กองทัพที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีในอดีต วันนี้ทุกคนเต็มไปด้วยความโมโห ระเบิดอารมณ์ ราวกับถูกจุดชนวนระเบิด ก่อความวุ่นวายจนไม่สามารถจัดการได้ทั้งทะเลาะกัน ยังมีคนไม่น้อยที่ลงมือ ต่อยตีกันขึ้นมาทันทีที่ต่อยตีกันขึ้น ก็ควบคุมสถานการณ์เอาไว้ไม่อยู่ ทั้งค่ายทหารเต็มไปด้วยความวุ่นวาย...ห่างออกไปไกลหายเมตร ในที่ลับที่บรรดาพลทหารมองไม่เห็น ผู้ชายร่างใหญ่สองคนนั่งอ้าขา ก้นนั่งลงไปบนพื้น กำลังนั่งอย่างสบายใจ สังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของทางด้านค่ายทหาร ก็หัวเราะออกมาเสียงดังขวัญกำลังใจของทหารองครักษ์เงาผู้สง่าผ่าเผย ก็มีแค่นี้ขวัญกำลังใจของทหารไม่เข้มแข็งไม่มีความน่าเกรงขามเลยแม้แต่น้อยในรอยยิ้มของอ๋องเจวี๋ยแฝงไปด้วยความชั่วร้าย “ยาหลอนจิตนี่ ใช้ได้ผลดีจริง ๆ!”ยาหลอนจิต ความหมายสมชื่อ คนที่ใช้ จะได้รับอิทธิพลจากมัน ทำให้สติสัมปชัญญะเกิดความสับสน ทำให้กลายเป็นคนหุนหันพลันแล่น ถึงขนาดฉุนเฉียว เอาแต่ใจตัวเองเขานำยาหลอนจิตสาดลงไปในน้ำ น้ำพวกนี้เอามาหุงข้าว ทำกับข้าว เมื่อเข้าสู่ในร่างกายของบรรดาพลทหารทหารองครักษ์เงาทั้งหมด ก็จะก่อความวุ่นวายเหมือนกับตลาดไม่มีผิด เสียงดังโวยวายไม
อีกด้านหนึ่งอ๋องเฟิงฉวยโอกาสระหว่างที่ออกมาชั่วคราว เรียกองครักษ์ลับ รีบร่างจดหมายลับอย่างรวดเร็ว พร้อมกับขวดกระเบื้องเล็กนี้“นำไปมอบให้กับมือของฝ่าบาท”“ขอรับ!”องครักษ์ลับรับด้วยสองมือ จากไปอย่างรวดเร็วอ๋องเฟิงหมอบอยู่ที่กิ่งไม้ จ้องมองแผ่นหลังขององครักษ์ลับที่ค่อย ๆไกลออกไป หัวใจค่อย ๆ แจ่มชัดขึ้นเมื่อก่อน ใจจดใจจ่ออยากได้ตำแหน่งรัชทายาท ทำได้ทุกเรื่อง โดยไม่เลือกวิธีการ แต่นับตั้งแต่ที่เชื่อฟังคำของเหยาเหยา หลังจากหันหน้าเข้าหาอ๋องเฉิน หัวใจของเขาก็กลับกลายเป็นสงบมากฉู่เชียนหลี เจ้ารักษาเหยาเหยาให้หายดี ในที่สุดก็ทำให้พวกเรามีลูกของตัวเองตลอดหลายปีมานี้ เขาทำเรื่องชั่วช้ามามากมาย แปดในสิบเป็นเพราะอ๋องเจวี๋ยแอบยุยงอ๋องเจวี๋ยเป็นคนที่เย่อหยิ่ง ถือตัวอวดดี เขากุมอำนาจทหาร นิสัยโหดร้าย ทำอะไรก็ได้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายคนแบบนี้ จะต้องขัดขวางอ๋องเฉินอย่างแน่นอนเพียงแค่เขานำหลักฐานที่เป็นเจตนาชั่วร้ายของอ๋องเจวี๋ยส่งให้ถึงมือของฝ่าบาท เมื่อฝ่าบาททรงทราบ จะต้องลงโทษอ๋องเจวี๋ยอย่างหนักแน่นอนพระชายาอ๋องเฉิน ข้ากำลังจะไปยังที่ดินศักดินาแล้วการกำจัดภัยคุกคามอย่างอ๋องเจวี
