“พวกมึงนำไปก่อนเลยเดี๋ยวแวะส่งน้องเขาแล้วเจอกันที่เดิมเลย” พี่สีครามบอกเพื่อนเขาแล้วสตาร์ทรถ
“เอ่อๆ แล้วเจอกัน” พี่สีครามออกรถแล้วเร่งเครื่องขับเร็วจนใบตองเกือบหงายหลังตกรถ
“พี่สีครามขับช้าๆ หน่อย หนูกลัว!!!” ใบตองตะโกนแข่งกับเสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มของรถบิ๊กไบค์ กอดคอพี่เขาเอาไว้แน่นพร้อมกับหลับตาเอาไว้แน่น เหมือนความตายจะมาเยือนในหัวใจเป็นรอบที่สองในเวลาห่างกันไม่ถึงชั่วโมง
“น้องจะรัดคอให้พี่หายใจไม่ออกจนขับรถเกิดอุบัติเหตุหรือไงวะ!!!” พี่สีครามดึงแขนทั้งสองข้างของฉันออกจากคอของเขาออก
“พี่สีครามก็ขับรถช้าๆ หน่อย หนูกลัว!” เขาผ่อนความเร็วของรถลงแล้วขับช้าๆ พอรถวิ่งช้าใบตองก็มองไปรอบด้านเห็นว่ารถวิ่งเข้ามาในซอยบ้านตัวเองแล้ว ความโล่งใจเข้ามาเหมือนคนรอดตายแล้วยัยใบตองเอ๊ย!
“หลังไหน!” ใบตองมองรถที่กำลังจะขับผ่านบ้านของตัวเองด้วยสีหน้าตื่นตกใจ
“หลังนี้จอดๆ อย่าเลยนะพี่สีคราม” ใบตองตบบ่าของเขาให้หยุดรถจอดหน้าบ้านพอดี
“อืมถึงแล้วลงไปดิ๊รีบ” ใบตองจับบ่ากว้างเอาไว้แล้วค่อยๆ ปีนลงจากเบาะรถบิ๊กไบค์ที่สูงสำหรับเด็กผู้หญิงม.สองอย่างเธอ
“ใบตองขอบคุณพี่มากเลยนะคะสำหรับวันนี้” พอยืนได้มั่นคงกับพื้นถนนใบตองก็ไม่ลืมที่จะยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณรุ่นพี่ใจดีอีกครั้งที่ช่วยเธอเอาไว้
“อืมไม่เป็นไร ไปล่ะ” พี่สีครามสตาร์ทรถแล้วขับออกไปจากซอยบ้านใบตองอย่างรวดเร็ว แต่สายตาใบตองยังคงมองตามท้ายรถบิ๊กไบค์สีดำคันใหญ่ที่ดูก็รู้ว่าต้องแพงมากแน่จนหายไปจากสายตา แล้วหันหลังเปิดประตูเดินเข้าไปในบ้านทาวน์โฮมสามชั้นครึ่งของตัวเอง
“ยายใบตองกลับมาแล้วนะคะ!” ใบตองตะโกนบอกคุณยายของเธอที่อยู่บ้านคนเดียวในเวลานี้ไม่สิต้องบอกว่าเธอกับคุณยายอยู่ด้วยกันสองคนมาสองปีแล้ว พ่อกับแม่ของใบตองต้องไปทำงานที่อเมริกาพวกท่านเปิดร้านอาหารไทยที่นั่น ทิ้งให้ใบตองอยู่บ้านหลังนี้สองคนกับคุณยายและส่งเงินค่าใช้จ่ายมาให้เป็นรายเดือน คุณยายใบตองเคยเป็นคุณครูสอนในโรงเรียนมัธยมรัฐบาลชื่อดังในกรุงเทพพึ่งจะเกษียณอายุราชการเมื่อสามเดือนที่แล้ว ตอนนี้ท่านอยู่บ้านปลูกผักบนดาดฟ้าชั้นสามของบ้านและเลี้ยงหมาหนึ่งตัวแมวหนึ่งตัวเป็นเพื่อนเวลาใบตองไปโรงเรียน
ถ้าพูดถึงเรื่องฐานะทางการเงินของครอบครัวใบตองเรียกว่าปานกลางไม่ได้ร่ำรวยอะไรมาก แต่ด้วยความตั้งใจเรียนใบตองเลยสอบชิงทุนโรงเรียนนานาชาติชื่อดังได้เข้าเรียนฟรีตั้งแต่ม.1ถึงม.6 บ้านหลังเก่าของใบตองอยู่ชานเมืองแต่เมื่อสองปีที่แล้วพ่อกับแม่ของเธอตัดสินใจขายบ้านและที่ดินมาซื้อบ้านมือสองทาวน์โฮมสามชั้นครึ่งกลางเมืองใกล้กับโรงเรียนนานาชาติที่เธอเรียนอยู่ แล้วก็นำเงินที่เหลือไปเปิดร้านอาหารไทยที่อเมริกาที่พ่อเคยทำงานเป็นเซฟอยู่ที่นู่นสิบปีจนคิดจะเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง กิจการร้านอาหารที่นู่นพ่อกับแม่บอกว่าขายดีมากแต่เพราะคุณยายไม่อยากย้ายไปอยู่เมืองนอกแม่เลยให้ใบตองอยู่เป็นเพื่อนคุณยายที่นี่แทนที่จะไปอยู่อเมริกาและเธอก็ดีใจมากเพราะไม่อยากไปเหมือนกัน
“กลับมาแล้วเหรอลูก มาๆ ยายทำบัวลอยไข่หวานของโปรดเอาไว้ให้ใบตองด้วยหิวไหม” คุณยายของใบตองเดินออกมาจากห้องครัวโดยที่สวมใส่เสื้อกันเปื้อนถือถ้วยบัวลอยเดินออกมาวางไว้ที่โต๊ะอาหาร
