แสงไฟฟ้าสว่างจ้า นีรนาทรีบสาวเท้าให้เร็วขึ้น เธอผลักบานประตูจนสายลมเย็นเฉียบไหลกรูเข้าไปภายใน เจ้าหน้าที่หันมามองเธอเป็นตาเดียว เพราะเวลามันดึกเกินว่าจะมีใครมาทำธุระที่สถานีตำรวจ
“ขอโทษคะ อีวาน โบรีส อยู่ที่นี่ไหมคะ? หนูเป็นลูกสาวเขาอยากขอประกันตัว” เสียงถามปนเสียงหอบ เพราะเจ้าตัวรีบมาเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
“อีลูกไม่รักดี ปล่อยให้กูนอนอยู่ในนี้ตั้งหลายชั่วโมง มึงไปมุดหัวอยู่ไหนมา!!” สองมืออีวานเกาะซี่ลูกกรง เขาแผดเสียงก้องด่าทอนีรนาทเมื่อเห็นบุตรสาวปรากฏตัวขึ้นมา
เคล้งๆ...
“หุบปาก!! ยังจะปากดีอีก ต่อให้ขนเงินมากองไว้ก็ไม่ได้ประกันตัวหรอกน่า นอนอยู่ในนั้นแหละ คุณดิมิทรีไม่ปล่อยแกออกมาลอยนวลข้างนอกให้เกะกะนัยน์ตาเขาหรอก” เจ้าหน้าที่ยกกระบองไม้ในมือเคาะไปที่ซีลูกกรง เป็นสัญญาณเตือนชายขี้เมาว่าอย่าได้ส่งเสียงน่ารำคาญ
“เห้ย!! ได้ยังไงวะ รังแกคนจนๆ ได้ไง ฉันไม่ยอม”
“แกยอมหรือไม่ยอม แกก็ต้องติดคุก ถึงจะไม่ได้ลงมือทำจริงๆ แต่แกส่อเจตนาร้าย เขามีหลักฐานและพยานพร้อม ไม่มีทางดิ้นอยู่แล้ว อย่างมากก็นอนคุกสัก4 -5 ปี”
“โฮๆ...” เมื่อรู้ความจริงว่าแค่เพียงอารมณ์ชั่ววูบจะทำให้ตัวเองขาดอิสรภาพและจะต้องรับโทษทัณฑ์ อีวานรูดตัวลงไปกองที่พื้น เขาปล่อยเสียงโฮลั่น แม้แต่คนที่อยู่ในกรงเดียวกันยังต้องเบือนหน้าหนี เพราะความสมเพชล้วนๆ
“ไม่มีทางอื่นแล้วเหรอคะ ไม่มีทางที่จะช่วยแด๊ดได้เลยหรือ?” นีรนาทกลั้นสะอื้นเธอสงสารบิดาจนน้ำตาเกือบจะหยด สภาพที่แสนหดหู่ เมื่อผู้ชายแก่ๆ คนหนึ่งร่ำร้องแบบไม่อายใคร ร่างอวบท้วมสั่นเทา น้ำหูน้ำตาไหลพรากๆ เขาเกาะซี่ลูกกรงและร้องขอความช่วยเหลือจากบุตรสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าหน้าที่
“นีชาช่วยแด๊ดด้วย แด๊ดไม่อยากอยู่ในนี้ มันอึดอัดทรมานไม่เหมือนบ้านเราเลย”
หญิงสาวมองบิดาด้วยความสงสารสุดขีด ถึงเขาจะทุบตีและได้แต่ด่าทอ แต่อีวานก็เป็นพ่อ!!
“มีทางอื่นไหมคะ? นีชาสงสารแด๊ด” เสียงเครือสะอื้นของเด็กสาวที่ใครๆ ในถิ่นนี้รู้จักเป็นอย่างดี เพราะนีรนาทนอบน้อมถ่อมตน เธอเป็นลูกกตัญญูที่ทุกคนรู้ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจถอนหายใจ ความจริงเขาเห็นด้วยที่จะจับอีวานยัดใส่กรงขัง ไอ้ขี้เมานั่นจะได้ปรับปรุงตัว หลังจากพ้นโทษ...นีรนาทจะได้บิดาที่เป็นคนดีขึ้นมาบ้าง แต่พวกเขาก็รู้อีกนั่นแหละ ต่อให้พ่อบังเกิดเกล้าเลวแค่ไหน เขาก็ยังเป็นผู้ให้กำเนิด เพราะฉะนั้นนีรนาทคงไม่ยอมนิ่งดูดาย
“มันก็พอมีนะนีชา...แต่หนูจะทำได้หรือ?”
