“คุณดิมิทรีฝากมาให้...ผมเป็นคนของเขา” นีรนาทเกือบทิ้งกระดาษชิ้นนั้นไปแล้ว เพราะเธอคิดว่าหนุ่มๆ พวกนี้คงจะมาแนวเดียวกันคือการให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของเขามอบให้กับเธอ แต่มันผิดคาด เมื่อชื่อของคนๆ นั้นผ่านริมฝีปากหนาหยักนั่นมา...เธอแอบคลี่กระดาษเปิดอ่าน ถ้อยคำที่ผู้ชายร้ายกาจฝากมาถึง...มือสั่นระริก เมื่อตัวอักษรนั้นย้ำให้เธอรู้สึกด้อยค่า“ถ้าเกิดอะไรขึ้น ‘ฉัน’ จะไม่รับผิดชอบใดใดทั้งสิ้น เพราะฉันถือว่าจ่ายค่าตัวให้เธอแล้ว แต่เธอปฏิเสธเอง”มันเป็นสิ่งที่เธอกลัวเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไปเรียกร้องความรับผิดชอบจากเขานี่ เธอก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะมือสั่นระริกกำกระดาษจนเป็นก้อนกลมๆ ก่อนจะขว้างทิ้งด้วยความโกรธจัด!! เธอไม่เคยคิดจะสักนิด หากเกิดขึ้นจริงๆ เธอก็จะเลี้ยงดูเขาเองเมื่อเขาเป็นเลือดก้อนหนึ่งของเธอเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในชีวิตที่มีค่ากว่าที่ผู้ชายใจร้ายคนนั้นจะคาดถึงนีรนาทฝืนใจกลับไปทำงาน เธอปัดความรู้สึกกังวลทิ้งไป พยายามที่จะไม่ใส่ใจเมื่อสิ่งที่กลัวยังไม่เกิดขึ้นเสียหน่อย... เธอยังต้องกินต้องใช้ หากมัวแต่กลัวใครจะหาเงินค่าใช้จ่ายในบ้าน เมื่อบิดาไม่สามารถพึ่งได้เหมือนคนอื่นๆ
บทที่5.ทาสสาวฉ่ำหวาน‘ความร้อนรุ่มที่ได้รับจนแทบทะลักล้นอก กว่าจะรู้ตัว ผู้หญิงคนนั้นก็เขามาแอบอยู่ในซอกมุมหนึ่งของหัวใจเขา... รสสวาทหวานล้ำยังตราตรึงฝังแน่นอยู่ในใจ อยากจะกลับไปลิ้มรสหวานฉ่ำนั้นอีกครั้ง แต่หล่อนกลับเล่นตัว เธอยอมเพราะความจำใจ ไม่ได้เพราะความเสน่หา’ดิมิทรีกระวนกระวาย รสสวาทที่ได้รับเพียงครั้งเดียวยังตราตรึงใจ อยากชิมรสหวานหอมนั่นอีกครั้ง แต่ทำไม่ได้ มันทำให้เขากระสับกระส่าย วนเวียนหาที่ระบายออก แต่...ไม่เคยทำได้สำเร็จสักที เพราะไม่ว่าจะหาใครมาแทนที่นีรนาท เขาก็ไม่ได้รับรสชาติหวานล้ำแบบนั้นเลยสักครั้งหลังจากกระวนกระวายอยู่หลายวัน ดิมิทรียอมอาย!! เขาบัญชาการการ์ดส่วนตัวให้ไปเชื้อเชิญนีรนาทมาหาตัวเองอีกครั้ง และครั้งนี้ไม่อั้น หากหล่อนยังเล่นตัวเหมือนเดิม ค่าตัวแพงแสนแพงเขาสู้ไม่ถอย!!3 ชั่วโมงผ่านไป...ชายหนุ่มรุ่มร้อน เขานั่งไม่ติดเก้าอี้ เดินพล่านไป...พล่านมาเหมือนมีหนอนตัวเล็กๆ มาชอนไชอยู่ใต้ฝ่าเท้าก๊อกๆ...“เข้ามาสิวะ เคาะประตูทำห่าอะไร ชักช้าฉิบหาย!!” ยิ่งกำลังอารมณ์ไม่ดีบรรดาลูกน้องดันเสือกมีมารยาทเสียอีก“เป็นอะไรไปลูก หงุดหงิดเรื่องอะไรกันจ๊ะ เสียงเขียวเชียว”
