ตุบ! เคล้ง!
“เลือด! กรี๊ดดดด” ขมิ้นกรีดร้องสุดเสียงเมื่อเห็นโลหิตสีแดงไหลออกมาจากศีรษะของรุ่นพี่ คนที่เป็นต้นเหตุกำขวดแก้วไว้แน่น
“พี่แม็กนัสเป็นอะไร!”
“แรด ร่าน ฉันให้มาทำงานมายื่นอ่อยผู้ชายทำไม ห๊ะ!”
แม็กนัสโกรธเขาไม่รู้ว่าโกรธอะไร แต่ไม่ชอบที่คนตัวเล็กมานั่งอ่อยผู้ชาย แถมยังคลุมเสื้อให้กันหวานฉ่ำไม่อายคนอื่น
“แล้วมันหนักหัวพี่หรือไง!” ตะคอกมาตะคอกกลับไม่โกง เธอไม่ใช่คนที่จะยอมเขาง่ายๆ
“มานี่แม่ตัวดี”
“ขมิ้น” สิงห์คว้าข้อมือของรุ่นน้องไว้ กลัวว่าขมิ้นจะได้รับอันตราย เขาไม่รู้มาก่อนว่าทั้งสองคนรู้จักกันทำไมแม็กนัสต้องทำเหมือนว่าหึงหวงขมิ้น
“มึงอยากตายเหรอปล่อยมือคนของกู!” แม็กนัสกระชากตัวของขมิ้นอย่างแรงจนสิงห์กลัวว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บจึงยอมปล่อยขมิ้นไป
หญิงสาวเดินตามแรงฉุดกระชากของแม็กนัสจนมาถึงทางแคบๆ ขากระชากแจ็กเกตออกจากไหล่ของเธอแล้วโยนทิ้งก่อนจะเหยียบเสื้อของรุ่นพี่
“พี่แม็กนัสทำอะไรเสื้อของพี่สิงห์ อ๊ะ” ขมิ้นกำลังจะก้มลงเก็บเสื้อแต่ถูกเขากระชากตัวให้ลุกขึ้น แม็กนัสถอดเสื้อคลุมของเขาออกแล้วคลุมไหล่ให้ขมิ้น
“ชอบมันมากหรือไงถึงไปนั่งให้ท่าพวกมัน”
“แล้วพี่เป็นอะไรไม่ทราบคะ? ขมิ้นก็ทำงานตามที่พี่สั่งผิดตรงไหน”
“ผิดตรงที่เธอไปยืนอ่อยพวกผู้ชายไง”
“แล้วยังไงคะ อ่อยได้ก็โชคดีของขมิ้นไปอาจจะเจอคนรวยๆ เอาไปเลี้ยงดูสบายไปทั้งชาติ” เธอทำหน้าเหมือนเพ้อฝันยิ้มยั่วยวนประสาทเขา และมันก็ได้ผลดีด้วยเมื่อแม็กนัสโมโหหนักขึ้นกว่าเดิม
“ฉันจะฟ้องหม่ามี้ว่าเธอมันร่าน”
“รีบฟ้องเลยค่ะ รีบๆ ไปเลยนะคะจะรอ”
“หึ ผู้ชายรวยๆ ก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วไง” เขาทั้งหล่อทั้งรวยทำไมขมิ้นไม่มองเขาบ้าง ‘แล้วกูเป็นอะไรทำไมต้องโกรธเด็กนั่นขนาดนั้นด้วยวะ’
“พี่แม็กนัสไม่ใช่สเปกหนูชอบไทยแท้ไม่ชอบฝรั่งหัวแดง ไม่ชอบคนนิสัยไม่ดี...อื้อ” ขมิ้นตกใจเมื่อเขาริมฝีปากของเขากระแทกกับริมฝีปากเธออย่างแรง จนที่เริ่มหนักหน่วงก็กลายเป็นร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ
แม็กนัสขมเม้มริมฝีปากของขมิ้นเพื่อให้เธอเปิดปากให้เขาได้เข้าไปข้างใน รสจูบที่ไม่ได้เรื่องทำให้แม็กนัสครางออกมา เขากวาดต้อนชิมน้ำหวานอย่างเอร็ดอร่อยและพอใจที่ขมิ้นจูบตอบเขา
“อื้อ ไอ้สารเลว!”
เพียะ
ขมิ้นตบหน้าเขาจนใบหน้าของแม็กนัสหันตามแรงตบ จนเกิดรอยนิ้วมือทั้งห้าประทับบนแก้มซีกซ้ายของเขาอย่างเห็นได้ชัด
“ขมิ้น!”
“เอาสิ! ถ้าไม่อยากขึ้นชื่อว่าทำร้ายผู้หญิงก็ตบฉันเลยสิ พี่คงไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้ว” ขมิ้นเชิดหน้าขึ้นเมื่อแม็กนัสง้างมือจะตบเธอคืน ถึงแม้จะกลัวแต่ต้องทำเป็นไม่กลัว
แม็กนัสกำหมัดแน่นเขาหันหลังให้ขมิ้นเพื่อระงับความโกรธ ในเมื่อทำอะไรหญิงสาวไม่ได้ก็ต้องทำตัวเองมือนั้นไวกว่าความคิด
ตุบ ตุบ ตุบ
เขาต่อยกำแพงไปสามครั้งจนเลือดไหลซึมออกมา เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน หากเจอหน้าขมิ้นตอนนี้เขาต้องควบคุมตัวเองไม่ได้
“กลับบ้านไป!”
“แต่มือพี่แม็ก...”
“ไปให้พ้นหน้าฉัน!” เขาตะคอกขมิ้นเสียงดังโดยที่ไม่ยอมหันหน้าไปมอง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าห่างออกไปเขาจึงหันกลับไปมอง
“เจ็บไหม สมน้ำหน้าไอ้ควายกำแพงผับกูต้องเปื้อนเลือดเลย” ไต้ฝุ่นนั่งบ่นเพื่อน มันจะต่อยคนเขาไม่ว่าทำไมต้องมาทำลายเข้าของเขาด้วย
แถมยังไปทำร้านนักท่องเที่ยวจนเขาต้องลงไปเคลียร์และพาไปส่งโรงพยาบาล แม็กนัสนิ่งกว่าน้ำแข็งทำไมคราวนี้ถึงสติขาด
.
