ตุบ! เคล้ง!
“เลือด! กรี๊ดดดด” ขมิ้นกรีดร้องสุดเสียงเมื่อเห็นโลหิตสีแดงไหลออกมาจากศีรษะของรุ่นพี่ คนที่เป็นต้นเหตุกำขวดแก้วไว้แน่น
“พี่แม็กนัสเป็นอะไร!”
“แรด ร่าน ฉันให้มาทำงานมายื่นอ่อยผู้ชายทำไม ห๊ะ!”
แม็กนัสโกรธเขาไม่รู้ว่าโกรธอะไร แต่ไม่ชอบที่คนตัวเล็กมานั่งอ่อยผู้ชาย แถมยังคลุมเสื้อให้กันหวานฉ่ำไม่อายคนอื่น
“แล้วมันหนักหัวพี่หรือไง!” ตะคอกมาตะคอกกลับไม่โกง เธอไม่ใช่คนที่จะยอมเขาง่ายๆ
“มานี่แม่ตัวดี”
“ขมิ้น” สิงห์คว้าข้อมือของรุ่นน้องไว้ กลัวว่าขมิ้นจะได้รับอันตราย เขาไม่รู้มาก่อนว่าทั้งสองคนรู้จักกันทำไมแม็กนัสต้องทำเหมือนว่าหึงหวงขมิ้น
“มึงอยากตายเหรอปล่อยมือคนของกู!” แม็กนัสกระชากตัวของขมิ้นอย่างแรงจนสิงห์กลัวว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บจึงยอมปล่อยขมิ้นไป
หญิงสาวเดินตามแรงฉุดกระชากของแม็กนัสจนมาถึงทางแคบๆ ขากระชากแจ็กเกตออกจากไหล่ของเธอแล้วโยนทิ้งก่อนจะเหยียบเสื้อของรุ่นพี่
“พี่แม็กนัสทำอะไรเสื้อของพี่สิงห์ อ๊ะ” ขมิ้นกำลังจะก้มลงเก็บเสื้อแต่ถูกเขากระชากตัวให้ลุกขึ้น แม็กนัสถอดเสื้อคลุมของเขาออกแล้วคลุมไหล่ให้ขมิ้น
“ชอบมันมากหรือไงถึงไปนั่งให้ท่าพวกมัน”
“แล้วพี่เป็นอะไรไม่ทราบคะ? ขมิ้นก็ทำงานตามที่พี่สั่งผิดตรงไหน”
“ผิดตรงที่เธอไปยืนอ่อยพวกผู้ชายไง”
“แล้วยังไงคะ อ่อยได้ก็โชคดีของขมิ้นไปอาจจะเจอคนรวยๆ เอาไปเลี้ยงดูสบายไปทั้งชาติ” เธอทำหน้าเหมือนเพ้อฝันยิ้มยั่วยวนประสาทเขา และมันก็ได้ผลดีด้วยเมื่อแม็กนัสโมโหหนักขึ้นกว่าเดิม
“ฉันจะฟ้องหม่ามี้ว่าเธอมันร่าน”
“รีบฟ้องเลยค่ะ รีบๆ ไปเลยนะคะจะรอ”
“หึ ผู้ชายรวยๆ ก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วไง” เขาทั้งหล่อทั้งรวยทำไมขมิ้นไม่มองเขาบ้าง ‘แล้วกูเป็นอะไรทำไมต้องโกรธเด็กนั่นขนาดนั้นด้วยวะ’
“พี่แม็กนัสไม่ใช่สเปกหนูชอบไทยแท้ไม่ชอบฝรั่งหัวแดง ไม่ชอบคนนิสัยไม่ดี...อื้อ” ขมิ้นตกใจเมื่อเขาริมฝีปากของเขากระแทกกับริมฝีปากเธออย่างแรง จนที่เริ่มหนักหน่วงก็กลายเป็นร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ
แม็กนัสขมเม้มริมฝีปากของขมิ้นเพื่อให้เธอเปิดปากให้เขาได้เข้าไปข้างใน รสจูบที่ไม่ได้เรื่องทำให้แม็กนัสครางออกมา เขากวาดต้อนชิมน้ำหวานอย่างเอร็ดอร่อยและพอใจที่ขมิ้นจูบตอบเขา
“อื้อ ไอ้สารเลว!”
เพียะ
ขมิ้นตบหน้าเขาจนใบหน้าของแม็กนัสหันตามแรงตบ จนเกิดรอยนิ้วมือทั้งห้าประทับบนแก้มซีกซ้ายของเขาอย่างเห็นได้ชัด
“ขมิ้น!”
“เอาสิ! ถ้าไม่อยากขึ้นชื่อว่าทำร้ายผู้หญิงก็ตบฉันเลยสิ พี่คงไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้ว” ขมิ้นเชิดหน้าขึ้นเมื่อแม็กนัสง้างมือจะตบเธอคืน ถึงแม้จะกลัวแต่ต้องทำเป็นไม่กลัว
แม็กนัสกำหมัดแน่นเขาหันหลังให้ขมิ้นเพื่อระงับความโกรธ ในเมื่อทำอะไรหญิงสาวไม่ได้ก็ต้องทำตัวเองมือนั้นไวกว่าความคิด
ตุบ ตุบ ตุบ
เขาต่อยกำแพงไปสามครั้งจนเลือดไหลซึมออกมา เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน หากเจอหน้าขมิ้นตอนนี้เขาต้องควบคุมตัวเองไม่ได้
“กลับบ้านไป!”
“แต่มือพี่แม็ก...”
“ไปให้พ้นหน้าฉัน!” เขาตะคอกขมิ้นเสียงดังโดยที่ไม่ยอมหันหน้าไปมอง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าห่างออกไปเขาจึงหันกลับไปมอง
“เจ็บไหม สมน้ำหน้าไอ้ควายกำแพงผับกูต้องเปื้อนเลือดเลย” ไต้ฝุ่นนั่งบ่นเพื่อน มันจะต่อยคนเขาไม่ว่าทำไมต้องมาทำลายเข้าของเขาด้วย
แถมยังไปทำร้านนักท่องเที่ยวจนเขาต้องลงไปเคลียร์และพาไปส่งโรงพยาบาล แม็กนัสนิ่งกว่าน้ำแข็งทำไมคราวนี้ถึงสติขาด
.
