คืนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความผิดพลาด ความเกลียดชังที่เขาสร้างไว้กลับพังทลาย เมื่อเขากลับ ‘ติดใจ’ ในตัวเธอจนยากจะถอนตัว
ดูเพิ่มเติมณ.สนามแข่งรถเถื่อนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของผู้มีอิทธิพล คับคั่งไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งผู้หญิงผู้ชาย วัยรุ่นวัยทำงานผู้ที่มีใจรักความเร็วต่างมารวมตัวกันที่นี่ทุกสุดสัปดาห์ เพราะที่นี่นอกจากจะมีการแข่งขันรถให้ดู ยังมีเดิมพันให้เล่นแล้วแต่เงินในกระเป๋าของแต่ละคน มีเครื่องดื่มไว้บริการ หรือหากต้องการมากกว่านั้นที่นี่ก็มี เรียกว่าครบวงจรได้เลย
ปรื้น ปรื้น
เสียงเครื่องยนต์จากรถแข่งคันหรูที่ถูกยกเครื่องดัดแปลงให้แรงม้ามากขึ้น กลุ่มทีมช่างอลหม่านกับการเตรียมรถสำหรับไว้ให้เจ้าของสนามลงแข่ง ชายหนุ่มเดินมาที่รถของตัวเองซึ่งทีมช่างกำลังตรวจเช็คเครื่องและปรับจูน พร้อมกับกองทัพและไต้ฝุ่นเพื่อนสนิทที่แสนสารเลวของเขา
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม?”
“ถ้าแข่งแล้วแพ้กูจะจะเลิกเป็นช่างตลอดชีวิต” ช่างหนุ่มเจ้าของลายสักคาบูกิยกยิ้มอย่างมั่นใจ เขารู้ว่าฝีมือของแม็กนัสไม่เป็นรองใคร ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องใช้กล
“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ ถ้ามึงเลิกเป็นช่างแล้วไอ้แม็คนัสมันจะไปหาช่างรู้ใจมาจากไหน” กองทัพเอ่ยขึ้นด้วยความตลบขบขัน
แม็กนัสขึ้นไปลองเหยียบคันเร่งเพื่อให้ช่างฟังเสียงเครื่องยนต์ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ช่างก็นำรถเข้าจุดสตาร์ท ส่วนแม็กแยกตัวไปทำสมาธิก่อนจะลงแข่งในอีก 10 นาทีข้างหน้า
ทุกคนในสนามต่างเกรงกลัวอิทธิพลของบ้านเขา แม็กนัสเปิดสนามแข่งรถใจกลางเมืองและเขาต้องใช้เงินจ่ายส่วยให้ตำรวจในพื้นที่ไม่น้อย เพราะเขาชอบความสมบูรณ์แบบทุกอย่างต้องไม่มีปัญหามาให้กวนใจ หลายคนคงสงสัยว่าเขาคือใคร
แม็กซิมัส อองเดร นฤเดชานนท์ ลูกครึ่งเลือดผสม ไทย-ฝั่งเศส มารดาเป็นผู้ดีฝรั่งเศษส่วนบิดานั้นเป็นลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส พ่อเขารวยติดอันดับของเมืองไทยแน่นอนว่าผู้หญิงต้องวิ่งเข้าหา ครั้งหนึ่งเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น ทำให้มารดาของเขาเจ็บเจียนตาย
ปัจจุบันแม็กนัสอายุ 22 ปี กำลังศึกษาคณะวิศวกรรม สาขาวิศวะเครื่องกล ชั้นปีที่ 4 นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มผิวขาว ใบหน้าคมเข้มดวงตาคมดุจเหยี่ยว จมูกโด่งรับกับใบหน้าทำให้เขากลายเป็นหนุ่มฮอตในหมู่สาวๆ ด้วยส่วนสูง 190 CMทำให้เขาดูเด่น บุคลิกที่นิ่งเงียบไม่ควงใครออกหน้าทำให้สาวๆ ใจสลายบางคนคิดว่าเขานั้นไม่ชอบผู้หญิง
