ตอนที่ 1 ทะลุมิติ
วันที่ทราบข่าวว่าปืนรุ่นใหม่ออกวางจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าอันดับหนึ่งของโลก ห้างที่มีขายทุกอย่างต้องแต่ดินก้อนเล็กไปจนถึงยานรบสงคราม สถานที่ตั้งอยู่ติดทะเลตัวห้างกินพื้นที่หลายกิโลเมตร ในแต่ละวันมีผู้คนเข้าไปจับจ่ายซื้อของนับแสนคน ตั้งเเต่ประชาชนคนธรรมดาไปจนถึงผู้นำประเทศ
หากเป็นชั้นขายสินค้าธรรมดาทั่วไปทุกคนสามารถเข้าถึงได้ แต่หากเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูงตั้งแต่อุปกรณ์การทดลอง อาวุธสงคราม หรือสินค้าที่อาจก่อให้เกิดหายนะ ผู้ซื้อจะต้องมีระดับใบอนุญาตเฉพาะที่จะเข้าชั้นนั้น ๆ ได้ ซึ่งผมก็มีมันอยู่พอสมควร แม้จะไม่สามารถซื้อยานบินรบแบบผู้นำประเทศได้แต่ก็ยังสามารถซื้ออาวุธสงครามที่ระดับรองลงมาอย่างเช่นปืนรุ่นใหม่ที่วางอยู่บนชั้นคริสตัลเบื้องหน้า
ก่อนที่ผมจะหยิบปืนตัวอย่างมาทดสอบดู จู่ ๆ เบื้องหน้าก็ปรากฏจุดแสงสีรุ้งขึ้น ด้วยความสงสัยจึงเอื้อมมือไปหยิบ แสงนั้นพุ่งเข้าร่างกายผม ตอนนั้นเองภาพทุกอย่างเบื้องหน้าก็มืดดับลง
.......
ณ สถานที่อันห่างไกล
"ไอ้โต๋ ตื่นๆๆ ถึงที่หมายเเล้วโว้ย" เสียงของเนสเรียกผมให้ตื่นจากการหลับใหลบนรถยนต์มือสองของเขา
"ของีบอีกหน่อยน่า" ผมกล่าวออกไป เเต่เหมือนเพื่อนจะไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น เนสดับเครื่องรถ และเร่งผมอีกครั้ง ทำให้ผมจำใจยอมออกจากรถในที่สุด
"เอกสารมึงเตรียมครบยัง คราวนี้ไม่พลาดแน่นะ" เนสเอ่ยกำชับ
"เตรียมครบเเล้ว ครั้งก่อนกูไม่ตั้งตัวต่างหาก ลืมนิดๆหน่อยๆเอง" ผมกล่าวแต่เพื่อนเจ้ากรรมดันมำสีหน้าไม่เชื่ออย่างนั้น
"ลืมนิดหน่อยบ้านมึงสิ คนอะไรจะไปสมัครสอบครูจังหวัดเซียงเก่าแต่ดันเอาเเค่บัตรประจำตัวประชาชนไปใบเดียว เอกสารไม่มีสักอย่าง" เนสเอ่ยรำลึกความหลัง ผมยักไหล่ทีหนึ่ง
"ช่างมันเหอะน่า จังหวัดเซียงเก่าไม่ใช่เป้าหมายสักหน่อย จังหวัดลามปาร์คนี่ต่างหากคือเป้าหมาย เออ เดี๋ยวสมัครเสร็จเราไปดูบ้านติดทะเลกูกัน" ผมเอ่ยชวนเพื่อน
"เข้าใจเเล้วน่า รีบไปสมัครก่อนเถอะ กูอุตส่าห์มาส่งถึงที่เลยนะมึง" เสียงของเนสเอ่ยเร่ง ผมจึงถือเอกสารเข้าไปสมัครสอบครูในสำนักงานเบื้องหน้า
ดูเหมือนชีวิตของผมจะราบรื่นแต่เอาเข้าจริงดันมีเเต่อุปสรรค กล่าวตามตรงตัวผมไม่ใช่คนของโลกนี้ ผมจำได้ว่าก่อนหน้านั้นกำลังจะซื้อปืนที่พึ่งออกใหม่ แต่สติก็ดับวูบหลังจากจับดวงแสงสีรุ้ง
ผมตื่นขึ้นมาในห้องโกโรโกโสรกรุงรัง ข้างกายมีแต่ขวดเหล้า ตรงพื้นมีอ้วกที่ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา จากนั้นก็มีความทรงจำของเจ้าของร่างหลั่งไหลเข้ามาทำเอาปวดหัวจนเหมือนจะระเบิดตูมเป็นโกโก้ครั้น
ตอนนั้นเองจึงได้รู้ว่าร่างนี้ไม่ใช่ของผม และเหมือนว่าโลกนี้จะไม่ใช่โลกเดิมที่ผมรู้จัก ผมอยากพิสูจน์สิ่งที่รับรู้จากความทรงจำ จึงเปิดประตูห้องออกไปเผชิญกับท้องฟ้ายามค่ำคืน ผมเห็นดวงดาวสุกสกาวเปล่งแสงระยิบระยับงดงามตา และดวงจันทร์ที่ที่พิสูจน์ให้รู้ว่านี่ไม่ใช่โลกเดิม
ทำไมนะหรือ ก็เพราะดวงจันทร์มันมีสองดวงยังไงล่ะ
เท่าที่รู้จากความทรงจำ เรื่องของวัฒนธรรมกับภาษาส่วนใหญ่นั้นใกล้เคียงกันราวกับถอดแบบออกมาจากโลกเดิมของผม ต่างกันแค่ชื่อเรียก แต่ก็ไม่ได้เหมือนทั้งหมด
โลกนี้มีสัตว์ประหลาด และมีเหล่านักล่าที่จัดการพวกมัน ที่สำคัญมันมีสิ่งที่เรียกว่า ก็อดกิฟต์ ซึ่งมันก็คือพลังวิเศษที่มนุษย์บางคนมีมัน
ผมรู้ว่าผมก็มี แต่มันดันไม่ใช่พลังสายต่อสู้ ก็อดกิฟต์ของผมน่าจะพึ่งถูกปลุกให้ตื่น หรือไม่ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ติดมาจากโลกเก่า
ซึ่งสิ่งนั้นก็คือมิติห้างสรรพสินค้าติดทะเลที่มีพร้อมทุกสิ่งอย่าง
