แชร์

บทที่ 2 โอรสสวรรค์

ในขณะที่ชินอ๋องรุดหน้าปกป้องลูกเมียของเขาอยู่เบื้องหน้า รัศมีปราณยุทธแผ่ซ่านปรากฏให้เห็นเงาของกิเลนสวรรค์ห้าธาตุ พุ่งตรงเข้าไปสังหารผู้บุกรุก

“ถงถงเจ้าบาดเจ็บหรือไม่” ชินอ๋องถามคู่ชีวิตของตนอย่างเป็นห่วง เขายืนหยัดอย่างมั่นคงบนดาดฟ้าเรือโคลงเคลง สายตารอบระวังมือสังหารที่องครักษ์กำลังรับมืออยู่รอบ ๆ

“ไม่เป็นไรหลงหมิง แล้วท่านล่ะ” พักตร์งามของชายาเอกเปื้อนเขม่าดำไปหมด ในอ้อมกอดพยายามบดบังภยันตรายให้ลูกชายตัวน้อย ปัดป้องคมดาบที่มุ่งเข้ามาด้วยกระบี่อ่อน

ดวงตาของอ๋องน้อยเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนกตกใจ แต่ก็ว่าง่ายอย่างรู้ความไม่ตกใจจนร้องงอแง

ธงโจรสลัดกุ่ยไห่ที่ครองน่านน้ำในแถบนี้คู่กับธงสัญลักษณ์จิ้นอ๋องโบกสะบัดในกองเรือที่โอบล้อมเข้ามา

เสียงโห่ร้องตะโกนกู่ก้องดังจนคนของชินอ๋องต่างสิ้นหวัง ด้วยจำนวนคนที่ต่างกันหลายสิบเท่า อีกทั้งผู้บุกรุกต่างเป็นนักฆ่าสังหารมืออาชีพ ต่างกับพวกเขาที่เป็นบ่าวไพร่ที่มีวรยุทธติดตัวเล็กน้อย

กองเรือผู้บุกรุกทอดสมอจอดเรือเทียบกับขบวนเรือของชินอ๋อง พลาดไม้กระดานกว้างราวหนึ่งฉื่อ [1] ข้ามมาอย่างง่ายดาย เข็นฆ่าผู้คนอย่างเหี้ยมโหด สาวใช้ถูกฉุดลากไปขืนใจย่ำยี ท่ามกลางกองซากไร้ลมหายใจ

ประกายกระบี่ปะทะกันวูบวาบทั่วบริเวณ ชินอ๋องมู่หรงหลงหมิงตอบโต้รับมือกับนักฆ่าหลายคน ตัวเขาถือเป็นขุนนางบุ๋นคนหนึ่งแต่ใช่ว่าจะมือไม้อ่อนจับดาบจับกระบี่ไม่เป็น

“จิ้นอ๋องก่อกบฏ เขาทำไปเพื่ออะไรกัน!!! ในเมื่อข้าก็เคารพรักเขาดั่งพี่ชาย...”

ชินอ๋องคำรามอย่างครุ่นโกรธทั้งเสียใจ ไม่คิดเลยว่าวันที่มีความสุขสมบูรณ์พร้อมจะถูกลบออก ด้วยความกระหายอำนาจที่ไม่ใช่ของตนเหมือนพี่ชายต่างแม่ผู้นี้

ความจริงและความเสียใจผิดหวังประดังเข้าใส่ชินอ๋อง ไม่เพียงแค่ระเบิดที่จะคร่าชีวิตพวกเขา ยังมีมือสังหารที่แอบแฝงตัวอยู่ด้วย

จิ้นอ๋องไม่กลัวเลยที่จะเปิดเผยว่าตนก่อกบฏ ชูธงประจำตัวเด่นหราประกาศว่าเป็นตัวเอง เขาวางแผนมานานและทำได้ดีอีกด้วย ปกปิดหลอกลวง คิดฆ่าคนปิดปากกลางผืนน้ำ ดูยังไงก็ไม่คิดเหลือทางรอดให้เขา

เพียงแต่ลูกเมียเขาอีกฝ่ายก็ไม่คิดเก็บไว้ นัยน์ตาแดงก่ำของชินอ๋องผูกใจเจ็บที่เชื่อถือไว้ใจคนผิด ทำให้คนรักและรอบข้างเขาต้องพบจุดจบที่น่าอนาถเช่นนี้

