Share

บทที่1.เด็กสาวไม้ขีดไฟ 2

“แม่จ๋านีชาเรียนใกล้จบแล้ว...เสียดายจังแม่ไม่อยู่ในวันที่นีชาประสบความสำเร็จ...แม่รอดูนีชานะจ๊ะ นีชาจะหางานดีๆ ทำและจะพาแม่กลับไประเทศไทย” ความฝันสูงสุดในวันที่ชมนาดสิ้นใจเธออยากกลับบ้านเกิด และนีรนาทรับปากว่าจะต้องทำให้ได้!!

เด็กหญิงไม้ขีดไฟมีชีวิตแสนรันทด นีรนาทเองก็เช่นกันไม่ต่างอะไรกับเด็กหญิงที่ต้องขายไม้ขีดไฟเพื่อหาเงินค่าอาหารสักนิด เธอต่อสู้ดิ้นรนมาตั้งแต่มารดาเสียชีวิต เพื่อหาอาหารเลี้ยงปากท้องตัวเองและบิดา!!

เสื้อผ้าของใช้ไม่เคยได้ซื้อเพิ่มมาใหม่ ดีแต่ว่าได้รับการอนุเคราะห์จากเพื่อนบ้าน ที่สงสารเธอ เมื่อตัวเธอต้องเก็บซ่อนเงินเอาไว้เพื่อการเรียน จนไม่อยากซื้อหาอะไรนอกจากสิ่งจำเป็นจริงๆ เธอเอนกายลงนอนโดยกอดเสื้อของแม่ไว้ ขดตัวใต้ผ้าห่มเก่าๆ ของแม่ ก่อนจะหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย

“นีชา...เอาสตางค์มาให้กูสิ กูจะไปซื้อเหล้า” เสียงโวยวายของอีวานดังขึ้น เมื่อเขาตื่นเต็มที่ ชายสูงวัยรูปร่างท้วม ผมบนศีรษะเหลือแค่ครึ่งเดียว ปลายจมูกแดงก่ำ นัยน์ตาฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ยังคงค้างอยู่ในร่างกาย

หญิงสาวงัวเงียตื่นขึ้นมา เธอเหลือบมองเวลาที่นาฬิกาเล็กๆ หัวนอน ‘พึ่งจะตีห้าครึ่ง’ เธอพึ่งนอนหลับไปแค่ 4 ชั่วโมงแต่ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อบิดาร้องเรียกเสียงดังลั่น

“เบาๆ แด๊ด เดี๋ยวคนข้างบ้านจะว่าเอาอีก มันยังไม่เช้าแด๊ดจะรีบไปไหนกันคะ” เธอตอบกลับเสียงแผ่วๆ รีบลุกขึ้นพับผ้าห่มและที่นอน ก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้อง

“ถ้ากูช้า...กูก็อดสิ!! มึงแหกตาตื่นไปทำงานแต่เช้า ให้เงินกูไว้ไม่พอค่าข้าว” อีวานตวาดเสียงฉุนๆ เขาไม่เคยตื่นทันมันสักครั้ง เห็นแค่สตางค์วางไว้บนโต๊ะกินข้าว แต่มันไม่พอยาไส้

“แด๊ดก็ซื้อข้าวกินสิ แค่ที่ให้ไว้เหลือเฟือ เอาไปซื้อเหล้าเท่าไรมันก็ไม่พอ” เธอควานหาเศษเงินในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะยืนส่งให้บิดา

“มึงก็ให้กูเยอะกว่านี้สิ กูรู้มึงแอบยักยอกไว้ คิดจะใช้คนเดียวหรือไงล่ะ” หญิงสาวกลอกตามองฟ้า เธอทำงานหาเงินเหนื่อยสายตัวแทบขาด ไม่เคยได้ใช้เพื่อตัวเองเลย ทุกอย่างแทบจะไม่มีเหลือเพราะมันละลายลงไปในขวดเหล้า หากไม่คิดหมกเม็ดไว้ เธอจะมีเงินไปจ่ายค่าตำราเรียนได้อย่างไร ทุกวันนี้แม่แต่ชั้นใน เธอยังต้องใช้ของเก่าๆ ของแม่ ประหยัดสุดขีด เพื่อจะได้มีอนาคตที่ดีกว่านี้ แต่...บิดาที่ยังแข็งแรงไม่เคยคิดจะช่วย มีแต่จะเอาเปรียบและก่นด่า

