“แน่ใจเหรอ? นีชา แน่ใจเหรอว่าพอ...แต่ฉันว่าไม่ อ่า...” ดิมิทรีครางเสียงแหบๆ ร่างกายแข็งเกร็งเร่งขยับเอวสอบถี่ยิบ ไม่สนใจแรงต่อต้านจากคนตัวเล็ก ที่พยายามหยุดเขาด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิด ชายหนุ่มตัดความรำคาญ เขารวบสองขาเพรียวเกาะเกี่ยวสะโพกสอบของตัวเอง รวบมือน้อยๆ ชูไว้เหนือศีรษะเจ้าหล่อนพร้อมทั้งกระทั้นกายหนักๆ เร่งกำลังดั่งม้าศึก เพื่อไปถึงเส้นชัยก่อนที่จะหมดแรง...
มันคงเป็นวันที่เธอต้องจำไปอีกนาน ดิมิทรี เบนิคอฟ สมกับฉายายอดนักรัก เขาควบขับแบบไม่มีแรงตก สาดใส่ความร้อนแรงให้กับเธอ จนได้แต่ครางเสียงกระเส่า เมื่อความกระสันแล่นพล่านไปตามกระแสเลือด ร่างกายเธอสมยอมเขาแบบดุษฎี ไม่ว่าชายหนุ่มจะพลิกแพลงแบบไหน เธอยินยอมก้าวตามด้วยความหลงละเมอ
“อย่าทำแบบนี้ ได้โปรดพอเถอะ!!” คนตัวเล็กเอ่ยห้ามเสียงแผ่ว เธอไม่ได้รังเกียจสัมผัสของชายหนุ่มเหมือนเก่า แต่เธอเหนื่อยจนใกล้จะขาดใจ ความร้อนแรงของเขาเขย่าหัวใจเธอให้โยกคลอนรุนแรง
ชายหนุ่มอมยิ้ม เขามองผิวกายสีระเรื่อ เมื่อกระแสเลือดถูกเขาผลักดันจนแล่นพล่านทั่วทั้งตัว ผิวขาวผ่องเปลี่ยนสี กลายเป็นระเรื่อด้วยสีแดงจัด แต่มันเย้ายวนชวนให้รื่นรมย์
เกมสวาทดุเดือดเลือดพล่านจบลงในที่สุด เขาตลบผ้าห่มปิดร่างเปลือยที่ชวนให้ลงไปนอนคลุกเคล้าไม่เลิก แต่เวลานี้เธอคงเหนื่อยจับจิตจึงหลับคาแผ่นอกเขา ดิมิทรีจึงจำใจยอมล่าถอย ไม่เช่นนั้นหากอยู่ใกล้ๆ คงได้ต่ออีกยกสองยก เมื่อยังไม่รู้สึกอิ่มในรสรักระหว่างกันและกัน
ชายหนุ่มหยัดกายลุกขึ้นยืน เขาคว้ากางเกงขึ้นมาสวมลวกๆ ยกมือหนาเสยลูกผมและถอยหลังเดินห่างออกมา หากอยู่ใกล้ๆ แม่เน่งน้อยแสนหวาน มันก็ไม่แน่ที่เขาจะกลับลงไปฟัดเจ้าหล่อนซ้ำอีกครั้ง ชายหนุ่มเปิดประตูห้องนอนเล็กๆ ออกมาด้านนอก เหล่าการ์ดหน้านิ่งหลบสายตาเขาวูบๆ วาบๆ จะอะไรเสียอีกล่ะ!! ก็ทั้งตัวของดิมิทรีมีแต่รอยเล็บ เมื่อคนตัวเล็ก ด้านในกว่าจะสยบได้ หล่อนข่วนเขาจนลายพร้อยไปทั้งตัว แต่มันก็สนุกดี!! เห้ย!! เขากลายเป็นคนซาดิสต์ไปตั้งแต่เมื่อไร ชอบให้คู่นอนต่อต้านหรือออกแรงหรือไงกัน
“หิว...มีอะไรกินบ้าง” ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาบุนวมเนื้อดี เขายกปลายเท้าขึ้นพาดบนขอบโต๊ะ ทำตัวเหมือนเด็กเกเรเป็นครั้งแรก หลุดภาพคุณชายผู้เพียบพร้อม
การ์ดหนุ่มทำหน้าปั้นยาก เขากลอกตาก้มมองพื้น และตอบกลับเจ้านายหนุ่มแผ่วๆ
“ผมให้คนเตรียมไว้แล้วครับ เจ้านายหายเข้าไปในนั้นนานเกิน 3 ชั่วโมง เลยให้เขายกไปเก็บก่อน”
ชายหนุ่มเบ้ปาก เขาไหวไหล่กวนๆ นี่เขาใช้เวลากับนีรนาทแม่สาวน้ำแข็งคนนั้นนานขนาดนี้เชียวรึ!!