ขมิ้นเช็ดน้ำตาเมื่อแท็กซี่มาจอดหน้าบ้านเธอกลัวเขามาก เพราะเพิ่งเห็นอีกด้านของเขาพาลน้อยใจจนน้ำตาไหลไม่หยุด แกล้งให้เธอทำงานก็ไม่ว่าแต่ทำไมต้องขโมยจูบแรกของเธอไปด้วย แถมเธอไม่รังเกียจเขาอีก
“ฮึก ฮือ สารเลว”
“เอ่อ ผมทำอะไรผิดหรือเปล่าครับ”
“เอ่อ ไม่ค่ะค่าโดยสารค่ะ” ขมิ้นรีบลงจากรถและเข้าบ้าน พรุ่งนี้มีเรียนตอนเช้ากลัวว่าจะตื่นไปเรียนไม่ทัน
ขมิ้นเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้วาโยฟัง เธอน้อยใจจนร้องไห้เพราะถูกเขาแกล้งอย่างหนัก หากเขาเอาเธอไปขายขึ้นมาจะทำอย่างไร
“ใจร้ายจังเลย”
“เรากลัวมากคิดว่าโดนตบกลับ”
“ย้ายออกมาไหม ทำไมต้องไปทนให้เขารังแก” วาโยไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไรขมิ้นถึงทนได้ขนาดนั้น
“เดี๋ยวลองคุยกับคุณป้าดูตอนนี้ท่านยุ่งๆ” อีกไม่กี่วันคุณลุงคุณป้าจะเดินทาง เธอกลัวว่าแม็กนัสจะรังแกเธออีกจะหาข้ออ้างออกมาอยู่กับเพื่อนเธอไม่มีเพื่อนผู้หญิงอีก
ตุบ
ทั้งสองเงยหน้าไปมองต้นเสียงทำให้ขมิ้นตกใจเพราะคนที่ทำของหล่นเป็นคนเดียวกับคนที่เพิ่งทำร้ายจิตใจเธอไปเมื่อคืน ตายยากตายเย็นพูดถึงก็โผล่หน้ามาเลย
“โทษทีของตก”
“รุ่นพี่มาทำอะไรที่ตึกบริหารครับ” วาโยยังคงให้เกียรติรุ่นพี่ การผูกมิตรไว้ดีกว่าสร้างศัตรูแต่คนที่เขาทักเหมือนไม่พอใจใครมา
“มากระทืบคน” สายตาจับจ้องไปที่ขมิ้นกองทัพมาทานข้าวกับคนรัก เขาจึงตามมาเผื่อจะเจอหน้าคนที่ทำให้เขานอนไม่ทับทั้งคืน พอมาเจอก็นั่งอยู่กับผู้ชายไม่รู้เป็นโรคขาดผู้ชายไม่ได้หรือไง ไปไหนก็มีแต่ผู้ชายรุมหน้ารุมหลัง
“ตามสบายครับ ขมิ้นไปเยี่ยมพี่สิงห์กัน”
“ไปสิ อยู่นี่เหมือนอากาศจะเป็นพิษเลยหายใจลำบาก” ขมิ้นเก็บของลงกระเป๋าและเดินออกมาพร้อมวาโย ทำให้เธอโกรธแต่ขยันเสนอหน้ามาให้เธอเห็น
Maxnus : ถ้าเธอไปเยี่ยมมันฉันจะไปเผาโรงพยาบาลทิ้ง
แม็กนัสกดส่งข้อความให้ขมิ้น รอไม่ถึงสองวินาทีหญิงสาวก็เปิดอ่านข้อความ เขายิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าขมิ้นไม่ได้ไปกับวาโย และมองมาทางรถของเขาแทน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
แม็กนัสเปิดกระจกรถลงเมื่อขมิ้นเดินมาเคาะกระจกรถของเขา เขาใช้สายตาบังคับให้เธอขึ้นมานั่งบนรถด้วยกันซึ่งเขาทำได้สำเร็จ
“พี่ต้องการอะไร”
“แค่อยากแกล้ง อย่าอยู่ใกล้ผู้ชายคนไหนอีก”
“แล้วมีสิทธิ์อะไรมาสั่ง”
“อยากให้พี่มีสิทธิ์เหรอ เชื่อเถอะว่าเธอไม่ต้องการมันหรอก” แม็กนัสขับรถออกไปอย่างเร็ว เขากลัวว่าคนตัวเล็กจะลงจากรถเสียก่อน เขามีความสุขยามที่ได้ยินเสียงโวยวายด่าทอของขมิ้น
“จะไปไหนจอดให้ขมิ้นลงเดี๋ยวนี้!”
“โอ๊ยยย พี่เจ็บนะ” แม็กนัสร้องออกมาเมื่อมือของเธอฟาดลงที่มือของเขาพอ ซึ่งมันโดนแผลที่มือของเขาพอดีด่าเก่งมือก็หนัก เขาจะช้ำในตายก่อน
“...” หญิงสาวจะหันไปขอโทษแต่พอคิดดูแล้วสมน้ำหน้า ทำตัวเองทั้งนั้นขมิ้นนั่งเงียบมาตลอดทางจนมาถึงร้านอาหาร
“ขมิ้นไม่ลง”
“ดี เดี๋ยวฉันอุ้มเอง”
“ว้าย ไอ้บ้าขมิ้นเดินเองได้” หญิงสาวรีบลงมาจากรถเมื่อเขาทำท่าว่าจะอุ้มเธอจริงๆ แม็กนัสสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะที่สำคัญมีแต่ของที่เธอกินไม่ได้เพราะเธอแพ้อาหารทะเลขึ้นรุนแรง จึงหลีกเลี่ยงมันเรื่อยมา
“กินสิฉันไม่วางยาหรอก”
“ไม่ค่ะ”
“จะกินดีๆ หรือให้ฉันป้อนเลือกเอา” แม่คุณทูนหัวจะนั่งหน้าตึงทำไมก็ไม่รู้ แล้วจะไม่ให้เขาโมโหได้อย่างไรวันนี้เขาจะไถ่โทษขมิ้นเรื่องเมื่อคืน แต่ดูเหมือนเรื่องจะแย่ลงกว่าเดิม
“บอกว่าไม่กินฟังไม่รู้เรื่องหรือไง”
“ต้องกิน!”