ทีเเรกผมก็ไม่เชื่อ แต่เมื่อลองหยิบนมออกมาจากมิติมาดื่มดู รสชาติมันเหมือนเดิมทุกประการ ไม่สิมันอร่อยกว่าเดิมอีก ด้วยนิสัยของผมคงไม่หยุดทดสอบแค่นั้น ผมได้ลองเอาหลายสิ่งออกมาไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรี ขนม ปืน ระเบิด รถจักรยานยนต์ และเอาใส่กลับเข้าไปที่เดิม เอาออกมาอีกหลายๆครั้งจนพอใจในผลลัพธ์การพิสูจน์
เดิมทีก็คิดว่าคือความฝัน แต่สามสัปดาห์ผ่านไปได้ชี้ให้เห็นแล้วว่านี่คือความจริง
ก่อนหน้าตัวตนร่างนี้พึ่งเรียนจบใหม่ แต่โดนแฟนหลอก ทรัพย์สินเกลี้ยงเกลา แถมเป็นหนี้ห้าล้านเพราะถูกหลอกให้ใช้บ้านกับที่ดินค้ำรถหรูให้เเฟน แต่แล้วเธอก็บอกเลิกพร้อมกับพาเเฟนใหม่มาควง เขาเป็นผู้ดีมีเงินมีเส้นสายมากมาย
ด้วยความเจ็บซ้ำจิตใจจึงปวดร้าวมืดแปดด้าน ความคิดก็เตลิดเปิดเปิงวิตกด่าตัวเองว่าทำให้ครอบครัวเดือดร้อน สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการกินเหล้าหนัก กินยาบางประเภทจนช็อกตาย
แล้วตัวผมก็มาแทนที่วิญญาณเดิม
เมื่อเงินหมด งานไม่มี ก็ต้องหาวิธีทำให้ชีวิตดีขึ้น ทีแรกก็เอาของในมิติออกมาขายแต่ดันไม่มีใครซื้อ ผมจะเจอคำถามเดิมซ้ำๆว่าขอสแกนจ่ายผ่านโค้ดนักล่า ซึ่งผมไม่มีมันนี่สิ คนที่จะซื้อส่ายหน้าเเล้วเดินหนีเอาดื้อๆ
หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวผมก็ไปสมัครเป็นนักล่า แต่ว่าการจะเป็นได้ต้องมีอายุ 25 ปีบริบูรณ์ ถ้าอายุน้อยกว่านั้นให้ผู้ปกครองลงชื่อยินยอม
ซึ่งผมก็ยัง 24 ปีอยู่ อีกครึ่งปีก็จะ 25 แล้ว จึงกลับบ้านไปขอแม่ แต่กลับกลายเป็นว่าแม่ค้านหัวชนฝา ไม่ยอมให้เป็นนักล่า ไม่ว่าผมจะพูดอะไรแม่ก็ไม่ยอม สุดท้ายจึงพูดเรื่องหนี้ห้าล้าน นั่นกลับกลายเป็นว่าคำพูดของผมทำให้แม่เสียใจหนักเข้าไปอีก และจะไม่ยอมให้ผมเป็นนักล่า และกำชับคำเดียวซ้ำๆว่าอยากให้ผมเป็นข้าราชการ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากให้เป็นนักหนา แต่เหตุผลของแม่นั้นยาวเหยียดบานตะไทแม้จะเถียงกลับยังไงก็ไม่ฟังกันอีก
นั่นจึงทำให้ผมลงเอยอย่างที่เห็น
หลังจากสมัครสอบครูเสร็จผมก็พาเนสเดินทางไปบ้านติดทะเลตามที่แม่บอกและเคยพามาเมื่อนานมาเเล้ว แต่เมื่อไปถึงผมกับเนสก็มองหน้ากัน
"เชี่ยไรว่าเนี่ย" ผมกับเนสอุทานลั่น
สิ่งที่ผมกับเนสเห็นคือบ้านเก่าโทรม ๆ หลังหนึ่งที่ถูกทิ้งร้างไว้ รอบบ้านหญ้าขึ้นรกชัฏ สภาพแวดล้อมบริเวณนี้เงียบเหงาไร้ผู้คน สิ่งยืนยันที่ว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของครอบครัวผมจริงๆก็คือกุญแจบ้านที่แม่ให้มา มันสามารถเปิดประตูรั้วเหล็กขึ้นสนิมและเปิดเข้าไปในบ้านได้แม้จะต้องเคาะให้สนิมหลุดนานหน่อย
"ไอ้โต๋ กูว่าเราไปพักโรงแรมดีกว่าไหม เห็นสภาพบ้านมึงแล้วไม่น่าจะนอนได้ว่ะ" เนสเอ่ยเสนอความเห็น ผมพยักหน้ารับ สุดท้ายจึงลงเอยด้วยการหาโรงเเรมราคาถูก ซึ่งการพักโรงเเรมครั้งนี้มันทำให้เงินในกระเป๋าของผมร่อยหรอลงทุกที
เช้าวันรุ่งขึ้นเราสองคนนั่งรถเที่ยวเพื่อสำรวจดูสภาพเเวดล้อมโดยรอบว่ามีร้านค้าตรงจุดไหน ตลาดอยู่ตรงไหน ผู้คนที่นี่ใช้ชีวิตเช่นไร จากนั้นก็ไปแจ้งการประปากับการไฟฟ้าเพื่อให้เขาปลดล็อกการใช้น้ำกับไฟปัจจัยจำเป็นในการดำเนินชีวิต เสียค่าธรรมเนียมและค่าปรับจนกระเป๋าผมเหลือเงินสี่ร้อยบาท
หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จผมให้เนสไปส่งหน้าโรงเเรมโดยอ้างว่าจะพักที่นี่ไปพลางๆก่อน เมื่อเนสส่งผมเสร็จก็บอกลากัน มันจะขับรถกลับไปทำธุระต่อ
ผมถอนหายใจเฮือกหนึ่ง
