บทที่20.ปิดตำนานหญิงต้อยต่ำกับชายสูงศักดิ์
ข่าวก็อตซิปเริ่มมีการลงรูปมาดามโรสผู้สูงศักดิ์ กับเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักแบบที่ย่อส่วนมาดามโรสไว้ได้อย่างเหมาะเจาะลงตัว การเดินเที่ยวในห้างสรรพสินค้าของตัวเอง พร้อมทั้งจับจ่ายของใช้ ของเล่นเด็ก และเสื้อผ้าเด็กผู้หญิงอีกเป็นจำนวนมาก เป็นการเดินซื้อของแบบที่ยาวนาน และสร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกๆ ที่ได้เห็นและพบเจอ เมื่อสรรพนามที่เด็กหญิงใช้เรียกมาดามโรสคือ ‘คุณย่า’ แถมมาดามโรสไม่ปฏิเสธ หากใครก็ตามถามถึงเด็กหญิง ว่าเป็นอะไรกับตัวเอง
เด็กผู้หญิงที่หน้าตาน่ารัก ประหนึ่งตุ๊กตาตัวน้อย ผมยาวสลวยสีน้ำตาลไหม้ ดวงตาสีมรกตเธอเป็นใคร? กัน นั่นคือสิ่งที่ทุกๆ คนอยากรู้ ในเมื่อมีข่าวเล็ดรอดออกมาถึงการรวมตระกูลของ ‘คเซนเนีย’ กับ ‘เบนิคอฟ’ แต่มาเงียบหายไปช่วงสองอาทิตย์หลังๆ ดูเหมือนว่ามาดามโรสจะนิ่ง นางไม่ได้กระตือรือร้นที่จะให้ข่าวเหมือนเคย
“เมื่อสิ้นวาสนา...ก็ต้องจากกันไป...รั้งอย่างไรก็ไม่อยู่ดังนั้น...ในตอนที่เรา...ยังไม่จากกัน เราได้กระทำดีต่อคนที่แวดล้อมเราแล้วหรือยัง...เพราะเมื่อหมด ‘สัญญากรรม’ แล้ว...ไม่ว่าเราจะมีเงินหรือมีอำนาจจนล้นฟ้า ก็ไม่สามารถเรียกร้องสิ่งที่ผ่านไปแล้วให้กลับคืนมาได้...และไม่รู้ว่าจะกี่ภพกี่ชาติ...ถึงจะได้เจอกันอีก ผู้หญิงสองคนที่ที่พวกคุณอยากรู้ คนหนึ่งเป็นภรรยาผม ส่วนอีกคนเป็นบุตรสาว ส่วนงานแต่งงานก็คงอีกไม่นานครับ... กำลังจัดเตรียมความพร้อมหลายๆ เรื่อง ในอดีตผมเป็นคนไม่ค่อยดีเท่าไร!! มันจึงไม่แปลกที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างผมกับภรรยา เธอเลยไม่เคยเปิดเผยเรื่อง ‘ลูก’ ให้ผมรู้ มันเป็นข้อผิดพลาดเดียวที่ตัวผมเองพยายามจะแก้ไขมาตลอด และนับเป็นความโชคดีที่เธอยอมให้ผมแก้ไขความผิดในอดีตนั่น มันเป็นเพราะความแตกต่างของการเป็นอยู่ และความไม่ชัดเจนของผมเอง ภรรยาผมเลยไม่มีความเชื่อมั่น อย่างที่รู้!! พิคเจอร์ผมมันเป็นผู้ชายเสเพลไม่น่าชื่อถือนี่ ใช่ไหม?” ดิมิทรีพูดยิ้มๆ เขาเลิกปลายคิ้วขึ้นและเอ่ยปากถามความเห็นทุกๆ คนที่กำลังตังใจฟัง พอสิ้นเสียงของเขาเสียงฮือฮาก็ดั