“นีชาไม่ได้ทำงานได้วัน2-3 พันรูเบิ้ลนะแด๊ด นีชาทำงานได้แค่600รูเบิ้ล ไหนจะค่าไฟค่าน้ำ ค่าอะไรๆ จิปาถะที่แด๊ดขยันไปสร้างทิ้งไว้ ให้นีชาตามจ่าย นีชาเหนื่อยเป็นเหมือนกันนะคะ” เธอตอบกลับเสียงแข็ง เมื่อบิดากดดันจนเธอหมดความอดทน

เพี้ยะ!! มืออวบอูมสะบัดตบซีกแก้มของเธอ จนซีกหน้าชายิบเพราะความแรง เธอยกมือขึ้นจับ น้ำตาร้อนๆ ไหลริน ก่อนจะถอยหลังเข้าห้อง ปิดงับประตูห้องร่างเล็กๆ รูดลงไปกองที่พื้นพลางสะอื้นไห้ฮักๆ มือเล็กๆ ยกกอดตัวเอง ในหัวใจร่ำร้องหาแต่มารดา...แม่จ๋า...นีชาไม่อยากอยู่แล้ว นีชาอยากไปหาแม่...

“มึงปิดประตูใส่หน้ากู อย่ามาใช้มุขนี้ เอาเงินมาอีก...แค่นี้กูไม่พอกิน” ชายเห็นแก่ตัวที่ไม่เคยรับรู้ความลำบากยากเข็นของลูก เขาเมาสุราจนสมองหมดการยั้งคิด มืออวบอูมเคาะประตูห้องหนักๆ และโวยวายเสียงเข้ม

“แต่เช้าเลยนะอีวาน ไอ้เวร!! ไม่สงสารลูกบ้างไง? ทำงานตัวเป็นเกลียวจนผอมโซเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก เป็นกูนะจะทิ้งให้มึงตายอยู่กับขวดเหล้า เป็นพ่อประสาห่าอะไรวะ กินแรงลูก...มือก็มีไม่รู้จักออกไปทำงาน แดกแต่เหล้า เมื่อไรจะตายห่าเสียทีวะ” เสียงข้างบ้านตะโกนด่า แหวกความเงียบยามเช้า ชายสูงวัยโมโหสุดขีด เป็นเพราะอีนังลูกสาวตัวดี ทำให้เขาถูกเพื่อนบ้านก่นด่าแต่เช้า แค่มันให้เงินเขา ตามที่เขาต้องการก็คงไม่มีเรื่องแบบนี้ เกิดขึ้น!!

“อย่าลืมเอาเงินมาให้กูเพิ่มล่ะอีลูกเวร ถ้ากูไม่ได้...มึงเจอดีแน่ๆ” ชายสูงวัยที่ขาดสติและหมกหมุนอยู่แต่น้ำเมา เขากรรโชกเสียงเคร่งๆ ก่อนจะเดินกระแทกเท้าฝ่าความหนาวเหน็บออกไปหาเหล้ากินที่ร้านค้าข้างทาง

นีรนาทยกสองมือปาดคราบน้ำตา เธอเหลือบมองเวลาแล้วจึงถอนหายใจพรวดๆ เวลาเดินเร็วเหมือนติดปีก อยากมีเวลาในหนึ่งวันสัก 36 ชั่วโมงเธอจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้นให้พอกับรายจ่าย...หญิงสาวรีบล้างหน้าแต่งตัว เธอคว้าขนมปังแข็งๆ หนึ่งแผ่นคาบไว้มุมปากควานหาเศษสตางค์ในกระเป๋ากางเกง และวางไว้บนโต๊ะกินข้าว เพื่อตัดความรำคาญ ไม่เช่นนั้นอีวานก็จะไปก่อกวนที่ทำงาน จนเธอไม่สามารถทำงานได้...