“ไปเอามาไป!! หิวจะแย่” ชายหนุ่มโบกมือไล่ เขาหิวจนไส้กิ่ว หมดแรงจะยืนและขาเริ่มสั่นๆ ต้องหาอาหารมาเสริมพลังงานในร่างกายเสียก่อนที่จะขายขี้หน้าล้มพับไปให้อายลูกสมุน
“เจ้านายหาเสื้อใส่ดีกว่าไหมครับ...เผื่อใครเข้ามาพรวดพราด” เสียงแนะนำด้วยความหวังดีของลูกน้องใต้สังกัด ชายหนุ่มจึงกระตุกยิ้ม เพราะคนที่กล้าเข้ามาหาเขา จะเป็นใครอีกล่ะ ถ้าไม่ใช่...มาดามโรส เบนิคอฟ
“ไอ้ตัวแสบ...ยกเลิกประชุมแล้วขลุกอยู่แต่ในห้อง มีอะไรน่าสนใจอยู่ในนี้เหรอไง?” เสียงที่ชินหู เขาได้ยินตั้งแต่ลืมตาดูโลก มาดามโรสบ่นอุบ เรื่องดิมิทรีโดดการประชุม มีเสียงกระซิบจากวงในว่าเขาไม่ได้ไปไหน!! แต่หมกตัวอยู่ในห้องทำงาน เธอจึงต้องมาดูให้เห็นกับตา...
“มัม!!” ชายหนุ่มกลัดกระดุมเม็ดสุดท้ายเสร็จพอดี เขาหมุนตัวกลับมาและตีสีหน้าเรียบสนิท
“ไปไหนมา ทำไมเกงาน รู้ไหม? ว่าเป็นครั้งแรกที่มัมต้องรับมือพวกนั้นคนเดียว เราก็น่าจะรู้นะ พวกนั้นน่ะเขี้ยวลากดินขนาดไหน!!”
“ผมรู้ครับว่าแต่ละคนเขี้ยวโง้ง แต่...จะสู้มาดามโรสที่เขี้ยวลากดินกว่าได้ยังไง ผมเลยไม่ต้องกังวลหากมัมจะเข้าฟังการประชุมเพียงคนเดียวครับ”
“ยะ!! ถ้าฉันไม่เก่ง จะเลี้ยงแกมาจนโตป่านนี้ได้รึ!! ว่าแต่อาบน้ำใหม่ใช่ไหม ไปทำอะไรมา มัมแน่ใจนะ ดิมิทรี ว่าเราไม่ได้ใส่ชุดนี้ออกมาจากบ้าน” เธอเอียงคอมองลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เขาอยู่ในชุดสูทตัวใหม่และที่สำคัญไม่ใช่ตัวเดิมที่ใส่ออกมาจากบ้านพร้อมเธอ
“เผลอหลับไปนะครับมัม เหงื่อชุ่มไปหมด ก็เลยเปลี่ยนใหม่” ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาเดินอ้อมมาดามโรส ไปทรุดตัวนั่งหลังโต๊ะทำงาน
“หลับ!! เมื่อคืนลูกก็นอนตั้งแต่หัวค่ำ ไปเพลียอะไรมานักหนา” ดวงตาคมเฉี่ยวมองลูกชายจริงๆ จังๆ ค้นหารอยพิรุธที่ดิมิทรีหลบซ่อนเอาไว้
“ไม่รู้สิครับ ช่วงนี้หลับบ่อยๆ นึกอยากนอนเฉยๆ” อาการชายหนุ่มฟ้องแค่ยังไม่มีใครรู้สาเหตุแค่นั้น?