“ครั้งนี้ฉันทุ่มไม่อั้น!! เธออยากได้เงินเท่าไรฉันไม่เกี่ยง ขออีกครั้งเดียวแก้อยาก...ฉันเปิดโอกาสให้เธอถลุงได้เต็มที่” ชายหนุ่มบีบข้อมือของนีรนาท เขาพูดช้าๆ พร้อมทั้งจ้องหน้าเธอแบบตาไม่กะพริบ“ขอบคุณสำหรับความหวังดี แต่...ไม่ขอรับไว้ค่ะ นีชายังไม่อดตายถึงขนาดต้องขายตัวกิน” เธอเชิดหน้าขึ้นเมื่อพูดจบ เมื่อไม่สามารถปลดพันธนาการที่ข้อมือได้ก็ต้องต่อสู้ด้วยสงครามความเงียบ แต่เป็นการคิดผิด!!เมื่อชายหนุ่มหน้ามืดไปเสียแล้ว กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยยั่วอยู่แค่ปลายจมูก ใส่พานมาถึงที่ไม่จัดการก็จะเสียเชิงชาย...ริมฝีปากหนาหยักฉกวูบ!! เขาทาบทับกลีบปากหวานหอมที่หมายตา แบบที่เจ้าตัวยังคาดไม่ถึง นีรนาทเบิกตากว้างเธอเบี่ยงหน้าหนีแต่ก็ไม่ทัน พยายามจะดิ้นให้หลุดพ้น แต่ดูเหมือนว่าเป็นการกระทำที่คิดผิด เมื่อการดิ้นก็เท่ากับการเพิ่มอารมณ์กลัดมันให้กับอีกฝ่ายเพราะร่างกายส่ายเบียดเสียดสีกันจนร้อนฉ่า ดิมิทรีหลงเพลิด จากแค่คิดจะสั่งสอนให้เธอหลาบจำ ตอนนี้ชายหนุ่มถลำลึก เขาจมดิ่งในห้วงเหวของเปลวไฟปรารถนา ที่ลุกกระพือลามเลียผิวกายจนร่างกายเขากระสันซ่านมือใหญ่วนเวียนลูบไล้ เขาทั้งจับทั้งคลำขยำขยี้ ฟ้อนเฟ้นผิวกายภายนอกเร
บทที่6.บทลงโทษของคนที่ฝ่าฝืนคำสั่งชายหนุ่มปรนเปรอเธอด้วยมือและลิ้น เขาจงใจปลุกกระแสเลือดของหล่อนให้ร้อนรุ่มจนลืมแม้แต่ความอาย“มันทรมานค่ะ นีชา...ไม่ไหวแล้ว ช่วยนีชาด้วยนะคะ” นีรนาทไม่รู้ตัวเอง...เธอเอ่ยปากขออะไรออกไป? เธอทราบเพียงแต่ว่าตอนนี้ เวลานี้เธอกำลังจะขาดใจตายอยู่แล้ว และต้องการความช่วยเหลือจากเขาอย่างเร่งด่วนที่สุด“จะให้ช่วยอย่างไรล่ะคนสวย ฉันพร้อมจะสนองให้เธอเต็มที่ แต่เธอต้องช่วยฉันด้วยเหมือนกัน ตกลงไหมล่ะ” ดิมิทรีพูดเสียงแหบปร่า กรีดปลายนิ้วยั่วหยอกกลีบดอกไม้ฉ่ำน้ำค้าง และสัมผัสลูบไล้บีบคลึงทั้งสองเต้าอย่างมันมือ ปลุกอารมณ์สวาทของคนตัวเล็กกว่าให้ลุกโชนยิ่งๆ ขึ้น“ค่ะ...ได้... ช่วยนีชาที นีชาไม่ไหวแล้ว” นีรนาทพยักหน้ารับ ด้วยความไร้ประสบการณ์ เธอกำลังพ่ายแพ้ต่อฤทธิ์มนตร์สวาทอย่างหมดรูป“ได้เลยคนสวย อยากให้ฉันเข้าไปในตัวเธออย่างนั้นสิ เธออยากให้ฉันปลดปล่อยความทรมานที่เกิดขึ้นนี่ถูกไหม ฉันเข้าใจแบบนี้ถูกไหมล่ะ” ดิมิทรีลากนิ้วชี้จากร่องอกไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ ผ่านลำคอที่เส้นชีพจรกำลังเต้นตุบๆ ก่อนไปหยุดที่กลีบปากที่บวมช้ำเพราะรสจูบที่เขามอบให้“ใช่ไหม? นีชา หากเธอไม่ตอบฉันจะหยุด
