บทที่3.หิมะกับผ้าห่ม
“กลับมาแล้วโว้ย...นีชาอยู่ไหนลูก” อีวานเดินเข้าบ้าน เขาส่งเสียงโวยลั่น เขาทรุดนั่งบนเก้าอี้เก่าๆ ตัวหนึ่ง ส่งเสียงเรียกบุตรสาวเพราะจู่ๆ ก็ถูกปล่อยตัวออกมาจากที่คุมขัง
เงียบ...
ไม่มีเสียงตอบกลับอีลูกเวรนั่นไปมุดหัวอยู่ที่ไหน? ทำไมไม่มาสนใจคอยดูแลเขาเลย...
“อีเด็กเปรตนั่นหายหัวไปไหนวะ กูหิวเหล้าจะตายอยู่แล้ว” เขาก่นด่าออกมาเสียงแข็ง จะซื้อเหล้าเข้ามาเอง ในกระเป๋ากางเกงก็ไม่มีเศษเงินสักสตางค์ จึงจำใจซมซานกลับมาบ้าน แต่ก็ยังไม่ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการเสียที ร่างอวบท้วมเดินรื้อของภายในบ้านเพื่อค้นหาเศษสตางค์ไปหาซื้อเหล้ามาล้างปาก ไอ้เศรษฐีเจ้าของห้างจู่ๆ มันก็ใจดีขึ้นมา ไม่เอาเรื่องเอาราวที่เขาไปก่อไว้ ไอ้ตำรวจหน้าโง่ทั้งสถานีจึงปล่อยตัวเขากลับบ้าน...
“เจอแล้วอีลูกเวรแอบซุกเงินไว้นี่เอง” ชายสูงวัยที่มัวเมาอยู่ในโลกน้ำเมาไม่สนใจความเหนื่อยยากของบุตรสาว นีรนาทสู้อุตส่าห์เก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ไว้ใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียน นอกเหนือที่จับจ่ายภายในบ้าน แต่ก็ยังถูกอีวานฉกเอาไปอยู่ดี
เขาเปิดประตูบ้านเดินฝ่าความหนาวเย็นเพื่อไปร้านเหล้า...และจะกลับมานอนซุกตัวอยู่ในบ้านกินเหล้าเปรมปรีดิ์เมื่อเงินที่เจอในห้องของนีรนาทมีมากเกินคาดถึง...
“โธ่!! นีชา...นึกว่าจะสบายเสียที ไอ้เวรอีวานกลับมาเสียแล้ว ใครนะปล่อยคนชั่วๆ แบบมันกลับมาได้” เพื่อนบ้านมองฝ่าความมืดเขาเห็นอีวานเดินท่อมๆ ออกไป เขาจึงบ่นพึมพำต่อว่าโชคชะตาที่ไม่เข้าข้างผู้หญิงน่าเห็นใจคนนั้น
“นีชาหนูไม่กลับบ้านหรือ?” สาวใหญ่เจ้าของร้านขายขนมเห็นหญิงสาวเหม่อลอย เธอจึงร้องทักจนคนตัวเล็กๆ สะดุ้งสุดตัว หญิงสาวหันมาและส่งยิ้มแหยๆ ให้
“แหะๆ ลืมค่ะ นีชามาสายวันนี้ ก็เลยอยากจะทำเกินเวลาให้มิส...จะได้ไม่ขาดทุน”
“พุทโธ่!! ช่างมันเถอะ ไปๆ กลับบ้านพักผ่อนได้แล้ว ปล่อยอีวานไว้แบบนั้นละฉันเห็นด้วย จะได้ดัดนิสัยมันเสียบ้าง” เธอโบกมือไล่ และสำทับเสียงเคร่งๆ ใจนะอยากให้เจ้าหน้าที่ขังลืมอีวานไปเลยด้วยซ้ำ หญิงสาวตรงหน้าจะได้สบายอกสบายใจเสียบ้าง
“ไม่หรอกค่ะ คุณดิมิททรีเขาสัญญาว่าจะไม่เอาเรื่อง” เธอแย้งเสียงแผ่วก่อนจะรีบก้มหน้าหลบสายตาของคุณป้าเจ้าของร้าน
“อะไรนะ? เธอไปเจอเขามารึนีชา...คุณพระ!!”
