“ใจเย็นๆ นีชา ไม่ต้องกลัว ไม่ถึงตายหรอกแค่เสียตัวเอง” เธอกล่าวปลอบใจตัวเอง เป็นคำพูดหยามหยันที่ได้ยินได้ฟังยังเจ็บจี๊ดๆ
แปลก!! รถยนต์จอดสนิทหน้าตึกสูงระฟ้า ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า ‘เบนิคอฟมอลล์’ เท่าไร เธอแหงนมองตัวตึกสูงระฟ้า เกล็ดหิมะล่วงหล่นใสหน้าจนรู้สึกเย็นจับขั้วหัวใจ
“เชิญครับมิส!! ทางนี้ครับ” ชายชุดดำที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม เขาผายมือบอกทางให้กับนีรนาท แล้วจึงเดินนำหน้า สายตาหลายคู่เหลือบมองผู้หญิงคนหนึ่งที่การแต่งตัวขัดกับสถานที่ เสื้อเก่าๆ ปอนๆ การแต่งกายที่ไม่เหมาะกับสถานที่โอ่อ่าและมันทำให้นีรนาทรู้สึกอาย หน้าเธอร้อนฉ่าด้วยความอายสุดขีด
ประตูลิฟต์ปิดลง ช่วยให้เธอหายใจหายคอสะดวกขึ้น เธอเหม่อมองทิวทัศน์ผ่านกระจกใส ที่เคลื่อนที่ขึ้นไปยังจุดหมาย ทุกอย่างรอบตัวมีแต่ความเงียบและความเงียบ ผู้ชายที่นำเธอมาเหมือนหุ่นยนต์มากกว่าคนมีชีวิต เขาทำงานตามคำสั่งมหาอำนาจด้วยความแข็งขัน หน้าเย็นชาและไร้จิตใจแบบสิ้นเชิง
“มิสต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและทำความสะอาดร่างกายก่อนครับ ผมเตรียมทุกอย่างไว้ในห้อง มิสมีเวลา สามสิบนาที ก่อนที่ท่านจะมาถึง”
นีรนาทฟังเงียบๆ เธอไม่ได้แย้งหรือทักท้วง หลังพูดจบ ชายผู้นั้นก็ถอยหลังออกจากห้องหรูๆ ที่เขาพาเธอมาทิ้งไว้รอเวลาถูกเชือด!!
ปลายนิ้วเล็กๆ เกลี่ยไล้ไปตามผิวผ้านุ่มๆ ของชุดเดรสสีขาวมุก ที่วางพาดอยู่บนที่นอนหนานุ่มกว้างใหญ่ ขนาดคิงไซส์ สวย!! เธอยอมรับว่ามันสวยเท่าที่เธอเคยเห็น เพราะสิ่งจำเป็นของเธอไม่ใช่เสื้อผ้าแพรพรรณ เพราะในชีวิตของเธอต้องดิ้นรนปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่เด็กๆ สิ่งของฟุ่มเฟือยจึงไม่เคยอยู่ในความต้องการ แม้บางครั้งนึกอยากได้อยากมีตามประสาผู้หญิงบ้าง ก็ต้องตัดใจเพราะสภาพคล่องทางการเงินของเธอไม่มี ต้องเก็บออมสตางค์ที่หามาด้วยความยากลำบากเก็บไว้ใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียน ยิ่งแม่มาด่วนจากไปด้วยแล้ว ภาระหนักๆ เหล่านั้นตกลงมาอยู่บนสองบ่าเธอแทบทรุด เลยต้องตัดความต้องการส่วนตัว เอาสตางค์เหล่านั้นมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และดูเหมือนว่าจะละลายหายไปในขวดเหล้าเป็นส่วนใหญ่
เธอเหลือบดูเวลา แล้วจึงก้มหน้าก้มตาปลดชุดที่มีแต่คนดูถูกกองไว้ข้างตัว พับเก็บและซุกไว้ เธอไม่คิดจะทิ้ง!!
