กู้อวิ๋นซียังคงมองเขาอย่างสงบนิ่ง แต่ว่าราวกับว่านางจะตกใจกับคำพูดของเขามาก"ท่านอ๋องไม่ชอบที่ข้าว่าง่ายเหรอ?" คำพูดนี้ฟังดูแล้วไม่เหมือนการประชดจวินเย่เสวียนรู้สึกหนักอึ้งในใจอย่างประหลาดเขาชอบที่นางว่าง่าย แต่ว่าไม่ใช่การว่าง่ายแบบนี้!ไม่เหมือนกัน!นี่ไม่ใช่ความรู้สึกที่เขาอยากได้!ตอนนี้กู้อวิ๋นซี ราวกับเป็นหุ่นเชิดไร้ชีวิต!เป็นหุ่นเชิดจริงๆ!"ดังนั้นตอนนี้เจ้าคิดได้แล้วอย่างนั้นเหรอ ไม่ว่าข้าจะให้เจ้าทำอะไร เจ้าก็จะทำเหรอ?"คำถามนี้ กู้อวิ๋นซีไม่ได้ตอบ นางเพียงมองเขานิ่งอยู่อย่างนั้นจวินเย่เสวียนรู้สึกอัดอั้นในอก มันตื้อไปหมดจู่ๆ เขาก็อุ้มนางขึ้นมา เดินเข้าไปทางฝั่งเตียงนอนหลังใหญ่กู้อวิ๋นซียังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร ก็ถูกเขาโยนลงไปบนเตียงแล้วไม่ขัดขืน ไม่มีแม้แต่สีหน้าที่จะขัดขืนเลยสักนิด"ถอด!" เขาพูดอย่างเย็นชากู้อวิ๋นซีลุกขึ้นมานั่ง ยื่นมือออกมาแล้วเริ่มถอดเสื้อของตัวเองออกจริงๆท่าทางแบบนี้!จวินเย่เสวียนโมโหจนต้องกำหมัดไว้แน่น!ในตอนที่กู้อวิ๋นซีกำลังเปิดเสื้อของตัวเองออก จู่ๆ เขาก็ก้มหน้าลงมา จับคางของนางเอาไว้แน่น เชิดหน้าเล็กๆ ขาวซีดของนางขึ้นมา"เ
เหล้าในคืนนี้ ช่างอึดอัดและอึมครึมตอนหลัง หลังจากที่จวินเย่เสวียนดื่มไปอีกหลายแก้วก็บอกให้กู้อวิ๋นซีนั่งลง กินข้าวเป็นเพื่อนเขาความจริงเขาดูออกว่าตอนนี้นางเหนื่อยมากแล้ว"ไม่มีอะไรจะพูดกับข้าเหรอ?" หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ ก็ให้สาวใช้มาเก็บกวาดแล้วเปลี่ยนเป็นชาเซียงหมิงกาหนึ่งแทนจวินเย่เสวียนจ้องมองไปยังสายตาที่เรียบเฉยจนเกินไปของกู้อวิ๋นซีด้วยจิตใจที่สับสนตลอดช่วงเวลาตอนกินข้าวเย็น จิตใจเขาก็ว้าวุ่นไปหมด ผู้หญิงน่าโมโหคนนี้ สีหน้าเรียบเฉยตลอดเวลา สายตาก็เฉยเมยไร้ความรู้สึกเขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโง่ครั้งนี้กู้อวิ๋นซีมองเขา ในที่สุดก็ทำท่าคล้ายกับอยากจะพูดอะไร "คนที่แอบเข้ามาในจวนอ๋อง ลอบทำร้ายท่านอ๋องเป็นพี่ใหญ่ของข้าจริงๆ เหรอเพคะ?""ใช่" คำพูดนี้ไม่ต้องสงสัย "ข้าเป็นคนจับเขาได้ด้วยตัวเอง แล้วก็เอาตัวเขาส่งเข้าในวัง นอกจากว่าคนที่อยู่ในคุกวังหลวงจะไม่ใช่กู้หนานฟงน่ะนะ""เช่นนั้น สามารถพาข้าไปหาเขาหน่อยได้หรือไม่ ให้แยกดูว่าเขาใช่พี่ใหญ่ของข้าจริงหรือไม่?" กู้อวิ๋นซีถามอีกครั้ง"เจ้าที่ช่างได้คืบจะเอาศอก" จวินเย่เสวียนพูดอย่างเย็นชาที่แท้ที่ทำตัวเชื่อฟังตลอดทั้งคืน
