บทที่1.เด็กสาวไม้ขีดไฟ
สายตาแสนเศร้าแหงนมองยอดตึกสูงตระหง่าน ตึกใหญ่ที่เป็นห้างสรรพสินค้ากลางกรุงมอสโก เธอได้แต่มองและแอบฝัน สักวันหนึ่งเธอจะไปทำงานในที่แห่งนั้น ชีวิตความเป็นอยู่ของเธอจะได้ดีขึ้น ได้แต่งตัวสวยๆ แทนชุดเก่าเก็บที่เต็มไปด้วยคราบแป้งทำขนม นีรนาท โบรีส สาวลูกครึ่งที่น่าสงสาร มารดาเสียชีวิตเพราะไม่สามารถทนกับความเปลี่ยนแปลง ป่วยกระเสาะกระแสะจนสิ้นใจเมื่อเธออายุได้ 15 ปี ทิ้งให้หญิงสาวอยู่กับบิดาแท้ๆ นายอีวาน โบรีสที่แสนขี้เกียจ เอาเปรียบเมียและลูกกินแต่เหล้า โดยอ้างว่าเสียใจที่ภรรยาเสียชีวิต
หญิงสาวจึงเติบโตขึ้นมาอย่างอัตคัด เมื่อต้องเก็บออมเงินจากการรีดไถของบิดา ที่ทำงานเป็น รปภ. อยู่ที่ห้างสรรพสินค้า แต่ขาดงานเป็นประจำจนหัวหน้างานไล่ออกเพราะไม่อยากเก็บคนที่ขี้เกียจและสติไม่ค่อยเต็มร้อยมาทำงาน เพราะอาจสร้างปัญหาให้กับเขาและองค์กรก็เป็นได้...
อีวานจึงสาปส่ง ด่าทอเจ้าของห้างสรรพสินค้าเป็นประจำยามเขาเมามาย ทั้งๆ ที่ตัวเจ้าของเองก็ไม่รู้...
“นีชา...จะเอานี่กลับไปกินด้วยหรือเปล่า แป้งเหลือเยอะแยะเลย” เจ้าของร้านสาวใหญ่ใจดี เธอเมตตาและแอบมอบอาหารการกินให้เธอเป็นประจำ
“ขอบคุณค่ะมิส...เอาค่ะเอา” แม้ไม่อยากกินเลย แต่เธอมีค่าใช้จ่ายมากกว่าเงินเดือน อะไรที่ประหยัดได้เธอก็ประหยัดเมื่อการกินก็แค่เพื่อให้ท้องอิ่ม และมีแรงทำงานในวันต่อๆ ไป
นีรนาทเดินท่อมๆ กลางเกล็ดหิมะที่โปรยหล่น เธอแหงนหน้ามองดวงไฟนับหมื่นนับพันที่ประดับประดาเหนือยอดตึก แสงสว่างทอดยาวเป็นทางและมันสวยงามจับจิต หลังเลิกงานที่ร้านขายเครปเล็กๆ ในซอกซอยเยื้องๆ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เธอมักจะเดินฝ่าสายลมหนาวเพื่อมาดูแสงไฟสวยๆ ก่อนจะกลับไปซุกตัวนอนในบ้านหลังเล็กยิ่งกว่ารังหนู เมื่อทั้งเก่าและโทรม เปรียบเหมือนกระท่อมที่รอวันพังทลาย
ร่างเล็กๆ ในเสื้อโค๊ดเก่าๆ ทรุดนั่งบนแผ่นหินเย็นเฉียบ เธอยกมือในถุงมือที่เก่าไม่แพ้กับเสื้อโค๊ดที่ใส่อยู่ขึ้นเสมอหน้า เป่าลมร้อนๆ ในปาก จนไอระเหยเป็นควัน เมื่ออากาศรอบตัวเย็นเฉียบและติดลบ แต่...เป็นกิจวัติที่ตัวเองทำเป็นประจำทุกวัน การได้นั่งมองแสงไฟมันเหมือนกับว่าหัวใจของเธอได้รับการเติมเต็ม มีพลังแรงกายในการหยัดยืน และต่อสู้ในวันต่อๆ ไป
รถยนต์หรูหราขนาดใหญ่ยาว หยุดจอดเทียบขอบฟุตบาทไม่ไกลจากที่เธอนั่งอยู่ สารถีรีบวิ่งลงมาเพื่อเปิดประตูให้ผู้โดยสาร เขาโค้งตัวจนศีรษะแทบจะติดกับช่วงเอวทำความเคารพเหมือนกับว่า คนที่จะลงมาเป็นเจ้าใหญ่นายโต