“เหรอ...หมู่นี้ไม่ค่อยเห็นออกไปแรดๆ เหมือนเดิม เบื่อหรือไงล่ะ” มาดามโรสหยอกลูกชายเล่นๆ เพราะช่วงหลังๆ รู้สึกว่าบุตรชายอยู่ติดบ้านมากกว่าเก่าไม่ค่อยออกไปสังสรรค์กับสาวน้อยสาวใหญ่ที่ควงออกงานจนเกลื่อน
“ครับ มันเหนื่อยง่าย อยากนอนอย่างเดียว”
“โฮ๊ะๆ ถ้าแกมีเมียนะไอ้แสบ แกต้องแพ้ท้องแทนเมียแน่ๆ ไอ้อาการง่วงเหงาหาวนอน เอะอะนอนท่าเดียวนี่ มันเข้าข่าย” มาดามโรสหัวเราะร่า เธอฉวยกระเป๋าสะพายเตรียมจะออกไปช็อบปิ้งตามประสาผู้หญิง เสียงหัวเราะดังก้องจนคนที่นอนหลับอยู่ด้านในสะดุ้งตื่น...และหากมาดามโรสรู้...อีก 5 ปีต่อมาเธอจะได้พบกับจอมแสบ ที่ไม่น้อยหน้าลูกชายสักนิดเดียว ถึงจะเป็นคนละเพศก็ตาม เมื่อสายเลือด ‘เบนิคอฟ’ เข้มข้นเสมอ
ชายหนุ่มทำหน้าเหมื่อย เมียยังหาไม่ได้เลยจะมีลูกได้ยังไง ผู้หญิงแต่ละคนเข้ามาเพราะเห็นว่าเขากระเป๋าหนัก มีเงินทองให้พวกหล่อนจับจ่าย บวกกับความรักสบายของพวกหล่อน เขาเลยขายดีเป็นพิเศษเมื่อมีแต่คนมาอ่อยให้ตลอด แต่มันน่าเบื่อ!! บอกตรงๆ
นีรนาทกะพริบเปลือกตาปริบๆ เธอสะดุ้งตื่นเพราะเสียงหัวเราะแหลมๆ หญิงสาวรีบผุดลุกขึ้นนั่ง เธอตะครุบชายผ้าห่มแทบไม่ทัน เมื่อรู้สึกเย็นวาบ ตลอดลำตัว...
เธอเหลียวมองนาฬิกาแล้วจึงเบิกตาโต มือเล็กๆ กุมชายผ้าแน่นๆ รีบกุลีกุจอมองหาเสื้อผ้าตัวเอง และรีบกระถดตัวลงจากเตียงเพื่อสวมเสื้อผ้าห่อคลุมร่างกายเปลือยเปล่า มือเล็กๆ วางแนบเนินหน้าท้อง ‘เขา’ ยังอยู่และคนเป็นพ่อก็ไม่รู้ว่ามี ‘เขา’ หญิงสาวสูดลมหายใจแรงๆ เธอควานหาเสื้อตัวเก่ามาใส่ได้สำเร็จ หน้าซีดเผือด เหงื่อผุดซึมเต็มหน้าผากโหนกนูน เธอมองหาช่องทาง ‘หนี’ เพราะมันอันตรายเกินกว่าจะสู้กับคนเอาแต่ใจตัวเองได้ แต่เธอจะออกไปอย่างไร? โดยไม่ผ่านหน้าคนบ้ากามคนนั้น หญิงสาวเดินวนไปวนมาพยายามหาทางออกให้ตัวเอง เธอเหลือบเห็นประตูด้านข้างที่เปิดออกไป และเจอห้องชงกาแฟ
มือสั่นๆ เอื้อมเปิด เธอจรดปลายเท้าเบากริบ รีบเร้นกายออกจากห้องนอนเล็ก ย้ายตัวเองไปอยู่ในห้องชงกาแฟ และรอเวลา...