"อย่างแรกต้องหาเงินก่อนสินะ" ผมเอ่ยกับตัวเอง หากจะโทรขอแม่คงทำให้ท่านหนักใจ แค่เพราะค่าใช้จ่ายทางบ้านก็เกือบจะติดลบอยู่รอมร่อ คุณพ่อเองก็ทำงานหนักแบกภาระหนี้สินครอบครัว บางครั้งก็ต้องปะทะคารมกับญาติพี่น้องเรื่องทรัพย์สินมรดก ฝ่ายลุงกับป้าก็จะเอาทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถที่ดิน หรือแม้แต่ข้าวของเครื่องใช้ของปู่กับย่าที่เสียชีวิตไปแล้ว นี่เหมารวมไปถึงของใช้ที่พ่อกับแม่หาเงินซื้อมาเองอีก
น้องสาวสามคนก็กำลังอยู่ในวัยเล่าเรียน พี่สาวอีกสองคนก็ทำงานหามรุ่งหามค่ำช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้าน คงมีแต่ผมที่เป็นลูกชายคนเดียว จึงถูกคาดหวังให้เป็นผู้นำครอบครัว นั่นจึงเป็นเหตุผลที่แม่อยากให้ผมเป็นข้าราชการโดยไม่ฟังเหตุผลใดทั้งสิ้น
ผมทำทีเป็นล้วงกระเป๋ากางเกงแต่ที่จริงแล้วกำลังเปิดมิติห้างหยิบเอาทองคำแท่งขนาด 1 บาทออกมา ด้วยสภาพผมตอนนี้หากเอาเเท่งใหญ่กว่านี้อาจกลายเป็นที่สงสัยเอาได้ ผมว่าเริ่มขายของน้อยแล้วค่อยๆขยับไปหาของใหญ่จะทำกำไรได้ระยะยาวกว่า
ผมเดินตามหาร้านทองที่ใกล้ที่สุดก็เจอร้านหนึ่งจึงเข้าไปสอบถามเรื่องขายทองที่ไม่มีใบรับประกัน ทางพนักงานร้านบอกว่าขายได้แต่ต้องขอฝนทองดูเปอร์เซ็นต์ทอง ผมตอบตกลงอย่างว่าง่าย ผ่านไปครู่หนึ่งก็ออกจากร้านพร้อมกับเงิน 32,000 บาท ไม่รู้ว่าทางร้านหักค่าอะไรไปบ้างแต่ก็ยังดีที่ได้เงิน
ผมสะพายกระเป๋าเสื้อผ้าเรียกรถรับจ้างไปส่งที่บ้านติดทะเล
สภาพบ้านก็อย่างที่เคยอธิบายไปก่อนหน้า บ้านปูนผสมไม้ที่ทิ้งร้างนับสิบปี เมื่อผมสังเกตดูดีๆก็เห็นที่ละแวกใกล้ๆมีบ้านถูกทิ้งร้างอีกหลายหลัง ผมไม่เข้าใจว่าทำเลติดทะเลดีๆแบบนี้แต่กลับไม่ค่อยมีคนอยู่อาศัย หากคิดหาเหตุผลต่อคงหาคำตอบไม่ได้ ผมจึงปัดความคิดนี้ทิ้งไปแล้วหันมาสนใจความจริงที่อยู่เบื้องหน้า
"พื้นที่ถือว่ากว้างพอตัว ไม่คิดว่าแม่จะมีที่แบบนี้ด้วย" ผมเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกทึ่ง เพราะที่ผ่านมาแม่เก็บเงียบเรื่องบ้านแห่งนี้มาโดยตลอด จะว่าไปก็ไม่แปลกที่จะปกปิดเป็นความลับ เพราะเครือญาติของผมนั้นหิวกระหายมรดก หิวในเงินตราและทรัพย์สินของครอบครัวผม ขนาดรถจักรยานยนต์ของแม่ยังถูกเอาไปให้หลานใช้เลย โทรศัพท์ใหม่ของผมที่แม่เก็บเงินซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดก็ถูกป้าขอไปให้ลูกชายแกใช้ แม้แต่เงินที่พ่อหามาได้แต่ละเดือนยังถูกแบ่งไปให้เครือญาติเกือบครึ่ง เท่านั้นยังไม่พอ ข้าวสารกับไข่ในครัวก็ไม่เว้น
ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงยอมให้พวกนั้นเอารัดเอาเปรียบขนาดนี้
"เฮ้อ คิดมากไปก็เป็นกังวลเปล่าๆ ว่าเเต่เราจะทำยังไงกับที่รกๆแบบนี้ดี" ผมเอ่ยกับตัวเอง มิติห้างที่ติดตัวผมมามันมีของเกือบทุกอย่างก็จริง แต่ส่วนใหญ่ผมจำไม่ได้ว่าแต่ละชั้นมีอะไรบ้าง
เรื่องที่ผมเอาทองคำกับปืนออกมาได้นั่นเป็นเพราะว่าผมไปจุดนั้นบ่อย เวลานึกถึงมันก็มีของอยู่ในมิติเบื้องหน้าเเล้ว
สิ่งที่ผมต้องการในตอนนี้คืออุปกรณ์ปรับที่ดิน หรือไม่ก็เครื่องจักรอำนวยความสะดวก แต่ประเด็นคือผมไม่รู้ว่ามันอยู่ชั้นไหนนี่สิ ถ้าจะไห้เข้าไปหาแต่ละชั้น กว่าจะเจอของที่ต้องการอาจใช้เวลาเป็นเดือนๆ ไม่ก็เป็นปีก็ได้
แค่ชั้นเเรกๆที่เป็นวัตถุดิบสดก็กินพื้นที่หลายโซนหลายกิโลเมตร แล้วห้างมันมีมากกว่าสี่ร้อยชั้น คนเข้าไปใช้บริการเป็นแสนยังไม่รู้สึกแออัด แม้จะให้ผมเดินทั้งวันก็คงไปไม่ถึงชั้นสองแน่
"ถ้ากดแสกนแล้วมีรถระบบเอไอมารับเหมือนโลกก่อนคงดี" ผมบ่อนอุบ การเดินห้างในโลกก่อนจะใช้โทรศัพท์แสกนหน้าห้าง เลือกรายการสินค้าก็จะมีรถขับโดยเอไอมารับแล้วพาไปยังจุดที่ต้องการ แต่ตอนนี้ไม่มีแบบนั้นนี่สิ จุดแสกนก็หาไม่เจอ โทรศัพท์ที่ผมใช้นี่ก็รุ่นดึกดำบรรพ์ รถเอไอก็ไม่เห็นสักคันอีกต่างหาก
ขณะที่ผมกำลังทำใจแล้วจะเข้าไปเดินหาสิ่งที่ต้องการในมิติ ทันใดนั้นเอง
ติ้ง!
..........
