แสงอ่อนๆ ของพระอาทิตย์ยามเช้าแม้จะหม่นมัวเพราะก้อนเมฆบดบัง แต่มันก็สว่างพอจะเห็น ยัยเด็กนี่นัยน์ตาสวย ผิวแก้มอมสีชมพูระเรื่อ ขนตายาวเป็นแพเหมือนปีกผีเสื้อ รวมๆ แล้วก็หน้าตาดีไม่ใช่เล่น แต่...ที่สำคัญเธอทำให้เลือดลมเขาพุ่งพล่านและรู้สึกเป็นผู้ชนะกำลังกุมอำนาจล้นเหลืออยู่ในมือ
“คนอย่างเธอจะมาทำอะไรให้ฉันได้ ฉันมีทุกอย่างเพียบพร้อม ไม่เคยต้องการอะไรจากคนอื่นๆ” ชายหนุ่มยกยิ้มหมิ่นๆ มุมปาก เขาหมุนตัวกลับเตรียมจะเดินหนี แม้จะติดใจหน้างดงามปานนางฟ้าของเจ้าหล่อนก็ตาม
“ขอร้องเถอะค่ะ!! จะเอานีชาไปต้มยำทำแกงที่ไหนเมื่อไรก็ได้ ขอแค่คุณปล่อยแด๊ดนีชา” เสียงวิงวอนแหบพร่า เรือนกายสั่นระริกไม่ใช่เพราะความหนาวแต่เป็นเพราะกำลังร่ำไห้อย่างหนัก
ที่ไหน? เมื่อไร ยังไงก็ได้รึ? ความจริงผู้หญิงที่อยู่รายรอบตัวของเขาก็มีไม่ใช่น้อย ไม่จำเป็นต้องมาคว้าผู้หญิงข้างทางขึ้นมาเป็นนางบำเรอนี่นะ แต่มันก็น่าสนใจไม่ใช่น้อยไม่ใช่รึ ผู้หญิงตรงหน้านี่ดูท่าจะยังสดสะอาด แม้จะดูสกปรกมอมแมมแต่หลังเปลื้องผ้าเก่าๆ ปอนๆ นั้นออก เธอคงงดงามไม่ใช่เล่น...
“ตามมา... เข้าไปคุยข้างในดีกว่า ของนอกนี่มันหนาว อีกอย่างฉันยังไม่อยากเป็นข่าว” ชายหนุ่มพูดเสียงนิ่ง เขาเดินนำหน้านีรนาทไปช้าๆ หญิงสาวคลี่ยิ้มจนริมฝีปากอิ่มสั่นระริก แม้จะเป็นแค่ความหวังอันน้อยนิดเธอก็พร้อมและเต็มใจที่จะรับ เขาจะทำอย่างไรกับเธอก็ได้ จะใช้เธอเยี่ยงทาสก็จะน้อมรับเพื่อตอบแทนพระคุณผู้ให้กำเนิด
สายลมพัดกรูเหมือนจะร่วมอวยพรให้กับนีรนาท หญิงสาวก้าวเท้าเดินตามไปห่างๆ เพียงผ่านประตูเหล็กเข้าไปภายใน ความงดงามแตกต่างกับภายนอกลิบลับ หลังกำแพงหินทึบๆ มีแต่ความสวยงาม ไม้ดอกไม้ประดับส่งกลิ่นหอมรวยริน แม้อากาศจะหนาวจัดแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความงามนั้นลดทอนลงไปเลย กุหลาบดอกโตๆ เกือบจะเท่าหน้าของเธอ สีจัดจ้านสลับกับสีอ่อนๆ เรียงรายดูงดงามจับตา ไม้ยืนต้นสูงใหญ่เด่นตระหง่าน เหมือนกับคฤหาสน์ของเจ้าหญิงในนิทานที่เล่าให้เด็กๆ ฟังก่อนนอน ปราสาทของอสูรกาย ที่คอยจับตัวคนหลงทางเพื่อต่อรองเอาของแลกเปลี่ยนเพื่อให้ตัวเองพ้นคำสาป!!