กู้อวิ๋นซีพูด "พี่ใหญ่ ท่านจะถือสาหรือไม่ถ้าข้าจะขอดูสักหน่อย? จำเป็นต้องให้ท่านถอดเสื้อออก"กู้หนานฟงถอดเสื้อออกในทันทีน้องสาวตรวจอาการให้พี่ชาย มีอะไรถือสาไม่ถือสากันล่ะ?เขาแค่เพียงแปลกใจ "เจ้าเคยศึกษาเรื่องพิษกู่?""เพียงแค่ตอนที่จะรักษาให้อาหลี เคยศึกษามาบ้าง ยังรู้ไม่มาก แต่ก็น่าจะมีประโยชน์บ้าง"คืนนี้กู้อวิ๋นซีเตรียมตัวมาดี นางเอากล่องยามาด้วยปักเข็มเล่มยาวลงไป ครั้งนี้นางดูดเลือดจากหัวใจของกู้หนานฟงมาด้วยกู้หนานฟงที่ถูกดูดเลือดไป อ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด"หลายวันนี้อาจจะรู้สึกทรมานหน่อย ถึงอย่างไรเลือดจากหัวใจก็เป็นของที่สำคัญของชีวิตคนๆ หนึ่ง แต่ตอนนี้ข้ายังไม่มีวิธีการใดๆ"กู้อวิ๋นซีมองเขา แล้วพูดอย่างปลอบใจ "พี่ใหญ่ ดูแลตัวเองให้ดี ข้ากับเฟยหย่าจะพยายามกันเต็มที่"เมื่อพูดถึงมู่เฟยหย่า แววตาของกู้หนานฟงก็เจื่อนลงเล็กน้อย"หากว่าครั้งหน้าเจ้าได้เจอกับเฟยหย่า บอกนางด้วยว่าอย่าได้ลำบากเพื่อข้าอีกเลย""ท่านไม่ชอบนางจริงๆ เหรอ?" ในใจของพี่ใหญ่มีคนอื่น นางรู้"ผู้หญิงที่ท่านชอบ เป็นใครกันแน่? รู้จักกันที่อูฉงอย่างนั้นเหรอ?"ก่อนที่พี่ใหญ่จะออกเดินทางไปคุ้มครองเมือ
กู้อวิ๋นซีหันหน้ากลับไปมองเขา "ว่ากันด้วยเรื่องนี้ อย่างน้อยท่านอ๋องก็ไม่ปรักปรำคนดี""หมายความว่าอย่างไร?" จวินเย่เสวียนเดินขึ้นมาตีคู่กับนาง เดินไปข้างหน้าพร้อมกับนางอย่างช้าๆกู้อวิ๋นซีก้มหน้า มองไปยังเงาร่างของทั้งสองคนบนพื้น"พี่ใหญ่ลอบสังหารท่านอ๋อง ถูกท่านอ๋องจับได้ด้วยตัวเอง มีหลักฐานชัดเจน ว่ากันตามหลักเหตุผล คดีนี้ก็น่าจะปิดไปได้แล้ว แต่ท่านอ๋องก็ประวิงเวลาจนถึงตอนนี้ ไม่ยอมปิดคดี""หากว่าข้าทายไม่ผิด ท่านอ๋องคงจะรู้สึกสงสัยในเรื่องนี้เช่นกัน ท่านอ๋อง...ส่งคนไปสืบข่าวเรื่องสาเหตุที่พี่ใหญ่ถูกพิษที่อูฉงแล้วเหรอเพคะ?""เยี่ยนอีบอกเจ้าอย่างนั้นเหรอ?" จวินเย่เสวียนนัยน์ตาเคร่งขรึมกู้อวิ๋นซีส่ายหน้า "บางทีเขาอาจจะมีความรู้สึกดีกับข้าอยู่บ้างก็จริง แต่เรื่องแบบนี้ เขาไม่มีทางหักหลังท่านอ๋องหรอก""เจ้ากำลังช่วยพูดให้เขาอยู่อย่างนั้นเหรอ?" จวินเย่เสวียนเลิกคิ้ว"ข้าจะกล้าได้อย่างไร? ตัวข้าเองยังมีชีวิตลำบากเช่นนี้ ยังจะมีแรงเหลือไปช่วยคนอื่นได้อย่างไร?"จวินเย่เสวียนไม่พูดอะไร เพียงแค่มองหน้านางอยู่อย่างนั้น ราวกับกำลังประเมินอยู่ว่านางพูดความจริงสักแค่ไหนกู้อวิ๋นซีไม่รอใ