ตอนที่ 2 ระบบอำนวยความสะดวกติ้ง! เสียงบางอย่างดังขึ้นในหัวของผมพร้อมกับปรากฏหน้าจอโฮโลแกรมขึ้นเบื้องหน้า /ใช้เสียงหรือพิมพ์ในสิ่งที่ต้องการค้นหา/ ผมมองไปยังจอโปร่งใสกลางอากาศ สิ่งนี้ปรากฏโดยไม่ผ่านแว่นหรืออุปกรณ์เชื่อมภาพเสมือน มันดูแปลกประหลาดเกินไป แต่ถึงเป็นเช่นนั้นผมก็ป้อนข้อมูลผ่านคีย์บอร์ดที่ปรากฏอักษรแป้นพิมพ์กลางอากาศ /สิ่งที่ต้องการค้นหาคือเครื่องจักรปรับหน้าดิน กรุณากดยืนยันอีกครั้ง/ ผมกดยืนยันอีกครั้งไม่นานภาพเบื้องหน้าก็ปรากฏเครื่องจักรปรับหน้าดินในมิติที่ซ้อนทับกับโลกจริง /กดลากสิ่งที่ต้องการซ้อนทับพื้นที่ปัจจุบัน/ เมื่อเสียงเเจ้งดังขึ้นผมลองเลือกรถไถปรับหน้าดินพลังงานไฟฟ้าคันหนึ่ง กดตรงตัวรถแล้วลากออกมา ภาพที่เห็นจะเป็นภาพเสมือนของรถ เมื่อเอามาซ้อนทับพื้นที่ปัจจุบันจะปรากฏตารางให้เห็น สีเขียวคือสามารถวางได้เลย แต่ถ้าเป็นสีเเดงหมายถึงวางไม่ได้ ต้องหาตำเเหน่งใหม่ เมื่อตารางเป็นสีเขียวผมก็ปล่อยมือทันที /กดยืนยันหรือพูดคำว่ายืนยัน/ "ยืนยัน" ครั้งนี้ผมเลือกพูดออกมาครืน! เครื่องจักรปรับหน้าดินปรากฏทันที ด้วยน้ำหนักของมันทำให้
ตอนที่ 3 แหล่งทำเงิน สิ่งที่ผมเห็นคือปลาหลากหลายชนิด แม้กระทั่งกุ้ง กั้ง หมู่หมึกก็แหวกว่ายไปทั่ว บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของที่นี่อย่างยิ่ง ถ้าไม่ติดตรงที่มีจระเข้ตัวเขื่องเฝ้าอยู่ไม่ยอมห่างไปไหน "แสดงว่าชาวประมงที่นี่คงเก่งมากที่สามารถรอดชีวิตจากสัตว์ประหลาดนี้ได้ แล้วยังหาสัตว์ทะเลไปขายทำเงินได้อีก" ผมเอ่ยพลางมองไปยังฝูงสัตว์ทะเลที่มีจระเข้ยักษ์เฝ้าอยู่ ดูแล้วไม่น่าเข้าใกล้เลยแม้แต่นิด ของอันตรายอยู่ตรงหน้า ถ้าจะให้ผมเอาเรือลงทะเลหาปูหาปลาคงเป็นไปได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีการ ผมคิดว่าจะลองตกปลาด้วยเบ็ดดู ถ้าทดลองแล้วได้ผลดีก็จะใช้วิธีนี้ มันอาจหาได้ไม่เยอะเท่าลงเรือ แต่ก็น่าจะปลอดภัยกว่า อีกอย่างผมไม่ได้ต้องการพวกมันจำนวนมากเสียหน่อย ตกเอาเเค่ตัวที่มีชีวิตสักสองสามตัวให้มันดิ้นไปมาพอเป็นพิธี เพื่อยืนยันให้เหล่าคนรับซื้อเข้าใจว่าผมได้จับจากทะเลจริง คิดได้ดังนั้นก็หาทำเลเป็นเเถวโขดหิน ผมค้นหาเบ็ดครู่หนึ่ง เลือกคันที่เหมาะมือ นอกจากนี้ผมได้เลือกเหยื่อปลากับเหยื่อกุ้งมาด้วย เหวี่ยงคันเบ็ด รอปลากินเหยื่อ ครู่เดียวก็ได้มาแล้วหนึ่งตัว เป็นปลากะพงขาวน้ำห
ตอนที่ 4 วันสอบ การขายครั้งที่สองเป็นอย่างราบรื่น แม้หน้าของลุงแผนกต้อนรับจะไม่ค่อยชื่นมื่นเท่าไหร่ แกคงจะเครียดเรื่องงานไม่ก็ทางบ้าน ผมคิดแบบนั้น เมื่อขายกุ้งเสร็จผมก็ได้เงินมา 48,000 บาทถ้วน ผมไปซื้อข้าวแกงข้างทางกินหมดเงินไปหกสิบบาท รสชาติเค็มอีกต่างหาก หลังจากกินข้าวเสร็จก็กลับบ้านทันที เพราะผมยังคงต้องอ่านหนังสือสอบ ที่จริงก็ไม่อยากจะอ่านสักเท่าไหร่ เนื่องจากผมไม่ได้อยากเป็นครูหรือข้าราชการ เพราะมันไม่เหมาะกับผม ในโลกก่อนเองผมก็ไม่ได้เลือกเส้นทางสายการสอน แต่ชอบสายการสู้มากกว่า พูดถึงการสู้รบปรบมือ โลกก่อนเราไม่ค่อยมีสงครามระหว่างมนุษย์ด้วยกันเองแต่จะทำสงครามกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่มารุกรานฆ่าฟันมนุษย์เราอย่างเหี้ยมโหดเสียมากกว่า จะว่าไปผมยังไม่ได้วิวัฒนาการร่างกายเลย ด้วยความอ่อนเเอในตอนนี้เกรงว่าแค่วิ่งร้อยเมตรก็หอบขึ้นคอแล้ว เมื่อผมกลับถึงบ้านผมค้นหนังสือในกระเป๋า มันเป็นหนังสือเพียงเล่มเดียวที่เพื่อนเนสยัดใส่กระเป๋าผม นอกเหนือจากนั้นก็เป็นเสื้อผ้ากับเอกสารสำคัญ ผมหยิบหนังสือมาเปิดอ่าน ผ่านไปครู่หนึ่งก็รู้สึกงุนงงกับการเตรียมพร้อมเนื้อหาสอบ "กฎหมาย
ตอนที่ 5 วิวัฒนาการ อาหารภัตตาคารนั้นราคาแพง แต่รสชาติอร่อย เบื้องหน้าผมเป็นชุดเซตอาหารทะเล มีปลาทอดราดซอส กุ้งมังกรอบเนย ผัดปลาหมึกทะเล และรายการอื่นๆที่ผมไม่รู้จัก โต๊ะทั้งโต๊ะมีผมนั่งคนเดียว เหลียวเเลไปที่ไหนไม่เห็นใครเพราะเป็นห้องส่วนตัว ผมจึงลงมือรับประทานอย่างสบายใจจนท้องอิ่ม เมื่อพนักงานบริการเห็นว่าผมกินเสร็จแล้วเขาก็เชิญไปยังสถานที่อีกแห่ง มันคือห้องพัก ในห้องมีชุดนอนและเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนเตรียมให้พร้อมสรรพ มีกาน้ำร้อน ชุดชากาแฟสองชุด อุปกรณ์ตกแต่งห้องครบครัน ผมไม่รอช้าอาบน้ำอาบท่า