“พี่จะเป็นฆาตกรฆ่าคนนะ” คนสวยเริ่มโมโหจนได้ พยายามจะคุยกับแม็กนัสดีๆ แล้วแต่เขาไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย
“ฉันบอกให้กะ...”
“พี่แม็กนัสขาลิลลี่ขอนั่งด้วยคนได้ไหมคะ” ลิลลี่เห็นแม็กนัสมาแต่ไกลเมื่อได้โอกาสจึงรีบเสนอตัวมาให้เขาเห็น ลิลลี่นั่งลงข้างๆ แม็กนัสโดยที่เขายังไม่อนุญาต
“มาทานข้าวไม่ชวนลิลลี่เลยนะคะมีแต่ของโปรดลิลลี่ทั้งนั้น”
“คนรักของพี่แม็กนัสมาแล้วขมิ้นกลับก่อนดีกว่า พี่คนสวยชอบของเหลือเดน เอ๊ย ถ้าไม่รังเกียจกินข้าวจานนี้ได้เลยนะคะขมิ้นยังไม่ได้แตะต้องมัน”
“นี่เธอ!!”
แม็กนัสจะอ้าปากอธิบายว่าลิลลี่ไม่ใช่คนรักแต่ไม่ทัน ขมิ้นวิ่งออกไปจากร้านแล้ว จนเขาต้องหันมามองลิลลี่ที่กล้าแสดงความเป็นเจ้าของกับเขา
“อย่าทำแบบนี้อีก”
“แบบไหนคะ?”
“ฉันไม่ใช่ของใครและเธอไม่ใช่ของฉันอย่าล้ำเส้น” แม็กนัสต้องรีบทานข้าว แม้จะหมดความอยากก็ตามเขารีบเช็กบิลและออกมาทิ้งให้ลิลลี่นั่งหัวเสียตามลำพัง ‘ใครจะไปสนใจวะผู้หญิงน่าเบื่อมาก’
วันนี้พ่อแม่ของเขาเดินทางไปต่างจังหวัด ก่อนจะไปต้องมีปากเสียงกับลูกชายคนโตก่อน ก่อนไปแม่กำชับว่าเขาต้องกลับมานอนบ้าน ห้ามเถลไถลไปนอนที่อื่นเป็นอันขาด โดยอ้างว่าขมิ้นนอนที่บ้านคนเดียว “นอนคนเดียวที่ไหนครับคนในบ้านออกจะเยอะแยะ” หงุดหงิดทำไมถึงหนีชื่อขมิ้นไม่พ้น ไปไหนก็ได้ยินแต่ชื่อนี้ “คนใช้เขาก็นอนที่ห้องพัก ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับบ้านหลังใหญ่สักหน่อย ฉะนั้นลูกต้องกลับมานอนเป็นเพื่อนน้องห้ามเถียง รับทราบอย่างเดียว” แม็กนัสจะหันไปขอความช่วยเหลือจากพ่อ แต่พ่อของเขานั้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แถมคำสั่งของแม่เขาไม่สามารถขัดได้ด้วยสิ “หม่ามี้” “ห้ามแกล้งน้องเด็ดขาด” “ลูกสาวหม่ามี้โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้ว” แล้วที่ผ่านนอนยังไงถึงโตมาได้ขนาดนี้ ย้ายมาอยู่ที่บ้านก็เป็นภาระพอแล้ว ยังจะมานอนคนเดียวไม่ได้อีก ไม่รู้ไปเป่าหูอะไรแม่เขาถึงได้ชอบขมิ้นขนาดนั้น “แม็กนัส” “ผมถามจริงเถอะลูกสาวหม่ามี้ทำของใส่หรือไง ถึงได้รักกันขนาดนั้นระวังจะโดนหลอกเอา” คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้ มาอยู่ไม่ถึงเดือนสร้างความร้าวฉานให้เขาแล้ว
แม็กนัสนั่งดื่มเหล้าจนรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเมา ทำไมเขาต้องมานั่งดื่มเหมือนคนอกหัก ไม่รู้ว่าตัวเองโกรธขมิ้นอยู่แล้วหรือโกรธเรื่องที่หญิงสาวออกไปเที่ยวกับผู้ชาย เขาเป็นนึกบ้าอะไรขึ้นมาต้องไปตามแอบดูขมิ้นด้วย“กูถามมึงหน่อย ไม่ชอบหน้าน้องเขาเพราะอะไรวะ”กองทัพมองไม่เห็นถึงความเป็นไปได้เลย ขมิ้นจะเข้าไปหลอกครอบครัวมันได้อย่างไร ก็ทั้งสองครอบครัวรู้จักกันมาก่อน“หน้าไหว้หลังหลอกต้องการอะไรจากครอบครัวกู”“ไม่ๆ เขาไม่ได้หลอกครอบครัวมึงแต่เหมือนจะหลอกมึงมากกว่า หลอกให้รัก” ต้องใช่แน่ๆ ไต้ฝุ่นมองคนไม่เคยพลาด“ไอ้ไต้ฝุ่นมึงหุบปาก”เพื่อนรักทั้งสองได้แต่นั่งมองแม็กนัสเหมือนคนอกหักไม่มีผิด มันสอนพวกเขาให้มีเหตุผลแต่เรื่องของตัวเองมันกลับไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ทั้งสามนั่งดื่มไปด้วยกันจนแม็กนัสขอตัวกลับแต่ระหว่างที่เขากำลังเตรียมตัวกลับก็มีสาวๆ หลายคนที่เข้าหากลุ่มของแม็กนัส แน่นอนว่าไต้ฝุ่นปฏิเสธเป็นคนแรก และแม็กก็ปฏิเสธเช่นกันทำให้เพื่อนทั้งสองคนแปลกใจ“กูต้องกลับบ้าน ไปอยู่เป็นเพื่อนตัวปัญหา” คนเมาตอบเพื่อนด้วยเสียงอ้อแอ้ แม็กนัสประคองสติขับรถจนไปถึงบ้านหากพ่อแม่เขารู้ถูกตำหนิบ่นไปสามวันแน่ๆ.ขม
