บทที่6.บทลงโทษของคนที่ฝ่าฝืนคำสั่ง
ชายหนุ่มปรนเปรอเธอด้วยมือและลิ้น เขาจงใจปลุกกระแสเลือดของหล่อนให้ร้อนรุ่มจนลืมแม้แต่ความอาย
“มันทรมานค่ะ นีชา...ไม่ไหวแล้ว ช่วยนีชาด้วยนะคะ” นีรนาทไม่รู้ตัวเอง...เธอเอ่ยปากขออะไรออกไป? เธอทราบเพียงแต่ว่าตอนนี้ เวลานี้เธอกำลังจะขาดใจตายอยู่แล้ว และต้องการความช่วยเหลือจากเขาอย่างเร่งด่วนที่สุด
“จะให้ช่วยอย่างไรล่ะคนสวย ฉันพร้อมจะสนองให้เธอเต็มที่ แต่เธอต้องช่วยฉันด้วยเหมือนกัน ตกลงไหมล่ะ” ดิมิทรีพูดเสียงแหบปร่า กรีดปลายนิ้วยั่วหยอกกลีบดอกไม้ฉ่ำน้ำค้าง และสัมผัสลูบไล้บีบคลึงทั้งสองเต้าอย่างมันมือ ปลุกอารมณ์สวาทของคนตัวเล็กกว่าให้ลุกโชนยิ่งๆ ขึ้น
“ค่ะ...ได้... ช่วยนีชาที นีชาไม่ไหวแล้ว” นีรนาทพยักหน้ารับ ด้วยความไร้ประสบการณ์ เธอกำลังพ่ายแพ้ต่อฤทธิ์มนตร์สวาทอย่างหมดรูป
“ได้เลยคนสวย อยากให้ฉันเข้าไปในตัวเธออย่างนั้นสิ เธออยากให้ฉันปลดปล่อยความทรมานที่เกิดขึ้นนี่ถูกไหม ฉันเข้าใจแบบนี้ถูกไหมล่ะ” ดิมิทรีลากนิ้วชี้จากร่องอกไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ ผ่านลำคอที่เส้นชีพจรกำลังเต้นตุบๆ ก่อนไปหยุดที่กลีบปากที่บวมช้ำเพราะรสจูบที่เขามอบให้
“ใช่ไหม? นีชา หากเธอไม่ตอบฉันจะหยุด!!” ชายหนุ่มกำลังแย่ไม่แพ้อีกฝ่าย แต่เขาต้องการให้เธอยอมรับความจริง ว่าเธอเองก็ปรารถนาที่จะอยู่ในช่วงเวลาเช่นนี้กับเขาเหมือนกัน เขาไม่ได้คิดไปเองฝ่ายเดียว
“ฉันกำลังจินตนาการว่าตัวเองจะได้รับความสุขมากแค่ไหน... บอกฉันซิว่าเธอชอบแบบไหน แบบเร้าใจทีละนิด หรือต้องการให้สุดติ่ง กระโจนใส่ลงไปเหมือนรถไฟเหาะที่ทิ้งตัวลงไปแรงๆ” ในความกดดันที่เต็มไปด้วยความเย้ายวน ดิมิทรีก็ยังอารมณ์ดีจนอดไม่ได้ที่จะหยอกเย้านีรนาท มุมปากได้รูปของชายหนุ่มกระตุกยิ้ม เขามองหน้าบิดเบี้ยวด้วยความทรมานของเธออย่างสาแก่ใจ
คืนเดียวเท่านั้น... มันควรจะเป็นแค่เพียงคืนเดียวแล้วจบ ค่ำคืนแห่งบทรักอันเร่าร้อนและแสนมหัศจรรย์กับ ‘ชายที่มีอำนาจ’ ในมือ เธอคิดว่าจะไม่มีวันย้อนรอยกลับมาพบเจอกันอีก ไร้ข้อผูกมัด ไม่มีความผูกพัน เพราะมันคือข้อตกลง ก่อนที่ดิมิทรีจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ โดยการปล่อยบิดาเธอออกจากการจองจำ นั่นคือทั้งหมดที่ ‘นีรนาท โบรีส’ คิดเอาไว้ในขณะที่ทอดกายลงบนเตียงนอนของเขาอย่างจําฝืน หาก ‘ดิมิทรี เบนิคอฟ’ หนุ่มผู้ทรงอิทธิพล เจ้าของธุรกิจห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ผู้ชายที่ร่ำรวยจนเป็นอันดับต้นๆ ในมอสโก เขาไม่ใช่ผู้ชายประเภทที่ใครจะสามารถลืมได้โดยง่าย ไม่ว่าจะเป็นแรงดึงดูดใจ ความเฉลียวฉลาด เข้าถึงความต้องการของผู้หญิงได้ทุกอย่าง...