สายน้ำอุ่นซ่านโปรยหล่นมากจากฝักบัวขนาดใหญ่ เธอรีบอาบน้ำชำระล้างร่างกาย และเป็นการอาบน้ำครั้งแรกที่ตัวเองชุ่มฉ่ำและไม่ต้องประหยัดน้ำ เมื่อไม่ต้องเจียดเงินมาจ่ายค่าไฟและค่าน้ำ ผิวกายขาวผ่องเป็นประกาย หลังอาบน้ำล้างตัวอย่างชุ่มปอด เธอยกผ้าเช็ดผมสีดำนุ่มเนียน เหลือบสายตามองเวลา แล้วจึงถอนหายใจแรงๆ
เหลืออีก 10 นาที...ก่อนที่เธอจะถูกเชือด...
เวลากระชั้นและใกล้จะหมดลง มือที่กำลังวาดลิปสติกสีอ่อนๆ บนขอบปากสั่นจนเจ้าตัวยังรู้สึก แม้จะเตรียมใจกับการกระทำแบบนี้ของตัวเองมาบ้าง แต่เมื่อใกล้ถึงเวลาจริงๆ เธอนึกอย่างวิ่งหนีเหมือนกัน ทำไม? ต้องเป็นเธอที่ต้องมารับผิดชอบกับความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ทำไมคนที่ก่อเรื่องขยันสร้างเรื่องให้เธอต้องคอยตามแก้อยู่เรื่อย...ทำไมล่ะทำไม?
เสียงถามที่ดังก้องอยู่ในหัว มันมีคำตอบชัดที่เธอเองก็รู้อยู่แก่ใจดี เพราะบุญคุณค้ำหัว เพราะเขาเป็นผู้ให้กำเนิด เธอไม่มีทางปฏิเสธความจริงข้อนี้ได้ เธอก็ต้องก้มหน้าทนต่อไป!!
“แด๊ด...คงไม่ทำให้นีชาต้องสูญเสียอะไรอีกแล้วใช่ไหมคะ?” เป็นคำถามที่เธอก็รู้คำตอบดี ไม่มีทางที่อีวานจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เขาก็ยังคงทำตัวเช่นเดิม และเธอก็ต้องก้มหน้ารับกรรมต่อไป
หยดน้ำตาไหลผ่านร่องแก้ม เธอรีบยกมือขึ้นปาดทิ้ง สูดลมหายใจแรงๆ เชิดหน้าขึ้น ใครจะดูถูกก็ช่าง มันเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยบิดาได้ และมันเป็นสิ่งที่ดีที่ถูกต้องที่สุด ใช่ไหมล่ะ?
ทันเวลาแบบเฉียดฉิว หญิงสาวเหลือบมองเวลา แล้วจึงลุกจากหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางใหม่แกะกล่อง แต่เธอใช้แค่แป้งพับกับลิปสติกแค่นั้น อย่างอื่นเธอใช้ไม่เป็น ทำได้แค่นี้จริงๆ
นีรนาทมองตัวเองผ่านกระจกเงา ผู้หญิงคนหนึ่งสวยงามและเต็มตรึงชวนมอง ผิวขาวผุดผาดเปล่งประกายสะท้อนแสงไฟ ชุดโปร่งบางและพลิ้วไหวยามที่ขยับตัว ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าเธอเปลี่ยนแปลงการแต่งตัวแค่นี้ เธอจะเปลี่ยนไปแบบน่าตกใจ และครั้งนี้คงเป็นครั้งเดียวที่เธอจะทำแบบนี้ เธอจะไม่ใส่เสื้อผ้าแบบนี้อีกตลอดชีวิต เพราะมันจะย้ำเตือนตัวเองให้รู้สึกอดสู
แกร๊ก...
