม่ค่อยอยู่ไร่ด้วยค่ะไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อเลี้ยงอาจจะลืมคุณขวัญแล้วก็ได้ค่ะ"สิตาเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจึงโทรไปรายงานของขวัญ เดิมทีตอนนี้ของขวัญเริ่
ปกติขวัญไม่ชอบให้ตะวันเล่นโซเชียลแต่ทำไมขวัญถึงได้ข่าวพวกนี้จากโซเชียลนะ หรือว่าขวัญเล่นโซเชียลแต่ห้ามเขากัน ตะวันได้แต่คิดแต่เขาก็ไม่มีเวลาที่จะมาใส่ใจ ทางด้านปลายฝันรู้ข่าวตั้งแต่วันแรกที่เป็นข่าวแล้ว แต่เขาเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆจะทำอะไรได้ ถ้าเธอคิดไม่ผิดเรื่องคืนนั้น พี่พิภพต้องเอาไปเล่าอีกครั้งเพื่อให้ข่าวจบลงไม่อย่างนั้นแม่เลี้ยงก็จะออกโรงมาปกป้องตัวเธอเองและทำการฟ้องคุณพิภพที่เป็นลูกชายแน่ เรื่องนี้ก็จะจบแบบทางธุระกิจแต่อาจเกิดความบาดหมางกันในครอบครัว ปลายฝันก็รอให้ข่าวจบลงอยู่ประมาณอาทิตย์เดียวก็หายไปจากโซเชียล คนมีเงินนี้ก็ดีจริงๆนะ แป๊บๆก็จัดการเรื่องข่าวนี้ได้ แต่ปลายฝันก็ไม่รู้ว่าเขาจัดการด้วยวิธีใด หลังจากที่ข่าวจบลงของขวัญเองก็ไม่แน่ใจว่าตกลงว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เมื่อถามตะวันก็ไม่ปริปากพูดแม้แต่คำเดียว จะให้เขาสืบเองเขาก็ไม่ได้มีอำนาจที่จะสืบขนาดนั้น ตอนนี้ขวัญก็มีวิธีเดียวก็คือเขาหาคนพิภพ ตะวันก็อย่ามาโทษขวัญแล้วกัน เพราะตะวันเองไม่สามารถช่วยอะไรขวัญได้เลย ของขวัญได้แต่คิดในใจ หลังจากผ่านปีใหม่มา ปลายฝันก็ทำกับข้าวตอนเช้าและออกไปทำงานที่ไร่ซึ่งตอนนี้ปลายฝันไม่ไ
หลังจากประชุมเสร็จแล้วพิภพก็สั่งให้พ่อครัวทำอาหารเย็นไว้สำหรับเขาตะวันและปลายฝัน ทั้งสามร่วมรับประทานอาหารกัน"ขอบคุณพี่มากสำหรับโรงแรมแห่งนี้ เรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้นจึงทำให้พี่ได้มีโอกาสมอบโรงแรมนี้เป็นของขวัญสำหรับการแต่งงานของเราสองคนเลยนะครับ"ตะวันกล่างขึ้น"แกก็รู้ทันไปซะทุกเรื่องนะ พี่ก็อยากจะให้อะไรน้องชายบ้างแค่นั้นเอง แต่ถ้าเป็นชื่อของแกแม่เองก็ไม่ไว้ใจก็เลยให้เป็นชื่อของเมียแกดีกว่า"พิภพพูดขึ้น ทั้งสามกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ตะวันกับพิภพแทบไม่ค่อยได้กินข้าวด้วยกันเลยด้วยซ้ำ ขนาดวันเกิดทั้งสองยังแค่โทรหากัน และให้ของขวัญแก่กันแค่นั้น ไม่เคยที่จะมีการกินข้าวร่วมกันแบบนี้ตามลำพัง"ทำไมคุณพิภพถึงยกโรงแรมนี้ให้พ่อเลี้ยงตะวันกับคุณปลายฝันเลยล่ะ เรื่องมันใหญ่โตขนาดนั้นเลยหรือ"พนักงานคนหนึ่งถามขึ้น พลางมองไปยังแม่บ้านที่ถูกไล่ออกกำลังจัดการกับของตัวเอง ตอนนี้เขาเองก็รู้สึกหวาดหวั่นแล้ว"ก็เพื่อธุระกิจตัวอื่นล่ะมั้ง โรงแรมของคุณพิภพก็มีจำนวนมากถึงจะยกโรงแรมนี้ให้คนอื่นก็ยังมีตัวอื่นอยู่ดี อาจจะเป็นแบบว่าเพื่อเอาตัวเองรอดหรือป่าว พ่อเลี้ยงตะวันกับภรรยาไม่เท่าไหร่หรอก แต่แม่เลี้