“แน่ใจเหรอ? นีชา แน่ใจเหรอว่าพอ...แต่ฉันว่าไม่ อ่า...” ดิมิทรีครางเสียงแหบๆ ร่างกายแข็งเกร็งเร่งขยับเอวสอบถี่ยิบ ไม่สนใจแรงต่อต้านจากคนตัวเล็ก ที่พยายามหยุดเขาด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิด ชายหนุ่มตัดความรำคาญ เขารวบสองขาเพรียวเกาะเกี่ยวสะโพกสอบของตัวเอง รวบมือน้อยๆ ชูไว้เหนือศีรษะเจ้าหล่อนพร้อมทั้งกระทั้นกายหนักๆ เร่งกำลังดั่งม้าศึก เพื่อไปถึงเส้นชัยก่อนที่จะหมดแรง...มันคงเป็นวันที่เธอต้องจำไปอีกนาน ดิมิทรี เบนิคอฟ สมกับฉายายอดนักรัก เขาควบขับแบบไม่มีแรงตก สาดใส่ความร้อนแรงให้กับเธอ จนได้แต่ครางเสียงกระเส่า เมื่อความกระสันแล่นพล่านไปตามกระแสเลือด ร่างกายเธอสมยอมเขาแบบดุษฎี ไม่ว่าชายหนุ่มจะพลิกแพลงแบบไหน เธอยินยอมก้าวตามด้วยความหลงละเมอ“อย่าทำแบบนี้ ได้โปรดพอเถอะ!!” คนตัวเล็กเอ่ยห้ามเสียงแผ่ว เธอไม่ได้รังเกียจสัมผัสของชายหนุ่มเหมือนเก่า แต่เธอเหนื่อยจนใกล้จะขาดใจ ความร้อนแรงของเขาเขย่าหัวใจเธอให้โยกคลอนรุนแรงชายหนุ่มอมยิ้ม เขามองผิวกายสีระเรื่อ เมื่อกระแสเลือดถูกเขาผลักดันจนแล่นพล่านทั่วทั้งตัว ผิวขาวผ่องเปลี่ยนสี กลายเป็นระเรื่อด้วยสีแดงจัด แต่มันเย้ายวนชวนให้รื่นรมย์เกมสวาทดุเดือดเลือ
บทที่7.พายุเดือด เดือดจนเส้นกระตุก!! โมโหจนแทบกระอัก อยากจะทำลายทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแต่มันไม่ใช่ที่ ชายหนุ่มยกสองมือขึ้นท้าวเอว เขาหมุนตัวมองไปที่ผนังกระจกใสแจ๋ว สายตาเรืองรองเต็มไปด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธ เป็นอีกครั้งแล้วที่ ‘ผู้หญิงคนชั้นต่ำคนนั้น’ ทิ้งเขาไป โดยไม่รอคำอนุญาต เธอกล้าดีเกินไปล่ะ “เจ้านายจะทำไงต่อครับ” “ช่างเถอะ!! ดีเหมือนกันไม่เปลือง” ชายหนุ่มกระแทกเสียงตอบ ใช่ว่าเขาจะอดอยากปากแห้งเมื่อไร ผู้หญิงมากมายเกลื่อนมอสโก แค่กระดิกนิ้วเรียกขี้คร้านจะถลาเข้ามาเกินสิบคน!! แล้วทำไม เขาจะต้องไปตอแยกับคนที่ไม่ได้เลิศเลอกว่าใครเลย แค่ผู้หญิงข้างทางที่หมดความหวานแล้วด้วยซ้ำ ใช่เหรอ? “ครับ” “เตรียมรถ ฉันจะไปสโมสร” เขาจะแสดงให้เธอรู้...เธอไม่ใช่คนสำคัญที่เขาจะต้องไปคอยตอแย ไม่เอาเงินค่าตัวก็ดี...ไม่เปลืองด้วย ความขุ่นข้องหมองใจยังคงค้างอยู่ในหัวใจ ดิมิทรีจึงไม่สนใจสาวสวยหลายนางที่ส่งสายตาทอดสะพานให้ เขาดื่มเหล้าเหมือนดื่มน้ำเปล่า เพื่อลดทอนความโกรธที่กำลังปะทุอยู่ข้างในใจ ดวงตาสีมรกตขุ่นมัว มันกรุ่นๆ จวนจะเดือด