ดีมิทรี เบนิคอฟ เขาเบี่ยงปลายเท้า ก้าวลงจากรถยนต์ประจำตำแหน่ง วันนี้มีเรื่องยุ่งๆ หลายอย่างเกิดขึ้นในห้างสรรพสินค้า ที่เขาเป็นเจ้าของ มีคนร้ายขู่วางระเบิดจนวุ่นวายไปทั้งห้าง เกิดผลกระทบเป็นโดมิโน่ และเขาไม่พอใจ!! มันเป็นเรื่องที่ทำให้เขาขุ่นใจ จนไม่สามารถทนอยู่เฉยๆ ได้ มันเหมือนกับว่าศัตรูในเงามืดกำลังประกาศสงคราม และมันเริ่มลงมือแล้ว ด้วยการพุ่งเป้ามาที่ ‘เบนิคอฟมอลล์’ แหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ที่มีอายุเป็น ร้อยๆ ปีสืบทอดมาหลายชั่วอายุคน
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจที่เป็นไอเพราะความร้อนในร่างกายเจอกับความเย็นในอากาศ เขายกมือขึ้นเป่าเพื่อเพิ่มความอบอุ่นในร่างกาย พลางปรายตามองไปรอบๆ ตัว เงาตะคุ่มๆ ของมนุษย์ที่ไม่สามารถระบุเพศได้เพราะเสื้อโค๊ดขนาดใหญ่ปิดศีรษะและหน้าแถมสกปรก!!
เขาเบ้ปากและกระตุกยิ้ม คงจะเป็นขอทานมาขอเศษเงิน...
“มัม เร็วๆ ครับผมต้องไปอีกหลายที่” การประชุมใหญ่เกิดขึ้นเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ร้ายๆ เตรียมรับมือและป้องกันคนที่ไม่หวังดี ชายหนุ่มเอ่ยเสียงหงุดหงิด เมื่ออากาศรอบตัวเย็นเฉียบแต่มารดายังมัวโอ้เอ้อยู่
“รู้แล้วน่า...ไอ้ลูกคนนี้ เร่งจริง!!” มาดามโรส เบนิคอฟบ่นเสียงขรม เธอก็ใช่ว่าจะอยากช้า แต่ชุดหรูหรา มันพันแข็งพันขา เลยชักช้าไปบ้าง แต่มันไม่ทันใจไอ้ลูกชายหัวโปรดที่กำลังใจร้อนเป็นไฟ
เธอกระฟัดกระเฟียดก้าวลงจากรถยนต์และเดินนำหน้าบุตรชายไปอย่างอารมณ์ไม่ดี ที่ถูกดึงตัวออกมาจากงานราตรีสโมสร ที่กำลังสนุกสนาน เพราะการขู่วางระเบิดของบุคคลลึกลับ...ไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร? กล้าดียังไงถึงได้มาลองเชิง ‘เบนิคอฟ’
นีรนาทกำลังจะลุกขึ้นยืน แต่...ปุ!! มีบางอย่างจากคนที่พึ่งเดินผ่านไป เขาโยนทิ้งไว้ตรงหน้าเธอ อะไร?
แบงค์สีเขียวเข้ม 1000รูเบิ้ล มันเป็นเงินจำนวนไม่ใช่น้อยเลยสำหรับคนยากไร้อย่างเธอ แต่ผู้ชายคนนั้นให้เธอเพราะอะไรล่ะ...
เธอมองก้อนกลมๆ ของธนบัตรนั้นนิ่งๆ ก่อนจะถอนหายใจพรวดๆ สภาพของเธอคงไม่ต่างอะไรกับขอทานข้างทางสินะ หญิงสาวเอื้อมหยิบธนบัตรที่คนใจดีอุตส่าห์มอบให้ เธอยัดมันลงในกระเป๋ากางเกงเก่ามอซอ แล้วจึงหยัดกายลุกขึ้นยืน สองมือป้องปาก และตะโกนเสียงดั่งลั่น “ขอบคุณค่ะ ฉันจะไม่ลืมสิ่งที่คุณให้วันนี้เลย”
เสียงเล็กแหลมดังอยู่ด้านหลัง ‘เธอ’ เป็นผู้หญิงจรจัดอย่างนั้นรึ!! ดิมิทรีกดมุมปากโค้งลง เขาแค่อยากไล่เธอไปให้พ้นจากที่ตรงนั้น มันทำให้บรรยากาศหน้าห้างสรรพสินค้าดูไม่ดี เพราะมีคนเร่ร่อนมานั่งเกะกะขวางนัยน์ตา และอีกอย่างมันอาจจะเป็นพวกที่จ้องเล่นงานแฝงตัวเข้ามาได้ เพราะฉะนั้นไล่ไปไกลๆ นั่นแหละดี!!