ดิมิทรีเจริญอาหารเป็นพิเศษ เขากินและก็กิน เติมพลังเต็มที่ เพราะจะกลับไปฟัดนีรนาทซ้ำอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะไม่กลับไปซ้ำรอยเดิม เพราะเบื่อสุดๆ นอกห้องไร้ผู้คน เมื่อหมดเวลางาน พวกพนักงานด้านนอกแยกย้ายกันกลับบ้าน นอกห้องทำงานของท่านประธานจึงเงียบเฉียบและว่างเปล่า
นีรนาทย่องกริบออกมาหลังจากมองดูจนแน่ใจว่าไม่มีใคร? เหลืออยู่ เธอเดินปะปนไปกับคนงานที่ทยอยเดินทางกลับบ้านผ่านสายตาการ์ดของดิมิทรีไปอย่างเฉียดฉิว!!
พูว์... หญิงสาวตลบฮู้ดขึ้นคลุมศีรษะ เธอเดินก้มหน้าพยายามไม่สนใจสายตาของเพื่อนร่วมทางที่หันมาจ้องมองเธอเป็นตาเดียว เพราะสภาพของนีรนาทเหมือนถูกรุมทึ้ง ริมฝีปากบวมเจ่อขึ้นสีจัด มีริ้วรอยจางๆ บนผิวขาวผ่อง ที่โผล่พ้นผิวผ้า...แถมสภาพยังโทรมสุดขีดและเป็นคนแปลกหน้าที่เข้ามาแบบไม่มีที่มาที่ไป?
อิ่ม...อิ่มอย่างที่ไม่เคยอิ่มแบบนี้มาก่อน เพราะกำลังหิวจัด เขาจึงกวาดอาหารตรงหน้ากินด้วยความหิวโหยจนหมดเกลี้ยง!!
บทที่7.พายุเดือด เดือดจนเส้นกระตุก!! โมโหจนแทบกระอัก อยากจะทำลายทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแต่มันไม่ใช่ที่ ชายหนุ่มยกสองมือขึ้นท้าวเอว เขาหมุนตัวมองไปที่ผนังกระจกใสแจ๋ว สายตาเรืองรองเต็มไปด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธ เป็นอีกครั้งแล้วที่ ‘ผู้หญิงคนชั้นต่ำคนนั้น’ ทิ้งเขาไป โดยไม่รอคำอนุญาต เธอกล้าดีเกินไปล่ะ “เจ้านายจะทำไงต่อครับ” “ช่างเถอะ!! ดีเหมือนกันไม่เปลือง” ชายหนุ่มกระแทกเสียงตอบ ใช่ว่าเขาจะอดอยากปากแห้งเมื่อไร ผู้หญิงมากมายเกลื่อนมอสโก แค่กระดิกนิ้วเรียกขี้คร้านจะถลาเข้ามาเกินสิบคน!! แล้วทำไม เขาจะต้องไปตอแยกับคนที่ไม่ได้เลิศเลอกว่าใครเลย แค่ผู้หญิงข้างทางที่หมดความหวานแล้วด้วยซ้ำ ใช่เหรอ? “ครับ” “เตรียมรถ ฉันจะไปสโมสร” เขาจะแสดงให้เธอรู้...เธอไม่ใช่คนสำคัญที่เขาจะต้องไปคอยตอแย ไม่เอาเงินค่าตัวก็ดี...ไม่เปลืองด้วย ความขุ่นข้องหมองใจยังคงค้างอยู่ในหัวใจ ดิมิทรีจึงไม่สนใจสาวสวยหลายนางที่ส่งสายตาทอดสะพานให้ เขาดื่มเหล้าเหมือนดื่มน้ำเปล่า เพื่อลดทอนความโกรธที่กำลังปะทุอยู่ข้างในใจ ดวงตาสีมรกตขุ่นมัว มันกรุ่นๆ จวนจะเดือด