และเธอเองก็ไม่สามารถลืมสายตาระอุอุ่น รวมถึงดวงตาสีมรกตเปี่ยมเสน่ห์ของเขาได้ เธอไม่สามารถลืมความรู้สึกในยามที่ฝ่ามือหยาบกร้านของเขาลูบไล้ไปตามร่างกาย เซ็กซ์ที่เร้าระทึกจนหัวใจแทบหยุดเต้น แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั่นก็คือการที่เขาเป็นคนที่ครอบครองตัวเธอเป็นคนแรก!!
นีรนาทถอนหายใจเฮือกๆ เธอดึงมวลอากาสรอบตัวเข้าปอดเฮือกใหญ่ๆ อ้าปากไล่งับอากาศเมื่อชายหนุ่มเสือกเสยแก่นกายเข้ามาภายในร่างกายของเธอ จนเต็มตื้นและอึดอัด!! ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อหนุ่มพลังม้าเริ่มขยับเคลื่อนไหวร่างกาย ความซ่านเสียวสาดใส่จนเธอหมดสิ้นความอาย ครางครวญเสียงแผ่วระโหย พร้อมทั้งบดส่ายร่างกายตอบสนองเขาแบบรู้ใจ
ดิมมิทรีเข้ามาในชีวิตของเธอพร้อมด้วยข้อเรียกร้องที่ไร้ซึ่งการผ่อนปรน เธอก็ไม่มีทางเลือกนอกจาก ‘จำยอม’ แบบไร้ทางเลือก แต่นั้นเป็นข้อตกลงระหว่างกัน แต่ครั้งนี้ไม่!! เมื่อชายหนุ่มส่งคนไปพาตัวเธอมา เขาต้องการอะไรเธอไม่รู้? ระหว่างความต้องการที่จะลงโทษเธอหรือความปรารถนาที่จะควบคุมเธอเอาไว้ภายใต้ร่างกายที่เปลือยเปล่าของเขา โชคดีที่เขาไม่คิดที่จะเลือก เพราะเขาจะทำมันทั้งสองอย่างพร้อมๆ กัน!!
เตียงนอนขนาดเล็กคับแคบ ไหวโยกสะเทือนไหว เมื่อมันเคยแค่ให้ดิมิที่พักสายตา ไม่เคยเลยซักครั้งที่ชายหนุ่มจะใช้ประโยชน์อื่นๆ บนที่นอนหลังนี้ แต่...ครั้งนี้เหตุการณ์บังคับ เขาไม่มีเวลามากพอ ต้องจัดการนีรนาทให้เธอจดจำว่าคนที่เป็นฝ่ายมีชัยคือเขาหาใช่เธอ... ผู้หญิงชั้นต่ำไร้สกุลรุนชาติ
ดิมิทรีมีความสุขกับความปราชัยของนีรนาท เขาสุขสมอิ่มเอม สาดใส่ความต้องการของตัวเองจนคนใต้ร่างไหวโยกไปทั้งตัว ทรวงอกอวบอิ่มสั่นระริก หน้าสวยหวานส่ายสะบัด เธอกัดริมฝีปากล่างของตัวเองไว้ พยายามสุดความสามารถที่จะไม่เปล่งเสียงครางน่าอายออกมาให้เขาได้ลำพองมากไปกว่านี้ ผิวกายเธอชายิบ ลมหายใจหอบกระชั้น สรวงสวรรค์ที่เคยไปเยี่ยมชมเมื่อครั้งก่อน เวลานี้เธอกำลังปีนป่ายขึ้นไปบนดินแดนสุขาวดีอีกครั้ง โดยผู้ชายคนเดิมที่จับเธอเหวี่ยงโยนขึ้นไป
เอวบางส่ายไหวจนบั้นท้ายงอนงามไม่ติดพื้นเตียง ร่างกายขยับตามจังหวะของคนด้านบนโดยอัตโนมัติ มันเป็นกลไกธรรมชาติที่ไม่ต้องสอนสั่งและเป็นเองโดยธรรมชาติเช่นกัน ความหวานแหลมของบทรักที่ดุเดือด กำลังจะทำให้เธอขาดใจตาย ความทรมานที่ไม่มีขีดจำกัด และคนบ้าอำนาจกำลังชักพาเธอไป
