บทที่7.พายุเดือด
เดือดจนเส้นกระตุก!! โมโหจนแทบกระอัก อยากจะทำลายทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแต่มันไม่ใช่ที่ ชายหนุ่มยกสองมือขึ้นท้าวเอว เขาหมุนตัวมองไปที่ผนังกระจกใสแจ๋ว สายตาเรืองรองเต็มไปด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธ
เป็นอีกครั้งแล้วที่ ‘ผู้หญิงคนชั้นต่ำคนนั้น’ ทิ้งเขาไป โดยไม่รอคำอนุญาต เธอกล้าดีเกินไปล่ะ
“เจ้านายจะทำไงต่อครับ”
“ช่างเถอะ!! ดีเหมือนกันไม่เปลือง” ชายหนุ่มกระแทกเสียงตอบ ใช่ว่าเขาจะอดอยากปากแห้งเมื่อไร ผู้หญิงมากมายเกลื่อนมอสโก แค่กระดิกนิ้วเรียกขี้คร้านจะถลาเข้ามาเกินสิบคน!! แล้วทำไม เขาจะต้องไปตอแยกับคนที่ไม่ได้เลิศเลอกว่าใครเลย แค่ผู้หญิงข้างทางที่หมดความหวานแล้วด้วยซ้ำ ใช่เหรอ?
“ครับ”
“เตรียมรถ ฉันจะไปสโมสร” เขาจะแสดงให้เธอรู้...เธอไม่ใช่คนสำคัญที่เขาจะต้องไปคอยตอแย ไม่เอาเงินค่าตัวก็ดี...ไม่เปลืองด้วย
ความขุ่นข้องหมองใจยังคงค้างอยู่ในหัวใจ ดิมิทรีจึงไม่สนใจสาวสวยหลายนางที่ส่งสายตาทอดสะพานให้ เขาดื่มเหล้าเหมือนดื่มน้ำเปล่า เพื่อลดทอนความโกรธที่กำลังปะทุอยู่ข้างในใจ ดวงตาสีมรกตขุ่นมัว มันกรุ่นๆ จวนจะเดือด
“คุณดิมิทรีคะ ไม่ออกไปสนุกกันเหรอคะ” สาวสวยดีกรีนางแบบแถวหน้า รูปร่างดั่งนาฬิกาทราย อกเป็นอก เอวเป็นเอว คอเสื้อร่นลงต่ำๆ จนหน้าอกอวบอิ่มแทบจะไหลออกมากองนอกตัวเสื้อ เธอพยายามส่งสายตาให้ชายหนุ่ม เมื่อเขาขึ้นชื่อว่าเป็นนักรักชั้นยอดเธอก็อยากเสี่ยงลองทาบเหมือนกัน
“ไม่ล่ะ เชิญพวกเธอตามสบาย ฉันอยากนั่งดื่มเงียบ” ชายหนุ่มเบือนหน้าหนี เขาไม่ได้เกิดอารมณ์สักนิดกับหน้าอกหย่อนๆ ยานๆ สู้...โนมเนื้อของนีรนาทก็ไม่ได้ทั้งเต่งตึงเด้งดึ๋งดั๋ง!! ไม่ๆ...ไปคิดถึงยัยบ้านั่นทำไม!! ผู้หญิงมีเป็นร้อยเป็นล้าน เกลื่อนมอสโก และพวกหล่อนอยากมานอนบนเตียงของเขาทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องไปนึกถึงคนไม่เต็มใจ!! ดิมิทรีคิดฉุนๆ จากนั้นเขาก็กระดกแก้วเหล้าถี่ขึ้น พยายามสุดจิตที่จะสลัดนีรนาทให้หลุด ไม่อยากแม้แต่จะให้เงาของเธอมากล้ำกลาย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะทำไม่ได้!!