บทที่21.จอมมารสิ้นลาย3 เดือนแล้วสินะที่เขาใช้ชีวิตคู่กับผู้หญิงหนึ่งเดียวในชีวิต นีรนาท เบนิคอฟ ดิมิทรีไม่นึกเสียใจเลยที่เขาตัดสินใจประกาศแต่งงานกับเธอ เป็นการปิดฉากชีวิตโสด แบบสมบูรณ์แบบแถมตอนนี้ นีรนาทกำลังตั้งครรภ์ครั้งใหม่ คนที่เห่อสุดๆ กลับไม่ใช่เขา กลับเป็นมาดามโรสต่างหาก นางเฝ้าดูแลและคอยหาของกินอร่อยๆ มาคอยบำรุงเธอ อาหารที่มีประโยชน์ นางสรรหามาให้ไม่เคยขาด และแวะเวียนมาคอยดูแล ถามไถ่ ทำประหนึ่งว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์เสียเองก็ไม่ปาน “มัมครับ ตั้งใจจะขุนนีชาเป็นแม่หมูหรือไงครับ ขนมาเยอะแยะเลย” “แกจะไปรู้อะไรไอ้ตัวแสบ ผู้หญิงตั้งท้องครั้งหนึ่งสูญเสียอะไรในร่างกายไปเท่าไร เพราะฉะนั้นต้องเสริมเข้าไปเยอะๆ จะได้แข็งแรงทั้งแม่และลูก!!” นางพูดเสียงกระเง้ากระงอด ค้อนประหลับประเหลือกให้กับลูกชาย
“หากย้อนเวลาไปได้นะนีชา ผมจะตามหาคุณทันทีที่รู้ใจตัวเอง...แต่เป็นเพราะผมโง่เขลา จนเก็บความรู้สึกสับสนนั่นแอบซ่อนไว้ มันน่าเจ็บใจตัวเองนักที่ไม่กล้า” ชายหนุ่มโยกลำตัวช้าๆ ทำเหมือนกับกำลังกล่อมเด็กน้อยให้หลับในอ้อมกอดตัวเองเขาโอดครวญที่ตัวเองไม่กล้าแม้แต่จะก้าวออกจากกรอบที่ครอบเขาไว้“ไม่แปลกหรอกค่ะ...เราสองคนแตกต่างกันเกินไป อีกอย่างมันเป็นแค่ข้อแลกเปลี่ยน ที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย” ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยสาปเสื้อของชายหนุ่มเล่น เธอสูดลมหายใจลึกๆ เมื่อคิดถึงช่วงเวลาแสนเศร้าที่ผ่านเลยไปแล้ว“มันน่าตลกนะ...ผมติดกับตัวเอง ตกหลุมรักคนที่ตัวเองเหยียดหยาม...ผมดูถูกว่านีชาต้อยต่ำ แต่ผมกลับติดใจนีชาจนอยากจะกลืนน้ำลายตัวเอง” ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ เมื่อนึกถึงความหลัง“คุณใจร้ายและใจดำมากค่ะ ตอนนั้นนีชาเกลียดคุณแทบตาย...” เธอกดปลายเล็บกับผิวเนื้อแน่นตึงเพราะความหมั่นไส้สุดขีด“หึๆ ผมยังเกลียดตัวเองเลย ไม่แปลกที่นีชาจะเกลียดผม...คนอะไรเห็นผู้หญิงเป็นแค่สิ่งฉาบฉวย...ดูถูกเพศแม่ของตัวเอง เห็นพวกหล่อนเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์.
บทที่1.เด็กสาวไม้ขีดไฟสายตาแสนเศร้าแหงนมองยอดตึกสูงตระหง่าน ตึกใหญ่ที่เป็นห้างสรรพสินค้ากลางกรุงมอสโก เธอได้แต่มองและแอบฝัน สักวันหนึ่งเธอจะไปทำงานในที่แห่งนั้น ชีวิตความเป็นอยู่ของเธอจะได้ดีขึ้น ได้แต่งตัวสวยๆ แทนชุดเก่าเก็บที่เต็มไปด้วยคราบแป้งทำขนม นีรนาท โบรีส สาวลูกครึ่งที่น่าสงสาร มารดาเสียชีวิตเพราะไม่สามารถทนกับความเปลี่ยนแปลง ป่วยกระเสาะกระแสะจนสิ้นใจเมื่อเธออายุได้ 15 ปี ทิ้งให้หญิงสาวอยู่กับบิดาแท้ๆ นายอีวาน โบรีสที่แสนขี้เกียจ เอาเปรียบเมียและลูกกินแต่เหล้า โดยอ้างว่าเสียใจที่ภรรยาเสียชีวิตหญิงสาวจึงเติบโตขึ้นมาอย่างอัตคัด เมื่อต้องเก็บออมเงินจากการรีดไถของบิดา ที่ทำงานเป็น รปภ. อยู่ที่ห้างสรรพสินค้า แต่ขาดงานเป็นประจำจนหัวหน้างานไล่ออกเพราะไม่อยากเก็บคนที่ขี้เกียจและสติไม่ค่อยเต็มร้อยมาทำงาน เพราะอาจสร้างปัญหาให้กับเขาและองค์กรก็เป็นได้...