ขมิ้นเช็ดน้ำตาเมื่อแท็กซี่มาจอดหน้าบ้านเธอกลัวเขามาก เพราะเพิ่งเห็นอีกด้านของเขาพาลน้อยใจจนน้ำตาไหลไม่หยุด แกล้งให้เธอทำงานก็ไม่ว่าแต่ทำไมต้องขโมยจูบแรกของเธอไปด้วย แถมเธอไม่รังเกียจเขาอีก
“ฮึก ฮือ สารเลว”
“เอ่อ ผมทำอะไรผิดหรือเปล่าครับ”
“เอ่อ ไม่ค่ะค่าโดยสารค่ะ” ขมิ้นรีบลงจากรถและเข้าบ้าน พรุ่งนี้มีเรียนตอนเช้ากลัวว่าจะตื่นไปเรียนไม่ทัน
ขมิ้นเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้วาโยฟัง เธอน้อยใจจนร้องไห้เพราะถูกเขาแกล้งอย่างหนัก หากเขาเอาเธอไปขายขึ้นมาจะทำอย่างไร
“ใจร้ายจังเลย”
“เรากลัวมากคิดว่าโดนตบกลับ”
“ย้ายออกมาไหม ทำไมต้องไปทนให้เขารังแก” วาโยไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไรขมิ้นถึงทนได้ขนาดนั้น
“เดี๋ยวลองคุยกับคุณป้าดูตอนนี้ท่านยุ่งๆ” อีกไม่กี่วันคุณลุงคุณป้าจะเดินทาง เธอกลัวว่าแม็กนัสจะรังแกเธออีกจะหาข้ออ้างออกมาอยู่กับเพื่อนเธอไม่มีเพื่อนผู้หญิงอีก
ตุบ
ทั้งสองเงยหน้าไปมองต้นเสียงทำให้ขมิ้นตกใจเพราะคนที่ทำของหล่นเป็นคนเดียวกับคนที่เพิ่งทำร้ายจิตใจเธอไปเมื่อคืน ตายยากตายเย็นพูดถึงก็โผล่หน้ามาเลย
“โทษทีของตก”
“รุ่นพี่มาทำอะไรที่ตึกบริหารครับ” วาโยยังคงให้เกียรติรุ่นพี่ การผูกมิตรไว้ดีกว่าสร้างศัตรูแต่คนที่เขาทักเหมือนไม่พอใจใครมา
“มากระทืบคน” สายตาจับจ้องไปที่ขมิ้นกองทัพมาทานข้าวกับคนรัก เขาจึงตามมาเผื่อจะเจอหน้าคนที่ทำให้เขานอนไม่ทับทั้งคืน พอมาเจอก็นั่งอยู่กับผู้ชายไม่รู้เป็นโรคขาดผู้ชายไม่ได้หรือไง ไปไหนก็มีแต่ผู้ชายรุมหน้ารุมหลัง
“ตามสบายครับ ขมิ้นไปเยี่ยมพี่สิงห์กัน”
“ไปสิ อยู่นี่เหมือนอากาศจะเป็นพิษเลยหายใจลำบาก” ขมิ้นเก็บของลงกระเป๋าและเดินออกมาพร้อมวาโย ทำให้เธอโกรธแต่ขยันเสนอหน้ามาให้เธอเห็น
Maxnus : ถ้าเธอไปเยี่ยมมันฉันจะไปเผาโรงพยาบาลทิ้ง
แม็กนัสกดส่งข้อความให้ขมิ้น รอไม่ถึงสองวินาทีหญิงสาวก็เปิดอ่านข้อความ เขายิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าขมิ้นไม่ได้ไปกับวาโย และมองมาทางรถของเขาแทน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
แม็กนัสเปิดกระจกรถลงเมื่อขมิ้นเดินมาเคาะกระจกรถของเขา เขาใช้สายตาบังคับให้เธอขึ้นมานั่งบนรถด้วยกันซึ่งเขาทำได้สำเร็จ
“พี่ต้องการอะไร”
“แค่อยากแกล้ง อย่าอยู่ใกล้ผู้ชายคนไหนอีก”
“แล้วมีสิทธิ์อะไรมาสั่ง”
“อยากให้พี่มีสิทธิ์เหรอ เชื่อเถอะว่าเธอไม่ต้องการมันหรอก” แม็กนัสขับรถออกไปอย่างเร็ว เขากลัวว่าคนตัวเล็กจะลงจากรถเสียก่อน เขามีความสุขยามที่ได้ยินเสียงโวยวายด่าทอของขมิ้น
“จะไปไหนจอดให้ขมิ้นลงเดี๋ยวนี้!”
“โอ๊ยยย พี่เจ็บนะ” แม็กนัสร้องออกมาเมื่อมือของเธอฟาดลงที่มือของเขาพอ ซึ่งมันโดนแผลที่มือของเขาพอดีด่าเก่งมือก็หนัก เขาจะช้ำในตายก่อน
“...” หญิงสาวจะหันไปขอโทษแต่พอคิดดูแล้วสมน้ำหน้า ทำตัวเองทั้งนั้นขมิ้นนั่งเงียบมาตลอดทางจนมาถึงร้านอาหาร
“ขมิ้นไม่ลง”
“ดี เดี๋ยวฉันอุ้มเอง”
“ว้าย ไอ้บ้าขมิ้นเดินเองได้” หญิงสาวรีบลงมาจากรถเมื่อเขาทำท่าว่าจะอุ้มเธอจริงๆ แม็กนัสสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะที่สำคัญมีแต่ของที่เธอกินไม่ได้เพราะเธอแพ้อาหารทะเลขึ้นรุนแรง จึงหลีกเลี่ยงมันเรื่อยมา
“กินสิฉันไม่วางยาหรอก”
“ไม่ค่ะ”
“จะกินดีๆ หรือให้ฉันป้อนเลือกเอา” แม่คุณทูนหัวจะนั่งหน้าตึงทำไมก็ไม่รู้ แล้วจะไม่ให้เขาโมโหได้อย่างไรวันนี้เขาจะไถ่โทษขมิ้นเรื่องเมื่อคืน แต่ดูเหมือนเรื่องจะแย่ลงกว่าเดิม
“บอกว่าไม่กินฟังไม่รู้เรื่องหรือไง”
“ต้องกิน!”