ภาพเงาของนีรนาทยังตามหลอกหลอน เธอลอยยั่วเย้า โฉบไปโฉบมา ทำให้เขาหัวหมุนและปั่นป่วน ยิ่งอยากลืมกับจำได้แม่น ไม่ว่าจะเป็นผิวเนียนใส แผ่นท้องแบนเรียบ เอวคอดกิ่ว เนินอกกลมกลึงเรียวขาเพรียวยาว และดวงตาสีนิลหวานฉ่ำ
“โว้ย!!” จู่ๆ ชายหนุ่มก็โวยวายเสียงลั่น มือใหญ่กำแก้วบรั่นดีแทบจะแตกละเอียดคามือ ดวงตาสีเขียวขุ่นคลั่ก ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืน เขาไม่อาจจมอยู่กับความฟุ้งซ่าน ทางที่ดีที่สุดต้องกำจัดนีรนาทไปให้สิ้นซาก โดยการหาใคร? สักคนที่ดีกว่ามาแทนที่ภาพเงาของหล่อน
“ฉันจะไปรอที่เพนท์เฮ้าส์ หาใครก็ได้สวยที่สุดไปส่งให้ฉันด้วย ด่วน!!” เสียงเข้มร้องสั่ง เขาจ้ำพรวดๆ โดยมีการ์ดบางส่วนเดินตามไปด้วย และอีกส่วนที่เหลือพวกเขาช่วยกันมองหาผู้หญิงสวยๆ ที่พร้อมจะสนองอารมณ์ให้เจ้านาย และพวกหล่อนคงกระดี๋กระด๋าน่าดูหากรู้เข้า
ดิมิทรีจมอยู่กับขวดเหล้า พอเอาเข้าจริงๆ ไม่ว่าผู้หญิงที่มาจะสวยล้ำเพียงใด แต่กลับไม่สามารถปลุกอารมณ์ดิบเถื่อนของเขาให้ลุกเพลิดได้เหมือนกับ...มันทำให้เขายิ่งหงุดหงิดมากกว่าเดิม หลังจากพันตูกับนางแบบสาวทรวดทรงงดงามได้สักพัก สิ่งที่ได้รับคือความเฉยและชา...กลิ่นกายของเจ้าหล่อนแทบทำให้เขาอาเจียน กลิ่นน้ำหอมชั้นดีเขากลับเหม็นเสียฉิบ ไม่ว่าจะแตะต้องส่วนไหนบนร่างกายนั้น ไฟอารมณ์ของเขาไม่ลุกพรึบ!! มันกลับค่อยๆ มอดลงและดับสนิท แม้เจ้าหล่อนจะเชี่ยวกร่ำปลุกอารมณ์เขาด้วยตัวเอง ไอ้ที่ควรแข็งขืนกับหัวห้อย ไม่ยอมตื่นไม่ยอมฟื้นสักที!!
มันเกิดอะไรขึ้นกันนี่?
“คุณดิมิทรี!! จะไปไหนคะ?” นางแบบสาวนัยน์ตาสีทอง ร่างกายเปลือยเปล่านอนทอดกายอยู่กลางเตียง เธอส่งเสียงถามเพราะเขาถอยห่างก้าวเท้าลงจากเตียงนอนขนาดใหญ่ดื้อๆ
“เธอกลับไปเถอะ ออกไปจะมีคนจัดการค่าเสียเวลาให้” ความมึนเมาหายไปเป็นปลิดทิ้ง เขากำลังหงุดหงิดและจวนจะคลั่ง!!
“แต่...”
“ออกไป!!” ชายหนุ่มสุดทน ไม่ใช่ว่าเธอไม่ดีแต่เขาไม่พร้อมต่างหาก...