“ว้าวดีใจจังเลยค่ะ ใบตองกำลังคิดอยากกินอยู่พอดีเลย ว่าจะบอกให้ยายทำให้กินพรุ่งนี้อยู่เลยโอ๊ย!” เพราะเธอมัวแต่ตื่นเต้นกับบัวลอยไข่หวานแสนอร่อยฝีมือคุณยายมากไปหน่อยเลยลืมว่าตัวเองมีแผลที่ตกท่อเจ็บอยู่ รีบก้าวลงน้ำหนักเท้ามากไปหน่อยจนปวดแผลขึ้นมาอีกครั้ง
“เป็นอะไรลูก” คุณยายรีบเดินเข้ามาดูหลานสาวคนเดียวที่อยู่ๆ ก็ล้มลงไปนั่งกองลงบนพื้นกระเบื้องด้วยความตกใจ
“หนูเดินตกท่อแล้วขาติดกับเหล็ก แล้วได้แผลมาค่ะยาย” ใบตองก้มหน้างุดด้วยความผิดที่มีติดตัว
“ตายแล้วไหนขอยายดูแผลหน่อยลูก เลือดออกด้วยแผลใหญ่ขนาดนี้พรุ่งนี้ต้องบวมแน่ๆ เดี๋ยวยายเอารถออกพาไปทำแผลที่โรงพยาบาลดีกว่าไม่รู้ว่ากระดูกร้าวด้วยหรือเปล่าไปให้คุณหมอเอกซเรย์ดูหน่อยนะลูก” คุณยายรีบลุกขึ้นเดินไปหยิบกระเป๋าแล้วท่านก็มาประคองพาใบตองไปขึ้นรถเพื่อขับไปโรงพยาบาล
หลังจากรับยาและจ่ายตังค่ารักษาพยาบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว “เรานี่น้าต่อไปนี้ต้องรู้จักระวังๆ ด้วย เดินก็ต้องใช้สมาธิดูทางดีๆ เดี๋ยวจะได้แผลจนใส่เผือกแบบวันนี้อีกเข้าใจไหมใบตอง”
“เข้าใจแล้วจ้ายาย หนูจะไม่เดินตกท่ออีกเข็ดแล้วจ้า” คุณยายเดินไปบ่นใบตองไปด้วยจากโรงพยาบาลจนถึงบ้าน
“วันนี้มีการบ้านไหมล่ะ ถ้าไม่มีวันนี้ก็ไม่ต้องอ่านหนังสือกินยาแล้วรีบเข้านอนแผลจะได้หายเร็วๆ” ยายเก็บจานที่เรากินข้าวเสร็จ ปกติจะเป็นหน้าที่ใบตองแต่วันนี้ยายให้พักห้ามเดินเยอะกินข้าวแล้วกินยาจากนั้นก็ขึ้นไปนอนเลย ทั้งที่ตอนนี้พึ่งสองทุ่มครึ่งแต่ก็ต้องตามใจคนแก่ที่เป็นห่วงหลานสาวคนเดียวเอามากๆ ต้องทำเพื่อความสบายใจของยาย
“การบ้านใบตองทำเสร็จมาจากโรงเรียนแล้ว จะขึ้นไปนอนแล้วก็ได้ค่ะ ถ้าแม่กับพ่อโทรหายายห้ามบอกนะว่าใบตองเดินตกท่อเพราะมันน่าอายมากต้องโดนหัวเราะเยาะแน่เลยยาย” ใช่แล้วพ่อกับแม่ของใบตองจะไม่ห่วงแต่จะหัวเราะเยาะแทนและโดนด่าว่ายัยเด็กซุ่มซ่าม!
“ยายไม่สัญญานะ!”
“อ้าวยาย!”
“ไม่ต้องมาอ้าว รีบขึ้นไปนอนเลยเรา” ใบตองโวยวายแต่ก็ใช้ไม้เท้าค้ำยันแบบไม้ค่อยๆ เดินขึ้นบันไดไปนอนบนห้องชั้นสองของบ้านในระหว่างที่ใส่เผือกอ่อนก็ต้องนอนห้องเดียวกับยายไปก่อน ส่วนห้องนอนของใบตองอยู่บนชั้นสามของบ้าน
โรงเรียนนานาชาติเวลาผ่านมาเกือบ 3 เดือน“เป็นอะไรนั่งยิ้มอยู่คนเดียวยัยใบตอง!” เพื่อนสนิทสองคนของใบตองเดินเข้ามาตบบ่าของเธอให้รู้สึกตัวจากอาการนั่งยิ้มอยู่คนเดียว“ไม่มีอะไร” ใบตองไม่ยอมตอบคำถามเพื่อนสนิท“ไม่เชื่อบอกมาซะดีๆ เลยนะใบตอง” พอโดนเพื่อนสนิทตื้อไม่หยุดทำให้ใบตองยอมคายความลับของตัวเองให้เพื่อนฟัง“กรี๊ดยัยเบลพี่สีครามโอ๊ยหล่อมาก!ฉันอยากได้” ใบตองกำลังจะพูดแต่ยัยเพื่อนสนิทที่เริ่มแรกทำตัวอยากรู้อยากเห็นเรื่องของเธอ อยู่ๆ ก็กรี๊ดขึ้นมายิ้มหวานเยิ้มโดยไม่สนใจจะฟังคำตอบที่เธอจะเล่าให้ฟังเลยสักนิด ว่าแต่ยัยนัทตี้พูดถึงพี่สีครามใช่สีครามคนเดียวกันกับที่ทำให้ฉันนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ไหม เมื่อคิดแล้วก็ต้องหันหลังกลับไปมองผู้ชายที่เพื่อนกรี๊ดกร๊าด“พะพี่สีคราม…” ใบตองมองด้วยความนิ่งอึ้งปนความตื่นเต้นเจือความโหยหาใช่โหยหาฟังไม่ผิดหรอกเพราะหลังจากวันที่พี่สีครามช่วยใบตองจากอุบัติเหตุครั้งนั้น ตลอดภาคการศึกษาเธอก็บังเอิญได้เจอกับพี่สีครามบ่อยครั้งแต่เขากับทำเมินเหมือนคนไม่เคยรู้จักกัน ถึงแม้เธอจะยิ้มทักทายเขาก็มองผ่านด้วยความเฉยชาแบบไม่สนใจเธอเลย“ใช่พี่ครามหรือคนส่วนใหญ่เรียกว่าพี่ส