“พี่จะเป็นฆาตกรฆ่าคนนะ” คนสวยเริ่มโมโหจนได้ พยายามจะคุยกับแม็กนัสดีๆ แล้วแต่เขาไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย
“ฉันบอกให้กะ...”
“พี่แม็กนัสขาลิลลี่ขอนั่งด้วยคนได้ไหมคะ” ลิลลี่เห็นแม็กนัสมาแต่ไกลเมื่อได้โอกาสจึงรีบเสนอตัวมาให้เขาเห็น ลิลลี่นั่งลงข้างๆ แม็กนัสโดยที่เขายังไม่อนุญาต
“มาทานข้าวไม่ชวนลิลลี่เลยนะคะมีแต่ของโปรดลิลลี่ทั้งนั้น”
“คนรักของพี่แม็กนัสมาแล้วขมิ้นกลับก่อนดีกว่า พี่คนสวยชอบของเหลือเดน เอ๊ย ถ้าไม่รังเกียจกินข้าวจานนี้ได้เลยนะคะขมิ้นยังไม่ได้แตะต้องมัน”
“นี่เธอ!!”
แม็กนัสจะอ้าปากอธิบายว่าลิลลี่ไม่ใช่คนรักแต่ไม่ทัน ขมิ้นวิ่งออกไปจากร้านแล้ว จนเขาต้องหันมามองลิลลี่ที่กล้าแสดงความเป็นเจ้าของกับเขา
“อย่าทำแบบนี้อีก”
“แบบไหนคะ?”
“ฉันไม่ใช่ของใครและเธอไม่ใช่ของฉันอย่าล้ำเส้น” แม็กนัสต้องรีบทานข้าว แม้จะหมดความอยากก็ตามเขารีบเช็กบิลและออกมาทิ้งให้ลิลลี่นั่งหัวเสียตามลำพัง ‘ใครจะไปสนใจวะผู้หญิงน่าเบื่อมาก’
วันนี้พ่อแม่ของเขาเดินทางไปต่างจังหวัด ก่อนจะไปต้องมีปากเสียงกับลูกชายคนโตก่อน ก่อนไปแม่กำชับว่าเขาต้องกลับมานอนบ้าน ห้ามเถลไถลไปนอนที่อื่นเป็นอันขาด โดยอ้างว่าขมิ้นนอนที่บ้านคนเดียว “นอนคนเดียวที่ไหนครับคนในบ้านออกจะเยอะแยะ” หงุดหงิดทำไมถึงหนีชื่อขมิ้นไม่พ้น ไปไหนก็ได้ยินแต่ชื่อนี้ “คนใช้เขาก็นอนที่ห้องพัก ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับบ้านหลังใหญ่สักหน่อย ฉะนั้นลูกต้องกลับมานอนเป็นเพื่อนน้องห้ามเถียง รับทราบอย่างเดียว” แม็กนัสจะหันไปขอความช่วยเหลือจากพ่อ แต่พ่อของเขานั้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แถมคำสั่งของแม่เขาไม่สามารถขัดได้ด้วยสิ “หม่ามี้” “ห้ามแกล้งน้องเด็ดขาด” “ลูกสาวหม่ามี้โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้ว” แล้วที่ผ่านนอนยังไงถึงโตมาได้ขนาดนี้ ย้ายมาอยู่ที่บ้านก็เป็นภาระพอแล้ว ยังจะมานอนคนเดียวไม่ได้อีก ไม่รู้ไปเป่าหูอะไรแม่เขาถึงได้ชอบขมิ้นขนาดนั้น “แม็กนัส” “ผมถามจริงเถอะลูกสาวหม่ามี้ทำของใส่หรือไง ถึงได้รักกันขนาดนั้นระวังจะโดนหลอกเอา” คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้ มาอยู่ไม่ถึงเดือนสร้างความร้าวฉานให้เขาแล้ว
แม็กนัสนั่งดื่มเหล้าจนรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเมา ทำไมเขาต้องมานั่งดื่มเหมือนคนอกหัก ไม่รู้ว่าตัวเองโกรธขมิ้นอยู่แล้วหรือโกรธเรื่องที่หญิงสาวออกไปเที่ยวกับผู้ชาย เขาเป็นนึกบ้าอะไรขึ้นมาต้องไปตามแอบดูขมิ้นด้วย“กูถามมึงหน่อย ไม่ชอบหน้าน้องเขาเพราะอะไรวะ”กองทัพมองไม่เห็นถึงความเป็นไปได้เลย ขมิ้นจะเข้าไปหลอกครอบครัวมันได้อย่างไร ก็ทั้งสองครอบครัวรู้จักกันมาก่อน“หน้าไหว้หลังหลอกต้องการอะไรจากครอบครัวกู”“ไม่ๆ เขาไม่ได้หลอกครอบครัวมึงแต่เหมือนจะหลอกมึงมากกว่า หลอกให้รัก” ต้องใช่แน่ๆ ไต้ฝุ่นมองคนไม่เคยพลาด“ไอ้ไต้ฝุ่นมึงหุบปาก”เพื่อนรักทั้งสองได้แต่นั่งมองแม็กนัสเหมือนคนอกหักไม่มีผิด มันสอนพวกเขาให้มีเหตุผลแต่เรื่องของตัวเองมันกลับไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ทั้งสามนั่งดื่มไปด้วยกันจนแม็กนัสขอตัวกลับแต่ระหว่างที่เขากำลังเตรียมตัวกลับก็มีสาวๆ หลายคนที่เข้าหากลุ่มของแม็กนัส แน่นอนว่าไต้ฝุ่นปฏิเสธเป็นคนแรก และแม็กก็ปฏิเสธเช่นกันทำให้เพื่อนทั้งสองคนแปลกใจ“กูต้องกลับบ้าน ไปอยู่เป็นเพื่อนตัวปัญหา” คนเมาตอบเพื่อนด้วยเสียงอ้อแอ้ แม็กนัสประคองสติขับรถจนไปถึงบ้านหากพ่อแม่เขารู้ถูกตำหนิบ่นไปสามวันแน่ๆ.ขม