แต่ความจริงคือแม็กนัสนั้นเป็นเสือสุ่ม เขาจ่ายเงินแล้วทุกอย่างต้องจบไม่มีสานต่อ เขาไม่ใช่คนชอบประกาศให้โลกรู้ว่าตอนนี้กำลังควงกับใคร หากมีข่าวเล็ดลอดออกไปแน่นอนว่าผู้หญิงเหล่านั้นไม่ได้เจอหน้าเขาอีก
“กูได้ยินว่าวันนี้คู่แข่งของมึงมาจากญี่ปุ่นเลยเหรอวะ” กองทัพถาม แม็กนัสยักไหล่อย่างไม่แยแสในสนามของเขาไม่เคยกลัวใคร
“มันมาเองก็ดีอ่ะดิ อีกฝ่ายนู้นซื้อตัวมา แม่ง กูก็ไม่รู้นะว่ามันอยากจะเอาชนะอะไรกูนักหนา”
ไดชิ คู่แข่งที่มักมาท้าแข่งแม็กนัสบ่อยๆ แต่ท้ามาทีไรก็แพ้ตลอดจนได้ฉายาว่า ไอ้ขี้แพ้ แม็กนัสไม่ชอบมันเพราะมันเป็นคนที่แย่งคนรักของเขาไป
“มันคงอยากได้เงินเดิมพันคืนบ้างละมั้ง มันเสียให้มึงมากี่ล้านแล้วล่ะ รถอีก 2 คัน” ไต้ฝุ่นพูดถึงความเสียหายของคู่แข่งที่เสียให้กับแม็กนัสหลายต่อหลายครั้ง ลำพังแค่เสียเงินเสียรถก็ไม่เท่าไหร่ แต่เจ็บใจนี่สิ ที่มันยอมกันไม่ได้
“เสียเงินไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้นะสิ”
“หรืออาจจะมาเย้ยมึงก็ได้ที่เคยชนะมึงครั้งหนึ่ง”
แม็กนัสเงียบเมื่อเพื่อนพูดถึงเรื่องนั้นเขาจำได้ไม่เคยลืม วันที่เขาเจ็บปวดเกือบฆ่าคนได้ วันนั้นแม่เขาถึงกับลงไม้ลงมือกับเขาเพื่อเรียกสติ
“มึงลืมอันดาได้ยัง? ไอ้ไดชิมันเลิกกันนานแล้วไม่รู้แค้นอะไรนักหนา”
“มึงเลิกพูดถึงเรื่องนั้นเถอะมันผ่านมาแล้ว”
“เออๆ เตรียมตัวไปแข่งได้แล้ว” เพื่อนเขาคงไม่มีทางลืมรักแรกได้หรอก มีแต่จะแค้นมากกว่าพวกเขาก็ได้แต่คอยให้กำลังใจเพื่อน
“คืนนี้กูว่านอกจากเงินที่เดิมพันมาแล้ว กูจะขอเพิ่มของเดิมพันว่ะ” กองทัพกับไต้ฝุ่นหันมองหน้าเพื่อนรักอย่างแปลกใจ เพราะปกติแล้วแม็กนัสไม่ใช่คนโลภได้คืบจะเอาศอก
“มึงจะเพิ่มอะไรวะ?” กองทัพถาม
“กูจะเอาผู้หญิงของมันด้วย ส่งสายตาให้กูหลายครั้งละ สงสัยฝั่งโน้นเครื่องไม่แรงเลยอยากจะย้ายมาลองเครื่องของกู” เอาเพื่อความสะใจเท่านั้นไม่มีเรื่องหัวใจ มันอยากลองดีเขาก็จะจัดให้
“ผู้หญิงคนนั้นคู่หมั้นมันไม่ใช่เหรอวะ แล้วมันจะยอมเหรอ” ไต้ฝุ่นถามอย่างสงสัย แล้วคืนนี้มันคึกคะนองอะไรถึงอยากได้ผู้หญิงขึ้นมา
“ยอมดิ มันกลัวเสียศักดิ์ศรีจะตาย” แม็กพูดอย่างมั่นใจ และก็เป็นอย่างที่เขาคาดคิดไว้ฝั่งนู้นยอมเอาผู้หญิงของตัวเองมาเป็นของเดิมพัน หากชนะเอาผู้หญิงคนนี้ไปเลยทำอะไรก็ได้ภายใน 1 อาทิตย์ ถ้าฝั่งนู้นชนะแม็กต้องคืนรถที่ชนะเดิมพันคราวก่อนให้ไป 1 คัน
“มึงไม่เสียดายเหรอวะนั่นคู่หมั้นมึงนะโว้ย”
“ใครแคร์วะขนาดเมียเก่ามึงกูยังได้มาแล้ว”
“ไอ้ไดชิ!”