“ค่ะ ค่ะ” สาวเจ้าละล่ำละลักตอบ เธอกระโจนพรวดลงจากเตียงนอนขนาดใหญ่ วิ่งหัวซุกหัวซุนควานหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ แล้วจึงรีบชิ่งหนีหายออกไปจากห้อง ปล่อยให้ชายหนุ่มเจ้าของห้องอยู่ในนั้นคนเดียว
“โอ้ย!! เจ้านายพวกคุณผีเข้าหรือไง ทำเหมือนผู้หญิงใกล้มีประจำเดือนฉุนเฉียวและดุดัน” เสียงบ่นอุบอิบ ขณะที่การ์ดพาเจ้าหล่อนไปส่งถึงที่พัก พวกเขาขมวดคิ้วนิ่วหน้า นางแบบสาวหุ่นดีเข้าไปไม่ถึง15นาทีก็ถูกขับไล่ออกมาหน้าตาตื่นๆ แถมยังบ่นให้ฟังถึงความเจ้าอารมณ์ของเจ้านายที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ เกิดอะไรขึ้นกันนะ?
“นี่ๆ ไม่ได้นินทานะ แต่อยากรู้? ห้ามไปบอกใครล่ะว่าออกมาจากปากซูซาน เหยียบตรงนี้นะหากยังไม่อยากถูกเชือด” เธอกระซิบถามเมื่อก้าวเท้าลงจากรถยนต์หรูหรา
“เจ้านายคุณ มิสเตอร์ดิมิทรี เป็นกามตายด้านเหรอ? ‘ไอ้นั่น’ มันถึงไม่ทำงาน” เสียงแผ่วเบากระซิบถามเล่นเอางันไปทั้งกลุ่ม เป็นไปไม่ได้น่า...เพราะก่อนที่จะมาคั่วกับนางแบบสาวนี่ เมื่อตอนกลางวันเจ้านายสะบึมผู้หญิงข้างถนนนั้นเป็นนานสองนาน ไม่มีทางที่ผู้ชายแข็งแรงสมบูรณ์จะเสื่อมสมรรถภาพก่อนเวลาอันควร
“เอาเป็นว่า...ผมตอบคำถามนี้ของมิสไม่ได้ครับ เพราะผมไม่รู้? แต่หากมันหลุดรอดไปถึงหูคนอื่น...โดยเฉพาะนักข่าว...ผมจะถือว่ามันมาจากปากของมิส และผมคงต้องจัดการเก็บกวาดแทนเจ้านาย มิสคงไม่อยากให้เป็นแบบนั้นใช่ไหมครับ!!” เสียงเย็นเฉียบพูดตอบ เขามองสบนัยน์ตาเจ้าหล่อนเป็นการข่มขู่กลายๆ“โอ้ย!! รู้หรอกน่าซูซานไม่ใช่คนช่างพูด แค่อยากรู้” เจ้าตัวรีบแก้ตัวเสียงอ่อยๆ แม้จะกังขาแต่ก็ไม่กล้าที่จะสืบค้นเพราะมันเป็นเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นชายที่อาจทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต หญิงสาวรีบสะบัดก้นหนี แม้จะไม่ได้สนองอารมณ์หนุ่มในฝันอย่างที่ตัวเองต้องการ แต่ค่าตอบแทนก็ไม่ได้น้อยหน้า เจ้าตัวเลยรีบชิ่งหนีก่อนจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง“พี่ๆ เจ้านายเป็นอะไร?” หลังต้นตอปล่อยข่าวหายลับไปในอาพาร์ทเม้นท์ของเจ้าหล่อน เหลือแต่การ์ดของชายหนุ่ม เขาสุมหัวซักถามกันเป็นการใหญ่“จะไปรู้รึ!! ไม่ได้นอนกับเจ้านายนี่หว่า...อยากรู้เดี๋ยวกลับไปถึงแกถามเจ้านายเอาเองก็แล้วกัน”“หู้ย!! จะได้ตายฟรีดิลูกพี่..อารมณ์อย่างกับคนท้อง ดีๆ อยู่พัก หงุดหงิดอีกแล้ว ทำตามไม่ทันใจเลยคร๊าฟ” ลูกสมุนบ่นเสียงอุบอิบ ส่งค้อนประหลำประเหลือกให้ลูกพี่หัวหน้าทีม
