บทที่11.อีวาน โบรีสบ้านเก่าหลังเดิมแต่สภาพน่าอยู่กว่าเดิมเยอะ เพราะคนแก่ขี้เมาคนเก่าไม่มีเหลืออยู่แล้ว อีวานเป็นคนเลี้ยงนัชชาวีมากับมือ ตั้งแต่เด็กน้อยลืมตาดูโลก เขาเฝ้าถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูสองคนกับนีรนาท อีวานจึงเป็นที่รักอันดับสอง ของนัชชาวี เด็กหญิงที่เปรียบเหมือนเจ้าหญิงของ ครอบครัว ‘โบรีส’ “ตาจ๋า ดีม่ากลับมาแล้วค่า” เจ้าตัวแสบในอ้อมกอดดิมิทรี ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว ร้องเรียกคนในบ้าน อีวานวางหนังสือพิมพ์ในมือลง เขาขยับแว่นสายตาและถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ เผลอหลับไปแปบเดียว หลานสาวสุดรักหนีหายไปเสียแล้ว กำลังคิดจะออกไปตามหา นัชชาวีก็กลับมาถึงพอดี“ดีม่า...หนูต้องถูกลงโทษนะครั้งนี้ ตาไม่ยกโทษให้เราแล้ว เพราะครั้งนี้เราทำผิดข้อตกลง” อีวานพูดเสียงเข้ม และเมื่อประตูบ้านเปิดเข้ามา เขาตกใจแทบพลัดตกเก้าอี้ ‘คนคนนั้น’ เป็นคนอุ้มหลานสาวสุดรักเข้ามาในบ้าน มันเป็นโชค
“อืม...” อีวานผ่อนลมหายใจช้าๆ เขานึกเสียใจที่นัชชาวีฉลาดและรู้เกินเด็กวัยเดียวกัน เจ้าตัวแสบจับความรู้สึกคนรอบตัวเก่ง และมักใช้ให้เป็นประโยชน์เสมอๆหลังตัวแสบหายลับไปหลังบานประตูห้องๆ หนึ่งภายในบ้าน อีวานหมุนตัวกลับมาเขาจ้องมองดิมิทรีเป็นตาเดียว“คุณ!! ต้องการอะไร?” เขาโพล่งคำถามที่เป็นเป้าหมายอย่างไม่รอช้าดิมิทรีผ่อนลมหายใจช้าๆ ดวงตาสีเขียวมรกตนิ่งสนิท เขาประเมินสถานการณ์ตรงหน้า ดูเหมือนว่าเขายังไม่มีทางชนะ เพราะดูเหมือนว่าฝ่ายของอีวานจะใจแข็งและพร้อมที่จะชนหากเขาล้ำเส้น“ฉันขอโทษ ในเรื่องเก่าๆ และมันนานเกินกว่าจะรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ เรื่องของดีม่า...ฉันไม่รู้?...เลยไม่ได้ยื่นมือมาเกี่ยวด้วยตั้งแต่แรก แต่...เวลานี้ฉันรู้แล้ว และอยากจะมีส่วนร่วมกับการเลี้ยงดู คุณคิดว่าอย่างไรล่ะอีวาน!!”“เรื่องดีม่า...คงต้องรอนีชาเป็นคนตัดสิน เขาเป็นแม่และเป็นผู้ให้กำเนิด ดีม่าใช้นามสกุลของ ‘เรา’ มาตั้งแต่เกิด ไม่มีชื่อพ่อในทะเบียนราษฎร์ เพราะอะไร? คุณน่าจะรู้ดีน่ะ มิสเตอร์ ดิมิทรี เบนิคอฟ” อีวานเค้นเสียงตอ
บทที่12.