บทที่8.เจ็บแปลบๆบทที่8.เจ็บแปลบๆนีรนาทเปิดร้านเครปเล็กๆ ในตรอกไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า ‘เบนิคอฟ’ เธอยังเฝ้ามองแสงไฟเหนือยอดตึกเป็นประจำ แต่ไม่เคยเฉียดใกล้บริเวณเดิม เพราะการที่ร่างกายเปลี่ยนแปลง เธอกลัวว่าหากเขาคนนั้นจะพบเข้า ความลับต้องเป็นความลับไปตลอด ถึงจะรู้ดีว่าเขาไม่ต้องการเสี้ยวหนึ่งที่ทิ้งไว้ก็เถอะ เธอต่ำต้อยด้อยค่า ไม่อาจเผยอหน้าเทียบชั้นกับเขาได้... แม่ค้าสาวสวยขนาดตั้งครรภ์ใกล้คลอด ความงามและรอยยิ้มหวานๆ ยังคงมีแจกจ่ายให้ลูกค้าที่แวะเวียนมาอุดหนุนไม่หยุด “เครปสองอันจ้ะนีชา...วันนี้ยิ้มสวยเหมือนเดิมเลยนะ” ถึงแม่ค้าคนสวยจะตั้งครรภ์จวนจะคลอด ก็ยังมีหนุ่มๆ แวะมาขายขนมจีบไม่หยุดเพราะ...ทุกคนรู้ไงว่านีรนาทตั้งครรภ์แบบไร้สามี และไม่มีผู้ชายคนนั้นให้เกะกะนัยน์ตา “ค่ะ...” หญิงสาวยิ้มรับ เธอไม่เคยแพ้ท้องเลย มีแค่ช่วงแรกๆ ที่รู้ตัว หลังจาก ‘เขา’ มาพาตัวเธอไปวันนั้น พอกลับมาอาการต่างๆ ก็หายเป็นปลิดทิ้ง ร่างกายเธอแข็งแรงดี ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน นับว่าเป็นบุญของตัวเอง#เอื้อมไม่ถึงเธออยู่แสนไกล... ไกลห่างจากฉันเหลือเกิน ต่อให้ฉันเดินไกลแค่ไหนคงไป
มือเล็กๆ นั้นโบกไหวๆ ดิมิทรีขยับตัวหลบ เขาจ้องมองเด็กน้อยแต่ก็รู้สึกกลัวและขยาดกับความเปียกชื้นที่หยดแหมะๆ“ลูกใคร? ปล่อยมาแบบนี้ได้ยังไง แม่ไปไหนหะ” การ์ดของเขาคนหนึ่งฉวยอุ้มเด็กน้อยขึ้นมา ท่าทางมันทะมัดทะแมงคุ้นเคย เขามองไปรอบๆ ตัว เพื่อมองหามารดาของเด็ก เพราะป่านนี้เธอคงร้อนใจน่าดูเพราะลูกน้อยเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ปลายนิ้วชี้ยื่นไปแตะพวงแก้มยุ้ยๆ สัมผัสผิวเนียนใสด้วยหัวใจระทึก...หากมี ‘ลูก’ เป็นของตัวเอง ลูกของเขาจะน่ารักน่าชังแบบนี้ไหม?แม่เด็กวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหาเมื่อเห็นลูกสาวตัวเองอยู่ในอ้อมกอดคนแปลกหน้า เธอดูหวาดกลัวและเสียอกเสียใจ จนเขาเวทนา“ลูกดิฉันคะ กำลังตามหาเลย ขอบคุณนะคะ” เด็กน้อยโผเข้าหาเมื่อเห็นมารดาตัวเอง เจ้าเด็กหลงยิ้มแป้น ยกมือไม้เปะปะตามหน้าของคนเป็นแม่ดิมิทรีมองตามสองแม่ลูกตาระห้อย เขาแค่แตะตัวได้นิดหน่อยยังไม่ได้ทดลองอุ้มสักที เจ้าของเขาก็มาทวงคืนเสียแล้ว“นายเคยเลี้ยงเด็กเหรอ ท่าอุ้มดูคุ้นเคยน่าดู” ระหว่างทางที่กำลังเดินตรวจงานตามปรกติ ดิมิทรีเอ่ยปากถามการ์ดที่เดินตามมาติดๆ“ครับ ลูกชายผมสองขวบพอดีกำลังซนเลยครับ ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงจะเลี้ยงง่ายกว่าไม่ค