หลังเลิกเรียนใบตองเดินออกมาจากโรงเรียนเกือบห้าโมงเย็นทั้งที่สอบเสร็จตอนสี่โมงเย็นเพื่อนพากันกลับบ้านหมดแล้ว คิดว่าถ้าออกมาไม่ทันพี่สีครามเธอคงเอามาให้เขาพรุ่งนี้แทน แต่พอเดินออกมาถึงข้างกำแพงโรงเรียนก็เห็นพี่สีครามและกลุ่มเพื่อนนั่งคุยกันอยู่ยังไม่กลับบ้าน ใบตองเลยสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วเดินไปหาพี่สีคราม“พี่สีครามเสื้อที่บอกให้ซื้อชดใช้ค่ะ” ใบตองยื้นเสื้อให้พี่สีครามที่มองแล้วรับเสื้อไป“เด็กใหม่มึงเหรอสีคราม เอ้แต่ว่าหน้าคุ้นๆ นะน้อง” เอาอีกแล้วพี่บีมคราวก่อนบอกว่าใบตองเป็นลูกเมียน้อยพ่อพี่สีคราม มาเจอกันวันนี้บอกใบตองเป็นเด็กใหม่พี่ครามเฮ้อปากหมาจริงๆ รุ่นพี่กลุ่มนี้“ก็น้องที่กูไปส่งบ้านห่างจากโรงเรียนไปสองซอยเพราะเกิดอุบัติเหตุหน้าตึก5 ไอ้บีมมึงจะไม่คุ้นหน้าได้ยังไง”“อ่อๆ กูนึกออกแล้ว” พี่สีครามกับพี่บีมผูกขาดบทสนทนาสองคนโดยไม่สนใจใบตองเลยสักนิด“ถ้าอย่างนั้นหนูกลับบ้านก่อนนะคะพี่สีคราม” เมื่อไม่รู้จะยืนอยู่ต่ออีกทำไม ฉันเลือกที่จะเดินกลับบ้านดีกว่า“ครับ” ใบตองยิ้มให้พี่เจบีและพี่เขาก็ยิ้มตอบกลับเธอมาด้วยครั้งนี้ ก่อนที่จะสตาร์ทรถบิ๊กไบค์แล้วขับออกไปจากข้างกำแพงโรงเรียน แต่
ร้านคาเฟ่หน้าโรงเรียน“สรุปปิดเทอมนี้แกจะทำงานที่นี่ใช่ไหมใบตอง” ลูกค้ารายแรกที่ใบตองต้องมาเสิร์ฟให้คือเพื่อนสนิททั้งสองคนที่สอบเสร็จและรู้ว่าวันนี้หลังสอบใบตองจะเริ่มมาทดลองทำงานที่ร้านคาเฟ่หน้าโรงเรียน ความจริงร้านนี้เป็นร้านที่เปิดมาได้สองปีแล้วเจ้าของร้านเป็นลูกเจ้าของตึกเองเปิดเป็นคาเฟ่ทั้งชั้นบนและล่างมีโต๊ะให้นั่งเยอะ ลูกจ้างในร้านเดิมมีสี่คนแต่ลาออกไปหนึ่งคนทำให้คนขาดและพี่อุ้มเจ้าของร้านเลยประกาศรับสมัครพนักงานเพิ่มหนึ่งคน พอดีกับที่ใบตองเดินผ่านเพื่อไปถ่ายเอกสารก่อนกลับบ้านเห็นติดประกาศเลยสอบถามและขออนุญาตคุณยายจนได้มายืนใส่ผ้ากันเปื้อนสวมทับชุดนักเรียนโรงเรียนนานาชาติเดินเสิร์ฟตามที่ออเดอร์ลูกค้าสั่งมา ช่วงเย็นจะวุ่นวายมากเพราะเด็กเลิกเรียนและผู้ปกครองที่มารอรับลูกหลานจะเยอะเป็นพิเศษ“ใช่ ถ้าเบลกับนัทตี้ว่างก็สามารถมาเจอใบตองที่ร้านได้ทุกวัน ยกเว้นวันพุธนะหยุดจ้า”“พรุ่งนี้ยาวไปจนถึงสิ้นเดือนหน้า เบลต้องไปทัวร์ยุโรปกลับมามี้คงไม่ได้แวะมาเจอ แต่จะซื้อหนังสือนวนิยายฝรั่งมาฝากนะยัยใบตอง!” ยัยเบลลูกสาวบริษัทผลิตเครื่องดื่มชูกำลังยักษ์ใหญ่ของประเทศต้องไปเที่ยวรอบโลกช่วงปิดเทอมเป
ร้านคาเฟ่หน้าโรงเรียน1 เดือนผ่านไป“น้องใบตองไปเก็บจานและแก้วลูกค้าชั้นบนหน่อยนะคะ” พี่อุ้มบอกใบตองหลังจากเก็บโต๊ะเสร็จและมายืนหน้าเคาน์เตอร์“ได้เลยค่ะ” เวลารับเครื่องดื่มหรือพวกขนมเบเกอรี่ทางร้านจะให้ลูกค้าเดินมารับที่เคาน์เตอร์ด้วยตัวเอง โดยเรียกผ่านสัญญาณผ่านเครื่องเพจเจอร์แบบวงกลมสีดำพนักงานจะให้ลูกค้าตอนสั่งเมนูของทางร้านและจ่ายตัง แล้วพอลูกค้ากลับออกไปพนักงานในร้านจะต้องไปเก็บและทำความสะอาดโต๊ะเพื่อเคลียร์พื้นที่ให้ลูกค้าที่มาใช้บริการต่อไปอีก ถึงจะเป็นช่วงปิดเทอมของโรงเรียนนานาชาติที่ฝั่งตรงข้ามของร้าน แต่ด้วยตำแหน่งที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจทำให้มีคนมาใช้บริการเยอะและเมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมามีโรงเรียนสอนพิเศษชื่อดังย้ายมาเปิดโดยเช่าตึกข้างร้านทำให้เด็กนักเรียนม.ปลายที่นิยมเรียนพิเศษเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาลัยตามมาด้วย ลูกค้าใหม่ๆ ยิ่งเยอะขึ้นกว่าช่วงเปิดเทอมของโรงเรียนนานาชาติอีก ด้วยความที่โรงเรียนรัฐบาลไทยปิดภาคเรียนคนล่ะช่วงกับโรงเรียนนานาชาติทำให้ในคาเฟ่เต็มไปด้วยเด็กนักเรียนในชุดม.ปลายของโรงเรียนรัฐบาลที่มาใช้บริการในร้านคาเฟ่“ขออนุญาตทำความสะอาดนะคะ” ใบตองพูดกับลูก