“เจ็บใจเหรอ? อยากได้คู่หมั้นกูก็เอาดิรับเดนต่อจากกูหน่อยนะ” ไดชิหัวเราะลั่นที่ป่วนประสาทแม็กนัสได้เขากลัวแต่ต้องระงับความกลัวไว้ แค่คู่หมั้นเขาได้จนเบื่อแล้ว
“ไดชิพูดเหมือนไม่รักฮานิเลยนะ”
“หรือเธอไม่อยากได้มัน เห็นส่งสายตาเชื้อเชิญอยากขึ้นเตียงกับมันเทียบตาย”
“กูไม่เคยแพ้มึง” แม็กนัสเอ่ยขึ้นแล้วหันหลังเตรียมตัวขึ้นรถ ศึกครั้งนี้เกี่ยวกับศักดิ์ศรีล้วนๆ
รถที่จะลงแข่งประจำเข้าจุดสตาร์ทซึ่งแม็กนัสชนะมาก็หลายรอบจึงได้อยู่จุดที่หนึ่งด้านใน ซึ่งถือว่าได้เปรียบคู่แข่งคนอื่นๆ ผู้คนรอบข้างสนามต่างลงพนันขันต่อ และรอลุ้นนักแข่งที่ตนเองชื่นชอบ สาวสวยในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยถือธงตาหมากรุกยืนเบื้องหน้ารถแข่งที่จุดสตาร์ท สายตาของนักแข่งต่างจ้องมองจุดเดียวคือธงตาหมากรุกในมือหญิงสาว
“เสียใจด้วยนะไอ้ขี้แพ้!”
และผลการแข่งขันก็เป็นไปตามคาด แม็กนัสเอาชนะนักแข่งคนอื่น และเอาชนะไดชิได้ฝ่ายนู้นทุ่มเงินซื้อตัวมา ชนะได้อย่างฉิวเฉียดเรียกว่าวินาทีต่อวินาทีได้เลย แม็กนัสถอดหมวกกันน็อคแล้วเดินไปหาคู่แข่งเพื่อทวงของเดิมพัน
“กูมารับของเดิมพันครับ”
“ฝากไว้ก่อนเถอะมึงกูจะเอาคืนแน่”
“อย่าฝากนานไม่ใช่ธนาคาร” เมื่อได้ของเดิมพันแม็กนัสก็หายหัวไปทันที ทิ้งเพื่อนสนิทอย่างไต้ฝุ่นกับกองทัพ
“ไงล่ะเพื่อนมึง ได้หญิงทิ้งเพื่อนอีกแล้ว “
“มึงจะเอาไงจะหาติดมือกลับบ้านสักคนไหม' กองทัพเอ่ยถามไต้ฝุ่น ไต้ฝุ่นส่ายหน้าแล้วตอบกลับไปว่า”
“มึงก็รู้ว่าคนที่บ้านกูดุ มึงจะดีลก็เอาดิ สาวกลุ่มนั้นมองมึงมาตั้งนานละ” ไต้ฝุ่นทำสีหน้าขยาด พร้อมกับนึกถึงแฟนสาว ที่น่ารักเป็นบ้า แต่ก็ดุฉิบหายเหมือนกัน
“ไอ้ห่าเดี๋ยวเมียกูได้เอาค้อนทุบหัว”
แม็กนัสเอาเงินที่ได้จากการแข่งรถแอบมาซื้อเพ้นต์เฮาส์ไว้ โดยที่ไม่บอกทางบ้าน เพราะหากแม่ของเขารู้คงบ่น 3 วัน 8 วันไม่จบ และเขาก็คงถูกสั่งห้ามไม่ให้แข่งรถอีก เพ้นต์เฮาส์แห่งนี้ซึ่งเป็นเหมือนที่เก็บความลับของแม็กนัส รถที่เดิมพันมาได้ก็จอดอยู่ที่นี่ และเขามักพาสาวๆ มาสนุกกันที่นี่อีกด้วย
เอี๊ยด!
“แม่ง! อยากตายหรือไงวะ เอาตีนมองทางหรือไง!”
“ขอโทษค่ะ”
“เออ หลีกไปคนรีบโว๊ย!”