ณ จวนอ๋องเฉิน แคว้นตงหลิง “สารเลว!” “โอ๊ย!”เสียงตวาดแผดขึ้น ร่างผอมบางร่างหนึ่งถูกถีบจนกระเด็นเข้าชนกับเสาที่ผนัง ก่อนกระแทกกับพื้นอย่างแรง ปิ่นเงินร่วงลง เส้นผมสีดำกระจายลงบนพื้นเจ็บ...เจ็บจัง...เธอเพิ่งเสร็จสิ้นการผ่าตัดใหญ่ที่นานถึงสามสิบแปดชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก พอออกมาจากห้องผ่าตัดก็หมดสติล้มลงกับพื้น แต่ทำไมตัวเธอถึงได้เจ็บขนาดนี้นะ?จากนั้น ความทรงจำที่ไม่คุ้นเคยกลุ่มหนึ่งก็เบียดเข้ามาในหัวสมองและฉายให้เห็นอย่างรวดเร็ว ฉู่เชียนหลี คุณหนูสี่ผู้ไม่เป็นที่ชื่นชอบของจวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ ใบหน้าอัปลักษณ์ไร้ซึ่งความงาม นางแต่งเข้าจวนเฉินอ๋องเมื่อสามเดือนก่อน ไม่เคยได้รับความชื่นและต้องอยู่ลำพังในห้องว่างเปล่าเรื่อยมาวันนี้อ๋องเฉินรับอนุภรรยา นางถูกเรียกให้มาปรนนิบัติอนุภรรยา แต่เพราะพลั้งเผลอปัดน้ำชาหกไปลวกถูกอีกฝ่าย จึงถูกอ๋องเฉินถีบจนตายในคราวเดียว!เป็นผู้ชายที่โหดจริงๆ!แต่ในเมื่อมาแล้ว ก็ทำใจอยู่อย่างสงบเสียฉู่เชียนหลีรับเรื่องราวต่างๆ เข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว ฝืนทนความเจ็บปวด เงยหน้าขึ้นมาห้องหอที่ประดับตกแต่งด้วยสีแดงแห่งงานมงคล ชายหญิงในชุดแต่งงานคู่หนึ่งอย
เซียวจือฮว่าตกตะลึง “เฉิน…”มิใช่ว่าเขารังเกียจฉู่เชียนหลีเป็นที่สุด ซ้ำยังบอกว่าจะยกตำแหน่งชายาเอกให้นางหรอกหรือ? เห็นอยู่ว่าหนังสือหย่าเขียนจวนจะเสร็จอยู่แล้ว แต่จู่ๆ กลับไม่หย่ากับนาง?ฉู่เชียนหลีเองก็รู้สึกแปลกใจ หากเขาไม่หย่ากับนาง แล้วนางจะได้ท่องเที่ยวในยุคโบราณอย่างสบายอุราและเที่ยวเล่นอย่างมีความสุขได้อย่างไร?“ท่านอ๋อง ข้ามีความผิดนี่!” นางโผเข้าไปกอดต้นขาของชายหนุ่ม เอ่ยประหนึ่งใจแทบขาด “สามเดือนก่อน ข้าวางยาท่าน บีบให้ท่านแต่งกับข้า ข้าผิดหลักคุณธรรม”“เมื่อครู่ ก็จงใจปัดน้ำชาร้อนไปลวกถูกน้องเซียวอีก จิตใจคับแคบนัก”“สตรีที่ใจแคบเช่นไส้ไก่ เจ้าเล่ห์เพทุบายเช่นข้า ไม่มีหน้าจะรั้งตำแหน่งชายาอ๋องเฉินจริงๆ ขอท่านอ๋องให้ผู้ล้ำเลิศกว่ามาแทนที่เถิด!”ภายในใจ 'ผู้ชายบ้า รีบหย่าฉันเร็วๆ ฉันมาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด อยู่มานานกว่านายตั้งหลายพันปี ไอ้เด็กรุ่นกระเตาะที่ขนยังขึ้นไม่หมดอย่างนาย มีสิทธิ์อะไรจะแต่งกับฉัน?'รู้แต่แรก สิบปีก่อนฉันก็จะไม่ช่วยชีวิตนาย ให้นายจมน้ำตายไปเลยก็ดี!เฟิงเย่เสวียนปรี่เข้าไปกุมคอเสื้อนาง “เมื่อครู่เจ้ากล่าวสิ่งใด?”คนที่ช่วยชีวิตเขาเมื่อสิบปีก่