“อะไรคะ? แค่มีแสงสว่างเพียงนิดหน่อย นีชาก็พร้อมจะทำค่ะ นีชาสงสารแด๊ด” แววตาเด็กสาวโชนแสงขึ้นมา เธอมีความหวังแม้น้อยนิดก็ยังดีกว่าทนมองบิดาถูกโทษทัณฑ์
“ต้องไปคุยกับโจทย์เอง หากเขายอมความโทษก็ไม่หนัก อาจจะแค่รอลงอาญาแค่นั้นเอง”
“จริงเหรอคะ? นีชาต้องไปขอร้องใครคะ”
“คุณดิมิทรี เบนิคอฟ เขาเป็นคนแจ้งจับ เป็นโจทย์คนนั้นล่ะ”
ดิมิทรี เบนิคอฟ ผู้ชายนัยน์ตาสีเขียวเข้ม มีรูปเขาในหน้าหนังสือแมกกาซีนเป็นประจำในฐานะนักธุรกิจไฟแรงและร่ำรวย หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ เธอจะต้องไปวิงวอนผู้ชายคนนั้นเหรอ? ผู้ชายที่มีแววตาคมกริบยิ่งกว่าใบมีดโกน ผู้ชายที่ยืนอยู่บนหอคอยงาช้างที่เธอได้แต่แหงนหน้าขึ้นมอง
ไหล่ลู่คอตก อาการนี้เกิดขึ้นกับนีรนาท เมื่อเธอยังมองไม่เห็นทางที่จะเขาถึงผู้ชายคนนั้น...เจ้าชายน้ำแข็ง ดิมิทรี เบนิคอฟ!!
“ไม่มีนางฟ้าใจดีบ้างเหรอคะ? ตอนนี้นีชาต้องการที่สุด นีชาอยากได้พรวิเศษ อยากเสกให้ตัวเองไปยืนอยู่ตรงหน้าเขา” เสียงพึมพำติดริมฝีปาก เมื่อมันเป็นได้แค่ความฝัน เมื่อในชีวิตจริงนางฟ้า หรือผู้วิเศษไม่มีอยู่จริง ทุกอย่างต้องสร้างด้วยสองมือ และคนจนๆ ไม่มีสิทธิ์มีเสียง แม้จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง
เวลาย่างเข้าสู่วันใหม่มากว่าสามชั่วโมง นีรนาทยังคงเดินท่อมๆ ไม่มีจุดหมาย มือใต้ถุงมือเก่าๆ เย็นเฉียบ หน้าชายิบเพราะอากาศรอบตัวเย็นจัด สิ่งที่เธอทำได้ก็คือขยับตัวให้ความอบอุ่นกับร่างกาย ยกมือขึ้นกอดอกแม้ไม่ช่วยอะไรเลย แต่มันก็ยังทำให้เห็นว่าตัวเองยังคงมีชีวิตและยังยืนอยู่บนพื้นโลก
เป้าหมายที่เธอต้องไปให้ถึงคือคฤหาสน์ ‘เบนิคอฟ’ สถานที่พักอาศัยของผู้ชายคนนั้น คนที่จะชี้เป็นชี้ตายให้กับพ่อของเธอ แม้ยังมองไม่เห็นหนทางที่จะทำได้ แต่นีรนาทก็ไม่ย่อท้อ เมื่อพ่อก็คือพ่อวันยังค่ำ เธอรู้ดีว่าใน ‘คุก’ มันลำบากยากเย็นเพียงไหน มันอึดอัดและไร้ซึ่งอิสรภาพ บิดาแก่เกินไปที่จะจะต้องทนอุดอู้อยู่ในนั้น ถึงอีวานจะไม่ใช่พ่อที่ดีแต่ท่านก็เป็นผู้ให้กำเนิด
คฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งอยู่กลางใจเมืองกว่านีรนาทจะเดินทางมาถึงเธอต้องต่อรถไฟฟ้าใต้ดินหลายรอบ ถึงสถาปัตยกรรมจะสวยงามล้ำค่า แต่เธอไม่ได้มีสายตาพอที่จะชื่นชมเมื่อกำลังมีปัญหาลุมเร้า ความสวยงามที่เคยอยากจะมีเวลามานั่งมองทั้งวันจึงกลายเป็นแค่ความว่างเปล่า