แสดงแดดรอดผ่านผนังกระจกเข้ามาในห้อง แม็กนัสเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้า พยายามปรับโฟกัสสายตาเขามีอาการปวดศีรษะ เมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อยเขาขยับตัวเล็กน้อยเมื่อรู้สึกชาที่แขนฝั่งซ้าย “ขมิ้น” เขาเห็นหญิงสาวนอนหลับอยู่ข้างกายเขารู้สึกตกใจไม่น้อยเมื่อย้อนกลับไปคิดเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่เขาก็ไม่ได้ห่มเหงอะไรเพราะหญิงสาวเองก็ยินยอมพร้อมใจไปกับเขา “ตื่นได้แล้วยัยเด็กขี้เซา เช้าแล้วกลับห้องไปได้แล้ว” เขาเขย่าตัวขมิ้นแต่หญิงสาวทำเสียงเหมือนรำคาญและพลิกตัวนอนหันหลังให้เขา นอนสบายใจโดยไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่บนเตียงของเขา “นี่ตื่นได้แล้ว” หรืออยากจะให้เขาทำแบบเมื่อคืนอีก เช้านี้ต่ออีกสักรอบสองรอบเขาก็ไม่ติดแค่คิดจูเนียร์น้อยคึกขึ้นมา “อื้อ” “ตื่นไม่งั้นฉันโยนลงไปจากเตียงนะ” แม็กนัสส่งเสียงปลุกพร้อมกับเขย่าแขนของขมิ้นอีกรอบ และเขาก็สัมผัสได้ถึงความร้อนในตัวของหญิงสาว เมื่อคืนเขารุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอก็อย่างว่าเพราะขมิ้นยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง “ฉิบหาย เป็นไข้เลยเหรอวะ” เขาถึงกับกุมขมับ ไม่คิดว่าเขาจะทำรุนแรงจนทำให้อีกฝ่ายไม่สบายขน
“ครับหม่ามี้” แม็กนัสยอมรับสายผู้เป็นแม่ที่โทรหาเขาเกือบสิบสายได้ แต่เขามัวแต่นั่งทำธีสิสเลยไม่รับสายเพราะรบกวนสมาธิของเขา “มัวทำอะไรทำไม่ยอมรับสาย หม่ามี้โทรหาหลายสายแล้วนะ” “ผมทำธีสิสอยู่ครับ” เขาไม่ได้หาข้ออ้างเขานั่งทำจริงๆ พอบอกความจริงไปแม่มักไม่ค่อยเชื่อ “แน่ใจไม่ใช่ว่าอยู่ในสนามแข่งหรือไม่ก็นั่งกินเหล้าอยู่ หม่ามี้ผิดหวังในตัวลูกมากเลยนะ” “หม่ามี้พูดเรื่องอะไรครับ” โทรมาต่อว่าเขาไม่พอยังมาผิดหวังกับเขาอีก ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นเขายังไม่ได้ออกไปไหนเลย “น้องอยู่โรงพยาบาลไหนว่าจะดูแลน้องให้ดี ไปแกล้งอะไรน้องแม็กนัส” แม็กนัสรีบเอาโทรศัพท์ให้ออกห่างจากหูเมื่อถูกแม่ตะคอกใส่ แต่ต้องนั่งฟังคำบ่นจนเขาวางโทรศัพท์ทิ้งไว้แล้วแต่งตัวเพื่อจะรีบออกไปหาขมิ้น แม็กนัสเดินหน้าตึงเข้ามาในโรงพยาบาลเขาเดินมาหยุดหน้าห้องคนป่วยที่เขียนชื่อติดไว้หน้าประตูห้อง เขมญาดา สุริยะภาคิน เขาจึงเปิดประตูโดยไม่ได้เคาะประตูก่อน “เหี้* ทำอะไรกันวะ!” แม็กนัสเดินไปกระชากชายหนุ่มออกมา เพราะเห็นว่ากำลังจูบกันอยู่เขาตาไม่ได้ฝาด
ขมิ้นกลับมาเรียนตามปกติเธอลาไปสองวันทำให้ต้องมานั่งทำงานส่งอาจารย์ทีหลังเพื่อน แต่ยังมีวาโยคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด และเขาไม่ทำให้เธอลำบากใจทำเหมือนเรื่องที่เธอป่วยไม่เคยเกิดขึ้น “ไปกินข้าวเที่ยงกัน” “อืม” ขมิ้นกำลังเก็บของลงกระเป๋าก็มีเสียงนักศึกษาดังขึ้นและพูดคุยกันเสียงดัง เหมือนว่ามีดาราเดินผ่านห้องแต่เธอมองไม่เห็นเพราะต่างพากันไปมุงดู “ใครมาเหรอ” “ไม่รู้ดิทำเหมือนดารามา” “คณะเราก็มีดาราเยอะนะ” เรื่องปกติที่จะเจอดาราหรือเน็ตไอดอลเพราะมหาลัยเอกชนชื่อดังอันดับต้นๆ ของเมืองไทยเลยทำให้คนมีชื่อเสียงเข้ามาเรียนเยอะ “เขามานั่งเฝ้าใครอ่ะ” “นั่นดิหรือมาจีบสาวตึกเรา” “วาสนาใครอีกอ่ะคราวนี้” ขมิ้นไม่ได้สนใจเมื่อเก็บของเสร็จจึงจะออกไปจากห้อง สายตาของเธอมองไปปะทะกับคนผมสีน้ำตาลเข้มที่นั่งขาไขว่ห้างอยู่เขาใส่เสื้อช็อปสีแดงและใส่สร้อยที่ห้อยเกียร์บ่งบอกว่าเขาเรียนวิศวะ แม็กนัสมาทำอะไรที่ตึกบริหาร “ฉันหิวแล้วไปกินข้าวกัน” “ฉันพูดกับเธอนั่นแหละ” ขมิ้นมองซ้ายมองขวาเมื่อเขาลุ
