หน้าหลัก / แฟนตาซี / ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1 / บทที่ 5 กลายเป็นยอดเสเพลแห่งวังหลวง 3/4

แชร์

บทที่ 5 กลายเป็นยอดเสเพลแห่งวังหลวง 3/4

สองวันถัดมา ณ.ตำหนักเหลียงซิน ที่พำนักของไทเฮาหลิวอี้หง

“ไทเฮา ได้โปรดช่วยกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไร้ความสามารถ ศึกษาสิ่งใดก็ไม่เคยสำเร็จ อายุอานามก็ล่วงเลยมามากแล้ว เกรงว่าการไปเทียนถูหวู่จะทำให้ราชสำนักต้องขายหน้า เสด็จอาต้องเสื่อมเสียเกียรติ”

เสียงร้องโอดครวญชักแม่น้ำทั้งห้าของชินอ๋องดังทั่วตำหนักเหลียงซิน ด้วยเสียงดังที่กลัวว่าจะดังพอกลัวว่าผู้คนจะไม่ได้ยินทั่วถึง จะไม่รับรู้การปฏิเสธของตน ราวกับอยากให้มันได้ยินถึงพระกรรณผู้ออกราชโองการด้วยซ้ำไป แต่ท่าทีนิ่งเฉยที่ได้รับกลับมาจากผู้เป็นย่า ไม่ว่าเยี่ยหยางจะร้องอาละวาด หรือ โวยวายเพียงใดก็ตาม

“เยี่ยหยางเจ้ามีกี่หัวกัน? อายเจีย [3] ไม่ยุ่งเรื่องราวในราชสำนักมานานแล้ว” น้ำเสียงเรียบเย็นสบายเอ่ยถาม “ราชโองการไม่ใช่สิ่งที่ใครก็สามารถขัดได้ แล้วก็เทียนถูหวู่ก็เป็นสำนักฝึกเซียนยุทธอันดับหนึ่งในใต้หล้า”

“เสด็จย่า หยางเอ๋อไม่อยากห่างจากท่านไปไหนไกล หลานอยากอู่มองหน้าเสด็จย่าทุกวัน ท่านไม่รักหยางเอ๋อแล้วหรอถึงไล่หลานไปอยู่ห่างไกล ไม่เห็นแม้แต่เงาหลาน”

ทั้ง ๆ ที่อาศัยเส้นสายลับ ๆ กระจายข่าวกระจายลมปากให้ถึงพระเนตรพระกรรณ์ของโอรสสวรรค์ถึงเรื่องแย่ ๆ ที่โหมเข้าไป ให้พังพอนเหลืองหวาดหวั่น เพื่อที่จะถอดพระราชโองการถอนรับสั่งกลับคืนมา แต่ก็ไม่ได้ผล จนต้องตีอกชกหัวอยู่ที่นี่

แต่แผนรับมือทุกอย่างที่ร่ายออกไปกลับไม่ได้ผล

ชินอ๋องเรียกใช้กลยุทธ์แผนลูกแมวขี้อ้อนต่อทันที พร้อมบีบน้ำตาเรียกสั่งได้ประกอบเรียกความเห็นใจให้เห็น เด็กหนุ่มใช้วิธีเกาะเข่า ออดอ้อน ซบตักคนเป็นย่าราวกับเด็กสองขวบ

“ท่านย่า ท่านว่าแตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม้หวานใช่หรือไม่ขอรับ”

“เหลวไหล ข้าเป็นคนให้ฮ่องเต้ช่วยออกราชโองการนี้เอง เจ้าคงไม่ต้องให้ข้าต้องถอนคำพูด ถอนหงอกตัวเองใช่หรือไม่” ไทเฮาถังอี้หงมองเยี่ยหยางด้วยสายตาเอ็นดู นางชอบที่หลานชายมาออดอ้อนนัก แต่ต้องใจแข็งจัดการนิสัยเสียไม่เอาถ่านนี้ทิ้งให้ได้ เมื่อเด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเพียงสีหน้าเรียบเฉยของไทเฮา

“หลิวกูกู [4] ท่านช่วยข้าอธิบายเหตุผลของข้าให้เสด็จย่าฟังหน่อยน้า” เยี่ยหยางส่งสายตาวิบวับขอความช่วยเหลือด่วนจากนางกำนัลอาวุโสคนสนิทของไทเฮาอี้หงอีกคน

“หม่อมฉันช่วยชินอ๋องไม่ได้จริง ๆ เพคะ” ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มเอ่ยอย่างอ่อนอกอ่อนใจ พลางเดินยกขนมหวานมาให้เป็นของปลอบใจ

“อาหยาง เวลานี้แค่ช่วงปีใหม่เอง กว่าเจ้าจะไปก็หลังเทศกาลไหว้บรรพบุรุษ มีเวลาให้เจ้าให้เที่ยวเล่นอีกมากมาย เจ้าจะโวยวายไปไย”

ประโยคตัดคำของหญิงสูงวัยที่รูปร่างต่างจากช่วงวัยสาวไปเล็กน้อยอย่างคนดูแลตัวเองเป็นอย่างดีของอดีตโฉมงามอันดับหนึ่ง ทำให้หลานชายตัวแสบจนคำพูด พร้อมปฏิเสธตัดบทฉับ “มา มาทานขนมกับย่าดีกว่า”

เยี่ยหยางเดินออกจากพระตำหนักของไทเฮาด้วยอารมณ์เซ็งจัดแถมหงุดหงิดไม่น้อย เขาไม่ต้องการวิถีหรือหนทางใดที่แสดงให้เห็นว่า ตัวเองเก่งกาจมากความสามารถต้องการอำนาจแม้แต่น้อย

การแสดงออกถึงความไม่เอาไหนของตัวเอง มีจุดมุ่งหมายหวังหลีกเลี่ยง เขาไม่ต้องการไม่อยากยุ่งเกี่ยวเรื่องราวในราชสำนักอย่างชัดเจน สิบปีแห่งการตรากตรำอันหนาวเหน็บ จนได้ชื่อเสีย (ง) กระฉ่อนทั่วสี่ทะเลแปดดินแดนที่ยืนยันความเหนื่อยยาก แต่ก็ยังถูกดึงกลับเข้าไปในวังวนอยู่ร่ำไป

เพราะความจริงเขาเป็นคนจากแดนไกล ไกลมากห่างกันคนละระนาบคนละแผ่นดิน ด้วยการยืมคราบร่างตัวตนของชินอ๋องน้อยผู้นี้ แม้การกินความเป็นอยู่ดี แต่หาใช่ตัวตนที่แท้จริงของเขาไม่ ตัวตนนี้ชวนหงุดหงิดน่ารำคาญชวนวุ่นวายจริง ๆ

เสียงฝีเท้าเร่งรีบเดินเข้าใกล้มาหาชินอ๋อง เป็นพระสนมและกลุ่มนางกำนัลที่เขาไม่ทราบระดับตำแหน่ง มีสีหน้าเหมือนถูกกระชากของรัก ใบหน้าเดี๋ยวแดงเดี๋ยวเขียวแทบจะวิ่งพุ่งเข้ามาหาเขา ทำให้เยี่ยหยางหยุดมือลง

ตอนนี้รอบกายเขาเต็มไปด้วยกลีบบุปผาสีสวยสดถูกฉีก บดขย้ำ เหยียบขยี้ นอนเกลื่อนกลาด น่าสงสารบนพื้นหญ้า

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status