05:00นาฬิกา อากาศเย็นเฉียบจนเธอเกือบจะแข็งตาย นีรนาทตัดสินใจโทรศัพท์หาเจ้าของร้านขายเครปที่ตัวเองทำงานอยู่เพราะนางคงตื่นขึ้นมาเตรียมขายของแล้ว เมื่อใกล้ถึงเวลาเปิดร้านเหมือนทุกๆ วัน
“มิส...นีชาขอลาหยุดนะคะ มีปัญหานิดหน่อย”
สาวใหญ่ใจดีถอนใจเฮือกๆ “นีชา...ฉันรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ใจเย็นๆ นะ หนูต้องรู้ด้วยว่า ‘เบนิคอฟ’ ไม่ใช่คนกระจอกๆ เหมือนกับเราๆ เขาต้องมีหลักฐานแน่นหนา ไม่อย่างนั้นคงไม่ลงมาเอาเรื่อง อีวานหรอก คิดให้ดีก่อนที่จะทำอะไร ฉันไม่ได้อยากซ้ำเติมนะ แต่พ่อของหนูควรได้บทเรียนเสียบ้าง” เธอว่าจะไม่แล้วเชียว เพราะสงสารเด็กสาวคนนั้น ที่ต้องทนอยู่ใต้การบงการของพ่อที่ดีแต่ด่าทอและขี้เกียจ มันอดไม่ได้ที่จะสมน้ำหน้า เพราะหากอีวานได้เข้าไปอยู่ในที่คุมขังเขาก็น่าจะดีขึ้นเพราะถูกปรับเปลี่ยนนิสัย นีรนาทก็จะได้สบายใจขึ้น
“ค่ะ...แต่นีชาคงอยู่เฉยๆ ไม่ได้ แด๊ดแก่แล้วค่ะ มันอาจทำให้ท่านไม่สบายหากต้องเขาไปอยู่ในที่แบบนั้น” เธอเลี่ยงที่จะใช้คำว่า ‘คุก’ เมื่อมันทำให้รู้สึกหดหู่สิ้นดี
“คนอย่างอีวานเป็นไม้แก่ดัดยาก เขาควรถูกคนที่เหนือกว่าสั่งสอน ฉันคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ดีเชียวแหละ”“แต่...”“เอาเถอะอยากทำอะไรก็ตามใจ ฉันขอโทษที่ซ้ำเติมพ่อเธอ มันทนไม่ไหวจริงๆ”“ขอบคุณค่ะ”“อืม...ถ้าไม่ไหวยังไง มีอะไรที่ฉันช่วยได้ฉันก็อยากช่วยนะนีชา” หล่อนพ่นลมหายใจแรงๆ พระเจ้าไม่ยุติธรรมเลย คนดีๆ ตายจากแต่คนที่สมควรตายยังคงหยัดยืนอยู่ เธอรู้จักกับชมนาดดี ผู้หญิงน่าสงสารที่อยากมีชีวิตดีขึ้น จนต้องยอมแต่งงานกันคนในพื้นที่ เพื่อจะได้ทำมาหากินได้โดยไม่ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวส่งกลับภูมิลำเนาเดิม แต่เผอิญโชคร้าย ไปคว้าเอาอีวานมาเป็นสามี เขาออกลายทันทีที่แต่งงาน ผู้หญิงไทยคนนั้นจึงต้องก้มหน้าก้มตาหาเลี้ยงสามี และเจียดเงินส่วนหนึ่งส่งกลับไปให้คนทางบ้านเกิด สุขภาพทรุดโทรมลงทุกๆ วันเพราะต้องทำงานเพิ่มอีกเป็นเท่าตัวเพื่อให้มีเงินพอจะเจือจานคนทางบ้านและตัวเอง หล่อนเจ็บออดๆ แอดๆ และเสียชีวิตตอนที่ลูกสาวยังไม่โตเต็มที่ สองแม่ลูกที่เธอเห็นมาเกือบๆ ยี่สิบปี ช่างน่าสงสารและน่าเห็นใจ ผู้หญิงหวังพึ่งสามี และหวังว่าเขาจะทำให้ตัวเองมีการเป็นอยู่ดีขึ้น แต่สามีหรือพ่ออย่างอีวาน สมควรอย่างยิ่งที่จะถูกกำจัด เธอ