“ค่ะ...” เธอพยักหน้ารับหงอยๆ
“โอ!! ฉันไม่อยากคิดเลยว่าเธอต้องเสียอะไรบ้าง ทำไมต้องเอาตัวเองไปแลกกับคนชั่วอย่างไอ้แก่ขี้เมานั่น” เธอรู้กิจติศัพท์ของดิมิทรี เบนิคอฟ ดี เขาเป็นนักล่าและเป็นพญาหมีขาวผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีคำว่า ‘เมตตา’
“ช่างมันเถอะค่ะ ไม่ใช่สิ่งสำคัญ” เสียงอ่อนๆ เอ่ยแย้ง แม้ในหัวใจจะชุ่มโชกไปด้วยน้ำตา
“นีชา...เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงแบบนั้น พ่อเธอเขาไม่เห็นคุณค่าหรอก มันก็ตีปีกสบายแฮไปสิ ที่ไม่ต้องติดคุกเพราะความสนุกของตัวเอง แต่กลับทำให้เธอลำบาก”
“ไม่เลยค่ะมิส นีชาเต็มใจ คุณดิมิทรีไม่ได้น่ากลัวเหมือนกับข่าวลือหรอกค่ะ”
“ฉันคงไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของเธอได้ใช่ไหม? นีชา ก็ได้แต่อวยพรเธอนั่นแหละ โชคดีแล้วกัน” สาวใหญ่ถอนหายใจจนหน้าอกอวบๆ ของเธอกระเพื่อม ดวงตาอ่อนโยนทอดมองนีรนาท เธอเห็นใจและสงสาร แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก เมื่อมันเป็นปัญหาภายในครอบครัวของหล่อนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคนนอก
“นีชากลับก่อนนะคะ ป่านนี้แด๊ดน่าจะถึงบ้านแล้ว”
“หืม...เขาปล่อยตัวเลยเหรอ ไวจริง” เธอกดมุมปากยิ้มแหยๆ ยิ่งเร็วผู้ชายคนนั้นก็ยิ่งได้รับผลตอบแทน ที่เธอต้องใช้เวลาทำใจพอสมควร ความอดสูกำลังจะตราบนร่างกาย และมันจะฝังแน่นอยู่ในหัวใจของเธอจนสิ้นลมหายใจ...ไม่อาจลบเลือนได้เลย
“ระวังตัวด้วยนะ แล้วไอ้เสื้อโค๊ทตัวนี้ทิ้งได้หรือยังล่ะ เจียดเงินมาซื้อใหม่เถอะนีชา มันเก่าแล้วก็เปื่อย อย่าประหยัดนักเลย ใช้เงินเพื่อตัวเองบางนะ...”