แม็กนัสได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดหน้าบ้านคิดว่าขมิ้นคงนั่งแท็กซี่กลับแต่พอเดินมาถึงกลับกลายเป็นคนที่เขาไม่อยากเจอ “แม็กนัสเชอรี่มีเรื่องจะบอกคุณ” “ใครอนุญาตให้เธอมาเหยียบบ้านฉัน” เขาไม่เตือนหลายครั้งแล้วและเป็นกฎเหล็กสำคัญห้ามเข้ามาวุ่นวายกับครอบครัวของเขาเด็ดขาด “ฮึก ฮือ เชอรี่มีเรื่องจะบอกแม็กนัส” “ถ้ามันไม่สำคัญจะโยนเธอออกไป” แม็กนัสยืนรอฟังว่าเชอรี่จะพูดอะไร มัวแต่ร้องไห้ไม่ยอมพูดจนป้าสายบอกให้เขาพาเพื่อนเข้าไปนั่งในห้องโถงก่อน “เชอรี่ท้องค่ะ” “แล้วมาบอกฉันทำไม!” ท้องก็ไปบอกพ่อของลูกสิมาเกี่ยวอะไรกับเขา แม็กนัสเริ่มหงุดหงิดและเข้าใจจุดประสงค์ของเชอรี่ “แม็กนัสเชอรี่ท้องกับคุณ” “เหรอ วันนั้นบอกพาเพื่อนไปหาหมอที่แท้เธอเองที่ท้อง ว่าแต่พ่อเด็กมันไม่รับเหรอถึงมาหาฉัน” เขามองเกมออกและไม่ต้องใจด้วย เจอแต่ในละครหลังข่าวไม่คิดว่าผู้หญิงสิ้นคิดจะมาไม้นี้ “แม็กนัสเชอรี่มีคุณคนเดียว แม็กนัสต้งอรับผิดชอบเชอรี่นะ” “กี่เดือนแล้ว” “2 เดือน” เชอรี่กระอักกระอ่วนความจริงเธอท้องได้เกือ
ขมิ้นนั่งก้มหน้าไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตากับแม่ของแม็กนัส เธอตัดสินใจเข้ามาพูดคุยเพื่ออนุญาตออกไปอยู่หอพักเช่นเดิม ขมิ้นบอกกับคุณป้าตามตรงว่าเธออึดอัดและไม่อยากเป็นภาระของแม็กนัสอีกต่อไป “ป้าคงห้ามอะไรหนูขมิ้นไม่ได้อีกแล้ว” “ขอบคุณคุณป้ามากนะคะที่เข้าใจ” “วัยรุ่นใครก็อยากมีเวลาส่วนตัว” เอเลนอเสียดายหากไม่ได้ขมิ้นมาเป็นลูกสะใภ้ แต่เรื่องแบบนี้แล้วแต่โชคชะตา ขมิ้นมาอยู่บ้านหลายวันยังไม่เห็นความสัมพันธ์ของทั้งสองคืบหน้าไปไหน คงต้องปล่อยไปตามโชคชะตา “แล้วจะย้ายไปวันไหน” “พรุ่งนี้ค่ะ” เธออยากไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดไม่อยากให้แม็กนัสกลับมาย่ำยีเธออีก “เร็วจังเลยป้ายังไม่อยากให้ไป” “พรุ่งนี้วันหยุดค่ะเดี๋ยววาโยมาช่วยขนของ” เอเลนอได้ยินชื่อนี้หลายครั้งหากเป็นคู่แข่งแม็กนัสคงจะแพ้ไปแล้ว รายนั้นแต่เอาอกเอาใจผู้หญิงก็ยังทำไม่เป็น ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ “หนูขมิ้นคิดอะไรกับเพื่อนคนนี้หรือเปล่า” หากขมิ้นกำลังหาดูใจกับคนนี้ เรื่องที่คุยไว้กับแม่ของหญิงสาวคงต้องพับเก็บไว้“วาโยเขาน่ารักค่ะ” ขมิ้นต
แม็กนัสเข้าเรียนช่วงบ่ายพร้อมกับกลิ่นเหล้าที่ลอยออกมาจากตัว จนเพื่อนต้องหันไปมอง กองทัพแปลกใจว่าแม็กนัสเป็นอะไร “มึงอกหัก?” “เปล่า” “แล้วนั่งแดกเหล้าตั้งแต่เช้า” อาการมันแปลกๆ เหมือนไต้ฝุ่นตอนนั้นที่มันอกหัก แม็กนัสอาการไม่ต่างกันเท่าไร “ฝากลาด้วย” “จะไปไหนไม่เรียนเหรอวะ” “…” ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก แม็กนัสแอบมาตามเฝ้าขมิ้น เมื่อหญิงสาวเรียนเสร็จขึ้นรถไปร้องกับวาโย เขาสแอบตามไปเงียบๆ แต่อารมณ์ของเขาร้อนระอุเพราะกลัวจะเป็นอย่างที่เขาคิด แต่มันเป็นไปตามคาดทั้งสองขับรถเข้ามาจอดในคอนโดแห่งหนึ่ง แล้วขึ้นลิฟต์ไปพร้อมกันจนไปหยุดที่ชั้นสามสิบ แม็กนัสยืนมองด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย “ผู้หญิงร่านเพิ่งเอากันไปหยกๆ วันนี้ควงผู้ชายคนอื่นขึ้นห้อง” เขารีบตามไปและตัดสินใจเคาะประตูเสียงดัง เมื่อเห็นว่าทั้งสองหายเข้าไปด้วยกันเกือบยี่สิบนาที . ก๊อก ก๊อก ก๊อก ปัง ปัง “เดี๋ยวเราไปเปิดเองขมิ้นเช็ดพื้นไปเลย” วาโยถอดเสื้อออกเพราะเปียกน้ำ เขาเสยผมลวกๆ จนมันยุ่งเหญิงไปหมดมือหนา