บทที่1.เด็กสาวไม้ขีดไฟสายตาแสนเศร้าแหงนมองยอดตึกสูงตระหง่าน ตึกใหญ่ที่เป็นห้างสรรพสินค้ากลางกรุงมอสโก เธอได้แต่มองและแอบฝัน สักวันหนึ่งเธอจะไปทำงานในที่แห่งนั้น ชีวิตความเป็นอยู่ของเธอจะได้ดีขึ้น ได้แต่งตัวสวยๆ แทนชุดเก่าเก็บที่เต็มไปด้วยคราบแป้งทำขนม นีรนาท โบรีส สาวลูกครึ่งที่น่าสงสาร มารดาเสียชีวิตเพราะไม่สามารถทนกับความเปลี่ยนแปลง ป่วยกระเสาะกระแสะจนสิ้นใจเมื่อเธออายุได้ 15 ปี ทิ้งให้หญิงสาวอยู่กับบิดาแท้ๆ นายอีวาน โบรีสที่แสนขี้เกียจ เอาเปรียบเมียและลูกกินแต่เหล้า โดยอ้างว่าเสียใจที่ภรรยาเสียชีวิตหญิงสาวจึงเติบโตขึ้นมาอย่างอัตคัด เมื่อต้องเก็บออมเงินจากการรีดไถของบิดา ที่ทำงานเป็น รปภ. อยู่ที่ห้างสรรพสินค้า แต่ขาดงานเป็นประจำจนหัวหน้างานไล่ออกเพราะไม่อยากเก็บคนที่ขี้เกียจและสติไม่ค่อยเต็มร้อยมาทำงาน เพราะอาจสร้างปัญหาให้กับเขาและองค์กรก็เป็นได้...อีวานจึงสาปส่ง ด่าทอเจ้าของห้างสรรพสินค้าเป็นประจำยามเขาเมามาย ทั้งๆ ที่ตัวเจ้าของเองก็ไม่รู้...“นีชา...จะเอานี่กลับไปกินด้วยหรือเปล่า แป้งเหลือเยอะแยะเลย” เจ้าของร้านสาวใหญ่ใจดี เธอเมตตาและแอบมอบอาหารการกินให้เธอเป็นประจำ“ขอบคุณค่ะ
“แม่จ๋านีชาเรียนใกล้จบแล้ว...เสียดายจังแม่ไม่อยู่ในวันที่นีชาประสบความสำเร็จ...แม่รอดูนีชานะจ๊ะ นีชาจะหางานดีๆ ทำและจะพาแม่กลับไประเทศไทย” ความฝันสูงสุดในวันที่ชมนาดสิ้นใจเธออยากกลับบ้านเกิด และนีรนาทรับปากว่าจะต้องทำให้ได้!!เด็กหญิงไม้ขีดไฟมีชีวิตแสนรันทด นีรนาทเองก็เช่นกันไม่ต่างอะไรกับเด็กหญิงที่ต้องขายไม้ขีดไฟเพื่อหาเงินค่าอาหารสักนิด เธอต่อสู้ดิ้นรนมาตั้งแต่มารดาเสียชีวิต เพื่อหาอาหารเลี้ยงปากท้องตัวเองและบิดา!!เสื้อผ้าของใช้ไม่เคยได้ซื้อเพิ่มมาใหม่ ดีแต่ว่าได้รับการอนุเคราะห์จากเพื่อนบ้าน ที่สงสารเธอ เมื่อตัวเธอต้องเก็บซ่อนเงินเอาไว้เพื่อการเรียน จนไม่อยากซื้อหาอะไรนอกจากสิ่งจำเป็นจริงๆ เธอเอนกายลงนอนโดยกอดเสื้อของแม่ไว้ ขดตัวใต้ผ้าห่มเก่าๆ ของแม่ ก่อนจะหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย“นีชา...