“โธ่! ไอ้ฝรั่งหัวแดงก็เห็นไหมว่าทางม้าลายแหกตาดูบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ขับไม่สนห่าสนเหวอะไรเดี๋ยวจะไม่ได้แก่ตาย” หญิงสาวโกรธจนหน้าแดงก่ำ เธอก็ข้ามถนนมาดีๆ แต่รถหรูแล่นมาด้วยความเร็วไม่คิดจะเบรก
“นั่นปากหรือที่พูด”
น่าจับเอากล้วย_กระแทกปากจริงๆ จะได้เลิกบางดี ปากเล็กอย่างกับนกกระจิบจับกล้วยเขายัดใส่ปากคงขาดใจตาย 56 ไม่ได้มาเล่นๆ
“ยังไม่แก่หูตึงแล้วเหรอ”
“เธอ!”
“คุณแม็กนัสเราไปกันดีกว่าค่ะอย่าเสียเวลาเลย”
แม็กนัสหัวเสียเขาขับรถด้วยความเร็วสูง พอถึงทางม้าลายกลับมีผู้หญิงข้ามถนน เขารู้ว่าตัวเองผิดแต่ปากก็แซ่บเกินกล้ามาว่าเขาได้อย่างไง หน้าตาก็ดีปากหมาฉิบหาย
‘ไอ้ควายมึงจะไปชมเขาทำไมปากหมานะสิ’
“คืนนี้ฮานินวดตัวให้นะคะ”
คืนนี้ที่เขาพาผู้หญิงของคู่แข่งมาสนุกกันที่นี่ หญิงสาวเองก็ไม่ได้มีทีท่าจะขัดขืนใดๆ ออกจะสนุกสุดเหวี่ยงกับเขาซะด้วยซ้ำ เรียกว่าแทบจะต้องทำอะไรหญิงสาวประเคนให้เขาทุกอย่างจนถุงยางหมดไปหลายกล่อง
พอเสร็จเขาจะออกไปนอนอีกห้องเขาไม่ชอบนอนกับใคร และไม่เอาเปรียบใครเขาจ่ายเงินให้ทุกคน
“ยังเรียนอยู่เหรอเนี่ย?” ฮานิที่นุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวนั่งอยู่บนเตียงมองแม็กที่กำลังแต่งตัวจะไปมหาวิทยาลัย
“ใช่ครับ”
“มีปัญหาอะไรกับไดชิเหรอถึงได้เกลียดกันขนาดนั้น”
“เรื่องของผม แล้วคุณไม่เสียใจหรือไง”
“เรื่องปกติพอเบื่อก็แลกเปลี่ยนคู่กัน” ฮานิไม่ได้คิดอะไรมากเป็นแค่สีสันของชีวิต
“นี่เงินแล้วก็แต่งตัวกลับได้แล้ว”
“ไหนว่า 1 สัปดาห์ไง” เธอดีใจจนตัวเต้นที่จะได้อยู่กับเขาตั้งหลายวัน เพราะเธอแอบมองเขาหลายครั้งแล้วแต่นี่อะไรจะทิ้งกันแล้ว
“กลับมาผมต้องไม่เจอคุณ!”
“แม็กนัสฉันไม่ได้ขายตัวนะ กรี๊ดดด”
แม็กตอบกลับโดยที่ไม่หันไปมองเธอแม้แต่น้อย ซึ่งต่างจากเมื่อคืนที่แทบจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว ทว่าวงการนี้เขาไม่สนใจกันหรอก กลางคืนแค่สนุกด้วยกันตื่นเช้ามาก็แยกย้ายมันเป็นเรื่องปกติ
แสงแดดอ่อนๆ ของยามเช้าสาดส่องกระทบกับกระจกหน้าต่างเซฟเฮาส์สุดหรูใจกลางกรุงปารีส เมืองแห่งความโรแมนติก ขมิ้นยืนอยู่ที่ระเบียงห้องชื่นชมทิวทัศน์ของหอไอเฟลที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ลมเย็นพัดผ่านผิวกายของเธอเบาๆ ทำให้เธอหลับตาลงและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ"ตกหลุมรักที่นี่เลยใช่ไหม?"