“ทางนี้” หลังเดินผ่านประตูหน้าบ้านที่เป็นกระจกแก้วสลับสี สวยที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็น ภายในยิ่งตะลึงแลมากกว่าเสียอีก เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นงดงามเกินคำบรรยาย เป็นคนรวยนี่ดีจังเลยเนอะ ทุกสิ่งรอบตัวล้วนมีแต่ของสูงค่าราคาแพง
ห้องหนังสือกึ่งห้องทำงาน ดิมิทรีใช้เป็นที่เจรจา...
มือแข็งแรงรูดซิปปลดเสื้อวอร์มหนาๆ ออกไปจากลำตัว เพราะภายในบ้านมีเครื่องทำความร้อน เขาโยนมันไว้บนโซฟาตัวหนึ่งและเหลือบมองหญิงสาวที่ยังคงยืนนิ่งๆ
“”ถอดออกก็ได้นะ เธอจะร้อนเปล่าๆ” เขาปรายตามองเสื้อโค๊ทเก่าแสนเก่า ที่สำคัญมันสกปรกวะ!!
นีรนาทก้มมองเสื้อตัวใหญ่เก่าแสนเก่าของตัวเอง ช่วยไม่ได้เธอมีแค่เสื้อตัวนี้ตัวเดียวที่ใช้สำหรับห่อหุ้มร่างกายป้องกันความหนาวของอากาศภายนอกบ้าน เธอค่อยปลดกระดุมและถอดเสื้อออกไปจากตัวช้าๆ ด้านในเธอมีเสื้อยืดหนาๆ อีกหนึ่งตัว เบนิคอฟหนุ่มหรี่ตาลง เขาลุ้นและกำลังประเมินหุ่นของแม่สาวขยะเก่าๆ ว่ามันจะคุ้มไหมหากเขาจะลงทุนเกลือกกลั้วด้วย
อืม...มันเป็นอะไรที่เกิดคาด!! แม่สาวน้อยตรงหน้าหุ่นดีจนเขาคาดไม่ถึง ลาดไหลกลมกลึงใต้เสื้อยืดพอดีตัวสีขาวขุ่นๆ เพราะความเก่า เนินอกอวบอิ่มรับกับช่วงเอวกิ่วเรื่อยไปถึงสะโพกผายกลมกลึงใต้กางเกงสีขรึมๆ ที่เก่าไม่แพ้กัน ชายหนุ่มพ่นลมหายใจพรวดๆ ระบายความร้อนในร่างกายที่วิ่งพล่านผิดปรกติ ‘ยัยนี่มีอะไรใหม่บ้างนะ ความจนเกาะทั่วทั้งตัว’ ชายหนุ่มยกยิ้มเหยียดๆ ถึงจะดูดีไม่มีที่ติ แต่เธอก็เป็นแค่ดอกไม้ข้างทาง ที่ถูกเด็ดดมและทิ้งขวางเมื่อมันไม่ได้ทำให้เขาโดดเด่นขึ้น เป็นได้แค่ของใช้ชั่วคราว หลังหมดความหวาน เธอก็จะเหลือกแค่กากที่ไร้ประโยชน์...
“เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยดีกว่า...” เขาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวใหญ่สีดำทะมึนเอนตัวพิงพนักโซฟาและยกขาขึ้นไขว้ พุ่งสายตามองตรงไปยังผู้หญิงสาวสวย!!
นรีนาทมองสบตากับเขา แต่เธอไม่สามารถทนกระแสความร้อนแรงนั้นได้จึงเสเบือนหน้าหนี
“ฉันจะยอมความให้!! แต่มีข้อแม้นะ...ในเมื่อฉันเป็นนักธุรกิจ...ต้องการผลรับที่คุ้มค่า เธอจะยอมตกลงไหมล่ะ?”
“ยอม...หมายถึงอะไรคะ?”