แสดงแดดรอดผ่านผนังกระจกเข้ามาในห้อง แม็กนัสเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้า พยายามปรับโฟกัสสายตาเขามีอาการปวดศีรษะ เมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อยเขาขยับตัวเล็กน้อยเมื่อรู้สึกชาที่แขนฝั่งซ้าย “ขมิ้น” เขาเห็นหญิงสาวนอนหลับอยู่ข้างกายเขารู้สึกตกใจไม่น้อยเมื่อย้อนกลับไปคิดเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่เขาก็ไม่ได้ห่มเหงอะไรเพราะหญิงสาวเองก็ยินยอมพร้อมใจไปกับเขา “ตื่นได้แล้วยัยเด็กขี้เซา เช้าแล้วกลับห้องไปได้แล้ว” เขาเขย่าตัวขมิ้นแต่หญิงสาวทำเสียงเหมือนรำคาญและพลิกตัวนอนหันหลังให้เขา นอนสบายใจโดยไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่บนเตียงของเขา “นี่ตื่นได้แล้ว” หรืออยากจะให้เขาทำแบบเมื่อคืนอีก เช้านี้ต่ออีกสักรอบสองรอบเขาก็ไม่ติดแค่คิดจูเนียร์น้อยคึกขึ้นมา “อื้อ” “ตื่นไม่งั้นฉันโยนลงไปจากเตียงนะ” แม็กนัสส่งเสียงปลุกพร้อมกับเขย่าแขนของขมิ้นอีกรอบ และเขาก็สัมผัสได้ถึงความร้อนในตัวของหญิงสาว เมื่อคืนเขารุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอก็อย่างว่าเพราะขมิ้นยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง “ฉิบหาย เป็นไข้เลยเหรอวะ” เขาถึงกับกุมขมับ ไม่คิดว่าเขาจะทำรุนแรงจนทำให้อีกฝ่ายไม่สบายขน
“ครับหม่ามี้” แม็กนัสยอมรับสายผู้เป็นแม่ที่โทรหาเขาเกือบสิบสายได้ แต่เขามัวแต่นั่งทำธีสิสเลยไม่รับสายเพราะรบกวนสมาธิของเขา “มัวทำอะไรทำไม่ยอมรับสาย หม่ามี้โทรหาหลายสายแล้วนะ” “ผมทำธีสิสอยู่ครับ” เขาไม่ได้หาข้ออ้างเขานั่งทำจริงๆ พอบอกความจริงไปแม่มักไม่ค่อยเชื่อ “แน่ใจไม่ใช่ว่าอยู่ในสนามแข่งหรือไม่ก็นั่งกินเหล้าอยู่ หม่ามี้ผิดหวังในตัวลูกมากเลยนะ” “หม่ามี้พูดเรื่องอะไรครับ” โทรมาต่อว่าเขาไม่พอยังมาผิดหวังกับเขาอีก ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นเขายังไม่ได้ออกไปไหนเลย “น้องอยู่โรงพยาบาลไหนว่าจะดูแลน้องให้ดี ไปแกล้งอะไรน้องแม็กนัส” แม็กนัสรีบเอาโทรศัพท์ให้ออกห่างจากหูเมื่อถูกแม่ตะคอกใส่ แต่ต้องนั่งฟังคำบ่นจนเขาวางโทรศัพท์ทิ้งไว้แล้วแต่งตัวเพื่อจะรีบออกไปหาขมิ้น แม็กนัสเดินหน้าตึงเข้ามาในโรงพยาบาลเขาเดินมาหยุดหน้าห้องคนป่วยที่เขียนชื่อติดไว้หน้าประตูห้อง เขมญาดา สุริยะภาคิน เขาจึงเปิดประตูโดยไม่ได้เคาะประตูก่อน “เหี้* ทำอะไรกันวะ!” แม็กนัสเดินไปกระชากชายหนุ่มออกมา เพราะเห็นว่ากำลังจูบกันอยู่เขาตาไม่ได้ฝาด
ณ.สนามแข่งรถเถื่อนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของผู้มีอิทธิพล คับคั่งไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งผู้หญิงผู้ชาย วัยรุ่นวัยทำงานผู้ที่มีใจรักความเร็วต่างมารวมตัวกันที่นี่ทุกสุดสัปดาห์ เพราะที่นี่นอกจากจะมีการแข่งขันรถให้ดู ยังมีเดิมพันให้เล่นแล้วแต่เงินในกระเป๋าของแต่ละคน มีเครื่องดื่มไว้บริการ หรือหากต้องการมากกว่านั้นที่นี่ก็มี เรียกว่าครบวงจรได้เลยปรื้น ปรื้นเสียงเครื่องยนต์จากรถแข่งคันหรูที่ถูกยกเครื่องดัดแปลงให้แรงม้ามากขึ้น กลุ่มทีมช่างอลหม่านกับการเตรียมรถสำหรับไว้ให้เจ้าของสนามลงแข่ง ชายหนุ่มเดินมาที่รถของตัวเองซึ่งทีมช่างกำลังตรวจเช็คเครื่องและปรับจูน พร้อมกับกองทัพและไต้ฝุ่นเพื่อนสนิทที่แสนสารเลวของเขา“ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม?”“ถ้าแข่งแล้วแพ้กูจะจะเลิกเป็นช่างตลอดชีวิต” ช่างหนุ่มเจ้าของลายสักคาบูกิยกยิ้มอย่างมั่นใจ เขารู้ว่าฝีมือของแม็กนัสไม่เป็นรองใคร ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องใช้กล“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ ถ้ามึงเลิกเป็นช่างแล้วไอ้แม็คนัสมันจะไปหาช่างรู้ใจมาจากไหน” กองทัพเอ่ยขึ้นด้วยความตลบขบขันแม็กนัสขึ้นไปลองเหยียบคันเร่งเพื่อให้ช่างฟังเสียงเครื่องยนต์ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแ
เย็นวันนี้แม็กนัสถูกแม่เรียกตัวกลับบ้าน โดยบอกว่ามีเรื่องด่วน เมื่อเขาถามกลับแม่ก็บอกว่าอยากรู้ต้องมาดูเอง แม็กนัสต้องโทรเลื่อนนัดสาว แล้วกลับบ้านตามคำบอกของแม่ เขาเดินเข้ามาภายในบ้านก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่กับแม่ ตัวเล็กๆ ผิวขาว น่ารัก โคตรตรงสเปคเขาทุกอย่างเลย แต่ทำไมคุ้นๆ และผู้หญิงคนนี้แหละคือเรื่องด่วนที่แม่เขาพูดถึง เรียกเขากลับบ้านเพื่อให้มาทำความรู้จักกับลูกสาวเพื่อนแม่“แม็กมาทำความรู้จักกับหนูขมิ้นสิลูก”“สวัสดีค่ะ..คุณ!” ขมิ้นถึงกับตกใจไม่อยากจะเชื่อว่าโลกจะกลมขนาดนั้น เขาคือผู้ชายคนเมื่อคืนที่เกือบจะขับรถชนเธอ และยังเป็นลูกชายของคุณป้าเอเลนอ เพื่อนสนิทของแม่เธอ“เธอ!” แม็กนัสยืนนิ่งคนที่ยืนด่าเขาเมื่อคืน ตอนนี้มานั่งอยู่ในบ้านของเขา“รู้จักกันเหรอลูก” เอเลนอมองลูกสาวสลับกับขมิ้น ทั้งสองเหมือนเกลียดกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน“ปะ...” เขากำลังจะปฏิเสธ“คนนิสัยไม่ดีค่ะคุณป้าที่ขมิ้นเล่าให้ฟัง ขับรถไม่เกรงใจเพื่อนร่วมถนน ยังปากดีด่าขมิ้นข้ามถนนไม่มองทางอีกค่ะ”ยัยเด็กขี้ฟ้องแม็กนัสจะอ้าปากพูดแต่โดนเด็กมันสวนกลับจึงเงียบ เพราะต่อจากนี้เขาต้องถูกมารดาต่อว่าจนหูชาแน่“แม็กนัส! หม
ขมิ้นมารีบวิ่งเข้ามาในมหาวิทยาลัยเพราะแม็กนัสนั้นทิ้งเธอไว้และให้เดินเข้ามาเอง เมื่อคืนฝนตกหนักจึงทำให้ถนนมีน้ำขัง หญิงสาวรีบวิ่งเพราะใกล้ถึงเวลาเรียน ตอนที่เธอบอกว่ามีเรียนตอนเช้าเหมือนเขาจงใจแกล้งเธอซ่า!“ไอ้บ้า!” ขมิ้นก่นด่ารถที่ขับเหยียบน้ำมันกระเด็นใส่เธอจนตัวเรอะไปหมด ทำไมเธอจะจำรถของแม็กนัสไม่ได้“ขมิ้นไปกัดกับหมาที่ไหนมา”“วาโยเราสวยขนาดนี้จะเป็นหมาได้ไง” ขมิ้นมองไปที่รถเจ้าปัญหา เหมือนกำลังชะลอดูผลงานของตัวเอง คิดจะแกล้งเธอให้เธอไปฟ้องแม่เขาฝันไปเถอะ“กลับไปเปลี่ยนชุดคงไม่ทันแล้วอ่ะ”“เดี๋ยวพาไปซื้อชุดที่หน้ามหาลัย” วาโยถอดเสื้อแจ็กเกตและคลุมตัวให้ขมิ้น ทั้งสองเดินไปพร้อมกันหากมองไกลๆ ก็เหมือนคนรักทั่วไป.แม็กนัสฟาดมือลงกับพวงมาลัยรถกับภาพที่เขาเห็น มาเรียนไม่ทันไรก็หัดมีความรัก ไหนแม่เขาบอกว่าขมิ้นเป็นเด็กน่ารักเด็กแรดนะสิไม่ว่า เขาตั้งใจขับรถเหยียบน้ำเพื่อแกล้งขมิ้น แต่เขาน่าจะขับเร็วไปหญิงสาวจึงเปียกไปทั้งตัว“แรด ร่าน หม่ามี้กำลังไว้ใจคนผิด” เขาต้องหาวิธีแกล้งขมิ้นต่อไปเอาให้ไม่กล้ามาเหยียบที่บ้านเขาอีกเอี๊ยดรถซูเปอร์คาร์คันหรูเข้ามาจอดหน้าตึกคณะวิศวกรรม เสียงเบรกดังล
สามวันมาแล้วที่ขมิ้นไม่ได้เจอหน้าแม็กนัสเลย เธอได้ข่าวว่าเขาใช้ชีวิตอยู่สนามแข่งรถ ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นเธอจึงโล่งใจที่เขาไม่หาเรื่องแกล้งกันอีก “ไม่ต้องห่วงนะขวัญฉันสัญญาจะดูแลหนูขมิ้นให้ดี อีกหน่อยเราก็ต้องเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว” “เด็กทั้งสองจะรักกันจริงเหรอเห็นทะเลาะกันจะเป็นจะตาย” “ไม่ต้องห่วงยังไงแม็กนัสต้องรักหนูขมิ้น แค่นี้ก่อนนะ” เอเลนอเห็นขมิ้นเดินมาทางนี้จึงรีบวางสาย ส่งยิ้มให้เด็กสาวตรงหน้า “หน้าหายบวมแล้วยังเจ็บอยู่ไหมจ๊ะ” “หายดีแล้วค่ะ” “ตาแม็กนี่ไม่ได้เรื่องปล่อยให้พวกแร้งพวกกามันมาโดนตัวหนูจนได้” เอเลนอรู้ว่าลูกชายเป็นคนยังไงช่วงวัยรุ่นจึงไม่ค่อยบังคับขู่เข็ญ แต่ยื่นคำขาดว่าห้ามให้ผู้หญิงของลูกชายมาก่อกวนคนในครอบครัวเด็ดขาด “คุณป้าคะ? หนูอยากจะถามอะไรหน่อยค่ะ” “ว่ามาสิจ๊ะลูก” “พี่เรียวตะเขาเป็นลูกชายจริงๆ ของพี่แม็กนัสเหรอคะ” ไม่เห็นว่าเขาจะมีเค้าโครงของชาวยุโรปแม้แต่น้อย หน้าตาไม่ค่อยคล้ายแม็กนัสเท่าไร “เรียงตะเป็นลูกชายของป้าจ๊ะ” เอเลนอยังยืนยัน