เธอได้แต่ยิ้มรับ ถึงมันจะเก่าแต่มันก็ยังใช้ได้ดี ถึงมันจะถูกใช้งานมานานปี แต่เธอก็รักษาความสะอาด ไม่ได้สกปรกอย่างที่ผู้ชายคนนั้นมองเหยียดๆ ทุกครั้งที่เจอกัน หญิงสาวยิ้มอ่อนๆ แต่ก็ไม่ได้แย้งหรือคัดค้าน เธอเสียดายสตางค์ที่จะต้องใช้จ่ายไปกับสิ่งฟุ่มเฟือย ทั้งๆ ที่มีของพอใช้ได้อยู่
เหมือนเดิมทุกๆ วันที่นีรนาทจะต้องเดินไปนั่งดูแสงไฟเหนือยอดตึกห้างสรรพสินค้า มันเป็นความเคยชินไม่ว่าจะดึกดื่นเพียงไหน หรืออากาศจะหนาวจับใจ เธอชอบมองแสงไฟหลากสี ที่ประดับประดาไว้อย่างสวยงาม มันเป็นแสงสว่างในคืนอันมืดมิดและหนาวเหน็บ แต่มันเป็นกำลังใจให้คนไร้หนทางได้ก้าวต่อไปเมื่อยังมีแสงสว่างนำทาง แม้จะไม่ใช่ของตัวเองโดยตรง
“มิส!! พวกเราตามหามิสอยู่ คุณดิมิทรีให้มารับตามข้อตกลงครับ” รถยนต์สีดำสนิท จอดเทียบทางเท้า กลุ่มชายฉกรรจ์3 นาย เดินลงมาและเอ่ยปากพูดกับเธอโดยตรง
นีรนาทแค่นยิ้ม เธอค่อยๆ พ่นลมหายใจออกมาช้าๆ ประตูนรกเปิดอ้า รอให้เธอเดินเข้าไปแล้วใช่ไหม? เกล็ดหิมะบางๆ โปรยหล่นมาจากฝากฟ้าเหมือนกับหัวใจของเธอในเวลานี้ ที่หนาวเหน็บและเย็นเฉียบ ถึงเวลาที่เธอต้องชดใช้ตอบแทนความเมตตา!! ที่ผู้ชายคนนั้นหยิบยื่นให้ ยอมก้มหน้าเดินเข้าไปในนรก และถูกจองจำด้วยความอดสู จากนี้และตลอดชีวิต...
“ค่ะ” เธอรับคำเสียงเย็นยะเยือก จบๆ ไปก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้ไม่ต้องมาคอยระแวง ว่าตัวเองจะต้องถูกปู้ยี่ปู้ยำแบบไหน? เมื่อไร?
กลุ่มคนเดินนำหน้า เขาเปิดประตูรถยนต์ให้นีรนาทก้าวขึ้นไปนั่งตอนหลังตัวรถ เธอซุกตัวนั่งกับเบาะนุ่มนิ่ม ความโอ่อ่าของรถยนต์ที่ไม่คุ้นชิน เพราะความอัตคัดของตัวเอง หัวใจสั่นกราวเหมือนกระดิ่งน้อยๆ ยามต้องสายลมแรง มันสั่นไหวและปลิดปลิว ส่งเสียงสะท้อนก้อง ดังกรุ๊งกริ๊งยาวๆ
เม็ดเหงื่อไหลซึมเต็มหน้าผากโหนกนูน แม้อากาศจะเย็นเฉียบแต่นีรนาทกลับรู้สึกว่าตัวเองร้อนวูบวาบเพราะความหวาดกลัว
“ใจเย็นๆ นีชา ไม่ต้องกลัว ไม่ถึงตายหรอกแค่เสียตัวเอง” เธอกล่าวปลอบใจตัวเอง เป็นคำพูดหยามหยันที่ได้ยินได้ฟังยังเจ็บจี๊ดๆแปลก!! รถยนต์จอดสนิทหน้าตึกสูงระฟ้า ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า ‘เบนิคอฟมอลล์’ เท่าไร เธอแหงนมองตัวตึกสูงระฟ้า เกล็ดหิมะล่วงหล่นใสหน้าจนรู้สึกเย็นจับขั้วหัวใจ“เชิญครับมิส!! ทางนี้ครับ” ชายชุดดำที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม เขาผายมือบอกทางให้กับนีรนาท