เเต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า เปิดเครื่องปรับอากาศแล้วล้มตัวลงนอน ตื่นอีกทีคือตอนเช้าตรู่ ผมเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเปลี่ยนชุดเป็นชุดเดิมของผมเมื่อวาน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังแผนกรับซื้อ ลุงเขาได้นำใบรายการมาให้ผม มันระบุชนิดสัตว์ทะเล ขนาด และราคารับซื้อกุ้งมังกรเจ็ดสี มี 4 ไซส์ คือ เล็ก กลาง ใหญ่ และใหญ่พิเศษ ไซส์เล็ก 160 กิโล รับซื้อกิโลละ 4000 รวมได้ 640,000 บาทไซส์กลาง 60 รับซื้อกิโลละ 5000 รวม 300,000 บาท ไซส์ใหญ่ได้เงิน 78,000 ส่วนใหญ่พิเศษได้ราคา 80,000 บาท นอกจ
ตอนที่ 6 บรรจุ เสียงเครื่องจักรไฟฟ้าดังขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ผมกำลังขุดพื้นลึก 1 เมตร ในพื้นที่กว้าง 10 ตารางเมตร จากนั้นทำการตอกเสาเข็มยี่สิบต้น ตามด้วยการเทปูนผสมลงไป เมื่อเทปูเสร็จก็นำหุ่นยนต์เอไอออกมา เป็นหุ่นยนต์สำหรับจัดการเกลี่ยพื้นให้ราบเรียบโดยเฉพาะ ผมเข้าบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวนอนปล่อยให้หุ่นทำหน้าที่ของมันไป เมื่อทำเสร็จมันจะปิดการทำงานอัตโนมัติ ตื่นเช้ามาผมจัดการเตรียมเอกสารไปสัมภาษณ์ ก็มีเเค่บัตรประจำตัวประชาชน บัตรผู้สมัครสอบ แล้วก็เครื่องเขียนจำเป็น เมื่อตรวจสอบแล้วไม่มีอะไรผิดพลาดก็ไปอาบน้ำเเต่งตัวชุดสุภาพ โทรหาพี่คนขับรถบริการ อุดหนุนน้ำในมิติของเขาสองขวดพี่เขาก็ไปส่งถึงข้างในสถานที่สอบ วันนี้มีคนมาสอบสัมภาษณ์จำนวนมาก แต่ละคนต่างเตรียมข้าวของรกรุงรัง บางคนเตรียมเเฟ้มสะสมผลงาน เตรียมแผ่นพับนำเสนอตัวเอง ทั้งนี้ผมยังเห็นหลายคนกำลังตรวจสอบโปรแกรมนำเสนอในเครื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาด้วย สีหน้าทุกคนจริงจัง สายตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น หลายคนมองผมด้วยสายตาแปลกๆ ก็เป็นธรรมดาที่ถูกมองแบบนี้ เพราะผมไม่ได้เตรียมตัวห่าเหวอะไรมาเลย ในใจผมยังคิดอยาก
ตอนที่ 7 มีเรื่อง เสียงทักทายของนักล่าในพื้นที่ตะโกนมาทางผม ชายผู้เป็นเจ้าของเสียงเดินกร่างเข้ามาหวังหาเรื่อง "ตี้นี้ไม่รับใครเพิ่ม ไปหาที่อื่นเลยชิ่วๆ ไอ้พวกชอบเกาะคนเก่ง" จากคำพูดเหมือนชายคนนันจะคิดไปเอง ผมจึงไม่สนใจเขา สายตาของผมมองไปที่จระเข้ยักษ์ที่กำลังขึ้นจากน้ำต่างหาก แต่เมื่อชายคนนั้นเห็นผมเมิน มันกลายเป็นว่าไปสะกิดต่อมโกรธของเขา ชายคนนั้นคว้าหมับเข้าที่ลำคอของผมแล้วออกแรงบีบ อันที่จริงผมสามารถหลบได้ไม่ยาก แต่ผมไม่อยากหลบ "เฮ้โทมัส อย่าแกล้งเด็กใหม่น่า ดูสิ เกราะก็ไม่ใส่ อาวุธก็ไม่มี ยังไงหมอนี่ก็สู้แรงค์ E กิฟต์พละกำลังอย่างนายไม่ได้หรอก" เสียงหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยด้วยท่าทีดูถูกดูแคลน "หึ ก็ไอ้หน้าอ่อนนี่มันกวนฉันนี่หว่า" "ผมกวนคุณยังไง" เสียงเรียบนิ่งของผมเอ่ย ชายชื่อโทมัสชะงักไปครู่หนึ่ง "ฮึ่ม ไอ้เด็กไม่รู้จักมารยาท ขอสั่งสอนให้มันหลาบจำสักหน่อย จะได้รู้ว่าไม่ควรหยามกับโทมัส" เสียงของโทมัสเอ่ยด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด เขาทำให้ผมเป็นเป้าสายตาของนักล่าหลายคน แรงบีบของโทมัสเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เส้นเลือดที่เเขนของเขาเด่นชัดมากขึ้นบ่งบ
ตอนที่ 8 สมาคมนักล่าสาขาคูป้าบริสเพี๊ยะ!"พี่ตบหน้าผมทำไม""แกยังไม่รู้ตัวอีกไอ้น้องเวร" เสียงของรองผู้จัดการสมาคมตะคอกใส่โทมัสอย่างเกรี้ยวโกรธ เขาโยนโทรศัพท์ที่มีคลิปวิดีโอคลิปหนึ่งให้โทมัสเมื่อโทมัสได้ดูจนจบสีหน้าก็เปลี่ยนไปซีดเผือด"นี่มันไม่จริง คลิปนี้เป็นของปลอมแน่ๆ" เสียงของโทมัสปฏิเสธไม่ยอมรับ "แกคิดว่าฉันโง่เหรอไง คลิปนี่ไม่ได้อัพโหลดโดยนักล่าเพียงคนเดียว แต่มันมากถึงสิบคน ถ้าแกดูคลิปต่อๆไป แกก็จะรู้เองว่านักล่าที่เเกบอกให้ฉันเล่นงานมันใจดีแค่ไหนที่ต่อยแกเพียงกรามหัก" เสียงของรองผู้จัดการเอ่ย โทมัสเลื่อนดูคลิปอื่นๆที่เกี่ยวข้อง สีหน้าของเขาซีดมากกว่าเดิม จัดการจระเข้ยักษ์ได้อย่างง่ายดายต่อยจระเข้ยักษ์มันจนเซล้มกระโดดข้ามจระเข้ยักษ์ครอบครองอาวุธที่มีอำนาจเจาะทะลุสูงสู้กับจระเข้ยักษ์เป็นฝูงโทมัสยิ่งเห็นความคิดเห็นของเหล่านักล่าที่วิพากษ์วิจารณ์ และหัวข้อใหญ่อีกประเด็นหนึ่งที่มีผู้เข้าชมเเสดงความคิดเห็นมากไม่เเพ้กัน/สมาคมสาขาxxxไร้ความเป็นธรรม/หัวข้อนี้มีคลิปการสนทนาของโต๋กับพนักงานเคาน์เตอร์ บทสนทนาพูดชื่อของรองผู้จัดการ/รองผู้จัดการทำไม่ถูก นี่เขาใช้อำนาจกลั่นแก