ดิมิทรีหมดความสนใจเขาก้าวเท้าตามมารดาไป ตัดเรื่องกวนใจทิ้งเพราะมันไม่เกิดประโยชน์ เวลาทุกนาทีของเขามีค่า ไม่ว่าจะขยับไปทางไหนเป็นเงินเป็นทอง แล้วจะมัวมาเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องเพื่ออะไร อีกอย่างสิ่งที่เขากำลังจะไปทำนี่มันยิ่งใหญ่มากกว่า และที่สำคัญเขาไม่ได้ใจดี แค่อยากกำจัด!! สิ่งที่อยู่ผิดที่ผิดทางแค่นั้น...
นีรนาทเดินกลับบ้าน เธอลากขาผ่านอากาศหนาวจัด เดินลัดเลาะตามตรอกซอกซอย จนถึงซอยเล็กๆ ที่เป็นแหล่งชุมชนแออัด ของคนยากจนหาเช้ากินค่ำ และเป็นบ้านที่เธอเกิดและเติบโตขึ้นมา ‘ประเทศไทย’ บ้านเกิดของแม่ เธออยากไปเห็นและสัมผัสด้วยตัวเอง เมื่อเรื่องเล่าก่อนนอนที่แม่พูดให้ฟังเหมือนเป็นนิทานกล่อมเด็ก เธอมโนภาพในหัวสมอง มันชั่งอบอุ่นและมีแต่ความสุข ภาพทุ่งนาที่แม่บรรยายให้ฟังเรื่องความเขียวชอุ่ม สายลมเย็นๆ และธารน้ำ มันเป็นความฝันที่เธออยากเห็น แต่มันคงเป็นได้แค่ความฝัน เมื่อมารดาสิ้นใจ เธอต้องแบกรับภาระทั้งหมดไว้บนสองบ่าแทนแม่ เมื่อพ่อของเธอยังทำตัวเหมือนเดิม เธอรู้ดีว่าอีวานบิดาไม่ได้รักชมนาดผู้เป็นแม่สักนิด เขาต้องการ ‘เมีย’ เพื่อมาช่วยเขาทำงาน แม่เป็นผู้หญิงสาวที่ลักลอบมาทำงานในรัสเซียแบบไม่ค่อยถูกฎหมายเท่าไร เธอจำใจแต่งงานกับอีวานเพราะมันเป็นทางเดียวที่เธอจะได้ทำงานโดยไม่ต้องกลัวเจ้าหน้าที่ แต่...มันเป็นการคิดผิด ชมนาดเหมือนตกนรกทั้งเป็น เมื่อผู้ชายที่เธอฝากชีวิตไว้ในอุ้งมือเขา ช่างเป็นอสูรร้ายที่หวังแค่เพียงร่างกาย เขาเปลี่ยนไปหลังจากแต่งงานจดทะเบียนกันแล้ว คราบต่างๆ ที่ปกปิดไว้ค่อยๆ โผล่ออกมาทีละเปราะๆ ชายขี้เมาที่แสนขี้เกียจ เอาเปรียบแม่ของเธอทุกวิถีทาง จนชมนาดทนไม่ไหว เธอจบชีวิตในตอนที่นีรนาทอายุแค่เพียง16 ปี ตอนนี้หญิงสาวอายุ 20 ปี เธอผ่านความลำบากมาทุกรูปแบบต้องหาเงินเลี้ยงพ่อขี้เมา ที่วันๆ เอาแต่ดื่มเหล้าและด่าทอ โชคดีที่ทุกคนในชุมชนให้ความเมตตา เด็กผู้หญิงคนหนึ่งจึงรอดปากเหยี่ยวปากกา มีชีวิตรอดอยู่จนถึงทุกวันนี้
หญิงสาวถอดถุงมือเก่าๆ ออก แม้มันจะเก่าแต่มันก็ช่วยให้เธอไม่ต้องมือแข็งจนเป็นเหน็บ เพราะอากาศเย็นๆ ที่กัดกินผิว เธอถอดโค๊ดตัวใหญ่ที่ใช้งานมากกว่า 5ปี แขวนไว้ที่ตะปูตัวหนึ่งข้างฝาบ้าน ฮีตเตอร์เก่าแสนเก่า แต่มันก็ยังทำงานดีมาตลอด และช่วยให้เธอไม่ต้องหนาวตายเวลากลางคืน แต่ตัวเองก็ต้องขยันทำงานมากเป็นพิเศษเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าไฟฟ้า