“ฉันมีข้อเสนอให้ มันขึ้นอยู่กับว่าเธอจะยอมรับไหมแค่นั้นเอง” ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาวางมือเหนือหัวเข่าและรอคอยคำตอบ
“ถ้าคุณไม่เอาเรื่องแด๊ด...จะให้นีชาทำอะไรก็ได้ทั้งหมด” แววตาโชนแสงคู่นั้น มองเขม็งมายังเธอจนเนื้อตัวสั่นเทาเพราะความหวั่นกลัว เธอรู้ดีว่าในคำถามนั้น ชายหนุ่มต้องการอะไร? เมื่อเศรษฐีหนุ่มๆ ส่วนใหญ่ย่อมต้องการให้ผู้หญิงจนๆ อย่างเธอไปเป็นอะไรได้ล่ะ อย่างน้อยที่สุดก็คือของเล่นชั่วคราว หรืออีกในหนึ่งก็คือ ‘นางบำเรอ’ เธอเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะตกลงใจแน่วแน่ เพราะทางเลือกของเธอมีแค่ทางนี้ทางเดียว ช่างมันเถอะกับไอ้ความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ไม่มีใครเห็นค่า
“สรุป...เธอตกลงงั้นสิ รู้ใช่ไหมว่าฉันต้องการอะไร?” ชายหนุ่มเอ่ยเหยียดๆ ช่างเป็นการยอมที่ง่ายดายเสียจริง คงจะหวังล่ะสิว่าเขาจะชมชอบและรับเลี้ยงหากถูกใจ ฝันไปเถอะ!! ของต่ำๆ ครั้งเดียวก็เกินพอ!!
หน้าเล็กๆ ก้มต่ำเธอพยักหน้ารับคำ พร้อมกับหยดน้ำตาที่ค่อยๆ รินไหล เธอยกมือขึ้นปาดคราบน้ำร้อนๆ นั้น ไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอให้เขาเห็นและซ้ำเติม
“ดี!! ฉันจะให้คนของฉันไปจัดการให้ และจะส่งคนไปรับเมื่อถึงวันที่ฉันต้องได้รับสิ่งตอบแทน หมดเรื่องที่จะคุยแค่นี้ใช่ไหม? ฉันขอตัวก่อนล่ะ ยังมีอีกหลายสิ่งที่ฉันต้องทำ” เขาเด้งตัวขึ้นยืน ร่างสูงใหญ่องอาจเหมือนพญามารที่ผุดขึ้นมาจากขุมนรก เขาเดินเฉียดผ่านหน้าเธอไปแบบจงใจจะข่มให้เธอกลัว และเขาทำสำเร็จ เธอกลัวจนขาสั่นไม่มีแรงแม้แต่จะขยับเดิน
“อังเดรย์ส่งแขก” ส่งเสียงเรียกคนรับใช้ส่วนตัวให้มาจัดการส่งนีรนาทออกจากบ้าน
นีรนาทก้มหน้าลง เธอรู้สึกเหมือนกับว่าแผ่นดินใต้ฝ่าเท้ากำลังจะสูบร่างของเธอลงไปในนั้น เกิดมาจนป่านนี้ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองสิ้นศักดิ์ศรีและด้อยค่า วันนี้เธอถูกผู้ชายคนหนึ่งมองอย่างเหยียดหยาม กดลงต่ำติดดินด้วยแววตาสีมรกตคู่นั้น!! จะไปโทษเขาทั้งหมดก็ไม่ได้ เธอไม่มีทางเลือกอื่น ไม่มีเงินก็ไม่มีศักดิ์ศรี ในสังคมคนในยุคปัจจุบัน...
หญิงสาวคว้าเสื้อโค๊ทตัวเก่า มากอดไว้ที่อกและเดินตามผู้ชายสูงวัยคนหนึ่ง เขาคงชื่อ ‘อังเดรย์’ เธอเหลือบมองผู้ชายเย็นชาคนนั้น เขาขึ้นไปยืนอยู่บนที่ของเขา ทอดสายตาดูแคลนลงมายังที่เธอยืนอยู่ เจ็บ!! มันเจ็บแสบไปทั่วทั้งตัว อยากซ้ำเติมอะไรก็เชิญเถอะ ขอแค่ช่วยบิดาออกมาจากที่คุมขังได้ จะให้เธอเสียอะไรก็ยอมทั้งหมด...