หลังจากวันนั้นที่พี่สีครามไปส่งใบตองที่บ้านพี่เขาก็หายไปเลย ถ้านับแล้วก็ผ่านมาสองเดือนเต็มที่ไม่เห็นหน้าพี่สีครามหรือกระทั้งกลุ่มเพื่อนของเขาเองก็หายไปด้วย จากหนึ่งวันที่หายไปเป็นหนึ่งอาทิตย์ จนผ่านมาถึงหนึ่งเดือน และปัจจุบันเข้าเดือนที่สองที่พี่สีครามเขาเหมือนค่อยๆ หายไปจากชีวิตของใบตอง แต่ความเสียใจที่โดนย้ำว่าพี่เขาคิดกับเธอแค่น้องสาวก็คอยย้ำเตือนให้เธอเสียใจ จำได้คืนนั้นนอนร้องไห้จนถึงหกโมงเช้าขอบตาดำเป็นหมีแพนด้าเลย“น้องใบตองจ๊ะ เหม่ออะไรฮึเรา?” พี่อุ้มเจ้าของร้านและเจ้านายของใบตองเดินมาสะกิดแขนของเธอที่ยืนเหม่ออยู่หน้าเคาน์เตอร์คิดเงิน ตอนนี้เป็นเวลา10.30นาทีร้านพึ่งเปิดได้แค่30นาทีทำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการยังมีไม่มาก“เปล่าค่ะ” ใบตองยิ้มให้พี่อุ้มอย่างคนที่ไม่มีอะไรจะพูดต่อ“ว่าแต่พรุ่งนี้สิ้นเดือนน้องใบตองก็ทำงานเป็นวันสุดท้ายแล้วเสียดายจัง พอเปิดเทอมพี่ขอให้ใบตองมาช่วยทำงานที่ร้านคาเฟ่เสาร์-อาทิตย์ได้ไหมจ๊ะ พี่จะให้ค่าจ้างสองวัน1000บาท” ด้วยความที่ใบตองเป็นเด็กที่ขยันขันแข็งไม่เคยลาหยุดมาทำงานตรงเวลาทุกวัน พี่เจ้าของร้านเลยอยากให้ทำช่วงเปิดเทอมด้วยอาทิตย์ล่ะ2วัน แค่วันหย
หลังเลิกงานใบตองเดินกลับบ้านเองเหมือนทุกวันในเวลา19.45นาที หลังจากปิดร้านเวลา19.00นาทีพนักงานภายในร้านก็ทำความสะอาดและเก็บโต๊ะล้างอุปกรณ์ชงเครื่องดื่มทิ้งขยะและกวาดถูพื้นทั้งชั้นล่างและชั้นบนของคาเฟ่เป็นอันเสร็จงานแล้วต่างก็แยกย้ายกลับบ้านของตัวเองเหมือนทุกวันตลอดที่เธอทำงานมาจะครบสามเดือน“ทำไมไม่นั่งวินกลับบ้าน” ใบตองถึงกับยิ้มออกเมื่อได้ยินเสียงของพี่สีครามที่มาเดินอยู่ข้างๆ กับเธอ“บ้านใบตองเดินไปแค่5นาทีเองเสียดายตัง เดินไปและดูของกินที่ขายข้างทางไปด้วยเผื่อซื้ออะไรอร่อยๆ กลับไปกินที่บ้านด้วย” ใบตองยิ้มไปด้วยขนาดที่พูดมองใบหน้าหล่อๆ ของพี่สีครามอย่างเคลิบเคลิ้ม“อืม” พี่สีครามตอบรับแล้วมองไปข้างหน้าโดยไม่หันมาสนใจใบตองอีก เธอถึงกับยิ้มค้างเก้อสะบัดหน้างอนๆ ใส่คนตัวสูงเอ่อทำเป็นไม่สนใจกันแบบนี้คิดว่าทำเป็นอยู่คนเดียวเหรอไงใบตองก็ทำเป็นเหมือนกันเชอะ“อาบังหนูเอาโรตีใส่ไข่หนึ่งอันแล้วก็อีกอันเอาใส่กล้วยช็อกโกแลตค่ะ” ใบตองเดินๆ อยู่แล้วสายตาของเธอก็เหลือบมองไปเห็นร้านโรตีเจ้าดังที่ปกติจะมีคนต่อแถวรอยาวมากแต่วันนี้ไม่มีลูกค้า นับว่าวันนี้เป็นโชคดีของเธอเพราะปกติจะไม่ได้กินเพราะเธอขี้
วันเปิดเทอม“ใบตองของฝากสำหรับแก” เบลส่งกล่องของขวัญที่ห่ออย่างบิดเบี้ยวเอ่อนั้นเรียกว่าผูกโบหรือเปล่านะ“…” ใบตองจับกล่องพลิกไปมามองสำรวจ“โอ๊ยนี่เพื่อนตั้งใจห่อมากๆ เลยนะ แต่ทำได้ดีสุดเท่านี้จริงๆ เฮ้อห่อกล่องของขวัญตั้งห้ารอบ เบลว่างานฝีมือไม่ใช่ทางจริงๆ” ยัยเบลบ่นเมื่อเห็นสายตาของใบตอง เธอยิ้มให้เพื่อนแล้วกระโดดกอดตบบ่าอย่างให้กำลังใจ“เอาตรงๆ ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น แกฝึกห่อบ่อยๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเองแหละอย่าท้อสิเพื่อนรัก”“หวังว่าจะดีขึ้นนะ งั้นพรุ่งนี้เบลจะลองห่อข้าวกล่องมากินตอนเช้าเพื่อฝึกฝีมือ!” เบลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังสายตาเธอดูมุ่งมั่นมาก“ส่วนนี้ของนัทตี้ ไม่ได้ห่ออะไรนะใส่ถุงมาเลยเพราะฉันก็ไม่ต่างกับยัยเบลฝีมือไม่ได้เรื่องเหมือนกันเฮ้อ” นัทตี้ยื่นถุงของฝากจากต่างประเทศให้ใบตอง“ขอบใจพวกแกสองคนมากๆ เลยนะ ส่วนสองกล่องนี้ให้พวกแกเป็นของฝากจากใบตอง” ใบตองยื่นกล่องของฝากให้เพื่อนสนิททั้งสองของเธอ“โอ้โหทำไมแกห่อกล่องของขวัญสวยแบบนี้ใบตอง!!” เพื่อนสนิททั้งสองคนร้องตะโกนเสียงดังแล้วจับกล่องของขวัญมองสำรวจ“แกก็พูดเว่อร์ไม่ขนาดนั้น ไหนขอแกะกล่องของขวัญเลยนะคะ” พวกเราสามคนนั่งอยู่ในห้อ
“ฉันเข็ดไปจนวันเรียนจบแล้วพวกแก” เบลคำครวญหลังจากทำความสะอาดห้องน้ำห้องสุดท้ายเสร็จ พวกเราสามคนถึงกับนอนลงกับพื้นโดยที่ไม่รังเกียจว่ามันจะสกปรกเลย รู้แต่เพียงว่าตอนนี้ร่างกายมันเหนื่อยจนลุกไม่ไหวมันเป็นแบบนี้นี่เอง พวกหนูเข็ดแล้วจะไม่ทำอีกแล้วอะไรที่ผิดกฎของโรงเรียน“จริงไม่กล้าแล้วค่า” นัทตี้พูดขึ้นอีกคน ส่วนฉันทำเพียงพยักหน้าเห็นด้วยกับเพื่อนๆ อย่างคนที่เหนื่อยจนพูดไม่ออก“ว่าแต่แกจะเดินกลับบ้านไหวไหมใบตองติดรถกับฉันกลับเดี๋ยวให้คนขับรถแวะไปส่งนะ” ปกติฉันจะเลือกปฏิเสธเพื่อนสนิททั้งสองเสมอ เมื่อพวกมันสองคนอาสาจะไปส่งที่บ้านเพราะด้วยความเกรงใจเพื่อนๆ แต่ตอนนี้คงต้องพยักหน้าตอบตกลงแล้วเพราะคงเดินกลับไม่ไหวแน่ๆ เย็นนี้“อื่อตกลง” จากนั้นเราทั้งสามก็ลุกขึ้นไปเอากระเป๋านักเรียนบนห้องเรียนแล้วกลับบ้าน โชคดีที่วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกไม่มีการบ้านอะไรที่ครูสั่งเพราะถือว่ายังไม่ได้เริ่มเรียนแต่เป็นวันที่ครูเล่าแจกแจงเนื้อหารายวิชาที่จะต้องเรียนในเทอมนี้ ไม่อย่างนั้นพวกเราทั้งสามคนคงไม่มีการบ้านส่งแน่ๆ กลับถึงบ้านหัวถึงหมอนคงนอนหลับยาวถึงเช้าเหนื่อยขนาดนี้หน้าบ้านใบตอง“ขอบใจที่มาส่งนะเบล
"อีกไม่นานก็จะได้รู้แล้วครับอดทนหน่อยนะ" พี่สีครามจับมือใบตองกระชับแล้วปล่อยกลับไปขับรถมองมือเหมือนเดิมเมื่อถึงแยกที่ต้องเลี้ยว"ตื่นเต้นจังเลยพี่สีคราม" บอกแฟนตัวเองเสียงสั้นอย่างควบคุมเอาไว้ไม่อยู่ไม่ต้องปล่อยให้ใบตองต้องตื่นเต้นนานเกินไปเพราะบ้านของคุณยายพี่สีครามที่เป็นมรดกให้กับคุณแม่ของเขาอยู่ไม่ไกลจากอำเภอเมืองนักถือว่าเข้าเมืองสะดวกไม่ได้ไกลเหมือนรีสอร์ทและไร่ของเขาที่เป็นธุรกิจของครอบครัวตอนนี้"ถึงแล้วครับใบตอง" พี่สีครามกดรีโมทเปิดรั้วบ้านแล้วเคลื่อนรถเข้าไปในรั้วบ้านจอดรถเอาไว้โรงรถที่มีรถยนต์สองคันสองเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว"ค่ะ" ใบตองเอาแต่แอบแหล่ตามองสำรวจบ้านสองชั้นสไตล์ล้านนาประยุกต์ปรับปรุงขึ้นใหม่แต่ยังเหลือเค้าโครงเอกลักษณ์ให้ได้เห็นอยู่"เอ้าใบตองลงมาได้แล้วเรา" แฟนหนุ่มฉถดแขนดึงให้เธอลงจากรถ"ค่ะ" ใบตองเกรงเดินตามหลังพี่สีครามรู้สึกว่าตนเองขาสั้นจนเดินแทบไม่ไหว"คุณพ่อคุณแม่ครับ ผมพาแฟนมาแนะนำครับ" พี่สีครามจูงมือใบตองเดินเข้ามาในห้องรับแขกที่มีชายหญิงวัยกลางคนท่าทางน่าเกรงขามนั่งคุยกันรออยู่ในห้องรับแขก"อืม!" คุณพ่อหันมายิ้มบางๆ พร้อมพยักหน้ารับ"..." ส่วนคุณแม่เพี