“เอาเป็นว่า...ผมตอบคำถามนี้ของมิสไม่ได้ครับ เพราะผมไม่รู้? แต่หากมันหลุดรอดไปถึงหูคนอื่น...โดยเฉพาะนักข่าว...ผมจะถือว่ามันมาจากปากของมิส และผมคงต้องจัดการเก็บกวาดแทนเจ้านาย มิสคงไม่อยากให้เป็นแบบนั้นใช่ไหมครับ!!” เสียงเย็นเฉียบพูดตอบ เขามองสบนัยน์ตาเจ้าหล่อนเป็นการข่มขู่กลายๆ“โอ้ย!! รู้หรอกน่าซูซานไม่ใช่คนช่างพูด แค่อยากรู้” เจ้าตัวรีบแก้ตัวเสียงอ่อยๆ แม้จะกังขาแต่ก็ไม่กล้าที่จะสืบค้นเพราะมันเป็นเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นชายที่อาจทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต หญิงสาวรีบสะบัดก้นหนี แม้จะไม่ได้สนองอารมณ์หนุ่มในฝันอย่างที่ตัวเองต้องการ แต่ค่าตอบแทนก็ไม่ได้น้อยหน้า เจ้าตัวเลยรีบชิ่งหนีก่อนจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง“พี่ๆ เจ้านายเป็นอะไร?” หลังต้นตอปล่อยข่าวหายลับไปในอาพาร์ทเม้นท์ของเจ้าหล่อน เหลือแต่การ์ดของชายหนุ่ม เขาสุมหัวซักถามกันเป็นการใหญ่“จะไปรู้รึ!! ไม่ได้นอนกับเจ้านายนี่หว่า...อยากรู้เดี๋ยวกลับไปถึงแกถามเจ้านายเอาเองก็แล้วกัน”“หู้ย!! จะได้ตายฟรีดิลูกพี่..อารมณ์อย่างกับคนท้อง ดีๆ อยู่พัก หงุดหงิดอีกแล้ว ทำตามไม่ทันใจเลยคร๊าฟ” ลูกสมุนบ่นเสียงอุบอิบ ส่งค้อนประหลำประเหลือกให้ลูกพี่หัวหน้าทีม
บทที่1.เด็กสาวไม้ขีดไฟสายตาแสนเศร้าแหงนมองยอดตึกสูงตระหง่าน ตึกใหญ่ที่เป็นห้างสรรพสินค้ากลางกรุงมอสโก เธอได้แต่มองและแอบฝัน สักวันหนึ่งเธอจะไปทำงานในที่แห่งนั้น ชีวิตความเป็นอยู่ของเธอจะได้ดีขึ้น ได้แต่งตัวสวยๆ แทนชุดเก่าเก็บที่เต็มไปด้วยคราบแป้งทำขนม นีรนาท โบรีส สาวลูกครึ่งที่น่าสงสาร มารดาเสียชีวิตเพราะไม่สามารถทนกับความเปลี่ยนแปลง ป่วยกระเสาะกระแสะจนสิ้นใจเมื่อเธออายุได้ 15 ปี ทิ้งให้หญิงสาวอยู่กับบิดาแท้ๆ นายอีวาน โบรีสที่แสนขี้เกียจ เอาเปรียบเมียและลูกกินแต่เหล้า โดยอ้างว่าเสียใจที่ภรรยาเสียชีวิตหญิงสาวจึงเติบโตขึ้นมาอย่างอัตคัด เมื่อต้องเก็บออมเงินจากการรีดไถของบิดา ที่ทำงานเป็น รปภ. อยู่ที่ห้างสรรพสินค้า แต่ขาดงานเป็นประจำจนหัวหน้างานไล่ออกเพราะไม่อยากเก็บคนที่ขี้เกียจและสติไม่ค่อยเต็มร้อยมาทำงาน เพราะอาจสร้างปัญหาให้กับเขาและองค์กรก็เป็นได้...