“อ้ายยย...” สายรุ้งหลายสีโปรยหล่นลงมาจากฟากฟ้า นีรนาทกระโจนคว้าไว้และเธอถูกส่งไปไกลสุดขอบโลก
ชายหนุ่มเกร็งร่างกาย เขาถอดถอนสัดส่วนความเป็นชายช้าๆ แล้วจึงแทรกหายกลับลงไปที่เดิมหนักๆ ร่างกายอ่อนนุ่มดูดรัดเขาเสียจนเกือบสิ้นชื่อ ดีแต่ว่าเป็นคนเชี่ยวกรำเชิงกามจึงพลิกสถานการณ์ส่งหล่อนขึ้นสวรรค์ไปก่อนตัวเองสำเร็จ
“อ๊า...” หลังปลดปล่อยความร้อนแรง สาดใส่หญิงสาวจนชุ่มฉ่ำ หะ!! อีกแล้วนะ เขาลืมอีกจนได้ แล้วทำไม? จงเจาะลืมใช้อุปกรณ์กับหล่อนคนเดียวนะ หากเกิดอะไรขึ้นล่ะ เขาจะยอมรับได้หรือ สายเลือดตัวเองจากผู้หญิงโนเนมไร้ชื่อเสียง
“เป็นไง...ฉันดีพอให้เธอจำไหม?” ดิมิทรีเอ่ยเสียงแหบปร่า อารมณ์หนุ่มคึกคัก พร้อมที่จะออกสนามรบอีกครั้ง ทั้งๆ ที่พึ่งจบลงไปหมาดๆ
“...” นีรนาทไม่ตอบเธอพยายามจะพลิกตัวหนี แต่ถูกทาบทับไว้จากคนตัวใหญ่กว่า ที่สำคัญเขายังไม่ถอยกลับ ยังคงฝังแน่นอยู่ในร่างกายของเธอ และไอ้ส่วนนั้นมันเหมือนมีชีวิต มันเต้นตุ๊บตับจนเธอหวามอารมณ์
“จะไม่ขอบคุณฉันเหรอนีชา... ที่ฉันเป็นคนสอนให้เธอรู้จักความวาบหวามแบบนี้” ดิมิทรีเอ่ยเสียงปร่า เขาซุกหน้าแนบผิวชื้นเหงื่อของนีรนาท เขาสูดดมกลิ่นสาปสาวผสมกับกลิ่นเหงื่อจางๆ ร่างกายแข็งขืนและพร้อมรบ จึงขยับบั้นเอวช้าๆ
“ไม่นะ...พอแล้ว” หญิงสาวใต้ร่างพูดตะกุกตะกัก เธอหมดแรงที่จะต้านทาน เหนื่อยแทบขาดใจ แต่เขากลับจะทำแบบเดิมซ้ำ เธอได้ตายคาเตียงนอนนี้แน่ๆ
“แน่ใจเหรอ? นีชา แน่ใจเหรอว่าพอ...แต่ฉันว่าไม่ อ่า...” ดิมิทรีครางเสียงแหบๆ ร่างกายแข็งเกร็งเร่งขยับเอวสอบถี่ยิบ ไม่สนใจแรงต่อต้านจากคนตัวเล็ก ที่พยายามหยุดเขาด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิด ชายหนุ่มตัดความรำคาญ เขารวบสองขาเพรียวเกาะเกี่ยวสะโพกสอบของตัวเอง รวบมือน้อยๆ ชูไว้เหนือศีรษะเจ้าหล่อนพร้อมทั้งกระทั้นกายหนักๆ เร่งกำลังดั่งม้าศึก เพื่อไปถึงเส้นชัยก่อนที่จะหมดแรง...