นัชชาวีเริงร่า เธอสนุกสุดๆ เมื่อ ‘คุณลุง’ พาเดินเที่ยวในห้างใหญ่ๆ ที่ตัวเองแอบชะเง้อมองมาแสนนาน ไม่เคยมีโอกาสได้มาเพราะมารดางานยุ่ง“มัมขายขนมค่ะ อร่อยที่สุดในสามโลกเลยค่ะ” มือป้อมๆ โบกไหวๆ เธอยกยอมารดาให้ชายหนุ่มแปลกหน้าฟัง“ว่างๆ จะแวะไปชิมนะ ขี้โม้หรือเปล่าไม่รู้” ดิมิทรีสัพยอกเด็กหญิง เขายิ้มเมื่อหน้าที่ร่าเริงอยู่เมื่อสักครู่ หงิกงอลง“มัมสอนดีม่าห้ามโกหกค่ะ เพราะถ้าเป็นเด็กดื้อ เด็กพูดโกหกจะไม่มีใครรัก? เพราะฉะนั้นดีม่าพูดแต่ความจริงค่ะ มัมทำขนมอร่อย มีคนต่อแถวซื้อยาวเป็นวาเลยค่ะ” นัชชาวีพูดตามที่เห็นแต่ที่เธอไม่รู้คือ...ลูกค้าส่วนมากเป็นผู้ชาย และตั้งใจมาขายขนมจีบให้แม่ค้าคนสวย ถึงจะมีลูกติดแล้วหนึ่งคน แต่นีรนาทก็ยังงดงามสมวัย แถมยังขยันทำงานตัวเป็นเกลียว จนมีร้านเครปเล็กๆ เป็นของตัวเอง รอยยิ้มของนีรนาทเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากได้ และเธอก็ยิ้มไม่บ่อยนัก“ได้ ‘ลุง’ จะแวะไปชิม หากอร่อยจริงจะให้มาขายในนี้ เราจะได้เจอกันบ่อยๆ ดีไหม”“อย่าหลอกเด็กนะคะ...ให้มัมมาขายในนี้จริงเหรอคะ? ดีม่าชอบๆ ในนี้สวยแล้วก็มีของเล่นเยอะแยะด้วยค่ะ” นัชชาวียิ้ม เธอเบิกตาโตๆ รีบถามชายหนุ่มที่ยอมยกให้เป็น ‘ลุง
“ลุงๆ ปล่อยดีม่าค่ะถึงร้านมัมแล้ว ขอบคุณค่ะ บายๆ” ร่างอวบอ้วน ดิ้นขลุกขลัก เธอขอลงไปยืนบนพื้นเมื่อถึงร้านของมารดาตัวเอง“ได้ๆ ไม่ต้องวิ่งนะ เดี๋ยวหกล้มไปเจ็บตัวเปล่าๆ”“คร๊า...บายค่ะลุง ดีม่าไปล่ะ” เมื่อมาถึงที่ เด็กหญิงแทบจะไม่สนใจเขาเลย เธออยากจะไปหามารดาและรีบวิ่งหลุนๆ ตรงไปหา“มัม ดีม่าไปเที่ยวห้างฝังนู้นมา เก่งเปล่า”นีรนาทแทบจะทำไม้พายเกลี่ยแป้งทำเครปหลุดมือ ลูกสาวตัวน้อยวิ่งหลุนๆ ตรงมาหา ที่สำคัญเธอบอกว่าไปเที่ยวห้างสรรพสินค้าคนเดียว แถมกลับมาในเสื้อผ้าแปลกตา เธอมั่นใจว่านัชชาวีบุตรสาวไม่เคยมีชุดสวยๆ แบบนี้ใส่เมื่อเธอมั่นใจว่าชุดที่นัชชาวีใส่มันแพงจนเธอไม่กล้าจับ“ดีม่า...”“มัมจ๋า อย่าโกรธดีม่าเลยนะ ดีม่ากลับมาแล้วไง” รอยยิ้มปะเหลาะ กับดวงตาออดอ้อนทำให้นีรนาทโกรธไม่ลง แต่หากเธอยอมให้มันต้องมีครั้งต่อไปแน่ๆ“บอกคุณตาหรือเปล่าว่าลูกจะไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า” นีรนาทพยายามเลี่ยงที่จะเอ่ยชื่อห้างนั้น มันทำให้เธอเจ็บแปลบๆ ทุกครั้งที่นึกถึง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม“ตาจ๋าหลับอะ ดีม่าเลยกระซิบบอก แต่ดีม่าบอกนะคะ ไม่ได้ไปโดยไม่ขอ” เจ้าตัวแก้ตัวเสียงอ่อยๆ เมื่อรู้ดีว่าตัวเองทำผิดและอ