แสงอ่อนๆ ของพระอาทิตย์ยามเช้าแม้จะหม่นมัวเพราะก้อนเมฆบดบัง แต่มันก็สว่างพอจะเห็น ยัยเด็กนี่นัยน์ตาสวย ผิวแก้มอมสีชมพูระเรื่อ ขนตายาวเป็นแพเหมือนปีกผีเสื้อ รวมๆ แล้วก็หน้าตาดีไม่ใช่เล่น แต่...ที่สำคัญเธอทำให้เลือดลมเขาพุ่งพล่านและรู้สึกเป็นผู้ชนะกำลังกุมอำนาจล้นเหลืออยู่ในมือ“คนอย่างเธอจะมาทำอะไรให้ฉันได้ ฉันมีทุกอย่างเพียบพร้อม ไม่เคยต้องการอะไรจากคนอื่นๆ” ชายหนุ่มยกยิ้มหมิ่นๆ มุมปาก เขาหมุนตัวกลับเตรียมจะเดินหนี แม้จะติดใจหน้างดงามปานนางฟ้าของเจ้าหล่อนก็ตาม“ขอร้องเถอะค่ะ!! จะเอานีชาไปต้มยำทำแกงที่ไหนเมื่อไรก็ได้ ขอแค่คุณปล่อยแด๊ดนีชา” เสียงวิงวอนแหบพร่า เรือนกายสั่นระริกไม่ใช่เพราะความหนาวแต่เป็นเพราะกำลังร่ำไห้อย่างหนักที่ไหน? เมื่อไร ยังไงก็ได้รึ? ความจริงผู้หญิงที่อยู่รายรอบตัวของเขาก็มีไม่ใช่น้อย ไม่จำเป็นต้องมาคว้าผู้หญิงข้างทางขึ้นมาเป็นนางบำเรอนี่นะ แต่มันก็น่าสนใจไม่ใช่น้อยไม่ใช่รึ ผู้หญิงตรงหน้านี่ดูท่าจะยังสดสะอาด แม้จะดูสกปรกมอมแมมแต่หลังเปลื้องผ้าเก่าๆ ปอนๆ นั้นออก เธอคงงดงามไม่ใช่เล่น...“ตามมา... เข้าไปคุยข้างในดีกว่า ของนอกนี่มันหนาว อีกอย่างฉันยังไม่อยากเป็นข่าว” ช
บทที่3.หิมะกับผ้าห่ม“กลับมาแล้วโว้ย...นีชาอยู่ไหนลูก” อีวานเดินเข้าบ้าน เขาส่งเสียงโวยลั่น เขาทรุดนั่งบนเก้าอี้เก่าๆ ตัวหนึ่ง ส่งเสียงเรียกบุตรสาวเพราะจู่ๆ ก็ถูกปล่อยตัวออกมาจากที่คุมขังเงียบ...ไม่มีเสียงตอบกลับอีลูกเวรนั่นไปมุดหัวอยู่ที่ไหน? ทำไมไม่มาสนใจคอยดูแลเขาเลย...“อีเด็กเปรตนั่นหายหัวไปไหนวะ กูหิวเหล้าจะตายอยู่แล้ว” เขาก่นด่าออกมาเสียงแข็ง จะซื้อเหล้าเข้ามาเอง ในกระเป๋ากางเกงก็ไม่มีเศษเงินสักสตางค์ จึงจำใจซมซานกลับมาบ้าน แต่ก็ยังไม่ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการเสียที ร่างอวบท้วมเดินรื้อของภายในบ้านเพื่อค้นหาเศษสตางค์ไปหาซื้อเหล้ามาล้างปาก ไอ้เศรษฐีเจ้าของห้างจู่ๆ มันก็ใจดีขึ้นมา ไม่เอาเรื่องเอาราวที่เขาไปก่อไว้ ไอ้ตำรวจหน้าโง่ทั้งสถานีจึงปล่อยตัวเขากลับบ้าน...