4แม่เลี้ยงนวลจันทร์
เช้าวันถัดมาต้นข้าวก็มาถึงและขอพักที่บ้านปลายฝันเพราะทางมาจากบ้านตัวเองก็ไกลอยู่พอสมควร และเธอเองกะจะอยู่จนงานจบแล้วค่อยกลับ
"ปลายฝันขอแสดงความเสียด้วยอีกรอบนะแก "
ต้นข้าวกล่าวขึ้นอีกรอบเมื่อเจอหน้ากันเพื่อน
"จร้ารู้แล้วล่ะ แค่แกมาก็ขอบคุณมากแล้ว"
ปลายฝันกล่าวขึ้น
"เราได้งานที่ตัวอำเภอพอดีพ่อหาไว้ให้นะ แกเสร็จจากงานย่าแก่แล้วก็ลองหาแถวๆนี้ดูนะถ้าไปได้เดียวให้พ่อหาให้ เราว่าอยู่ใกล้บ้านจะได้ประหยัดค่าที่พักและค่าเดินทางด้วย ตอนไปเรียนก็ไปอยู่กรุงเทพใช้เงินเป็นว่าเล่นเลย ต่อไปนี้ก็ต้องหาเงินแล้วล่ะ"
ต้นข้าวพูด เรื่องของคนบ้านนอกก็แบบนี้ ไม่ค่อยมีทรัพย์มากมาย ลงทุนกับการเรียนจบแล้วก็ต้องรีบทำงาน
"เราก็กะว่าจะหาแถวนี้หล่ะจะได้ดูแลพ่อกับแม่ด้วย ทีแรกรู้ว่าเราเรียนจบแล้วเราจะมาดูแลย่าที่โรงพยาบาลเพราะย่าก็นอนโรงพยาบาลมาได้สักปีแล้วล่ะ ก่อนที่ท่านจะเสียนะแต่ตอนนี้ก็เหลือแต่พ่อกับแม่แล้ว"
ปลายฝันกล่าวขึ้น ทั้งสองช่วยกันจัดโน้นจัดนี่บ้าง บางครั้งก็เข้าครัวเพื่อจะทำอาหารบ้าง ช่วยหั่นผักล้างจานที่แขกมาช่วยงานกินเสร็จ จึงทำให้ไม่มีเวลาที่จะให้พวกญาติๆสอบถามเรื่องส่วนตัวของปลายฝันอีก แต่หลายๆคนก็ยังไม่วายที่ต้องการจะสอบถามให้ได้ แวะเวียนเข้ามาคุยบ้าง ปลายฝันก็ต้องขอตัวไปทำงานตรงอื่นอยู่เรื่อยๆ จึงทำให้พวกเขาเกิดเบื่อแล้วก็เลิกสนใจไปเอง แต่ก็ยังไม่ไหวที่จะไปพูดกัน
"นั่นลูกสาวไอ้พงษ์เหรอที่บอกว่าเพิ่งเรียนจบทำไมพาเพื่อนมาร่วมงาน ไม่เห็นพาแฟนมาเลยล่ะ เขามีแฟนหรือเปล่านะ เรียนจบแล้วจะทำงานอะไรล่ะไม่ใช่ว่าจะให้ไอ้พงษ์ฝากงานแถวๆนี้ให้หรอกหรือ"
ญาติผู้หนึ่งถามกันขึ้น
"เรื่องของเด็กมันหนะป้าจะไปยุ่งอะไรกับมันล่ะเรื่องจะมีแฟนหรือไม่มีแฟนนั่น เอาอีกอย่างนะถ้าพ่อมันฝากงานให้ลูกก็ดีเหมือนกัน จะได้ทำใกล้บ้านจะได้มีคนดูแลมันทั้งสองคนผัวเมีย"
ญาติผู้หนึ่งกล่าวขึ้น เพราะว่าตนเองก็ไม่ค่อยชอบเรื่องที่ชอบเอาคนอื่นมาพูดลับหลังบบนี้ ทำให้วงสนทนาเงียบไปนิดนึง เพราะผู้ชายที่พูดหักหน้าป้าคนนั้นเดินออกไปจากวงสนทนา ทุกคนก็เริ่มกลับมาที่จะพูดคุยกันอีกครั้ง ยิ่งหลายๆวันเข้าพวกญาติๆและพวกที่คุ้นเคยกับย่าก็มาร่วมแสดงความเสียใจมากขึ้น จนกระทั่งถึงคืนวันที่ 5 ก็มีรถตู้สีดำคันหรูหนึ่งคันขับมาจอดตรงหน้าวัด และก็มีคนเปิดประตูให้ มีผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวดูดีและก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมายืนข้างๆกัน แล้วปลายฝันก็เห็นพ่อกับแม่ของเธอเดินไปหาผู้หญิงกับผู้ชายสองคนนั้น แล้วรถก็ขับออกไปหาที่จอด
"สวัสดีครับแม่เลี้ยง เชิญครับเชิญครับ"
พ่อของปลายฝันกล่าวขึ้น ทุกคนที่อยู่ใกล้ๆได้เห็นก็หันมาดู
"เสียใจด้วยนะพงษ์เรื่องแม่ของเธอนะ เดี๋ยวเสร็จสิ้นงานส่งแม่ของเธอแล้วเราก็มาคุยธุระกัน แม่เลี้ยงเองก็ได้ตกลงกับแม่ของเธอไว้แล้ว"
แม่เลี้ยงกล่าวขึ้น และมองไปยังภรรยาของพงษ์และก็ลูกชายของตัวเอง
"นี่ตะวันลูกคนเล็กของเราเอง"
แม่เลี้ยงแนะนำลูกชายให้พงษ์รู้ และมองไปหาปลายฝันพงษ์จึงมองตามสายตาแม่เลี้ยงไปก็เจอลูกตัวเองและเรียกปลายฝันลงมา
"สวัสดีค่ะ"
ปลายฝันยกมือไหว้ผู้หญิงกับผู้ชายทั้งสอง
