"ตะวันค่ะ พอดีว่าขวัญได้ข่าวว่าคุณจะแต่งงานหรือค่ะ ถึงว่าเหมือนคุณจะพลักไล่ขวัญยังไงยังงั้น ขออยู่คอนโดก็ไม่ได้ ขอไปอยู่ไร่ก็ไม่ได้ ที่แท้ก็เพราะว่าคุณจะทิ้งขวัญนี้เอง"
เสียงปลายสายถามขึ้น เมื่อตะวันรับโทรศัพท์แล้ว เพื่อความแน่ใจขวัญจึงต้องการที่จะสอบถามให้หายสงสัย ตะวันก็ตกใจเล็กน้อยทั้งที่ขวัญอยู่ที่เมืองนอกแล้วจะรู้เรื่องของเขาที่พึ่งตัดสินใจลงไปเมื่อไม่กี่วันได้อย่างไรกัน หรืออาจจะเป็นแม่เลี้ยงที่ต้องการให้ขวัญรับรู้กันแน่
"แต่งงานหรือครับ ขวัญเอาเรื่องนี้มาจากที่ไหนหรือครับทั้งที่ครอบครัวของขวัญเองก็ไม่ได้กลับไทยเลย อยู่ที่เมืองนอกตลอด"
ตะวันถามขึ้นด้วยความสงสัยก่อน
"ก็เพื่อนของแม่ขวัญที่อยู่เชียงใหม่สิคะเล่าให้คุณแม่ฟังคุณแม่ก็เลยถามขวัญดู ขวัญก็เลยถามตะวันดูค่ะ แล้วขวัญก็คิดว่าข่าวนั้นคงเป็นข่าวโคมลอย ขวัญก็ไม่ได้เอามาใส่ใจหรอกค่ะถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริง"
ของขวัญกล่าวขึ้นพลางใจชื่นขึ้นมาทัั้งที่ยังไม่ได้คำตอบด้วยซ้ำ ก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง
"ครับ คุณแม่ให้ผมแต่งงานกับคนที่คุณแม่หาให้ครับ ผมต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอกขวัญ เพราะผมเองก็ไม่รู้จะบอกกับขวัญว่าอย่างไร"
ตะวันกล่าวขึ้นอย่างรู้สึกผิด ทำให้ของขวัญอึ้งไปสักพัก
"ทำไมตะวันทำกับขวัญแบบนี้ล่ะคะ ขวัญรักและหวังที่จะใช้ชีวิตอยู่กับคุณมากเลยนะคะ ทำไมคุณต้องหักหลังกันด้วยทั้งๆที่คุณรอขวัญมาได้ตั้งนาน แล้วขวัญเองก็รอคุณ เพราะว่าแม่เลี้ยงไม่ชอบขวัญคุณจึงต้องไปหาคนแต่งงานใหม่หรือคะ ทำไมคุณไม่สู้เพื่อความรักของเราบ้าง"
ของขวัญกล่าวขึ้นพลางร้องไห้ฟูมฟายออกมา
"ขวัญคุณเองก็รู้ว่าไม่ใช่แค่ครอบครัวของผมหรอกที่เป็นแบบนี้ ครอบครัวของคุณเองก็ไม่ค่อยชอบที่ผม ทำอะไรต้องผ่านแม่เลี้ยงตลอด ในการแต่งงานในครั้งนี้แม่เลี้ยงต้องการให้ผมแต่งงาน และท่านจะให้เงินในส่วนของผมให้ผมมาบริหารเงินเอง เพราะฉะนั้นผมจึงจำเป็นต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ ผมไม่คิดที่จะทิ้งคุณหรอกนะขวัญ ผมบอกได้เลยว่าผมรักคุณคนเดียว แต่ถ้าผมทำแบบนี้แล้ว คุณรับไม่ได้จะเลิกกับผม ผมก็จำเป็นที่จะต้องปล่อยคุณไป เพราะผมเองก็อยากที่จะเติบโตเหมือนกัน"
ตะวันตกล่าวออกไป เขาเองก็เสียใจไม่น้อยที่เป็นแบบนี้แต่ครั้งนี้มันเป็นโอกาสเดียวที่จะทำให้เขาได้บริหารเงินของตัวเองเสียที เพราะเขาอยากทำให้คุณแม่รู้ว่าเขาก็บริหารเงินของตัวเองได้ แต่เขารู้ว่าทำไมคุณแม่ต้องทำแบบนี้ก็เพราะว่าคุณแม่กลัวเขาจะโดนของขวัญหลอกเอาเงิน ทั้งที่ขวัญเองไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเงินทองของเขาเลยมีครั้งเดียวก็คือ ขวัญอยากได้คอนโดและให้เขาซื้อให้แต่แม่เลี้ยงเองก็ซื้อเป็นชื่อของตะวันเอง ของขวัญก็พูดตั้งหลายครั้งว่าอยากให้ตนเองโอนให้ขวัญ แต่ตะวันเองก็ไม่สามารถที่จะตัดสินใจอะไรได้เลย ทุกอย่างต้องผ่านแม่เลี้ยงตลอด การแต่งงานกับเด็กนั้นมันเป็นโอกาสเดียวที่จะทำให้ตะวันได้บริหารเงินของตัวเองดังที่คุณแม่บอกไว้
"ขวัญขอโทษค่ะตะวัน ขวัญไม่รู้จริงๆว่าคุณต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นเพราะเรื่องแบบนี้ ขวัญเองค่ะที่ไม่ดีพอที่จะทำให้คุณแม่ของตะวันชอบขวัญ แต่ถ้าคุณแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น คุณก็อย่าทิ้งขวัญนะคะเพราะยังไงขวัญก็รักคุณและจะรอคุณคะตะวัน"