อีวานจึงสาปส่ง ด่าทอเจ้าของห้างสรรพสินค้าเป็นประจำยามเขาเมามาย ทั้งๆ ที่ตัวเจ้าของเองก็ไม่รู้...“นีชา...จะเอานี่กลับไปกินด้วยหรือเปล่า แป้งเหลือเยอะแยะเลย” เจ้าของร้านสาวใหญ่ใจดี เธอเมตตาและแอบมอบอาหารการกินให้เธอเป็นประจำ“ขอบคุณค่ะ
“แม่จ๋านีชาเรียนใกล้จบแล้ว...เสียดายจังแม่ไม่อยู่ในวันที่นีชาประสบความสำเร็จ...แม่รอดูนีชานะจ๊ะ นีชาจะหางานดีๆ ทำและจะพาแม่กลับไประเทศไทย” ความฝันสูงสุดในวันที่ชมนาดสิ้นใจเธออยากกลับบ้านเกิด และนีรนาทรับปากว่าจะต้องทำให้ได้!!เด็กหญิงไม้ขีดไฟมีชีวิตแสนรันทด นีรนาทเองก็เช่นกันไม่ต่างอะไรกับเด็กหญิงที่ต้องขายไม้ขีดไฟเพื่อหาเงินค่าอาหารสักนิด เธอต่อสู้ดิ้นรนมาตั้งแต่มารดาเสียชีวิต เพื่อหาอาหารเลี้ยงปากท้องตัวเองและบิดา!!เสื้อผ้าของใช้ไม่เคยได้ซื้อเพิ่มมาใหม่ ดีแต่ว่าได้รับการอนุเคราะห์จากเพื่อนบ้าน ที่สงสารเธอ เมื่อตัวเธอต้องเก็บซ่อนเงินเอาไว้เพื่อการเรียน จนไม่อยากซื้อหาอะไรนอกจากสิ่งจำเป็นจริงๆ เธอเอนกายลงนอนโดยกอดเสื้อของแม่ไว้ ขดตัวใต้ผ้าห่มเก่าๆ ของแม่ ก่อนจะหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย“นีชา...เอาสตางค์มาให้กูสิ กูจะไปซื้อเหล้า” เสียงโวยวายของอีวานดังขึ้น เมื่อเขาตื่นเต็มที่ ชายสูงวัยรูปร่างท้วม ผมบนศีรษะเหลือแค่ครึ่งเดียว ปลายจมูกแดงก่ำ นัยน์ตาฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ยังคงค้างอยู่ในร่างกายหญิงสาวงัวเงียตื่นขึ้นมา เธอเหลือบมองเวลาที่นาฬิกาเล็กๆ หัวนอน ‘พึ่งจะตีห้าครึ่ง’ เธอพึ่งน
บทที่2.เจ้าชายน้ำแข็ง“พูดมาสลาฟส์ ใคร?” น้ำเสียงเย็นเฉียบยิ่งกว่าเกล็ดหิมะด้านนอกตัวอาคาร ชายสูงวัยหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ จากข้อมูลที่สืบทราบ เขาเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน ว่าจะใช่คนคนนั้น?!! “อีวาน...โบรีส อดีต รปภ. ที่เคยทำงานที่ห้างสรรพสินค้าครับท่าน เขาถูกไล่ออกเพราะเมาสุราขณะทำงาน”“อดีต!! รปภ. ที่ถูกไล่ออก!! แล้วไอ้หมอนั้นมันต้องการอะไร?”“ผมยังไม่รู้ครับ ว่าเขาต้องการอะไรในการลงมือทำครั้งนี้ ความจริงเขาออกไปเป็นปีๆ หากมีเรื่อแค้นเคืองก็น่าจะลงมือตั้งแต่เกิดเรื่องใหม่” สลาฟส์วิเคราะห์ตามข้อมูลที่รู้มา เขาแปลกใจพอๆ กับทุกคนที่อยู่ในทีมสืบสวน“เอาตัวไอ้หมอนั่นมาให้ผม ผมจะสอบสวนมันเอง!! ให้มันรู้ไปสิว่ามันกล้า...” ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืน เขาต้องมาเสียเวลาที่แสนจะมีค่าไปกับเรื่องไร้สาระ แค่คนงานชั้นล่างสุด ก่อเรื่อง แต่มันเป็นการกระทำที่ทำให้เขาเสียรายได้มหาศาล สร้างความขุ่นเคืองในหัวใจ จนไม่อาจปล่อยวางเรื่องนี้ไปง่ายๆ ได้“ครับ” สลาฟส์รับคำเสียงหนักๆ เขาเองก็อยากรู้ว่าอีวานต้องการอะไร ชายแก่นั่นจมอยู่กับกองขวดเหล้า แล้วจู่ๆ ไอ้หมอนั่