ตอนที่ 9 ทำภารกิจเช้านี้ผมตื่นมาด้วยความสดชื่นแจ่มใส หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ออกไปรับประทานอาหารข้างนอก ผมเล็งภัตตาคารฮอตสตาร์ไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว วันนี้เองจะได้ลองลิ้มรสอาหารทะเลที่นั่นบ้างถนนมีรถเเล่นมากมายหลายคัน ตรงทางเดินเท้ามีคนสัญจรว้าวุ่นอลม่านทั้งเหล่าหนุ่มสาววัยทำงานไฟแรง ทั้งเหล่านักล่าที่เเต่งตัวโดดเด่นกว่าคนอื่น ผมรู้สึกว่าวันนี้มีนักล่าเยอะกว่าเมื่อวานมากหลายเท่า พวกเขาอาจจะกำลังกลับมาจากการทำภารกิจล่าประจำวันของตนผมเรียกใช้บริการรถรับส่งแทนที่จะขี่จักรยานยนต์ เมื่อไปถึงภัตราคารฮอตสตาร์ก็ไม่รอช้าเดินเข้าไปด้านในพนักงานบริการเข้ามาต้อนรับ สอบถามว่าได้จองโต๊ะไว้ไหม เมื่อผมบอกว่าไม่ได้จองเขาก็พาไปยังโซนโต๊ะว่าง ผมกวาดสายตามองไปรอบๆที่นี่ตกแต่งสวยหรูอลังการมาก เมื่อพนักงานเอาเมนูอาหารมาให้ผมก็เลือกเมนูทะเลมาสามเมนู และเมนูเนื้อผัดซอสอีกหนึ่ง ขณะนั้นเองผมเห็นผู้คนทยอยเข้ามาอย่างคับคั่ง ครู่เดียวชั้นที่ผมนั่งก็ไม่มีโต๊ะว่าง บ่งบอกถึงความนิยมชมชอบ แตกต่างจากภัตราการคุณมิวที่อยู่ตรงข้ามราวฟ้ากับเหว"กุ้งมังกรราดซอส ปลาหมึกย่างสูตรพิเศษ ตุ๋นปลาทะเล และเน้ือผัดซอส" พน
ตอนที่ 29 ลงตัว จบภาคการลงเสากั้นอาณาเขตที่หาดวังกระถินกับหาดแม่ปริกนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น ผมลงห่างจากชายทะเลประมาณสองกิโลเมตร เสาที่ใช้มีความสูงสามร้อยเมตรต่อต้น ระหว่างลงเสาผมพบปลาฉลามยักษ์หลายสิบฝูงแหวกว่ายวนเวียนอยู่เเถวนั้น พวกมันเว้นระยะไม่เข้ามาใกล้จนเกินไปเพราะรู้ว่าเป็นถิ่นของจระเข้ยักษ์ นั่นทำให้ผมโล่งอกโล่งใจไม่เบา อย่างน้อยตอนนี้ก็มีศัตรูเพียงจระเข้ยักษ์ ท้องทะเลเต็มไปด้วยอันตรายรอบด้าน แต่ในความอันตรายก็มีความอุดมสมบูรณ์อยู่เช่นกัน บรรดาสัตว์น้ำต่างเเหวกว่ายไปตามวิถีชีวิต เพราะไม่ได้ถูกล่าจากมนุษย์จำนวนประชากรสัตว์ทะเลจึงมากมายมหาศาล หลังจากลงเสาเสร็จผมเลือกหาทำเลกลางทะเลตรงหาดแม่ปริก ลงเสาเข็มร้อยต้นยึดพื้นผืนทราย จากนั้นก็เข้าไปค้นหาตัวอย่างรีสอร์ทกลางน้ำหลังขนาด 20 คูณ 40 ตารางเมตร มีสามชั้น เป็นเหลาอาหารกลางน้ำที่ตกเเต่งเฟอร์นิเจอร์ครบครัน มีโต๊ะเก้าอี้จัดเรียงสบายตาด้วยฝีมือของนักออกแบบชั้นนำ เหลาอาหารรีสอร์ทกลางน้ำนี้ทำด้วยกระจกหนาพิเศษกันกระสุนรถถัง เป็นเหลาที่ใช้ต้อนรับผู้นำการรบประเทศต่าง ๆ ผนังกระจกสามารถเปิดออกรับลมด้านนอกได้ มีจุดสำหรับพักผ่อนหย่อนใจไม่ว่า
"สถานการณ์มันแปลก ๆ ปกติจระเข้ยักษ์ไม่ได้เพิ่มจำนวนเร็วขนาดนี้" ผมเอ่ยกับตัวเองเมื่อมองไปยังทะเลที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ธุรกิจของผมกำลังดำเนินการคงจะให้ยกเลิกกลางคันไม่ได้"คงต้องไปตรวจสอบสักหน่อย" ผมเอ่ย เเละนำบอร์ดออกมาโยนขึ้นฟ้า กระโดดขึ้นยืนบนบอร์ดเเล้วบังคับทิศทางพุ่งสู่ท้องทะเลกว้างใหญ่ นี่นับเป็นครั้งเเรกที่ผมได้ออกสำรวจท้องทะเลมุมสูงผมเห็นฝูงจระเข้ยักษ์หลายสิบฝูงกำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางต่าง ๆ ทั้งหาดทาร์ก หาดเเม่ปริกและหาดอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง ผมทวนกระเเสทิศทางที่จระเข้ว่าย ท้องทะเลนั้นยากแท้หยั่งถึง จระเข้ยักษ์เริ่มเห็นจำนวนชัดเจนมากขึ้นจากหลักร้อยกลายเป็นหลักพัน และในที่สุดผมก็เจอเกาะขนาดใหญ่เเห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยเหล่าจระเข้ยักษ์นับเเสนตัว"จระเข้ยักษ์มันเพิ่มจำนวนเร็วขนาดนี้เลยเหรอวะ เอ๊ะ นั่นมัน" ผมเอ่ยอุทานเมื่อเห็นฝูงจระเข้ยักษ์จำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ปรากฏให้เห็นมันเป็นสิ่งที่พบเคยพบเจอมาเเล้วในอดีต"วาร์ปเกท บรรลัยของจริงเลยงานนี้" ผมอุทานลั่นจระเข้ยักษ์นับแสนตัวยั้วเยี้ยเดินต้วมเตี้ยมตุ๊ต๊ะเต็มเกาะขนาดใหญ่ ประเด็นสำคัญยิ่งกว่านั้นคือวาร์ปเกทขนาดใหญ่มากพอที่จะ