ของขวัญกล่าวขึ้น เมื่อฟังตะวันพูดเขาก็คิดได้ว่าถ้าตะวันบริหารเงินตัวเองได้จริงๆ ก็ดีแค่การแต่งงานแค่นี้ตะวันเองก็ไม่ได้เสียหายอะไร มีแต่ผู้หญิงคนนั้นต่างหากที่เสียหาย ส่วนตะวันก็ได้เต็มๆ ขวัญก็เลยเอ่ยขอโทษตะวันออกไปเพราะไม่อยากให้ตะวันคิดมากแค่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ เมื่อตะวันได้ยินก็ตกใจไม่คิดว่าขวัญจะยอมง่ายๆขนาดนี้ ทีแรกนึกว่าขวัญจะคงจะหวงตัวเองจนมีปากเสียงกันเสียอีก ขวัญช่างเป็นคนดีอะไรอย่างนี้ เชื่อคนง่าย ไว้ใจคนง่าย แบบนี้จึงทำให้ตะวันชอบขวัญมากกว่าเดิมเสียอีก
"คุณไม่ว่าผมเหรอครับที่เรื่องมันเป็นแบบนี้แล้วผมตัดสินใจแบบนี้"
ตะวันถามขึ้นด้วยอารมณ์ที่ดีมากกว่าเดิม
"ตะวันคะขวัญรักตะวันนะคะ ตะวันจะทำอะไรขวัญก็สนับสนุนตะวันทุกอย่าง ขวัญต้องการให้ตะวันมีความสุขนะคะ อย่าคิดมากเลยเรื่องนั้นถึงแม้คุณจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น ถ้าไม่ได้รักเขา ขวัญก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ ขออย่างเดียวว่าตะวันอย่าทิ้งขวัญไปรักคนอื่นก็พอ เรื่องนี้ขวัญเองเข้าใจตะวันนะคะ เพราะแม่เลี้ยงเองก็เอาตนเป็นใหญ่ ไม่ฟังอะไรตะวันเลย ตะวันจึงเลือกวิธีนี้ และวิธีนี้เป็นวิธีเดียวจะให้ตะวันทำตามความฝันของตัวเอง ถึงแม้ขวัญจะเสียใจที่ตะวันต้องไปอยู่กับคนอื่นแต่ขวัญก็จะทำใจยอมรับเพราะว่าขวัญรักตะวันค่ะ"
ขวัญกล่าวขึ้นพลางทำน้ำเสียงร้องไห้และสะอึกสะอื้น
"ขอบคุณนะขวัญที่คุณเข้าใจผม ขอบคุณที่คุณรักผมและยอมทุกอย่างเพื่อผม ผมยังคิดไม่ออกเลยว่าถ้าผมอยู่ในสถานการณ์แบบคุณผมจะรับได้หรือป่าว ขอบคุณมากจริงๆนะ"
ตะวันกล่าวขึ้นทำให้ขวัญคิดหนักกับเรื่องคำพูดของตะวัน ถ้าผมเป็นคุณแล้วเจอสถานการณ์แบบนี้จะรับได้ไหมก็แสดงว่า ถ้าตะวันรู้ว่าขวัญแต่งงานแล้วจะรับไม่ได้หรือ หลังจากวางสายสักพักแม่ของขวัญก็โทรมา
"ถามเขาหรือยังล่ะ เรื่องที่เขาจะแต่งงานจริงหรือป่าว"
ผู้เป็นแม่ถามขึ้นเมื่อลูกสาวรับโทรศัพท์
"จริงแม่"
ขวัญตอบขึ้นทันที ตอนนี้เธอยังไม่ต้องการคุยเรื่องนี้ แต่คนเป็นแม่ก็อดทนที่จะถามไม่ได้
"แล้วแกก็ยอมหรือ แกรู้หรือป่าวว่าอีกไม่นานธาวินก็จะหมดตัวแล้ว ไอ้พ่อเลี้ยงตะวันถึงมันจะเป็นแบบนั้นแต่แม่มันก็มีเงิน อย่างน้อยแกก็จะสบายกว่าอยู่กับไอ้ธาวินนะ"
ผู้เป็นแม่พูดขึ้นอย่างโมโห ที่ลูกจะปล่อยคนรวยออกจากชีวิต แต่ก่อนเขาคิดว่าธาวินดีที่สุดแล้วแต่พอลูกสาวแต่งงานด้วยไม่นานก็หมดเงิน เขาจึงอยากให้ลูกสาวออกมาจากจุดนั้น
"แม่นั้นมันเป็นวิธีเดียวที่ตะวันจะได้บริหารเงินของตัวเอง แม่เลี้ยงให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาเลือกให้ เพื่อจะได้ให้เขาบริหารเงินเองเท่านั้น"
ของขวัญกล่าวกับแม่ออกไปตามตรง
"ให้มันจริงเถอะ ถ้ามันเป็นแบบนี้ไม่ใชว่าผู้หญิงคนนั้นต้องการเงินของไอ้ตะวันเหมือนกับแกหรือ"
ผู้เป็นแม่กล่าวขึ้น
"มันไม่มีทางที่จะทำแบบนั้นหรอกค่ะคุณแม่ หนูคุยกับตะวันแล้ว ตะวันจะไม่รักผู้หญิงคนนั้นค่ะ เขาจะรักแค่หนูที่แต่งงานเพราะเรื่องเงินเท่านั้น”
ของขวัญกล่าวขึ้น