“ครับหม่ามี้” แม็กนัสยอมรับสายผู้เป็นแม่ที่โทรหาเขาเกือบสิบสายได้ แต่เขามัวแต่นั่งทำธีสิสเลยไม่รับสายเพราะรบกวนสมาธิของเขา “มัวทำอะไรทำไม่ยอมรับสาย หม่ามี้โทรหาหลายสายแล้วนะ” “ผมทำธีสิสอยู่ครับ” เขาไม่ได้หาข้ออ้างเขานั่งทำจริงๆ พอบอกความจริงไปแม่มักไม่ค่อยเชื่อ “แน่ใจไม่ใช่ว่าอยู่ในสนามแข่งหรือไม่ก็นั่งกินเหล้าอยู่ หม่ามี้ผิดหวังในตัวลูกมากเลยนะ” “หม่ามี้พูดเรื่องอะไรครับ” โทรมาต่อว่าเขาไม่พอยังมาผิดหวังกับเขาอีก ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นเขายังไม่ได้ออกไปไหนเลย “น้องอยู่โรงพยาบาลไหนว่าจะดูแลน้องให้ดี ไปแกล้งอะไรน้องแม็กนัส” แม็กนัสรีบเอาโทรศัพท์ให้ออกห่างจากหูเมื่อถูกแม่ตะคอกใส่ แต่ต้องนั่งฟังคำบ่นจนเขาวางโทรศัพท์ทิ้งไว้แล้วแต่งตัวเพื่อจะรีบออกไปหาขมิ้น แม็กนัสเดินหน้าตึงเข้ามาในโรงพยาบาลเขาเดินมาหยุดหน้าห้องคนป่วยที่เขียนชื่อติดไว้หน้าประตูห้อง เขมญาดา สุริยะภาคิน เขาจึงเปิดประตูโดยไม่ได้เคาะประตูก่อน “เหี้* ทำอะไรกันวะ!” แม็กนัสเดินไปกระชากชายหนุ่มออกมา เพราะเห็นว่ากำลังจูบกันอยู่เขาตาไม่ได้ฝาด
แสดงแดดรอดผ่านผนังกระจกเข้ามาในห้อง แม็กนัสเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้า พยายามปรับโฟกัสสายตาเขามีอาการปวดศีรษะ เมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อยเขาขยับตัวเล็กน้อยเมื่อรู้สึกชาที่แขนฝั่งซ้าย “ขมิ้น” เขาเห็นหญิงสาวนอนหลับอยู่ข้างกายเขารู้สึกตกใจไม่น้อยเมื่อย้อนกลับไปคิดเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่เขาก็ไม่ได้ห่มเหงอะไรเพราะหญิงสาวเองก็ยินยอมพร้อมใจไปกับเขา “ตื่นได้แล้วยัยเด็กขี้เซา เช้าแล้วกลับห้องไปได้แล้ว” เขาเขย่าตัวขมิ้นแต่หญิงสาวทำเสียงเหมือนรำคาญและพลิกตัวนอนหันหลังให้เขา นอนสบายใจโดยไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่บนเตียงของเขา “นี่ตื่นได้แล้ว” หรืออยากจะให้เขาทำแบบเมื่อคืนอีก เช้านี้ต่ออีกสักรอบสองรอบเขาก็ไม่ติดแค่คิดจูเนียร์น้อยคึกขึ้นมา “อื้อ” “ตื่นไม่งั้นฉันโยนลงไปจากเตียงนะ” แม็กนัสส่งเสียงปลุกพร้อมกับเขย่าแขนของขมิ้นอีกรอบ และเขาก็สัมผัสได้ถึงความร้อนในตัวของหญิงสาว เมื่อคืนเขารุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอก็อย่างว่าเพราะขมิ้นยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง “ฉิบหาย เป็นไข้เลยเหรอวะ” เขาถึงกับกุมขมับ ไม่คิดว่าเขาจะทำรุนแรงจนทำให้อีกฝ่ายไม่สบายขน
แม็กนัสนั่งดื่มเหล้าจนรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเมา ทำไมเขาต้องมานั่งดื่มเหมือนคนอกหัก ไม่รู้ว่าตัวเองโกรธขมิ้นอยู่แล้วหรือโกรธเรื่องที่หญิงสาวออกไปเที่ยวกับผู้ชาย เขาเป็นนึกบ้าอะไรขึ้นมาต้องไปตามแอบดูขมิ้นด้วย“กูถามมึงหน่อย ไม่ชอบหน้าน้องเขาเพราะอะไรวะ”กองทัพมองไม่เห็นถึงความเป็นไปได้เลย ขมิ้นจะเข้าไปหลอกครอบครัวมันได้อย่างไร ก็ทั้งสองครอบครัวรู้จักกันมาก่อน“หน้าไหว้หลังหลอกต้องการอะไรจากครอบครัวกู”“ไม่ๆ เขาไม่ได้หลอกครอบครัวมึงแต่เหมือนจะหลอกมึงมากกว่า หลอกให้รัก” ต้องใช่แน่ๆ ไต้ฝุ่นมองคนไม่เคยพลาด“ไอ้ไต้ฝุ่นมึงหุบปาก”เพื่อนรักทั้งสองได้แต่นั่งมองแม็กนัสเหมือนคนอกหักไม่มีผิด มันสอนพวกเขาให้มีเหตุผลแต่เรื่องของตัวเองมันกลับไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ทั้งสามนั่งดื่มไปด้วยกันจนแม็กนัสขอตัวกลับแต่ระหว่างที่เขากำลังเตรียมตัวกลับก็มีสาวๆ หลายคนที่เข้าหากลุ่มของแม็กนัส แน่นอนว่าไต้ฝุ่นปฏิเสธเป็นคนแรก และแม็กก็ปฏิเสธเช่นกันทำให้เพื่อนทั้งสองคนแปลกใจ“กูต้องกลับบ้าน ไปอยู่เป็นเพื่อนตัวปัญหา” คนเมาตอบเพื่อนด้วยเสียงอ้อแอ้ แม็กนัสประคองสติขับรถจนไปถึงบ้านหากพ่อแม่เขารู้ถูกตำหนิบ่นไปสามวันแน่ๆ.ขม