บทที่10 นัชชาวี ดีม่า หัวใจของนีรนาทหญิงสาวเปิดฉากฉะชายหนุ่มทันทีที่มั่นใจว่าประตูร้านปิดสนิทและคนในนั้นจะไม่ได้ยินเสียงโวยวายของเธอ...“ดีม่าเป็นลูกของนีชาค่ะ เรื่องมันผ่านมานานแล้วนะคะ ให้นีชากับลูกอยู่อย่างสงบต่อไปเถอะค่ะ อย่าให้ลูกที่เกิดกับนีชา ทำให้คุณและสังคมชั้นสูงของคุณต้องมัวหมองเลย นรกในกรงทองเป็นแบบไหน นีชารู้ดีค่ะ นีชาไม่อยากให้ดีม่าต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนั้นทุกวันค่ะ” แววตาใสซื่อของสาวใสในอดีตเปลี่ยนไป นี่คือสิ่งที่ดิมิทรีรับรู้ชีวิตแท้จริงของ ‘แม่ค้าสาวข้างทาง’ อย่างเธอไม่อาจเผยอหน้าไปยืนเคียงคู่หรือเป็นแม่ของลูกเขาได้ และสิ่งสุดท้ายที่เธอต้องทำ ก็คือปกปิดความลับนี้ไว้ไม่ให้มหาเศรษฐีหนุ่มโสดชื่อกระฉ่อนในวงสังคมอย่างเขาล่วงรู้ความจริง!!แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดิมิทรีต้องการก็คือ ‘ความจริง’ ว่า ‘เด็กผู้หญิง’ นัยน์ตาสีเขียวมรกตนั่น ‘คือลูก’ ของเขาที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนั้นแน่ๆ เขามั่นใจ ‘คำปฏิเสธ’ เขาไม่ต้องการ สิ่งที่ดิมิทรีต้องการคือ ‘การยอม’ และให้เขาเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถดูแลและปกป้องชีวิตเล็กๆ นั่นบ้างในความเป็นจริงดูเธอจะไม่เต็มใจอยากใจยอมรับสักนิด แต่เมื่อความเป็นจริ
“มัมคะ?”“No!! ไม่มีการร้องขอค่ะ วันนี้ดีม่าซนเกินกว่าที่มัมจะยกโทษให้ ยอมให้คนแปลกหน้าอุ้ม ยอมรับคนแปลกหน้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ ‘เรา’ ซึ่งมัมไม่ชอบ” เธอพูดกับบุตรสาวและพยายามโฟกัสเฉพาะดวงหน้าเล็กๆ ไม่เหลือบแลไปยังคนตัวใหญ่ที่ยืนอุ้มนัชชาวีไว้ในอ้อมแขน“ดีม่า... แต่แด๊ดจะไป แด๊ดจะไปดูการกินอยู่ของหนู ว่าเหมาะสมดีพอหรือเปล่า หนูเป็นลูกสาวแด๊ด แด๊ดมีสิทธิ์ แด๊ดไม่ใช่คนแปลกหน้าเหมือนที่ใครบางคนกล่าวหา” ผู้ชายเย็นชาคนหนึ่งกำลังส่งค้อนประหลับประเหลือกให้กับผู้หญิงสาวสวยตัวเล็กบาง มันเป็นสิ่งแปลกตาที่ทีมการ์ดไม่เคยพบเห็น พวกเขาทำหน้าตาแปลกๆ สลับกับมองเจ้านายทีและผู้หญิงสวยๆ นั่นที แต่เมื่อมองดวงหน้าเล็กๆ ในอ้อมแขนเจ้านาย ความคิดสับสนสว่างวาบ!! เมื่อเด็กน้อยคนนั้น คนที่พวกเขาพากันลงความเห็นว่าถอดเค้าโครงหน้ามาจากเจ้านายเกือบทุกกระเบียดนิ้ว ยกเว้นริมฝีปากอิ่มย้อยแค่นั้น หากใคร? บอกว่าเป็นพ่อลูกกันก็คงมีคนเชื่อโป๊ะเช๊ะ!! ใช่ไหม? ข่าวด่วนฮอตนิวส์เลยนะนั่น...เรื่องนี้ต้องถึงหูมาดามโรส!!ต่างคนต่างพยักเพยิด และมีหน่วยกล้าตายอาสาส่งข่าวไปยังคฤหาสน์เบนิคอฟ เพื่อแจ้งเรื่องสำคัญให้ประมุขของบ้านรับรู้