อีวานจึงสาปส่ง ด่าทอเจ้าของห้างสรรพสินค้าเป็นประจำยามเขาเมามาย ทั้งๆ ที่ตัวเจ้าของเองก็ไม่รู้...“นีชา...จะเอานี่กลับไปกินด้วยหรือเปล่า แป้งเหลือเยอะแยะเลย” เจ้าของร้านสาวใหญ่ใจดี เธอเมตตาและแอบมอบอาหารการกินให้เธอเป็นประจำ“ขอบคุณค่ะ
“แม่จ๋านีชาเรียนใกล้จบแล้ว...เสียดายจังแม่ไม่อยู่ในวันที่นีชาประสบความสำเร็จ...แม่รอดูนีชานะจ๊ะ นีชาจะหางานดีๆ ทำและจะพาแม่กลับไประเทศไทย” ความฝันสูงสุดในวันที่ชมนาดสิ้นใจเธออยากกลับบ้านเกิด และนีรนาทรับปากว่าจะต้องทำให้ได้!!เด็กหญิงไม้ขีดไฟมีชีวิตแสนรันทด นีรนาทเองก็เช่นกันไม่ต่างอะไรกับเด็กหญิงที่ต้องขายไม้ขีดไฟเพื่อหาเงินค่าอาหารสักนิด เธอต่อสู้ดิ้นรนมาตั้งแต่มารดาเสียชีวิต เพื่อหาอาหารเลี้ยงปากท้องตัวเองและบิดา!!เสื้อผ้าของใช้ไม่เคยได้ซื้อเพิ่มมาใหม่ ดีแต่ว่าได้รับการอนุเคราะห์จากเพื่อนบ้าน ที่สงสารเธอ เมื่อตัวเธอต้องเก็บซ่อนเงินเอาไว้เพื่อการเรียน จนไม่อยากซื้อหาอะไรนอกจากสิ่งจำเป็นจริงๆ เธอเอนกายลงนอนโดยกอดเสื้อของแม่ไว้ ขดตัวใต้ผ้าห่มเก่าๆ ของแม่ ก่อนจะหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย“นีชา...เอาสตางค์มาให้กูสิ กูจะไปซื้อเหล้า” เสียงโวยวายของอีวานดังขึ้น เมื่อเขาตื่นเต็มที่ ชายสูงวัยรูปร่างท้วม ผมบนศีรษะเหลือแค่ครึ่งเดียว ปลายจมูกแดงก่ำ นัยน์ตาฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ยังคงค้างอยู่ในร่างกายหญิงสาวงัวเงียตื่นขึ้นมา เธอเหลือบมองเวลาที่นาฬิกาเล็กๆ หัวนอน ‘พึ่งจะตีห้าครึ่ง’ เธอพึ่งน
บทที่2.เจ้าชายน้ำแข็ง“พูดมาสลาฟส์ ใคร?” น้ำเสียงเย็นเฉียบยิ่งกว่าเกล็ดหิมะด้านนอกตัวอาคาร ชายสูงวัยหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ จากข้อมูลที่สืบทราบ เขาเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน ว่าจะใช่คนคนนั้น?!! “อีวาน...โบรีส อดีต รปภ. ที่เคยทำงานที่ห้างสรรพสินค้าครับท่าน เขาถูกไล่ออกเพราะเมาสุราขณะทำงาน”“อดีต!! รปภ. ที่ถูกไล่ออก!! แล้วไอ้หมอนั้นมันต้องการอะไร?”