เมื่อตอนเย็นพี่สีครามพาฉันไปหาข้าวเย็นกินในห้างดังในเมืองพอกินเสร็จก็เดินซื้อของก่อนที่เขาจะมาส่งที่หอ"พี่สีครามขับรถกลับคอนโดดีๆ นะคะ""ครับ แต่ว่าคืนนี้พี่มีนัดกับเพื่อนออกไปเที่ยวร้านเหล้านะ" ฉันไม่ได้บังคับให้เขารายงายอะไรตัวเอง ให้อิสระในการใช้ชีวิตเหมือนก่อนที่เราจะกลับมาเป็นแฟนกันได้ตามสบาย"ค่ะ พี่สีครามก็จะดื่มเยอะมากถ้าขับรถไม่ไหมก็เรียกรถจากแอปให้ไปรับนะมันอันตรายใบตองเป็นห่วง" พี่สีครามยิ้มรั้นฉันเข้าไปกอดแต่ไม่ต้องห่วงว่าจะดูประเจิดประเจ้อจนคนเอาไปนินทาเพราะว่าคนของเขาติดฟิล์มดำมืดมองเขามมาไม่เห็นข้างใน"ครับ แต่หอมแก้มพี่หน่อยสิ" เขาอ้อนฉันพร้อมกับยื่นแก้มเข้ามารอ"ฟอดฟอด""พอใจยังคะ" พอหอมเสร็จฉันก็ดันตัวออกจากออ้อมกอดของเขา"พอใจแล้วครับ" พี่สีครามยิ้มหน้าบานที่ได้สมใจเขาแล้ว"ถ้าอย่างนั้นใบตองไปแล้วนะบายบ่ายค่ะ" พอลากันแล้วเธอก็ออกจากในรถเดินเข้าหอตามปกติแต่ว่าอยู่ๆ เจมส์ก็เข้ามายืนขวางหน้าเอาไว้เสียก่อน"เจมส์!" ถึงเราจะไม่ได้คบกันแต่ก็ยังคุยๆ กันแต่ฉันดันลืมเขาไปได้หลังจากตกลงคบกับพี่สีครามเมื่อคืนไม่น่าเลยยัยใบตองสมองทึบเอ้ยเธอทำอะไรลงไปเนี้ย"ขอเจมส์คุยด้วยได้ไหม
"พอแล้วใบตองไม่ไหวแล้ว" หลังจากเสร็จสมกันแล้วอยู่ๆ สิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในตัวเธอก็แข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง จากประสบการณ์เมื่อครู่สอนให้เธอรู้ว่าเขาต้องการมันอีกครั้ง"แต่พี่ยังไม่พอ" พี่สีครามซุกไซร์ดูดสองเต้าอย่างหลงไหลสร้างความเสียวให้กับฉันไม่หยุด"แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกของใบตองมันไม่ไหวแล้วพี่สีคราม" ฉันจับหน้าหล่อหน่าที่เงยขึ้นมาสบตากันของเรา"อืมก็ได้ครับ" พอเห็นสีหน้าอ่อนล้าซีดเชียวของเธอทำให้เขายอมผละตัวออกแม้จะเสียดายก็ตาม"ไปอาบน้ำอุ่นล้างตัวแล้วเข้าไปนอนพักบนเตียงนุ่มๆ ดีกว่าครับ" พี่สีครามอุ้มใบตองเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำแล้วพามานอนบนเตียงของเขาทำเพียงนอนกอดเอาไว้"นอนสักตื่นแล้วเดียวพี่สั่งอาหารเย็นมาให้กินรอบดึก" เขาจูบหน้าผากของฉัน ที่พยักหน้ารับไม่มีแรงแม้จะพูดคุยกับเขารู้สึกว่าครั้งแรกใช้พลังงานไปมากจนเกินไปแล้ว"ใบตองครับลุกขึ้นมากินอะไรหน่อยค่อยหลับต่อ" แรงเขย่าให้รู้สึกตัวจากเจ้าของเสียงอันคุ้นเคยปลุกให้เธอรู้สึกตัวตื่น"อื่อกี่โมงแล้วค่ะพี่สีคราม" พอตื่นเต็มตาเรื่องราวตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงตอนี้ก็ไหลเข้ามาจนรู้สึกเขินอายที่เรามีอะไรกันครั้งแรก"สี่ทุ่มครับ ตอนเย็นกินน้อยล
"ใบตองคุยกับใครเหรอ" ตอนนี้ฉันกำลังนั่งกินสุกี้เป็นมื้อเย็นกับพี่สีครามหลังจากกลับมาจากเที่ยวร่วมเดือนแล้ววันนี้แรกว่าเป็นวันแรกในรอบเดือนที่ฉันได้เจอหน้าเขา"อ่อคนคุยค่ะ" ก็ในเมื่อฉันกับพี่สีครามเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันจะเลือกว่าคนคุยก็ไม่ชัดเจนขนาดเจมส์ที่เข้ามาจีบฉันตลอดเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมาเลยด้วยซ้ำ"เดียวนะมีคนมาจีบใบตองเหรอ?" พี่สีครามถามเสียงขรึมมองมายังฉันดุๆ แต่ตัวฉันที่คิดว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิดเลยไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาเขาเลยจ้องกับพร้อมพยักหน้าตอบรับ"ใช่ค่ะ เขาเรียนวิดวะปี2อายุเท่ากันจีบใบตองมาเดือนกว่าแล้วแต่เรายังไม่ได้ตกลงคบกันหรอกนะคะตอนนี้""แล้วเรื่องของเราละ" สีหน้าพี่สีครามแสดงออกว่าเขากำลังโกรธไม่พอใจกับสิ่งที่ฉันกำลังบอกเล่าให้เขาฟังด้วยท่าทีไม่เดือดร้อนอะไรเลยแบบนี้"อ่อเราสองคนก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องตามที่พี่สีครามบอกอย่างไงละค่ะ""เลิกคุยกับมันซะ!" ใบตองสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ วางซ้อนรวบไว้ชามสุกี้แล้ว"ก็ใบตองโสดมีสิทธ์คุยกับใครก็ได้ไม่ได้ทำอะไรผิดชักหน่อย" พี่สีครามเหมือนคนกำลังระงับอารมณ์ที่กำลังเดือดดาลขึ้น"ไม่ผิดแต่ไม่ได้!" เขาจ้องเขม็งเหมือนจะเอาเรื