"พาแม่เลี้ยงนวลจันทร์กับพ่อเลี้ยงตะวันไปหาที่นั่งนะลูกแล้วหาน้ำหาท่าให้พ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงกินด้วยล่ะ"
พ่อของปลายฝันบอกลูกสาว หญิงสาวก็พาผู้หญิงและผู้ชายที่พ่อเรียกว่าแม่เลี้ยงกับพ่อเลี้ยงไปหาโต๊ะนั่งข้างในแต่ก็หาน้ำให้ดื่มเสร็จแล้ว ว่าจะไปทำงานที่อื่นต่อ ผู้เป็นแม่เลี้ยงจึงจับมือของปลายฝันแล้วบอกให้นั่งก่อน ด้วยมารยาทที่เป็นแขกที่เหมือนจะสำคัญของพ่ออยู่เธอจึงนั่งข้างๆ
"ปลายฝันหรือลูกหน้าตาสวยเชียว ป้ารู้จักกับย่าพิของหนูนะ และก็สนิทกันมากด้วย เอาเป็นว่าเดียวเสร็จงานส่งย่าหนูแล้วเรามาคุยกันนะ ป้าถูกชะตากับหนูนะ"
แม่เลี้ยงนวนจันทร์กล่าวขึ้น ปลายฝันจึงยิ้มๆแล้วเดินออกไป เพื่อจะไปถามพ่อเรื่องผู้หญิงที่เป็นแม่เลี้ยงนั้นเหมือนสนใจเธอจัง
"แม่อย่าบอกนะว่าเด็กคนนี้ที่แม่พูดถึงนั้น "
ลูกชายของแม่เลี้ยงพูดขึ้นพลางมองคนตัวเล็กที่หน้าตาก็ดูดีอยู่หรอกแต่หน้าอกหน้าใจเหมือนะไม่มีเอาเสียเลย เขาได้แต่สายหัว เขาปฎิเสธอยู่เป็นหลายร้อยรอบ แต่ผู้เป็นแม่ก็อ้างโน้นอ้างนี้ แม่ต้องการผู้ก็หญิงคนนี้เป็นลูกสะไภ้ทั้งที่เขาเองก็มีแฟนอยู่แล้ว แม่ก็อ้างเรื่องที่บ้านนี้ติดหนี้ของแม่ พอคนติดหนี้ตายไปเขาก็อยากจะดึงหลานสาวของลูกหนี้มาใช้งาน แต่ถ้าให้ไปอยู่ที่ไร่อย่างเดียวก็ไม่เหมาะสมจึงอยากให้เขาแต่งงานกับน้อง บางครั้งก็พูดว่าเป็นการสัญญาของทั้งสองฝ่ายตั้งนานแล้ว ตัวเขาจะไม่ยอมก็ไม่ได้ เพราะผลประโยชน์ที่เขาได้รับก็มากเลยทีเดียว จึงต้องมาด้วยตัวเองวันนี้ ความจริงก็อยากมาพูดคุยอะไรสักอย่างกับเด็กนั่นแต่เอาเขาจริงๆตัวเขาเองก็ไม่กล้าเอง
สงสัย"พ่อแม่เลี้ยงคนนั้นเขาเป็นใครหรือ ทำไมเขาสนใจในตัวหนูจังแล้วก็มาพูดกับหนูแปลกๆว่าเขารู้จักกับย่าและเขาก็สนิทกับย่าด้วย แล้วเขาก็พูดว่าเดี๋ยวเสร็จงานส่งย่าแล้วเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน หนูก็ไม่ได้สอบถามเขาหรอกว่าคุยเรื่องอะไร"ปลายฝันเดินมาถามพ่อ"แม่เลี้ยงคนนั้นก็ชื่อนวลจันทร์ไง เขาเป็นผู้ที่ออกค่ารักษาให้ย่าแกจนถึงวินาทีสุดท้าย พ่อก็เพิ่งจะรู้เมื่อไม่กี่วันนี้เองตอนพ่อได้เก็บจดหมายของย่าแกเมื่อครั้งที่มาจัดงานศพแล้ว ก็มีผู้คนช่วยเก็บของและจดหมายถึงเอามาให้พ่อเพราะข้างในมันเกี่ยวกับแม่เลี้ยงนวนจันทร์แล้วก็ย่าแก พ่อจึงโทรบอกเขาเพื่อมาล่ำลาย่าแกเป็นครั้งสุดท้าย เอาเป็นว่าเสร็จสิ้นงานแล้วเดี๋ยวเราก็มาเปิดจดหมายอ่านกันตอนนี้ไปช่วยทางโน้นเขาจัดการในครัวก่อนเถอะ อีกไม่เท่าไรพระสวดก็จะสวดแล้ว แล้วเรื่องซองพระสวดนะไปดูแม่ด้วยว่าจัดการแล้วหรือยัง เดี๋ยวพ่อจะไปดูที่จอดรถเห็นว่าเมื่อคืนมีที่จอดรถไม่พอ"พ่อรีบกล่าวขึ้นแล้วจากไป ปลายฝันก็เร่งรีบที่จะไปทำงานของตนเหมือนกันจึงไม่ได้สนใจอะไร คนที่พ่อเรียกว่าแม่เลี้ยงกับพ่อเลี้ยงนั้นกลับได้ตอนที่พระสวดเสร็จแล้ว และวันต่อมาก็มานั่งฟังพระสวดอีกแต่วั