เมื่อไร? เธอจะพ้นสภาพแบบนี้เสียที เมื่อไรที่บิดาจะคิดได้และกลับตัวเป็นคนดี ไม่ต้องออกไปทำงานก็ได้ ขอแค่ไม่ทานเหล้าเมาหยำเปแบบนี้ เธอคงไม่เหนื่อยสายตัวแทบขาดเหมือนปัจจุบัน หญิงสาวแหงนหน้ามองฟ้าและส่งเสียงวิงวอนพระองค์ผู้ยิ่งใหญ่ในใจเงียบๆ เธอไม่ได้ต้องการความสะดวกสบาย เพราะรู้ดีว่าตัวเองไม่อาจไขว่คว้าสิ่งเหล่านั้นได้ เพียงแค่ขอวิงวอนเงียบๆ ขอให้พระองค์ประทานแสงสว่างให้กับเธอบ้าง ชีวิตเล็กๆ ที่อยู่ใต้การนำทางของผู้ยิ่งใหญ่ ปรารถนาอยากได้สิ่งสุขสงบ ต้องการครอบครัวอบอุ่นเหมือนเช่นคนอื่นๆ

“นีชา...เร็วๆ สายแล้ว” เสียงสาวใหญ่เจ้าของร้านเครปร้องเรียก เมื่อเธอโผล่หน้ามาจากตรอกซอยเล็กๆ

เธอส่งยิ้มให้และรีบกุลีกุจอเดินเข้าไปประจำหน้าที่ มือเล็กๆ หยิบจับงานตรงหน้าด้วยความคุ้นเคย

“คนสวยขอเครปสองอันสิ” หนุ่มคนงานเจ้าประจำเยี่ยมหน้าตรงช่องขายของ เขาร้องสั่งอาหารประจำที่ใช้รองท้องก่อนเริ่มต้นทำงานตอนเช้าตรู่

นีรนาทยิ้มรับเธอเทแป้งสีขาวขุ่นที่เจ้าของร้านเตรียมไว้ให้และเกลี่ยแป้งจนแผ่กระจายเต็มหน้าเครื่อง รอให้แป้งได้ที่จึงค่อยๆ ทาเนยและบีบวิปครีมลงไปบนนั้น ตามด้วยเครื่องประกอบที่เป็นที่นิยมไม่ว่าจะหมูหยองหรือผลไม้ก่อนจะตลบแป้งเป็นแผ่นสามเหลี่ยมใส่ในกรวยกระดาษยื่นให้ลูกค้าพร้อมรอยยิ้ม

เธอรับสตางค์ที่เขาส่งให้หย่อนลงในกระป๋องข้างตัวและสาละวนทำงานต่อเมื่อต้องเตรียมพร้อมหลายอย่าง...ราคาที่พอรับได้เพราะเป็นอาหารมื้อเช้าที่หากินได้ง่าย มีร้านเล็กๆ แบบนี้ตั้งขายกระจายอยู่ตามตรอกเล็กๆ เต็มไปหมด

วันๆ หนึ่งเธอต้องทำเครปแบบนี้ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้ง มันเป็นอาชีพของคนไม่มีทางเลือก แต่ก็สุจริตไม่ได้เบียดเบียนใคร ความจริงนีรนาทอยากเปิดร้านเอง เพราะเธอทำเป็นแทบทุกอย่างตั้งแต่การเตรียมแป้งหรือการลงมือทำ ติดตรงที่...เธอไม่มีเงินทุน เงินที่หาได้ละลายหายไปกับขวดเหล้าของบิดาเป็นส่วนใหญ่ สักวันหนึ่งในอนาคตน่า...เธอปลอบใจตัวเองและพยายามสร้างความหวัง จะได้มีกำลังแรงใจต่อสู้ต่อไปในอนาคตโดยที่ไม่ท้อแท้ไปเสียก่อน