“เห้อ!!” เสียงถอนใจหนักๆ เมื่อสภาพบ้านไม่ต่างอะไรกับรังหนู เมื่อมันเต็มไปด้วยความรก เพราะอีวานเมามายรื้อค้นของภายในบ้านจนกระจัดกระจายเกลื่อนไปหมด เธอลงมือเก็บของใช้ที่หล่นเกลื่อนบนพื้น พยายามทำแบบเบามือที่สุด เพราะอย่างนั้นเธออาจจะทำให้บิดาตื่นขึ้นมา และจะต้องทนฟังเสียงบ่นที่น่าเบื่ออีกนาน จนกว่าเขาจะหลับไปอีกครั้ง
ขนาดอากาศเย็นจนติดลบ เธอยังรู้สึกเหมือนเหงื่อซึมเต็มแผ่นหลัง เพราะการออกแรงเก็บของที่หล่นบนพื้น เธอตักน้ำใส่กระป๋องใบเล็กๆ ก่อนจะหิ้วกลับเข้าไปในห้องตัวเอง อยากอาบน้ำอุ่นๆ เหมือนคนทั่วไปแต่ค่าน้ำแพงมหาโหดเธอจึงทำได้แค่ใช้น้ำลูบเนื้อลูบตัวล้างคราบเหงื่อจากการทำงาน ชีวิตหลังมารดาลาโลก เธอตื่นขึ้นมาทำงานแต่เช้าตรู่จนเกือบถึงเที่ยงคืน ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่มีแม้แต่เงินจะซื้ออาหาร เพราะบิดาที่เป็นเสาหลักของบ้านเอาแต่กินเหล้า เขาไม่รับผิดชอบอะไรเลย นีรนาทเลยต้องออกจากโรงเรียน หันมาทำงานเต็มตัว แต่...การเรียนที่รักเธอก็ไม่ได้ทิ้ง เสียงแม่พร่ำบ่นกรอกหูมาตลอด หากไร้ความรู้ต่อให้ประสบสำเร็จ มันก็จะใช้เวลานานกว่าคนที่มีความรู้ เมื่อมันคือใบเบิกทางให้เธอมีโอกาสหางานที่ดีกว่าทำ หญิงสาวจึงแอบเจียดเงินบางส่วนร่ำเรียน แต่ต้องใช้ความพากเพียรมากกว่าคนอื่นๆ เมื่อเธอต้องทำงานหนักตั้งแต่เช้าจรดค่ำ บางครั้งท้อแท้จนน้ำตาไหลอาบหน้า ต่อว่าพระผู้เป็นเจ้าที่กำหนดทางเดินชีวิตของเธอให้ลำบากยากเข็ญเสียเหลือเกิน เหลืออีกแค่ไม่กี่วัน เธอก็จะเรียนจบ...มันเป็นความภาคภูมิใจ ถึงจะเป็นแค่การศึกษานอกโรงเรียนแต่มันก็ทำให้เธอหางานได้มากขึ้น ดีกว่าเป็นเด็กรับจ้างทั่วไปตามร้านขายเครปข้างทางที่ได้เงินเดือนหยิบมือเดียว
“แม่จ๋านีชาเรียนใกล้จบแล้ว...เสียดายจังแม่ไม่อยู่ในวันที่นีชาประสบความสำเร็จ...แม่รอดูนีชานะจ๊ะ นีชาจะหางานดีๆ ทำและจะพาแม่กลับไประเทศไทย” ความฝันสูงสุดในวันที่ชมนาดสิ้นใจเธออยากกลับบ้านเกิด และนีรนาทรับปากว่าจะต้องทำให้ได้!!เด็กหญิงไม้ขีดไฟมีชีวิตแสนรันทด นีรนาทเองก็เช่นกันไม่ต่างอะไรกับเด็กหญิงที่ต้องขายไม้ขีดไฟเพื่อหาเงินค่าอาหารสักนิด เธอต่อสู้ดิ้นรนมาตั้งแต่มารดาเสียชีวิต เพื่อหาอาหารเลี้ยงปากท้องตัวเองและบิดา!!