บทที่11.อีวาน โบรีสบ้านเก่าหลังเดิมแต่สภาพน่าอยู่กว่าเดิมเยอะ เพราะคนแก่ขี้เมาคนเก่าไม่มีเหลืออยู่แล้ว อีวานเป็นคนเลี้ยงนัชชาวีมากับมือ ตั้งแต่เด็กน้อยลืมตาดูโลก เขาเฝ้าถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูสองคนกับนีรนาท อีวานจึงเป็นที่รักอันดับสอง ของนัชชาวี เด็กหญิงที่เปรียบเหมือนเจ้าหญิงของ ครอบครัว ‘โบรีส’ “ตาจ๋า ดีม่ากลับมาแล้วค่า” เจ้าตัวแสบในอ้อมกอดดิมิทรี ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว ร้องเรียกคนในบ้าน อีวานวางหนังสือพิมพ์ในมือลง เขาขยับแว่นสายตาและถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ เผลอหลับไปแปบเดียว หลานสาวสุดรักหนีหายไปเสียแล้ว กำลังคิดจะออกไปตามหา นัชชาวีก็กลับมาถึงพอดี“ดีม่า...หนูต้องถูกลงโทษนะครั้งนี้ ตาไม่ยกโทษให้เราแล้ว เพราะครั้งนี้เราทำผิดข้อตกลง” อีวานพูดเสียงเข้ม และเมื่อประตูบ้านเปิดเข้ามา เขาตกใจแทบพลัดตกเก้าอี้ ‘คนคนนั้น’ เป็นคนอุ้มหลานสาวสุดรักเข้ามาในบ้าน มันเป็นโชค
“อืม...” อีวานผ่อนลมหายใจช้าๆ เขานึกเสียใจที่นัชชาวีฉลาดและรู้เกินเด็กวัยเดียวกัน เจ้าตัวแสบจับความรู้สึกคนรอบตัวเก่ง และมักใช้ให้เป็นประโยชน์เสมอๆหลังตัวแสบหายลับไปหลังบานประตูห้องๆ หนึ่งภายในบ้าน อีวานหมุนตัวกลับมาเขาจ้องมองดิมิทรีเป็นตาเดียว“คุณ!! ต้องการอะไร?” เขาโพล่งคำถามที่เป็นเป้าหมายอย่างไม่รอช้าดิมิทรีผ่อนลมหายใจช้าๆ ดวงตาสีเขียวมรกตนิ่งสนิท เขาประเมินสถานการณ์ตรงหน้า ดูเหมือนว่าเขายังไม่มีทางชนะ เพราะดูเหมือนว่าฝ่ายของอีวานจะใจแข็งและพร้อมที่จะชนหากเขาล้ำเส้น“ฉันขอโทษ ในเรื่องเก่าๆ และมันนานเกินกว่าจะรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ เรื่องของดีม่า...ฉันไม่รู้?...เลยไม่ได้ยื่นมือมาเกี่ยวด้วยตั้งแต่แรก แต่...เวลานี้ฉันรู้แล้ว และอยากจะมีส่วนร่วมกับการเลี้ยงดู คุณคิดว่าอย่างไรล่ะอีวาน!!”“เรื่องดีม่า...คงต้องรอนีชาเป็นคนตัดสิน เขาเป็นแม่และเป็นผู้ให้กำเนิด ดีม่าใช้นามสกุลของ ‘เรา’ มาตั้งแต่เกิด ไม่มีชื่อพ่อในทะเบียนราษฎร์ เพราะอะไร? คุณน่าจะรู้ดีน่ะ มิสเตอร์ ดิมิทรี เบนิคอฟ” อีวานเค้นเสียงตอ