"สวัสดีค่ะ"ปลายฝันกล่าวขึ้นและยกมือไหว้เมื่อมาถึงพ่อกับ แขกทั้งสอง"สวัสดีจร้า"เสียงผู้หญิงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเอ็นดู แต่ที่เป็นผู้ชายคนข้างๆกลับมองมาเฉยๆไม่ได้กล่าวอะไรออกมา"พึ่งจบมหาลัยสินะ ป้าว่าอยากชวนหนูไปทำงานอยู่ที่เชียงใหม่ สนใจหรือป่าวล่ะ"แม่เลี้ยงถามขึ้นอย่างเอาใจเด็ก พลางหันไปมองลูกชายที่ทำสีหน้าราวแบกโลกเอาไว้"หนูเพิ่งเรียนจบยังไม่มีประสบการณ์ทำงานนะค่ะ หนูว่าจะสมัครงานแถวนี้ดูก่อน เผื่อได้จะได้ดูแลพ่อแม่ด้วย"ปลายฝันปฏิเสธออกไป "ลองคิดดูก่อนก็ได้นะปลายฝัน ตาพงษ์คุยกับลูกสาวแล้วหรือ"แม่เลี้ยงกล่าวขึ้น"ยังเลยครับแม่เลี้ยง ยังไม่มีเวลาคุยกันเลย ผมว่าจะจัดการเรื่องคุณแม่เสร็จก่อนและจะเรียกญาติๆทุกคนมาและเปิดจดหมายคุณแม่ให้ทุกคนอ่านครับ ส่วนเรื่องปลายฝันผมก็ต้องคุยกับเขาก่อนอยู่แล้ว"พ่อของปลายฝันกล่าวขึ้น พลางมองหน้าลูกสาวยิ้มๆ"เรื่องอะไรหรือพ่อ"ปลายฝันถามขึ้น"มันมีเรื่องที่คุณย่ารับปากแม่เลี้ยงเอาไว้นะ ว่าจะให้ลูกแต่งงานกับลูกแม่เลี้ยง"ผู้เป็นพ่อกล่าวขึ้นแบบยิ้มๆเล็กน้อย"อะไรนะค่ะ"ปลายฝันพูดขึ้นอย่างตกใจ จนทำให้คนอื่นหันมามอง ที่แรกหลายๆคนก็สนใจผู้หญิงกับผู้ชา
เมื่อกลับไปถึงโรงแรมที่พักผู้เป็นลูกก็เรียกแม่เพื่อที่จะคุยเรื่องแต่งงานนี้"แม่ก็ดูท่าทีเด็กนั้นก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับผมเสียหน่อยแม่ลองเอาแบบนี้ดีไหมล่ะ ให้เขาติดหนี้เราไปก่อนถ้าเขายังไม่มีเงินจ่ายแล้วค่อยทยอยจ่ายภายหลังไม่ใช่ไปบังคับให้เขาแต่งงานแบบนั้นผมรู้สึกสงสารเขานะแม่"ตะวันพูดขึ้นเพราะตัวเองก็ไม่ต้องการที่จะถูกบังคับแต่งงานแต่อย่างใด แต่เรื่องเงินนั้นสำคัญเพราะว่าแม่บอกว่าถ้าเขาไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ แม่ก็จะไม่ให้เงินเขาใช้ ส่วนไร่ที่ตนเป็นคนทำนั้นเขาเองก็ไม่ได้รับเงินอยู่แล้ว แม่คอยจ่ายค่าคนงานในไร่ให้และจัดแจงค่าใช้จ่ายทุกอย่างรวมไปถึงรายเดือนที่ตะวันเองใช้จ่ายด้วย ซึ่งถ้าตนไม่มีเงินส่วนที่แม่ก็จะไม่มีเงินลงทุนผับที่ตัวเองแอบเปิด แต่ถ้าได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้แม่บอกว่าจะยอมให้เขาลองบริหารเงินของตัวเอง ตนจึงต้องตอบตกลงและตามแม่มาที่นี่"แกสงสารเขาหรือ ยิ่งแก่สงสารเขาแกก็ต้องรีบแต่งงานกับเขาเพื่อที่จะได้ยกฐานะของครอบครัวเขาให้สูงขึ้น เพราะถ้าเขาแต่งงานกับแกแล้วแม่ก็มีเงินให้กับครอบครัวเขาโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ถ้าให้ไปฟรีๆเขาก็จะคิดมาก ครอบครัวเราก็มีพร้อมแล้วแกเองก็จะ
เช้าวันต่อมาเป็นวันที่ทุกคนตื่นเช้าเพราะต้องไปเตรียมของที่วัดปลายฝันกับต้นข้าวรีบเดินทางไปวัดตั้งแต่ยังไม่ 6 โมงเพราะแม่บอกว่าให้ปลายฝันไปดูเรื่องอาหาร เตรียมของในครัวสำหรับพระทั้งหมด 9 ชุด และของแขกแขกที่มาอีก วันนี้น่าจะมีผู้มาเยอะอยู่ ส่วนต้นข้าวแม่ก็ให้ไปช่วยตรวจนับของที่ระลึก เพราะหลานของย่าลูกของป้ากับอานั้นเป็นผู้ชายจึงไม่ได้เข้ามาช่วยกันทำส่วนนี้ เพราะต้องไปเตรียมโกนผมแต่เช้าเพื่อที่จะบวชจูงย่า หน้าที่นี้เลยเป็นของลูกหลานที่เป็นฝ่ายหญิงซึ่งมีปลายฝันคนเดียวดีหน่อยที่ปลายฝันพาเพื่อนมา แม่จึงถือว่าต้นข้าวเป็นลูกอีกคน พ่อของปลายฝันไม่มีลูกชายตัวเองจึงต้องบวชเพื่อจูงแม่ พ่อของปลายฝันก็ไม่ได้เขามาช่วยส่วนนี้อีกแล้ว เรื่องรถก็ให้อาพจน์ทำต่อ ในเช้าวันนี้เสียงเปิดเครื่องเสียงแต่เช้าเป็นการเตือนให้หลายบ้านที่อยู่ใกล้เคียงรู้ว่าจะมีงานฌาปนกิจในวันนี้ ผู้ที่สนิทสนมกับผู้วายชนม์ก็จะมาช่วยกันจัดเตรียมของแต่เช้าส่วนผู้ที่ไม่ค่อยสนิทมากนักก็จะมารับประทานอาหารในเวลาสายๆ ย่าของปลายฝันน่าจะมีคนที่สนิทพอสมควรเพราะตอนที่จัดเตรียมอาหารในครัวก็มีคนมาช่วยอยู่มากโข และจุดนับของชำร่วยเองก็มีคนอยู่เยอะเ