“ผมยังไม่รู้ครับ ว่าเขาต้องการอะไรในการลงมือทำครั้งนี้ ความจริงเขาออกไปเป็นปีๆ หากมีเรื่อแค้นเคืองก็น่าจะลงมือตั้งแต่เกิดเรื่องใหม่” สลาฟส์วิเคราะห์ตามข้อมูลที่รู้มา เขาแปลกใจพอๆ กับทุกคนที่อยู่ในทีมสืบสวน“เอาตัวไอ้หมอนั่นมาให้ผม ผมจะสอบสวนมันเอง!! ให้มันรู้ไปสิว่ามันกล้า...” ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืน เขาต้องมาเสียเวลาที่แสนจะมีค่าไปกับเรื่องไร้สาระ แค่คนงานชั้นล่างสุด ก่อเรื่อง แต่มันเป็นการกระทำที่ทำให้เขาเสียรายได้มหาศาล สร้างความขุ่นเคืองในหัวใจ จนไม่อาจปล่อยวางเรื่องนี้ไปง่ายๆ ได้“ครับ” สลาฟส์รับคำเสียงหนักๆ เขาเองก็อยากรู้ว่าอีวานต้องการอะไร ชายแก่นั่นจมอยู่กับกองขวดเหล้า แล้วจู่ๆ ไอ้หมอนั่
แสงไฟฟ้าสว่างจ้า นีรนาทรีบสาวเท้าให้เร็วขึ้น เธอผลักบานประตูจนสายลมเย็นเฉียบไหลกรูเข้าไปภายใน เจ้าหน้าที่หันมามองเธอเป็นตาเดียว เพราะเวลามันดึกเกินว่าจะมีใครมาทำธุระที่สถานีตำรวจ“ขอโทษคะ อีวาน โบรีส อยู่ที่นี่ไหมคะ? หนูเป็นลูกสาวเขาอยากขอประกันตัว” เสียงถามปนเสียงหอบ เพราะเจ้าตัวรีบมาเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้“อีลูกไม่รักดี ปล่อยให้กูนอนอยู่ในนี้ตั้งหลายชั่วโมง มึงไปมุดหัวอยู่ไหนมา!!” สองมืออีวานเกาะซี่ลูกกรง เขาแผดเสียงก้องด่าทอนีรนาทเมื่อเห็นบุตรสาวปรากฏตัวขึ้นมาเคล้งๆ...“หุบปาก!! ยังจะปากดีอีก ต่อให้ขนเงินมากองไว้ก็ไม่ได้ประกันตัวหรอกน่า นอนอยู่ในนั้นแหละ คุณดิมิทรีไม่ปล่อยแกออกมาลอยนวลข้างนอกให้เกะกะนัยน์ตาเขาหรอก” เจ้าหน้าที่ยกกระบองไม้ในมือเคาะไปที่ซีลูกกรง เป็นสัญญาณเตือนชายขี้เมาว่าอย่าได้ส่งเสียงน่ารำคาญ“เห้ย!! ได้ยังไงวะ รังแกคนจนๆ ได้ไง ฉันไม่ยอม”“แกยอมหรือไม่ยอม แกก็ต้องติดคุก ถึงจะไม่ได้ลงมือทำจริงๆ แต่แกส่อเจตนาร้าย เขามีหลักฐานและพยานพร้อม ไม่มีทางดิ้นอยู่แล้ว อย่างมากก็นอนคุกสัก4 -5 ปี”“โฮๆ...” เมื่อรู้ความจริงว่าแค่เพียงอารมณ์ชั่ววูบจะทำให้ตัวเองขาดอิสรภาพและจะต้อง