“หากย้อนเวลาไปได้นะนีชา ผมจะตามหาคุณทันทีที่รู้ใจตัวเอง...แต่เป็นเพราะผมโง่เขลา จนเก็บความรู้สึกสับสนนั่นแอบซ่อนไว้ มันน่าเจ็บใจตัวเองนักที่ไม่กล้า” ชายหนุ่มโยกลำตัวช้าๆ ทำเหมือนกับกำลังกล่อมเด็กน้อยให้หลับในอ้อมกอดตัวเองเขาโอดครวญที่ตัวเองไม่กล้าแม้แต่จะก้าวออกจากกรอบที่ครอบเขาไว้“ไม่แปลกหรอกค่ะ...เราสองคนแตกต่างกันเกินไป อีกอย่างมันเป็นแค่ข้อแลกเปลี่ยน ที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย” ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยสาปเสื้อของชายหนุ่มเล่น เธอสูดลมหายใจลึกๆ เมื่อคิดถึงช่วงเวลาแสนเศร้าที่ผ่านเลยไปแล้ว“มันน่าตลกนะ...ผมติดกับตัวเอง ตกหลุมรักคนที่ตัวเองเหยียดหยาม...ผมดูถูกว่านีชาต้อยต่ำ แต่ผมกลับติดใจนีชาจนอยากจะกลืนน้ำลายตัวเอง” ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ เมื่อนึกถึงความหลัง“คุณใจร้ายและใจดำมากค่ะ ตอนนั้นนีชาเกลียดคุณแทบตาย...” เธอกดปลายเล็บกับผิวเนื้อแน่นตึงเพราะความหมั่นไส้สุดขีด“หึๆ ผมยังเกลียดตัวเองเลย ไม่แปลกที่นีชาจะเกลียดผม...คนอะไรเห็นผู้หญิงเป็นแค่สิ่งฉาบฉวย...ดูถูกเพศแม่ของตัวเอง เห็นพวกหล่อนเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์.
บทที่21.จอมมารสิ้นลาย3 เดือนแล้วสินะที่เขาใช้ชีวิตคู่กับผู้หญิงหนึ่งเดียวในชีวิต นีรนาท เบนิคอฟ ดิมิทรีไม่นึกเสียใจเลยที่เขาตัดสินใจประกาศแต่งงานกับเธอ เป็นการปิดฉากชีวิตโสด แบบสมบูรณ์แบบแถมตอนนี้ นีรนาทกำลังตั้งครรภ์ครั้งใหม่ คนที่เห่อสุดๆ กลับไม่ใช่เขา กลับเป็นมาดามโรสต่างหาก นางเฝ้าดูแลและคอยหาของกินอร่อยๆ มาคอยบำรุงเธอ อาหารที่มีประโยชน์ นางสรรหามาให้ไม่เคยขาด และแวะเวียนมาคอยดูแล ถามไถ่ ทำประหนึ่งว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์เสียเองก็ไม่ปาน “มัมครับ ตั้งใจจะขุนนีชาเป็นแม่หมูหรือไงครับ ขนมาเยอะแยะเลย” “แกจะไปรู้อะไรไอ้ตัวแสบ ผู้หญิงตั้งท้องครั้งหนึ่งสูญเสียอะไรในร่างกายไปเท่าไร เพราะฉะนั้นต้องเสริมเข้าไปเยอะๆ จะได้แข็งแรงทั้งแม่และลูก!!” นางพูดเสียงกระเง้ากระงอด ค้อนประหลับประเหลือกให้กับลูกชาย
“เมื่อสิ้นวาสนา...ก็ต้องจากกันไป...รั้งอย่างไรก็ไม่อยู่ดังนั้น...ในตอนที่เรา...ยังไม่จากกัน เราได้กระทำดีต่อคนที่แวดล้อมเราแล้วหรือยัง...เพราะเมื่อหมด ‘สัญญากรรม’ แล้ว...ไม่ว่าเราจะมีเงินหรือมีอำนาจจนล้นฟ้า ก็ไม่สามารถเรียกร้องสิ่งที่ผ่านไปแล้วให้กลับคืนมาได้...และไม่รู้ว่าจะกี่ภพกี่ชาติ...