เสื้อผ้าของใช้ไม่เคยได้ซื้อเพิ่มมาใหม่ ดีแต่ว่าได้รับการอนุเคราะห์จากเพื่อนบ้าน ที่สงสารเธอ เมื่อตัวเธอต้องเก็บซ่อนเงินเอาไว้เพื่อการเรียน จนไม่อยากซื้อหาอะไรนอกจากสิ่งจำเป็นจริงๆ เธอเอนกายลงนอนโดยกอดเสื้อของแม่ไว้ ขดตัวใต้ผ้าห่มเก่าๆ ของแม่ ก่อนจะหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย“นีชา...เอาสตางค์มาให้กูสิ กูจะไปซื้อเหล้า” เสียงโวยวายของอีวานดังขึ้น เมื่อเขาตื่นเต็มที่ ชายสูงวัยรูปร่างท้วม ผมบนศีรษะเหลือแค่ครึ่งเดียว ปลายจมูกแดงก่ำ นัยน์ตาฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ยังคงค้างอยู่ในร่างกายหญิงสาวงัวเงียตื่นขึ้นมา เธอเหลือบมองเวลาที่นาฬิกาเล็กๆ หัวนอน ‘พึ่งจะตีห้าครึ่ง’ เธอพึ่งน
บทที่2.เจ้าชายน้ำแข็ง“พูดมาสลาฟส์ ใคร?” น้ำเสียงเย็นเฉียบยิ่งกว่าเกล็ดหิมะด้านนอกตัวอาคาร ชายสูงวัยหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ จากข้อมูลที่สืบทราบ เขาเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน ว่าจะใช่คนคนนั้น?!! “อีวาน...โบรีส อดีต รปภ. ที่เคยทำงานที่ห้างสรรพสินค้าครับท่าน เขาถูกไล่ออกเพราะเมาสุราขณะทำงาน”“อดีต!! รปภ. ที่ถูกไล่ออก!! แล้วไอ้หมอนั้นมันต้องการอะไร?”“ผมยังไม่รู้ครับ ว่าเขาต้องการอะไรในการลงมือทำครั้งนี้ ความจริงเขาออกไปเป็นปีๆ หากมีเรื่อแค้นเคืองก็น่าจะลงมือตั้งแต่เกิดเรื่องใหม่” สลาฟส์วิเคราะห์ตามข้อมูลที่รู้มา เขาแปลกใจพอๆ กับทุกคนที่อยู่ในทีมสืบสวน“เอาตัวไอ้หมอนั่นมาให้ผม ผมจะสอบสวนมันเอง!! ให้มันรู้ไปสิว่ามันกล้า...” ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืน เขาต้องมาเสียเวลาที่แสนจะมีค่าไปกับเรื่องไร้สาระ แค่คนงานชั้นล่างสุด ก่อเรื่อง แต่มันเป็นการกระทำที่ทำให้เขาเสียรายได้มหาศาล สร้างความขุ่นเคืองในหัวใจ จนไม่อาจปล่อยวางเรื่องนี้ไปง่ายๆ ได้“ครับ” สลาฟส์รับคำเสียงหนักๆ เขาเองก็อยากรู้ว่าอีวานต้องการอะไร ชายแก่นั่นจมอยู่กับกองขวดเหล้า แล้วจู่ๆ ไอ้หมอนั่
แสงไฟฟ้าสว่างจ้า นีรนาทรีบสาวเท้าให้เร็วขึ้น เธอผลักบานประตูจนสายลมเย็นเฉียบไหลกรูเข้าไปภายใน เจ้าหน้าที่หันมามองเธอเป็นตาเดียว เพราะเวลามันดึกเกินว่าจะมีใครมาทำธุระที่สถานีตำรวจ“ขอโทษคะ อีวาน โบรีส อยู่ที่นี่ไหมคะ? หนูเป็นลูกสาวเขาอยากขอประกันตัว” เสียงถามปนเสียงหอบ เพราะเจ้าตัวรีบมาเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้“อีลูกไม่รักดี ปล่อยให้กูนอนอยู่ในนี้ตั้งหลายชั่วโมง มึงไปมุดหัวอยู่ไหนมา!!” สองมืออีวานเกาะซี่ลูกกรง เขาแผดเสียงก้องด่าทอนีรนาทเมื่อเห็นบุตรสาวปรากฏตัวขึ้นมาเคล้งๆ...