เมื่องานฌาปนกิจของคุณย่าเสร็จสิ้นแล้ว พ่อของปลายฝันก็หยิบจดหมายของคุณย่าที่ฝากถึงพ่อไว้มาให้ปลายฝันและคุณแม่อ่าน เนื้อความในจดหมายเขียนไว้ว่า"แม่เป็นหนี้แม่เลี้ยงเป็นจำนวนเงินทั้งหมดเกือบจะสามล้านแล้ว แม่เลี้ยงใจดีที่ยื่นมือเข้ามาช่วยในการรักษาของแม่ให้แม่ดีขึ้น ณ วันนี้ แม่เลี้ยงเขาไม่ได้คิดว่ามันเป็นเงินที่แม่ไปติดหนี้เขา เพราะแม่เคยช่วยชีวิตพ่อของเขาไว้ แต่ที่แม่ช่วยชีวิตพ่อของเขานั้นแม่ไม่ได้เสียเงินสักบาท แถมตอนที่จากมาแม่ของแม่เลี้ยงเองก็ให้เงินแม่มาก้อนนึงแล้ว แต่แม่เลี้ยงนวลจันทร์ผู้นี้ก็ยินดีที่เข้ามาช่วยแม่ จึงถือว่าเขามีบุญคุณต่อแม่ถ้าพวกแกทั้งสาม หาเงินคืนเขาได้แม่ก็จะไม่ว่า แต่ถ้าถึงเวลาที่ไม่มีแม่จริงๆแล้วพวกแกยังหาเงินคืนแม่เลี้ยงไม่ได้แม่อยากจะขอร้องแกสักหน่อยนะพงษ์ ยกลูกสาวแกให้แต่งงานกับลูกของแม่เลี้ยงได้ไหม แม่เลี้ยงเขาเอ็นดูและชอบลูกสาวแกมาก ครั้งที่แม่เขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมาเขาก็ยังเล่าสารพัดสารเพเขาชอบปลายฝัน ถ้ามันไม่เหนือบ่ากว่าแรงจริงๆแม่อยากจะขอร้องแกนะพงษ์"จดหมายของคุณย่ามีแค่นี้ซึ่งก็เป็นตามที่ต้นข้าวเคยเกริ่นเอาไว้ว่าน่าจะเป็นเรื่องเงินซึ่งบ้านเราไม่มีเ
"ตะวันค่ะพอดีว่าอีกสองวันของขวัญจะกลับไทย ตะวันมารับขวัญที่สนามบินด้วยนะค่ะ "เสียงใสปลายสายเอ่ยขึ้น ทำให้หัวใจของตะวันพองโต ของขวัญผู้หญิงที่หน้าตาสวยอ่อนหวาน เขาปฏิเสธไม่ได้ว่าเขารักตะวันมาก แต่ด้วยที่บ้านของเขาฐะนะร่ำรวยและต้องขยายกิจการอยู่บ่อยๆ จึงต้องอาศัยกำลังทรัพย์มหาศาลเช่นกัน แม้ที่บ้านของตะวันจะเป็นเจ้าของไร่ที่ร่ำรวยกว่าเธอมาก แต่เรื่องการเงินของตะวันนั้นทุกอย่างต้องให้ผู้เป็นแม่จัดการ ตะวันจะซื้อคอนโดที่กรุงเทพฯยังต้องถามผู้เป็นแม่ ซึ่งทางบ้านของเธอเองไม่โอเครเพราะครอบครัวของตะวันไม่ชอบในตัวของเธอด้วย และเรื่องที่ตะวันต้องให้แม่จัดการให้ทุกอย่าง ตะวันเหมือนผู้ชายที่ยังไม่โตทั้งที่อายุก็สามสิบกว่าแล้ว คอนโดที่กรุงเทพฯของตะวันเองของขวัญไม่สามารถเข้าไปได้ ถ้าแม่เลี้ยงไม่ให้เข้า ของขวัญจะได้อยู่เฉพาะตะวันอยู่กรุงเทพฯเท่านั้น ทั้งที่คอนโดนั้นของขวัญต้องการที่จะให้ตะวันซื้อให้ของขวัญ แต่สรุปแม่เลี้ยงเข้ามาวุ่นวายจนทำให้ของขวัญเสียคอนโดนั้นไป การที่ของขวัญเองต้องแต่งานกับธาวินนั้นมันเป็นความผิดของตะวัน เพราะตะวันอ่อนแอเกินไป ของขวัญไม่เคยที่จะสำนึกผิดเลยสักนิดที่เรื่องเป็นแบบนี้
"ตะวันค่ะ พอดีว่าขวัญได้ข่าวว่าคุณจะแต่งงานหรือค่ะ ถึงว่าเหมือนคุณจะพลักไล่ขวัญยังไงยังงั้น ขออยู่คอนโดก็ไม่ได้ ขอไปอยู่ไร่ก็ไม่ได้ ที่แท้ก็เพราะว่าคุณจะทิ้งขวัญนี้เอง"เสียงปลายสายถามขึ้น เมื่อตะวันรับโทรศัพท์แล้ว เพื่อความแน่ใจขวัญจึงต้องการที่จะสอบถามให้หายสงสัย ตะวันก็ตกใจเล็กน้อยทั้งที่ขวัญอยู่ที่เมืองนอกแล้วจะรู้เรื่องของเขาที่พึ่งตัดสินใจลงไปเมื่อไม่กี่วันได้อย่างไรกัน หรืออาจจะเป็นแม่เลี้ยงที่ต้องการให้ขวัญรับรู้กันแน่"แต่งงานหรือครับ ขวัญเอาเรื่องนี้มาจากที่ไหนหรือครับทั้งที่ครอบครัวของขวัญเองก็ไม่ได้กลับไทยเลย