หลานย่า มาดามโรสนั่งนิ่งๆ ตรึกตรองเรื่องทั้งหมดที่ได้ยินมาอย่างหนัก รูปถ่ายจากโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็ก เด็กผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาน่าชัง พวงแก้มยุ้ยๆ ริมฝีปากสีสด ผมสีน้ำตาลไหม้และดูเหมือนจะแข็งแรงร่าเริงสุดขีด รอยยิ้มนั้นทำให้หัวใจเธอกระตุก โดยเฉพาะดวงตาสีเดียวกับตัวเอง สายเลือดของดิมิทรีลูกชายที่พึ่งจะพบเจอตัว ปลายนิ้วเหี่ยวๆ ลูบไล้หน้าจอโทรศัพท์ไปมา เธออมยิ้มตามรอยยิ้มที่เด็กน้อยยิ้มส่งให้แม้จะผ่านหน้าจอโทรศัพท์ก็ยังดี “ว่าไง ได้ตัวไหม ไอ้ตัวแสบจัดการอย่างไร? เอาแต่หลานฉันนะ แม่มันไม่เอา!!” หลังสั่งการไปกว่า สามชั่วโมง เธอรอฟังข่าวด้วยความตื่นเต้น “ไม่ได้ครับ คุณดิมิทรีกำลังเจรจาอยู่ ผมเข้าไม่ถึงตัวคุณหนูเลยครับ”“อืม...รอดิมิทรีก่อนก็ได้ ยังไงฉันก็จะเอาหลานมาเ
“เอาแค่ลูกไม่เอาแม่!! มัมจะหาคนที่ดีพร้อมให้แกแต่งงานด้วย และนี่คือคำสั่ง” มาดามโรสตวาดเสียงเกรี้ยว เธอไม่มีทางยอมให้ผู้หญิงข้างทาง มาทำให้ชื่อเสียงของ ‘เบนิคอฟ’ เสื่อมเสีย“แต่ผมจะเอาทั้งลูกและแม่...ผมให้มัมคิดใหม่ครับ เรายังพอมีเวลา”“ไม่!! มัมตอบได้เลยดิมิทรี มัมรับแค่เด็ก ผู้หญิงคนนั้นมัมไม่รับ”“มัมบังคับให้ผมเลือกเหรอครับ มัมแน่ใจเหรอว่าจะรับความจริงได้ หากให้ผมเป็นคนเลือก”“จะว่าแบบนั้นก็ได้ คนที่ดีพร้อมมัมเตรียมไว้แล้ว และแกห้ามบิดพลิ้วเด็ดขาดไม่อย่างนั้นเราได้เห็นดีกัน แกมีมัมแค่คนเดียว หากแกเลือกแม่นั่น เราขาดกัน!!”“คนที่มัมหาไว้คงไม่พ้น อันนา คเซนเนียใช่ไหมครับ? ผมขอปฏิเสธผมไม่ชอบผู้หญิงเจ้ายศเจ้าอย่าง”“ในสังคมของเรา จะมีใครเหมาะและคู่ควรเท่าอันนาไม่มีอีกแล้ว ลูกหนีไม่พ้นหรอกดิมิทรี ลองมัมลงมือมีหรือที่จะพลาด เด็กนั่นต้องมาอยู่กับเรา มัมจะจัดการเอง”“หากมัมทำให้นีชา หรือดีม่าเสียใจ ผมก็คงต้องสละ ‘เบนิคอฟ’ เพรา
บทที่13.ชายหน้ามึน ที่มาทวงของคืนหลังทานขนมจนอิ่มเสื้อผ้าเลอะเทอะ ผิวเนื้อเหนอะนะ เพราะแม่ครัวของคฤหาสน์ ‘เบนิคอฟ’ จัดหนัก ขนขนมนมเนยมาปรนเปรอคุณหนูคนใหม่เสียยกใหญ่ และเด็กหญิงก็สนองน้ำใจคนรับใช้เสียเปรมปรีดิ์ นัชชาวีฟาดเรียบจนพุงกาง เล่นเอาบรรดาคนรับใช้ที่ได้ใกล้ชิดพากันหลงรักตัวแสบเป็นทิวแถว นีรนาทกำลังควานหาผ้าเช็ดตัวเพื่อจะเตรียมไว้รอลูกสาวสุดแสบ ที่กำลังสนุกกับการเล่นน้ำในอ่างกุชชี่ขนาดใหญ่ เสียงหัวเราะของเด็กหญิงทำให้เธออดอมยิ้มตามไม่ได้ แต่...เมื่อดิมิทรีปรากฏตัวขึ้น บรรยากาศดีๆ ก็ดูน่าอึดอัด เมื่อสายตาคมคู่นั้น คอยจะเหลือบมองเธอตลอดเวลา“ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้น่า ปล่อยตัวตามสบาย... ผมก็ไม่ได้อารมณ์เสียจนฆ่าเธอทิ้งหรอกน่า”“คุณทำให้นีชาอึดอัดค่ะ นีชาไม่ชินกับการถูกคนแปลกหน้ามองเท่าไร!!”“อีกไม่นานก็จะชินเองแหละ อีกอย่างฉันไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับเธอ... เราใกล้ชิดกันมากกว่าที่คนอื่นรู้”“คุณ!!