ตอนที่ 28/1 เกาะกลางทะเลการกระทำของฮอตสตาร์ในครั้งนี้ได้ลดความน่าเชื่อถือของเครือบริษัทลง แม้ว่าจะมีการออกมาขอโทษกับข้อผิดพลาดในภายหลังแต่ก็กู้หน้ากลับคืนได้ไม่มากนัก ในด้านของหาดแม่ปริกเริ่มมีการก่อสร้างขึ้นเเล้ว อาจเป็นการวางโครงแบบมาร์คไว้ตามจุดต่างๆ แต่ไม่นานก็จะเป็นรูปร่างขึ้นมาผมนำเสาเข็มที่ได้มาตรฐานจากมิติไปวางกองไว้ตามจุดมาร์คหลายแสนต้น ด้านคุณนนท์ก็ติดต่อประสานงานจ้างคนมาตอกเสาเข็ม นักล่าบางส่วนมาทำหน้าที่ลาดตระเวนชายหาดเพื่อดูแลความปลอดภัยฝั่งฮอตสตาร์เองก็ประสบปัญหาใหญ่คือการเพิ่มจำนวนของจระเข้ยักษ์ที่ทยอยว่ายน้ำเข้ามาพักอาศัยที่หาดทาร์ก นักล่าต่างพากันถ่ายรูปและลองคำนวณจำนวนจระเข้ยักษ์ที่เข้ามาเกยตื้นชายหาด มีการโพสต์วิดีโอลงในโชเชียล ผู้คนต่างก็แห่กันมาคอมเม้น /แม่เจ้าโว้ย กรรมตามสนอง พวกคุณเห็นบริษัทฮอตสตาร์ออกมาประกาศหรือยัง ว่าออกเควสกำจัดจระเข้ยักษ์ตัวละ 3.2 ล้าน ครั้งนี้รางวัลน้อยกว่าเดิม และผู้นำก็มายืนยันด้วยนะว่าจ่ายจริงแน่นอน//ใครจะไปก็ไป ตี้กูหนึ่งละที่ไม่ไปแน่ ครั้งก่อนบอกจ่ายห้าล้านก็เบี้ยวกูเหลือแค่ล้านห้าราคาตลาด เเล้วเห็นคลิปจระเข้ยักษ์เกยตื้นยัง กูนั
"ทุกคนเห็นว่ายังไง" เสียงผู้นำตระกูลฮอทสตาร์เอ่ย“เราไม่ควรจ่ายเต็มจำนวนครับ”“เห็นด้วยครับ ควรจ่ายแค่ที่มีหลักฐานยืนยันพอ”“เห็นด้วยค่ะ เพื่อไม่ให้บริษัทของเราขาดทุน”ด้วยการยกมือเเละให้ความเห็นจากองค์ประชุมส่วนใหญ่จึงสรุปว่าจระเข้ยักษ์อาจถูกล่ามาจากแหล่งอื่น“ผมว่าเราไม่ควรทำแบบนี้นะครับ หากจะให้เขาเอาหลักฐานยืนยันมาทางเราควรเเจ้งตั้งเเต่เนิ่น ๆ มาเเจ้งทีหลังเเบบนี้มันเหมือนกับว่าเราไปหลอกลวงเขา” สมาชิกที่ไม่เห็นด้วยเเย้งออกมา“ผมก็ด้วย อันที่จริงจระเข้ยักษ์รับซื้อในราคา 3 ล้านบาทในประเทศเรา หากบริษัทเอาไปบริหารจัดการเเยกสัดส่วนแปรรูปขายในผลิตภัณฑ์หลากหลายด้านไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าแบรนด์ฮอตสตาร์ เนื้อจระเข้ยักษ์สำเร็จรูป เราอาจได้กำไรเยอะกว่าเงินรางวัลที่ตั้งไว้ แบบนี้ไม่ว่าจระเข้ยักษ์จะมาจากท่ไหนก็มีเเต่เราที่ได้กำไรกับผลประโยชน์” เสียงสมาชิกอีกคนเอ่ย“ไม่เห็นด้วย พูดแบบนี้มันโง่เกินไป จากทีมวิเคราะห์ของดิฉันถ้าเรานำจระเข้ยักษ์ทั้งตัวมาทำกำไร เราจะได้เเค่ 3.5 ล้านบาทเท่านั้น คำพูดของคุณที่กล่าวมามันต้องใช้นักวิจัยและนักวิเคราะห์เพื่อหาองค์ประกอบความเข้ากันได้ของผลิตภัณฑ์ รวมถึงต้อง
ตอนที่ 27/1 เรื่องเร่งด่วนสีหน้าคุณนิวดูเคร่งเครียดเป็นกังวล ผมรินน้ำเย็นให้จิบอาการกังวลก็ทุเลาลงบ้าง"มีอะไรเหรอครับคุณนิว ที่ว่าเรื่องด่วน" ผมเอ่ยถามออกไป คุณนิวสูดหายใจเข้าลึกแล้วพ่นลมออกมาฟู่ว"ตอนนี้เครือฮอตสตาร์ตัดราคาสินค้าและบริการของเราทุกทางเลยครับ ผู้คนก็แห่กันไปทำสัญญาร่วมกับทางนั้นหมด ภัตราคารและบริการเครือบลูซี่เเทบไม่มีคนเข้าแล้วครับ" คุณนิวเอ่ย เขาคงศึกษาเรื่องอัตราค่าใช้จ่ายและกำไรในการทำแบบนี้ของฮอตสตาร์มาแล้ว และผลคือทางนั้นได้กำไลมากกว่าเสีย สีหน้าจึงเป็นกังวลอย่างที่เห็น"พ่อคุณนิวยังไม่บอกเหรอครับว่าไม่จำเป็นต้องกังงลเลยด้วยซ้ำ และไม่ต้องทำอะไรด้วย ไม่นานก็ดีขึ้น ความต้องการของมนุษย์ไม่หยุดอยู่กับที่หรอกครับ" ผมเอ่ยปลอบใจ"อีกอย่างตอนนี้ฮอตสตาร์กำลังทำสถานที่ท่องเที่ยวถัดจากหาดแม่ปริก พวกเขาทุ่มทุนให้นักล่าไปจัดการจระเข้ยักษ์ โดยให้ตัวละ 5 ล้านครับ มีนักล่าแห่กันไปล่าจระเข้ยักษ์ที่นั่นเยอะเลย สายข่าวผมบอกว่าพวกฮอตสตาร์จะทำภัตราคารหรูริมทะเลและกำลังวางแผนสร้างโรงเเรมสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยครับ" คุณนิวเอ่ย"ก็ดีสิครับ""ไม่ดีครับแบบนี้ ก็คุณโต๋วางแผนสร้างที่ท
"คุณนิว เรามาเปิดร้านพิเศษกันเถอะครับ สำหรับนักล่าที่เข้าร่วมการล้างบางแก๊งค้ามนุษย์จะได้อภิสิทธิ์ในการซื้ออาวุธ คล้ายๆกับที่ผมมี แต่ทางตระกูลบลูซี่อาจต้องออกหน้าในเรื่องนี้นะครับ นอกจากนี้ผมจะให้ยืมอาวุธและอุปกรณ์สำหรับทลายแก๊งค์ค้ามนุษย์ให้กับนักล่าแต่ละปาร์ตี้ในนามของสินค้าพิเศษตระกูลบลูซี่ ถือว่าให้ทดลองใช้ก่อน ถ้าถูกใจก็ขายในราคาพิเศษ" ผมเอ่ย เรื่องกิฟต์ของผมคุณนิวทราบอยู่แล้ว เราจึงคุยกันง่ายผมเอายาเปิดปากออกมาหลายสิบชุด"ช่วงแรก ๆ ผมจะยังไม่เข้าร่วม แต่จะบอกวิธีใช้งานเจ้านี่ให้ และรบกวนคุณนิวบอกให้พวกเขาเก็บโทรศัพท์และอุปกรณ์สื่อสารของพวกมันมาด้วย จะให้ดีให้นักล่าสายมิติเอารถพวกมันมาด้วย ผมจะค้นหาที่ซ่อนให้เอง" ผมเอ่ยและคุยรายละเอียดปลีกย่อยกับคุณนิว"หลังจากรีดข้อมูลเสร็จผมได้สั่งให้ส่งพวกมันไปลงนรกซะ จะไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว" คุณนิวเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังผมนำปืนในมิติออกมาส่วนหนึ่งมอบให้คุณนิว มันเป็นปืนที่คุณภาพไม่สูงนักแต่อานุภาพยังคงเหนือกว่าปืนของโลกนี้ คุณนิวเองก็เร่งจัดการอย่างเต็มที่ เหล่านักล่าที่มาร่วมมือมาจากสาขาคูป้าบริสทั้งสิ้นการดำเนินภารกิจนี้ต้องละเอียด เค