อยู่ที่เมืองนอกตลอด"ตะวันถามขึ้นด้วยความสงสัยก่อน"ก็เพื่อนของแม่ขวัญที่อยู่เชียงใหม่สิคะเล่าให้คุณแม่ฟังคุณแม่ก็เลยถามขวัญดู ขวัญก็เลยถามตะวันดูค่ะ แล้วขวัญก็คิดว่าข่าวนั้นคงเป็นข่าวโคมลอย ขวัญก็ไม่ได้เอามาใส่ใจหรอกค่ะถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริง"ของขวัญกล่าวขึ้นพลางใจชื่นขึ้นมาทัั้งที่ยังไม่ได้คำตอบด้วยซ้ำ ก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง"ครับ คุณแม่ให้ผมแต่งงานกับคนที่คุณแม่หาให้ครับ ผมต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอกขวัญ เพราะผมเองก็ไม่รู้จะบอกกับขวัญว่าอย่างไร"ตะวันกล่าวขึ้นอย
หลังจากเสร็จสิ้นงานทำบุญร้อยวันของคุณย่าแล้ว ทางครอบครัวของปลายฝันก็เริ่มที่จะจัดงานมงคลต่อเลย"ปลายฝันเราดีใจกับแกด้วยนะที่แกจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว"ต้นข้าวกล่าวขึ้นขณะที่กำลังลองชุดให้ปลายฝัน แม่เลี้ยงจัดการส่งชุดมาให้ปลายฝันลองประมาณ 7 ชุดให้ปลายฝันเลือกเอง ชุดแรกเป็นชุดไทยสีเทา ซึ่งชุดนี้ปลายฝันสนใจเป็นพิเศษ ส่วนชุดกลางคืนปลายฝันใช้เป็นชุดขาวเกาะอกที่ข้างหน้าสั้นแล้วข้างหลังยาวชุดนี้ต้นข้าวเป็นคนเลือกให้"ต้นข้าวแกเองก็รู้นี่ว่าเราต้องแต่งงานเพราะอะไรแล้วเรายังคิดไม่ออกว่ามันจะใช่ความสุขหรือเปล่า ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ และเหมือนว่าพี่ตะวันเขาก็ไม่ได้ชอบเราสักเท่าไหร่ แต่เขาก็เหมือนต้องยอมแต่งงานกับเรา"ปลายฝันกล่าวขึ้น ในใจก็คิดหวั่นๆกับการตัดสินใจของตัวเอง ไม่รู้อนาคตของตัวเองจะเป็นอย่างไร แต่เขาเองก็ตัดสินใจแล้ว และจะไม่เสียใจภายหลังเด็ดขาด ทางด้านตะวันไม่ได้เลือกอะไรมากมาย เขาให้แม่จัดการให้ทุกอย่าง แม่เลี้ยงหาชุดช่วงเช้าสีใกล้เคียงกับเจ้าสาวและ ตอนกลางคืนเป็นชุดสูท เพราะแม่เลี้ยงคิดว่าลูกตัวเองดูดีอยู่แล้วชุดไหนก็เหมือนๆกันนั้นแหละ"ตะวันค่ะพรุ่งนี้คุณจะแต่งงาน ขวัญ
เรื่องของมานพและต้นข้าว ตะวันแค่แจ้งให้มานพรู้ว่า ต้นข้าวท้องลูกของมานพอยู่และใกล้คลอดออกมาแล้ว และตอนนี้ต้นข้าวอยู่ตอนโดวรโชติ ส่วนเรื่องอื่นๆให้มานพคิดและจัดการกับชีวิตเอาเอง"เพื่อนของคุณและเพื่อนของผมก็มีลูกกันแล้วเนาะ เราแต่งงานก่อนเขาเสียอีกยังไม่มีลูกเลย "ตะวันพูดขึ้น"ปลายว่าเราต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ วันนี้พ่อเลี้ยงจะกินอะไรค่ะปลายจะได้ทำให้"ปลายฝันพูดขึ้น"พ่อเลี้ยงอยากกินหนูปลายได้หรือป่าวครับ"พ่อเลี้ยงกระซิบขึ้นทำสีหน้าละลื่น ทำใหคนฟังหน้าแดง พลางใช้มือใหญ่ๆโอบเอวบางจับให้คนตัวเล็กกว่านั่งบนตักตัวเอง"มันยังไม่มืดเลยนะคะ เดียวปลายไปทำกับข้าวนะอุ๊ยๆๆๆ"ปลายฝันพูดขึ้นแต่พ่อเลี้ยงไม่ลดละความพยายามทำให้ปลายฝันร้องออกมา"บางครั้งเราต้องเปลี่ยนช่วงบาง ทำช่วงเดิมซ้ำๆจะมีลูกได้อย่างไร เปลี่ยนช่วงเปลี่ยนบรรยากาศเสียบ้าง"ตะวันเอ่ยเย้า พลางจับคางให้เธอหันหน้ามาหาเขาและบดจูบอย่างเต็มที ปลายฝันก็ไม่ได้ฟืนอะไรเขาตอบสนองพ่อเลี้ยงอย่างไว สักพักก็หันหน้าออก"แต่ไม่นานก็ต้องมีคนมาตามปลายไปทำกับข้าว ปลายไปทำกับข้าวก่อนนะคะ"ปลายฝันพูดขึ้นอย่างหอบๆ พลางพลักอกใหญ่ๆของพ่อเลี้ยงออก"ไม่มี