หลังจากเสร็จสิ้นงานทำบุญร้อยวันของคุณย่าแล้ว ทางครอบครัวของปลายฝันก็เริ่มที่จะจัดงานมงคลต่อเลย"ปลายฝันเราดีใจกับแกด้วยนะที่แกจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว"ต้นข้าวกล่าวขึ้นขณะที่กำลังลองชุดให้ปลายฝัน แม่เลี้ยงจัดการส่งชุดมาให้ปลายฝันลองประมาณ 7 ชุดให้ปลายฝันเลือกเอง ชุดแรกเป็นชุดไทยสีเทา ซึ่งชุดนี้ปลายฝันสนใจเป็นพิเศษ ส่วนชุดกลางคืนปลายฝันใช้เป็นชุดขาวเกาะอกที่ข้างหน้าสั้นแล้วข้างหลังยาวชุดนี้ต้นข้าวเป็นคนเลือกให้"ต้นข้าวแกเองก็รู้นี่ว่าเราต้องแต่งงานเพราะอะไรแล้วเรายังคิดไม่ออกว่ามันจะใช่ความสุขหรือเปล่า ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ และเหมือนว่าพี่ตะวันเขาก็ไม่ได้ชอบเราสักเท่าไหร่ แต่เขาก็เหมือนต้องยอมแต่งงานกับเรา"ปลายฝันกล่าวขึ้น ในใจก็คิดหวั่นๆกับการตัดสินใจของตัวเอง ไม่รู้อนาคตของตัวเองจะเป็นอย่างไร แต่เขาเองก็ตัดสินใจแล้ว และจะไม่เสียใจภายหลังเด็ดขาด ทางด้านตะวันไม่ได้เลือกอะไรมากมาย เขาให้แม่จัดการให้ทุกอย่าง แม่เลี้ยงหาชุดช่วงเช้าสีใกล้เคียงกับเจ้าสาวและ ตอนกลางคืนเป็นชุดสูท เพราะแม่เลี้ยงคิดว่าลูกตัวเองดูดีอยู่แล้วชุดไหนก็เหมือนๆกันนั้นแหละ"ตะวันค่ะพรุ่งนี้คุณจะแต่งงาน ขวัญ
"ของขวัญแกไม่มางานแต่งไอ้ตะวันหรือ คนน่าจะมางานกันเยอะอยู่ พวกเจ้าของกิจการต่างๆนะ ได้ข่าวว่าพิภพเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์รายใหม่ก็จะมานะ แถมโรงแรมที่จัดนั้นก็ปิดโรงแรมเลยนะ เห็นเขาวางแผนกันมาหลายเดือนแล้วด้วย โรงแรมของคุณพิภพนะ แกน่าจะถือโอกาสนี้มาพบปะกับคนระดับนี้ด้วย แต่ถ้าจะมาไม่ต้องชวนผัวแกมานะ"เสียงแม่ถามขึ้นเมื่อโทรหาลูกสาวติด"โถแม่พวกที่เป็นเจ้าของกิจการต่างๆเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ที่แม่ว่าตอนที่หนูแต่งงานเขาก็มาทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่าหนูมีผัวแล้ว และอีกอย่างคุณพิภพนั่นก็มีเมียและลูกแล้วไม่ใช่หรือแม่จะอยากให้หนูไปทำไมกัน"ของขวัญกล่าวตอบผู้เป็นแม่"มีลูกมีเมียแล้วยังไงเรา ถ้าแกมีอะไรดีสักอย่างลูกกับเมียเขาก็เทียบไม่ได้หรอกนะ ไอ้ธาวินมันคงหมดรักแกแล้วล่ะ ดูสิขนาดครอบครัวเรามีปัญหามันไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหมือนแต่ก่อนแล้ว แกหาคนใหม่เถอะ"ผู้เป็นแม่กล่าวขึ้น จนของขวัญไม่มีอะไรจะคุยกับแม่อีกแล้ว แต่ก่อนธาวินช่วยครอบครัวเธอทุกอย่าง พ่อกับแม่ก็ดีกับเขาแต่พอมาตอนนี้เขาไม่สามารถที่จะช่วยครอบครัวเธอได้แม่ก็อยากให้เขาเลิกกับเธอ ทั้งที่เมื่อก่อนเขารักอยู่กับตะวันแต่แม่ก็บอกว่าตะวันไม่มีอนาคตให
"ผมนาย พิภพ โรจนวรโชติ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานเฉลิมฉลองความรักของ ตะวัน อัครเมธา และ ปลายฝัน ไกลอักษร วันนี้ผมขอมาพูดในฐานะคนรู้จัก และสัมผัสตัวตนของพวกเขาทั้งคู่ ซึ่งผมก็ได้ขอให้คำแนะนำและเอ็นดู พวกเขาทั้งคู่มาตลอด ตะวัน อัครเมธา เขาเป็นคนเก่งและขยันมากส่วน ปลายฝัน ไกลอักษร ก็เป็นเด็กดีมีน้ำใจทั้งสองเป็นคู่ที่น่ารัก คอยสนับสนุนกันและกันตลอด จนเดินทางมาถึงวันนี้ผมจึงอยากขออวยพรให้น้องๆของผม มีชีวิตคู่ที่มั่นคงยืนยาว ใช้ความรักและความเข้าใจในความสัมพันธ์ถนอมน้ำใจเอาใจใส่กันและกัน ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ปีก็ตาม ผมเชื่อว่าพวกเขาทั้งสองจะต้องเป็นเหมือนกิ่งทองใบหยก ที่ช่วยเกื้อหนุนกันให้ชีวิตของพวกเขามีความสุขความเจริญขึ้นไป มีครอบครัวที่สุขสันต์ และจะดูแลกันจนกว่าจะถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรแน่นอน"เสียงพี่ชายคนเดียวของตะวันอวยพร ในฐานนะแขกกิตติมศักดิ์ ทุกคนในงานร่วมกันปรบมือก้อง เสียงของพิภพ นั้นเสนาะหูน่าฟังยิ่งนักแต่หลายๆคนก็เสียดายที่เขานั้นมีภรรยาและลูกๆแล้ว ในงานเลี้ยงตอนกลางคืนออกรายการโทรทัศน์แทบตลอดพอ พิภพอวยพรเสร็จสิ้นผู้คนที่รู้ที่มาที่ไปของเรื่องท