ชายหนุ่มประมือไปหลายกระบวนท่าผลลัพธ์ช่วงชิงความได้เปรียบไม่น้อย ถึงแม้ว่าเขาจะมีฝีไม้ลายมือเก่งกาจแค่ไหน ก็เพลี่ยงพล้ำลงให้กับความโสมมของนักฆ่าจ้างวานที่ไม่เลือกวิธีสังหาร

คมกระบี่อาบยาพิษต่างทิ่มแทงเข้าจุดตายของเขาที่ยืนอยู่เบื้องหน้าภรรยาและลูก หมายปกป้องทั้งสองให้ได้มากที่สุด

พิษร้ายแรงแล่นเข้าสู่ร่างกายอย่างฉับไวยิ่งชินอ๋องขยับร่างกายมากเท่าไหร่ พิษก็กระจายไปทั่วร่างเร็วเท่านั้น ภาพสุดท้ายของชีวิตเขา คือ ชินหวางเฟย ภรรยาของเขาผู้ที่เก็บงำวิชากระบี่ยิ่งกว่าเขาร่ายรำวาดกระบี่แทงทะลุร่างของนักฆ่าที่ลงมือกับเขา ท่ามกลางม่านน้ำตาที่ไหลอาบหน้านางกับแววตาตกตะลึงของลูกน้อยวัยสามหนาว

วังชินอ๋องที่แยกตัวประกาศจุดยืนของตัวเองอย่างชัดเจนนานแล้ว ขอไม่เข้าไปยุ่งพัวพันแย่งชิงบัลลังก์มังกรที่อาบไปด้วยเลือด

ความวุ่นวายต่าง ๆ นานาที่ต้องเเลกด้วยชีวิต กลับต้องเผชิญเคราะห์ร้ายกรรมซัดไม่ต่างกับเชื้อพระวงศ์คนอื่น ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้…

ในขณะที่ทะเลสีเลือดไหลหนองย้อมมหาสมุทรซีไห่ ทางเมืองหลวงของราชอาณาจักรซีเว่ยกลับมีเมฆหมอกสีดำลอยปกคลุมทั่วทั้งผืนฟ้าดูมืดมน บรรยากาศมืดครึ้มอึมครึมอันน่าอึดอัดครอบคลุมทั้งเมือง ฟ้าฝนโหมกระหน่ำตกหนักมาร่วมสัปดาห์ไม่มีทีท่าจะหยุดลง

ถังอี้หงฮองเฮาแห่งราชอาณาจักรซีเว่ย เหม่อมองน้ำฝนที่สาดกระหน่ำผ่านหน้าตาบานใหญ่ สีหน้ากังวลของแม่ของแผ่นดินเผยออกมาอย่างชัดเจน

“หวงโฮ่ว ทรงพักผ่อนเถอะเพคะ”

“หลิวหยุนฟ้ากำลังเปลี่ยนสี ข้าเป็นห่วงพวกเขา”

“องค์รัชทายาททรงอ่านฎีกาพำนักอ่านฎีกาพำนักปลอดภัยอยู่ที่ตำหนักบูรพา มีองครักษ์หลวงมากมายคอยคุ้มกัน ชินอ๋องก็ทรงพาท่านอ๋องน้อยกับพระชายาไปประพาสที่ทะเลซีไห่ที่ทะเลซีไห่ ส่วนองค์ชายเจ็ดพระองค์ยิ่งไม่ต้องเป็นห่วงเลย พระองค์ก็ทรงทราบองค์ชายเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าจิ้งจอก ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนบนแผ่นดินใหญ่ยังไม่มีผู้ใดทราบเลย ทุกพระองค์กำลังมีความสุขในชีวิตของตัวเอง ฮองเฮาทรงอย่าวิตกกังวลพระทัยเลยเพคะ”

หลิวหยุนนางกำนัลคนสนิทผู้ติดตามถังอี้หงมาตั้งแต่เป็นคุณหนูสกุลถังมา จนกระทั่งนางเป็นมารดาของแผ่นดินในปัจจุบัน เวลาที่ใช้ร่วมกันดุจดั่งพี่น้อง

“ข้ารู้ แต่สุขภาพของฝ่าบาท…”

ฮองเฮาสกุลถังมองหน้าสหายสนิทเผยความกังวลใจที่ปิดไม่มิด

“เปิ่นกง [2] กลัวมีคนก่อกบฏ”

ถังอี้หงสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในเมืองหลวง ภายนอกดูเหมือนสงบ แต่กลับมีคลื่นพายุกำลังก่อตัวเตรียมโหมกระหน่ำ สีหน้ามารดาของแผ่นดินซีเว่ยเคร่งขรึมด้วยความกังวล สัญชาตญาณความเป็นแม่สัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่กำลังคุกคามลูก ๆ ของนาง จนหัวใจไม่อาจสงบ

“เต๋อเฟย นางกำลังทำอะไรกันแน่?”