“เอาเป็นว่า...ผมตอบคำถามนี้ของมิสไม่ได้ครับ เพราะผมไม่รู้? แต่หากมันหลุดรอดไปถึงหูคนอื่น...โดยเฉพาะนักข่าว...ผมจะถือว่ามันมาจากปากของมิส และผมคงต้องจัดการเก็บกวาดแทนเจ้านาย มิสคงไม่อยากให้เป็นแบบนั้นใช่ไหมครับ!!” เสียงเย็นเฉียบพูดตอบ เขามองสบนัยน์ตาเจ้าหล่อนเป็นการข่มขู่กลายๆ“โอ้ย!! รู้หรอกน่าซูซานไม่ใช่คนช่างพูด แค่อยากรู้” เจ้าตัวรีบแก้ตัวเสียงอ่อยๆ แม้จะกังขาแต่ก็ไม่กล้าที่จะสืบค้นเพราะมันเป็นเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นชายที่อาจทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต หญิงสาวรีบสะบัดก้นหนี แม้จะไม่ได้สนองอารมณ์หนุ่มในฝันอย่างที่ตัวเองต้องการ แต่ค่าตอบแทนก็ไม่ได้น้อยหน้า เจ้าตัวเลยรีบชิ่งหนีก่อนจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง“พี่ๆ เจ้านายเป็นอะไร?” หลังต้นตอปล่อยข่าวหายลับไปในอาพาร์ทเม้นท์ของเจ้าหล่อน เหลือแต่การ์ดของชายหนุ่ม เขาสุมหัวซักถามกันเป็นการใหญ่“จะไปรู้รึ!! ไม่ได้นอนกับเจ้านายนี่หว่า...อยากรู้เดี๋ยวกลับไปถึงแกถามเจ้านายเอาเองก็แล้วกัน”“หู้ย!! จะได้ตายฟรีดิลูกพี่..อารมณ์อย่างกับคนท้อง ดีๆ อยู่พัก หงุดหงิดอีกแล้ว ทำตามไม่ทันใจเลยคร๊าฟ” ลูกสมุนบ่นเสียงอุบอิบ ส่งค้อนประหลำประเหลือกให้ลูกพี่หัวหน้าทีม
บทที่8.เจ็บแปลบๆบทที่8.เจ็บแปลบๆนีรนาทเปิดร้านเครปเล็กๆ ในตรอกไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า ‘เบนิคอฟ’ เธอยังเฝ้ามองแสงไฟเหนือยอดตึกเป็นประจำ แต่ไม่เคยเฉียดใกล้บริเวณเดิม เพราะการที่ร่างกายเปลี่ยนแปลง เธอกลัวว่าหากเขาคนนั้นจะพบเข้า ความลับต้องเป็นความลับไปตลอด ถึงจะรู้ดีว่าเขาไม่ต้องการเสี้ยวหนึ่งที่ทิ้งไว้ก็เถอะ เธอต่ำต้อยด้อยค่า ไม่อาจเผยอหน้าเทียบชั้นกับเขาได้... แม่ค้าสาวสวยขนาดตั้งครรภ์ใกล้คลอด ความงามและรอยยิ้มหวานๆ ยังคงมีแจกจ่ายให้ลูกค้าที่แวะเวียนมาอุดหนุนไม่หยุด “เครปสองอันจ้ะนีชา...วันนี้ยิ้มสวยเหมือนเดิมเลยนะ” ถึงแม่ค้าคนสวยจะตั้งครรภ์จวนจะคลอด ก็ยังมีหนุ่มๆ แวะมาขายขนมจีบไม่หยุดเพราะ...ทุกคนรู้ไงว่านีรนาทตั้งครรภ์แบบไร้สามี และไม่มีผู้ชายคนนั้นให้เกะกะนัยน์ตา “ค่ะ...” หญิงสาวยิ้มรับ เธอไม่เคยแพ้ท้องเลย มีแค่ช่วงแรกๆ ที่รู้ตัว หลังจาก ‘เขา’ มาพาตัวเธอไปวันนั้น พอกลับมาอาการต่างๆ ก็หายเป็นปลิดทิ้ง ร่างกายเธอแข็งแรงดี ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน นับว่าเป็นบุญของตัวเอง#เอื้อมไม่ถึงเธออยู่แสนไกล... ไกลห่างจากฉันเหลือเกิน ต่อให้ฉันเดินไกลแค่ไหนคงไป