มันคงเป็นวันที่เธอต้องจำไปอีกนาน ดิมิทรี เบนิคอฟ สมกับฉายายอดนักรัก เขาควบขับแบบไม่มีแรงตก สาดใส่ความร้อนแรงให้กับเธอ จนได้แต่ครางเสียงกระเส่า เมื่อความกระสันแล่นพล่านไปตามกระแสเลือด ร่างกายเธอสมยอมเขาแบบดุษฎี ไม่ว่าชายหนุ่มจะพลิกแพลงแบบไหน เธอยินยอมก้าวตามด้วยความหลงละเมอ“อย่าทำแบบนี้ ได้โปรดพอเถอะ!!” คนตัวเล็กเอ่ยห้ามเสียงแผ่ว เธอไม่ได้รังเกียจสัมผัสของชายหนุ่มเหมือนเก่า แต่เธอเหนื่อยจนใกล้จะขาดใจ ความร้อนแรงของเขาเขย่าหัวใจเธอให้โยกคลอนรุนแรงชายหนุ่มอมยิ้ม เขามองผิวกายสีระเรื่อ เมื่อกระแสเลือดถูกเขาผลักดันจนแล่นพล่านทั่วทั้งตัว ผิวขาวผ่องเปลี่ยนสี กลายเป็นระเรื่อด้วยสีแดงจัด แต่มันเย้ายวนชวนให้รื่นรมย์เกมสวาทดุเดือดเลือ
บทที่7.พายุเดือด เดือดจนเส้นกระตุก!! โมโหจนแทบกระอัก อยากจะทำลายทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแต่มันไม่ใช่ที่ ชายหนุ่มยกสองมือขึ้นท้าวเอว เขาหมุนตัวมองไปที่ผนังกระจกใสแจ๋ว สายตาเรืองรองเต็มไปด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธ เป็นอีกครั้งแล้วที่ ‘ผู้หญิงคนชั้นต่ำคนนั้น’ ทิ้งเขาไป โดยไม่รอคำอนุญาต เธอกล้าดีเกินไปล่ะ “เจ้านายจะทำไงต่อครับ” “ช่างเถอะ!! ดีเหมือนกันไม่เปลือง” ชายหนุ่มกระแทกเสียงตอบ ใช่ว่าเขาจะอดอยากปากแห้งเมื่อไร ผู้หญิงมากมายเกลื่อนมอสโก แค่กระดิกนิ้วเรียกขี้คร้านจะถลาเข้ามาเกินสิบคน!! แล้วทำไม เขาจะต้องไปตอแยกับคนที่ไม่ได้เลิศเลอกว่าใครเลย แค่ผู้หญิงข้างทางที่หมดความหวานแล้วด้วยซ้ำ ใช่เหรอ? “ครับ” “เตรียมรถ ฉันจะไปสโมสร” เขาจะแสดงให้เธอรู้...เธอไม่ใช่คนสำคัญที่เขาจะต้องไปคอยตอแย ไม่เอาเงินค่าตัวก็ดี...ไม่เปลืองด้วย ความขุ่นข้องหมองใจยังคงค้างอยู่ในหัวใจ ดิมิทรีจึงไม่สนใจสาวสวยหลายนางที่ส่งสายตาทอดสะพานให้ เขาดื่มเหล้าเหมือนดื่มน้ำเปล่า เพื่อลดทอนความโกรธที่กำลังปะทุอยู่ข้างในใจ ดวงตาสีมรกตขุ่นมัว มันกรุ่นๆ จวนจะเดือด
“เอาเป็นว่า...ผมตอบคำถามนี้ของมิสไม่ได้ครับ เพราะผมไม่รู้? แต่หากมันหลุดรอดไปถึงหูคนอื่น...โดยเฉพาะนักข่าว...ผมจะถือว่ามันมาจากปากของมิส และผมคงต้องจัดการเก็บกวาดแทนเจ้านาย มิสคงไม่อยากให้เป็นแบบนั้นใช่ไหมครับ!!” เสียงเย็นเฉียบพูดตอบ เขามองสบนัยน์ตาเจ้าหล่อนเป็นการข่มขู่กลายๆ“โอ้ย!! รู้หรอกน่าซูซานไม่ใช่คนช่างพูด แค่อยากรู้” เจ้าตัวรีบแก้ตัวเสียงอ่อยๆ แม้จะกังขาแต่ก็ไม่กล้าที่จะสืบค้นเพราะมันเป็นเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นชายที่อาจทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต หญิงสาวรีบสะบัดก้นหนี