เอาสตางค์มาให้กูสิ กูจะไปซื้อเหล้า” เสียงโวยวายของอีวานดังขึ้น เมื่อเขาตื่นเต็มที่ ชายสูงวัยรูปร่างท้วม ผมบนศีรษะเหลือแค่ครึ่งเดียว ปลายจมูกแดงก่ำ นัยน์ตาฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ยังคงค้างอยู่ในร่างกายหญิงสาวงัวเงียตื่นขึ้นมา เธอเหลือบมองเวลาที่นาฬิกาเล็กๆ หัวนอน ‘พึ่งจะตีห้าครึ่ง’ เธอพึ่งน
บทที่2.เจ้าชายน้ำแข็ง“พูดมาสลาฟส์ ใคร?” น้ำเสียงเย็นเฉียบยิ่งกว่าเกล็ดหิมะด้านนอกตัวอาคาร ชายสูงวัยหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ จากข้อมูลที่สืบทราบ เขาเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน ว่าจะใช่คนคนนั้น?!! “อีวาน...โบรีส อดีต รปภ. ที่เคยทำงานที่ห้างสรรพสินค้าครับท่าน เขาถูกไล่ออกเพราะเมาสุราขณะทำงาน”“อดีต!! รปภ. ที่ถูกไล่ออก!! แล้วไอ้หมอนั้นมันต้องการอะไร?”“ผมยังไม่รู้ครับ ว่าเขาต้องการอะไรในการลงมือทำครั้งนี้ ความจริงเขาออกไปเป็นปีๆ หากมีเรื่อแค้นเคืองก็น่าจะลงมือตั้งแต่เกิดเรื่องใหม่” สลาฟส์วิเคราะห์ตามข้อมูลที่รู้มา เขาแปลกใจพอๆ กับทุกคนที่อยู่ในทีมสืบสวน“เอาตัวไอ้หมอนั่นมาให้ผม ผมจะสอบสวนมันเอง!! ให้มันรู้ไปสิว่ามันกล้า...” ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืน เขาต้องมาเสียเวลาที่แสนจะมีค่าไปกับเรื่องไร้สาระ แค่คนงานชั้นล่างสุด ก่อเรื่อง แต่มันเป็นการกระทำที่ทำให้เขาเสียรายได้มหาศาล สร้างความขุ่นเคืองในหัวใจ จนไม่อาจปล่อยวางเรื่องนี้ไปง่ายๆ ได้“ครับ” สลาฟส์รับคำเสียงหนักๆ เขาเองก็อยากรู้ว่าอีวานต้องการอะไร ชายแก่นั่นจมอยู่กับกองขวดเหล้า แล้วจู่ๆ ไอ้หมอนั่
แสงไฟฟ้าสว่างจ้า นีรนาทรีบสาวเท้าให้เร็วขึ้น เธอผลักบานประตูจนสายลมเย็นเฉียบไหลกรูเข้าไปภายใน เจ้าหน้าที่หันมามองเธอเป็นตาเดียว เพราะเวลามันดึกเกินว่าจะมีใครมาทำธุระที่สถานีตำรวจ“ขอโทษคะ อีวาน โบรีส อยู่ที่นี่ไหมคะ? หนูเป็นลูกสาวเขาอยากขอประกันตัว” เสียงถามปนเสียงหอบ เพราะเจ้าตัวรีบมาเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้“อีลูกไม่รักดี ปล่อยให้กูนอนอยู่ในนี้ตั้งหลายชั่วโมง มึงไปมุดหัวอยู่ไหนมา!!” สองมืออีวานเกาะซี่ลูกกรง เขาแผดเสียงก้องด่าทอนีรนาทเมื่อเห็นบุตรสาวปรากฏตัวขึ้นมาเคล้งๆ...