ปลายฝันลงมานั่งกินอาหารบุฟเฟ่ต์ที่ตัวเองเคยอยากกิน เพราะเรื่องเล่าของโรงแรมดังแห่งนี้ มีคนว่าอาหารเช้าอร่อย ปลายฝันตักอาหารมานั่งกิน อาหารที่ว่าอร่อยนั้นมันก็จริงๆนั้นแหละ ข้าวผัดอเมริกัน น้ำฝักทอง สลัดผัก ถูกปลายฝันตักมาตรงหน้า เขานั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย พ่อเลี้ยงตะวันลงมาก็เห็นปลายฝันกำลังกินอย่างมีความสุข เมื่อคืนคงจะสมใจคนตัวเล็กไม่น้อยถึงได้มีความสุขกับการกินขนาดนี้"มีความสุขอะไรขนาดนั้นหรือ "พ่อเลี้ยงถามขึ้น พลางวางแก้วกาแฟกับขนมปังเพียงสามชิ้น"ก็อาหารมันอร่อยนิค่ะ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารเช้าเลยรู้ไหมค่ะ"ปลายฝันพูดขึ้น พ่อเลี้ยงทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจึงทำให้ปลายฝันทำตามเขา หลังจากินของตรงหน้าเสร็จปลายฝันจึงไปตักของหวาน วันนี้มีทับทิมกรอบ ปลายฝันนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย พอทั้งสองกินเสร็จก็ออกจากโรงแรมเพื่อไปรับพ่อกับแม่ไปกราบพระที่วัด เมื่อคุณตะวันเกิดวันอาทิตย์พ่อจึงชวนทั้งสามไปสักการะพระธาตุพนม"พระธาตุมีลักษณะเป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมจตุรัสก่อด้วยอิฐ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1200-1400 เป็นพระธาตุเก่าแก่ที่เป็นศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งภาคอีสาน เป็นเสมือนเครื่อง
"ยอดเงินของคุณตะวันโอนไปสองที่ค่ะแม่เลี้ยงที่แรกก็โอนไปสิบห้าล้านบาทไปยังบัญชีผับที่คุณตะวันทำอยู่และอีกที่นึงโอนไปเพียงห้าล้านชื่อบัญชีปลายฝัน อัครเมธา (ไกลอักษร)"เสียงผู้หญิงรายงานต่อแม่เลี้ยง ทำไมตะวันต้องโอนเงินให้ปลายฝันด้วย หรือว่าจะเป็นเรื่องคืนนั้นกันนะแม่เลี้ยงคิดแล้วก็ยืมทางด้านปลายฝันกลับมาที่บ้านวันแรกหลังจากออกเรือนไป ทำให้พ่อกับแม่ดีใจยิ่งนักที่ได้เจอลูกสาวมาพร้อมกับสามี ทั้งสองยิ้มชื่นด้วยความชื่นชม วันนี้แม่ของปลายฝันทำกับข้าวไว้ให้ลูกและลูกเขยกินตอนเย็นกัน แม่ทำต้มยำทะเล ผัดฉ่าเนื้อปลากระพง ปลากระพงราดน้ำปลา ยําวุ้นเส้น ยำตีนไก่ และส้มตำใส่ปูปลาร้าให้กับลูกสาว"สวัสดีค่ะพ่อสวัสดีค่ะแม่ ปลายฝันคิดถึงพ่อกับแม่นะคะ"ปลายฝันไหว้พ่อและแม่แล้วก็วิ่งเข้าไปกอดผู้เป็นแม่"สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่"ตะวันทำตาม และทั้งสี่ก็เข้าบ้าน ตะวันให้คนขับรถไปซื้อเหล้ามาเพื่อเขาจะได้กินกับพ่อตา เมื่อพงษ์เห็นคนของตะวันถือเหล้ามาก็ยิ้มกลิ่ม"พ่อไม่ค่อยได้กินนานแล้วแหละ แม่เขาไม่ค่อยให้พ่อกินหรอกถ้าไม่มีงานอะไรก็ไม่ได้กิน"ผู้เป็นพ่อพูดขึ้นจึงทำให้ผู้เป็นแม่มองด้วยสายตาไม่พอใจ"คุณตะวันก็ให้