“หุบปาก!! ยังจะปากดีอีก ต่อให้ขนเงินมากองไว้ก็ไม่ได้ประกันตัวหรอกน่า นอนอยู่ในนั้นแหละ คุณดิมิทรีไม่ปล่อยแกออกมาลอยนวลข้างนอกให้เกะกะนัยน์ตาเขาหรอก” เจ้าหน้าที่ยกกระบองไม้ในมือเคาะไปที่ซีลูกกรง เป็นสัญญาณเตือนชายขี้เมาว่าอย่าได้ส่งเสียงน่ารำคาญ“เห้ย!! ได้ยังไงวะ รังแกคนจนๆ ได้ไง ฉันไม่ยอม”“แกยอมหรือไม่ยอม แกก็ต้องติดคุก ถึงจะไม่ได้ลงมือทำจริงๆ แต่แกส่อเจตนาร้าย เขามีหลักฐานและพยานพร้อม ไม่มีทางดิ้นอยู่แล้ว อย่างมากก็นอนคุกสัก4 -5 ปี”“โฮๆ...” เมื่อรู้ความจริงว่าแค่เพียงอารมณ์ชั่ววูบจะทำให้ตัวเองขาดอิสรภาพและจะต้อง
“คนอย่างอีวานเป็นไม้แก่ดัดยาก เขาควรถูกคนที่เหนือกว่าสั่งสอน ฉันคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ดีเชียวแหละ”“แต่...”“เอาเถอะอยากทำอะไรก็ตามใจ ฉันขอโทษที่ซ้ำเติมพ่อเธอ มันทนไม่ไหวจริงๆ”“ขอบคุณค่ะ”“อืม...ถ้าไม่ไหวยังไง มีอะไรที่ฉันช่วยได้ฉันก็อยากช่วยนะนีชา” หล่อนพ่นลมหายใจแรงๆ พระเจ้าไม่ยุติธรรมเลย คนดีๆ ตายจากแต่คนที่สมควรตายยังคงหยัดยืนอยู่ เธอรู้จักกับชมนาดดี ผู้หญิงน่าสงสารที่อยากมีชีวิตดีขึ้น จนต้องยอมแต่งงานกันคนในพื้นที่ เพื่อจะได้ทำมาหากินได้โดยไม่ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวส่งกลับภูมิลำเนาเดิม แต่เผอิญโชคร้าย ไปคว้าเอาอีวานมาเป็นสามี เขาออกลายทันทีที่แต่งงาน ผู้หญิงไทยคนนั้นจึงต้องก้มหน้าก้มตาหาเลี้ยงสามี และเจียดเงินส่วนหนึ่งส่งกลับไปให้คนทางบ้านเกิด สุขภาพทรุดโทรมลงทุกๆ วันเพราะต้องทำงานเพิ่มอีกเป็นเท่าตัวเพื่อให้มีเงินพอจะเจือจานคนทางบ้านและตัวเอง หล่อนเจ็บออดๆ แอดๆ และเสียชีวิตตอนที่ลูกสาวยังไม่โตเต็มที่ สองแม่ลูกที่เธอเห็นมาเกือบๆ ยี่สิบปี ช่างน่าสงสารและน่าเห็นใจ ผู้หญิงหวังพึ่งสามี และหวังว่าเขาจะทำให้ตัวเองมีการเป็นอยู่ดีขึ้น แต่สามีหรือพ่ออย่างอีวาน สมควรอย่างยิ่งที่จะถูกกำจัด เธอ