บทที่3.หิมะกับผ้าห่ม“กลับมาแล้วโว้ย...นีชาอยู่ไหนลูก” อีวานเดินเข้าบ้าน เขาส่งเสียงโวยลั่น เขาทรุดนั่งบนเก้าอี้เก่าๆ ตัวหนึ่ง ส่งเสียงเรียกบุตรสาวเพราะจู่ๆ ก็ถูกปล่อยตัวออกมาจากที่คุมขังเงียบ...ไม่มีเสียงตอบกลับอีลูกเวรนั่นไปมุดหัวอยู่ที่ไหน? ทำไมไม่มาสนใจคอยดูแลเขาเลย...“อีเด็กเปรตนั่นหายหัวไปไหนวะ กูหิวเหล้าจะตายอยู่แล้ว” เขาก่นด่าออกมาเสียงแข็ง จะซื้อเหล้าเข้ามาเอง ในกระเป๋ากางเกงก็ไม่มีเศษเงินสักสตางค์ จึงจำใจซมซานกลับมาบ้าน แต่ก็ยังไม่ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการเสียที ร่างอวบท้วมเดินรื้อของภายในบ้านเพื่อค้นหาเศษสตางค์ไปหาซื้อเหล้ามาล้างปาก ไอ้เศรษฐีเจ้าของห้างจู่ๆ มันก็ใจดีขึ้นมา ไม่เอาเรื่องเอาราวที่เขาไปก่อไว้ ไอ้ตำรวจหน้าโง่ทั้งสถานีจึงปล่อยตัวเขากลับบ้าน...“เจอแล้วอีลูกเวรแอบซุกเงินไว้นี่เอง” ชายสูงวัยที่มัวเมาอยู่ในโลกน้ำเมาไม่สนใจความเหนื่อยยากของบุตรสาว นีรนาทสู้อุตส่าห์เก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ไว้ใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียน นอกเหนือที่จับจ่ายภายในบ้าน แต่ก็ยังถูกอีวานฉกเอาไปอยู่ดีเขาเปิดประตูบ้านเดินฝ่าความหนาวเย็นเพื่อไปร้านเหล้า...และจะกลับมานอนซุกตัวอยู่ในบ้านกินเหล้าเปรม
“ใจเย็นๆ นีชา ไม่ต้องกลัว ไม่ถึงตายหรอกแค่เสียตัวเอง” เธอกล่าวปลอบใจตัวเอง เป็นคำพูดหยามหยันที่ได้ยินได้ฟังยังเจ็บจี๊ดๆแปลก!! รถยนต์จอดสนิทหน้าตึกสูงระฟ้า ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า ‘เบนิคอฟมอลล์’ เท่าไร เธอแหงนมองตัวตึกสูงระฟ้า เกล็ดหิมะล่วงหล่นใสหน้าจนรู้สึกเย็นจับขั้วหัวใจ“เชิญครับมิส!! ทางนี้ครับ” ชายชุดดำที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม เขาผายมือบอกทางให้กับนีรนาท แล้วจึงเดินนำหน้า สายตาหลายคู่เหลือบมองผู้หญิงคนหนึ่งที่การแต่งตัวขัดกับสถานที่ เสื้อเก่าๆ ปอนๆ การแต่งกายที่ไม่เหมาะกับสถานที่โอ่อ่าและมันทำให้นีรนาทรู้สึกอาย หน้าเธอร้อนฉ่าด้วยความอายสุดขีดประตูลิฟต์ปิดลง ช่วยให้เธอหายใจหายคอสะดวกขึ้น เธอเหม่อมองทิวทัศน์ผ่านกระจกใส ที่เคลื่อนที่ขึ้นไปยังจุดหมาย ทุกอย่างรอบตัวมีแต่ความเงียบและความเงียบ ผู้ชายที่นำเธอมาเหมือนหุ่นยนต์มากกว่าคนมีชีวิต เขาทำงานตามคำสั่งมหาอำนาจด้วยความแข็งขัน หน้าเย็นชาและไร้จิตใจแบบสิ้นเชิง“มิสต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและทำความสะอาดร่างกายก่อนครับ ผมเตรียมทุกอย่างไว้ในห้อง มิสมีเวลา สามสิบนาที ก่อนที่ท่านจะมาถึง”นีรนาทฟังเงียบๆ เธอไม่ได้แย้งหรือทักท้วง หลังพูดจบ