แสงแดดอ่อนๆ ของยามเช้าสาดส่องกระทบกับกระจกหน้าต่างเซฟเฮาส์สุดหรูใจกลางกรุงปารีส เมืองแห่งความโรแมนติก ขมิ้นยืนอยู่ที่ระเบียงห้องชื่นชมทิวทัศน์ของหอไอเฟลที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ลมเย็นพัดผ่านผิวกายของเธอเบาๆ ทำให้เธอหลับตาลงและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ"ตกหลุมรักที่นี่เลยใช่ไหม?"เสียงทุ้มคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง ก่อนที่อ้อมแขนอบอุ่นจะโอบรัดเอวของเธอจากด้านหลัง แม็กนัสโน้มศีรษะลงมาแนบชิดกับไหล่ของเธอ สูดกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนผมของหญิงสาวขมิ้นหัวเราะเบาๆ "ขมิ้นตกหลุมรักทุกอย่างที่นี่เลย ไม่ใช่แค่เมืองนี้นะ..."เธอเว้นจังหวะ ก่อนจะหันไปสบตากับเขา ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเธอทอประกายอบอุ่นเมื่อพูดต่อ"แต่รวมถึงพี่แม็กด้วย" “ปากหวานคงต้องจัดอีกรอบ”แม็กนัสยิ้มออกมา ดวงตาสีน้ำตาลลึกซึ้งของเขาฉายแววแห่งความรัก ขมิ้นรู้ว่าเธอไม่ได้แค่พูดเล่น ทุกวินาทีที่ได้อยู่กับเขา เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก “อย่ามาหื่นขมิ้นขาสั่นไปหมดแล้ว” “พี่คิดถึงเมียหนิ ใครกันมาให้พี่เย็.-ด ถึงที่” “ดูพูดเข้า” “เราแต่งงานกันนะค่อยกลับไปจัดที่เมื
ขมิ้นนั่งจ้องมองเด็กทารกตัวเล็กที่นอนหลับอยู่ในเปลตัวจ้ำหม่ำนอนหลับปุ๋ย ในปากยังมีขวดนมอยู่ขมิ้นเขี่ยแก้มเบาๆ ทำให้เด็กน้อยทำตัวยุกยิกไปมา “ชอบเด็กไหมขมิ้น” “น้องน่ารักมากเลยนะคะ” “ตอนนอนน่ารักพอตื่นบ้านแทบแตก” เดือนเมษาเพิ่งคลอดลูกสาวได้ไม่นาน กองทัพจะมาขอลูกที่คนสองเธอจึงบอกให้เขาพักก่อน “ขมิ้นยังไม่อยากมี” “เรียนจบแต่งงานไปแล้วก็อยากมีเอง” ดูอย่างไต้ฝุ่นสิคนเจ้าชู้แบบนั้นพอมีความรักก็อยากมีลูกขึ้นมาทันที เวลาเปลี่ยนคนเราก็เปลี่ยน “ขนมจ้ะสาวๆ” ไลลาริณถือขนมมาวางพร้อมกับนั่งลงที่พื้น เห็นลูกสาวของกองทัพแล้วทำให้อยากมีบ้าง “ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าคนอย่างพี่ไต้ฝุ่นจะยอมหยุดที่พี่ไลลา” ในแก๊งนี้บอกเลยว่าไต้ฝุ่นคือคนที่ใช่ชีวิตคุ้มค่าที่สุดฟาดเรียบไม่เหลือ “คนเจ้าชู้ถ้าเขาอยากหยุดจะหยุดเองเราไม่ต้องพยายาม” กว่าจะหยุดเสียน้ำตาไปเยอะเหมือนกัน เขาทำให้ไลลาริณมั่นใจว่าเขานั้นหยุดอยู่ที่เธอคนเดียว “พี่แม็กนัสธรรมดาเสียที่ไหน” “เสือสุ่ม” “ห่างกันตั้ง 1 ปีคิดถึงเขาไหม”
เอเลนอยิ้มหน้าบ้านที่ลูกชายตามง้อขมิ้นสำเร็จคิดว่างานนี้จะได้ออกโรงเอง ความหวังที่อยากได้ขมิ้นมาเป็นลูกสะใภ้นั้นวันนี้สำเร็จลุล่วง ต้องรีบหาฤกษ์หมั้นหมายให้เร็วที่สุด “ถ้าลูกชายหม่ามี้แกล้งอะไรบอกแม่ได้เลยนะลูกหม่ามี้จะจัดการมันเอง” “หม่ามี้ผมลูกหม่ามี้นะ” รักลูกสะใภ้มากกว่ารักลูกตัวเองไม่ได้ “คงไม่กล้าทำอะไรขมิ้นแล้วค่ะ” แม็กนัสน่าจะกลัวเข็ดยาดไปอีกนาน กว่าจะผ่านด่านพ่อตาไม่ง่ายเรียกว่าแทบจะเอาชีวิตไปทิ้งหลายครั้ง “อย่าทำแบบนั้นอีกนะแม็กนัส” “ผมไม่กล้าแล้วครับ” ต่อจากนี้จะเชื่อหัวใจตัวเองไม่กล้าปากเก่งทำสิ่งตรงข้ามกับหัวใจอีกแล้ว แม็กนัสพาขมิ้นมาที่ผับของไต้ฝุ่นอีกไม่กี่วันเขาจะต้องไปฝึกงานที่บริษัทของพ่อ จึงพาหญิงสาวมาทำความรู้จักแบบเป็นทางการ วันนี้กองทัพและไต้ฝุ่นพาคนรักมาด้วยสาวๆ จะได้มีเพื่อนคุย ขมิ้นกับเดือนเมษารู้จักกันแล้วส่วนไลลาริณนั้นอยู่คนละคณะจึงไม่ค่อยเจอหน้ากัน “พี่เมษาท้องได้กี่เดือนแล้วคะ” “จะเข้าสามเดือนแล้วจ้ะ” กองทัพไม่พูดพร่ำทําเพลงเสกเด็กน้อยเข้าท้องเรียบร้อย