แสงอ่อนๆ ของพระอาทิตย์ยามเช้าแม้จะหม่นมัวเพราะก้อนเมฆบดบัง แต่มันก็สว่างพอจะเห็น ยัยเด็กนี่นัยน์ตาสวย ผิวแก้มอมสีชมพูระเรื่อ ขนตายาวเป็นแพเหมือนปีกผีเสื้อ รวมๆ แล้วก็หน้าตาดีไม่ใช่เล่น แต่...ที่สำคัญเธอทำให้เลือดลมเขาพุ่งพล่านและรู้สึกเป็นผู้ชนะกำลังกุมอำนาจล้นเหลืออยู่ในมือ“คนอย่างเธอจะมาทำอะไรให้ฉันได้ ฉันมีทุกอย่างเพียบพร้อม ไม่เคยต้องการอะไรจากคนอื่นๆ” ชายหนุ่มยกยิ้มหมิ่นๆ มุมปาก เขาหมุนตัวกลับเตรียมจะเดินหนี แม้จะติดใจหน้างดงามปานนางฟ้าของเจ้าหล่อนก็ตาม“ขอร้องเถอะค่ะ!! จะเอานีชาไปต้มยำทำแกงที่ไหนเมื่อไรก็ได้ ขอแค่คุณปล่อยแด๊ดนีชา” เสียงวิงวอนแหบพร่า เรือนกายสั่นระริกไม่ใช่เพราะความหนาวแต่เป็นเพราะกำลังร่ำไห้อย่างหนักที่ไหน? เมื่อไร ยังไงก็ได้รึ? ความจริงผู้หญิงที่อยู่รายรอบตัวของเขาก็มีไม่ใช่น้อย ไม่จำเป็นต้องมาคว้าผู้หญิงข้างทางขึ้นมาเป็นนางบำเรอนี่นะ แต่มันก็น่าสนใจไม่ใช่น้อยไม่ใช่รึ ผู้หญิงตรงหน้านี่ดูท่าจะยังสดสะอาด แม้จะดูสกปรกมอมแมมแต่หลังเปลื้องผ้าเก่าๆ ปอนๆ นั้นออก เธอคงงดงามไม่ใช่เล่น...“ตามมา... เข้าไปคุยข้างในดีกว่า ของนอกนี่มันหนาว อีกอย่างฉันยังไม่อยากเป็นข่าว” ช
บทที่3.หิมะกับผ้าห่ม“กลับมาแล้วโว้ย...นีชาอยู่ไหนลูก” อีวานเดินเข้าบ้าน เขาส่งเสียงโวยลั่น เขาทรุดนั่งบนเก้าอี้เก่าๆ ตัวหนึ่ง ส่งเสียงเรียกบุตรสาวเพราะจู่ๆ ก็ถูกปล่อยตัวออกมาจากที่คุมขังเงียบ...ไม่มีเสียงตอบกลับอีลูกเวรนั่นไปมุดหัวอยู่ที่ไหน? ทำไมไม่มาสนใจคอยดูแลเขาเลย...“อีเด็กเปรตนั่นหายหัวไปไหนวะ กูหิวเหล้าจะตายอยู่แล้ว” เขาก่นด่าออกมาเสียงแข็ง จะซื้อเหล้าเข้ามาเอง ในกระเป๋ากางเกงก็ไม่มีเศษเงินสักสตางค์ จึงจำใจซมซานกลับมาบ้าน แต่ก็ยังไม่ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการเสียที ร่างอวบท้วมเดินรื้อของภายในบ้านเพื่อค้นหาเศษสตางค์ไปหาซื้อเหล้ามาล้างปาก ไอ้เศรษฐีเจ้าของห้างจู่ๆ มันก็ใจดีขึ้นมา ไม่เอาเรื่องเอาราวที่เขาไปก่อไว้ ไอ้ตำรวจหน้าโง่ทั้งสถานีจึงปล่อยตัวเขากลับบ้าน...“เจอแล้วอีลูกเวรแอบซุกเงินไว้นี่เอง” ชายสูงวัยที่มัวเมาอยู่ในโลกน้ำเมาไม่สนใจความเหนื่อยยากของบุตรสาว นีรนาทสู้อุตส่าห์เก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ไว้ใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียน นอกเหนือที่จับจ่ายภายในบ้าน แต่ก็ยังถูกอีวานฉกเอาไปอยู่ดีเขาเปิดประตูบ้านเดินฝ่าความหนาวเย็นเพื่อไปร้านเหล้า...และจะกลับมานอนซุกตัวอยู่ในบ้านกินเหล้าเปรม