แม้จะไม่ได้สนองอารมณ์หนุ่มในฝันอย่างที่ตัวเองต้องการ แต่ค่าตอบแทนก็ไม่ได้น้อยหน้า เจ้าตัวเลยรีบชิ่งหนีก่อนจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง“พี่ๆ เจ้านายเป็นอะไร?” หลังต้นตอปล่อยข่าวหายลับไปในอาพาร์ทเม้นท์ของเจ้าหล่อน เหลือแต่การ์ดของชายหนุ่ม เขาสุมหัวซักถามกันเป็นการใหญ่“จะไปรู้รึ!! ไม่ได้นอนกับเจ้านายนี่หว่า...อยากรู้เดี๋ยวกลับไปถึงแกถามเจ้านายเอาเองก็แล้วกัน”“หู้ย!! จะได้ตายฟรีดิลูกพี่..อารมณ์อย่างกับคนท้อง ดีๆ อยู่พัก หงุดหงิดอีกแล้ว ทำตามไม่ทันใจเลยคร๊าฟ” ลูกสมุนบ่นเสียงอุบอิบ ส่งค้อนประหลำประเหลือกให้ลูกพี่หัวหน้าทีม
บทที่1.เด็กสาวไม้ขีดไฟสายตาแสนเศร้าแหงนมองยอดตึกสูงตระหง่าน ตึกใหญ่ที่เป็นห้างสรรพสินค้ากลางกรุงมอสโก เธอได้แต่มองและแอบฝัน สักวันหนึ่งเธอจะไปทำงานในที่แห่งนั้น ชีวิตความเป็นอยู่ของเธอจะได้ดีขึ้น ได้แต่งตัวสวยๆ แทนชุดเก่าเก็บที่เต็มไปด้วยคราบแป้งทำขนม นีรนาท โบรีส สาวลูกครึ่งที่น่าสงสาร มารดาเสียชีวิตเพราะไม่สามารถทนกับความเปลี่ยนแปลง ป่วยกระเสาะกระแสะจนสิ้นใจเมื่อเธออายุได้ 15 ปี ทิ้งให้หญิงสาวอยู่กับบิดาแท้ๆ นายอีวาน โบรีสที่แสนขี้เกียจ เอาเปรียบเมียและลูกกินแต่เหล้า โดยอ้างว่าเสียใจที่ภรรยาเสียชีวิตหญิงสาวจึงเติบโตขึ้นมาอย่างอัตคัด เมื่อต้องเก็บออมเงินจากการรีดไถของบิดา ที่ทำงานเป็น รปภ. อยู่ที่ห้างสรรพสินค้า แต่ขาดงานเป็นประจำจนหัวหน้างานไล่ออกเพราะไม่อยากเก็บคนที่ขี้เกียจและสติไม่ค่อยเต็มร้อยมาทำงาน เพราะอาจสร้างปัญหาให้กับเขาและองค์กรก็เป็นได้...อีวานจึงสาปส่ง ด่าทอเจ้าของห้างสรรพสินค้าเป็นประจำยามเขาเมามาย ทั้งๆ ที่ตัวเจ้าของเองก็ไม่รู้...“นีชา...จะเอานี่กลับไปกินด้วยหรือเปล่า แป้งเหลือเยอะแยะเลย” เจ้าของร้านสาวใหญ่ใจดี เธอเมตตาและแอบมอบอาหารการกินให้เธอเป็นประจำ“ขอบคุณค่ะ
“แม่จ๋านีชาเรียนใกล้จบแล้ว...เสียดายจังแม่ไม่อยู่ในวันที่นีชาประสบความสำเร็จ...แม่รอดูนีชานะจ๊ะ นีชาจะหางานดีๆ ทำและจะพาแม่กลับไประเทศไทย” ความฝันสูงสุดในวันที่ชมนาดสิ้นใจเธออยากกลับบ้านเกิด และนีรนาทรับปากว่าจะต้องทำให้ได้!!เด็กหญิงไม้ขีดไฟมีชีวิตแสนรันทด นีรนาทเองก็เช่นกันไม่ต่างอะไรกับเด็กหญิงที่ต้องขายไม้ขีดไฟเพื่อหาเงินค่าอาหารสักนิด เธอต่อสู้ดิ้นรนมาตั้งแต่มารดาเสียชีวิต เพื่อหาอาหารเลี้ยงปากท้องตัวเองและบิดา!!