“ปะ... ปล่อยค่ะ...เอ่อ...นีชายังไม่เคยแต่ปล่อยนีชาก่อนได้ไหมคะ...นะคะ ให้เวลานีชาทำใจบ้าง...”“หึ หึ ฉันให้เวลาเธอมาทั้งวันแล้วเด็กน้อย ฉันคิดว่าเธอน่าจะพอทำใจได้บ้างแล้วนะ”“ค่ะ...เอ่อ นีชายอมคุณทุกอย่างอยู่แล้วค่ะ แค่ขอเวลาเพื่อทำใจบ้างเท่านั้นเอง”“แน่ใจเหรอเด็กน้อย ว่าเธอต้องทำใจ!!”ดิมิทรีชะโงกเข้าไปถามใกล้ๆ ใกล้เสียจนลมหายใจร้อนๆ ของเขาเป่ารดปลายจมูกเชิดโด่ง อยู่ๆ ในช่องท้องหญิงสาวก็ปั่นป่วน มันปวดมวนจนต้องรีบเบี่ยงหน้าหนี หน้าหวานแดงก่ำร้อนฉ่าและผิวแก้มคงขึ้นสีจัดมารยาผู้หญิงดิมิทรีเห็นมามากมาย จนไม่คิดว่าจะมีมารยาแบบไหนที่เขาไม่เคยคุ้น แต่...สิ่งที่เห็นตรงหน้า เป็นความแปลกแตกต่างที่เคยเจอ ผู้หญิงคนนี้มีอะไรบางอย่างไม่เหมือนกับที่เขาเคยเจอเป็นประจำ เธอมีความหวั่นกลัว และขลาดเขลาอ่อนแอ แต่เธอก็ยังเชิดหน้าสู้ แม้ร่างกายจะสั่นระริกเพราะความกลัว มันทำให้หัวใจหนุ่มแน่นเต้นแรง เพราะรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า มันเหมือนกับว่าเขากำลังกำหนดชะตาชีวิตของใครคนหนึ่ง และมันหมายถึงชนะ!!ร่างสั่นระริกในอ้อมแขน กลิ่นสาปสาวส่งกลิ่นหอมยวนใจ จนหัวใจพญาหมีขาวแห่งขั้วโลกเหนือเต้นพล่าน...เขาจะอุทิศตัว
ปลายยอดสีสุกปลั่งถูกอุ้งปากร้อนชื้นอ้างับ เขาดูดซึมความหวานฉ่ำและนุ่มหยุ่นเต่งตึง ฝ่ามือร้อนๆ เคลื่อนที่เขาครอบครองเต่งเต้าข้างที่เหลือ เขาเคล้นคลึงด้วยความพอใจ บีบบี้เหมือนกำลังนวดคลึงแป้งทำขนม ที่แน่นหนึบติดฝ่ามือแต่นุ่มเนียนละมุน ความรู้สึกหวามไหวไหลปร่าแผ่กระจายทั่วทุกตารางนิ้วของผิวกาย นีรนาทเกือบหลุดเสียงครางแปลกๆ น่าอายหลายต่อหลายครั้ง เมื่อรู้สึกสยิวซาบซ่านยามที่ถูกโลมลูบตามเนื้อตามตัว ทั้งๆ ที่ตั้งใจมั่นว่าจะไม่คล้อยตาม เขาอยากทำอะไรก็ปล่อยตามใจโดยที่เธอจะเฉยชาเป็นการสนองตอบ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ร่างกายของเธอแทบจะลุกเป็นไฟ ยามเมื่อถูกฝ่ามือใหญ่ๆ ลูบไล้สัมผัส ให้ตายเถอะ!! เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะถูกปลุกง่ายดายได้ถึงเพียงนี้ กระแสไฟอ่อนๆ วิ่งพล่านทั่วทั้งตัวมันจุดประกายบางอย่างที่เธอไม่เคยรู้ และมันกำลังทำให้เธออยากรู้สิ่งต่อไปที่กำลังจะมาถึง!!ชายหนุ่มสัมผัสความเต็มตึงด้วยความพึงใจ ยิ่งลูบไล้ยิ่งสัมผัส ทุกสิ่งอย่างล้วนถูกใจ จึงเดินหน้าเต็มกำลัง...เสียงคราวผะแผ่ว ดังรอดออกมาจากกลีบปากที่เม้มแน่น ตั้งแต่ความซ่านเสียวสาดใส่จนคนใจแข็งก็ยังลืมตน ดิมิทรียกยิ้มมุมปาก เขาพรมจุมพิตหนัก