เสียงทุ้มคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง ก่อนที่อ้อมแขนอบอุ่นจะโอบรัดเอวของเธอจากด้านหลัง แม็กนัสโน้มศีรษะลงมาแนบชิดกับไหล่ของเธอ สูดกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนผมของหญิงสาวขมิ้นหัวเราะเบาๆ "ขมิ้นตกหลุมรักทุกอย่างที่นี่เลย ไม่ใช่แค่เมืองนี้นะ..."เธอเว้นจังหวะ ก่อนจะหันไปสบตากับเขา ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเธอทอประกายอบอุ่นเมื่อพูดต่อ"แต่รวมถึงพี่แม็กด้วย" “ปากหวานคงต้องจัดอีกรอบ”แม็กนัสยิ้มออกมา ดวงตาสีน้ำตาลลึกซึ้งของเขาฉายแววแห่งความรัก ขมิ้นรู้ว่าเธอไม่ได้แค่พูดเล่น ทุกวินาทีที่ได้อยู่กับเขา เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก “อย่ามาหื่นขมิ้นขาสั่นไปหมดแล้ว” “พี่คิดถึงเมียหนิ ใครกันมาให้พี่เย็.-ด ถึงที่” “ดูพูดเข้า” “เราแต่งงานกันนะค่อยกลับไปจัดที่เมื
ขมิ้นนั่งจ้องมองเด็กทารกตัวเล็กที่นอนหลับอยู่ในเปลตัวจ้ำหม่ำนอนหลับปุ๋ย ในปากยังมีขวดนมอยู่ขมิ้นเขี่ยแก้มเบาๆ ทำให้เด็กน้อยทำตัวยุกยิกไปมา “ชอบเด็กไหมขมิ้น” “น้องน่ารักมากเลยนะคะ” “ตอนนอนน่ารักพอตื่นบ้านแทบแตก” เดือนเมษาเพิ่งคลอดลูกสาวได้ไม่นาน กองทัพจะมาขอลูกที่คนสองเธอจึงบอกให้เขาพักก่อน “ขมิ้นยังไม่อยากมี” “เรียนจบแต่งงานไปแล้วก็อยากมีเอง” ดูอย่างไต้ฝุ่นสิคนเจ้าชู้แบบนั้นพอมีความรักก็อยากมีลูกขึ้นมาทันที เวลาเปลี่ยนคนเราก็เปลี่ยน “ขนมจ้ะสาวๆ” ไลลาริณถือขนมมาวางพร้อมกับนั่งลงที่พื้น เห็นลูกสาวของกองทัพแล้วทำให้อยากมีบ้าง “ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าคนอย่างพี่ไต้ฝุ่นจะยอมหยุดที่พี่ไลลา” ในแก๊งนี้บอกเลยว่าไต้ฝุ่นคือคนที่ใช่ชีวิตคุ้มค่าที่สุดฟาดเรียบไม่เหลือ “คนเจ้าชู้ถ้าเขาอยากหยุดจะหยุดเองเราไม่ต้องพยายาม” กว่าจะหยุดเสียน้ำตาไปเยอะเหมือนกัน เขาทำให้ไลลาริณมั่นใจว่าเขานั้นหยุดอยู่ที่เธอคนเดียว “พี่แม็กนัสธรรมดาเสียที่ไหน” “เสือสุ่ม” “ห่างกันตั้ง 1 ปีคิดถึงเขาไหม”
เอเลนอยิ้มหน้าบ้านที่ลูกชายตามง้อขมิ้นสำเร็จคิดว่างานนี้จะได้ออกโรงเอง ความหวังที่อยากได้ขมิ้นมาเป็นลูกสะใภ้นั้นวันนี้สำเร็จลุล่วง ต้องรีบหาฤกษ์หมั้นหมายให้เร็วที่สุด “ถ้าลูกชายหม่ามี้แกล้งอะไรบอกแม่ได้เลยนะลูกหม่ามี้จะจัดการมันเอง” “หม่ามี้ผมลูกหม่ามี้นะ” รักลูกสะใภ้มากกว่ารักลูกตัวเองไม่ได้ “คงไม่กล้าทำอะไรขมิ้นแล้วค่ะ” แม็กนัสน่าจะกลัวเข็ดยาดไปอีกนาน กว่าจะผ่านด่านพ่อตาไม่ง่ายเรียกว่าแทบจะเอาชีวิตไปทิ้งหลายครั้ง “อย่าทำแบบนั้นอีกนะแม็กนัส” “ผมไม่กล้าแล้วครับ” ต่อจากนี้จะเชื่อหัวใจตัวเองไม่กล้าปากเก่งทำสิ่งตรงข้ามกับหัวใจอีกแล้ว แม็กนัสพาขมิ้นมาที่ผับของไต้ฝุ่นอีกไม่กี่วันเขาจะต้องไปฝึกงานที่บริษัทของพ่อ จึงพาหญิงสาวมาทำความรู้จักแบบเป็นทางการ วันนี้กองทัพและไต้ฝุ่นพาคนรักมาด้วยสาวๆ จะได้มีเพื่อนคุย ขมิ้นกับเดือนเมษารู้จักกันแล้วส่วนไลลาริณนั้นอยู่คนละคณะจึงไม่ค่อยเจอหน้ากัน “พี่เมษาท้องได้กี่เดือนแล้วคะ” “จะเข้าสามเดือนแล้วจ้ะ” กองทัพไม่พูดพร่ำทําเพลงเสกเด็กน้อยเข้าท้องเรียบร้อย
ส่วนพ่อขมิ้นซึ่งตอนนี้ถูกภรรยาเรียกกล่อมจนอารมณ์เย็นลงมาบ้างแล้ว เขาแก่จนอายุปูนนี้เห็นแก่ความสุขของลูกเขาจึงยอมให้โอกาสแม็กนัสอีกครั้ง “เมื่อตัดสินใจแล้วก็รับผิดชอบด้วยตัวเอง” “ขอบคุณคุณพ่อครับที่เข้าใจ” “ได้คืบจะเอาศอกใครให้เรียกพ่อ” ปทุมทำเป็นเคร่งขรึมวันก่อนยังเรียกเขาลุงอยู่เลย แต่ไม่เป็นไรเขาอารมณ์ดีเพราะขมิ้นจะอยู่ที่บ้านสวนกับเขาอีกสี่ปี ก่อนจะไปอยู่กับแม็กนัสสมน้ำหน้าให้อยู่ห่างกันแบบนั้นแหละถึงจะถูก ตกดึกแม็กนัสหมุดออกจากมุ้งตัวเองคิดถึงขมิ้นอยากกอดอยากหอมแต่เกรงใจพ่อกับแม่ คืนนี้จะไปฟัดให้หายคิดถึง “จะไปไหนครับพี่ชาย” “เบาๆ ดิวะกูจะไปนอนกับขมิ้น” “กินลูกตะกั่วตัวใครตัวมันนะ” เรียวตะหันหลังนอนเล่นโทรศัพท์ต่อ เขามาอยู่ที่บ้านสวนเกือบสองสัปดาห์ แทนที่เขาจะได้ใช่ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ปิดเทอมนี้จึงไม่ได้ไปเที่ยวไหน แกร็ก “พี่มาแล้วจ้ะ ขมิ้นของพี่” ตอนเย็นเขาบอกขมิ้นว่าห้ามล้อกประตูจะแอบเข้ามานอนด้วย เขาย่องขึ้นเตียงขมิ้นเหมือนฟ้าฝนจะเป็นใจเพราะฝนตกลงมากลบเสียงจนม
ตอนบ่ายอาการป่วยของเขาดีขึ้นมากวันนี้จึงสั่งให้เรียวตะไปหาซื้อพวงมาลัยที่ตลาด ที่แรกน้องชายบอกให้เขาร้อยเองในสวนมีดอกไม้หลายพันธุ์ อย่าหวังว่าคนแบบเขาจะยอมทำ แม็กนัสเดินขึ้นเรือนพร้อมกับพวงมาลัยสองพวงพ่อกับแม่ของขมิ้นมองแม็กด้วยความสงสัยว่าแม็กนัสเป็นอะไรหรือจะกินยาไม่ได้เขย่าขวด “แม็กนัสมีอะไรเปล่าลูก” แม่ของขมิ้นเอ่ยถามเมื่อเห็นเขานั่งลงที่พื้นพร้อมกับพวงมาลัยสองพวง “ผมจะมาขอขมาคุณน้าทั้งสองครับ” พ่อกับแม่ของขมิ้นยิ่งงงไปกันใหญ่ แม็กนัสก้มลงกราบเท้าพ่อกับแม่ของขมิ้น แล้วสารภาพความจริงทุกอย่างเป็นเพราะเขาขมิ้นถึงหนีกลับมาที่เขามาตามเพราะรักขมิ้นจึงมาขอโทษ ขมิ้นเดินมาได้ยินเธอก็ตกใจเพราะไม่คาดคิดว่าแม็กนัสจะกล้าสารภาพกับพ่อแม่ หญิงสาวยืนหลบมุมเพื่อรอดูสถานการณ์ “มึงออกจากบ้านกูไปเลย!” “พี่ทุมใจเย็นก่อนสิ” “เราจะฝากลูกสาวไว้กับมันได้ยังไงดีนะที่วันนั้นยังไม่รับหมั้น ออกไปจากบ้านกู!” ปทุมโกรธจนโยนพวงมาลัยทิ้ง ทำลูกเขาเจ็บคนเป็นพ่อแม่นั้นเจ็บยิ่งกว่า “ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น” “มึงอยาก