เสียงประตูเปิดหลังจากที่เธอมานั่งสงบรออยู่ที่ห้องรับรองด้านนอก
นีรนาทปรือเปลือกตามองเจ้าของเสียงย่ำเท้าที่เดินเข้ามาภายในห้องด้วยมาดพญามาร ปางกระหายสวาทที่เธอแอบค่อนว่าอยู่ในใจ ร่างกายเธอแข็งเกร็ง ลมหายใจหอบกระชั้นเมื่อเผลอตัวสบนัยน์คมวาวคู่นั้น มันเปล่งแสงเรืองรองและดูเหมือนจะดึงดูดเธอเข้าไปในหน่วยตาทรงพลังคู่นั้นแบบไร้ทางสู้
“สวัสดี นีชา...เธอสวยยยย... สมกับความต้องการของฉัน ไม่เสียแรงที่ฉันยอมปล่อยปละเรื่องอีวาน” เสียงทุ่มนุ่มเอ่ยขึ้นช้าๆ เขาเดินมาหยุดเบื้องหน้าของนีรนาท
นีรนาทยิ้มแหยเก เธอวางหน้าไม่ถูกไม่รู้ต้องทำอย่างไรก่อน เมื่อเธอไม่เคยที่จะอยู่กับผู้ชายแปลกหน้าตามลำพังแบบสองต่อสองแถมรู้วัตถุประสงค์ของเขาเสียอีกด้วย
ปลายนิ้วเรียวสวยในแบบคนไม่เคยจับต้องงานหนักๆ เขาสอดนิ้วไปใต้ปลายคางกลมกลึง ยกช้อนขึ้นมาให้สบนัยน์ตากันและกัน โน้มตัวลงใกล้ๆ ฉุดดึงร่างอวบอัดที่เขาคะเนไว้ และมันไม่ผิดกับที่ตัวเองคาดการณ์ เธอลุกขึ้นยืนตามความต้องการของคนที่มีอำนาจมากกว่า ร่างอวบอุ่นยืนทรงตัวบนปลายเท้า เมื่ออยู่ๆ ดิมิทรีก็รวบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน เขาแนบริมฝีปากสีสดของตัวเองกับกลีบปากนุ่มนิ่ม ก่อนจะโน้มตัวบดขยี้เรียวปากนุ่มนิ่มด้วยความพึงพอใจ ‘จูบ’ สิ่งที่เคยฝันยามค่ำคืน อยากอยู่ในอ้อมกอดของใครสักคน? ที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย แต่ที่กำลังผจญอยู่นี้ มันเต็มไปด้วยความเร่าร้อน มันซ่านเสียวและทรมานจนหญิงสาวนึกหวั่นกลัว เธอจึงเกิดการต่อต้าน ตามประสาคนไม่เคย แต่มันกลับปลุกความกำหนัดของชายหนุ่มเขากลับยิ่งอยากจูบ อยากสัมผัสมากขึ้น ดิมิทรีเลยยิ่งกอดรัดคนที่ดิ้นรนให้แนบแน่นมากยิ่งขึ้นอีกนับเท่าตัว เขาย้ำพรมรอยจุมพิตทั่วหน้าที่พยายามจะเบี่ยงหนี...แต่ก็ไม่พ้น ความรู้สึกแปลกใหม่วิ่งวนไปทั่วท้องน้อยเมื่อชายหนุ่มซุกไซ้ปลายคางที่มีไรหนวดบางๆ กับผิวกายนุ่มนิ่มตรงลาดไหล่กลมกลึงและสูดกลิ่นหอมๆ ข้างซอกหู
นีรนาทครางฮือ ขาเธออ่อนยวบยาบ แทบทรุดลงไปกองกับพื้น ยังดีที่คนเพิ่งถอนริมฝีปากช่วยรับซ้ำยังพยุงรับน้ำหนักตัวเธอ ให้สามารถยืนด้วยปลายเท้าตัวเองได้ แต่ก็ยังไม่คลายวงแขนที่โอบรัดรอบเอวกิ่วออก