“หากย้อนเวลาไปได้นะนีชา ผมจะตามหาคุณทันทีที่รู้ใจตัวเอง...แต่เป็นเพราะผมโง่เขลา จนเก็บความรู้สึกสับสนนั่นแอบซ่อนไว้ มันน่าเจ็บใจตัวเองนักที่ไม่กล้า” ชายหนุ่มโยกลำตัวช้าๆ ทำเหมือนกับกำลังกล่อมเด็กน้อยให้หลับในอ้อมกอดตัวเองเขาโอดครวญที่ตัวเองไม่กล้าแม้แต่จะก้าวออกจากกรอบที่ครอบเขาไว้“ไม่แปลกหรอกค่ะ...เราสองคนแตกต่างกันเกินไป อีกอย่างมันเป็นแค่ข้อแลกเปลี่ยน ที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย” ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยสาปเสื้อของชายหนุ่มเล่น เธอสูดลมหายใจลึกๆ เมื่อคิดถึงช่วงเวลาแสนเศร้าที่ผ่านเลยไปแล้ว“มันน่าตลกนะ...ผมติดกับตัวเอง ตกหลุมรักคนที่ตัวเองเหยียดหยาม...ผมดูถูกว่านีชาต้อยต่ำ แต่ผมกลับติดใจนีชาจนอยากจะกลืนน้ำลายตัวเอง” ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ เมื่อนึกถึงความหลัง“คุณใจร้ายและใจดำมากค่ะ ตอนนั้นนีชาเกลียดคุณแทบตาย...” เธอกดปลายเล็บกับผิวเนื้อแน่นตึงเพราะความหมั่นไส้สุดขีด“หึๆ ผมยังเกลียดตัวเองเลย ไม่แปลกที่นีชาจะเกลียดผม...คนอะไรเห็นผู้หญิงเป็นแค่สิ่งฉาบฉวย...ดูถูกเพศแม่ของตัวเอง เห็นพวกหล่อนเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์.
บทที่21.จอมมารสิ้นลาย3 เดือนแล้วสินะที่เขาใช้ชีวิตคู่กับผู้หญิงหนึ่งเดียวในชีวิต นีรนาท เบนิคอฟ ดิมิทรีไม่นึกเสียใจเลยที่เขาตัดสินใจประกาศแต่งงานกับเธอ เป็นการปิดฉากชีวิตโสด แบบสมบูรณ์แบบแถมตอนนี้ นีรนาทกำลังตั้งครรภ์ครั้งใหม่ คนที่เห่อสุดๆ กลับไม่ใช่เขา กลับเป็นมาดามโรสต่างหาก นางเฝ้าดูแลและคอยหาของกินอร่อยๆ มาคอยบำรุงเธอ อาหารที่มีประโยชน์ นางสรรหามาให้ไม่เคยขาด และแวะเวียนมาคอยดูแล ถามไถ่ ทำประหนึ่งว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์เสียเองก็ไม่ปาน “มัมครับ ตั้งใจจะขุนนีชาเป็นแม่หมูหรือไงครับ ขนมาเยอะแยะเลย” “แกจะไปรู้อะไรไอ้ตัวแสบ ผู้หญิงตั้งท้องครั้งหนึ่งสูญเสียอะไรในร่างกายไปเท่าไร เพราะฉะนั้นต้องเสริมเข้าไปเยอะๆ จะได้แข็งแรงทั้งแม่และลูก!!” นางพูดเสียงกระเง้ากระงอด ค้อนประหลับประเหลือกให้กับลูกชาย