ขมิ้นพาแม็กนัสเข้าสวนทุกวัน ดายหญ้า รดน้ำ พรวนดิน เก็บผลผลิตแม็กนัสต้องทำทุกอย่าง โดยมีเรียวตะเป็นผู้ช่วยงานมันหนักเสียจนเรียวตะอยากกลับกรุงเทพ“กูไม่น่ามากับพี่เลยไอ้ห่าแม็ก” จากที่คิดว่าแม็กนัสอาจจะทนได้ไม่นานแต่มันไม่ใช่ตอนนี้ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว คนที่จะตายคือเขาเอง“มึงจะเรียกกูว่าพี่ทำไมถ้าจะด่าขนาดนั้น”“พี่ทำคนเดียวเลย”แม็กนัสมองมังคุดที่กองอยู่ตรงหน้าวันนี้ขมิ้นให้เขาแยกผลไม้ใส่ลังเพื่อจะนำไปส่งให้พ่อค้าแม่ค้าที่ตลาด หลายวันก่อนต้องไปเก็บทุเรียนจนใบหน้าได้แผลมาหนึ่ง“หน้ายังไม่หายดีเลยแผลมาอีกละกว่าจะได้กลับกรุงเทพผมเตรียมโลงไว้ให้พี่ดีกว่า”“เงียบเลยนะมึงไม่ช่วยยังปากดีอีก” เขาบอกขมิ้นไว้แล้วว่ายังไงเขาจะไม่ยอมแพ้คนอื่นเขาทำงานหนักได้ เขาก็ต้องทำได้เหมือนกัน.“ลูกคุณหนูสำอางมากคิดว่าจะหนีกลับกรุงเทพตั้งแต่วันแรกแล้ว” ปทุมยอมในความอดทนของแม็กนัสขนาดถูกเขาแกล้งให้ทำงานหนักก็ไม่หวั่นไม่บ่น แต่ชอบมาแตะตัวลูกสาวเขาตลอด“จะไปไหนขมิ้นแดดร้อนอยู่”“ไปเอาน้ำจ๊ะพ่อ”เห็นเขาทำงานหนักจึงสงสารตอนนี้บ่ายโมงแดดแรงมาก ขมิ้นถือน้ำและผลไม้แช่แข็งไปให้เขาเธออยากพูดกับเขาตรงๆ“น้ำกับผลไม้”“
เรียวตะมองทางตลอดเขาไม่แน่ใจว่าแม็กนัสพามาถูกหรือไม่มองไปไหนก็มีแต่ภูเขาและสวนยางไม่ก็สวนผลไม้ หากรถเสียตายอย่างเดียวคงไม่มีใครหาพวกเขาเจอ “พี่แม็กแน่ใจนะว่ามาถูก” “จีพีเอสมาพามา” “รู้งี้นั่งกินเหล้าอยู่กรุงเทพก็ดีแล้วตอนทำ ทำกันอยู่สองคนพอเลิกตามพอทำไมต้องพาผมมาลำบากด้วย” เรียวตะบ่นมาตลอดทางเขาจะหาทางปฏิเสธไม่ได้เพราะตอนนี้อยู่ในช่วงปิดเทอม กองทัพไต้ฝุ่นต่างพากันกลับบ้านแฟนจึงไม่มีใครมาด้วย เวรกรรมจึงมาตกที่เรียวตะต้องพาพี่ชายมาตามง้อคนรัก “มึงอย่าบานมากรถไม่ได้ขับหลับมาตลอดทาง” คนที่นี่เขาใช้ชีวิตอยู่กันยังไง มองไปทางไหนก็มีแต่ป่ากับป่าบ้านเรือนอยู่ไกลกันมาก “เหอะตอนทำไม่คิด” “จบงานนี้กูให้รถมึงคันหนึ่งเลย” “ไม่เอาจักรยานแบบพี่กองทัพนะ” ไม่เข้าใจว่าจะโกรธจะทะเลาะกันทุกเหตุการณ์ต้องมีเรียวตะอยู่ด้วยทุกครั้ง รู้สึกกลายเป็นสำคัญขึ้นมาทันที เอี๊ยด “เบรกไหมอ่ะ” “น่าจะถึงแล้ว” เขามองสวนผลไม้ขนาดใหญ่ป้ายเขียนไว้ว่าสวนตาทุมน่าจะใช้ที่นี่ แม็กนัสเดินลงจากรถเขาเห็น