“ใจเย็นๆ นีชา ไม่ต้องกลัว ไม่ถึงตายหรอกแค่เสียตัวเอง” เธอกล่าวปลอบใจตัวเอง เป็นคำพูดหยามหยันที่ได้ยินได้ฟังยังเจ็บจี๊ดๆแปลก!! รถยนต์จอดสนิทหน้าตึกสูงระฟ้า ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า ‘เบนิคอฟมอลล์’ เท่าไร เธอแหงนมองตัวตึกสูงระฟ้า เกล็ดหิมะล่วงหล่นใสหน้าจนรู้สึกเย็นจับขั้วหัวใจ“เชิญครับมิส!! ทางนี้ครับ” ชายชุดดำที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม เขาผายมือบอกทางให้กับนีรนาท แล้วจึงเดินนำหน้า สายตาหลายคู่เหลือบมองผู้หญิงคนหนึ่งที่การแต่งตัวขัดกับสถานที่ เสื้อเก่าๆ ปอนๆ การแต่งกายที่ไม่เหมาะกับสถานที่โอ่อ่าและมันทำให้นีรนาทรู้สึกอาย หน้าเธอร้อนฉ่าด้วยความอายสุดขีดประตูลิฟต์ปิดลง ช่วยให้เธอหายใจหายคอสะดวกขึ้น เธอเหม่อมองทิวทัศน์ผ่านกระจกใส ที่เคลื่อนที่ขึ้นไปยังจุดหมาย ทุกอย่างรอบตัวมีแต่ความเงียบและความเงียบ ผู้ชายที่นำเธอมาเหมือนหุ่นยนต์มากกว่าคนมีชีวิต เขาทำงานตามคำสั่งมหาอำนาจด้วยความแข็งขัน หน้าเย็นชาและไร้จิตใจแบบสิ้นเชิง“มิสต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและทำความสะอาดร่างกายก่อนครับ ผมเตรียมทุกอย่างไว้ในห้อง มิสมีเวลา สามสิบนาที ก่อนที่ท่านจะมาถึง”นีรนาทฟังเงียบๆ เธอไม่ได้แย้งหรือทักท้วง หลังพูดจบ
“ปะ... ปล่อยค่ะ...เอ่อ...นีชายังไม่เคยแต่ปล่อยนีชาก่อนได้ไหมคะ...นะคะ ให้เวลานีชาทำใจบ้าง...”“หึ หึ ฉันให้เวลาเธอมาทั้งวันแล้วเด็กน้อย ฉันคิดว่าเธอน่าจะพอทำใจได้บ้างแล้วนะ”“ค่ะ...เอ่อ นีชายอมคุณทุกอย่างอยู่แล้วค่ะ แค่ขอเวลาเพื่อทำใจบ้างเท่านั้นเอง”“แน่ใจเหรอเด็กน้อย ว่าเธอต้องทำใจ!!”ดิมิทรีชะโงกเข้าไปถามใกล้ๆ ใกล้เสียจนลมหายใจร้อนๆ ของเขาเป่ารดปลายจมูกเชิดโด่ง อยู่ๆ ในช่องท้องหญิงสาวก็ปั่นป่วน มันปวดมวนจนต้องรีบเบี่ยงหน้าหนี หน้าหวานแดงก่ำร้อนฉ่าและผิวแก้มคงขึ้นสีจัดมารยาผู้หญิงดิมิทรีเห็นมามากมาย จนไม่คิดว่าจะมีมารยาแบบไหนที่เขาไม่เคยคุ้น แต่...สิ่งที่เห็นตรงหน้า เป็นความแปลกแตกต่างที่เคยเจอ ผู้หญิงคนนี้มีอะไรบางอย่างไม่เหมือนกับที่เขาเคยเจอเป็นประจำ เธอมีความหวั่นกลัว และขลาดเขลาอ่อนแอ แต่เธอก็ยังเชิดหน้าสู้ แม้ร่างกายจะสั่นระริกเพราะความกลัว มันทำให้หัวใจหนุ่มแน่นเต้นแรง เพราะรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า มันเหมือนกับว่าเขากำลังกำหนดชะตาชีวิตของใครคนหนึ่ง และมันหมายถึงชนะ!!ร่างสั่นระริกในอ้อมแขน กลิ่นสาปสาวส่งกลิ่นหอมยวนใจ จนหัวใจพญาหมีขาวแห่งขั้วโลกเหนือเต้นพล่าน...เขาจะอุทิศตัว