ดิมิทรีกระชากแพนตี้ใต้กระโปรงบานแฉ่งของนีรนาทจนมันขาดแหล่งติดมือเขามา อารมณ์หนุ่มกลัดมันเต็มที่และหากไม่ได้ปลดปล่อยตอนนี้เขาคงงุ่นง่านน่าดูชม...แค๊รก!!...เสียงรูดซิปดังสั่นประสาท หญิงสาวพยายามเบี่ยงตัวหนี เธอรู้ดีว่าไม่มีทางทำสำเร็จ เมื่อเผลอตัวมองสบนัยน์ตาฉ่ำวาวคู่นั้นตัวตนผ่าวร้อนจรดจ่อตรงกลีบดอกไม้ฉ่ำน้ำค้าง ชายหนุ่มกดสะโพกสอบแทรกร่างกายแข็งขืนจ่มจ่อมสุดทางเดิน...ความคับแน่นที่เคยได้รับครั้งนั้น ครั้งนี้ก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย...เธอเต็มตึงและแน่นหนึบเหมือนเดิม...“อ่า...”เสียงครางระส่ำกับลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ารดกัน พายุพิศวาสพัดกระหน่ำต้นไม้ใหญ่น้อยไหวโยกรุนแรง ชายหนุ่มเร่งจังหวะหนักหน่วง สาดใส่สุดแรงกำลังสุดฤทธิ์สุดเดช เพราะเวลามีน้อยและจำกัด กลัวว่าตัวแสบจะโผล่ออกมาขัดจังหวะสำคัญ!!ร่างสั่นระริกผวากอดแนบแน่น เธอกระโจนขึ้นสวรรค์ทั้งๆ ที่เสื้อผ้าอยู่ครบ เป็นบทเรียนรักครั้งแรกที่ชายหนุ่มทำเวลาเร็วเกินคาด เธอแตกดับแบบทะลักทลาย ฝังคมเขี้ยวกับบ่ากว้างเพื่อลดทนทอนเสียงกรีดร้อง ชายหนุ่มเร่งตัวเองสุดฤทธิ์ เขาพาตัวเองไปถึงได้สำเร็จ.