"ที่แท้พ่อเลี้ยงตะวันกับคนพิภพก็เป็นพี่น้องกันหรือคะ เห็นเป็นข่าวใหญ่โตก็ไม่เห็นออกมายอมรับหลายๆคนนึกสงสัยและนำรูปมาเปรียบเทียบกันที่แท้พวกคุณก็หลอกสังคมอยู่นี่เอง ว่าพวกคุณไม่ใช่พี่น้องกันทั้งที่พวกคุณเป็นพี่น้องกัน"ของขวัญพูดขึ้นอย่างคนที่เหนือกว่าเขาเอาคำนี้ไปบอกนักข่าวรับรองว่าเป็นข่าวดังแน่ๆ"ผมไม่เคยบอกใครว่าผมกับตะวันไม่ใช่พี่น้องกัน และก็ไม่เคยยอมรับที่ไหนว่าเราเป็นพี่น้องกัน คุณว่าจริงหรือเปล่าครับ แล้วถ้าคุณจะเอาจุดนี้มาเป็นข้อได้เปรียบของพวกผมคุณคิดน้อยเกินไปแล้วล่ะครับคุณของขวัญ ตอนนี้ธุรกิจของผมก็ไปในทิศทางที่ดี ตะวันเองก็ไปในทิศทางที่ดีตอนนี้ถ้าทุกคนรู้ว่าเราเป็นพี่น้องกันชื่อเสียงของเราก็จะผลักดันกันครับ แต่เมื่อก่อนมันไม่ใช่เพราะถ้าทุกคนรู้ว่าพวกเราเป็นพี่น้องกันรั้งแต่จะฉุดให้อีกคนลงต่ำมา เพราะตะวันทำตัวเองไม่ได้เรื่อง มีแม่เลี้ยงที่พลอยอุ้มชูอยู่เท่านั้น คุณคงเข้าใจนะครับว่าทำไมผมไม่ออกมายอมรับว่าเขาคือน้องแต่ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธนะครับ"พิภพพูดขึ้นให้ของขวัญกระจ่าง แม่เลี้ยงเป็นคนวางแผนเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นให้เขาทั้งสองคนแยกกันอยู่เพราะเรื่องที่ว่าผู้หนึ่งได้ดี แล้วต้
ผับของตะวันเองไปได้สวยแล้ว ทางด้านแม่เลี้ยงก็เห็นเป็นอย่างดีจึงยอมที่จะให้ลูกชายจัดการไร่เองทั้งหมดรวมกับรายได้ของไร่ตะวันด้วย เขาจึงเรียกลูกชายทั้งสองกับลูกสะใภ้มาพร้อมๆกันที่ไร่ตะวัน"คุณพลอยไพลินฝากคุณหนูทั้งสองไว้กับป้าก็ได้นะ"ป้าสายพูดขึ้นเมื่อทั้งสี่เข้ามาถึงบ้านไร่ วันจึงเดินออกมาอุ้มน้องพริมและป้าสายก็จูงมือน้องพร้อมไป ทั้งสองจึงเข้าไปนั่งรอแม่เลี้ยงที่ห้องทำงานตะวัน ซึ่งตะวันก็นั่งรอพวกเขาอยู่แล้ว เมื่อคนทั้งสองมาปลายฝันจึงยกของว่างไปให้ทั้งสอง พลอยจึงยกน้ำส้มเข้าไปให้"สวัสดีคะพี่พิภพพี่พลอย ลองชิมขนมดูหน่อยค่ะปลายทำเองเลยนะ คุ๊กกี้สามรสค่ะ "ปลายฝันพูดและยื่นขนมให้กับพลอยไพลินลองชิม พลอยไพลินถือจานมาและหยิบไปหนึ่งชิ้นและวางจานลง ไม่นานแม่เลี้ยงก็เดินเข้ามานั่งอยู่หัวโต๊ะ ตะวันกับพิภพก็นั่งข้างๆและถัดมาปลายฝันกับพลอยไพลินก็นั่งตรงข้ามกัน"วันนี้ที่แม่เรียกทั้งสองมาก็เพราะว่าแม่เห็นว่าเกือบหนึ่ง ปีที่ผ่านมานี้ไร่ของตะวันดำเนินไปด้วยความสะดวกแล้ว แม่ต้องขอบคุณที่ปลายฝันเข้ามาช่วยตะวันดูแลไร่ ค่าใช้จ่ายในไร่ของตะวันลดน้อยลงแต่ก็ไม่ทำให้คนงานเดือดร้อน รวมทั้งค่าน้ำค่าไฟค่ากินค่
หลังจากที่ตะวันไปที่ผับแล้วก็เอาโทรศัพท์มาดูที่ปลายฝันตั้งหน้าโปรไฟล์ facebook ขึ้นว่าผับตะวันแล้วเขาก็นำรูปที่ตะวันถ่ายไว้ในโทรศัพท์ออกมาเป็นรูปโปรไฟล์ ตะวันจึงโทรไปหามานพเพื่อนที่อยู่นครพนมบอกให้เพิ่มเพื่อนกับเขาทางเฟสบุ๊ค"โถแต่ก่อนมึงไม่อยากจะมีเฟสทำไมตอนนี้ถึงมีเฟสได้ว่ะ"มานพถามขึ้น"แล้วมันไม่ดีหรอวะถ้ากูมีเฟสนะ"ตะวันพูดขึ้น"ก็ดีน่ะสิเพราะมึงทำงานเกี่ยวกับผับถ้ามึงเข้าถึงคนจำนวนมากได้ก็จะเป็นผลดีต่อมึงแล้ว อีกอย่างมันมีประโยชน์กับการที่มึงจะไปหาแหล่งซื้อเหล้าซื้อเบียร์พวกนี้ด้วยจะได้ของที่ถูกและดีขึ้น"มานพพูดแล้วเพิ่มเพื่อนตะวันไป หลังจากที่ตะวันเพิ่มเพื่อนไปหลายๆคน เขาก็นึกสงสัยเกี่ยวกับการแต่งงานของของขวัญจึงเข้าไปดูในเฟสของของขวัญ ก็พบว่าไม่ได้มีการแต่งงานหรืออะไรทั้งนั้น ตะวันจึงเข้าไปดูเฟสของธาวินเขาก็พบกับรูปแต่งงานตรงหน้าโปรไฟล์จึงกดเข้าไปดูก็พบว่าเป็นธาวินกับของขวัญจริงๆด้วย เขาช่างโง่เง้าเสียเหลือเกิน วันนั้นมันน่าจะเป็นข่าวใหญ่พอสมควร แต่เพราะเขามัวแต่อยู่ในไร่ไม่สนใจโทรทัศน์ข่าวคราวใดๆและไม่เล่นโซเชียลจึงทำให้เขาเหมือนคนโง่ มีคนงานในไร่พยายามที่จะพูดแต่พอแม่เลี้ย