บทที่4.เปลวไฟพิศวาสมือแข็งแรงยกชายชุดเดรสสีขาวขึ้นจรดปลายจมูก หลุบเปลือกตาลง แล้วสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่โชยออกมาจากเสื้อตัวนั้นเข้าปอดลึกๆ กลิ่นหอมหวานนั้นปะปนแผ่วเบารวมกับกลิ่นน้ำหอมประจำตัวของเขานั่นเองแม้กลิ่นจะเบาบางเพราะนีรนาทสวมไว้ไม่นาน แต่ดิมิททรีกลับสัมผัสได้อย่างชัดเจน เพราะกลิ่นนี้ เขาเพิ่งซุกไซ้สูดดมแบบคลั่งไคล้ เมื่อสักครู่ที่ผ่านมานั่นเอง เสียงทุ้มครวญครางเรียกหาเจ้าของกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ตราตรึงใจนั้นแผ่วเบาทว่าอ่อนหวานยิ่งนัก“นีชา...”ชายหนุ่มสะดุ้งโหย่ง!! เขารีบเหวี่ยงชุดเดรสในมือทิ้งไป สายตาคมกวาดมองรอบห้องที่เงียบผิดปรกติ หลังจากใช้เวลาทำใจพักใหญ่ในห้องน้ำเกือบสิบนาที“ไปไหนนะ?” ดิมิทรีรำพึงแผ่วๆ แต่ก็ไม่หยุดมองหาเจ้าของกลิ่นที่ทำให้เขาว้าวุ้นใจ เมื่อแม้แต่การป้องกันตัว ยังลืม!!ดิมิทรีเดินหาเจ้าหล่อนทั่วห้อง ไม่เห็นแม้แต่เงา? และตอนนี้เขากำลังโกรธจัด!! รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีความหมาย ถูกผู้หญิงทิ้งไปแบบไม่ให้ตั้งตัว ที่สำคัญเขายังไม่อิ่ม!! แต่ตกใจตัวเอง เลยขอถอยไปตั้งหลักก่อน...“พวกแกปล่อยเธอไปงั้นเหรอ!! ใครสั่งวะ?” อารมณ์เดือดพล่านวิ่งตามกระแสเลือดและมันเป็นครั้งแรก
“คุณดิมิทรีฝากมาให้...ผมเป็นคนของเขา” นีรนาทเกือบทิ้งกระดาษชิ้นนั้นไปแล้ว เพราะเธอคิดว่าหนุ่มๆ พวกนี้คงจะมาแนวเดียวกันคือการให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของเขามอบให้กับเธอ แต่มันผิดคาด เมื่อชื่อของคนๆ นั้นผ่านริมฝีปากหนาหยักนั่นมา...เธอแอบคลี่กระดาษเปิดอ่าน ถ้อยคำที่ผู้ชายร้ายกาจฝากมาถึง...มือสั่นระริก เมื่อตัวอักษรนั้นย้ำให้เธอรู้สึกด้อยค่า“ถ้าเกิดอะไรขึ้น ‘ฉัน’ จะไม่รับผิดชอบใดใดทั้งสิ้น เพราะฉันถือว่าจ่ายค่าตัวให้เธอแล้ว แต่เธอปฏิเสธเอง”มันเป็นสิ่งที่เธอกลัวเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไปเรียกร้องความรับผิดชอบจากเขานี่ เธอก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะมือสั่นระริกกำกระดาษจนเป็นก้อนกลมๆ ก่อนจะขว้างทิ้งด้วยความโกรธจัด!! เธอไม่เคยคิดจะสักนิด หากเกิดขึ้นจริงๆ เธอก็จะเลี้ยงดูเขาเองเมื่อเขาเป็นเลือดก้อนหนึ่งของเธอเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในชีวิตที่มีค่ากว่าที่ผู้ชายใจร้ายคนนั้นจะคาดถึงนีรนาทฝืนใจกลับไปทำงาน เธอปัดความรู้สึกกังวลทิ้งไป พยายามที่จะไม่ใส่ใจเมื่อสิ่งที่กลัวยังไม่เกิดขึ้นเสียหน่อย... เธอยังต้องกินต้องใช้ หากมัวแต่กลัวใครจะหาเงินค่าใช้จ่ายในบ้าน เมื่อบิดาไม่สามารถพึ่งได้เหมือนคนอื่นๆ