“น้ำค่ะคุณอันนา ซูซานแจ้งให้ท่านทราบแล้วค่ะ อีกสักครู่เจ้านายคงกลับมาค่ะ” เลขานุการสาวใหญ่ วางแก้วน้ำเย็นเฉียบบนโต๊ะเตี้ยๆ ด้านหน้าอันนา เธอเหลือบตามอง ก่อนจะพยักหน้ารับรู้ แต่มือก็ยังพลิกหน้าหนังสือไปเรื่อยๆข่าวในแวดวงบันเทิง มักจะมีชื่อของตัวเองติดโผด้วยตลอด เธอชื่นชอบที่จะเฉิดฉายอยู่ในสังคมไฮโซ และแวดวงคนพื้นฐานเดียวกัน ผิดกับดิมิทรีเขาเก็บตัวช่วงหลังๆ เธอไม่ค่อยพบเขาตามงานรื่นเริงเลย จนแทบจะลืมหน้าเขาด้วยซ้ำ ถ้าอันโตนไม่พูดถึง“อันนา มาดามโรสมาทาบทามพ่อเกี่ยวกับเรื่องของเรา ลูกคิดว่ายังไง...พ่อว่าลูกน่าจะถึงเวลามีครอบครัวได้แล้วนะ”“เบนิคอฟ...ดิมิทรีเหรอคะคุณพ่อ...ไม่ค่ะ เขาครำครึและแก่เกินไป อันนาไม่ชอบ”“ในแวดวงของเรา คนที่เหมาะกับลูก ก็มีแต่พ่อหนุ่มนี่ล่ะมั้ง เพราะฐานะก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย แถม เบนิคอฟ’ ยังเป็นตระกูลเก่าแก่ มันจะช่วยยกระดับของเราให้สูงขึ้นนะ”“เราต้องพึ่งเขาด้วยเหรอคะคุณพ่อ...คเซนเนีย...ต้องพึงพาใครด้วยเหรอคะ เรามาไกลเกินกว่าจะต้องก้มหัวให้ใครแล้วไม่ใช่หรือค
“ครับ...ผมจะคุยกับมัมเอง...คุณอันนาช่วยอยู่เฉยๆ ได้ไหม? ครับเพราะผมคิดว่า...คุณเองก็คงไม่อยากเสียชื่อ หากเรื่องมันเตลิดไปไกลกว่าที่คิด ครั้งนี้ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นความต้องการของมัม และหากมีการเจรจา ทางคุณต้องไปคุยกับมัมเองเช่นกันครับ เพราะผมไม่ยอมตกบันไดพลอยโจนเด็ดขาด สื่อทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ หากคุณคิดจะใช้สื่อจริง ผมยอมเสียชื่อ แต่ไม่ยอมให้คนของผมเสียใจ” ดิมิทรีชี้แจงเสียงเย็นๆ เขาผุดลุกขึ้นยืนเหมือนกัน เพราะหาก ‘คเซนเนีย’ คิดจะใช้ลูกไม้นั้น โดยการยืมมือสื่อมาช่วย ด้วยการประโคมข่าวให้เขาตกเป็นจำเลยของสังคม เขาก็คงต้องสู้ไม่ถอยเช่นกัน“เหอะ...ก็ได้ค่ะ อันนาจะอยู่เฉยๆ แต่ถ้าเรื่องลุกลามไปไกล คุณต้องรับผิดชอบชื่อเสียงของอันนาด้วยนะคะ อันนาจะไม่ยอมเสียชื่อคนเดียวค่ะ”“ครับ...ผมจะรีบเคลียร์ให้เรื่องนี้จบลงเร็วๆ ขอให้ทางฝ่ายคุณใจเย็นๆ”อันนายอมถอยหลังกลับ แต่เธอไม่มีทางยอม เพราะเดิมพันครั้งนี้น่าสนใจ เธอจะได้ครอบครองดิมิทรีและเขี่ยผู้หญิงคนนั้นพ้นจากทางเดินของเธอ...“คุณพ่อคะ อันนาขอยืมคนมาช่วยงานสั