"ปลายฝันพ่อเลี้ยงเรียกเธอนะ"วันดีเดินเข้ามาหาปลายฝันที่เรือนและพูดขึ้น"พ่อเลี้ยงเรียกเรามีอะไรหรือป่าว พ่อเลี้ยงท่าทีโมโหไหม"ปลายฝันถามขึ้น"ไม่นะ เห็นออกจะอารมณ์ดี เมื่อคืนไม่ได้กลับบ้านทั้งคืนกลับมาอารมณ์ดีเลย แต่เธอนะแปลกๆนะ ปกติไม่เคยสนอารมณ์ของพ่อเลี้ยงวันนี้ไปทำอะไรมาหรือป่าวเมื่อคืนก็หายไปทั้งคืน"วันดีถามขึ้นอย่างสงสัย"ป่าวหรอกปกติไม่เคยเห็นพ่อเลี้ยงเรียกหาจึงแปลกใจนะเลยถามถึงอารมณ์ก่อนไง"ปลายฝันกล่าวขึ้น"ตอนนี้ยังอารมณ์ดีอยู่แต่ถ้าเธอไปหาเขาช้าอีก ก็คงจะได้เจอกับอารมณ์เสียแล้วล่ะ"หนูดีพูดขึ้น ปลายฝันจึงรีบเดินไปหาพ่อเลี้ยงที่ห้องทำงาน พอมาถึงห้องทำงานก็มีคนโทรรายงานพ่อเลี้ยงตามเคยและพ่อเลี้ยงก็ให้ปลายฝันเข้าไป พอเห็นหน้าพ่อเลี้ยงปลายฝันก็เผลอ คิดถึงเรื่องเมื่อคืน จึงให้ตัวปลายฝันนั้นหน้าแดงออกมา"ยืนหน้าแดงอะไรอยู่ตรงนั้นมานั่งก่อนสิ ผมมีอะไรจะคุยด้วย"ตะวันพูดขึ้นเมื่อหันไปมองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้ไร้เครื่องสำอางบนใบหน้า แต่ก็น่ามองอยู่เขาเองกับคิดไม่ถึงเลยว่า คนที่อยู่ด้วยกันทุกวันจะมีความสวยอยู่ในตัวแต่เขาไม่ได้มองเห็นมันเองก็เท่านั้น"พ่อเลี้ยงมีอะไรหรือป่าวคะ"ปล
"ปลายฝันหนูรู้หรือเปล่าว่าเพื่อนหนูที่ชื่อเมษากับป๊อปเขาทำงานอะไรกันหรือ"แม่เลี้ยงถามขึ้นเมื่อปลายฝันรับโทรศัพท์แล้ว"เห็นเขาบอกว่าเขาหานางแบบอะไรสักอย่างนี่แหละค่ะแม่เลี้ยง ทำไมหรอคะ"ปลายฝันตอบขึ้นจึงทำให้ต้นข้าวที่นั่งอยู่ด้วยกันเกิดความสงสัยว่าใครกันถึงอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับเพื่อนของพวกเขา"ก็ที่แม่สืบได้พวกเขาสองคนนั้นเป็นกลุ่มค้ามนุษย์ที่จะหาผู้หญิงสวยๆไปให้เสี่ย แต่บางคนก็ไปส่งที่กลุ่มคนขายบริการทางเพศ แม่จึงถามหนูดูเฉยๆเพราะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแม่จึงให้คนไปสืบดู"แม่เลี้ยงพูดขึ้น ทำให้ปลายฝันตกใจแล้วแม่เลี้ยงจะรู้หรือเปล่าว่าเมื่อคืนเขากับพ่อเลี้ยงทำอะไรกัน"แม่เลี้ยงรู้หมดเลยหรือคะ"ปลายฝันกล่าวขึ้น"ก็คนของแม่เขาดูแลหนูตลอดนั่นแหละ ตั้งแต่ที่หนูต้องการที่จะออกจากไร่ไปเที่ยววัด แม่ก็ให้คนตามดูแลพวกหนู รวมกับอยู่ที่ผับแม่ก็ให้พวกเขาเฝ้าตลอด แล้วเขาก็รายงานแม่ แม่เองก็ขอโทษนะให้คนติดตามหนูแต่แม่เองก็กลัวอันตราย เพราะแถบนี้ก็มีศัตรูของแม่ก็เยอะศัตรูของตะวันเองก็เยอะพอสมควร แล้วเรื่องผับเมื่อคืนความจริงมันก็เป็นความผิดของตะวันนั้นแหละเพราะผับนั้นมันเป็นของตะวัน ซ