“เจอแล้วอีลูกเวรแอบซุกเงินไว้นี่เอง” ชายสูงวัยที่มัวเมาอยู่ในโลกน้ำเมาไม่สนใจความเหนื่อยยากของบุตรสาว นีรนาทสู้อุตส่าห์เก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ไว้ใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียน นอกเหนือที่จับจ่ายภายในบ้าน แต่ก็ยังถูกอีวานฉกเอาไปอยู่ดีเขาเปิดประตูบ้านเดินฝ่าความหนาวเย็นเพื่อไปร้านเหล้า...และจะกลับมานอนซุกตัวอยู่ในบ้านกินเหล้าเปรม
“ใจเย็นๆ นีชา ไม่ต้องกลัว ไม่ถึงตายหรอกแค่เสียตัวเอง” เธอกล่าวปลอบใจตัวเอง เป็นคำพูดหยามหยันที่ได้ยินได้ฟังยังเจ็บจี๊ดๆแปลก!! รถยนต์จอดสนิทหน้าตึกสูงระฟ้า ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า ‘เบนิคอฟมอลล์’ เท่าไร เธอแหงนมองตัวตึกสูงระฟ้า เกล็ดหิมะล่วงหล่นใสหน้าจนรู้สึกเย็นจับขั้วหัวใจ“เชิญครับมิส!! ทางนี้ครับ” ชายชุดดำที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม เขาผายมือบอกทางให้กับนีรนาท แล้วจึงเดินนำหน้า สายตาหลายคู่เหลือบมองผู้หญิงคนหนึ่งที่การแต่งตัวขัดกับสถานที่ เสื้อเก่าๆ ปอนๆ การแต่งกายที่ไม่เหมาะกับสถานที่โอ่อ่าและมันทำให้นีรนาทรู้สึกอาย หน้าเธอร้อนฉ่าด้วยความอายสุดขีดประตูลิฟต์ปิดลง ช่วยให้เธอหายใจหายคอสะดวกขึ้น เธอเหม่อมองทิวทัศน์ผ่านกระจกใส ที่เคลื่อนที่ขึ้นไปยังจุดหมาย ทุกอย่างรอบตัวมีแต่ความเงียบและความเงียบ ผู้ชายที่นำเธอมาเหมือนหุ่นยนต์มากกว่าคนมีชีวิต เขาทำงานตามคำสั่งมหาอำนาจด้วยความแข็งขัน หน้าเย็นชาและไร้จิตใจแบบสิ้นเชิง“มิสต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและทำความสะอาดร่างกายก่อนครับ ผมเตรียมทุกอย่างไว้ในห้อง มิสมีเวลา สามสิบนาที ก่อนที่ท่านจะมาถึง”นีรนาทฟังเงียบๆ เธอไม่ได้แย้งหรือทักท้วง หลังพูดจบ
“ปะ... ปล่อยค่ะ...เอ่อ...นีชายังไม่เคยแต่ปล่อยนีชาก่อนได้ไหมคะ...นะคะ ให้เวลานีชาทำใจบ้าง...”“หึ หึ ฉันให้เวลาเธอมาทั้งวันแล้วเด็กน้อย ฉันคิดว่าเธอน่าจะพอทำใจได้บ้างแล้วนะ”“ค่ะ...เอ่อ นีชายอมคุณทุกอย่างอยู่แล้วค่ะ แค่ขอเวลาเพื่อทำใจบ้างเท่านั้นเอง”“แน่ใจเหรอเด็กน้อย ว่าเธอต้องทำใจ!!”ดิมิทรีชะโงกเข้าไปถามใกล้ๆ ใกล้เสียจนลมหายใจร้อนๆ ของเขาเป่ารดปลายจมูกเชิดโด่ง อยู่ๆ ในช่องท้องหญิงสาวก็ปั่นป่วน มันปวดมวนจนต้องรีบเบี่ยงหน้าหนี หน้าหวานแดงก่ำร้อนฉ่าและผิวแก้มคงขึ้นสีจัดมารยาผู้หญิงดิมิทรีเห็นมามากมาย จนไม่คิดว่าจะมีมารยาแบบไหนที่เขาไม่เคยคุ้น แต่...