“เมื่อสิ้นวาสนา...ก็ต้องจากกันไป...รั้งอย่างไรก็ไม่อยู่ดังนั้น...ในตอนที่เรา...ยังไม่จากกัน เราได้กระทำดีต่อคนที่แวดล้อมเราแล้วหรือยัง...เพราะเมื่อหมด ‘สัญญากรรม’ แล้ว...ไม่ว่าเราจะมีเงินหรือมีอำนาจจนล้นฟ้า ก็ไม่สามารถเรียกร้องสิ่งที่ผ่านไปแล้วให้กลับคืนมาได้...และไม่รู้ว่าจะกี่ภพกี่ชาติ...ถึงจะได้เจอกันอีก ผู้หญิงสองคนที่ที่พวกคุณอยากรู้ คนหนึ่งเป็นภรรยาผม ส่วนอีกคนเป็นบุตรสาว ส่วนงานแต่งงานก็คงอีกไม่นานครับ... กำลังจัดเตรียมความพร้อมหลายๆ เรื่อง ในอดีตผมเป็นคนไม่ค่อยดีเท่าไร!! มันจึงไม่แปลกที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างผมกับภรรยา เธอเลยไม่เคยเปิดเผยเรื่อง ‘ลูก’ ให้ผมรู้ มันเป็นข้อผิดพลาดเดียวที่ตัวผมเองพยายามจะแก้ไขมาตลอด และนับเป็นความโชคดีที่เธอยอมให้ผมแก้ไขความผิดในอดีตนั่น มันเป็นเพราะความแตกต่างของการเป็นอยู่ และความไม่ชัดเจนของผมเอง ภรรยาผมเลยไม่มีความเชื่อมั่น อย่างที่รู้!! พิคเจอร์ผมมันเป็นผู้ชายเสเพลไม่น่าชื่อถือนี่ ใช่ไหม?” ดิมิทรีพูดยิ้มๆ เขาเลิกปลายคิ้วขึ้นและเอ่ยปากถามความเห็นทุกๆ คนที่กำลังตังใจฟัง พอสิ้นเสียงของเขาเสียงฮือฮาก็ดั
บทที่20.ปิดตำนานหญิงต้อยต่ำกับชายสูงศักดิ์ข่าวก็อตซิปเริ่มมีการลงรูปมาดามโรสผู้สูงศักดิ์ กับเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักแบบที่ย่อส่วนมาดามโรสไว้ได้อย่างเหมาะเจาะลงตัว การเดินเที่ยวในห้างสรรพสินค้าของตัวเอง พร้อมทั้งจับจ่ายของใช้ ของเล่นเด็ก และเสื้อผ้าเด็กผู้หญิงอีกเป็นจำนวนมาก เป็นการเดินซื้อของแบบที่ยาวนาน และสร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกๆ ที่ได้เห็นและพบเจอ เมื่อสรรพนามที่เด็กหญิงใช้เรียกมาดามโรสคือ ‘คุณย่า’ แถมมาดามโรสไม่ปฏิเสธ หากใครก็ตามถามถึงเด็กหญิง ว่าเป็นอะไรกับตัวเอง เด็กผู้หญิงที่หน้าตาน่ารัก ประหนึ่งตุ๊กตาตัวน้อย ผมยาวสลวยสีน้ำตาลไหม้ ดวงตาสีมรกตเธอเป็นใคร? กัน นั่นคือสิ่งที่ทุกๆ คนอยากรู้ ในเมื่อมีข่าวเล็ดรอดออกมาถึงการรวมตระกูลของ ‘คเซนเนีย’ กับ ‘เบนิคอฟ’ แต่มาเงียบหายไปช่วงสองอาทิตย์หลังๆ ดูเหมือนว่ามาดามโรสจะนิ่ง นางไม่ได้กระตือรือร้นที่จะให้ข่าวเหมือนเคย
“ชะอุ้ย!! ลืมได้ยังไงนะ ดีม่ากำลังหิ๊วหิวนี่นา” นัชชาวีคลานต้วมเตี้ยมขึ้นจากอ่างน้ำ ตัวอ้วนกลมวิ่งตุ๊บตับใส่ผ้าเช็ดตัว ที่มาดามโรสกางรออยู่ เด็กหญิงซุกตัวในผืนผ้า ยกมือขึ้นโอบกอดผู้สูงวัยกว่า และส่งยิ้มแป้น จนหัวใจแข็งๆ ยังอ่อนยวบ...