หลังจากที่ส่งผู้ที่มาร่วมงานออกจากโรงแรมเสร็จแล้ว ก็เหลือแต่คนในครอบครัวที่ไปส่งบ่าวสาวเข้าหอ ความจริงพิภพต้องการปิดโรงแรมสามวันสามคืนด้วยซ้ำ แต่ผู้เป็นแม่ไม่ต้องการให้ลูกปิดนานขนาดนั้น ปิดแค่วันเดียวกับอีกสองคืน คือคืนจัดงานกับคืนเข้าหอ ตอนเช้าก็ให้รับลูกค้าเหมือนเดิม เพราะทั้งสองต้องไปไร่กันในตอนเช้า "แม่ขอให้ลูกทั้งสองครองรักกันจนถึงไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรนะ มีปัญหาอะไรก็ค่อยๆพูดค่อยๆจากัน ค่อยๆประครองรักกันให้ยาวนาน ให้เหมือนพี่ชายของแกนะตะวัน"แม่เลี้ยงนวลจันทร์อวยพรให้ลูกชาย ทำให้ขัดใจตะวันไม่น้อย ปลายฝันจึงก้มลงกราบเท้าแม่เลี้ยงจึงทำให้ตะวันต้องทำตาม"เป็นฝั่งเป็นฝาแล้วนะน้องชาย คนเราใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันต้องถนอมน้ำใจกันนะ มีอะไรไม่เข้าใจกันต้องพูดคุยกันให้เข้าใจ ขอให้น้องทั้งสองครองรักกันให้นานนะ"พิภพกล่าวขึ้น ปลายฝันจึงก้มลงกราบพี่พิภพ ตะวันก็ทำตาม พ่อกับแม่ของปลายฝันก็มาอวยพรให้ทั้งสอง หลังจากทั้งหมดออกไปปล่อยให้บ่าวสาวอยู่ด้วยกันสองคน ตะวันจึงเข้าไปอานน้ำ ในโรงแรงที่พวกเขาเข้าหอจะตกแต่งไปด้วยม้านสีแดงปูเตียงสีขาวและมีกลีบกุหลาบสีแดงปูเป็นรูหัวใจอยู่ตรงกลางเตียง และมีโปร
หลังจากลงมาจากห้องด้านบนแล้วปลายฝันก็ก้าวขาออกมาจากลิฟท์ก็พบคนประปลายที่เข้ามาพัก เนื่องจากเมื่อคืนไม่มีคนเข้ามาพักพอเธอลงมาจากลิฟท์จึงทำให้พนักงานรู้ทันทีว่าเป็นลูกสะใภ้ของแม่เลี้ยงนวลจันทร์ พนักงานที่อยู่ด้านหน้าลิฟท์ก็เข้ามาสอบถาม"พอดีว่าจะไปห้องอาหารค่ะ"ปลายฝันกล่าวขึ้น"ได้ครับคุณผู้หญิง แต่วันนี้ที่ห้องอาหารไม่มีอาหารเช้าแบบปกติ คุณผู้หญิงต้องสั่งให้พ่อครัวทำนะครับ พอดีเมื่อวานไม่ได้มีลูกค้ามาพักจึงไม่ได้ทำอาหารบุฟเฟ่ต์ไว้"พนักงานหน้าลิฟท์เดินไปส่งปลายฝันที่ห้องอาหารกล่าวขึ้น ความจริงปลายฝันอยากลิ้มลองอาหารบุฟเฟ่ต์ของโรงแรมนี้ต่างหาก เพราะเธอเคยได้ยินว่าอาหารที่นี่ขึ้นชื่อมากและเธอก็คิดว่าน่าจะเป็นอาหารบุฟเฟ่ต์ตอนเช้าหลังจากที่เข้าห้องอาหารไปก็มีพนักงาน 1 คนเดินออกมา"พอดีว่าวันนี้เราไม่ได้เตรียมอาหารเช้านะคะและอาหารก็จะเป็นแยกจ่ายของค่าห้องด้วยค่ะเนื่องจากว่าเมื่อคืนไม่ได้มีลูกค้ามาค้างคืน ก็เลยไม่ได้รวมค่าอาหารเช้าของวันนี้ต้องขอโทษด้วยนะคะ"พนักงานผู้หญิงคนหนึ่งออกมาพูดขึ้น ปลายฝันจึงคิดว่าถ้าไม่ได้กินฟรี เธอก็จะเดินออกไปแต่พนักงานผู้ชายที่มาส่งเธอจึงเดินเข้าไปพูดกับผู้หญิ
หลังจากออกจากเครื่องบินแล้ว ทั้งสองก็ขึ้นรถตู้ออกจากสนามบินนั่งซักประมาณครึ่งชั่วโมงก็เจอกับทางเข้าไร่ซึ่งทั้ง 2 ทางเป็นไร่ส้ม ต้นส้มที่ต้นโตพอๆกันอยู่สองข้างทาง ช่วงนี้น่าจะอยู่ในช่วงที่ใกล้เก็บเกี่ยวแล้ว ลูกส้มสีเหลือง อมส้มทั้งสองข้างทางน่ามองมาก ต้นส้มทุกต้นมีไม้ไผ่ค้ำไว้ซึ่งไม้ไผ่นั้นก็ค้ำอย่างเป็นระเบียบ เหมือนกับภาพวาดที่ตั้งใจวาดขึ้น แต่นี้ดูแล้วเป็นฝีมือคนที่ช่างละเอียดละออยิ่งนัก ตะวันก็เผลอมองปลายฝันที่ทำท่าราวกับตื่นเต้นกับสิ่งที่เขาเองก็เห็นมาตั้งแต่เด็กจนโตกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเสียแล้ว ตอนนี้พระอาทิตย์ใกล้ตกดินทำให้ท้องฟ้าเป็นสีอมส้มตัดกับใบต้นส้มที่เขียวขจีและผลส้มแล้วดึงดูดสายตาของปลายฝันยิ่งนัก ซึ่งทั้งสองนั่งรถราวๆครึ่งชั่วโมง ก็ถึงบ้านพักที่บ้านนั้นหลังใหญ่โตมากพ่อเลี้ยงทำบ้านไม้สองชั้น และมีเรือนเล็กๆอีกสองสามหลังอยู่ข้างๆกัน พอรถไปจอดคนขับรถก็วิ่งไปเปิดประตู และคนงานก็เปิดท้ายรถและนำกระเป๋าลากของปลายฝันและอีกใบหนึ่งสีดำสนิทแต่ใบเล็กกว่าของปลายฝัน ที่แท้กระเป๋าก็อยู่ที่นั่นเอง ปลายฝันมองออกไป เห็นผู้หญิงสามคนเดินออกมาจากตัวบ้าน หนึ่งในนั้นมีคนแก่หนึ่งคนและอีกสอ