“ปะ... ปล่อยค่ะ...เอ่อ...นีชายังไม่เคยแต่ปล่อยนีชาก่อนได้ไหมคะ...นะคะ ให้เวลานีชาทำใจบ้าง...”“หึ หึ ฉันให้เวลาเธอมาทั้งวันแล้วเด็กน้อย ฉันคิดว่าเธอน่าจะพอทำใจได้บ้างแล้วนะ”“ค่ะ...เอ่อ นีชายอมคุณทุกอย่างอยู่แล้วค่ะ แค่ขอเวลาเพื่อทำใจบ้างเท่านั้นเอง”“แน่ใจเหรอเด็กน้อย ว่าเธอต้องทำใจ!!”ดิมิทรีชะโงกเข้าไปถามใกล้ๆ ใกล้เสียจนลมหายใจร้อนๆ ของเขาเป่ารดปลายจมูกเชิดโด่ง อยู่ๆ ในช่องท้องหญิงสาวก็ปั่นป่วน มันปวดมวนจนต้องรีบเบี่ยงหน้าหนี หน้าหวานแดงก่ำร้อนฉ่าและผิวแก้มคงขึ้นสีจัดมารยาผู้หญิงดิมิทรีเห็นมามากมาย จนไม่คิดว่าจะมีมารยาแบบไหนที่เขาไม่เคยคุ้น แต่...สิ่งที่เห็นตรงหน้า เป็นความแปลกแตกต่างที่เคยเจอ ผู้หญิงคนนี้มีอะไรบางอย่างไม่เหมือนกับที่เขาเคยเจอเป็นประจำ เธอมีความหวั่นกลัว และขลาดเขลาอ่อนแอ แต่เธอก็ยังเชิดหน้าสู้ แม้ร่างกายจะสั่นระริกเพราะความกลัว มันทำให้หัวใจหนุ่มแน่นเต้นแรง เพราะรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า มันเหมือนกับว่าเขากำลังกำหนดชะตาชีวิตของใครคนหนึ่ง และมันหมายถึงชนะ!!ร่างสั่นระริกในอ้อมแขน กลิ่นสาปสาวส่งกลิ่นหอมยวนใจ จนหัวใจพญาหมีขาวแห่งขั้วโลกเหนือเต้นพล่าน...เขาจะอุทิศตัว
ปลายยอดสีสุกปลั่งถูกอุ้งปากร้อนชื้นอ้างับ เขาดูดซึมความหวานฉ่ำและนุ่มหยุ่นเต่งตึง ฝ่ามือร้อนๆ เคลื่อนที่เขาครอบครองเต่งเต้าข้างที่เหลือ เขาเคล้นคลึงด้วยความพอใจ บีบบี้เหมือนกำลังนวดคลึงแป้งทำขนม ที่แน่นหนึบติดฝ่ามือแต่นุ่มเนียนละมุน ความรู้สึกหวามไหวไหลปร่าแผ่กระจายทั่วทุกตารางนิ้วของผิวกาย นีรนาทเกือบหลุดเสียงครางแปลกๆ น่าอายหลายต่อหลายครั้ง เมื่อรู้สึกสยิวซาบซ่านยามที่ถูกโลมลูบตามเนื้อตามตัว ทั้งๆ ที่ตั้งใจมั่นว่าจะไม่คล้อยตาม เขาอยากทำอะไรก็ปล่อยตามใจโดยที่เธอจะเฉยชาเป็นการสนองตอบ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ร่างกายของเธอแทบจะลุกเป็นไฟ ยามเมื่อถูกฝ่ามือใหญ่ๆ ลูบไล้สัมผัส ให้ตายเถอะ!! เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะถูกปลุกง่ายดายได้ถึงเพียงนี้ กระแสไฟอ่อนๆ วิ่งพล่านทั่วทั้งตัวมันจุดประกายบางอย่างที่เธอไม่เคยรู้ และมันกำลังทำให้เธออยากรู้สิ่งต่อไปที่กำลังจะมาถึง!!ชายหนุ่มสัมผัสความเต็มตึงด้วยความพึงใจ ยิ่งลูบไล้ยิ่งสัมผัส ทุกสิ่งอย่างล้วนถูกใจ จึงเดินหน้าเต็มกำลัง...เสียงคราวผะแผ่ว ดังรอดออกมาจากกลีบปากที่เม้มแน่น ตั้งแต่ความซ่านเสียวสาดใส่จนคนใจแข็งก็ยังลืมตน ดิมิทรียกยิ้มมุมปาก เขาพรมจุมพิตหนัก