บทที่5.ทาสสาวฉ่ำหวาน‘ความร้อนรุ่มที่ได้รับจนแทบทะลักล้นอก กว่าจะรู้ตัว ผู้หญิงคนนั้นก็เขามาแอบอยู่ในซอกมุมหนึ่งของหัวใจเขา... รสสวาทหวานล้ำยังตราตรึงฝังแน่นอยู่ในใจ อยากจะกลับไปลิ้มรสหวานฉ่ำนั้นอีกครั้ง แต่หล่อนกลับเล่นตัว เธอยอมเพราะความจำใจ ไม่ได้เพราะความเสน่หา’ดิมิทรีกระวนกระวาย รสสวาทที่ได้รับเพียงครั้งเดียวยังตราตรึงใจ อยากชิมรสหวานหอมนั่นอีกครั้ง แต่ทำไม่ได้ มันทำให้เขากระสับกระส่าย วนเวียนหาที่ระบายออก แต่...ไม่เคยทำได้สำเร็จสักที เพราะไม่ว่าจะหาใครมาแทนที่นีรนาท เขาก็ไม่ได้รับรสชาติหวานล้ำแบบนั้นเลยสักครั้งหลังจากกระวนกระวายอยู่หลายวัน ดิมิทรียอมอาย!! เขาบัญชาการการ์ดส่วนตัวให้ไปเชื้อเชิญนีรนาทมาหาตัวเองอีกครั้ง และครั้งนี้ไม่อั้น หากหล่อนยังเล่นตัวเหมือนเดิม ค่าตัวแพงแสนแพงเขาสู้ไม่ถอย!!3 ชั่วโมงผ่านไป...ชายหนุ่มรุ่มร้อน เขานั่งไม่ติดเก้าอี้ เดินพล่านไป...พล่านมาเหมือนมีหนอนตัวเล็กๆ มาชอนไชอยู่ใต้ฝ่าเท้าก๊อกๆ...“เข้ามาสิวะ เคาะประตูทำห่าอะไร ชักช้าฉิบหาย!!” ยิ่งกำลังอารมณ์ไม่ดีบรรดาลูกน้องดันเสือกมีมารยาทเสียอีก“เป็นอะไรไปลูก หงุดหงิดเรื่องอะไรกันจ๊ะ เสียงเขียวเชียว”
“ครั้งนี้ฉันทุ่มไม่อั้น!! เธออยากได้เงินเท่าไรฉันไม่เกี่ยง ขออีกครั้งเดียวแก้อยาก...ฉันเปิดโอกาสให้เธอถลุงได้เต็มที่” ชายหนุ่มบีบข้อมือของนีรนาท เขาพูดช้าๆ พร้อมทั้งจ้องหน้าเธอแบบตาไม่กะพริบ“ขอบคุณสำหรับความหวังดี แต่...ไม่ขอรับไว้ค่ะ นีชายังไม่อดตายถึงขนาดต้องขายตัวกิน” เธอเชิดหน้าขึ้นเมื่อพูดจบ เมื่อไม่สามารถปลดพันธนาการที่ข้อมือได้ก็ต้องต่อสู้ด้วยสงครามความเงียบ แต่เป็นการคิดผิด!!เมื่อชายหนุ่มหน้ามืดไปเสียแล้ว กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยยั่วอยู่แค่ปลายจมูก ใส่พานมาถึงที่ไม่จัดการก็จะเสียเชิงชาย...ริมฝีปากหนาหยักฉกวูบ!! เขาทาบทับกลีบปากหวานหอมที่หมายตา แบบที่เจ้าตัวยังคาดไม่ถึง นีรนาทเบิกตากว้างเธอเบี่ยงหน้าหนีแต่ก็ไม่ทัน พยายามจะดิ้นให้หลุดพ้น แต่ดูเหมือนว่าเป็นการกระทำที่คิดผิด เมื่อการดิ้นก็เท่ากับการเพิ่มอารมณ์กลัดมันให้กับอีกฝ่ายเพราะร่างกายส่ายเบียดเสียดสีกันจนร้อนฉ่า ดิมิทรีหลงเพลิด จากแค่คิดจะสั่งสอนให้เธอหลาบจำ ตอนนี้ชายหนุ่มถลำลึก เขาจมดิ่งในห้วงเหวของเปลวไฟปรารถนา ที่ลุกกระพือลามเลียผิวกายจนร่างกายเขากระสันซ่านมือใหญ่วนเวียนลูบไล้ เขาทั้งจับทั้งคลำขยำขยี้ ฟ้อนเฟ้นผิวกายภายนอกเร