วันนี้พ่อแม่ของเขาเดินทางไปต่างจังหวัด ก่อนจะไปต้องมีปากเสียงกับลูกชายคนโตก่อน ก่อนไปแม่กำชับว่าเขาต้องกลับมานอนบ้าน ห้ามเถลไถลไปนอนที่อื่นเป็นอันขาด โดยอ้างว่าขมิ้นนอนที่บ้านคนเดียว “นอนคนเดียวที่ไหนครับคนในบ้านออกจะเยอะแยะ” หงุดหงิดทำไมถึงหนีชื่อขมิ้นไม่พ้น ไปไหนก็ได้ยินแต่ชื่อนี้ “คนใช้เขาก็นอนที่ห้องพัก ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับบ้านหลังใหญ่สักหน่อย ฉะนั้นลูกต้องกลับมานอนเป็นเพื่อนน้องห้ามเถียง รับทราบอย่างเดียว” แม็กนัสจะหันไปขอความช่วยเหลือจากพ่อ แต่พ่อของเขานั้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แถมคำสั่งของแม่เขาไม่สามารถขัดได้ด้วยสิ “หม่ามี้” “ห้ามแกล้งน้องเด็ดขาด” “ลูกสาวหม่ามี้โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้ว” แล้วที่ผ่านนอนยังไงถึงโตมาได้ขนาดนี้ ย้ายมาอยู่ที่บ้านก็เป็นภาระพอแล้ว ยังจะมานอนคนเดียวไม่ได้อีก ไม่รู้ไปเป่าหูอะไรแม่เขาถึงได้ชอบขมิ้นขนาดนั้น “แม็กนัส” “ผมถามจริงเถอะลูกสาวหม่ามี้ทำของใส่หรือไง ถึงได้รักกันขนาดนั้นระวังจะโดนหลอกเอา” คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้ มาอยู่ไม่ถึงเดือนสร้างความร้าวฉานให้เขาแล้ว
ตุบ! เคล้ง!“เลือด! กรี๊ดดดด” ขมิ้นกรีดร้องสุดเสียงเมื่อเห็นโลหิตสีแดงไหลออกมาจากศีรษะของรุ่นพี่ คนที่เป็นต้นเหตุกำขวดแก้วไว้แน่น“พี่แม็กนัสเป็นอะไร!”“แรด ร่าน ฉันให้มาทำงานมายื่นอ่อยผู้ชายทำไม ห๊ะ!”แม็กนัสโกรธเขาไม่รู้ว่าโกรธอะไร แต่ไม่ชอบที่คนตัวเล็กมานั่งอ่อยผู้ชาย แถมยังคลุมเสื้อให้กันหวานฉ่ำไม่อายคนอื่น“แล้วมันหนักหัวพี่หรือไง!” ตะคอกมาตะคอกกลับไม่โกง เธอไม่ใช่คนที่จะยอมเขาง่ายๆ“มานี่แม่ตัวดี”“ขมิ้น” สิงห์คว้าข้อมือของรุ่นน้องไว้ กลัวว่าขมิ้นจะได้รับอันตราย เขาไม่รู้มาก่อนว่าทั้งสองคนรู้จักกันทำไมแม็กนัสต้องทำเหมือนว่าหึงหวงขมิ้น“มึงอยากตายเหรอปล่อยมือคนของกู!” แม็กนัสกระชากตัวของขมิ้นอย่างแรงจนสิงห์กลัวว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บจึงยอมปล่อยขมิ้นไปหญิงสาวเดินตามแรงฉุดกระชากของแม็กนัสจนมาถึงทางแคบๆ ขากระชากแจ็กเกตออกจากไหล่ของเธอแล้วโยนทิ้งก่อนจะเหยียบเสื้อของรุ่นพี่“พี่แม็กนัสทำอะไรเสื้อของพี่สิงห์ อ๊ะ” ขมิ้นกำลังจะก้มลงเก็บเสื้อแต่ถูกเขากระชากตัวให้ลุกขึ้น แม็กนัสถอดเสื้อคลุมของเขาออกแล้วคลุมไหล่ให้ขมิ้น“ชอบมันมากหรือไงถึงไปนั่งให้ท่าพวกมัน”“แล้วพี่เป็นอะไรไม่ทราบคะ? ขมิ้นก
“พี่แม็กนัสค่ะลิลลี่ง่วงแล้วนะคะ” ลิลลี่สาวรุ่นน้องเอาตัวพิงกับหัวเตียงและตึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างกายไว้ หลังจากที่เสร็จศึกรักอันแสนทรหดมา แม็กนัสก็ไปนั่งเหม่อลอยตรงนั้น “ถ้าง่วงก็นอนไปฉันจะกลับห้อง” “เราไม่นอนด้วยกันเหรอคะ” “...”ลิลลี่มานั่งตักของแม็กนัสทั้งตัวของเธอเปลือยเปล่า หน้าอกที่ยัดซิลิโคนขนาด 450 CC เข้าไปแทบจะหนีบใบหน้าของแม็กนัส เขาใช้ปากกัดที่หัวนมเบาๆ มือหนาเริ่มบีบเคล้นเต้าอวบลิลลี่ครางออกมาอย่างถูกใจเมื่อพายุสวาทกำลังจะเริ่มขึ้นอีกรอบ แต่ต้องผิดหวังเมื่อแม็กนัสหยุดการกระทำทุกอย่างและผลักให้เธอลุกออกไปจากตัวเขา“อะไรคะ”“ถุงหมด” เขาพกถุงยางมาแค่หนึ่งกล่องซึ่งเขาใช้หมดแล้ว และไม่อยากเสี่ยงเพราะป้องกันตัวเองเสมอเพราะไม่ไว้ใจผู้หญิงคนไหน“เอาสดแตกนอกก็ได้นี่คะ? พี่แม็กนัสก็รู้ว่าลิลลี่นั้นสะอาดแค่ไหน” เพราะเขาคือผู้ชายคนแรกของเธอ แต่ระหว่างนั้นก็แอบไปเอากับคนอื่นเสมอ แม็กนัสเล่นหายไปเป็นเดือนใครบ้างที่ไม่เหงา“ไม่อยากเสี่ยง”“นะคะพี่แม็กนัสลิลลี่อยากแล้ว”“ปล่อยพูดให้รู้เรื่อง” เขาจับต้นแขนของลิลลี่ออกจากเอวและเดินออกไปจากห้อง โดยไม