ในเรือนหลังเล็กโกโรโกโสสาวใช้เยว่เอ๋อร์กำลังเดินวนเวียนไปมา สองมือกำแน่นอย่างกระวนกระวายใจ และคอยชะเง้อมองข้างนอกตลอดเวลา ยามเห็นร่างที่คุ้นเคยนั้น นางก็พุ่งตัวออกไปทันใด“พระชายา!”นางรีบปรี่เข้าไปกุมมือสองของฉู่เชียนหลี ก่อนตรวจดูทั้งบนล่างซ้ายขวาหน้าหลัง “พระชายา เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?” ท่านอ๋องไม่ได้ทำให้ท่านลำบากใช่หรือไม่เจ้าคะ? พระชายารองเซียวนั่นรังแกท่านหรือไม่เจ้าคะ? พวกเขาเรียกท่านไปทำสิ่งใดเจ้าคะ?”ฉู่เชียนหลีกะพริบตาเยว่เอ๋อร์เป็นสาวใช้ที่ปรนนิบัตินางมาสิบปีแล้ว เติบโตมาพร้อมกับนางตั้งแต่เล็ก สนิทกันดังพี่สาวน้องสาวนางส่ายหัวพลางผลักประตูเข้าไปในห้อง เรื่องแรกที่ทำก็คือปรี่เข้าไปที่โต๊ะแต่งหน้า และคว้าเอากระจกทองเหลืองแสนเก่าเขรอะขนาดเท่าฝ่ามืออี๋...น่าเกลียดชะมัด!แม้จะทำใจมาแล้ว แต่เมื่อได้เห็นใบหน้านี้ นางก็ยังต้องตกใจกับตัวเองภาพสะท้อนในกระจกทองเหลืองนั้น ครึ่งหน้าของสตรีหยาบขรุขระ เหมือนถูกเผาด้วยไฟร้อน ผิวหนังยู่ย่น อัปลักษณ์น่าตกใจกลัว เหมือนปีศาจไม่มีผิด ใครพบเห็นเข้า ตกกลางคืนต้องมีอันฝันร้ายเยว่เอ๋อร์กังวลว่าพระชายาจะน้อยเนื้อต่ำใจจึงรีบดึงกระจกท
ยามมีคนประคอง ราศีของเซียวจือฮว่ายิ่งดีสูงส่งอย่างเห็นได้ชัด ร่างขาวนวลอ้อนแอ้นบอบบางอรชร ก้าวย่างทีละน้อย ให้ความรู้สึกบอบบางจนแทบจะล้มไปตามลมเมื่อสาวใช้เงยหน้าขึ้นเห็นว่าฉู่เชียนหลียังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับแม้สักนิดราวกับมองไม่เห็นก็อดโมโหไม่ได้พระชายานี่ตาบอด ไม่รู้จักออกมาต้อนรับสักหน่อยรึ?“พี่หญิง...” เซียวจือฮว่าเดินเข้ามาเห็นว่าฉู่เชียนหลีกำลังกินซาลาเปา ที่พำนักผุพังก็รู้สึกปวดใจจนตาแดงก่ำขึ้นทันที “เหตุได้ท่านจึงอยู่ในสถานที่ชนิดนี้ นี่หาใช่ที่สำหรับคนอยู่...”“ไว้ข้ากลับไปจะต้องบอกกับเฉินสักหน่อย”น้ำเสียงนั้น ถ้อยคำเช่นนั้น ราวกับว่านางต่างหากที่เป็นนายหญิงของจวนแห่งนี้ ส่วนฉู่เชียนหลีก็เป็นแค่เด็กสาวบ้านป่าผู้หนึ่งเท่านั้นฉู่เชียนหลีปรายตามองนางเรียบๆ กัดซาลาเปาคำหนึ่ง “ เจ้ามาทำไม?”เมื่อสตรีผู้นี้ปรากฏตัว แน่นอนว่าต้องไม่ได้มาด้วยเจตนาดีก่อนนี้ เจ้าของเดิมของร่างนี้รักใคร่เฉินหวังอย่างล้ำลึก แต่เมื่อใดที่เซียวจือฮว่า ปรากฏตัว พอนางทำตาแดงๆ คราวหนึ่ง เบะปากคราวหนึ่ง ไม่ก็หลั่งน้ำตาครึ่งหยด ถ้านางไม่ถูกถีบกระเด็น ก็ถูกทุบตีอย่างทารุณยกหนึ่งพอเสร็จเรื่อง สตร