เสื้อผ้าของใช้ไม่เคยได้ซื้อเพิ่มมาใหม่ ดีแต่ว่าได้รับการอนุเคราะห์จากเพื่อนบ้าน ที่สงสารเธอ เมื่อตัวเธอต้องเก็บซ่อนเงินเอาไว้เพื่อการเรียน จนไม่อยากซื้อหาอะไรนอกจากสิ่งจำเป็นจริงๆ เธอเอนกายลงนอนโดยกอดเสื้อของแม่ไว้ ขดตัวใต้ผ้าห่มเก่าๆ ของแม่ ก่อนจะหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย“นีชา...เอาสตางค์มาให้กูสิ กูจะไปซื้อเหล้า” เสียงโวยวายของอีวานดังขึ้น เมื่อเขาตื่นเต็มที่ ชายสูงวัยรูปร่างท้วม ผมบนศีรษะเหลือแค่ครึ่งเดียว ปลายจมูกแดงก่ำ นัยน์ตาฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ยังคงค้างอยู่ในร่างกายหญิงสาวงัวเงียตื่นขึ้นมา เธอเหลือบมองเวลาที่นาฬิกาเล็กๆ หัวนอน ‘พึ่งจะตีห้าครึ่ง’ เธอพึ่งน
บทที่2.เจ้าชายน้ำแข็ง“พูดมาสลาฟส์ ใคร?” น้ำเสียงเย็นเฉียบยิ่งกว่าเกล็ดหิมะด้านนอกตัวอาคาร ชายสูงวัยหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ จากข้อมูลที่สืบทราบ เขาเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน ว่าจะใช่คนคนนั้น?!! “อีวาน...โบรีส อดีต รปภ. ที่เคยทำงานที่ห้างสรรพสินค้าครับท่าน เขาถูกไล่ออกเพราะเมาสุราขณะทำงาน”“อดีต!! รปภ. ที่ถูกไล่ออก!! แล้วไอ้หมอนั้นมันต้องการอะไร?”“ผมยังไม่รู้ครับ ว่าเขาต้องการอะไรในการลงมือทำครั้งนี้ ความจริงเขาออกไปเป็นปีๆ หากมีเรื่อแค้นเคืองก็น่าจะลงมือตั้งแต่เกิดเรื่องใหม่” สลาฟส์วิเคราะห์ตามข้อมูลที่รู้มา เขาแปลกใจพอๆ กับทุกคนที่อยู่ในทีมสืบสวน“เอาตัวไอ้หมอนั่นมาให้ผม ผมจะสอบสวนมันเอง!! ให้มันรู้ไปสิว่ามันกล้า...” ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืน เขาต้องมาเสียเวลาที่แสนจะมีค่าไปกับเรื่องไร้สาระ แค่คนงานชั้นล่างสุด ก่อเรื่อง แต่มันเป็นการกระทำที่ทำให้เขาเสียรายได้มหาศาล สร้างความขุ่นเคืองในหัวใจ จนไม่อาจปล่อยวางเรื่องนี้ไปง่ายๆ ได้“ครับ” สลาฟส์รับคำเสียงหนักๆ เขาเองก็อยากรู้ว่าอีวานต้องการอะไร ชายแก่นั่นจมอยู่กับกองขวดเหล้า แล้วจู่ๆ ไอ้หมอนั่