"เจ้าคิดว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่?"แววตาของจวินเย่เสวียนมีร่องรอยของความอันตรายฉายชัดอันเซี่ยตายไปแล้ว เขาสงสารนางแต่นี่ไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่แค้นนาง!ความแค้นที่เขามีต่อนาง ไม่เคยจืดจางลง!ข้าก็เพียงล้อเล่นเท่านั้น เหตุใดท่านอ๋องจะต้องจริงจังด้วย?คางของนางถูกบีบแน่นอีกแล้ว แต่ว่านางสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าแรงบีบของเขาในครั้งนี้ดูจะอ่อนลงกว่าครั้งก่อนที่แท้การตายของอันเซี่ย สามารถช่วยนางได้มากขนาดนี้จริงๆในใจของอันเซี่ยเองก็คงรู้ดีใช่ไหมอย่างน้อย ตอนนี้เสวียนอ๋องก็ยังรู้สึกสงสารนางอยู่นิดหน่อย"ท่านอ๋อง โชคชะตาของคนทั้งครอบครัวข้าล้วนอยู่ในกำมือของท่าน ข้าคงไม่อาจหนีไปได้หรอก ในใจของท่านก็รู้ดี"ก่อนที่เขาจะพูดอะไร กู้อวิ๋นซีก็พูดขึ้นก่อนว่า "ข้าก็รู้ว่าที่ท่านรั้งข้าเอาไว้ก็เพื่อที่จะแก้แค้น"ริมฝีปากของจวินเย่เสวียนสั่นไหวน้อยๆ แต่ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีทั้งๆ ที่นี่ก็เป็นสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ แต่เมื่อนางเป็นคนพูดมันออกมาเอง เหตุใดจึงรู้สึกขัดใจถึงเพียงนี้?"ท่านอ๋อง ข้าไม่อยากทำให้ท่านโกรธเลย ตอนนี้อันเซี่ยก็ไม่อยู่แล้ว ข้าเองก็กลัวว่าสักวันตัวเองจะถูก
ความจริงแล้วมู่เฟยหย่ากับพี่รองของนางล้วนไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆได้ยินว่ามู่หงยื่อยังมีลูกชายอีกคนหนึ่ง แต่ว่าไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครทุกคนรู้เพียงว่า พรรคไป๋ถันยังมีคุณชายอีกคนหนึ่งแต่ว่าคุณชายคนนั้น ได้จากพรรคไป๋ถันไปตั้งแต่ยังเป็นเด็กแล้ว ขนาดมู่เฟยหย่ากับมู่อันหนิงก็เคยเจอเขาแค่ตอนเด็กๆ เท่านั้นไม่ได้มีความทรงจำเกี่ยวกับเขาเท่าไรหากว่าวันนี้ได้พบกันอีกครั้ง ก็ไม่แน่ว่าจะจำกันได้ส่วนมู่เฟยหย่ากับมู่อันหนิง ทั้งสองคนมีนิสัยต่างกันตั้งแต่เด็กๆ ก็ไม่ได้มีความสนิทสนมกันตามประสาพี่น้องเท่าไรเมื่อได้ยินคำพูดของกู้อวิ๋นซี มู่เฟยหย่าก็คิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะส่ายหัว "ข้าไม่รู้ เหมือนว่า...ไม่รู้จักกันนะ แต่ก็เหมือนว่า...""พวกเขาไม่เคยพูดคุยกัน แต่กลับดูราวกับว่ารู้จักกัน ใช่ไหม?" กู้อวิ๋นซีถามมู่เฟยหย่างับนิ้วมือก่อนจะคิดอย่างตั้งใจ แล้วพยักหน้าออกมา "นี่เป็น...ความรู้สึกของข้าคนเดียวนะ""ข้ารู้แล้ว"กู้อวิ๋นซีพยักหน้า หลุบตาลง มองไปยังมุมหนึ่งตรงหน้า"มู่อันหนิงถูกข้าทำให้บาดเจ็บสาหัส บางที อีกไม่กี่วันข้าก็ควรจะไปเยี่ยมนางสักหน่อยแล้ว""นางจะบาดเจ็บสาหัสได้อย่างไร?" มู่เฟย
