ตงฟางหลีมองสำรวจนางอย่างละเอียดฉินเหยี่ยนเย่ว์สบตาอย่างไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย “ตงฟางหลี ผู้ที่หม่อมฉันต้องขอโทษก็คือท่าน ไม่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนั้นที่เลือกแต่งงานกับหม่อมฉันก็คือท่าน และนี่ก็คือการตัดสินใจของท่านเอง”ตงฟางหลีเหลือบตาขึ้น นัยน์ตาคู่นั้นเย็นยะเยือก ความอาฆาตค่อย
ใบหน้าตอนนี้กับใบหน้าเดิมของนางคล้ายคลึงกันยิ่ง แต่ลักษณะท่าทางในตอนนี้ดูโบราณกว่า และผิวพรรณก็ดีกว่าเล็กน้อยนางไม่ค่อยรำคาณการแต่งกายในตอนนี้สักเท่าใดเฟ่ยชุ่ยทาสีผึ้งลงไปบนริมฝีปากขอนางเล็กน้อย “เสร็จแล้วเพคะ”นางหยิบของเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่นพวกขนมและผลไม้ให้นางเล็กน้อย “บ่าวได้ยินมาว่า หลังจากเ
สาวงามมองเห็นฉินเหยี่ยนเย่ว์จับตงฟางหลีเอาไว้ และตงฟางหลีไม่ได้ผลักไส แต่กลับประคองนาง แทบจะมีไฟลุกโชนขึ้นในดวงดา“ขอบคุณ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สีหน้าซีดขาวหน้ามืดตาลาย ใจสั่นและหูอื้อ นี่เป็นอาการของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำร่างกายนี้เดิมทีก็มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เพิ่งจะบำรุงรักษาร่างกายได้ไม่กี่วัน ยังไม่ท
ถ้าหากนางวินิจฉัยโรคไม่ผิด อาการป่วยของฉินเหยี่ยนเย่ว์น่าจะเป็นโรคในกะโหลกศีรษะ ตอนที่อาการไม่กำเริบยังพอไหว หากอาการกำเริบก็จะเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างยิ่ง ถึงขนาดตกอยู่ในอาการเสียสติโรคในกะโหลกศีรษะมีทั้งไม่รุนแรงและสาหัส ในกรณีที่ไม่รุนแรงอาการจะค่อย ๆ ทุเลา ในกรณีที่รุนแรงอาจจะเส้นเลือดในสมองแตกและ
“หากเป็นเมื่อคืนวานนี้ ท่านสังหารหม่อมฉัน หม่อมฉันก็คงขัดขืนมิได้ แต่ หากเป็นท่านในวันนี้ ก็คงจะไม่มีปัญญาหรอกเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์น้ำเสียงอ่อนแอ ทันทีที่พูดจบ นางก็หาโอกาสเหมาะ โจมตีที่จุดถันจงของตงฟางหลีเดิมทีตงฟางหลีก็มาถึงขีดจำกัดแล้ว หลังจากที่ถูกโจมตี ก็รู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณหน้าเป็นอย่างยิ่ง
ต่อไป เขาย่อมสูญเสียการควบคุมตนเองไปอย่างแน่นอน“เจ้ามีหนทางงั้นหรือ?” ตงฟางหลีหยุดลง พร้อมทั้งร่างกายที่โอนเอนไปมาเล็กน้อย พลางแย้มยิ้มออกมาด้วยความเย็นชาว่า “เจ้าจักไปทำอันใดได้?”“มีเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางบีบขวดแมนนิทอลในแขนเสื้อของตนเองเอาไว้แน่นขวดแมนนิทอลขวดนี้ เดิมทีมันปรากฏขึ้นมานานแล้ว
ตงฟางหลียังคงหลับตาอยู่เช่นเดิมเมื่อครู่เขามองอันใดไม่ค่อยชัดแจ้งนัก จึงมิเห็นว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์ทำอันใดกับเขากันแน่สิ่งเดียวที่เขารู้สึกได้ก็คือ หลังจากที่รู้เจ็บปวดจากการแทงเข็มลงไปนั้น ร่างกายพลันมีอะไรเย็น ๆ บางอย่างถูกฉีดเข้ามาที่แขนในทันที ไม่นานนักอาการปวดหัวของเขาก็หายไปเสมือนกับคลื่นลมพาย
หากเดินอ้อมจากทางด้านหลังภูเขาเทียมออกมาจักพบเห็นทางเล็ก ๆ สายหนึ่ง ที่สองข้างทางขนาบข้างไปด้วยดอกเหมย ในยามนี้ นับว่าถึงช่วงที่ดอกเหมยกำลังเบ่งบานออกมาพอดี ดอกเหมยสีขาวสีแดงมากมายที่พากันร่วงโรยตกลงบนพื้นหิมะด้านหลัง ราวกับดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานอยู่บนก้อนเมฆก็ไม่ปาน ช่างงดงามยิ่งนัก ฉินเหยี่ยนเย่ว