สามวันมาแล้วที่ขมิ้นไม่ได้เจอหน้าแม็กนัสเลย เธอได้ข่าวว่าเขาใช้ชีวิตอยู่สนามแข่งรถ ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นเธอจึงโล่งใจที่เขาไม่หาเรื่องแกล้งกันอีก “ไม่ต้องห่วงนะขวัญฉันสัญญาจะดูแลหนูขมิ้นให้ดี อีกหน่อยเราก็ต้องเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว” “เด็กทั้งสองจะรักกันจริงเหรอเห็นทะเลาะกันจะเป็นจะตาย” “ไม่ต้องห่วงยังไงแม็กนัสต้องรักหนูขมิ้น แค่นี้ก่อนนะ” เอเลนอเห็นขมิ้นเดินมาทางนี้จึงรีบวางสาย ส่งยิ้มให้เด็กสาวตรงหน้า “หน้าหายบวมแล้วยังเจ็บอยู่ไหมจ๊ะ” “หายดีแล้วค่ะ” “ตาแม็กนี่ไม่ได้เรื่องปล่อยให้พวกแร้งพวกกามันมาโดนตัวหนูจนได้” เอเลนอรู้ว่าลูกชายเป็นคนยังไงช่วงวัยรุ่นจึงไม่ค่อยบังคับขู่เข็ญ แต่ยื่นคำขาดว่าห้ามให้ผู้หญิงของลูกชายมาก่อกวนคนในครอบครัวเด็ดขาด “คุณป้าคะ? หนูอยากจะถามอะไรหน่อยค่ะ” “ว่ามาสิจ๊ะลูก” “พี่เรียวตะเขาเป็นลูกชายจริงๆ ของพี่แม็กนัสเหรอคะ” ไม่เห็นว่าเขาจะมีเค้าโครงของชาวยุโรปแม้แต่น้อย หน้าตาไม่ค่อยคล้ายแม็กนัสเท่าไร “เรียงตะเป็นลูกชายของป้าจ๊ะ” เอเลนอยังยืนยัน
ขมิ้นมารีบวิ่งเข้ามาในมหาวิทยาลัยเพราะแม็กนัสนั้นทิ้งเธอไว้และให้เดินเข้ามาเอง เมื่อคืนฝนตกหนักจึงทำให้ถนนมีน้ำขัง หญิงสาวรีบวิ่งเพราะใกล้ถึงเวลาเรียน ตอนที่เธอบอกว่ามีเรียนตอนเช้าเหมือนเขาจงใจแกล้งเธอซ่า!“ไอ้บ้า!” ขมิ้นก่นด่ารถที่ขับเหยียบน้ำมันกระเด็นใส่เธอจนตัวเรอะไปหมด ทำไมเธอจะจำรถของแม็กนัสไม่ได้“ขมิ้นไปกัดกับหมาที่ไหนมา”“วาโยเราสวยขนาดนี้จะเป็นหมาได้ไง” ขมิ้นมองไปที่รถเจ้าปัญหา เหมือนกำลังชะลอดูผลงานของตัวเอง คิดจะแกล้งเธอให้เธอไปฟ้องแม่เขาฝันไปเถอะ“กลับไปเปลี่ยนชุดคงไม่ทันแล้วอ่ะ”“เดี๋ยวพาไปซื้อชุดที่หน้ามหาลัย” วาโยถอดเสื้อแจ็กเกตและคลุมตัวให้ขมิ้น ทั้งสองเดินไปพร้อมกันหากมองไกลๆ ก็เหมือนคนรักทั่วไป.แม็กนัสฟาดมือลงกับพวงมาลัยรถกับภาพที่เขาเห็น มาเรียนไม่ทันไรก็หัดมีความรัก ไหนแม่เขาบอกว่าขมิ้นเป็นเด็กน่ารักเด็กแรดนะสิไม่ว่า เขาตั้งใจขับรถเหยียบน้ำเพื่อแกล้งขมิ้น แต่เขาน่าจะขับเร็วไปหญิงสาวจึงเปียกไปทั้งตัว“แรด ร่าน หม่ามี้กำลังไว้ใจคนผิด” เขาต้องหาวิธีแกล้งขมิ้นต่อไปเอาให้ไม่กล้ามาเหยียบที่บ้านเขาอีกเอี๊ยดรถซูเปอร์คาร์คันหรูเข้ามาจอดหน้าตึกคณะวิศวกรรม เสียงเบรกดังล
เย็นวันนี้แม็กนัสถูกแม่เรียกตัวกลับบ้าน โดยบอกว่ามีเรื่องด่วน เมื่อเขาถามกลับแม่ก็บอกว่าอยากรู้ต้องมาดูเอง แม็กนัสต้องโทรเลื่อนนัดสาว แล้วกลับบ้านตามคำบอกของแม่ เขาเดินเข้ามาภายในบ้านก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่กับแม่ ตัวเล็กๆ ผิวขาว น่ารัก โคตรตรงสเปคเขาทุกอย่างเลย แต่ทำไมคุ้นๆ และผู้หญิงคนนี้แหละคือเรื่องด่วนที่แม่เขาพูดถึง เรียกเขากลับบ้านเพื่อให้มาทำความรู้จักกับลูกสาวเพื่อนแม่“แม็กมาทำความรู้จักกับหนูขมิ้นสิลูก”“สวัสดีค่ะ..คุณ!” ขมิ้นถึงกับตกใจไม่อยากจะเชื่อว่าโลกจะกลมขนาดนั้น เขาคือผู้ชายคนเมื่อคืนที่เกือบจะขับรถชนเธอ และยังเป็นลูกชายของคุณป้าเอเลนอ เพื่อนสนิทของแม่เธอ“เธอ!” แม็กนัสยืนนิ่งคนที่ยืนด่าเขาเมื่อคืน ตอนนี้มานั่งอยู่ในบ้านของเขา“รู้จักกันเหรอลูก” เอเลนอมองลูกสาวสลับกับขมิ้น ทั้งสองเหมือนเกลียดกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน“ปะ...” เขากำลังจะปฏิเสธ“คนนิสัยไม่ดีค่ะคุณป้าที่ขมิ้นเล่าให้ฟัง ขับรถไม่เกรงใจเพื่อนร่วมถนน ยังปากดีด่าขมิ้นข้ามถนนไม่มองทางอีกค่ะ”ยัยเด็กขี้ฟ้องแม็กนัสจะอ้าปากพูดแต่โดนเด็กมันสวนกลับจึงเงียบ เพราะต่อจากนี้เขาต้องถูกมารดาต่อว่าจนหูชาแน่“แม็กนัส! หม