“ไปเถอะ ป่านนี้เอมิเรียน่าจะเตรียมชุดสวยๆ ไว้รอแล้วล่ะ เราจะได้ออกไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันไง” นางอยากจะช้อนอุ้มเจ้าตัวกลมเหลือเกิน แต่ว่าดูแล้วจะไม่ไหวกับน้ำหนักตัว เพราะนัชชาวีตัวกลมป้อม เนื้อแน่นตึบเพราะเจ้าตัวชอบกินทุกอย่าง นางจึงได้แต่จับมือป้อมๆ และจูงออกไปด้านนอกแทนเอมิเรียคลี่ยิ้มอ่อนๆ เธอน้ำตาคลอเมื่อได้เห็นภาพสองย่าหลาน ภาพที่เจ้าคิดว่าคงไม่ได้เห็น เพราะดิมิทรีทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัย ดีแต่ลอยไปแล้วก็ลอยมา ไม่มีคนรู้ใจ และยังหาคนเคียงกายไม่ได้ แถมช่วงหลังๆ ยังเก็บตัวเงียบ เคร่งขรึม พึ่งจะมารู้สาเหตุเอาก็อีตอนเห็นคุณหนูตัวน้อยๆ นี่เอง คงแอบไปมีความสัมพันธ์กัน จนก่อเกิดเลือดเนื้อเชื้อไข แต่เป็นเพราะสาเหตุอะไรก็ไม่รู้ ทำให้พลัดพรากกันไป แต่สวรรค์คงเมตตาเลยส่งให้คนทั้งคู่กลับมาพบเจอกัน และทำให้หัวใจคนแก่ๆ ชุ่มชื่นขึ้
บทที่19.ดีม่าจะรักใครดี!! นัชชาวีนั่งหน้าม่อย เธอเท้าสองมือใต้คางและเหม่อมองทุ่งหญ้าด้วยสายตาสุดเซ็ง...จะอะไรเสียอีก ประตูห้องนอนตัวเองแท้ๆ ปิดเงียบสนิท เพราะถูกล็อกจากภายใน นั่งรอตั้งแต่เช้ายันจะสายโด่ง บิดามารดาก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเสียที จึงลากตุ๊กตากระต่ายเพื่อนรัก หิ้วห้อยล่องแล่งลงมาจากชั้นบน มานั่งจุ่มปุ๊กอยู่ตรงบริเวณสวนดอกไม้ ที่นั่งคุยกับมาดามโรสเมื่อวานเพื่อจะหาเพื่อนคุยแก้เหงา หน้ากลมๆ หงิกงอ น้ำก็ยังไม่ได้อาบ เสื้อผ้าก็ยังไม่ได้เปลี่ยน ยังอยู่ในชุดนอนตัวเก่า ที่ใส่ตั้งแต่เมื่อคืน เพราะเข้าห้องตัวเองไม่ได้!! “แด๊ดนะแด๊ด...นอนตื่นสายโด่ง...ดีม่าคันตัวไปหมด อยากอาบน้ำแล้วค่ะ” เด็กหญิงบ่นพึมพำ ริมฝีปากยื่นบิดไปบิดมา “หนูมิ้น...คันไหม?” เสียงคุยกระจุ๋งกระจิ๋งกับตุ๊กตาตัวโปรด ช่วยให้ลืมๆ เรื่องที่ตัวเองกำลังหงุดหง
“ผมว่าคนที่ปรับตัวไม่ได้ น่าจะเป็นนีชามากกว่านะครับ อย่าพยายามหนีผมเลย เราน่าจะทำความรู้จักกันให้มากกว่าเดิม” ชายหนุ่มเอื้อมจับข้อมือเรียวบางไว้ เขาพูดช้าๆ แต่แววตาพราวระยับจนหัวอกหัวใจของนีรนาทสั่นไหว“เราสองคนไม่มีอะไรต้องปรับต้องจูนเข้าหากันค่ะ เราเป็นคนแปลกหน้าที่แค่มี ‘ลูก’ ด้วยกันแค่นั้น อย่าดึงนีชาไปเกี่ยวข้องกับคุณ ปล่อยเราสองแม่ลูกไปตามทางของเราเถอะค่ะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงอ่อนๆ เธอรู้ดีว่าความหวังมันเป็นความทรมานอย่างหนึ่ง เมื่อมีหวังและอยากคว้ามาครอง แต่ในความเป็นจริงมันสูงสุดเอื้อมมือคว้า เพราะเขาลอยอยู่บนฟ้า ในขณะที่ตัวเองลอยเรี่ยๆ ติดพื้นดิน“คนแปลกหน้าที่มี ‘ลูก’ ด้วยกัน ก็แสดงว่าครั้งหนึ่งเราสองคนไม่ได้เป็นคนแปลกหน้ากันนี่ครับ เราชิดใกล้และแนบสนิท และหากผมต้องการแบบนั้นอีกครั้งเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเราในแน่นเฟ้นขึ้น ดีไหมครับ?” เป็นคำถามที่ดิมิทรีไม่ต้องการรอคำตอบเขาปฏิบัติการจู่โจมเพื่อกระชับพื้นที่ ร่างใหญ่หนาพลิกตัวกลับจากท่าทางเดิม คือนอนแผ่กลางเตียงมาคร่อมร่างบอบบางเอาไว้ เธอพยายามผลัก