“ผมว่าคนที่ปรับตัวไม่ได้ น่าจะเป็นนีชามากกว่านะครับ อย่าพยายามหนีผมเลย เราน่าจะทำความรู้จักกันให้มากกว่าเดิม” ชายหนุ่มเอื้อมจับข้อมือเรียวบางไว้ เขาพูดช้าๆ แต่แววตาพราวระยับจนหัวอกหัวใจของนีรนาทสั่นไหว“เราสองคนไม่มีอะไรต้องปรับต้องจูนเข้าหากันค่ะ เราเป็นคนแปลกหน้าที่แค่มี ‘ลูก’ ด้วยกันแค่นั้น อย่าดึงนีชาไปเกี่ยวข้องกับคุณ ปล่อยเราสองแม่ลูกไปตามทางของเราเถอะค่ะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงอ่อนๆ เธอรู้ดีว่าความหวังมันเป็นความทรมานอย่างหนึ่ง เมื่อมีหวังและอยากคว้ามาครอง แต่ในความเป็นจริงมันสูงสุดเอื้อมมือคว้า เพราะเขาลอยอยู่บนฟ้า ในขณะที่ตัวเองลอยเรี่ยๆ ติดพื้นดิน“คนแปลกหน้าที่มี ‘ลูก’ ด้วยกัน ก็แสดงว่าครั้งหนึ่งเราสองคนไม่ได้เป็นคนแปลกหน้ากันนี่ครับ เราชิดใกล้และแนบสนิท และหากผมต้องการแบบนั้นอีกครั้งเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเราในแน่นเฟ้นขึ้น ดีไหมครับ?” เป็นคำถามที่ดิมิทรีไม่ต้องการรอคำตอบเขาปฏิบัติการจู่โจมเพื่อกระชับพื้นที่ ร่างใหญ่หนาพลิกตัวกลับจากท่าทางเดิม คือนอนแผ่กลางเตียงมาคร่อมร่างบอบบางเอาไว้ เธอพยายามผลัก
มาดามโรสรีบชักมือกลับ เชิดปลายคางขึ้น เสยกแก้วชาที่ทิ้งไว้ขึ้นมาจิบแก้อาการขัดเขิน...“ที่นี่ใหญ่กว่าบ้านเก่าของดีม่านับสิบเท่าค่ะ ดีม่ามาอยู่เกือบหนึ่งอาทิตย์แล้ว ยังวิ่งไม่ทั่วบ้านเลยค่ะ” จอมแสบพูดแจ้วๆ ถึงจะไม่ได้รับความสนใจจากหญิงสูงวัยแต่เจ้าตัวสนใจที่ไหนยังพูดคุยไม่หยุด สลับกับกัดขนมในมือกินเพลินๆ“ชอบสินะ...”“ค่ะ...ชอบมากกกกกก คุณย่าเหงาไหมคะ ถ้าเหงาดีม่าจะมาอยู่เป็นเพื่อนบ่อยๆ”“เห็นแก่กินล่ะสิ...ถ้าฉันไม่มีของกินจะมาหาไหมล่ะ” นางปล่อยตัวตามสบาย คลายอาการเกร็งไปเกือบครึ่ง“เปล่าค่ะ...แต่คุณย่าตาดุ๊ดุ!! ดีม่ากลัวค่ะ”“ถ้ากลัว แล้ววันนี้ทำไมถึงกล้าล่ะ”“แหะๆ ดีม่าหิวค่ะ ขนมก็ห๊อมหอมมมม”“เห็นไหมล่ะ เรานะเห็นแก่กิน ตัวบวมๆ เดี๋ยวโตไปไม่สวยนะรู้ไหม?”“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่สวยก็อยู่กับคุณย่าไงค่ะ อยู่นานนนนนนน” เด็กหญิงฉีกยิ้ม กางมือกว้างๆ อธิบายช่วงเวลาประกอบคำพูดตัวเองมาดามโรสคลี่ยิ้มอ่อนๆ เจ้าตัวเล็กนี่ชั
บริเวณสวนหย่อมร่มรื่น เนื่องจากเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ อากาศเริ่มอุ่นขึ้นและดอกไม้ใบหญ้าเริ่มผลิดอกออกใบ ดอกไม้เบ่งบานส่งกลิ่นหอมรวยริน สายลมเย็นๆ พัดโชย ช่วงเวลาบ่ายคล้อยจึงไม่ร้อนมากนักกลิ่นขนมอบลอยฟุ้งผสมกับกลิ่นน้ำชาหอมๆ จนแม้แต่เด็กน้อยที่วิ่งเล่นอยู่ไกลๆ ยังได้กลิ่น นัชชาวีทำจมูกฟุดฟิต