อากาศเย็นเฉียบบาดผิวกายจนชายิบ แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ เธอเป็นคนหาชาวกินค่ำที่ต้องทน จะให้นอนสบายๆ อยู่ในบ้าน แล้วเธอจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าน้ำค่าไฟ...นี่ล่ะปัญหาของคนจน...ได้แต่แหงนมองฟ้า และวิงวอนร้องขอพระผู้เป็นเจ้าเงียบๆ

การประชุมเคร่งเครียดจบลง ได้ข้อสรุปที่ไม่ดีเท่าไร เมื่อมือมืดตัวก่อเรื่องไม่ได้ปรากฏตัวขึ้น มันเก็บตัวเงียบ แค่สร้างความตื่นตระหนกให้กับเจ้าของกิจการและคนที่มาเที่ยวแล้วบังเอิญรู้เรื่องเข้า

ปัง!!

ทั้งห้องเงียบกริบ ดิมิทรีลุกขึ้นยืน เขากระแทกสันมือตัวเองบนโต๊ะ ก่อนจะกวาดตามองคนใต้บังคับบัญชาทุกคนด้วยแววตาดุดัน

“คุณรู้ใช่ไหมว่ามันไม่ควรเกิดขึ้น!!” เขาพูดช้าๆ เมื่อหาข้อสรุปไม่ได้ ว่าใครกันแน่ที่กล้าลองเชิง ‘เบนิคอฟ’

“คนร้ายคงแค่ข่มขู่ มันอาจจะเป็นการเข้าใจผิดก็ได้ครับ” หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยตอบคำถามแบบกล้าๆ กลัวๆ

“ผมรู้!! แต่ผมต้องการทีมมานที่ฝีมือทำงานได้ดีไม่มีข้อติ เอาเป็นว่า... หาตัวการให้เจอ ผมจะคุยกับไอ้หมอนั่นเองว่ามันต้องการอะไร?”

ดิมิทรีสรุปสั้นๆ เขาต้องรู้ให้ได้ว่าไอ้คนที่โทรฯ เข้ามาขู่มันหวังผลอะไร?

“ครับ เราตามสืบจนพอจะรู้เลาๆ มันอาจจะเป็นแค่การกลั่นแกล้งครับ”

“เยี่ยม!! ผมไม่ผิดหวังเลยที่เลือกคุณขึ้นมาทำงานตรงตำแหน่งนี้ สลาฟส์” ชายหนุ่มกดมุมปากเหมือนจะยิ้ม เขาเลิกหัวคิ้วขึ้น เพราะรู้ดีว่าหาก ‘สลาฟส์’ เอ่ยปากเขาต้องมีข้อมูลอยู่ในมือ

“แม่กลับก่อนแล้วกันนะ ลูกจัดการได้ตามสบาย งานเลี้ยงที่เหลือแม่จะไปแทนลูกเอง” มาดามโรส ลุกขึ้นยืน เธอไม่อยากเห็นความโหดเหี้ยมของลูกชาย เพราะเขาขึ้นชื่อจนมีแต่คนขยาด เป็นหมีขาวที่เลือดเย็นสุดๆ

“ครับ... มัม...เอาล่ะ ใครมีหน้าที่อะไรที่ต้องทำเชิญตามสบาย ผมจะคุยกับสลาฟส์เอง เชิญ...”

ชายหนุ่มผายมือไปทางประตูเหมือนกับเป็นการไล่ทางอ้อม และทุกๆ คนรู้ดีว่าดิมิทรีไม่อยากให้ใครรู้ จนกว่าเขาจะบัญชาการลงมาเกี่ยวกับคนปริศนาที่โทรศัพท์มาข่มขู่เรื่องการวางวัตถุระเบิด ทุกคนรีบเดินออกจากห้อง ถึงให้อยากรู้แค่ไหน? ก็ไม่ใครกล้าพอที่จะตื้อขอฟังด้วย...

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status