แล้วจึงเดินนำหน้า สายตาหลายคู่เหลือบมองผู้หญิงคนหนึ่งที่การแต่งตัวขัดกับสถานที่ เสื้อเก่าๆ ปอนๆ การแต่งกายที่ไม่เหมาะกับสถานที่โอ่อ่าและมันทำให้นีรนาทรู้สึกอาย หน้าเธอร้อนฉ่าด้วยความอายสุดขีดประตูลิฟต์ปิดลง ช่วยให้เธอหายใจหายคอสะดวกขึ้น เธอเหม่อมองทิวทัศน์ผ่านกระจกใส ที่เคลื่อนที่ขึ้นไปยังจุดหมาย ทุกอย่างรอบตัวมีแต่ความเงียบและความเงียบ ผู้ชายที่นำเธอมาเหมือนหุ่นยนต์มากกว่าคนมีชีวิต เขาทำงานตามคำสั่งมหาอำนาจด้วยความแข็งขัน หน้าเย็นชาและไร้จิตใจแบบสิ้นเชิง“มิสต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและทำความสะอาดร่างกายก่อนครับ ผมเตรียมทุกอย่างไว้ในห้อง มิสมีเวลา สามสิบนาที ก่อนที่ท่านจะมาถึง”นีรนาทฟังเงียบๆ เธอไม่ได้แย้งหรือทักท้วง หลังพูดจบ
“ปะ... ปล่อยค่ะ...เอ่อ...นีชายังไม่เคยแต่ปล่อยนีชาก่อนได้ไหมคะ...นะคะ ให้เวลานีชาทำใจบ้าง...”“หึ หึ ฉันให้เวลาเธอมาทั้งวันแล้วเด็กน้อย ฉันคิดว่าเธอน่าจะพอทำใจได้บ้างแล้วนะ”“ค่ะ...เอ่อ นีชายอมคุณทุกอย่างอยู่แล้วค่ะ แค่ขอเวลาเพื่อทำใจบ้างเท่านั้นเอง”“แน่ใจเหรอเด็กน้อย ว่าเธอต้องทำใจ!!”ดิมิทรีชะโงกเข้าไปถามใกล้ๆ ใกล้เสียจนลมหายใจร้อนๆ ของเขาเป่ารดปลายจมูกเชิดโด่ง อยู่ๆ ในช่องท้องหญิงสาวก็ปั่นป่วน มันปวดมวนจนต้องรีบเบี่ยงหน้าหนี หน้าหวานแดงก่ำร้อนฉ่าและผิวแก้มคงขึ้นสีจัดมารยาผู้หญิงดิมิทรีเห็นมามากมาย จนไม่คิดว่าจะมีมารยาแบบไหนที่เขาไม่เคยคุ้น แต่...สิ่งที่เห็นตรงหน้า เป็นความแปลกแตกต่างที่เคยเจอ ผู้หญิงคนนี้มีอะไรบางอย่างไม่เหมือนกับที่เขาเคยเจอเป็นประจำ เธอมีความหวั่นกลัว และขลาดเขลาอ่อนแอ แต่เธอก็ยังเชิดหน้าสู้ แม้ร่างกายจะสั่นระริกเพราะความกลัว มันทำให้หัวใจหนุ่มแน่นเต้นแรง เพราะรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า มันเหมือนกับว่าเขากำลังกำหนดชะตาชีวิตของใครคนหนึ่ง และมันหมายถึงชนะ!!ร่างสั่นระริกในอ้อมแขน กลิ่นสาปสาวส่งกลิ่นหอมยวนใจ จนหัวใจพญาหมีขาวแห่งขั้วโลกเหนือเต้นพล่าน...เขาจะอุทิศตัว
ปลายยอดสีสุกปลั่งถูกอุ้งปากร้อนชื้นอ้างับ เขาดูดซึมความหวานฉ่ำและนุ่มหยุ่นเต่งตึง ฝ่ามือร้อนๆ เคลื่อนที่เขาครอบครองเต่งเต้าข้างที่เหลือ เขาเคล้นคลึงด้วยความพอใจ บีบบี้เหมือนกำลังนวดคลึงแป้งทำขนม ที่แน่นหนึบติดฝ่ามือแต่นุ่มเนียนละมุน ความรู้สึกหวามไหวไหลปร่าแผ่กระจายทั่วทุกตารางนิ้วของผิวกาย