"ตะวันค่ะตอนนี้คุณอยู่ไหนค่ะ"เสียงหวานผ่านสายโทรศัพท์มา"ผมอยู่บ้านครับ พึ่งมาถึงกำลังนั่งเคลียงานอยู่เลย"ตะวันพูดขึ้นและพิงหลังไปกับเก้าอี้ ตอนนี้เรื่องไร่เองไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่ผับที่เขาทำกำลังพบปัญหา เนื่องจากลูกค้าเยอะขึ้นทำให้ต้องสต็อกเหล้า ไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณที่เยอะ เพราะตอนนี้เหมือนจะไม่พอ ค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจอะไรนั้นมันต้องเยอะขนาดนี้เลยหรือ ตอนนี้เขาต้องรอเงินที่แม่เลี้ยงเคยพูดไว้อย่างใจจดใจจ่อ"ขวัญคิดถึงคุณค่ะตะวัน คุณคิดถึงขวัญหรือป่าวคะ"ขวัญถามขึ้น"ครับ พอดีช่วงนี้ผมยุ่งๆนะครับ ช่วงนี้ขวัญว่างหรือนี้พึ่งต้นเดือนคุณโทรหาผมสองรอบแล้ว"ตะวันถามขึ้นเพราะปกตินาน ๆ ขวัญจะโทรมาครั้งหนึ่ง ทีแรกตะวันก็คิดว่าผิดสังเกตดูแต่นาน ๆ ไปเขาก็ชิน แต่นี้มันก็ผิดสังเกตุขึ้นมาอีก"ก็ว่างๆนะคะพอดีว่าน่าจะสิ้นปีนี้ทางครอบครัวขวัญน่าจะกลับไปอยู่ที่ไทยแล้ว ตอนนี้ตะวันเล่นเฟสบุ๊คหรือป่าวค่ะ ข่าวคุณใหญ่โตเลยจนแม่ขวัญถามว่า สรุปว่าเป็นยังไง"ของขวัญกล่าวขึ้นช่วงนี้ก็โทรไปหาตะวันบ่อยจริง ๆนั้นและ"อ๋อ ผมไม่สนใจเรื่องพวกนั้นหรอกขวัญ ถ้าแม่คุณจะว่าผม ๆก็ปฎิเสธไม่ได้ที่จะให้แม่
พอถึงตอนเช้าทุกคนที่ตะวันเรียกก็มาพบตะวันที่หน้าบ้าน"วันนี้ที่ผมเรียกทุกคนมาก็เพราะว่าวันนี้มีสมาชิกใหม่มาแนะนำให้ทุกคนรู้จัก นี้คือปลายฝันภรรยาของผม เธอจะมาช่วยแบ่งเบาภาระของผมในไร่ ตอนเช้าเธอจะทำกับข้าวแทนป้าสาย"ตะวันกล่าวยังไม่ทันจบ"พ่อเลี้ยงตะวัน ไม่ได้นะหนูปลายฝันคือแม่เลี้ยงของที่นี่จะให้ทำกับข้าวเองได้อย่างไร"ป้าสายกล่าวขึ้นอย่างตกใจ"ป้าครับป้าแก่แล้วป้าคอยดูแลบ้านช่องและสั่งให้คนทำงานเถอะครับ ถ้าป้าไม่ไว้ใจเด็กนี้ก็ค่อยๆสอนงานเขา และแปดโมงเช้าคุณปลายฝันก็จะเข้าสวนไปทำงานกับแกนะวี"พ่อเลี้ยงตะวันพูดขึ้นจึงทำให้ป้าสายตกใจกว่าเดิม ทางด้านสิตาก็ยิ้มอย่างออกนอกหน้า"พ่อเลี้ยงไม่ได้นะหนูปลายฝันแต่งเข้ามาเป็นนายบ้านนี้จะให้ไปทำงานอีกไม่ได้ไม่ได้"ป้าสายพูดยังไม่ทันจบ"ป้าครับผมไม่ได้ให้เขาทำฟรีๆนะครับ ทั้งงานบ้าน งานไร่ ป้าคิดดูสิคนงานในไรกับคนรับใช้ในบ้าน ผมให้เดือนล่ะหมื่นห้า แต่สำหรับเด็กนี้ผมให้สองหมื่น เธอสนใจทำหรือป่าว"ตะวันบอกกับป้าและหันมาถามปลายฝัน"ทำค่ะ หนูทำได้"ปลายฝันพูดขึ้น จึงทำให้สิตาได้ใจ"งั้นเราก็มีหน้าทีเหมือนกัน ตำแหน่งเดียวกันซึ่งเราสามารถเรียกเธอว่าเธอ
เมื่อคนของแม่เลี้ยงลากปลายฝันเข้าห้อง ก็ทิ้งปลายฝันไว้ตรงประตูห้องโดยที่พวกเขาไม่ได้เข้าห้องเลยแม้แต่นิดเดียวเขาทิ้งปลายฝันไว้อย่างนั้น โดยที่ไม่ได้ลากปลายฝันขึ้นเตียงพวกเขาจึงไม่รู้ว่าในห้องนั้นมีคนอยู่แล้ว พวกเขาก็ล็อคห้องไป หลังจากที่ปลายฝันรู้สึกตัวก็รู้สึกร้อนๆเขาจึงพยายามดึงเสื้อของตัวเองออกแล้วก็แนบกับพื้นห้องที่เย็นๆรู้สึกดีขึ้นไม่น้อย ปลายฝันต้องการน้ำเขาต้องการเข้าไปในห้องน้ำเพื่อแช่น้ำให้ตัวเย็นขึ้นปลายฝันถึงเดินสะเปะสะปะแต่ก็ไปสะดุดอยู่ที่เตียงจึงลมลงและก็ทับไปบนตัวของตะวันที่ตัวเย็นจากการตากแอร์อยู่ ตะวันเองไม่ชอบใส่เสื้อนอนอยู่แล้วพอร่างที่ร้อนของปลายฝันถูกกับความเย็นของตะวันเธอก็ได้ใจ ความแนบชิดของทั้งสองที่ไม่รู้ตัว ฤทธิ์ยาในตัวของปลายฝันก็รุนแรงมากขึ้นทำให้เธอร้อนรนไปหมด ประจวบด้วยที่เธอต้องการความเย็นในตัวตะวัน ทางด้านตะวันก็สลึมสลือด้วยความเมาเมื่อร่างอุ่นๆเข้ามาปะทะก็เกิดความรู้สึกดี หญิงสาวที่อยู่ไม่สุขถูไถไปบนร่างชายหนุ่ม ทำให้ชายหนุ่มที่หลับอยู่ดีๆก็ฟุ้มซานขึ้น ขนาดนอนอยู่ยังฝันดีขนาดนี้ ปากของทั้งคู่ประกบกันทำให้ตะวันตื่นเต็มตาพร้อมด้วยแรงปรารถนาในกายก็ตื่นขึ้น