แสงไฟฟ้าสว่างจ้า นีรนาทรีบสาวเท้าให้เร็วขึ้น เธอผลักบานประตูจนสายลมเย็นเฉียบไหลกรูเข้าไปภายใน เจ้าหน้าที่หันมามองเธอเป็นตาเดียว เพราะเวลามันดึกเกินว่าจะมีใครมาทำธุระที่สถานีตำรวจ“ขอโทษคะ อีวาน โบรีส อยู่ที่นี่ไหมคะ? หนูเป็นลูกสาวเขาอยากขอประกันตัว” เสียงถามปนเสียงหอบ เพราะเจ้าตัวรีบมาเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้“อีลูกไม่รักดี ปล่อยให้กูนอนอยู่ในนี้ตั้งหลายชั่วโมง มึงไปมุดหัวอยู่ไหนมา!!” สองมืออีวานเกาะซี่ลูกกรง เขาแผดเสียงก้องด่าทอนีรนาทเมื่อเห็นบุตรสาวปรากฏตัวขึ้นมาเคล้งๆ...“หุบปาก!! ยังจะปากดีอีก ต่อให้ขนเงินมากองไว้ก็ไม่ได้ประกันตัวหรอกน่า นอนอยู่ในนั้นแหละ คุณดิมิทรีไม่ปล่อยแกออกมาลอยนวลข้างนอกให้เกะกะนัยน์ตาเขาหรอก” เจ้าหน้าที่ยกกระบองไม้ในมือเคาะไปที่ซีลูกกรง เป็นสัญญาณเตือนชายขี้เมาว่าอย่าได้ส่งเสียงน่ารำคาญ“เห้ย!! ได้ยังไงวะ รังแกคนจนๆ ได้ไง ฉันไม่ยอม”“แกยอมหรือไม่ยอม แกก็ต้องติดคุก ถึงจะไม่ได้ลงมือทำจริงๆ แต่แกส่อเจตนาร้าย เขามีหลักฐานและพยานพร้อม ไม่มีทางดิ้นอยู่แล้ว อย่างมากก็นอนคุกสัก4 -5 ปี”“โฮๆ...” เมื่อรู้ความจริงว่าแค่เพียงอารมณ์ชั่ววูบจะทำให้ตัวเองขาดอิสรภาพและจะต้อง
“คนอย่างอีวานเป็นไม้แก่ดัดยาก เขาควรถูกคนที่เหนือกว่าสั่งสอน ฉันคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ดีเชียวแหละ”“แต่...”“เอาเถอะอยากทำอะไรก็ตามใจ ฉันขอโทษที่ซ้ำเติมพ่อเธอ มันทนไม่ไหวจริงๆ”“ขอบคุณค่ะ”“อืม...ถ้าไม่ไหวยังไง มีอะไรที่ฉันช่วยได้ฉันก็อยากช่วยนะนีชา” หล่อนพ่นลมหายใจแรงๆ พระเจ้าไม่ยุติธรรมเลย คนดีๆ ตายจากแต่คนที่สมควรตายยังคงหยัดยืนอยู่ เธอรู้จักกับชมนาดดี ผู้หญิงน่าสงสารที่อยากมีชีวิตดีขึ้น จนต้องยอมแต่งงานกันคนในพื้นที่ เพื่อจะได้ทำมาหากินได้โดยไม่ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวส่งกลับภูมิลำเนาเดิม แต่เผอิญโชคร้าย ไปคว้าเอาอีวานมาเป็นสามี เขาออกลายทันทีที่แต่งงาน ผู้หญิงไทยคนนั้นจึงต้องก้มหน้าก้มตาหาเลี้ยงสามี และเจียดเงินส่วนหนึ่งส่งกลับไปให้คนทางบ้านเกิด สุขภาพทรุดโทรมลงทุกๆ วันเพราะต้องทำงานเพิ่มอีกเป็นเท่าตัวเพื่อให้มีเงินพอจะเจือจานคนทางบ้านและตัวเอง หล่อนเจ็บออดๆ แอดๆ และเสียชีวิตตอนที่ลูกสาวยังไม่โตเต็มที่ สองแม่ลูกที่เธอเห็นมาเกือบๆ ยี่สิบปี ช่างน่าสงสารและน่าเห็นใจ ผู้หญิงหวังพึ่งสามี และหวังว่าเขาจะทำให้ตัวเองมีการเป็นอยู่ดีขึ้น แต่สามีหรือพ่ออย่างอีวาน สมควรอย่างยิ่งที่จะถูกกำจัด เธอ