นีรนาทเกือบหลุดเสียงครางแปลกๆ น่าอายหลายต่อหลายครั้ง เมื่อรู้สึกสยิวซาบซ่านยามที่ถูกโลมลูบตามเนื้อตามตัว ทั้งๆ ที่ตั้งใจมั่นว่าจะไม่คล้อยตาม เขาอยากทำอะไรก็ปล่อยตามใจโดยที่เธอจะเฉยชาเป็นการสนองตอบ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ร่างกายของเธอแทบจะลุกเป็นไฟ ยามเมื่อถูกฝ่ามือใหญ่ๆ ลูบไล้สัมผัส ให้ตายเถอะ!! เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะถูกปลุกง่ายดายได้ถึงเพียงนี้ กระแสไฟอ่อนๆ วิ่งพล่านทั่วทั้งตัวมันจุดประกายบางอย่างที่เธอไม่เคยรู้ และมันกำลังทำให้เธออยากรู้สิ่งต่อไปที่กำลังจะมาถึง!!ชายหนุ่มสัมผัสความเต็มตึงด้วยความพึงใจ ยิ่งลูบไล้ยิ่งสัมผัส ทุกสิ่งอย่างล้วนถูกใจ จึงเดินหน้าเต็มกำลัง...เสียงคราวผะแผ่ว ดังรอดออกมาจากกลีบปากที่เม้มแน่น ตั้งแต่ความซ่านเสียวสาดใส่จนคนใจแข็งก็ยังลืมตน ดิมิทรียกยิ้มมุมปาก เขาพรมจุมพิตหนัก
บทที่4.เปลวไฟพิศวาสมือแข็งแรงยกชายชุดเดรสสีขาวขึ้นจรดปลายจมูก หลุบเปลือกตาลง แล้วสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่โชยออกมาจากเสื้อตัวนั้นเข้าปอดลึกๆ กลิ่นหอมหวานนั้นปะปนแผ่วเบารวมกับกลิ่นน้ำหอมประจำตัวของเขานั่นเองแม้กลิ่นจะเบาบางเพราะนีรนาทสวมไว้ไม่นาน แต่ดิมิททรีกลับสัมผัสได้อย่างชัดเจน เพราะกลิ่นนี้ เขาเพิ่งซุกไซ้สูดดมแบบคลั่งไคล้ เมื่อสักครู่ที่ผ่านมานั่นเอง เสียงทุ้มครวญครางเรียกหาเจ้าของกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ตราตรึงใจนั้นแผ่วเบาทว่าอ่อนหวานยิ่งนัก“นีชา...”ชายหนุ่มสะดุ้งโหย่ง!! เขารีบเหวี่ยงชุดเดรสในมือทิ้งไป สายตาคมกวาดมองรอบห้องที่เงียบผิดปรกติ หลังจากใช้เวลาทำใจพักใหญ่ในห้องน้ำเกือบสิบนาที“ไปไหนนะ?” ดิมิทรีรำพึงแผ่วๆ แต่ก็ไม่หยุดมองหาเจ้าของกลิ่นที่ทำให้เขาว้าวุ้นใจ เมื่อแม้แต่การป้องกันตัว ยังลืม!!ดิมิทรีเดินหาเจ้าหล่อนทั่วห้อง ไม่เห็นแม้แต่เงา? และตอนนี้เขากำลังโกรธจัด!! รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีความหมาย ถูกผู้หญิงทิ้งไปแบบไม่ให้ตั้งตัว ที่สำคัญเขายังไม่อิ่ม!! แต่ตกใจตัวเอง เลยขอถอยไปตั้งหลักก่อน...“พวกแกปล่อยเธอไปงั้นเหรอ!! ใครสั่งวะ?” อารมณ์เดือดพล่านวิ่งตามกระแสเลือดและมันเป็นครั้งแรก