"เมื่อกี่เห็นพ่อเลี้ยงนั่งอยู่ข้างบนนั้นมองมาที่พวกเราด้วย พอเขาเห็นเราเขาก็หันหน้าหนีไป เขาไม่ต้องการให้เราเห็นหรือว่าอะไรอะต้นข้าว"ปลายฝันถามเพื่อนอย่างไม่ค่อยเข้าใจ"คนข้างบนคือพ่อเลี้ยงตะวันหรือที่นั่งกับบอสมานพอะนะ เข้ารู้จักกันหรือ"ต้นข้าวถามขึ้นอย่างอยากรู้ แต่คนที่นั่งกับบอสนั้นก็มองปลายฝันเหมือนสนใจอยู่นะ ใช่พ่อเลี้ยงของปลายฝันจริงๆหรือ"แกรู้จักคนนั้นด้วยหรือ สงสัยจะมาปรึกษากันเรื่องไร่แน่เพราะว่าเดือนหน้าพ่อเลี้ยงก็ต้องจ่ายเงินคนงานที่ไร่เองแล้วเขามีที่ปรึกษาดีก็ดีแล้วแหละ"ปลายฝันพูดขึ้น"ทั้งสองจะมีเรื่องปรึกษาอะไรกันล่ะในเมื่อบอสมานพก็ทำงานอยู่ที่นครพนมส่วนพ่อเลี้ยงก็ทำงานอยู่เชียงใหม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันหรือ"ต้นข้าวถามขึ้น"เราว่าเหมือนท่าทางเขาจะเป็นเพื่อนกันนะ เหมือนจะสนิทสนมกันยังไงก็ไม่รู้ที่เราแอบมองอะนะ แต่ช่างเถอะยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับเราหรอกเนาะ"ปลายฝันพูดขึ้น"ออกไปจากนี้แล้วก็กลับกันเถอะนี่มันก็ดึกมากแล้วแหละเกือบจะตีสองแล้วผับปิดกี่โมงนะ ไม่รู้ว่าพี่ชาติจะขับรถเข้าไร่ได้หรือเปล่าเดี๋ยวพ่อเลี้ยงนั่นแหละเขาจะกลับไร่พร้อมแกไหม"ต้นข้าวพูดขึ้น"ไม่หรอกพ่อเ
ตอนเช้าปลายฝันกับต้นข้าวตื่นขึ้นก็ต้องรีบไปทำกับข้าวให้พ่อเลี้ยงและก็พากันนำกับข้าวไปใส่บาตที่วัดใกล้ๆก่อนที่จะไปเที่ยวกันต่อ ทั้งสี่ไปเที่ยววัดกันสักพักก็เตรียมตัวไปที่ผับเพราะการเดินทางจากทางไร่ไปหาตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เวลาพอสมควร พวกเขาพากันแวะนมัสพระที่วัดโมฬีกับวัดป่าดาราภิรมย์เท่านั้น และก็ไปยังตัวเมืองเชียงใหม่เลยแต่ก็เป็นเวลาเย็นแล้ว ทีแรกทั้งสี่จะเข้าไปในผับทั้งสี่คนเลย แต่พอจะเข้าผับพี่พลอยก็เห็นรถของพ่อเลี้ยงตะวันจึงขอตัวไปหาโรงแรมพักรอทั้งสองคน พอทั้งสองเข้าไปก็เห็นเพื่อนๆหลายๆคนอยู่ที่นั้นแล้ว น้ำมนต์มากับพี่กายและเพื่อนพี่กายอีกคน และพี่ท๊อป ส่วนเมษากับนฤมลน่าจะมากับแฟน"มาเร็วปลายฝัน ต้นข้าว ทางนี้พวกเรารออยู่"นฤมลเรียกทั้งสอง"อ้าวปลายฝันเห็นแต่งงานแล้วนิ ไม่พาสามีเธอมาด้วยล่ะ แต่งกับใครนะเราก็จำไม่ได้แต่เห็นจัดงานใหญ่โตเลย แถมไม่ชวนพวกเราด้วยนิ"น้ำมนต์พูดขึ้น ทำให้คนทั้งสองที่พึ่งเดินเขามาอึดอัด ความจริงทั้งสองไม่คิดว่าทุกคนจะพาแฟนมาด้วย"ก็แต่งงานแล้วนั่นแหละแต่ไม่คิดว่าทุกคนจะพาคนอื่นมาด้วยนี่นึกว่าจะมาแค่เพื่อนเราเท่านั้น"ต้นข้าวพูดขึ้น"ต้นข้าวแกว่าใครคนอื่นนี่ก
พอถึงวันหยุดยาวของปีใหม่จริงๆตะวันก็เกิดความเครียดด้วยเรื่องของเงินที่ไม่มีจ่ายให้คนงานในเดือนหน้า ดีหน่อยที่ปลายปีนี้แม่ของเขาได้จ่ายเงินเดือนพร้อมกับโบนัสให้คนงาน ทุกคนรวมกับเขาแล้ว ตอนนี้ถึงแม้ผับกำลังจะไปได้สวยแต่การลงทุนมันยังต้องการเพิ่มอยู่มาก เขาไม่สามารถเอาเงินส่วนนี้ออกไปจ่ายค่าคนงานในไรได้เลย เขาต้องการปรึกษาสักคนที่ไว้ใจได้ เขามีเพื่อนแค่คนเดียวคือมานพซึ่งมานพนั้นก็ไม่ต่างจากเขาสักเท่าไรต่างกันตรงที่มานพเคยบริหารตัวเองแล้วล้มเหลวจนต้องให้ผู้เป็นแม่คอยชักจูงตลอดซึ่งตอนนี้มานพมีบริษัทเป็นของตัวเองซึ่งอยู่ที่นครพนมถึงแม้จะเป็นเจ้าของบริษัทแต่เขาก็ทำงานไม่ต่างจากตนเลยสักนิด เขาจึงนัดมานพมาคุยกับเขาในผับตอนสิ้นปี"ว่ายังไงร้อยวันพันปีไม่เคยจะคิดโทรมาหากูวันนี้มีเรื่องอะไรหรือ"มานพถามเพื่อนรักขึ้น"กูมีปัญหานิดหน่อยว่ะตอนนี้กูกำลังทำผับเองที่เมืองเชียงใหม่ แต่กูมีปัญหาเรื่องการเงินซึ่งกูไม่ใช่ว่าจะทำผับอย่างเดียว ต้องทำไร่ส้มด้วยและแม่เลี้ยงก็ให้เงินมาก้อนหนึ่งแล้วกูก็ไปลงผับหมดเลย แล้วซึ่งกูคิดว่ามันจะได้กำไรมาจ่ายค่าแรงของคนงานในไร่ แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้วกูได้แค่ทำงานในผับวนอย
เมื่อของขวัญรับรู้เรื่องสิตาทำงานพลาดก็โกรธ สิตาไม่ได้ทำงานพลาดธรรมดา แต่เขาโง่เองที่ไม่รู้ว่าปลายฝันไม่เคยไปยุ่มย่ามในห้องของตะวันเลย ส่วนสิตาน่าจะคิดไม่ทันเพราะเขาสั่งไปแบบนั้น แต่ยังไงก็โทษสิตานั้นแหละที่โง่"ตะวันค่ะสิ้นปีนี้ขวัญจะกลับไปอยู่ที่ไทยแล้วนะค่ะ แล้วคุณกับเด็กนั้นจะหย่ากันตอนไหนห รือค่ะ ถ้าขวัญกลับไปจะได้อยู่กับคุณหรือป่าวค่ะ"ของขวัญกล่าวขึ้นเมื่อโทรหาตะวัน"คุณจะกลับมาทั้งครอบครัวเลยหรือป่าวครับ"ตะวันถามขึ้น"ค่ะ ขวัญจะกลับไปทั้งครอบครัวเลย"ของขวัญตอบ เขาเองก็ไม่อยากจะหลอกตะวันแล้วว่าเขาไปอยู่ต่างประเทศกับพ่อแม่ ทั้งที่พ่อแม่เขาอยู่ที่ไทย"ครับงั้นคุณกลับมาก็อยู่กับพ่อกับแม่คุณสิครับ คุณก็รู้นิเรื่องแม่เลี้ยงไม่ให้คุณเข้าไร่"ตะวันพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ เพราะตัวเขาเองรู้ดีว่าเรื่องที่สิตาทำนั้น เป็นสิ่งที่ของขวัญเองให้สิตาทำเอาจริง ๆ สิตาไม่ได้มีปัญหาอะไรกับปลายฝันเลยแม้แต่น้อย และถ้าให้สิตาทำเอง สิตาคงจะคิดให้ดีกว่านี้เพราะเขาเองก็รู้ว่าปลายฝันไม่เคยเข้าห้องตะวันเลย ทำแบบนี้มันก็จะจับได้อยู่ดี"ตะวันค่ะ เหมือนคุณจะไม่รักขวัญแล้วนะคะ ไหนคุณว่าจะทำอะไรเพื
ตั้งแต่เหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นปลายฝันก็ไม่ได้เข้าออฟฟิตอีกเลย เหมือนเขาจะพยามยามหลบหน้าพ่อเลี้ยงอีกด้วย กิจวัตประจำวันของเขาคือทำกับข้าวเช้าเย็น และตอนกลางวันทำงานในไร่ ปลายฝันไม่เคยกินข้าวเที่ยงที่ทางไร่ทำขึ้นให้เลย เธอจะห่อข้าวไปกินใต้ต้นส้มคนเดียวทุกวัน คนงานทุกคนในไร่ปฎิบัติกับเขาดีขึ้นทุกคน ปลายฝันตั้งใจทำงานของตัวเองจึงทำให้ทุกคนใจไร่เห็นใจกว่าเดิมอีก พ่อเลี้ยงตะวันพยายามที่จะขอโทษปลายฝันอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล อาจเป็นเพราะพ่อเลี้ยงไม่เข้าหาปลายฝันเองด้วย และปลายฝันก็หลบหน้าพ่อเลี้ยง เมื่อตำแหน่งบัญชีของไร่ว่างและรอปลายฝันเข้ามาทำ แต่ปลายฝันก็ปฏิเสธที่จะทำเพราะเมื่อเดือนที่แล้วมีปัญญากับพ่อเลี้ยง แม่เลี้ยงจึงสั่งให้พนักงานบัญชีจากไร่ใหญ่เข้ามาทำให้ โดยไม่ให้คนงานต้องรอเงินเดือนเพียงเพราะเจ้าของไร่ทั้งสองทะเลาะกัน ทำให้พ่อเลี้ยงไม่พอใจอย่างมากแทนที่แม่เลี้ยงจะสั่งให้ปลายฝันเข้ามาทำบัญชีแต่กลับให้คนของตัวเองมาทำ เหมือนแม่เลี้ยงไม่ปล่อยโอกาสให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันเลย ปลายฝันก็พลอยหลบหน้าพ่อเลี้ยงตะวันตลอด ถึงงานจะทำได้ดีแต่ไม่ปล่อยโอกาสให้พ่อเลี้ยงเข้าใกล้เพื่อขอโทษจนหนึ่ง