"แหม่ๆ กักเหรอเปล่าวะไอ้คราม" เพื่อนคนแรกของเขาแซวออกมา"ไอ้ครามแม้งตรงโว้ย!" เสียงเพื่อนคนที่สองของเขาพูดขึ้นตามมา"กูแม้งเดาถูกว่ะ" เพื่อนคนที่สามหันไปชกมือกับเพื่อนอีกคนของเขาพวกพี่ๆ ผู้ชายต่างเอ่ยปากแซวไม่หยุดกันอย่างคึกครื่นขึ้นมา แต่คนที่มีส่สนเกี่ยวข้องอย่างฉันกับรู้สึกอึดอัดขึ้นมาบ้าง"พวกมึงพอๆ ได้แล้วแยกย้ายไปทำกิจกรรมที่จองเอาไว้กันได้แล้ว" พี่สีครามบอกพร้อมกับผลักเพื่อนให้เลิกพูดแซวแล้วแยกย้ายกัน"เอ่อๆ ดูมันไล่พวกเราโว้ย" เพื่อนของพี่สีครามต่างโวยวายเสียงดังเหมือนกำลังแกล้งเขามากกว่าแล้วต่างแยกย้ายออกไปจากห้องอาหาร"ไปกันเถอะใบตอง" ฟ้าจับแขนฉันเขย่าเพื่อตามพวกพี่ๆ ไปเที่ยวในโปรแกรมต่อ"อือไปก็ไป" น้ำอิงกับฟ้าเดินไปพร้อมกับใบตองโดยไม่ได้พูดแซวแต่ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่หยุดกิจกรรมแอดเวิร์นเจอร์ต่างๆ ที่มีให้ทำเช่นโหนสะลิงค์ลงจากที่สูง เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ความกล้าให้ความรู้สึกหวาดเสียวแต่ก็สนุกมากเช่นกันหลังจากเล่น พวกเรานอนค้างอีกหนึ่งคืนแล้วก็กลับไปยังมหาลัยแต่เช้าเพื่อให้ได้พักก่อนจะต้องกลับไปเรียนหอพัก"นั่งลงตั้งหลายชั่วโมงสุดท้ายก็ถึงห้องสักที" น้ำอิงพูดขึ้นพร้อมจะทิ
"กว่าจะมาได้นะครับเสี่ยคราม!" พี่สีครามเดินเข้ามาในชุดเดิมตอนออกไปทำงานเมื่อตอนบ่าย"โทษทีนะพวกมึงกว่าจะเสร็จมีปัญหานิดหน่อยดีที่แก้ไขแล้วเสร็จเร็ว" พวกเพื่อนของเขาพยักหน้ารับ"พวกกูแค่แซวมึงเฉยๆ เข้าใจมึงไปทำงานไม่ได้มาเที่ยวอย่างเดียวเหมือนพวกกูเป็นกำลังใจให้โว้ยเพื่อน!" เพื่อนคนหนึ่งของเขาตบบ่าให้กำลังใจขนาดที่เดินไปนั่งลงวงเหล้าของพวกผู้ชาย"เออๆ ขอบใจ มาๆ ตั้งเตากินดื่มกันได้เต็มที่เลย" เมื่อเจ้าภาพที่เป็นเจ้าของสถานที่พูดเปิดกลุ่มวัยรุ่นทั้งหลายก็เริ่มเปิดเหล้าพร้อมกับปิ้งย่างกันควันไฟลอยคลุ้งไปทั่วเพราะถูกจุดพร้อมๆ กันหลายเตาจากทีแรกที่เตาของพวกผู้หญิงมีแต่น้ำหวานก็ถูกแทนที่ด้วยแอลกอฮอร์จากต่างประเทศอย่างเช่นโซจูที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับคอซีรี่ย์เกาหลีมีให้เห็นจนอดไม่ได้ที่จะไปซื้อมาลิ้มลองกันอย่างแพร่หลาย"เอ้าชน!!!" เสียงเฮฮาของกลุ่มวัยรุ่นดังขึ้นจากทีแรกที่ใบตองและเพื่อนอีกสองคนแอบเกร็งเพราะอายุน้องที่สุดและไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมคณะกันเหมือนพวกพี่เขาก็เริ่มคุ้นชินจนเข้ากันได้ดีทำให้เกิดบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยหัวเราะกัน"ฮึก!ไม่ไหวแล้วค่ะพี่มินพอก่อน" ใบตองยกมือขึ้นห้
"อือเริ่มรู้สึกดีแล้ว" ใบตองรับยาดมมาดมเองพอมือว่างจากการจับยาดมแล้วน้ำอิงก็ไม่อยู่เฉยมีการบีบนวดตามต้นคอบ่าไหล่ให้กับใบตอง"เอาดื่มน้ำหวานจะได้สดชื่น" พี่สีครามหายปแล้วกลับมาพร้อมน้ำหวานหนึ่งขวดให้ฉันดื่ม"ขอบคุณค่ะ" เขาพยักหน้ารับ"เอานี้กุญแจห้องพวกมึงส่วนค่าห้องจ่ายคนล่ะห้าสิบเปอร์เซ็นต์ตามที่ตกลงกันไว้นะโว้ย" พี่สีครามพูดขึ้นพร้อมกับแจกจ่ายให้กุญแจห้องพักให้กับเพื่อนของเขา"เอ่อขอบใจมากเพื่อน" มองดูแล้วก็นับคร่าวทั้งเพื่อนผู้ชายและผู้หญิงสิบคนได้ก็รถตั้งสี่คันคนย่อมเยอะเป็นธรรมดาแล้วคือเธอดันมาเมารถอยู่คนเดียวน่าขายหน้านัก