ถึงจะได้เจอกันอีก ผู้หญิงสองคนที่ที่พวกคุณอยากรู้ คนหนึ่งเป็นภรรยาผม ส่วนอีกคนเป็นบุตรสาว ส่วนงานแต่งงานก็คงอีกไม่นานครับ... กำลังจัดเตรียมความพร้อมหลายๆ เรื่อง ในอดีตผมเป็นคนไม่ค่อยดีเท่าไร!! มันจึงไม่แปลกที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างผมกับภรรยา เธอเลยไม่เคยเปิดเผยเรื่อง ‘ลูก’ ให้ผมรู้ มันเป็นข้อผิดพลาดเดียวที่ตัวผมเองพยายามจะแก้ไขมาตลอด และนับเป็นความโชคดีที่เธอยอมให้ผมแก้ไขความผิดในอดีตนั่น มันเป็นเพราะความแตกต่างของการเป็นอยู่ และความไม่ชัดเจนของผมเอง ภรรยาผมเลยไม่มีความเชื่อมั่น อย่างที่รู้!! พิคเจอร์ผมมันเป็นผู้ชายเสเพลไม่น่าชื่อถือนี่ ใช่ไหม?” ดิมิทรีพูดยิ้มๆ เขาเลิกปลายคิ้วขึ้นและเอ่ยปากถามความเห็นทุกๆ คนที่กำลังตังใจฟัง พอสิ้นเสียงของเขาเสียงฮือฮาก็ดั
บทที่20.ปิดตำนานหญิงต้อยต่ำกับชายสูงศักดิ์ข่าวก็อตซิปเริ่มมีการลงรูปมาดามโรสผู้สูงศักดิ์ กับเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักแบบที่ย่อส่วนมาดามโรสไว้ได้อย่างเหมาะเจาะลงตัว การเดินเที่ยวในห้างสรรพสินค้าของตัวเอง พร้อมทั้งจับจ่ายของใช้ ของเล่นเด็ก และเสื้อผ้าเด็กผู้หญิงอีกเป็นจำนวนมาก เป็นการเดินซื้อของแบบที่ยาวนาน และสร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกๆ ที่ได้เห็นและพบเจอ เมื่อสรรพนามที่เด็กหญิงใช้เรียกมาดามโรสคือ ‘คุณย่า’ แถมมาดามโรสไม่ปฏิเสธ หากใครก็ตามถามถึงเด็กหญิง ว่าเป็นอะไรกับตัวเอง เด็กผู้หญิงที่หน้าตาน่ารัก ประหนึ่งตุ๊กตาตัวน้อย ผมยาวสลวยสีน้ำตาลไหม้ ดวงตาสีมรกตเธอเป็นใคร? กัน นั่นคือสิ่งที่ทุกๆ คนอยากรู้ ในเมื่อมีข่าวเล็ดรอดออกมาถึงการรวมตระกูลของ ‘คเซนเนีย’ กับ ‘เบนิคอฟ’ แต่มาเงียบหายไปช่วงสองอาทิตย์หลังๆ ดูเหมือนว่ามาดามโรสจะนิ่ง นางไม่ได้กระตือรือร้นที่จะให้ข่าวเหมือนเคย
“ชะอุ้ย!! ลืมได้ยังไงนะ ดีม่ากำลังหิ๊วหิวนี่นา” นัชชาวีคลานต้วมเตี้ยมขึ้นจากอ่างน้ำ ตัวอ้วนกลมวิ่งตุ๊บตับใส่ผ้าเช็ดตัว ที่มาดามโรสกางรออยู่ เด็กหญิงซุกตัวในผืนผ้า ยกมือขึ้นโอบกอดผู้สูงวัยกว่า และส่งยิ้มแป้น จนหัวใจแข็งๆ ยังอ่อนยวบ...