เขาตื่นแต่เช้าเพราะอยากคุยกับแม่แต่เหมือนท่านก็อยากคุยกับเขาเหมือนกัน สภาพแม็กนัสตอนนี้ดูไม่ได้ใบหน้ามีแต่แผลเต็มไปหมด “หม่ามี้ไม่ถามหรอกนะว่าไปถามอะไรมา” “ขมิ้นติดต่อมาไหมครับ” เขาไม่กล้าไปเจอหน้าขมิ้นที่ดอนโด ภาพที่หญิงสาวร้องไห้แล้วไหว้เขายังตามหลอกหลอน “น้องไม่มาให้ลูกให้เจอหน้าอีกแล้ว” เอเลนอเสียใจที่แม็กนัสทำให้ขมิ้นเสียใจจนผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ยกเลิกการจับคู่ของทั้งสองคนเอเลนอไปส่งขมิ้นกลับบ้านด้วยตัวเอง “ทำไมครับขมิ้นไปไหน!” เขาไม่รู้เรื่องขมิ้นและไม่ได้ข่าวขมิ้นอีกเลยไปดักรอก็ไม่เคยเจอหน้า หญิงสาวหนีเขาไปไหน ใบหน้าของเขาฉายชัดถึงความกังวลไม่น้อย “หนูขมิ้นเขากลับบ้านแล้วไม่กลับมาอีกแล้ว เราไปทำอะไรน้องหรือเปล่าทำไมน้องถึงหนีไปแบบนั้น” เอเลนอไม่ทราบเหมือนกันเห็นขมิ้นร้องไห้เสีย จึงไม่ถามและไปขมิ้นให้พ่อแม่เขา แม็กนัสตัวชาไปหมดขมิ้นเพิ่งเข้ามาเรียกได้เทอมเดียว จึงง่ายต่อการตัดสินใจย้ายกลับไปเรียนที่บ้านเกิดขมิ้นไม่ยอมไปสอบแต่หนีกลับบ้านไปดื้อๆ “ผมมขอโทษครับหม่ามี้ผมผิดไปแล้ว ผมมันเ
สองสัปดาห์แล้วที่เขาไม่ได้ติดต่อขมิ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานักศึกษามีสอบปลายภาค เขาจึงไม่อยากไปกวนใจขมิ้นและเขาเองก็พรีเซ็นต์โปรเจคจบทำให้ไม่มีเวลาตามไปขอโทษหญิงสาวแต่เขาเหมือนมีความรู้สึกแปลกๆ เพราะไม่เคยเห็นหน้าขมิ้นเลยในมหาลัย ทั้งๆ ที่เขาจะแอบไปเฝ้ามองเห็นแต่เพื่อนชายของขมิ้นเท่านั้น“แม็กนัสไปทานข้าวกัน”“อืม” เขากลับมาคบกับอันดาแบบเปิดเผยอยากรู้ความรู้สึกตัวเอง ว่าสรุปเขาลืมอันดาได้หรือยังตลอดหลายวันที่ออกเดตกับอันดา เขากลับคิดถึงใบหน้าของขมิ้นเขาไม่มีความสุขเพราะอันดาคอยเจ้ากี้เจ้าการบังคับเขาทุกอย่างจนเขาไม่มีความสุข และพยายามหลบหน้าหญิงสาวเสมอ“คืนนี้อันดาขอไปนอนด้วยได้ไหม”“ฉันติดงาน”“เรากลับมาคบกันแล้วก็ต้องมีเรื่องอย่างว่า” เขาไม่ยอมแตะต้องตัวเธอเลยสักครั้ง ขนาดเธอจะจูบเขาแม็กนัสยังไม่ยอมทำได้แต่จับมือ ทำให้คนที่มีความต้องการสูงแบบอันดาไม่พอใจ“ฉันไม่มีอารมณ์”“รอเป็นอีขมิ้นหรือไงถึงจะมีอารมณ์ แม็กนัสอย่าลืมนะว่าเลิกกับมันและแม็กนัสก็เลือกกลับมาคบกับอันดาเอง”“ฉันติดงานเธอไม่เห็นเหรอว่าฉันเหนื่อยแค่ไหน” เขาไม่อยากพูดถึงขมิ้น มันทำให้เขาคิดถึงขมิ้นและไม่อยากให้ใครเรียกขมิ้
ความคิดเห็น