“หากย้อนเวลาไปได้นะนีชา ผมจะตามหาคุณทันทีที่รู้ใจตัวเอง...แต่เป็นเพราะผมโง่เขลา จนเก็บความรู้สึกสับสนนั่นแอบซ่อนไว้ มันน่าเจ็บใจตัวเองนักที่ไม่กล้า” ชายหนุ่มโยกลำตัวช้าๆ ทำเหมือนกับกำลังกล่อมเด็กน้อยให้หลับในอ้อมกอดตัวเองเขาโอดครวญที่ตัวเองไม่กล้าแม้แต่จะก้าวออกจากกรอบที่ครอบเขาไว้“ไม่แปลกหรอกค่ะ...เราสองคนแตกต่างกันเกินไป อีกอย่างมันเป็นแค่ข้อแลกเปลี่ยน ที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย” ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยสาปเสื้อของชายหนุ่มเล่น เธอสูดลมหายใจลึกๆ เมื่อคิดถึงช่วงเวลาแสนเศร้าที่ผ่านเลยไปแล้ว“มันน่าตลกนะ...ผมติดกับตัวเอง ตกหลุมรักคนที่ตัวเองเหยียดหยาม...ผมดูถูกว่านีชาต้อยต่ำ แต่ผมกลับติดใจนีชาจนอยากจะกลืนน้ำลายตัวเอง” ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ เมื่อนึกถึงความหลัง“คุณใจร้ายและใจดำมากค่ะ ตอนนั้นนีชาเกลียดคุณแทบตาย...” เธอกดปลายเล็บกับผิวเนื้อแน่นตึงเพราะความหมั่นไส้สุดขีด“หึๆ ผมยังเกลียดตัวเองเลย ไม่แปลกที่นีชาจะเกลียดผม...คนอะไรเห็นผู้หญิงเป็นแค่สิ่งฉาบฉวย...ดูถูกเพศแม่ของตัวเอง เห็นพวกหล่อนเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์.
บทที่21.จอมมารสิ้นลาย3 เดือนแล้วสินะที่เขาใช้ชีวิตคู่กับผู้หญิงหนึ่งเดียวในชีวิต นีรนาท เบนิคอฟ ดิมิทรีไม่นึกเสียใจเลยที่เขาตัดสินใจประกาศแต่งงานกับเธอ เป็นการปิดฉากชีวิตโสด แบบสมบูรณ์แบบแถมตอนนี้ นีรนาทกำลังตั้งครรภ์ครั้งใหม่ คนที่เห่อสุดๆ กลับไม่ใช่เขา กลับเป็นมาดามโรสต่างหาก นางเฝ้าดูแลและคอยหาของกินอร่อยๆ มาคอยบำรุงเธอ อาหารที่มีประโยชน์ นางสรรหามาให้ไม่เคยขาด และแวะเวียนมาคอยดูแล ถามไถ่ ทำประหนึ่งว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์เสียเองก็ไม่ปาน “มัมครับ ตั้งใจจะขุนนีชาเป็นแม่หมูหรือไงครับ ขนมาเยอะแยะเลย” “แกจะไปรู้อะไรไอ้ตัวแสบ ผู้หญิงตั้งท้องครั้งหนึ่งสูญเสียอะไรในร่างกายไปเท่าไร เพราะฉะนั้นต้องเสริมเข้าไปเยอะๆ จะได้แข็งแรงทั้งแม่และลูก!!” นางพูดเสียงกระเง้ากระงอด ค้อนประหลับประเหลือกให้กับลูกชาย