“คุณดิมิทรีฝากมาให้...ผมเป็นคนของเขา” นีรนาทเกือบทิ้งกระดาษชิ้นนั้นไปแล้ว เพราะเธอคิดว่าหนุ่มๆ พวกนี้คงจะมาแนวเดียวกันคือการให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของเขามอบให้กับเธอ แต่มันผิดคาด เมื่อชื่อของคนๆ นั้นผ่านริมฝีปากหนาหยักนั่นมา...เธอแอบคลี่กระดาษเปิดอ่าน ถ้อยคำที่ผู้ชายร้ายกาจฝากมาถึง...มือสั่นระริก เมื่อตัวอักษรนั้นย้ำให้เธอรู้สึกด้อยค่า“ถ้าเกิดอะไรขึ้น ‘ฉัน’ จะไม่รับผิดชอบใดใดทั้งสิ้น เพราะฉันถือว่าจ่ายค่าตัวให้เธอแล้ว แต่เธอปฏิเสธเอง”มันเป็นสิ่งที่เธอกลัวเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไปเรียกร้องความรับผิดชอบจากเขานี่ เธอก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะมือสั่นระริกกำกระดาษจนเป็นก้อนกลมๆ ก่อนจะขว้างทิ้งด้วยความโกรธจัด!! เธอไม่เคยคิดจะสักนิด หากเกิดขึ้นจริงๆ เธอก็จะเลี้ยงดูเขาเองเมื่อเขาเป็นเลือดก้อนหนึ่งของเธอเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในชีวิตที่มีค่ากว่าที่ผู้ชายใจร้ายคนนั้นจะคาดถึงนีรนาทฝืนใจกลับไปทำงาน เธอปัดความรู้สึกกังวลทิ้งไป พยายามที่จะไม่ใส่ใจเมื่อสิ่งที่กลัวยังไม่เกิดขึ้นเสียหน่อย... เธอยังต้องกินต้องใช้ หากมัวแต่กลัวใครจะหาเงินค่าใช้จ่ายในบ้าน เมื่อบิดาไม่สามารถพึ่งได้เหมือนคนอื่นๆ
บทที่5.ทาสสาวฉ่ำหวาน‘ความร้อนรุ่มที่ได้รับจนแทบทะลักล้นอก กว่าจะรู้ตัว ผู้หญิงคนนั้นก็เขามาแอบอยู่ในซอกมุมหนึ่งของหัวใจเขา... รสสวาทหวานล้ำยังตราตรึงฝังแน่นอยู่ในใจ อยากจะกลับไปลิ้มรสหวานฉ่ำนั้นอีกครั้ง แต่หล่อนกลับเล่นตัว เธอยอมเพราะความจำใจ ไม่ได้เพราะความเสน่หา’ดิมิทรีกระวนกระวาย รสสวาทที่ได้รับเพียงครั้งเดียวยังตราตรึงใจ อยากชิมรสหวานหอมนั่นอีกครั้ง แต่ทำไม่ได้ มันทำให้เขากระสับกระส่าย วนเวียนหาที่ระบายออก แต่...ไม่เคยทำได้สำเร็จสักที เพราะไม่ว่าจะหาใครมาแทนที่นีรนาท เขาก็ไม่ได้รับรสชาติหวานล้ำแบบนั้นเลยสักครั้งหลังจากกระวนกระวายอยู่หลายวัน ดิมิทรียอมอาย!! เขาบัญชาการการ์ดส่วนตัวให้ไปเชื้อเชิญนีรนาทมาหาตัวเองอีกครั้ง และครั้งนี้ไม่อั้น หากหล่อนยังเล่นตัวเหมือนเดิม ค่าตัวแพงแสนแพงเขาสู้ไม่ถอย!!3 ชั่วโมงผ่านไป...ชายหนุ่มรุ่มร้อน เขานั่งไม่ติดเก้าอี้ เดินพล่านไป...พล่านมาเหมือนมีหนอนตัวเล็กๆ มาชอนไชอยู่ใต้ฝ่าเท้าก๊อกๆ...“เข้ามาสิวะ เคาะประตูทำห่าอะไร ชักช้าฉิบหาย!!” ยิ่งกำลังอารมณ์ไม่ดีบรรดาลูกน้องดันเสือกมีมารยาทเสียอีก“เป็นอะไรไปลูก หงุดหงิดเรื่องอะไรกันจ๊ะ เสียงเขียวเชียว”