"ทำไมเพื่อนพวกเรามันเลวอย่างนี้นะ" เมื่อไปถึงเรือนปลายฝัน ต้นข้าวก็พูดออกมาและร้องไห้ฟูมฟาย เขาโดนเพื่อนใช้ยาปลุกเซ็กส์ไม่พอเมื่อคืนถูกใครก็ไม่รู้ย้ำยี"แล้วแกเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นหรือป่าว"ปลายฝันถามเพื่อนขึ้นและลูบหลังเพื่อน"ไม่รู้หน่ะสิตื่นมาก็ไม่มีใครอยู่แล้วแหละแต่มองสภาพตัวเองก็รู้แล้วแหละว่าเมื่อคืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นพร้อมกับฤทธ์ของยาพวกนั้นก็รู้มันต้องมีสิ่งใดเกิดขึ้นแน่"ต้นข้าวพูดทั้งน้ำตาและตอนนี้ก็คล้ายกับคนเหม่อลอย ปลายฝันเองเลยรู้สึกผิดที่ชวนเพื่อนมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ แล้วเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเพื่อนเป็นเขาเองก็เจ็บปวดไม่น้อย"แล้วแกล่ะถ้าพ่อเลี้ยงรู้เข้าจะเป็นอย่างไร เขาจะไม่หาทางหย่ากับแกหรอกเหรอดูความสัมพันธ์ของพวกแกก็ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นิ"ต้นข้าวถามขึ้น เพราะเขาเองก็เป็นห่วงความรู้สึกของเพื่อนเหมือนกัน ทั้งที่มีสามีอยู่แล้วแต่ยังต้องถูกวางยาและไปนอนกับผู้ชายคนไหนก็ไม่รู้"ถ้าเขารู้เขาคงจะฆ่าเราตายแน่เลยล่ะต้นข้าว ดีหน่อยนะที่เขาหลับอยู่แล้วเราก็หนีออกมาได้ถ้าเขาตื่นมาเห็นเราก่อนเขาคงจะฆ่าเราตั้งแต่ตอนที่เราหลับอยู่นั่นแหละ"ปลายฝันกล่าวขึ้น ทำให้ต้นข้าวรู้ส
เมื่อคนของแม่เลี้ยงลากปลายฝันเข้าห้อง ก็ทิ้งปลายฝันไว้ตรงประตูห้องโดยที่พวกเขาไม่ได้เข้าห้องเลยแม้แต่นิดเดียวเขาทิ้งปลายฝันไว้อย่างนั้น โดยที่ไม่ได้ลากปลายฝันขึ้นเตียงพวกเขาจึงไม่รู้ว่าในห้องนั้นมีคนอยู่แล้ว พวกเขาก็ล็อคห้องไป หลังจากที่ปลายฝันรู้สึกตัวก็รู้สึกร้อนๆเขาจึงพยายามดึงเสื้อของตัวเองออกแล้วก็แนบกับพื้นห้องที่เย็นๆรู้สึกดีขึ้นไม่น้อย ปลายฝันต้องการน้ำเขาต้องการเข้าไปในห้องน้ำเพื่อแช่น้ำให้ตัวเย็นขึ้นปลายฝันถึงเดินสะเปะสะปะแต่ก็ไปสะดุดอยู่ที่เตียงจึงลมลงและก็ทับไปบนตัวของตะวันที่ตัวเย็นจากการตากแอร์อยู่ ตะวันเองไม่ชอบใส่เสื้อนอนอยู่แล้วพอร่างที่ร้อนของปลายฝันถูกกับความเย็นของตะวันเธอก็ได้ใจ ความแนบชิดของทั้งสองที่ไม่รู้ตัว ฤทธิ์ยาในตัวของปลายฝันก็รุนแรงมากขึ้นทำให้เธอร้อนรนไปหมด ประจวบด้วยที่เธอต้องการความเย็นในตัวตะวัน ทางด้านตะวันก็สลึมสลือด้วยความเมาเมื่อร่างอุ่นๆเข้ามาปะทะก็เกิดความรู้สึกดี หญิงสาวที่อยู่ไม่สุขถูไถไปบนร่างชายหนุ่ม ทำให้ชายหนุ่มที่หลับอยู่ดีๆก็ฟุ้มซานขึ้น ขนาดนอนอยู่ยังฝันดีขนาดนี้ ปากของทั้งคู่ประกบกันทำให้ตะวันตื่นเต็มตาพร้อมด้วยแรงปรารถนาในกายก็ตื่นขึ้น