หลังจากที่พ่อเลี้ยงกลับมาตอนบ่าย ๆ ก็กินข้าวเสร็จก็ถามหาปลายฝัน ตัววันดี เองก็ทำหน้าลำบากใจ เขาต้องเล่าให้พ่อเลี้ยงฟังหรือไม่ว่าคุณของขวัญมาที่ไร่ ทางคุณของขวัญก็ไม่ได้บอกว่าให้บอกพ่อเลี้ยงสักหน่อยแล้วพ่อเลี้ยงยัง ถามหาปลายฝันอีกไม่ใช่จะเอาเรื่องเขาหรือ วันดีคิดมากเหมือนคนทำผิดใหญ่หลวง"คุณปลายฝันไปทำงานตั้งแต่กลับมาแล้ว หลังจากทำกับข้าวให้พ่อเลี้ยงเสร็จก็ไปทำงานเลย พ่อเลี้ยงจะให้ป้าโทรตามคุณปลายฝันกลับมาหรือเปล่า วันนี้คุณของขวัญเข้ามาหาพ่อเลี้ยงด้วยแต่ก็มานั่งสักพักเขาไม่ได้รอและก็ออกไป"ป้าสายยืนรายงานพ่อเลี้ยงอยู่ พ่อเลี้ยงจึงเหลือบตาไปมองวันดีแป๊บนึง ทำให้วันดีก้มหน้าหลบทันที"โทรให้คุณปลายมาพบผมที่ห้องทำงานแล้วกันครับป้า วันดียกน้ำส้มไปให้ผมกับคุณปลายในห้องทำงานผมด้วย"หลังจากสั่งงานเสร็จพ่อเลี้ยงก็ขึ้นห้องไป ป้าสายจึงรีบโทรตามคุณปลายฝัน และเตรียมน้ำส้มให้ทั้งสองถ้าทั้งสองเข้าห้องทำงานแล้วจะได้ให้วันดียกไป"เป็นอะไรวันดีแกกำลังทำตัวมีพิรุธอยู่ ถ้าคุณปลายกับพ่อเลี้ยงเข้าไปในห้องทำงานแล้วยกน้ำส้มไปให้อย่าทำตัวมีพิรุธ อย่าทำให้น้ำส้มหกเลอะเทอะล่ะเดี๋ยวจะโดนโกรธ"ป้าสายพูดขึ้นและสั
ทางด้านตะวันเมามายได้ไม่นาน คนที่ผับติดต่อไม่ได้ก็ต้องโทรเข้าเบอร์บ้าน เพราะตอนนี้ของเริ่มหมดสต็อกอีกแล้ว พวกเขาต้องให้พ่อเลี้ยงตะวันอนุมัติเท่านั้นจึงต้องเร่ง"พ่อเลี้ยง คนทีผับโทรมาว่าติดต่อพ่อเลี้ยงไม่ได้ เขาว่ามันสำคัญมากป้าเลยเดินมาบอก"ป้าสายขึ้นมาบอกพ่อเลี้ยง"มีรถไปรับคุณปลายฝันกับวันดีแล้วหรือ เดียวผมจะออกไปผับเลยแล้วกันให้พลอยขึ้นมาเก็บห้องให้ด้วยนะครับเอาของพวกนั้นไปทิ้งให้หมดเลย"ตะวันพูดขึ้นพลางชีไปที่มุมห้อง"คนขับรถไปรับคุณปลายตั้งแต่เช้าแล้ว คุณตะวันจะกินอะไรก่อนไหมเดียวป้าไปทำให้"ป้าสายถามขึ้น"ไม่ต้องครับเดี๋ยวคุณปลายกลับมา แล้วให้เขาทำไว้รอผมแล้วกัน ผมอาบน้ำแล้วจะรีบไปพักเลย"ตะวันพูดขึ้นแล้วรีบไปอาบน้ำ ป้าสายจึงให้พลอยขึ้นมาทำความสะอาด แล้วให้คนงานขึ้นมายกของที่พ่อเลี้ยงต้องการทิ้ง ตะวันออกมาจากห้องน้ำเห็นพวกคนกำลังขนของลงไปเขาก็ไม่ได้ใส่ใจ และออกไปจากบ้านขับรถออกไปทันที"แม่เลี้ยงพ่อเลี้ยงออกไปแล้วค่ะ แล้วก็ให้คนงานขนของในห้องพ่อเลี้ยงออกไปทิ้งเป็นจำนวนหนึ่งน่าจะเป็นของของคุณของขวัญ"ป้าสายโทรไปรายงานแม่เลี้ยง"ดีแล้วล่ะเตรียมตัวรับมือกับของขวัญให้ดีแล้วกันเหมือ