“ครั้งนี้ฉันทุ่มไม่อั้น!! เธออยากได้เงินเท่าไรฉันไม่เกี่ยง ขออีกครั้งเดียวแก้อยาก...ฉันเปิดโอกาสให้เธอถลุงได้เต็มที่” ชายหนุ่มบีบข้อมือของนีรนาท เขาพูดช้าๆ พร้อมทั้งจ้องหน้าเธอแบบตาไม่กะพริบ“ขอบคุณสำหรับความหวังดี แต่...ไม่ขอรับไว้ค่ะ นีชายังไม่อดตายถึงขนาดต้องขายตัวกิน” เธอเชิดหน้าขึ้นเมื่อพูดจบ เมื่อไม่สามารถปลดพันธนาการที่ข้อมือได้ก็ต้องต่อสู้ด้วยสงครามความเงียบ แต่เป็นการคิดผิด!!เมื่อชายหนุ่มหน้ามืดไปเสียแล้ว กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยยั่วอยู่แค่ปลายจมูก ใส่พานมาถึงที่ไม่จัดการก็จะเสียเชิงชาย...ริมฝีปากหนาหยักฉกวูบ!! เขาทาบทับกลีบปากหวานหอมที่หมายตา แบบที่เจ้าตัวยังคาดไม่ถึง นีรนาทเบิกตากว้างเธอเบี่ยงหน้าหนีแต่ก็ไม่ทัน พยายามจะดิ้นให้หลุดพ้น แต่ดูเหมือนว่าเป็นการกระทำที่คิดผิด เมื่อการดิ้นก็เท่ากับการเพิ่มอารมณ์กลัดมันให้กับอีกฝ่ายเพราะร่างกายส่ายเบียดเสียดสีกันจนร้อนฉ่า ดิมิทรีหลงเพลิด จากแค่คิดจะสั่งสอนให้เธอหลาบจำ ตอนนี้ชายหนุ่มถลำลึก เขาจมดิ่งในห้วงเหวของเปลวไฟปรารถนา ที่ลุกกระพือลามเลียผิวกายจนร่างกายเขากระสันซ่านมือใหญ่วนเวียนลูบไล้ เขาทั้งจับทั้งคลำขยำขยี้ ฟ้อนเฟ้นผิวกายภายนอกเร
บทที่6.บทลงโทษของคนที่ฝ่าฝืนคำสั่งชายหนุ่มปรนเปรอเธอด้วยมือและลิ้น เขาจงใจปลุกกระแสเลือดของหล่อนให้ร้อนรุ่มจนลืมแม้แต่ความอาย“มันทรมานค่ะ นีชา...ไม่ไหวแล้ว ช่วยนีชาด้วยนะคะ” นีรนาทไม่รู้ตัวเอง...เธอเอ่ยปากขออะไรออกไป? เธอทราบเพียงแต่ว่าตอนนี้ เวลานี้เธอกำลังจะขาดใจตายอยู่แล้ว และต้องการความช่วยเหลือจากเขาอย่างเร่งด่วนที่สุด“จะให้ช่วยอย่างไรล่ะคนสวย ฉันพร้อมจะสนองให้เธอเต็มที่ แต่เธอต้องช่วยฉันด้วยเหมือนกัน ตกลงไหมล่ะ” ดิมิทรีพูดเสียงแหบปร่า กรีดปลายนิ้วยั่วหยอกกลีบดอกไม้ฉ่ำน้ำค้าง และสัมผัสลูบไล้บีบคลึงทั้งสองเต้าอย่างมันมือ ปลุกอารมณ์สวาทของคนตัวเล็กกว่าให้ลุกโชนยิ่งๆ ขึ้น“ค่ะ...ได้... ช่วยนีชาที นีชาไม่ไหวแล้ว” นีรนาทพยักหน้ารับ ด้วยความไร้ประสบการณ์ เธอกำลังพ่ายแพ้ต่อฤทธิ์มนตร์สวาทอย่างหมดรูป“ได้เลยคนสวย อยากให้ฉันเข้าไปในตัวเธออย่างนั้นสิ เธออยากให้ฉันปลดปล่อยความทรมานที่เกิดขึ้นนี่ถูกไหม ฉันเข้าใจแบบนี้ถูกไหมล่ะ” ดิมิทรีลากนิ้วชี้จากร่องอกไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ ผ่านลำคอที่เส้นชีพจรกำลังเต้นตุบๆ ก่อนไปหยุดที่กลีบปากที่บวมช้ำเพราะรสจูบที่เขามอบให้“ใช่ไหม? นีชา หากเธอไม่ตอบฉันจะหยุด