“เมื่อสิ้นวาสนา...ก็ต้องจากกันไป...รั้งอย่างไรก็ไม่อยู่ดังนั้น...ในตอนที่เรา...ยังไม่จากกัน เราได้กระทำดีต่อคนที่แวดล้อมเราแล้วหรือยัง...เพราะเมื่อหมด ‘สัญญากรรม’ แล้ว...ไม่ว่าเราจะมีเงินหรือมีอำนาจจนล้นฟ้า ก็ไม่สามารถเรียกร้องสิ่งที่ผ่านไปแล้วให้กลับคืนมาได้...และไม่รู้ว่าจะกี่ภพกี่ชาติ...ถึงจะได้เจอกันอีก ผู้หญิงสองคนที่ที่พวกคุณอยากรู้ คนหนึ่งเป็นภรรยาผม ส่วนอีกคนเป็นบุตรสาว ส่วนงานแต่งงานก็คงอีกไม่นานครับ... กำลังจัดเตรียมความพร้อมหลายๆ เรื่อง ในอดีตผมเป็นคนไม่ค่อยดีเท่าไร!! มันจึงไม่แปลกที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างผมกับภรรยา เธอเลยไม่เคยเปิดเผยเรื่อง ‘ลูก’ ให้ผมรู้ มันเป็นข้อผิดพลาดเดียวที่ตัวผมเองพยายามจะแก้ไขมาตลอด และนับเป็นความโชคดีที่เธอยอมให้ผมแก้ไขความผิดในอดีตนั่น มันเป็นเพราะความแตกต่างของการเป็นอยู่ และความไม่ชัดเจนของผมเอง ภรรยาผมเลยไม่มีความเชื่อมั่น อย่างที่รู้!! พิคเจอร์ผมมันเป็นผู้ชายเสเพลไม่น่าชื่อถือนี่ ใช่ไหม?” ดิมิทรีพูดยิ้มๆ เขาเลิกปลายคิ้วขึ้นและเอ่ยปากถามความเห็นทุกๆ คนที่กำลังตังใจฟัง พอสิ้นเสียงของเขาเสียงฮือฮาก็ดั
บทที่20.ปิดตำนานหญิงต้อยต่ำกับชายสูงศักดิ์ข่าวก็อตซิปเริ่มมีการลงรูปมาดามโรสผู้สูงศักดิ์ กับเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักแบบที่ย่อส่วนมาดามโรสไว้ได้อย่างเหมาะเจาะลงตัว การเดินเที่ยวในห้างสรรพสินค้าของตัวเอง พร้อมทั้งจับจ่ายของใช้ ของเล่นเด็ก และเสื้อผ้าเด็กผู้หญิงอีกเป็นจำนวนมาก เป็นการเดินซื้อของแบบที่ยาวนาน และสร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกๆ ที่ได้เห็นและพบเจอ เมื่อสรรพนามที่เด็กหญิงใช้เรียกมาดามโรสคือ ‘คุณย่า’ แถมมาดามโรสไม่ปฏิเสธ หากใครก็ตามถามถึงเด็กหญิง ว่าเป็นอะไรกับตัวเอง เด็กผู้หญิงที่หน้าตาน่ารัก ประหนึ่งตุ๊กตาตัวน้อย ผมยาวสลวยสีน้ำตาลไหม้ ดวงตาสีมรกตเธอเป็นใคร? กัน นั่นคือสิ่งที่ทุกๆ คนอยากรู้ ในเมื่อมีข่าวเล็ดรอดออกมาถึงการรวมตระกูลของ ‘คเซนเนีย’ กับ ‘เบนิคอฟ’ แต่มาเงียบหายไปช่วงสองอาทิตย์หลังๆ ดูเหมือนว่ามาดามโรสจะนิ่ง นางไม่ได้กระตือรือร้นที่จะให้ข่าวเหมือนเคย
“ชะอุ้ย!! ลืมได้ยังไงนะ ดีม่ากำลังหิ๊วหิวนี่นา” นัชชาวีคลานต้วมเตี้ยมขึ้นจากอ่างน้ำ ตัวอ้วนกลมวิ่งตุ๊บตับใส่ผ้าเช็ดตัว ที่มาดามโรสกางรออยู่ เด็กหญิงซุกตัวในผืนผ้า ยกมือขึ้นโอบกอดผู้สูงวัยกว่า และส่งยิ้มแป้น จนหัวใจแข็งๆ ยังอ่อนยวบ...