เจ้าหล่อนสูดกลิ่นหอมๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศและเริ่มชักชวนลูกสมุนเดินตามหาต้นตอของกลิ่นหอมๆ นั้น ท้องเล็กๆ ร้องโครกคราก น้ำย่อยเริ่มทำงานจนน้ำลายในปากไหลย้อย“หอมขนมเนอะ ป้าแม่ครัวทำอะไรให้ทานเนอะวันนี้ ไปดูกันเร็ว!!” ร่างกลมป้อมออกวิ่งเหยาะๆ ตามกลิ่นขนมที่เจ้าตัวชื่นชอบ จนถึงสวนหย่อมด้านข้างที่มีเก้าอี้เหล็กสวยๆ ตั้งไว้นั่งพักผ่อน“ชะอุ้ย!!” ริมฝีปากสีสดแบะออก และรีบถอยหลังกรูดๆ เมื่อเห็นคนที่น่ากลัวอยู่ตรงนั้น สายตาของ ‘คุณย่า’ มองเธอแบบเฉยชา จนขยาดที่จะเข้าใกล้ แต่ว่า...ถาดขนมนั้นน่าสนใจ!! ทำไงดีนะดีม่า ทำยังไงจะได้ชิมขนมในถาดนั้นโดยไม่ถูกคุณย่าดุ...จอมเจ้าเล่ห์เร่งคิดหาทางแบบเร่งด่วน ดวงตาสุกใสมองขนมสีสวยในถาดตาเป็นมัน!!มาดามโรสยกแก้วชา
“ครับผมไม่เถียงเรื่องในอดีต แต่ในอนาคตนี่ ผมอยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้ ‘ลูกสาว’ ของผมเห็น ไม่อยากให้เธอรู้สึกไม่ดีกับเพศชายตั้งแต่อยู่ในบ้าน”“สมัยนี้ไม่มีคนถือเรื่องนั้นแล้วล่ะ ขอแค่มีเงินเลี้ยงดูได้ จะมีเมียหลายๆ คนคงไม่มีใครกล้าว่า”“แต่ผมถือครับ ...ครอบครัวผมไม่นิยมการมีภรรยาหลายคน”“สรุปก็คือเธอจะเบี้ยวงั้นสิ ฉันก็คงไม่ยอมให้ลูกสาวเสียชื่อฟรีๆ หรอกนะ คงรู้ใช่ไหม? ว่าฉันมีอำนาจแค่ไหน”“ครับ...พอรู้ แต่...”“อะไร!! จะเล่นแง่อะไรอีก เธอเจ้าเล่ห์กว่าที่ฉัดคิดไว้ แต่เรามันคนละรุ่นกัน ชั้นเชิงคงไม่ต้องบอกใช่ไหม!!”“ครับ ผมรู้ว่าท่านเขี้ยวเล็บเยอะ...แต่ผมก็ไม่ได้ด้อยกว่านี่ครับ” ชายหนุ่มพูดเสียงกระหึ่ม เขาไม่ยอมลงให้อันโตนอีกต่อไป เพราะดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมฟังอะไรทั้งสิ้น“อวดดี...อวดดีให้ถึงวันนั้นก็แล้วกัน เราคงไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก เธอกลับไปเถอะ”“ครับ ผมขอให้ท่านคุยกับอันนาก่อน หากท่านคิดจะทำร้ายครอบครัวผม ผมค
บทที่16.เบนิคอฟกับคเซนเนีย ดิมิทรีปรากฏตัวที่หน้าตึกคเซนเนีย เขาเดินเข้าไปภายในอาคาร เหยียบถิ่นของอันนาครั้งแรกเพื่อต่อรองกับหญิงสาวเกี่ยวกับเรื่องร้ายๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้น!! และดูเหมือนว่าอันนาจะเตรียมตั้งรับไว้แล้ว เธอลงมาชั้นล่างพร้อมกับบิดา วงหน้าสวยเฉี่ยวเรียบตึง “ยินดีต้อนรับดิมิทรี ลุงไม่เจอเรานานเท่าไรแล้วนะ” ด้วยประสบการณ์ที่คร่ำหวอดอยู่บนถนนธุรกิจมายาวนานนับสิบปี อันโตนวางสีหน้าเฉยชาได้แบบแนบเนียนกว่าบุตรสาว “ไม่นานเท่าที่ท่านคิดหรอกครับ ผมพบท่านตามงานสังคมบ่อยๆ เพียงแต่ไม่ได้เข้าไปทักทาย” ดิมิทรีเองก็ไม่ได้ด้อยกว่าเขาเก็บความโกรธไว้ใต้สีหน้าเฉยชา “ไปๆ ขึ้นไปคุยที่ห้องลุงดีกว่า เราสองครอบครัวไม่ใช่คนอื่นคนไกลกัน ไปอันนาไป พาพี่เขาไปก่อน ขอพ่อไปทำธุระสักครู่แล้วจะตามไป