สิ่งที่เห็นตรงหน้า เป็นความแปลกแตกต่างที่เคยเจอ ผู้หญิงคนนี้มีอะไรบางอย่างไม่เหมือนกับที่เขาเคยเจอเป็นประจำ เธอมีความหวั่นกลัว และขลาดเขลาอ่อนแอ แต่เธอก็ยังเชิดหน้าสู้ แม้ร่างกายจะสั่นระริกเพราะความกลัว มันทำให้หัวใจหนุ่มแน่นเต้นแรง เพราะรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า มันเหมือนกับว่าเขากำลังกำหนดชะตาชีวิตของใครคนหนึ่ง และมันหมายถึงชนะ!!ร่างสั่นระริกในอ้อมแขน กลิ่นสาปสาวส่งกลิ่นหอมยวนใจ จนหัวใจพญาหมีขาวแห่งขั้วโลกเหนือเต้นพล่าน...เขาจะอุทิศตัว
ปลายยอดสีสุกปลั่งถูกอุ้งปากร้อนชื้นอ้างับ เขาดูดซึมความหวานฉ่ำและนุ่มหยุ่นเต่งตึง ฝ่ามือร้อนๆ เคลื่อนที่เขาครอบครองเต่งเต้าข้างที่เหลือ เขาเคล้นคลึงด้วยความพอใจ บีบบี้เหมือนกำลังนวดคลึงแป้งทำขนม ที่แน่นหนึบติดฝ่ามือแต่นุ่มเนียนละมุน ความรู้สึกหวามไหวไหลปร่าแผ่กระจายทั่วทุกตารางนิ้วของผิวกาย นีรนาทเกือบหลุดเสียงครางแปลกๆ น่าอายหลายต่อหลายครั้ง เมื่อรู้สึกสยิวซาบซ่านยามที่ถูกโลมลูบตามเนื้อตามตัว ทั้งๆ ที่ตั้งใจมั่นว่าจะไม่คล้อยตาม เขาอยากทำอะไรก็ปล่อยตามใจโดยที่เธอจะเฉยชาเป็นการสนองตอบ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ร่างกายของเธอแทบจะลุกเป็นไฟ ยามเมื่อถูกฝ่ามือใหญ่ๆ ลูบไล้สัมผัส ให้ตายเถอะ!! เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะถูกปลุกง่ายดายได้ถึงเพียงนี้ กระแสไฟอ่อนๆ วิ่งพล่านทั่วทั้งตัวมันจุดประกายบางอย่างที่เธอไม่เคยรู้ และมันกำลังทำให้เธออยากรู้สิ่งต่อไปที่กำลังจะมาถึง!!ชายหนุ่มสัมผัสความเต็มตึงด้วยความพึงใจ ยิ่งลูบไล้ยิ่งสัมผัส ทุกสิ่งอย่างล้วนถูกใจ จึงเดินหน้าเต็มกำลัง...เสียงคราวผะแผ่ว ดังรอดออกมาจากกลีบปากที่เม้มแน่น ตั้งแต่ความซ่านเสียวสาดใส่จนคนใจแข็งก็ยังลืมตน ดิมิทรียกยิ้มมุมปาก เขาพรมจุมพิตหนัก
บทที่4.เปลวไฟพิศวาสมือแข็งแรงยกชายชุดเดรสสีขาวขึ้นจรดปลายจมูก หลุบเปลือกตาลง แล้วสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่โชยออกมาจากเสื้อตัวนั้นเข้าปอดลึกๆ กลิ่นหอมหวานนั้นปะปนแผ่วเบารวมกับกลิ่นน้ำหอมประจำตัวของเขานั่นเองแม้กลิ่นจะเบาบางเพราะนีรนาทสวมไว้ไม่นาน แต่ดิมิททรีกลับสัมผัสได้อย่างชัดเจน เพราะกลิ่นนี้ เขาเพิ่งซุกไซ้สูดดมแบบคลั่งไคล้ เมื่อสักครู่ที่ผ่านมานั่นเอง เสียงทุ้มครวญครางเรียกหาเจ้าของกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ตราตรึงใจนั้นแผ่วเบาทว่าอ่อนหวานยิ่งนัก“นีชา...”