“ไปเถอะ ป่านนี้เอมิเรียน่าจะเตรียมชุดสวยๆ ไว้รอแล้วล่ะ เราจะได้ออกไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันไง” นางอยากจะช้อนอุ้มเจ้าตัวกลมเหลือเกิน แต่ว่าดูแล้วจะไม่ไหวกับน้ำหนักตัว เพราะนัชชาวีตัวกลมป้อม เนื้อแน่นตึบเพราะเจ้าตัวชอบกินทุกอย่าง นางจึงได้แต่จับมือป้อมๆ และจูงออกไปด้านนอกแทนเอมิเรียคลี่ยิ้มอ่อนๆ เธอน้ำตาคลอเมื่อได้เห็นภาพสองย่าหลาน ภาพที่เจ้าคิดว่าคงไม่ได้เห็น เพราะดิมิทรีทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัย ดีแต่ลอยไปแล้วก็ลอยมา ไม่มีคนรู้ใจ และยังหาคนเคียงกายไม่ได้ แถมช่วงหลังๆ ยังเก็บตัวเงียบ เคร่งขรึม พึ่งจะมารู้สาเหตุเอาก็อีตอนเห็นคุณหนูตัวน้อยๆ นี่เอง คงแอบไปมีความสัมพันธ์กัน จนก่อเกิดเลือดเนื้อเชื้อไข แต่เป็นเพราะสาเหตุอะไรก็ไม่รู้ ทำให้พลัดพรากกันไป แต่สวรรค์คงเมตตาเลยส่งให้คนทั้งคู่กลับมาพบเจอกัน และทำให้หัวใจคนแก่ๆ ชุ่มชื่นขึ้
บทที่19.ดีม่าจะรักใครดี!! นัชชาวีนั่งหน้าม่อย เธอเท้าสองมือใต้คางและเหม่อมองทุ่งหญ้าด้วยสายตาสุดเซ็ง...จะอะไรเสียอีก ประตูห้องนอนตัวเองแท้ๆ ปิดเงียบสนิท เพราะถูกล็อกจากภายใน นั่งรอตั้งแต่เช้ายันจะสายโด่ง บิดามารดาก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเสียที จึงลากตุ๊กตากระต่ายเพื่อนรัก หิ้วห้อยล่องแล่งลงมาจากชั้นบน มานั่งจุ่มปุ๊กอยู่ตรงบริเวณสวนดอกไม้ ที่นั่งคุยกับมาดามโรสเมื่อวานเพื่อจะหาเพื่อนคุยแก้เหงา หน้ากลมๆ หงิกงอ น้ำก็ยังไม่ได้อาบ เสื้อผ้าก็ยังไม่ได้เปลี่ยน ยังอยู่ในชุดนอนตัวเก่า ที่ใส่ตั้งแต่เมื่อคืน เพราะเข้าห้องตัวเองไม่ได้!! “แด๊ดนะแด๊ด...นอนตื่นสายโด่ง...ดีม่าคันตัวไปหมด อยากอาบน้ำแล้วค่ะ” เด็กหญิงบ่นพึมพำ ริมฝีปากยื่นบิดไปบิดมา “หนูมิ้น...คันไหม?” เสียงคุยกระจุ๋งกระจิ๋งกับตุ๊กตาตัวโปรด ช่วยให้ลืมๆ เรื่องที่ตัวเองกำลังหงุดหง
“ผมว่าคนที่ปรับตัวไม่ได้ น่าจะเป็นนีชามากกว่านะครับ อย่าพยายามหนีผมเลย เราน่าจะทำความรู้จักกันให้มากกว่าเดิม” ชายหนุ่มเอื้อมจับข้อมือเรียวบางไว้ เขาพูดช้าๆ แต่แววตาพราวระยับจนหัวอกหัวใจของนีรนาทสั่นไหว“เราสองคนไม่มีอะไรต้องปรับต้องจูนเข้าหากันค่ะ เราเป็นคนแปลกหน้าที่แค่มี ‘ลูก’ ด้วยกันแค่นั้น อย่าดึงนีชาไปเกี่ยวข้องกับคุณ ปล่อยเราสองแม่ลูกไปตามทางของเราเถอะค่ะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงอ่อนๆ เธอรู้ดีว่าความหวังมันเป็นความทรมานอย่างหนึ่ง เมื่อมีหวังและอยากคว้ามาครอง แต่ในความเป็นจริงมันสูงสุดเอื้อมมือคว้า เพราะเขาลอยอยู่บนฟ้า ในขณะที่ตัวเองลอยเรี่ยๆ ติดพื้นดิน“คนแปลกหน้าที่มี ‘ลูก’ ด้วยกัน ก็แสดงว่าครั้งหนึ่งเราสองคนไม่ได้เป็นคนแปลกหน้ากันนี่ครับ เราชิดใกล้และแนบสนิท และหากผมต้องการแบบนั้นอีกครั้งเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเราในแน่นเฟ้นขึ้น ดีไหมครับ?” เป็นคำถามที่ดิมิทรีไม่ต้องการรอคำตอบเขาปฏิบัติการจู่โจมเพื่อกระชับพื้นที่ ร่างใหญ่หนาพลิกตัวกลับจากท่าทางเดิม คือนอนแผ่กลางเตียงมาคร่อมร่างบอบบางเอาไว้ เธอพยายามผลัก
