ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงได้แต่มองนางด้วยรอยยิ้ม จนกระทั่งยายเฒ่าตระกูลซูกินอาหารจนเกลี้ยงมิมีเหลือ “ตัวเองทำตัวเองแท้ ๆ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวออกมาลอย ๆ “นับว่าโชคดีที่เฟ่ยชุ่ยหาได้เป็นอันใดไม่ พวกเจ้าเองก็ได้รับบทเรียนกันแล้ว เช่นนั้นข้าจักไม่ติดใจเอาความอันใดอีก”“ทว่า หากยังมีครั้งต่อไปอีก” น้ำเสียงข
ภายในบริเวณเรือนโยวหลาน ฉินเสวี่ยเย่ว์ที่สวมใส่เสื้อคลุมขนาดใหญ่ พร้อมทั้งข้ารับใช้และหญิงชรามากมายกำลังยืนอยู่บนหิมะห้องที่หู่พั่วอาศัยอยู่นั้น กำลังถูกกองเพลิงกลืนกินพร้อมทั้งควันไฟมากมายที่ลอยขโมงโฉงเฉงร่างของหู่พั่วถูกคนนำห่อด้วยผ้า ก่อนจะนำออกมาวางไว้บนหิมะ ในยามที่แสงไฟสลัว ๆ เช่นนี้ เสมือนก
นางกำนัลพลันชะงักไปในทันที นางที่เป็นเพียงนางกำนัลตำแหน่งเล็ก ๆ นางมีหน้าที่เพียงเข้ามาส่งสารเท่านั้น หากว่าพระชายาอ๋องเจ็ดตายต่อหน้าต่อตาของนางแล้วไซร้ นางย่อมมิอาจหลีกหนีความผิดของตนเองได้พ้น “พระชายาอ๋องเจ็ดอย่าได้วู่วามนะเพคะ บ่าวเพียงแค่มาเชื้อเชิญให้ท่านไปเยือนที่กงเจิ้งซือเท่านั้น ท่านอย่าได
“เจ้าคิดจะทำอันใด?” ฉินเสวี่ยเย่ว์พลางตัวสั่นไปด้วยความตกใจในทันที“เมื่อครู่ เจ้าคิดจะทำอันใดกับเฟ่ยชุ่ยเล่า?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวออกมาด้วยท่าทีเย็นชา “ข้าก็จักทำเช่นนั้นกับเจ้าเหมือนกัน”“ เจ้ากล้าหรือ! ฉินเหยี่ยนเย่ว์ หากกล้าไฟละก็ ข้าไม่มีวันปล่อยเจ้าไปแน่”"หากข้ามิจุด มิยุ่งกับเจ้า เจ้าจักปล่
“โอ้? มีเรื่องอันใดหรือ?”“คือ…” แม่นมเจียงพลางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “พระชายาอ๋องเจ็ดถูกสงสัยว่ากระทำการทรมานและสังหารข้ารับใช้ของนางเพคะ ดังนั้นกงเจิ้งซือจึงได้เชิญพระชายาอ๋องเจ็ดไปสืบหาความจริง”“ทรมานและสังหารข้ารับใช้?” ตงฟางหลีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ตามกฎหมายของราชวงศ์ตงลู่ ผู้ใดก็ตามที่ทำการสั
ท่านอ๋องเจ็ดทำการลงโทษหงเย้า ทั้งยังตั้งใจให้หงเย้ามาพักฟื้นที่เรือนพระชายาอ๋องเจ็ดเช่นนี้ แน่นอนว่าพระองค์ย่อมมีเจตนาแอบแฝงเมื่อกงเจิ้งซือเปิดเผยเรื่องราวออกมาเช่นนี้ ถือเป็นการสร้างความยุ่งยากครั้งใหญ่ เห็นได้ชัดว่าพวกนางถูกผู้อื่นยืมมือเข้าแล้ว วังวนแห่งอำนาจนั้น นางที่เป็นเพียงนางกำนัลตัวเล็ก
ฉินเหยี่ยนเย่ว์มิรู้ว่าเขาคิดอันใดอยู่ นางจึงตระเตรียมของขึ้นมาหลายอย่าง หลังจากที่นางเดินออกมาจากห้องครัวแล้วนั้น นางพลันเห็นเขายังคงยืนอยู่ท่ามกลางลมหนาวและหิมะอยู่เช่นเดิม ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางเลิกคิ้วเอ่ยถามขึ้นมาว่า "ตงฟางหลี ท่านมิหนาวหรือ?"“ต่อแต่นี้ไป เจ้าห้ามเอ่ยเรียกนามของข้าเฉย ๆ อีกเป็นอั
ตงฟางหลีทำทีเสมือนว่ามิได้ยินในสิ่งที่นางเอ่ยขึ้นมา"หม่อมฉันเดาว่า หม่อมคงจะได้พบจุดอ่อนของฉินเสวี่ยเย่ว์และท่านอ๋องสามได้แล้วนั้น" ฉินเหยี่ยนเย่ว์หาได้สนใจอันใดไม่ "มันเพียงพอที่จะทำลายชื่อเสียงของพวกเขาลงได้เพคะ หากหม่อมฉันมิตาย พวกเขาย่อมพยายามหาทางให้หม่อมฉันตายอย่างแน่นอน"“โอ้?” ตงฟางหลีพลันห