เขากลับมาแล้วมาอย่างรีบร้อนคราบฝุ่นยังเปื้อนตัวไม่ได้รอพระสนมหรง ไม่รอใครสักคน หนีออกมาจากขบวนเดินทางคนเดียว เพื่อเร่งกลับมาก่อนเพื่อหวังที่จะได้พบนางเร็วขึ้นแต่จวินฉู่หลีไม่นึกไม่ฝันเลยว่า หลังจากกลับมา ที่หอหนิงซีจะไม่มีคนอยู่นางย้ายเข้าไปอยู่ที่เรือนหลังของท่านพี่สี่แล้ว พักอยู่ในเรือนหลังเล็กๆ ที่ซ่อมซ่อยิ่งกว่าที่พักของคนรับใช้ซะอีกเขายิ่งคิดไม่ถึงว่าสาวใช้คนสนิทของนาง อันเซี่ย จะผูกคอฆ่าตัวตายจวินฉู่หลีจับมือกู้อวิ๋นซีเดินกลับไปที่หอหนิงซี ไล่คนอื่นออกไปทั้งหมดจนเกือบจะมีเรื่องกับเยียนเป่ยเยียนเป่ยจนใจ ทำได้เพียงกลับไปรายงานจวินเย่เสวียนเท่านั้นหลีอ๋องกลับมาแล้ว เรื่องนี้ ขนาดจวินเย่เสวียนยังเพิ่งรู้ได้รู้ข่าวเรื่องที่เขาหนีออกจากขบวนเดินทาง หลังจากที่เขากลับมาถึงจวนได้ชั่วโมงกว่าแล้วเลยเขาเดินทางกลับมาเร็วกว่าหน่วยข่าวกรองของเขาซะอีก!"เหตุใดท่านพี่สี่ถึงทำกับเจ้าเช่นนี้?" จวินฉู่หลียังคงกอบกุมมือของกู้อวิ๋นซีไว้ตลอด ไม่ยอมปล่อยออกเลยนางผอมลงไปมาก ดูเผินๆ ใบหน้านางตอบจนแทบจะไม่มีเนื้ออยู่แล้วถึงแม้จะไม่ถึงขั้นซูบผอม แต่ก็ดูอ่อนแอมาก น่าสงสารเหลือเกิน"เ
จวินเย่เสวียนมาแล้วตอนนี้พี่น้องทั้งสองคนกำลังเผชิญหน้ากันอย่างตึงเครียด"ซีเออร์เป็นพระชายาของข้า ขอเพียงนางยินยอม ตำแหน่งพระชายาหลีอ๋อง ก็จะเป็นของนางตลอดชีวิต"นี่เป็นครั้งแรกที่จวินฉู่หลีเผชิญหน้ากับจวินเย่เสวียนด้วยท่าทีที่แข็งกร้าวเช่นนี้สายตาของจวินเย่เสวียนเย็นชาราวกับภูเขาน้ำแข็ง "นางเป็นผู้หญิงของข้า!"คำพูดนี้ทำให้หัวใจของจวินฉู่หลีรู้สึกเจ็บปวดแต่พวกเขาต่างก็คิดไม่ถึงว่า ในตอนนี้ กู้อวิ๋นซีจะเดินออกมาจากห้องโถงเอง"ข้าจะกลับเรือนหลังเล็กในหอชมจันทร์" นางกล่าวจวินฉู่หลีอึ้งไป "ซีเออร์ ไหนเจ้าบอกว่า...""ข้ากับเจ้าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว รักษาอาการป่วยของเจ้าหายดีแล้ว ข้าก็ไม่ติดค้างอะไรเจ้าอีก" นางหันหน้าหนีจวินฉู่หลีร้อนใจ "ข้าไม่เคยติดค้างอะไรข้าเลย ตอนนี้ เป็นข้าที่เป็นหนี้ชีวิตเจ้า!"แต่กู้อวิ๋นซีกลับเพียงส่ายหน้าแล้วเดินไปอยู่ตรงหน้าของจวินเย่เสวียน"ท่านอ๋อง ข้าไม่ได้เลือกอะไรเองเลย หากว่าท่านจะโกรธ ก็อย่ามาระบายความโกรธกับข้า ข้าไม่รู้เรื่องด้วยเลย"จวินเย่เสวียนไม่ได้พูดอะไร คว้าตัวนางมาโอบไว้แล้วหมุนตัวเดินออกไป"ท่านพี่สี่!" จวินฉู่หลีไล่ตามไ