ส่วนพ่อขมิ้นซึ่งตอนนี้ถูกภรรยาเรียกกล่อมจนอารมณ์เย็นลงมาบ้างแล้ว เขาแก่จนอายุปูนนี้เห็นแก่ความสุขของลูกเขาจึงยอมให้โอกาสแม็กนัสอีกครั้ง “เมื่อตัดสินใจแล้วก็รับผิดชอบด้วยตัวเอง” “ขอบคุณคุณพ่อครับที่เข้าใจ” “ได้คืบจะเอาศอกใครให้เรียกพ่อ” ปทุมทำเป็นเคร่งขรึมวันก่อนยังเรียกเขาลุงอยู่เลย แต่ไม่เป็นไรเขาอารมณ์ดีเพราะขมิ้นจะอยู่ที่บ้านสวนกับเขาอีกสี่ปี ก่อนจะไปอยู่กับแม็กนัสสมน้ำหน้าให้อยู่ห่างกันแบบนั้นแหละถึงจะถูก ตกดึกแม็กนัสหมุดออกจากมุ้งตัวเองคิดถึงขมิ้นอยากกอดอยากหอมแต่เกรงใจพ่อกับแม่ คืนนี้จะไปฟัดให้หายคิดถึง “จะไปไหนครับพี่ชาย” “เบาๆ ดิวะกูจะไปนอนกับขมิ้น” “กินลูกตะกั่วตัวใครตัวมันนะ” เรียวตะหันหลังนอนเล่นโทรศัพท์ต่อ เขามาอยู่ที่บ้านสวนเกือบสองสัปดาห์ แทนที่เขาจะได้ใช่ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ปิดเทอมนี้จึงไม่ได้ไปเที่ยวไหน แกร็ก “พี่มาแล้วจ้ะ ขมิ้นของพี่” ตอนเย็นเขาบอกขมิ้นว่าห้ามล้อกประตูจะแอบเข้ามานอนด้วย เขาย่องขึ้นเตียงขมิ้นเหมือนฟ้าฝนจะเป็นใจเพราะฝนตกลงมากลบเสียงจนม
ตอนบ่ายอาการป่วยของเขาดีขึ้นมากวันนี้จึงสั่งให้เรียวตะไปหาซื้อพวงมาลัยที่ตลาด ที่แรกน้องชายบอกให้เขาร้อยเองในสวนมีดอกไม้หลายพันธุ์ อย่าหวังว่าคนแบบเขาจะยอมทำ แม็กนัสเดินขึ้นเรือนพร้อมกับพวงมาลัยสองพวงพ่อกับแม่ของขมิ้นมองแม็กด้วยความสงสัยว่าแม็กนัสเป็นอะไรหรือจะกินยาไม่ได้เขย่าขวด “แม็กนัสมีอะไรเปล่าลูก” แม่ของขมิ้นเอ่ยถามเมื่อเห็นเขานั่งลงที่พื้นพร้อมกับพวงมาลัยสองพวง “ผมจะมาขอขมาคุณน้าทั้งสองครับ” พ่อกับแม่ของขมิ้นยิ่งงงไปกันใหญ่ แม็กนัสก้มลงกราบเท้าพ่อกับแม่ของขมิ้น แล้วสารภาพความจริงทุกอย่างเป็นเพราะเขาขมิ้นถึงหนีกลับมาที่เขามาตามเพราะรักขมิ้นจึงมาขอโทษ ขมิ้นเดินมาได้ยินเธอก็ตกใจเพราะไม่คาดคิดว่าแม็กนัสจะกล้าสารภาพกับพ่อแม่ หญิงสาวยืนหลบมุมเพื่อรอดูสถานการณ์ “มึงออกจากบ้านกูไปเลย!” “พี่ทุมใจเย็นก่อนสิ” “เราจะฝากลูกสาวไว้กับมันได้ยังไงดีนะที่วันนั้นยังไม่รับหมั้น ออกไปจากบ้านกู!” ปทุมโกรธจนโยนพวงมาลัยทิ้ง ทำลูกเขาเจ็บคนเป็นพ่อแม่นั้นเจ็บยิ่งกว่า “ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น” “มึงอยาก
ขมิ้นพาแม็กนัสเข้าสวนทุกวัน ดายหญ้า รดน้ำ พรวนดิน เก็บผลผลิตแม็กนัสต้องทำทุกอย่าง โดยมีเรียวตะเป็นผู้ช่วยงานมันหนักเสียจนเรียวตะอยากกลับกรุงเทพ“กูไม่น่ามากับพี่เลยไอ้ห่าแม็ก” จากที่คิดว่าแม็กนัสอาจจะทนได้ไม่นานแต่มันไม่ใช่ตอนนี้ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว คนที่จะตายคือเขาเอง“มึงจะเรียกกูว่าพี่ทำไมถ้าจะด่าขนาดนั้น”“พี่ทำคนเดียวเลย”แม็กนัสมองมังคุดที่กองอยู่ตรงหน้าวันนี้ขมิ้นให้เขาแยกผลไม้ใส่ลังเพื่อจะนำไปส่งให้พ่อค้าแม่ค้าที่ตลาด หลายวันก่อนต้องไปเก็บทุเรียนจนใบหน้าได้แผลมาหนึ่ง“หน้ายังไม่หายดีเลยแผลมาอีกละกว่าจะได้กลับกรุงเทพผมเตรียมโลงไว้ให้พี่ดีกว่า”“เงียบเลยนะมึงไม่ช่วยยังปากดีอีก” เขาบอกขมิ้นไว้แล้วว่ายังไงเขาจะไม่ยอมแพ้คนอื่นเขาทำงานหนักได้ เขาก็ต้องทำได้เหมือนกัน.“ลูกคุณหนูสำอางมากคิดว่าจะหนีกลับกรุงเทพตั้งแต่วันแรกแล้ว” ปทุมยอมในความอดทนของแม็กนัสขนาดถูกเขาแกล้งให้ทำงานหนักก็ไม่หวั่นไม่บ่น แต่ชอบมาแตะตัวลูกสาวเขาตลอด“จะไปไหนขมิ้นแดดร้อนอยู่”“ไปเอาน้ำจ๊ะพ่อ”เห็นเขาทำงานหนักจึงสงสารตอนนี้บ่ายโมงแดดแรงมาก ขมิ้นถือน้ำและผลไม้แช่แข็งไปให้เขาเธออยากพูดกับเขาตรงๆ“น้ำกับผลไม้”“