ใบตองได้แต่ยิ้มเจือนตอบรับการทักทายของรุ่นพี่เพื่อนพี่สีคราม"ให้น้องไปพักเถอะสีครามดูหน้าไม่ค่อยจะไหวแล้วนะมึง" เพื่อนครหนึ่งของเขามองมายังฉันอย่างเห็นใจส่วนคนอื่นๆ ก็มีมองมาแต่หลากหลายอารมณ์ตามปะสาคนที่ไม่คุ้นเคยกันสักเท่าไหร่"เอ่อๆ พวกมึงแยกย้ายกันไปพักผ่อนแล้วถ้าอยากทำกิจกรรมอะไรก็มาบอกที่เคาท์เตอร์เดียวพวกเขาจัดโปรแกรมให้อันนี้กูสั่งไว้แล้วฟรีได้เลย""ขอบใจมากเสี่ยคราม" เพื่อนอีกคนของพี่สีครามแซวเขา ส่วนเจ้าตัวก็หยักไหล่แบบยอมรับแล้วพากันเดินไปยังห้องพักต
ข้อความถูกส่งเข้ามาหลายครั้ง ทำให้ฉันจำต้องวางปากกาที่จดสรุปลงไว้แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความที่ถูกส่งเข้ามา"พี่มาถึงแล้ว" พร้อมทั้งรูปถ่ายใบหน้าหล่อเหลายิ้มแฉ่งนับสิบรูปถูกส่งเข้ามาในไลน์ไม่หยุด"โอเคค่ะเดียวใบตองลงไปนะ" เธอบอกเขาแล้วหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าสะตังค์เพราะว่าคิดจะแวะไปเซเว่นเพื่อซื้อของกินมาตุนเอาไว้ในตู้เย็นที่ของกินกำลังจะหมดลง"มาแล้วค่ะ รอนานไหม" ใบตองยิ้มให้คนตัวสูงที่เล่นเกมส์ในโทรศัพท์เช่นเดิมเพราะเขาวางเครื่องลงก็เห็นเกมส์ในหน้าจอแสดงอยู่ฉันถึงรู้"ไม่นานครับ พี่ซื้อทั้งข้าวทั้งขนมและของกินเล่นมาให้เราหลายอย่างเลยกินกันเถอะ" พี่สีครามเปิดข้าวกล่องให้ฉันแล้วเลื่อนมาตรงหน้า"ขอบคุณพี่สีครามมากนะคะ" ฉันยกมือไหว้ขอบคุณน้ำใจของเขา"ไม่เป็นไรครับ" เขาพยักหน้ารับ"แล้วค่าข้าวพวกนี้เท่าไหร่คะเดียวใบตองออกเงินช่วย""ไม่ต้องหรอกครับ ถือว่าพี่เลี้ยงแล้วกันมื้อนี้" พอเขาพูดมาแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกเกรงใจขึ้นมาเลย"ไม่เอาค่ะ ใบตองเกรงใจขอจ่ายตังค์ช่วยนะ" ฉันไม่ยอมแพ้และไม่อยากเอาเปรียบเอามากนัก"แต่พี่ไม่เอาครับเต็มใจเลี้ยง กินเถอะจะได้รีบขึ้นไปทำรายงานต่อยังไงล่ะ" เอาส่ายห
"นี่คือเหตุผลที่แม้กระทั้งโซเซียลพี่สีครามก็ไม่อัพเดรสอะไรเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา..." พอคิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเจอกับความยากลำบากของชีวิตที่ถาโถมเอาใสคงไม่ใช่ว่าจุดเริ่มต้นของเขาเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่โดนฉันบอกเลิกหรอกนะ"นั้นก็ใช่ แต่ว่ามันมีอีกเหตุผลนึงที่ไม่อยากเล่นโซเซียล" พี่สีครามที่ได้ยินฉันพึมพำกับตัวเองก็เฉลยออกมา"อีกเหตุผลนึงคืออะไรพอบกได้ไหมคะ" เราสองคนมองสบตากันนิ่ง ฉันมองเขาอย่างรอคอยคำตอบส่วนเขาก็กระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยบอก"เพราะใบตองยังไงล่ะ" พอได้รับคำตอบที่คาดการเอาไวว้ในใจก็ถึงกับหน้าเสียเพราะตนเองคนเป็นสิ่งที่เขาอยากจะลบออกไปแม้กระทั้งโลกโซเซียลก็ไม่เล่นเพราะไม่อยากจะเห็นแม้กระทั้งรูปถ่าย"ไม่ต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นเลยครับ พี่ไม่ได้จะหมายความแบบที่ใบตองกำลังคิดอยู่แน่" สติเริ่มกับมาเมื่อเขาบอกว่าไม่ใช่เพราะตัวเองใบตองก็มีความโล่งใจเกินขึ้น"แล้วทำไม""เพราะคิดถึง" จากที่หน้าซีดฉันรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มรู้สึกร้อนพร่าวและขึ้นสีแดงระรื่นแน่นอนตอนนี้"..." หาคำพูดมาต่อบทสนทนาของเราได้อีกต่อไปเลยทีนี้"เอ้าเงียบเลย แล้วใบตองไม่คิดถึงพี่บ้างเลยเหรอครับ" คำถามของเขาเหมือ