“หุบปาก!! ยังจะปากดีอีก ต่อให้ขนเงินมากองไว้ก็ไม่ได้ประกันตัวหรอกน่า นอนอยู่ในนั้นแหละ คุณดิมิทรีไม่ปล่อยแกออกมาลอยนวลข้างนอกให้เกะกะนัยน์ตาเขาหรอก” เจ้าหน้าที่ยกกระบองไม้ในมือเคาะไปที่ซีลูกกรง เป็นสัญญาณเตือนชายขี้เมาว่าอย่าได้ส่งเสียงน่ารำคาญ“เห้ย!! ได้ยังไงวะ รังแกคนจนๆ ได้ไง ฉันไม่ยอม”“แกยอมหรือไม่ยอม แกก็ต้องติดคุก ถึงจะไม่ได้ลงมือทำจริงๆ แต่แกส่อเจตนาร้าย เขามีหลักฐานและพยานพร้อม ไม่มีทางดิ้นอยู่แล้ว อย่างมากก็นอนคุกสัก4 -5 ปี”“โฮๆ...” เมื่อรู้ความจริงว่าแค่เพียงอารมณ์ชั่ววูบจะทำให้ตัวเองขาดอิสรภาพและจะต้อง
“คนอย่างอีวานเป็นไม้แก่ดัดยาก เขาควรถูกคนที่เหนือกว่าสั่งสอน ฉันคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ดีเชียวแหละ”“แต่...”“เอาเถอะอยากทำอะไรก็ตามใจ ฉันขอโทษที่ซ้ำเติมพ่อเธอ มันทนไม่ไหวจริงๆ”“ขอบคุณค่ะ”“อืม...ถ้าไม่ไหวยังไง มีอะไรที่ฉันช่วยได้ฉันก็อยากช่วยนะนีชา” หล่อนพ่นลมหายใจแรงๆ พระเจ้าไม่ยุติธรรมเลย คนดีๆ ตายจากแต่คนที่สมควรตายยังคงหยัดยืนอยู่ เธอรู้จักกับชมนาดดี ผู้หญิงน่าสงสารที่อยากมีชีวิตดีขึ้น จนต้องยอมแต่งงานกันคนในพื้นที่ เพื่อจะได้ทำมาหากินได้โดยไม่ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวส่งกลับภูมิลำเนาเดิม แต่เผอิญโชคร้าย ไปคว้าเอาอีวานมาเป็นสามี เขาออกลายทันทีที่แต่งงาน ผู้หญิงไทยคนนั้นจึงต้องก้มหน้าก้มตาหาเลี้ยงสามี และเจียดเงินส่วนหนึ่งส่งกลับไปให้คนทางบ้านเกิด สุขภาพทรุดโทรมลงทุกๆ วันเพราะต้องทำงานเพิ่มอีกเป็นเท่าตัวเพื่อให้มีเงินพอจะเจือจานคนทางบ้านและตัวเอง หล่อนเจ็บออดๆ แอดๆ และเสียชีวิตตอนที่ลูกสาวยังไม่โตเต็มที่ สองแม่ลูกที่เธอเห็นมาเกือบๆ ยี่สิบปี ช่างน่าสงสารและน่าเห็นใจ ผู้หญิงหวังพึ่งสามี และหวังว่าเขาจะทำให้ตัวเองมีการเป็นอยู่ดีขึ้น แต่สามีหรือพ่ออย่างอีวาน สมควรอย่างยิ่งที่จะถูกกำจัด เธอ