เรียวตะมองทางตลอดเขาไม่แน่ใจว่าแม็กนัสพามาถูกหรือไม่มองไปไหนก็มีแต่ภูเขาและสวนยางไม่ก็สวนผลไม้ หากรถเสียตายอย่างเดียวคงไม่มีใครหาพวกเขาเจอ “พี่แม็กแน่ใจนะว่ามาถูก” “จีพีเอสมาพามา” “รู้งี้นั่งกินเหล้าอยู่กรุงเทพก็ดีแล้วตอนทำ ทำกันอยู่สองคนพอเลิกตามพอทำไมต้องพาผมมาลำบากด้วย” เรียวตะบ่นมาตลอดทางเขาจะหาทางปฏิเสธไม่ได้เพราะตอนนี้อยู่ในช่วงปิดเทอม กองทัพไต้ฝุ่นต่างพากันกลับบ้านแฟนจึงไม่มีใครมาด้วย เวรกรรมจึงมาตกที่เรียวตะต้องพาพี่ชายมาตามง้อคนรัก “มึงอย่าบานมากรถไม่ได้ขับหลับมาตลอดทาง” คนที่นี่เขาใช้ชีวิตอยู่กันยังไง มองไปทางไหนก็มีแต่ป่ากับป่าบ้านเรือนอยู่ไกลกันมาก “เหอะตอนทำไม่คิด” “จบงานนี้กูให้รถมึงคันหนึ่งเลย” “ไม่เอาจักรยานแบบพี่กองทัพนะ” ไม่เข้าใจว่าจะโกรธจะทะเลาะกันทุกเหตุการณ์ต้องมีเรียวตะอยู่ด้วยทุกครั้ง รู้สึกกลายเป็นสำคัญขึ้นมาทันที เอี๊ยด “เบรกไหมอ่ะ” “น่าจะถึงแล้ว” เขามองสวนผลไม้ขนาดใหญ่ป้ายเขียนไว้ว่าสวนตาทุมน่าจะใช้ที่นี่ แม็กนัสเดินลงจากรถเขาเห็น
เขาตื่นแต่เช้าเพราะอยากคุยกับแม่แต่เหมือนท่านก็อยากคุยกับเขาเหมือนกัน สภาพแม็กนัสตอนนี้ดูไม่ได้ใบหน้ามีแต่แผลเต็มไปหมด “หม่ามี้ไม่ถามหรอกนะว่าไปถามอะไรมา” “ขมิ้นติดต่อมาไหมครับ” เขาไม่กล้าไปเจอหน้าขมิ้นที่ดอนโด ภาพที่หญิงสาวร้องไห้แล้วไหว้เขายังตามหลอกหลอน “น้องไม่มาให้ลูกให้เจอหน้าอีกแล้ว” เอเลนอเสียใจที่แม็กนัสทำให้ขมิ้นเสียใจจนผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ยกเลิกการจับคู่ของทั้งสองคนเอเลนอไปส่งขมิ้นกลับบ้านด้วยตัวเอง “ทำไมครับขมิ้นไปไหน!” เขาไม่รู้เรื่องขมิ้นและไม่ได้ข่าวขมิ้นอีกเลยไปดักรอก็ไม่เคยเจอหน้า หญิงสาวหนีเขาไปไหน ใบหน้าของเขาฉายชัดถึงความกังวลไม่น้อย “หนูขมิ้นเขากลับบ้านแล้วไม่กลับมาอีกแล้ว เราไปทำอะไรน้องหรือเปล่าทำไมน้องถึงหนีไปแบบนั้น” เอเลนอไม่ทราบเหมือนกันเห็นขมิ้นร้องไห้เสีย จึงไม่ถามและไปขมิ้นให้พ่อแม่เขา แม็กนัสตัวชาไปหมดขมิ้นเพิ่งเข้ามาเรียกได้เทอมเดียว จึงง่ายต่อการตัดสินใจย้ายกลับไปเรียนที่บ้านเกิดขมิ้นไม่ยอมไปสอบแต่หนีกลับบ้านไปดื้อๆ “ผมมขอโทษครับหม่ามี้ผมผิดไปแล้ว ผมมันเ
สองสัปดาห์แล้วที่เขาไม่ได้ติดต่อขมิ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานักศึกษามีสอบปลายภาค เขาจึงไม่อยากไปกวนใจขมิ้นและเขาเองก็พรีเซ็นต์โปรเจคจบทำให้ไม่มีเวลาตามไปขอโทษหญิงสาวแต่เขาเหมือนมีความรู้สึกแปลกๆ เพราะไม่เคยเห็นหน้าขมิ้นเลยในมหาลัย ทั้งๆ ที่เขาจะแอบไปเฝ้ามองเห็นแต่เพื่อนชายของขมิ้นเท่านั้น“แม็กนัสไปทานข้าวกัน”“อืม” เขากลับมาคบกับอันดาแบบเปิดเผยอยากรู้ความรู้สึกตัวเอง ว่าสรุปเขาลืมอันดาได้หรือยังตลอดหลายวันที่ออกเดตกับอันดา เขากลับคิดถึงใบหน้าของขมิ้นเขาไม่มีความสุขเพราะอันดาคอยเจ้ากี้เจ้าการบังคับเขาทุกอย่างจนเขาไม่มีความสุข และพยายามหลบหน้าหญิงสาวเสมอ“คืนนี้อันดาขอไปนอนด้วยได้ไหม”“ฉันติดงาน”“เรากลับมาคบกันแล้วก็ต้องมีเรื่องอย่างว่า” เขาไม่ยอมแตะต้องตัวเธอเลยสักครั้ง ขนาดเธอจะจูบเขาแม็กนัสยังไม่ยอมทำได้แต่จับมือ ทำให้คนที่มีความต้องการสูงแบบอันดาไม่พอใจ“ฉันไม่มีอารมณ์”“รอเป็นอีขมิ้นหรือไงถึงจะมีอารมณ์ แม็กนัสอย่าลืมนะว่าเลิกกับมันและแม็กนัสก็เลือกกลับมาคบกับอันดาเอง”“ฉันติดงานเธอไม่เห็นเหรอว่าฉันเหนื่อยแค่ไหน” เขาไม่อยากพูดถึงขมิ้น มันทำให้เขาคิดถึงขมิ้นและไม่อยากให้ใครเรียกขมิ้