บทที่4.เปลวไฟพิศวาสมือแข็งแรงยกชายชุดเดรสสีขาวขึ้นจรดปลายจมูก หลุบเปลือกตาลง แล้วสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่โชยออกมาจากเสื้อตัวนั้นเข้าปอดลึกๆ กลิ่นหอมหวานนั้นปะปนแผ่วเบารวมกับกลิ่นน้ำหอมประจำตัวของเขานั่นเองแม้กลิ่นจะเบาบางเพราะนีรนาทสวมไว้ไม่นาน แต่ดิมิททรีกลับสัมผัสได้อย่างชัดเจน เพราะกลิ่นนี้ เขาเพิ่งซุกไซ้สูดดมแบบคลั่งไคล้ เมื่อสักครู่ที่ผ่านมานั่นเอง เสียงทุ้มครวญครางเรียกหาเจ้าของกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ตราตรึงใจนั้นแผ่วเบาทว่าอ่อนหวานยิ่งนัก“นีชา...”ชายหนุ่มสะดุ้งโหย่ง!! เขารีบเหวี่ยงชุดเดรสในมือทิ้งไป สายตาคมกวาดมองรอบห้องที่เงียบผิดปรกติ หลังจากใช้เวลาทำใจพักใหญ่ในห้องน้ำเกือบสิบนาที“ไปไหนนะ?” ดิมิทรีรำพึงแผ่วๆ แต่ก็ไม่หยุดมองหาเจ้าของกลิ่นที่ทำให้เขาว้าวุ้นใจ เมื่อแม้แต่การป้องกันตัว ยังลืม!!ดิมิทรีเดินหาเจ้าหล่อนทั่วห้อง ไม่เห็นแม้แต่เงา? และตอนนี้เขากำลังโกรธจัด!! รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีความหมาย ถูกผู้หญิงทิ้งไปแบบไม่ให้ตั้งตัว ที่สำคัญเขายังไม่อิ่ม!! แต่ตกใจตัวเอง เลยขอถอยไปตั้งหลักก่อน...“พวกแกปล่อยเธอไปงั้นเหรอ!! ใครสั่งวะ?” อารมณ์เดือดพล่านวิ่งตามกระแสเลือดและมันเป็นครั้งแรก
“คุณดิมิทรีฝากมาให้...ผมเป็นคนของเขา” นีรนาทเกือบทิ้งกระดาษชิ้นนั้นไปแล้ว เพราะเธอคิดว่าหนุ่มๆ พวกนี้คงจะมาแนวเดียวกันคือการให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของเขามอบให้กับเธอ แต่มันผิดคาด เมื่อชื่อของคนๆ นั้นผ่านริมฝีปากหนาหยักนั่นมา...เธอแอบคลี่กระดาษเปิดอ่าน ถ้อยคำที่ผู้ชายร้ายกาจฝากมาถึง...มือสั่นระริก เมื่อตัวอักษรนั้นย้ำให้เธอรู้สึกด้อยค่า“ถ้าเกิดอะไรขึ้น ‘ฉัน’ จะไม่รับผิดชอบใดใดทั้งสิ้น เพราะฉันถือว่าจ่ายค่าตัวให้เธอแล้ว แต่เธอปฏิเสธเอง”มันเป็นสิ่งที่เธอกลัวเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไปเรียกร้องความรับผิดชอบจากเขานี่ เธอก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะมือสั่นระริกกำกระดาษจนเป็นก้อนกลมๆ ก่อนจะขว้างทิ้งด้วยความโกรธจัด!! เธอไม่เคยคิดจะสักนิด หากเกิดขึ้นจริงๆ เธอก็จะเลี้ยงดูเขาเองเมื่อเขาเป็นเลือดก้อนหนึ่งของเธอเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในชีวิตที่มีค่ากว่าที่ผู้ชายใจร้ายคนนั้นจะคาดถึงนีรนาทฝืนใจกลับไปทำงาน เธอปัดความรู้สึกกังวลทิ้งไป พยายามที่จะไม่ใส่ใจเมื่อสิ่งที่กลัวยังไม่เกิดขึ้นเสียหน่อย... เธอยังต้องกินต้องใช้ หากมัวแต่กลัวใครจะหาเงินค่าใช้จ่ายในบ้าน เมื่อบิดาไม่สามารถพึ่งได้เหมือนคนอื่นๆ