มาดามโรสรีบชักมือกลับ เชิดปลายคางขึ้น เสยกแก้วชาที่ทิ้งไว้ขึ้นมาจิบแก้อาการขัดเขิน...“ที่นี่ใหญ่กว่าบ้านเก่าของดีม่านับสิบเท่าค่ะ ดีม่ามาอยู่เกือบหนึ่งอาทิตย์แล้ว ยังวิ่งไม่ทั่วบ้านเลยค่ะ” จอมแสบพูดแจ้วๆ ถึงจะไม่ได้รับความสนใจจากหญิงสูงวัยแต่เจ้าตัวสนใจที่ไหนยังพูดคุยไม่หยุด สลับกับกัดขนมในมือกินเพลินๆ“ชอบสินะ...”“ค่ะ...ชอบมากกกกกก คุณย่าเหงาไหมคะ ถ้าเหงาดีม่าจะมาอยู่เป็นเพื่อนบ่อยๆ”“เห็นแก่กินล่ะสิ...ถ้าฉันไม่มีของกินจะมาหาไหมล่ะ” นางปล่อยตัวตามสบาย คลายอาการเกร็งไปเกือบครึ่ง“เปล่าค่ะ...แต่คุณย่าตาดุ๊ดุ!! ดีม่ากลัวค่ะ”“ถ้ากลัว แล้ววันนี้ทำไมถึงกล้าล่ะ”“แหะๆ ดีม่าหิวค่ะ ขนมก็ห๊อมหอมมมม”“เห็นไหมล่ะ เรานะเห็นแก่กิน ตัวบวมๆ เดี๋ยวโตไปไม่สวยนะรู้ไหม?”“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่สวยก็อยู่กับคุณย่าไงค่ะ อยู่นานนนนนนน” เด็กหญิงฉีกยิ้ม กางมือกว้างๆ อธิบายช่วงเวลาประกอบคำพูดตัวเองมาดามโรสคลี่ยิ้มอ่อนๆ เจ้าตัวเล็กนี่ชั
บริเวณสวนหย่อมร่มรื่น เนื่องจากเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ อากาศเริ่มอุ่นขึ้นและดอกไม้ใบหญ้าเริ่มผลิดอกออกใบ ดอกไม้เบ่งบานส่งกลิ่นหอมรวยริน สายลมเย็นๆ พัดโชย ช่วงเวลาบ่ายคล้อยจึงไม่ร้อนมากนักกลิ่นขนมอบลอยฟุ้งผสมกับกลิ่นน้ำชาหอมๆ จนแม้แต่เด็กน้อยที่วิ่งเล่นอยู่ไกลๆ ยังได้กลิ่น นัชชาวีทำจมูกฟุดฟิต เจ้าหล่อนสูดกลิ่นหอมๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศและเริ่มชักชวนลูกสมุนเดินตามหาต้นตอของกลิ่นหอมๆ นั้น ท้องเล็กๆ ร้องโครกคราก น้ำย่อยเริ่มทำงานจนน้ำลายในปากไหลย้อย“หอมขนมเนอะ ป้าแม่ครัวทำอะไรให้ทานเนอะวันนี้ ไปดูกันเร็ว!!” ร่างกลมป้อมออกวิ่งเหยาะๆ ตามกลิ่นขนมที่เจ้าตัวชื่นชอบ จนถึงสวนหย่อมด้านข้างที่มีเก้าอี้เหล็กสวยๆ ตั้งไว้นั่งพักผ่อน“ชะอุ้ย!!” ริมฝีปากสีสดแบะออก และรีบถอยหลังกรูดๆ เมื่อเห็นคนที่น่ากลัวอยู่ตรงนั้น สายตาของ ‘คุณย่า’ มองเธอแบบเฉยชา จนขยาดที่จะเข้าใกล้ แต่ว่า...ถาดขนมนั้นน่าสนใจ!! ทำไงดีนะดีม่า ทำยังไงจะได้ชิมขนมในถาดนั้นโดยไม่ถูกคุณย่าดุ...จอมเจ้าเล่ห์เร่งคิดหาทางแบบเร่งด่วน ดวงตาสุกใสมองขนมสีสวยในถาดตาเป็นมัน!!มาดามโรสยกแก้วชา