“เป็นไงบ้างล่ะ พอจะบอกได้หรือยังว่าใครจ้างวานแกมา” เสียงทุ้มนุ่มถามช้าๆ พร้อมกับแสงไฟสปอร์ตไลท์ที่ฉายแสงส่องหน้าเขา ผ้าคลุมถูกดึงออกไป เขาจึงได้แต่หยีตาสู้แสงไฟ...“จะฆ่าจะแกงก็เชิญ เราไม่คิดจะเปิดปากบอกใคร?”“อืม...ดีซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ใช้ได้ แต่มันจะดีกว่าไหมถ้าสามารถรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้ ดีกว่าเอามาทิ้งเพราะคนที่ไม่เกี่ยวข้อง ฉันจะไม่บอกใครว่าพวกแกพูด ฉันอยากรู้แค่นั้นว่าใคร? จ้องทำร้ายเมียกับลูกฉัน” ดิมิทรีข่มอารมณ์แทบแย่ เขาต้องรู้ให้ได้ว่าใคร? เป็นคนสั่งการและหากเป็นคนๆ นั้นจริงๆ เขาจะเอาคืนให้หนัก เพราะดูจะใจร้ายเกินไปหน่อยถึงกับฆ่าแกงกันเหมือนชีวิตไม่มีค่า“ตามสบาย...อยากทำอะไรก็เชิญ” มันตอบกลับเสียงสะบัด และผินหน้าหนีแสงไฟ“แน่ใจเหรอที่พูด หากฉันทำขึ้นมาจริงๆ แกจะเสียใจนะ เพราะใคร? ก็ตามที่ทำร้ายครอบครัวฉัน ไม่ว่าจะใคร? มันไม่สมควรมีชีวิตรอด” ดิมิทรีหยัดกายลุกขึ้นยืน เขาพอจะเดาได้ว่าใคร? แต่อยากได้ยินชัดๆ เพื่อจัดการกับตัวการ แต่ถ้ามันไม่ปริปากพูดก็คงต้องกำจัดทิ้งให้สิ้นซาก&ldqu
มาดามโรสพูดจบก็ลุกขึ้น เธอยิ้มอ่อนๆ ส่งให้สาวว่าที่คู่หมายลูกชาย แต่...คงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เมื่ออันนารู้สึกจะคิดน้อยไปหน่อย ทำตามใจตัวเองและเอาอารมณ์เป็นใหญ่ จนเธอกลัวว่าเจ้าตัวจะพาความเดือดร้อนมาให้ การจะยืนยงและยิ่งใหญ่อยู่เหนือคนอื่นๆ ได้ต้องไม่มีจุดอ่อนให้คนจากภายนอกโจมตี แต่เธอเห็นข้อด้อยในตัวของหญิงสาวผู้นี้เยอะแยะ หลังจากเกิดเรื่องขึ้น...เห้อ!! น่าเสียดาย...“อันนาไม่ยอมจบแค่นี้หรอกคะ ข่าวแพร่ออกไปแล้ว อันนาเสียชื่อหากไม่ได้แต่งงานกับดิมิทรี...เพราะฉะนั้นอันนาต้องทำ” หญิงสาวกำมือแน่น ไฟโทสะลุกพรึ่บในดวงตาคู่งาม เธอไม่เคยถูกตบหน้าด้วยถ้อยคำหยามหยัน เหมือนดังเช่นที่มาดามโรสกำลังทำ คำตำหนิที่พูดเหมือนหวังดี แต่ที่ไหนได้ ผู้หญิงสูงวัยคนนั้นด่าเธอปัญญาอ่อน หาว่าไม่รู้จักคิดให้ดีก่อนทำ...ในเมื่อผู้หญิงคนนั้นต้อยต่ำ และไร้เกียรติวิธีที่ดีที่สุดคือทำให้เจ้าหล่อนสูญหายไปไม่ใช่หรือ?“คุณพ่อคะ อันนาขอมือดีสัก3-4 คน อันนามีงานให้เขาทำ” เธอต่อสายหาบิดาและเปิดปากขอคนฝีมือดีๆ เพื่อกำจัดนีรนาทให้สิ้นซาก ในเมื่อเจ้าหล่อนกำลังทำให้เธอมีอุปสรรคชิ้นใหญ่