“ข้าจงใจผลักเอง” ฉู่เชียนหลีพูดต่อว่า “ข้าริษยาที่น้องเซียวเป็นที่รัก ไม่ใช่แค่ผลักนาง ยังอยากจะทุบตีนางด้วย เพราะรักกลายเป็นแค้น ไม่ว่าเรื่องใดก็ทำออกมาได้ทั้งสิ้น”เซียวจือฮว่าได้ยินคำก็หัวเราะเย็นอยู่ในใจแต่ไรมาท่านอ๋องก็รังเกียจสตรีขี้อิจฉาใจคับแคบเป็นที่สุด นี่เจ้ากลับโง่พูดออกมา เตรียมตัวถูกหย่าเสียเถิด ตำแหน่งพระชายาอ๋องเฉินจะต้องเป็นของนางในไม่ช้าก็เร็วเฟิงเย่เสวียนขมวดคิ้วกระบี่ของตนนางอยากจะไปให้พ้นจากจวนอ๋องเฉินจนแทบทนไม่ไหวถึงเพียงนี้เชียวหรือ แต่เขาจะไม่ให้นางได้สมหวังเสียอย่าง“ในเมื่อรู้ผิดแล้ว ยังไม่รีบ…”หย่ากับนางเสีย?“ขอบคุณท่านอ๋อง!” ฉู่เชียนหลีดีใจจนเผลอหลุดปากเฟิงเย่เสวียนมองนางคราวหนึ่งด้วยปรายสายตายะเยือก“ยังไม่รีบไปคุกเข่าสำนึกผิดที่เรือนหานเฟิงอีก? คุกเข่าจนกว่าจือฮว่าจะยกโทษให้เจ้า”ฉู่เชียนหลี “?”เซียวจือฮว่าชะงักอยู่น้อยๆ เปลี่ยนจากหย่ามาเป็นคุกเข่าเช่นนั้นรึ?ช่างเถิดอีกสักครู่ ดวงตะวันก็จะออกมาแล้ว ความร้อนในฤดูร้อนรุนแรงหนักหนา หากฉู่เชียนหลีต้องคุกเข่าอยู่กลางตะวันแผดเผาสักสี่ห้าชั่วยาม ต่อให้ไม่ตายก็ต้องเกือบตายฉู่เชียนหลีจ้องชายห
“จู่ๆ ข้าก็นึกขึ้นได้ว่าครั้งก่อนบอกกับนางว่าวันนี้ข้าจะกลับไปเยี่ยมนาง ข้าจะเป็นลูกสาวกตัญญูที่รู้ความ ข้าไม่สามารถไม่รักษาคำพูด!” ฉู่เชียนหลีสะอื้นกัดผ้าเช็ดหน้า ท่าทางราวกับคิดถึงบ้านอย่างมากในความเป็นจริง หนังศีรษะของนางโดนแดดเผาจนแทบปริแตกแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไปนางต้องขาดน้ำตายแน่เฟิงเย่เสวียนกุมความคิดของนางไว้หมดแล้ว พอดีกับตอนนี้เขาก็มีเรื่องสำคัญต้องจัดการ ฉู่เชียนหลีมักจะมาป้วนเปี้ยนตรงหน้าเขา จิตใจไม่สามารถสงบ จึงมีความกรุณาเป็นพิเศษ “เช่นนั้นก็กลับ…”ฟิ้ว…พูดไม่ทันขาดคำ สายลมพัดผ่าน คนหายไปแล้วไม่มีแม้กระทั่งคำขอบคุณเลยหรือ? ผู้หญิงไร้มโนธรรมคนนี้!จวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ราชสำนักในปัจจุบันแบ่งออกเป็นอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายและอัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวา ตระกูลฉู่คืออัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย ฐานะทางครอบครัวมั่งคั่ง เป็นชนชั้นสูงชั้นหนึ่งในเมืองหลวง เพียงแต่ ครอบครัวเช่นนี้กลับให้กำเนิดบุตรสาวหน้าตาอัปลักษณ์ไร้ความงามคนหนึ่ง กลายเป็นที่ขบขันของประชาชน ยิ่งมีคนวิจารณ์ว่าไม่ใช่ลูกแท้ๆหลายปีมานี้ คุณหนูอัปลักษณ์ไม่ได้รับความโปรดปราน และยังใช้กลอุบายแต่งเข้าจวนอ๋องเฉิน เป็นที่