แสงอ่อนๆ ของพระอาทิตย์ยามเช้าแม้จะหม่นมัวเพราะก้อนเมฆบดบัง แต่มันก็สว่างพอจะเห็น ยัยเด็กนี่นัยน์ตาสวย ผิวแก้มอมสีชมพูระเรื่อ ขนตายาวเป็นแพเหมือนปีกผีเสื้อ รวมๆ แล้วก็หน้าตาดีไม่ใช่เล่น แต่...ที่สำคัญเธอทำให้เลือดลมเขาพุ่งพล่านและรู้สึกเป็นผู้ชนะกำลังกุมอำนาจล้นเหลืออยู่ในมือ“คนอย่างเธอจะมาทำอะไรให้ฉันได้ ฉันมีทุกอย่างเพียบพร้อม ไม่เคยต้องการอะไรจากคนอื่นๆ” ชายหนุ่มยกยิ้มหมิ่นๆ มุมปาก เขาหมุนตัวกลับเตรียมจะเดินหนี แม้จะติดใจหน้างดงามปานนางฟ้าของเจ้าหล่อนก็ตาม“ขอร้องเถอะค่ะ!! จะเอานีชาไปต้มยำทำแกงที่ไหนเมื่อไรก็ได้ ขอแค่คุณปล่อยแด๊ดนีชา” เสียงวิงวอนแหบพร่า เรือนกายสั่นระริกไม่ใช่เพราะความหนาวแต่เป็นเพราะกำลังร่ำไห้อย่างหนักที่ไหน? เมื่อไร ยังไงก็ได้รึ? ความจริงผู้หญิงที่อยู่รายรอบตัวของเขาก็มีไม่ใช่น้อย ไม่จำเป็นต้องมาคว้าผู้หญิงข้างทางขึ้นมาเป็นนางบำเรอนี่นะ แต่มันก็น่าสนใจไม่ใช่น้อยไม่ใช่รึ ผู้หญิงตรงหน้านี่ดูท่าจะยังสดสะอาด แม้จะดูสกปรกมอมแมมแต่หลังเปลื้องผ้าเก่าๆ ปอนๆ นั้นออก เธอคงงดงามไม่ใช่เล่น...“ตามมา... เข้าไปคุยข้างในดีกว่า ของนอกนี่มันหนาว อีกอย่างฉันยังไม่อยากเป็นข่าว” ช
บทที่3.หิมะกับผ้าห่ม“กลับมาแล้วโว้ย...นีชาอยู่ไหนลูก” อีวานเดินเข้าบ้าน เขาส่งเสียงโวยลั่น เขาทรุดนั่งบนเก้าอี้เก่าๆ ตัวหนึ่ง ส่งเสียงเรียกบุตรสาวเพราะจู่ๆ ก็ถูกปล่อยตัวออกมาจากที่คุมขังเงียบ...ไม่มีเสียงตอบกลับอีลูกเวรนั่นไปมุดหัวอยู่ที่ไหน? ทำไมไม่มาสนใจคอยดูแลเขาเลย...“อีเด็กเปรตนั่นหายหัวไปไหนวะ กูหิวเหล้าจะตายอยู่แล้ว” เขาก่นด่าออกมาเสียงแข็ง จะซื้อเหล้าเข้ามาเอง ในกระเป๋ากางเกงก็ไม่มีเศษเงินสักสตางค์ จึงจำใจซมซานกลับมาบ้าน แต่ก็ยังไม่ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการเสียที ร่างอวบท้วมเดินรื้อของภายในบ้านเพื่อค้นหาเศษสตางค์ไปหาซื้อเหล้ามาล้างปาก ไอ้เศรษฐีเจ้าของห้างจู่ๆ มันก็ใจดีขึ้นมา ไม่เอาเรื่องเอาราวที่เขาไปก่อไว้ ไอ้ตำรวจหน้าโง่ทั้งสถานีจึงปล่อยตัวเขากลับบ้าน...“เจอแล้วอีลูกเวรแอบซุกเงินไว้นี่เอง” ชายสูงวัยที่มัวเมาอยู่ในโลกน้ำเมาไม่สนใจความเหนื่อยยากของบุตรสาว นีรนาทสู้อุตส่าห์เก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ไว้ใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียน นอกเหนือที่จับจ่ายภายในบ้าน แต่ก็ยังถูกอีวานฉกเอาไปอยู่ดีเขาเปิดประตูบ้านเดินฝ่าความหนาวเย็นเพื่อไปร้านเหล้า...และจะกลับมานอนซุกตัวอยู่ในบ้านกินเหล้าเปรม