ชายหนุ่มสะดุ้งโหย่ง!! เขารีบเหวี่ยงชุดเดรสในมือทิ้งไป สายตาคมกวาดมองรอบห้องที่เงียบผิดปรกติ หลังจากใช้เวลาทำใจพักใหญ่ในห้องน้ำเกือบสิบนาที“ไปไหนนะ?” ดิมิทรีรำพึงแผ่วๆ แต่ก็ไม่หยุดมองหาเจ้าของกลิ่นที่ทำให้เขาว้าวุ้นใจ เมื่อแม้แต่การป้องกันตัว ยังลืม!!ดิมิทรีเดินหาเจ้าหล่อนทั่วห้อง ไม่เห็นแม้แต่เงา? และตอนนี้เขากำลังโกรธจัด!! รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีความหมาย ถูกผู้หญิงทิ้งไปแบบไม่ให้ตั้งตัว ที่สำคัญเขายังไม่อิ่ม!! แต่ตกใจตัวเอง เลยขอถอยไปตั้งหลักก่อน...“พวกแกปล่อยเธอไปงั้นเหรอ!! ใครสั่งวะ?” อารมณ์เดือดพล่านวิ่งตามกระแสเลือดและมันเป็นครั้งแรก
“คุณดิมิทรีฝากมาให้...ผมเป็นคนของเขา” นีรนาทเกือบทิ้งกระดาษชิ้นนั้นไปแล้ว เพราะเธอคิดว่าหนุ่มๆ พวกนี้คงจะมาแนวเดียวกันคือการให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของเขามอบให้กับเธอ แต่มันผิดคาด เมื่อชื่อของคนๆ นั้นผ่านริมฝีปากหนาหยักนั่นมา...เธอแอบคลี่กระดาษเปิดอ่าน ถ้อยคำที่ผู้ชายร้ายกาจฝากมาถึง...มือสั่นระริก เมื่อตัวอักษรนั้นย้ำให้เธอรู้สึกด้อยค่า“ถ้าเกิดอะไรขึ้น ‘ฉัน’ จะไม่รับผิดชอบใดใดทั้งสิ้น เพราะฉันถือว่าจ่ายค่าตัวให้เธอแล้ว แต่เธอปฏิเสธเอง”มันเป็นสิ่งที่เธอกลัวเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไปเรียกร้องความรับผิดชอบจากเขานี่ เธอก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะมือสั่นระริกกำกระดาษจนเป็นก้อนกลมๆ ก่อนจะขว้างทิ้งด้วยความโกรธจัด!! เธอไม่เคยคิดจะสักนิด หากเกิดขึ้นจริงๆ เธอก็จะเลี้ยงดูเขาเองเมื่อเขาเป็นเลือดก้อนหนึ่งของเธอเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในชีวิตที่มีค่ากว่าที่ผู้ชายใจร้ายคนนั้นจะคาดถึงนีรนาทฝืนใจกลับไปทำงาน เธอปัดความรู้สึกกังวลทิ้งไป พยายามที่จะไม่ใส่ใจเมื่อสิ่งที่กลัวยังไม่เกิดขึ้นเสียหน่อย... เธอยังต้องกินต้องใช้ หากมัวแต่กลัวใครจะหาเงินค่าใช้จ่ายในบ้าน เมื่อบิดาไม่สามารถพึ่งได้เหมือนคนอื่นๆ