“ไปเถอะ ป่านนี้เอมิเรียน่าจะเตรียมชุดสวยๆ ไว้รอแล้วล่ะ เราจะได้ออกไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันไง” นางอยากจะช้อนอุ้มเจ้าตัวกลมเหลือเกิน แต่ว่าดูแล้วจะไม่ไหวกับน้ำหนักตัว เพราะนัชชาวีตัวกลมป้อม เนื้อแน่นตึบเพราะเจ้าตัวชอบกินทุกอย่าง นางจึงได้แต่จับมือป้อมๆ และจูงออกไปด้านนอกแทนเอมิเรียคลี่ยิ้มอ่อนๆ เธอน้ำตาคลอเมื่อได้เห็นภาพสองย่าหลาน ภาพที่เจ้าคิดว่าคงไม่ได้เห็น เพราะดิมิทรีทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัย ดีแต่ลอยไปแล้วก็ลอยมา ไม่มีคนรู้ใจ และยังหาคนเคียงกายไม่ได้ แถมช่วงหลังๆ ยังเก็บตัวเงียบ เคร่งขรึม พึ่งจะมารู้สาเหตุเอาก็อีตอนเห็นคุณหนูตัวน้อยๆ นี่เอง คงแอบไปมีความสัมพันธ์กัน จนก่อเกิดเลือดเนื้อเชื้อไข แต่เป็นเพราะสาเหตุอะไรก็ไม่รู้ ทำให้พลัดพรากกันไป แต่สวรรค์คงเมตตาเลยส่งให้คนทั้งคู่กลับมาพบเจอกัน และทำให้หัวใจคนแก่ๆ ชุ่มชื่นขึ้
บทที่19.ดีม่าจะรักใครดี!! นัชชาวีนั่งหน้าม่อย เธอเท้าสองมือใต้คางและเหม่อมองทุ่งหญ้าด้วยสายตาสุดเซ็ง...จะอะไรเสียอีก ประตูห้องนอนตัวเองแท้ๆ ปิดเงียบสนิท เพราะถูกล็อกจากภายใน นั่งรอตั้งแต่เช้ายันจะสายโด่ง บิดามารดาก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเสียที จึงลากตุ๊กตากระต่ายเพื่อนรัก หิ้วห้อยล่องแล่งลงมาจากชั้นบน มานั่งจุ่มปุ๊กอยู่ตรงบริเวณสวนดอกไม้ ที่นั่งคุยกับมาดามโรสเมื่อวานเพื่อจะหาเพื่อนคุยแก้เหงา หน้ากลมๆ หงิกงอ น้ำก็ยังไม่ได้อาบ เสื้อผ้าก็ยังไม่ได้เปลี่ยน ยังอยู่ในชุดนอนตัวเก่า ที่ใส่ตั้งแต่เมื่อคืน เพราะเข้าห้องตัวเองไม่ได้!! “แด๊ดนะแด๊ด...นอนตื่นสายโด่ง...ดีม่าคันตัวไปหมด อยากอาบน้ำแล้วค่ะ” เด็กหญิงบ่นพึมพำ ริมฝีปากยื่นบิดไปบิดมา “หนูมิ้น...คันไหม?” เสียงคุยกระจุ๋งกระจิ๋งกับตุ๊กตาตัวโปรด ช่วยให้ลืมๆ เรื่องที่ตัวเองกำลังหงุดหง
“ผมว่าคนที่ปรับตัวไม่ได้ น่าจะเป็นนีชามากกว่านะครับ อย่าพยายามหนีผมเลย เราน่าจะทำความรู้จักกันให้มากกว่าเดิม” ชายหนุ่มเอื้อมจับข้อมือเรียวบางไว้ เขาพูดช้าๆ แต่แววตาพราวระยับจนหัวอกหัวใจของนีรนาทสั่นไหว“เราสองคนไม่มีอะไรต้องปรับต้องจูนเข้าหากันค่ะ เราเป็นคนแปลกหน้าที่แค่มี ‘ลูก’ ด้วยกันแค่นั้น อย่าดึงนีชาไปเกี่ยวข้องกับคุณ ปล่อยเราสองแม่ลูกไปตามทางของเราเถอะค่ะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงอ่อนๆ เธอรู้ดีว่าความหวังมันเป็นความทรมานอย่างหนึ่ง เมื่อมีหวังและอยากคว้ามาครอง แต่ในความเป็นจริงมันสูงสุดเอื้อมมือคว้า เพราะเขาลอยอยู่บนฟ้า ในขณะที่ตัวเองลอยเรี่ยๆ ติดพื้นดิน“คนแปลกหน้าที่มี ‘ลูก’ ด้วยกัน ก็แสดงว่าครั้งหนึ่งเราสองคนไม่ได้เป็นคนแปลกหน้ากันนี่ครับ เราชิดใกล้และแนบสนิท และหากผมต้องการแบบนั้นอีกครั้งเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเราในแน่นเฟ้นขึ้น ดีไหมครับ?” เป็นคำถามที่ดิมิทรีไม่ต้องการรอคำตอบเขาปฏิบัติการจู่โจมเพื่อกระชับพื้นที่ ร่างใหญ่หนาพลิกตัวกลับจากท่าทางเดิม คือนอนแผ่กลางเตียงมาคร่อมร่างบอบบางเอาไว้ เธอพยายามผลัก