เม็ดฝนโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า ผู้คนที่เดินขวักไขว่สวนกันอยู่บนท้องถนนล้วนรีบร้อนก้าวเท้าอย่างว่องไว บรรยากาศเย็นยะเยือกท้องฟ้าดำมืดไม่นานฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่

ณ.โรงเตี๊ยมโหย่วซิ่ว

ชายหนุ่มรูปลักษณ์สง่างามนั่งปล่อยแรงกดดันที่มองไม่เห็นอยู่ในห้องลับของโรงเตี๊ยม ดวงตาของฉายแสงเจ้าเล่ห์กลิ้งกลอก มุมปากยกยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อได้ยินข่าวที่สายลับส่งเข้ามาพร้อมกับท้องฟ้าที่ส่งเสียงยินดีดังคำรามลั่นครืนใหญ่

ครืน ครืน!!!

“หึ ๆ ลงนรกไปแล้วสินะน้องชายของข้า”

น้ำเสียงอำมหิตไปปกปิดกลิ่นอายชั่วร้ายเอ่ยขึ้นราวกับเป็นเรื่องธรรมดาปกติ จากนั้นก็หันไปที่ประตูที่เคาะเรียกขออนุญาตคนด้านในห้อง

“เข้ามา”

บานประตูลับเปิดออกพร้อมร่างชายคนหนึ่ง “ข้าน้อยคารวะจิ้นอ๋อง”

ร่างในเสื้อคลุมสีดำก้มหัวเล็กน้อยเผชิญหน้ากับความเงียบ จึงรีบเอ่ยธุระของตน “จิ้นอ๋อง ทุกอย่างพร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

น้ำเสียงแหบแห้งไม่บ่งบอกตัวตนรายงานสิ่งที่ลงมือทำตามแผนการที่วางไว้ อีกไม่นานทุกอย่างก็จะอยู่ในกำมือ

ชายรูปงามที่นั่งฟังชายชุดคลุมสีดำ คือ จิ้นอ๋อง โอรสคนแรกของจักรพรรดิเฉียนเฮ่า มู่หรงเฉียนเฮ่า ฮ่องเต้แห่งราชอาณาจักรซีเว่ย เขาเป็นองค์ชายพระองค์โตที่ถูกพระราชบิดากีดกันจากบัลลังก์ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นลูกคนแรก และฐานันดรศักดิ์ภูมิหลังฝั่งมารดาก็ไม่ใช่ต่ำ ทำให้เขาเหมือนคนนอกจนสะสมความคับแค้นรอวันที่ทวงคืนความเป็นธรรมให้ตัวเอง

“ฟ้ามืดเมื่อไหร่ก็เริ่มได้”

น้ำเสียงไม่แยแสจ้องมองใบชาในถ้วยแก้วหลิวหลี เงยหน้าขึ้นจ้องตาชายชุดคลุม “ต้องสำเร็จเท่านั้นห้ามพลาดเด็ดขาด”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ชายชุดคลุมน้อมรับคำสั่งด้วยรอยยิ้ม หันหลังออกไปดวงตาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ คล้อยหลังไปเขาก็พึมพำด้วยความตื่นเต้น

“ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่เปิ่นหวางจะขึ้นเป็นโอรสสวรรค์แทนท่าน…เสด็จพ่อ

*แก้ไขครั้งที่1

[1] ฉื่อ หรือ เชียะ (尺 : chǐ) : 1 ฉื่อ เท่ากับ 10 ชุ่น ยาวประมาณ 1 ฟุต

[2] เชื้อพระวงศ์หญิง เช่น ไทเฮา ฮองเฮา พระสนมชั้นสูง องค์หญิง มักมีคำเรียกแทนตัวเองว่า “เปิ่นกง”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status