มาดามโรสรีบชักมือกลับ เชิดปลายคางขึ้น เสยกแก้วชาที่ทิ้งไว้ขึ้นมาจิบแก้อาการขัดเขิน...“ที่นี่ใหญ่กว่าบ้านเก่าของดีม่านับสิบเท่าค่ะ ดีม่ามาอยู่เกือบหนึ่งอาทิตย์แล้ว ยังวิ่งไม่ทั่วบ้านเลยค่ะ” จอมแสบพูดแจ้วๆ ถึงจะไม่ได้รับความสนใจจากหญิงสูงวัยแต่เจ้าตัวสนใจที่ไหนยังพูดคุยไม่หยุด สลับกับกัดขนมในมือกินเพลินๆ“ชอบสินะ...”“ค่ะ...ชอบมากกกกกก คุณย่าเหงาไหมคะ ถ้าเหงาดีม่าจะมาอยู่เป็นเพื่อนบ่อยๆ”“เห็นแก่กินล่ะสิ...ถ้าฉันไม่มีของกินจะมาหาไหมล่ะ” นางปล่อยตัวตามสบาย คลายอาการเกร็งไปเกือบครึ่ง“เปล่าค่ะ...แต่คุณย่าตาดุ๊ดุ!! ดีม่ากลัวค่ะ”“ถ้ากลัว แล้ววันนี้ทำไมถึงกล้าล่ะ”“แหะๆ ดีม่าหิวค่ะ ขนมก็ห๊อมหอมมมม”“เห็นไหมล่ะ เรานะเห็นแก่กิน ตัวบวมๆ เดี๋ยวโตไปไม่สวยนะรู้ไหม?”“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่สวยก็อยู่กับคุณย่าไงค่ะ อยู่นานนนนนนน” เด็กหญิงฉีกยิ้ม กางมือกว้างๆ อธิบายช่วงเวลาประกอบคำพูดตัวเองมาดามโรสคลี่ยิ้มอ่อนๆ เจ้าตัวเล็กนี่ชั
บริเวณสวนหย่อมร่มรื่น เนื่องจากเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ อากาศเริ่มอุ่นขึ้นและดอกไม้ใบหญ้าเริ่มผลิดอกออกใบ ดอกไม้เบ่งบานส่งกลิ่นหอมรวยริน สายลมเย็นๆ พัดโชย ช่วงเวลาบ่ายคล้อยจึงไม่ร้อนมากนักกลิ่นขนมอบลอยฟุ้งผสมกับกลิ่นน้ำชาหอมๆ จนแม้แต่เด็กน้อยที่วิ่งเล่นอยู่ไกลๆ ยังได้กลิ่น นัชชาวีทำจมูกฟุดฟิต เจ้าหล่อนสูดกลิ่นหอมๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศและเริ่มชักชวนลูกสมุนเดินตามหาต้นตอของกลิ่นหอมๆ นั้น ท้องเล็กๆ ร้องโครกคราก น้ำย่อยเริ่มทำงานจนน้ำลายในปากไหลย้อย“หอมขนมเนอะ ป้าแม่ครัวทำอะไรให้ทานเนอะวันนี้ ไปดูกันเร็ว!!” ร่างกลมป้อมออกวิ่งเหยาะๆ ตามกลิ่นขนมที่เจ้าตัวชื่นชอบ จนถึงสวนหย่อมด้านข้างที่มีเก้าอี้เหล็กสวยๆ ตั้งไว้นั่งพักผ่อน“ชะอุ้ย!!” ริมฝีปากสีสดแบะออก และรีบถอยหลังกรูดๆ เมื่อเห็นคนที่น่ากลัวอยู่ตรงนั้น สายตาของ ‘คุณย่า’ มองเธอแบบเฉยชา จนขยาดที่จะเข้าใกล้ แต่ว่า...ถาดขนมนั้นน่าสนใจ!! ทำไงดีนะดีม่า ทำยังไงจะได้ชิมขนมในถาดนั้นโดยไม่ถูกคุณย่าดุ...จอมเจ้าเล่ห์เร่งคิดหาทางแบบเร่งด่วน ดวงตาสุกใสมองขนมสีสวยในถาดตาเป็นมัน!!มาดามโรสยกแก้วชา