มาดามโรสรีบชักมือกลับ เชิดปลายคางขึ้น เสยกแก้วชาที่ทิ้งไว้ขึ้นมาจิบแก้อาการขัดเขิน...“ที่นี่ใหญ่กว่าบ้านเก่าของดีม่านับสิบเท่าค่ะ ดีม่ามาอยู่เกือบหนึ่งอาทิตย์แล้ว ยังวิ่งไม่ทั่วบ้านเลยค่ะ” จอมแสบพูดแจ้วๆ ถึงจะไม่ได้รับความสนใจจากหญิงสูงวัยแต่เจ้าตัวสนใจที่ไหนยังพูดคุยไม่หยุด สลับกับกัดขนมในมือกินเพลินๆ“ชอบสินะ...”“ค่ะ...ชอบมากกกกกก คุณย่าเหงาไหมคะ ถ้าเหงาดีม่าจะมาอยู่เป็นเพื่อนบ่อยๆ”“เห็นแก่กินล่ะสิ...ถ้าฉันไม่มีของกินจะมาหาไหมล่ะ” นางปล่อยตัวตามสบาย คลายอาการเกร็งไปเกือบครึ่ง“เปล่าค่ะ...แต่คุณย่าตาดุ๊ดุ!! ดีม่ากลัวค่ะ”“ถ้ากลัว แล้ววันนี้ทำไมถึงกล้าล่ะ”“แหะๆ ดีม่าหิวค่ะ ขนมก็ห๊อมหอมมมม”“เห็นไหมล่ะ เรานะเห็นแก่กิน ตัวบวมๆ เดี๋ยวโตไปไม่สวยนะรู้ไหม?”“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่สวยก็อยู่กับคุณย่าไงค่ะ อยู่นานนนนนนน” เด็กหญิงฉีกยิ้ม กางมือกว้างๆ อธิบายช่วงเวลาประกอบคำพูดตัวเองมาดามโรสคลี่ยิ้มอ่อนๆ เจ้าตัวเล็กนี่ชั
บริเวณสวนหย่อมร่มรื่น เนื่องจากเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ อากาศเริ่มอุ่นขึ้นและดอกไม้ใบหญ้าเริ่มผลิดอกออกใบ ดอกไม้เบ่งบานส่งกลิ่นหอมรวยริน สายลมเย็นๆ พัดโชย ช่วงเวลาบ่ายคล้อยจึงไม่ร้อนมากนักกลิ่นขนมอบลอยฟุ้งผสมกับกลิ่นน้ำชาหอมๆ จนแม้แต่เด็กน้อยที่วิ่งเล่นอยู่ไกลๆ ยังได้กลิ่น นัชชาวีทำจมูกฟุดฟิต เจ้าหล่อนสูดกลิ่นหอมๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศและเริ่มชักชวนลูกสมุนเดินตามหาต้นตอของกลิ่นหอมๆ นั้น ท้องเล็กๆ ร้องโครกคราก น้ำย่อยเริ่มทำงานจนน้ำลายในปากไหลย้อย“หอมขนมเนอะ ป้าแม่ครัวทำอะไรให้ทานเนอะวันนี้ ไปดูกันเร็ว!!” ร่างกลมป้อมออกวิ่งเหยาะๆ ตามกลิ่นขนมที่เจ้าตัวชื่นชอบ จนถึงสวนหย่อมด้านข้างที่มีเก้าอี้เหล็กสวยๆ ตั้งไว้นั่งพักผ่อน“ชะอุ้ย!!” ริมฝีปากสีสดแบะออก และรีบถอยหลังกรูดๆ เมื่อเห็นคนที่น่ากลัวอยู่ตรงนั้น สายตาของ ‘คุณย่า’ มองเธอแบบเฉยชา จนขยาดที่จะเข้าใกล้ แต่ว่า...ถาดขนมนั้นน่าสนใจ!! ทำไงดีนะดีม่า ทำยังไงจะได้ชิมขนมในถาดนั้นโดยไม่ถูกคุณย่าดุ...จอมเจ้าเล่ห์เร่งคิดหาทางแบบเร่งด่วน ดวงตาสุกใสมองขนมสีสวยในถาดตาเป็นมัน!!มาดามโรสยกแก้วชา