“คนอย่างอีวานเป็นไม้แก่ดัดยาก เขาควรถูกคนที่เหนือกว่าสั่งสอน ฉันคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ดีเชียวแหละ”“แต่...”“เอาเถอะอยากทำอะไรก็ตามใจ ฉันขอโทษที่ซ้ำเติมพ่อเธอ มันทนไม่ไหวจริงๆ”“ขอบคุณค่ะ”“อืม...ถ้าไม่ไหวยังไง มีอะไรที่ฉันช่วยได้ฉันก็อยากช่วยนะนีชา” หล่อนพ่นลมหายใจแรงๆ พระเจ้าไม่ยุติธรรมเลย คนดีๆ ตายจากแต่คนที่สมควรตายยังคงหยัดยืนอยู่ เธอรู้จักกับชมนาดดี ผู้หญิงน่าสงสารที่อยากมีชีวิตดีขึ้น จนต้องยอมแต่งงานกันคนในพื้นที่ เพื่อจะได้ทำมาหากินได้โดยไม่ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวส่งกลับภูมิลำเนาเดิม แต่เผอิญโชคร้าย ไปคว้าเอาอีวานมาเป็นสามี เขาออกลายทันทีที่แต่งงาน ผู้หญิงไทยคนนั้นจึงต้องก้มหน้าก้มตาหาเลี้ยงสามี และเจียดเงินส่วนหนึ่งส่งกลับไปให้คนทางบ้านเกิด สุขภาพทรุดโทรมลงทุกๆ วันเพราะต้องทำงานเพิ่มอีกเป็นเท่าตัวเพื่อให้มีเงินพอจะเจือจานคนทางบ้านและตัวเอง หล่อนเจ็บออดๆ แอดๆ และเสียชีวิตตอนที่ลูกสาวยังไม่โตเต็มที่ สองแม่ลูกที่เธอเห็นมาเกือบๆ ยี่สิบปี ช่างน่าสงสารและน่าเห็นใจ ผู้หญิงหวังพึ่งสามี และหวังว่าเขาจะทำให้ตัวเองมีการเป็นอยู่ดีขึ้น แต่สามีหรือพ่ออย่างอีวาน สมควรอย่างยิ่งที่จะถูกกำจัด เธอ
แสงอ่อนๆ ของพระอาทิตย์ยามเช้าแม้จะหม่นมัวเพราะก้อนเมฆบดบัง แต่มันก็สว่างพอจะเห็น ยัยเด็กนี่นัยน์ตาสวย ผิวแก้มอมสีชมพูระเรื่อ ขนตายาวเป็นแพเหมือนปีกผีเสื้อ รวมๆ แล้วก็หน้าตาดีไม่ใช่เล่น แต่...ที่สำคัญเธอทำให้เลือดลมเขาพุ่งพล่านและรู้สึกเป็นผู้ชนะกำลังกุมอำนาจล้นเหลืออยู่ในมือ“คนอย่างเธอจะมาทำอะไรให้ฉันได้ ฉันมีทุกอย่างเพียบพร้อม ไม่เคยต้องการอะไรจากคนอื่นๆ” ชายหนุ่มยกยิ้มหมิ่นๆ มุมปาก เขาหมุนตัวกลับเตรียมจะเดินหนี แม้จะติดใจหน้างดงามปานนางฟ้าของเจ้าหล่อนก็ตาม“ขอร้องเถอะค่ะ!! จะเอานีชาไปต้มยำทำแกงที่ไหนเมื่อไรก็ได้ ขอแค่คุณปล่อยแด๊ดนีชา” เสียงวิงวอนแหบพร่า เรือนกายสั่นระริกไม่ใช่เพราะความหนาวแต่เป็นเพราะกำลังร่ำไห้อย่างหนักที่ไหน? เมื่อไร ยังไงก็ได้รึ? ความจริงผู้หญิงที่อยู่รายรอบตัวของเขาก็มีไม่ใช่น้อย ไม่จำเป็นต้องมาคว้าผู้หญิงข้างทางขึ้นมาเป็นนางบำเรอนี่นะ แต่มันก็น่าสนใจไม่ใช่น้อยไม่ใช่รึ ผู้หญิงตรงหน้านี่ดูท่าจะยังสดสะอาด แม้จะดูสกปรกมอมแมมแต่หลังเปลื้องผ้าเก่าๆ ปอนๆ นั้นออก เธอคงงดงามไม่ใช่เล่น...“ตามมา... เข้าไปคุยข้างในดีกว่า ของนอกนี่มันหนาว อีกอย่างฉันยังไม่อยากเป็นข่าว” ช