บทที่5.ทาสสาวฉ่ำหวาน‘ความร้อนรุ่มที่ได้รับจนแทบทะลักล้นอก กว่าจะรู้ตัว ผู้หญิงคนนั้นก็เขามาแอบอยู่ในซอกมุมหนึ่งของหัวใจเขา... รสสวาทหวานล้ำยังตราตรึงฝังแน่นอยู่ในใจ อยากจะกลับไปลิ้มรสหวานฉ่ำนั้นอีกครั้ง แต่หล่อนกลับเล่นตัว เธอยอมเพราะความจำใจ ไม่ได้เพราะความเสน่หา’ดิมิทรีกระวนกระวาย รสสวาทที่ได้รับเพียงครั้งเดียวยังตราตรึงใจ อยากชิมรสหวานหอมนั่นอีกครั้ง แต่ทำไม่ได้ มันทำให้เขากระสับกระส่าย วนเวียนหาที่ระบายออก แต่...ไม่เคยทำได้สำเร็จสักที เพราะไม่ว่าจะหาใครมาแทนที่นีรนาท เขาก็ไม่ได้รับรสชาติหวานล้ำแบบนั้นเลยสักครั้งหลังจากกระวนกระวายอยู่หลายวัน ดิมิทรียอมอาย!! เขาบัญชาการการ์ดส่วนตัวให้ไปเชื้อเชิญนีรนาทมาหาตัวเองอีกครั้ง และครั้งนี้ไม่อั้น หากหล่อนยังเล่นตัวเหมือนเดิม ค่าตัวแพงแสนแพงเขาสู้ไม่ถอย!!3 ชั่วโมงผ่านไป...ชายหนุ่มรุ่มร้อน เขานั่งไม่ติดเก้าอี้ เดินพล่านไป...พล่านมาเหมือนมีหนอนตัวเล็กๆ มาชอนไชอยู่ใต้ฝ่าเท้าก๊อกๆ...“เข้ามาสิวะ เคาะประตูทำห่าอะไร ชักช้าฉิบหาย!!” ยิ่งกำลังอารมณ์ไม่ดีบรรดาลูกน้องดันเสือกมีมารยาทเสียอีก“เป็นอะไรไปลูก หงุดหงิดเรื่องอะไรกันจ๊ะ เสียงเขียวเชียว”
“ครั้งนี้ฉันทุ่มไม่อั้น!! เธออยากได้เงินเท่าไรฉันไม่เกี่ยง ขออีกครั้งเดียวแก้อยาก...ฉันเปิดโอกาสให้เธอถลุงได้เต็มที่” ชายหนุ่มบีบข้อมือของนีรนาท เขาพูดช้าๆ พร้อมทั้งจ้องหน้าเธอแบบตาไม่กะพริบ“ขอบคุณสำหรับความหวังดี แต่...ไม่ขอรับไว้ค่ะ นีชายังไม่อดตายถึงขนาดต้องขายตัวกิน” เธอเชิดหน้าขึ้นเมื่อพูดจบ เมื่อไม่สามารถปลดพันธนาการที่ข้อมือได้ก็ต้องต่อสู้ด้วยสงครามความเงียบ แต่เป็นการคิดผิด!!เมื่อชายหนุ่มหน้ามืดไปเสียแล้ว กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยยั่วอยู่แค่ปลายจมูก ใส่พานมาถึงที่ไม่จัดการก็จะเสียเชิงชาย...ริมฝีปากหนาหยักฉกวูบ!! เขาทาบทับกลีบปากหวานหอมที่หมายตา แบบที่เจ้าตัวยังคาดไม่ถึง นีรนาทเบิกตากว้างเธอเบี่ยงหน้าหนีแต่ก็ไม่ทัน พยายามจะดิ้นให้หลุดพ้น แต่ดูเหมือนว่าเป็นการกระทำที่คิดผิด เมื่อการดิ้นก็เท่ากับการเพิ่มอารมณ์กลัดมันให้กับอีกฝ่ายเพราะร่างกายส่ายเบียดเสียดสีกันจนร้อนฉ่า ดิมิทรีหลงเพลิด จากแค่คิดจะสั่งสอนให้เธอหลาบจำ ตอนนี้ชายหนุ่มถลำลึก เขาจมดิ่งในห้วงเหวของเปลวไฟปรารถนา ที่ลุกกระพือลามเลียผิวกายจนร่างกายเขากระสันซ่านมือใหญ่วนเวียนลูบไล้ เขาทั้งจับทั้งคลำขยำขยี้ ฟ้อนเฟ้นผิวกายภายนอกเร