หลังจากที่ทั้งสามจากไปตะวันก็นั่งอยู่ที่เดิม ทุกคนรู้เรื่องเกี่ยวกับของขวัญเพราะเล่นโซเชียลแต่เขาเองไม่รู้ และคิดว่าแม่ใส่ร้ายอีก ตะวันปกติอยู่แต่ในไรและเป็นหัวหน้าของทุกคน พอรู้เรื่องที่ว่าทุกคนรู้หมดยกเว้นตัวเขา เอาเข้าจริงๆมีคนพูดกับเขาหลายคนแต่เขาฟังขวัญเพียงคนเดียวจึงทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ ใช้ความแค้นครั้งนี้ขวัญต้องได้รับบทเรียน"อยากพักโรงแรมของพี่ที่ไหนจองได้เลย ถ้าแกพักที่คอนโดวรโชติห้อง1113ได้ ของที่แกซื้อให้ปลายฝันเขายกให้เพื่อนอยู่แล้ว"พิภพทิ้งข้อความไว้ให้น้องชายอ่าน แต่ตะวันไม่อยู่แล้ว กรุงเทพไม่เหมาะกับเขาเลยสักนิด"ผมจะกลับแล้วครับ พี่ช่วยจัดการทุกอย่างให้ผมด้วยผมจะกลับเชียงใหม่เลย"ตะวันพิมพ์ข้อความกลับไป เขาไม่ต้องการคุยกับใครทั้งนั้น รถที่มารับเขากลับไปส่งที่สนามบิน และมีผู้ติดตามเขากลับหนึ่งคนเป็นคนของคุณพิภพ เพราะกลัวน้องชายจะเกิดเรื่องจึงให้คนติดตามกลับไปด้วย พิภพแจ้งกับคนรถทางให้ให้มารอรับเมื่อตะวันใกล้ถึง ตะวันเพียงแค่นั่งเครื่องบินแล้วก็นั่งรถได้ต่อเลย พอมาถึงไร่ป้าสายก็วิ่งไปลากกระเป๋าแล้วลากขึ้นห้องโดยไม่พูดอะไรทั้งนั้น เพราะแม่เลี้ยงได้โทรมากำชับแล้ว พ่อ
ราวๆ 10:00 น. ก็มีรถตู้มาจอดหน้าบ้านป้าสายก็นึกว่าใครจึงวิ่งมาดูก็เห็นคนขับรถเดินออกมาแล้วขึ้นห้องของพ่อเลี้ยงไปพร้อมกับลากกระเป๋า 1 ใบลงมาจากห้องพ่อเลี้ยงและพ่อเลี้ยงก็เดินตามลงมา"ป้าผมจะไปทำธุระ 2-3 วันนะฝากบ้านด้วยนะครับ"ตะวันพูดเสร็จก็ขึ้นรถตู้ไปทันที ป้าสายได้แต่ยืนงง พ่อเลี้ยงเองเมื่อเห็นปลายฝันแล้ว ก็รู้สึกว่าขนาดเขาอยู่กับปลายฝันมาตั้งนาน พอเห็นแต่งตัวแบบนี้ยังเกิดอารมณ์ได้เลย แล้วถ้ามีคนไม่หวังดีกับปลายฝันเข้าจะทำอย่างไร และที่ปลายฝันบอกว่าจะไปเจอเพื่อนที่กรุงเทพฯอาจจะเป็นกลุ่มเดียวที่ใส่ยาพันธ์นั้นกับปลายฝัน เพราะว่าคนอย่างปลายฝันก็คงไม่รู้หรอกว่า ตัวเองถูกยาพันธ์นั้นในคืนนั้นก็คงจะคิดว่าตัวเองเมา จึงรีบที่จะตามปลายฝันไปแต่ตัวเขาไม่ต้องการให้ปลายฝันรู้ ส่วนเรื่องตั๋วเครื่องบินเขาก็โทรไปเช็คแล้วปลายฝันกับหนูดีขึ้นลำนี้แต่เขาต้องพยายามที่จะไม่ให้ทั้งสองรู้ว่าเขาตามไป หลังจากลงจากเครื่องบินแล้วปลายฝันก็รอต้นข้าว เพราะต้นข้าวบอกว่าจะมาถึงพร้อมๆกับเธอ"ปลายฝันคิดถึงจังเลยเมื่อตะกี้เห็นพ่อเลี้ยงด้วยไปไหนแล้วล่ะ"ต้นข้าวพูดขึ้นเมื่อมาถึงเพื่อนแล้ว"ตาฝาดแล้วล่ะเราไม่ได้มากับพ
"ต้นข้าวถ้าว่างโทรมานะ"ปลายฝันทิ้งข้อความไว้ให้ต้นข้าว พอรู้ว่าเรื่องนี้ไม่อยากจะพิมพ์ผ่านข้อความเพราะข้อมูลพวกนี้จะมีคนอื่นรู้เห็นต้องโทรคุยกันเท่านั้น"ปลายฝันว่าอย่างไรหรือ"ต้นข้าวถามขึ้นขณะโทรมาหาปลายฝัน"เราได้คอนโดแล้วนะชื่อว่าวรโชติอยู่แถวๆสยามถ้าแกหางานก็น่าจะหาแถวๆนั้นเผื่อจะได้สะดวกต่อการเดินทางสิ้นเดือนนี้ย้ายของเข้ามาได้เลย จะให้เราไปรับแกที่นครพนมหรือว่าแกจะมาหาเราที่เชียงใหม่หรือว่าเราจะนัดเจอกันที่กรุงเทพฯเลย"ปลายฝันรีบพูดเรื่องของตัวเอง เพราะกลัวว่าเพื่อนจะลำบากใจในการพูด"งั้นเรานัดเจอกันที่กรุงเทพฯก็แล้วกันนะ แกว่างวันเสาร์อาทิตย์ใช่ไหมงั้นวันอาทิตย์ที่ 31 เจอกันนะ"ต้นข้าวพูดขึ้น ใจชื้นขึ้นมาบ้างอย่างน้อยก็ยังมีที่อยู่และตอนนี้เขาต้องทำการยื่นสมัครงานไปแถวๆคอนโดที่พักถึงแม้จะสงสัยอยู่ไม่น้อย ว่าทำไมปลายฝันถึงหาคอนโดได้ แต่ในระดับพ่อเลี้ยงแล้วก็คงจะหาได้ไม่ยากแต่ไม่ใช่ว่าปลายฝันจะคุยกับพ่อเลี้ยงแล้วหรือเรื่องของเธอ และเธอเองก็ไม่ได้ถามอะไรมากเพราะไม่สะดวกคุยกันผ่านโทรศัพท์จึงคิดว่าเดี๋ยวไปคุยกันที่นู่นจะดีกว่า"เห็นว่าคุณปลายฝันจะให้คนเข้าพักนะครับ ทางคอนโดก็ไม่ไ