"แม่จะพูดอะไรของแม่ครับ แม่รับไม่ได้หรือที่ลูกสะใภ้สุดที่รักของแม่คิดจะโกงไร่ ซึ่งเป็นเงินของแม่เลี้ยงเองด้วย"ตะวันพูดด้วยความโมโห ตอนนี้มินร้องไห้หนักมาก"วันก่อนตอนกลางคืนปลายฝันได้โทรมาคุยกับแม่เลี้ยงเพื่อที่จะขอร้องให้แม่เลี้ยงจ่ายเงินคนงานทั้งไร่ เพราะแม่ได้โอนให้พ่อเลี้ยงตะวันมาบริหารไร่เองแล้ว แต่พ่อเลี้ยงกลับใช้จ่ายเงินหมด ปลายฝันเองจึงให้แม่เลี้ยงช่วยจ่ายให้ไร่ก่อน และได้ส่งข้อมูลการใช้จ่ายเงินเดือนให้แม่เลี้ยงตอนสองทุ่มครึ่ง แม่เลียงเลยส่งให้ฝ่ายบัญชีไร่ใหญ่เลยตอนสองทุ่มสามสิบห้า แม่เลี้ยงและฝ่ายบัญชีของไร่ใหญ่เช็คตอนแปดโมงจนจะอนุมัติเงินอยู่แล้ว ก็มีอีเมลของไร่ตะวันรายงานรายจ่ายเข้าไปอีกตอนแปดโมงครึ่งทำให้ฝ่ายบัญชีเกิดกการสับสน แม่เองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงได้โทรมาถามพ่อเลี้ยงตะวัน เพราะแม่เลี้ยงคิดว่า พ่อเลี้ยงตะวันต้องใช้เงินส่วนนี้ทำอะไรโดยที่ปลายฝันไม่รู้หรือป่าว เพราะปลายฝันรายงานจำนวนเงินก่อนหน้านี้แล้ว และอีกห้าหมื่นนั่นต้องอนุมัติภายหลังแม่เลี้ยงแค่โทรมาถาม แม่เลี้ยงไม่คิดเลยว่าเหตุการจะเลยเถิดขนาดนี้ ถ้าแม่เลี้ยงไม่จัดการอะไรเลยทุกคนก็จะคิดว่าเป็นความผิดของปลาย
แม่เลี้ยงแค่ตรวจสอบก็พบว่าเมล์ที่ส่งมาตอนแปดโมงครึ่งนั้นถูกทำใหม่และส่งมาที่ไร่ใหญ่ และปลายฝันเองไม่มีเมล์ของไร่ซึ่งอันนี้ต้องเป็นพนักงานบัญชีของไร่ตะวันที่ทำมาส่ง แต่ที่ปลายฝันส่งให้ตอนกลางคืนที่คุยกันเสร็จมันอันที่ไร่ตะวันส่งมาให้ไร่ใหญ่ตอนบ่ายๆ และวันนี้ปลายฝันไม่ได้เข้าไร่เพราะตะวันให้พักผ่อนอยู่ที่บ้าน ต้องเป็นคนที่อยู่ในออฟฟิตที่ส่งมาให้ไร่ใหญ่เป็นแน่ เรื่องนี้ต้องมีอะไรสักอย่างเป็นแน่ แม่เลี้ยงเลยตรวจดูบัญชีเก่าๆก็ไม่พบสิ่งที่ผิดพลาดใดๆ ไม่มีการรายงานเงินเกิน จึงคิดที่จะสืบดูข้อมูลส่วนตัวของผู้ที่ทำบัญชีของไร่ตะวัน คนนี้ก็เคยทำงานมาสักพักใหญ่แล้วนิ แม่เลี้ยงจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและพิมข้อความอะไรสักอย่าง และวางโทรศัพท์ลง"ครับแม่เลี้ยง"เสียงตนสายเอ่ยขึ้น"ใครทำบัญชีให้ไร่ตะวัน ทำไม่เดือนนี้เกิดผิดพลาดขึ้นได้"แม่เลี้ยงถามขึ้น"ทุกที่จะเป็นคุณมินครับแต่เห็นเมื่อวานคุณปลายฝันมาทำให้ และคุณมินก็หยุดงานไปครับ ผมก็รู้แค่นี้ครับ"เสียงคนรายงานให้แม่เลี้ยงรู้"วันนี้ปลายฝันไม่ได้เข้าไร่หรอ"เสียงแม่เลี้ยงถามขึ้น"ไม่เห็นคุณปลายฝันเข้ามานะครับ และช่วงเกือบเที่ยงเห็นพ่อเลี้ยงรีบๆขับร
เช้าวันต่อมาปลายฝันก็ทำอาหารแต่เช้าพอเสร็จสิ้นก็ตั้งใจจะออกไปไร่เลย วันนี้เธอรู้สึกแปลกๆ ตาขวากระตุกแปลกๆ พอเธอจะอาศัยรถกระบะคนงานรอบเช้าไปด้วย คนงานก็บอกว่าให้ปลายฝันรอพ่อเลี้ยง เพราะพ่อเลี้ยงต้องการคุยด้วย พอปลายฝันพบกับพ่อเลี้ยงแล้วพ่อเลี้ยงก็บอกข่าวดี เรื่องที่แม่เลี้ยงจะจัดการเรื่องการเงินให้และวันนี้ให้ปลายฝันหยุดพักผ่อน พรุ่งนี้ค่อยไปทำงาน พอพ่อเลี้ยงออกไปไร่ก็พบว่าวันนี้มินกลับมาทำงานแล้ว มินมองซ้ายมองขวาไม่เห็นปลายฝันก็อดเสียใจเล็กน้อย เขาต้องการเห็นปลายฝันที่เมื่อวานทำบัญชีไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง เขาไม่ได้ให้อีเมลไร่ใหญ่ไปปลายฝันไม่น่าจะส่งข้อมูลให้แม่เลี้ยงได้ เขาเลยแปลงข้อมูลนิดหน่อยและส่งให้แทน ปกติต้องส่งรายจ่ายตั้งแต่เมื่อวานเพราะว่าวันนี้แม่เลี้ยงต้องจัดการ และวันสิ้นเดือนเงินก็เข้าบัญชีพนักงานทุกคน"วันนี้พนักงานบัญชีคนใหม่ไม่มากหรือค่ะพอดีว่ามินไม่ได้สอนงานน้อง น้องน่าจะยังไม่ได้ส่งเมลให้แม่เลี้ยงตั้งแต่เมื่อวานแน่เลยคะ ครั้งนี้เงินอาจจะออกล่าช้า พ่อเลี้ยงต้องแจ้งพนักงานล่วงหน้าหรือป่าวคะ"มินพนักงานบัญชีภายในไร่ถามขึ้น"คงส่งไปแล้วล่ะ วันนี้ปลายฝันไม่ได้เข้าไร่หรอก เด