บทที่6.บทลงโทษของคนที่ฝ่าฝืนคำสั่งชายหนุ่มปรนเปรอเธอด้วยมือและลิ้น เขาจงใจปลุกกระแสเลือดของหล่อนให้ร้อนรุ่มจนลืมแม้แต่ความอาย“มันทรมานค่ะ นีชา...ไม่ไหวแล้ว ช่วยนีชาด้วยนะคะ” นีรนาทไม่รู้ตัวเอง...เธอเอ่ยปากขออะไรออกไป? เธอทราบเพียงแต่ว่าตอนนี้ เวลานี้เธอกำลังจะขาดใจตายอยู่แล้ว และต้องการความช่วยเหลือจากเขาอย่างเร่งด่วนที่สุด“จะให้ช่วยอย่างไรล่ะคนสวย ฉันพร้อมจะสนองให้เธอเต็มที่ แต่เธอต้องช่วยฉันด้วยเหมือนกัน ตกลงไหมล่ะ” ดิมิทรีพูดเสียงแหบปร่า กรีดปลายนิ้วยั่วหยอกกลีบดอกไม้ฉ่ำน้ำค้าง และสัมผัสลูบไล้บีบคลึงทั้งสองเต้าอย่างมันมือ ปลุกอารมณ์สวาทของคนตัวเล็กกว่าให้ลุกโชนยิ่งๆ ขึ้น“ค่ะ...ได้... ช่วยนีชาที นีชาไม่ไหวแล้ว” นีรนาทพยักหน้ารับ ด้วยความไร้ประสบการณ์ เธอกำลังพ่ายแพ้ต่อฤทธิ์มนตร์สวาทอย่างหมดรูป“ได้เลยคนสวย อยากให้ฉันเข้าไปในตัวเธออย่างนั้นสิ เธออยากให้ฉันปลดปล่อยความทรมานที่เกิดขึ้นนี่ถูกไหม ฉันเข้าใจแบบนี้ถูกไหมล่ะ” ดิมิทรีลากนิ้วชี้จากร่องอกไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ ผ่านลำคอที่เส้นชีพจรกำลังเต้นตุบๆ ก่อนไปหยุดที่กลีบปากที่บวมช้ำเพราะรสจูบที่เขามอบให้“ใช่ไหม? นีชา หากเธอไม่ตอบฉันจะหยุด
“แน่ใจเหรอ? นีชา แน่ใจเหรอว่าพอ...แต่ฉันว่าไม่ อ่า...” ดิมิทรีครางเสียงแหบๆ ร่างกายแข็งเกร็งเร่งขยับเอวสอบถี่ยิบ ไม่สนใจแรงต่อต้านจากคนตัวเล็ก ที่พยายามหยุดเขาด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิด ชายหนุ่มตัดความรำคาญ เขารวบสองขาเพรียวเกาะเกี่ยวสะโพกสอบของตัวเอง รวบมือน้อยๆ ชูไว้เหนือศีรษะเจ้าหล่อนพร้อมทั้งกระทั้นกายหนักๆ เร่งกำลังดั่งม้าศึก เพื่อไปถึงเส้นชัยก่อนที่จะหมดแรง...มันคงเป็นวันที่เธอต้องจำไปอีกนาน ดิมิทรี เบนิคอฟ สมกับฉายายอดนักรัก เขาควบขับแบบไม่มีแรงตก สาดใส่ความร้อนแรงให้กับเธอ จนได้แต่ครางเสียงกระเส่า เมื่อความกระสันแล่นพล่านไปตามกระแสเลือด ร่างกายเธอสมยอมเขาแบบดุษฎี ไม่ว่าชายหนุ่มจะพลิกแพลงแบบไหน เธอยินยอมก้าวตามด้วยความหลงละเมอ“อย่าทำแบบนี้ ได้โปรดพอเถอะ!!” คนตัวเล็กเอ่ยห้ามเสียงแผ่ว เธอไม่ได้รังเกียจสัมผัสของชายหนุ่มเหมือนเก่า แต่เธอเหนื่อยจนใกล้จะขาดใจ ความร้อนแรงของเขาเขย่าหัวใจเธอให้โยกคลอนรุนแรงชายหนุ่มอมยิ้ม เขามองผิวกายสีระเรื่อ เมื่อกระแสเลือดถูกเขาผลักดันจนแล่นพล่านทั่วทั้งตัว ผิวขาวผ่องเปลี่ยนสี กลายเป็นระเรื่อด้วยสีแดงจัด แต่มันเย้ายวนชวนให้รื่นรมย์เกมสวาทดุเดือดเลือ