ตอนที่ 26/1 จัดการเบื้องหลังวันนี้ครูในโรงเรียนวุ่นวายกันแต่เช้าด้วยการทำเรื่องรับสมัครนักเรียน มีผู้ปกครองพาเด็กมาสมัครกว่าหกสิบคน ทีแรกทางโรงเรียนจะรับสมัครปีต่อปี แต่ผู้ปกครองหลายคนไม่อยากให้ถึงสิ้นปีภาคเรียน ครูแก้วจึงรับสมัครไว้ก่อน และให้มาเรียนในภาคเรียนที่สอง ในส่วนของภาคเรียนแรกก็ให้เด็กเรียนโรงเรียนเดิมตามปกติจากที่ครูไนท์เข้ามาขอโทษขอโพยที่เปิดเผยแรงค์ของผม ทำให้เป็นที่สนใจของชาวบ้าน แม้แต่ทางสำนักงานก็ส่งคนมาเยี่ยมเยียนโรงเรียน มีการให้ของขวัญปลอบใจนักเรียนที่ปลอดภัยกลับมา ส่วนเด็กอีก 18 คนที่ช่วยมาได้พบว่าเป็นเด็กจากโรงเรียนวังกระถิน 6 คน เด็กอนุบาลสามโรงเรียนเทศบาลทาร์กสองคน และที่เหลือเป็นนักเรียนจากโรงเรียนอื่นซึ่งอยู่ภายในจังหวัดความว้าวุ่นพุ่งเข้าสู่กระทรวงศึกษาและผู้พิทักษ์สันติราช พวกเขาต่างเคร่งเครียดเร่งนะดมกำลังค้นหาไล่ล่าแก๊งค้ามนุษย์ ข้อมูลที่ได้รับจากคนที่ผมไว้ชีวิต พวกเขาบอกว่ามีการสร้างกระท่อมในป่าและตระเวนจับเด็กไปขายที่ชายแดนจังหวัดหนึ่งในภาคเหนือ ราคาเด็กจะดีกว่าราคาผู้ใหญ่ ปกติจะเอาคนติดหนี้สินท่วมหัวเอาตัวไม่รอดไปขาย หรือไม่ก็พวกเร่ร่อนระหกระเหินไ
ถึกๆๆๆๆตูมๆๆ"เห้ย กระจายตัวเร็ว พวกเราถูกโจมตี อัก" เสียงโจรลักพาตัวคนหนึ่งตะโกนสั่งการแต่ก็ถูกจัดการในทันทีปังๆๆๆๆปังๆๆๆเสียงปืนดังขึ้นระงม โจรยิงไปยังทิศทางต่างๆ พวกเขาไม่รู้ว่าผู้โจมตีอยู่ตรงไหน"รีบหามันให้เจอเร็วเข้า" เสียงของหนึ่งในพวกโจรตะโกนลั่น พวกที่อยู่ด้านนอกต่างคว้าอาวุธวิ่งไปยังจุดยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับสถานการณ์คับขันนี้ ในโล่กลมป้องกัน มีแสงจากโล่พอให้เห็นใบหน้าซึ่งกันเเละกัน เด็กๆได้ยินเสียงปืน แต่ความดังนั้นลดลงอย่างมาก ทำให้หลายคนยังพอตั้งสติได้"มันเกิดอะไรขึ้น" เสียงของเด็กผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ"น่าจะมีคนมาช่วยพวกเรา ต้องเป็นครูโต๋และครูไนท์แน่นอน" ฟ้าใสตอบพลางเช็ดน้ำตาด้วยเเขนเสื้อติ้ดๆ/ตอนนี้นายท่านปลอดภัยแล้ว ต้องการติดต่อไปทางโรงเรียนหรือไม่/ จู่ๆเสียงนาฬิกาของฟ้าใสดังขึ้น"เอ๋ ไม่ใช่ว่าพังไปแล้วเหรอ" ฟ้าใสเอ่ย เพราะก่อนหน้านี้นาฬิกาถูกทุบจนหน้าจอแตก ตัวเลขก็รวนแล้วดับไป แต่ตอนนี้กลับไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน/เราสร้างมาจากวัสดุพิเศษ ไม่สามารถพังได้เพียงเพราะเเรงกระเเทกเล็กน้อย แต่เป็นกลไกการล่อหลอกให้ตายใจด้วยหน้าจอแตกปลอมๆ ระบบจำเป็นต้อ
ตอนที่ 25/1 ขบวนการค้ามนุษย์บรรยากาศตอนนี้ดูสับสนวุ่นวายเมื่อข่าวนักเรียนถูกลักพาตัวขึ้นรถตู้เเพร่สะพัดออกไป ผมรีบพานักดรียนที่สอนไปรวมกลุ่มกับนักเรียนคนอื่นที่ห้องประชุมโดยมีครูแก้วกับครูอ้อมคอยดูแล ครูแก้วนั่งไม่ติดที่เดินร้อนรนนิดต่อหาคนนั้นทีคนนี้ที สีหน้ากระวนกระวายจนผมกลัวว่าแกจะเป็นโรคหัวใจเพราะเรื่องนี้"คุณตำรวจหาเส้นทางที่รถตู้กระจกทึบวิ่งไปไม่เจอเหรอคะ แล้วกล้องวงจรปิดจากถนนจับภาพไม่ได้เลยเหรอ ตอนนี้หนูฟ้าใสจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ ป่านนี้คงร้องไห้แน่เลย ฮือ ๆ” ครูแก้วเอ่ยด้วยความเป็นกังวล เสียงของเธอสะอื้น หลังจากวางสายก็ติดต่อไปเบอร์อื่นอีก"สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ" ผมเอ่ยถามครูอ้อม สีหน้าครูอ้อมดูเป็นกังวลไม่แพ้กัน"ยังไม่รู้เลยค่ะ ชาวบ้านมาเเจ้งว่ามีชายชุดดำลงจากรถตู้มาจับน้องฟ้าใสขณะที่กำลังปั่นจักรยานมาโรงเรียน เขาพยายามขับมอเตอร์ไซค์ตามและโทรหาตำรวจ แต่ก็ถูกรถคันนั้นถอยชนอย่างเเรง ฟื้นตัวอีกทีก็อยู่บนรถกู้ภัย จึงรีบเเจ้งสิ่งที่ตัวเองเห็นทันทีแม้จะบาดเจ็บอยู่ ทางกู้ภัยก็เร่งประสานงานและโทรมายังโรงเรียนนี่แหละค่ะ ตอนนี้ตำรวจยังไม่ได้เบาะแสอะไรเลย โถ่ ฟ้าใสของครู"