บทที่15.จุดแตกหัก‘นี่แหละ คนที่เค้ารอคอยมาทั้งชีวิต’ ดิมิทรีคิดในใจขณะที่ทอดสายตามองสองแม่ลูก นีรนาทและนัชชาวีลูกสาวสุดสวาท และเขาจะปกป้องเธอทั้งสองคน ไม่ให้อันตรายใดใดมากล้ำกลาย เด็ดขาด!!“นี่คุณจะบ้าเหรอ!! ให้เวลานีชาเก็บของสองวันแล้วย้ายไปอยู่บ้านคุณเนี่ยนะ...คุณคิดไปเองคนเดียวหรือเปล่าคะ” ขณะที่พูดใจเธอสั่นระรัวไปกับสายตาที่จริงจังของเขา กำลังมีเรื่องที่เธอไม่สมควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขาด้วยซ้ำ เมื่อข่าวการหมั้นหมายระหว่าง ดิมิทรีกับอันนา กำลังเริ่มดังกระหึ่ม...“คุณคิดว่า ผมพูดเล่นอย่างนั้นเหรอนีชา ผมกำลังปกป้องครอบครัวของเรา อย่างเต็มความสามารถ...ในแบบของผม!!” ชายหนุ่มพูดฉุนๆ ดูเหมือนไม่มีใครฟังคำพูดของเขาสักคน‘บ้า… เค้าต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆๆ’ หญิงสาวคิดในใจ“ร้านคุณไฟไหม้ มันมีคนปองร้าย!! เพราะฉะนั้นคุณควรไปอยู่กับผม ผมจะให้คนของผมไปรับคุณกับดีม่ามาที่บ้านผม...”‘อ้าว’ ช่างเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองที่สุด เธอต้องพบเจอกับคน
“ครับ...ผมจะคุยกับมัมเอง...คุณอันนาช่วยอยู่เฉยๆ ได้ไหม? ครับเพราะผมคิดว่า...คุณเองก็คงไม่อยากเสียชื่อ หากเรื่องมันเตลิดไปไกลกว่าที่คิด ครั้งนี้ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นความต้องการของมัม และหากมีการเจรจา ทางคุณต้องไปคุยกับมัมเองเช่นกันครับ เพราะผมไม่ยอมตกบันไดพลอยโจนเด็ดขาด สื่อทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ หากคุณคิดจะใช้สื่อจริง ผมยอมเสียชื่อ แต่ไม่ยอมให้คนของผมเสียใจ” ดิมิทรีชี้แจงเสียงเย็นๆ เขาผุดลุกขึ้นยืนเหมือนกัน เพราะหาก ‘คเซนเนีย’ คิดจะใช้ลูกไม้นั้น โดยการยืมมือสื่อมาช่วย ด้วยการประโคมข่าวให้เขาตกเป็นจำเลยของสังคม เขาก็คงต้องสู้ไม่ถอยเช่นกัน“เหอะ...ก็ได้ค่ะ อันนาจะอยู่เฉยๆ แต่ถ้าเรื่องลุกลามไปไกล คุณต้องรับผิดชอบชื่อเสียงของอันนาด้วยนะคะ อันนาจะไม่ยอมเสียชื่อคนเดียวค่ะ”“ครับ...ผมจะรีบเคลียร์ให้เรื่องนี้จบลงเร็วๆ ขอให้ทางฝ่ายคุณใจเย็นๆ”อันนายอมถอยหลังกลับ แต่เธอไม่มีทางยอม เพราะเดิมพันครั้งนี้น่าสนใจ เธอจะได้ครอบครองดิมิทรีและเขี่ยผู้หญิงคนนั้นพ้นจากทางเดินของเธอ...“คุณพ่อคะ อันนาขอยืมคนมาช่วยงานสั