แสงไฟฟ้าสว่างจ้า นีรนาทรีบสาวเท้าให้เร็วขึ้น เธอผลักบานประตูจนสายลมเย็นเฉียบไหลกรูเข้าไปภายใน เจ้าหน้าที่หันมามองเธอเป็นตาเดียว เพราะเวลามันดึกเกินว่าจะมีใครมาทำธุระที่สถานีตำรวจ“ขอโทษคะ อีวาน โบรีส อยู่ที่นี่ไหมคะ? หนูเป็นลูกสาวเขาอยากขอประกันตัว” เสียงถามปนเสียงหอบ เพราะเจ้าตัวรีบมาเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้“อีลูกไม่รักดี ปล่อยให้กูนอนอยู่ในนี้ตั้งหลายชั่วโมง มึงไปมุดหัวอยู่ไหนมา!!” สองมืออีวานเกาะซี่ลูกกรง เขาแผดเสียงก้องด่าทอนีรนาทเมื่อเห็นบุตรสาวปรากฏตัวขึ้นมาเคล้งๆ...“หุบปาก!! ยังจะปากดีอีก ต่อให้ขนเงินมากองไว้ก็ไม่ได้ประกันตัวหรอกน่า นอนอยู่ในนั้นแหละ คุณดิมิทรีไม่ปล่อยแกออกมาลอยนวลข้างนอกให้เกะกะนัยน์ตาเขาหรอก” เจ้าหน้าที่ยกกระบองไม้ในมือเคาะไปที่ซีลูกกรง เป็นสัญญาณเตือนชายขี้เมาว่าอย่าได้ส่งเสียงน่ารำคาญ“เห้ย!! ได้ยังไงวะ รังแกคนจนๆ ได้ไง ฉันไม่ยอม”“แกยอมหรือไม่ยอม แกก็ต้องติดคุก ถึงจะไม่ได้ลงมือทำจริงๆ แต่แกส่อเจตนาร้าย เขามีหลักฐานและพยานพร้อม ไม่มีทางดิ้นอยู่แล้ว อย่างมากก็นอนคุกสัก4 -5 ปี”“โฮๆ...” เมื่อรู้ความจริงว่าแค่เพียงอารมณ์ชั่ววูบจะทำให้ตัวเองขาดอิสรภาพและจะต้อง
“คนอย่างอีวานเป็นไม้แก่ดัดยาก เขาควรถูกคนที่เหนือกว่าสั่งสอน ฉันคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ดีเชียวแหละ”“แต่...”“เอาเถอะอยากทำอะไรก็ตามใจ ฉันขอโทษที่ซ้ำเติมพ่อเธอ มันทนไม่ไหวจริงๆ”“ขอบคุณค่ะ”“อืม...ถ้าไม่ไหวยังไง มีอะไรที่ฉันช่วยได้ฉันก็อยากช่วยนะนีชา” หล่อนพ่นลมหายใจแรงๆ พระเจ้าไม่ยุติธรรมเลย คนดีๆ ตายจากแต่คนที่สมควรตายยังคงหยัดยืนอยู่ เธอรู้จักกับชมนาดดี ผู้หญิงน่าสงสารที่อยากมีชีวิตดีขึ้น จนต้องยอมแต่งงานกันคนในพื้นที่ เพื่อจะได้ทำมาหากินได้โดยไม่ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวส่งกลับภูมิลำเนาเดิม แต่เผอิญโชคร้าย ไปคว้าเอาอีวานมาเป็นสามี เขาออกลายทันทีที่แต่งงาน ผู้หญิงไทยคนนั้นจึงต้องก้มหน้าก้มตาหาเลี้ยงสามี และเจียดเงินส่วนหนึ่งส่งกลับไปให้คนทางบ้านเกิด สุขภาพทรุดโทรมลงทุกๆ วันเพราะต้องทำงานเพิ่มอีกเป็นเท่าตัวเพื่อให้มีเงินพอจะเจือจานคนทางบ้านและตัวเอง หล่อนเจ็บออดๆ แอดๆ และเสียชีวิตตอนที่ลูกสาวยังไม่โตเต็มที่ สองแม่ลูกที่เธอเห็นมาเกือบๆ ยี่สิบปี ช่างน่าสงสารและน่าเห็นใจ ผู้หญิงหวังพึ่งสามี และหวังว่าเขาจะทำให้ตัวเองมีการเป็นอยู่ดีขึ้น แต่สามีหรือพ่ออย่างอีวาน สมควรอย่างยิ่งที่จะถูกกำจัด เธอ