บทที่ 2 ปะทะป้ามหาภัย
หลิวหลิวเดินออกจากห้อง ชิงเทียนน้องชายเห็นท่าไม่ดีกลัวว่าจะทำให้เกิดเรื่องใหญ่ตามมาทีหลังรีบดึงมือเธอเอาไว้ก่อน
“พี่ชิงฮวา พี่พึ่งหายจากการเป็นไข้อย่าหาเรื่องให้คุณป้าทำร้ายพี่อีกเลย แค่ได้กินก้อนแป้งพวกเราก็อิ่มมากแล้วไม่อยากให้พี่ต้องมานอนไม่ได้สติแบบนี้อีก” หลิวหลิวหันกลับมามองมือเล็กที่สั่นเทาจับเธอเอาไว้แน่นสายสัมพันธ์ความเป็นห่วงเป็นใยต่อพี่ทำให้หลิวหลิวเจ็บจี้ดที่ใจ ยกมือลูบที่หัวของเด็ก ๆ อย่างเอ็นดู
“ชิงเทียนพี่จะไม่ยอมทนคุณป้าอีกต่อไป บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณพ่อเป็นบ้านของเรา พี่จะไม่ทนให้ป้าใช้งานเราและโขกสับเราอีกต่อไป ไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่จะไม่ให้คนพวกนั้นทำอะไรเราได้อีก”
"จะทำแบบนั้นได้จริง ๆ หรือครับ "
"ได้สิ มาเถอะไปที่ห้องครัวกัน "หลิวหลิวเห็นร่างกายของเด็กทั้งสองที่ผอมแทบเหลือแต่กระดูกคงไม่ได้กินอะไรดี ๆ เลยสินะ เธอไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้นแค่ดูในทีวีเธอแทบอยากจะเข้ามาจัดการผู้เป็นป้า ในเมื่อตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้วเธอจะไม่ให้พวกนั้นมาทำอะไรเธอกับน้อง ๆ ได้อีก
สกุลไป๋เป็นตระกูลที่ร่ำรวยมีลูกสามคนด้วยกัน คือไป๋ชิงฮวา ไป๋ชิงเทียนและไป๋ชิงหนี่ว์ที่เป็นฝาแฝด เด็กทั้งสามคนเติบโตมาอย่างดีจนกระทั่งพ่อกับแม่ของเธอต้องเจออุบัติเหตุทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ลู่ซิ่นเจี่ยวพี่สาวของพ่อไป๋ชิงฮวาเมื่อรู้ข่าวจึงรีบมาดูแลเด็ก ๆ เพราะรู้ดีว่าบ้านสกุลไป๋มีสมบัติมากเพียงใด เธอเป็นคนโลภหลังจากสามีของเธอตายไปทิ้งให้เธอเลี้ยงลูกชายและลูกสาว เมื่อเธอเห็นหนทางสบายและร่ำรวยโดยไม่ต้องทำอะไรจึงอาศัยช่วงเวลาที่ตระกูลไป๋เศร้าโศกเสียใจมาเป็นผู้ดูแลเด็ก ๆ เพราะตอนนั้นไป๋ชิงฮวามีอายุเพียงสิบหกปี น้อง ๆ อายุเพียงแค่สามขวบเท่านั้นจึงยังไม่รู้ประสีประสาคิดว่าการปรากฏตัวของคุณป้าจะทำให้พวกเธอรู้สึกว่ามีญาติผู้ใหญ่คอยดูแล แต่ทว่ากลับกันตั้งแต่เธอเข้ามาอยู่ในบ้านสกุลไป๋ เธอทำตัวเหมือนเป็นเจ้าบ้านพาลูกชายที่อายุมากว่าไป๋ชิงฮวาถึงสามปีเข้ามาอยู่ด้วยและลูกสาวของเธออายุน้อยกว่าไป๋ชิงฮวาหนึ่งปี ทั้งสองพี่น้องนิสัยไม่ต่างจากผู้เป็นแม่ เข้ามายึดห้องของไป๋ชิงฮวาและห้องของน้อง ๆ จึงตกเป็นของลูกชายและลูกสาวของป้า พวกเธอต้องย้ายไปนอนห้องเก็บของแทน เธอถูกต้าหลงลูกชายคุณป้าและเหมยอิ๋งใช้งานอยู่ตลอดเวลาจนตอนนี้ผ่านมา สี่ปีแล้วที่เธอถูกรังแกข่มเหง
หลิวหลิวเดินเข้ามาในห้องครัวเปิดตู้กับข้าวเห็นไก่ต้มน่ากินจึงยกจานไก่ออกมาให้เด็ก ๆ พร้อมเดินไปเปิดดูหม้อข้าวเห็นว่าข้าวก็มีเต็มหม้อจึงไม่รอช้ารีบตักใส่จานยื่นให้เด็ก ๆ คนละจาน
“นี่รีบมากินสิ หิวไม่ใช่หรือไงเร็ว ๆ มานั่งลงที่เก้าอี้”
“เอ่อ..พี่ชิงฮวาไก่ต้มตัวนี้เป็นของคุณป้านะคะ ถ้าเรากินต้องเกิดปัญหาใหญ่แน่ ๆ” ชิงหนี่ว์ใบหน้าซีดเซียวไม่กล้าแม้จะมานั่งที่เก้าอี้
“นั่นสิพี่ชิงฮวาเรากินก้อนแป้งได้เก็บไก่เอาไว้ที่เดิมเถอะนะ ถ้าทำให้คุณป้าไม่พอใจพี่ต้องโดนทำโทษอีกแน่ ๆ” ชิงเทียนพูดขึ้นอีกคน
“เฮ้อ! พี่บอกแล้วใช่มั้ยว่าพี่ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น และนี่ไม่ใช่ไก่ของป้าเสียหน่อยเงินทุกหยวนที่คุณป้านำไปใช้เป็นของคุณพ่อคุณแม่ที่หามาอย่างเหน็ดเหนื่อย ดังนั้นเราเป็นลูกต้องกินอยู่อย่างสบายสิรีบกินเถอะ” หลิวหลิวดึงมือเด็กทั้งสองมานั่งลงกิน ในตอนแรกเด็ก ๆ ไม่กล้าที่จะกินด้วยซ้ำแต่เมื่อถูกพี่สาวคะยั้นคะยอจึงยอมกินและเมื่อไก่ต้มพร้อมข้าวเมล็ดสวยเข้าปากเด็ก ๆ ต่างพากันตาโตเป็นประกายนานเท่าไหร่แล้วที่พวกเขาไม่ได้กินแบบนี้
“ว๊าวว^ ^ อร่อยมากเลยค่ะพี่ชิงฮวาพี่เองก็กินด้วยกันสิ”
“แน่นอนอยู่แล้วเราจะมากินไก่ต้มตัวนี้ให้หมด” หลิวหลิวแสยะยิ้มคิดแผนการเอาคืนซิ่นเจี่ยวก่อนจะกินข้าวกับน้อง ๆ โชคดีที่ตอนนี้ทั้งสามคนไม่อยู่บ้าน ป้าซิ่นเจี่ยวมักจะเข้าบ่อนเล่นการพนัน ส่วนต้าหลงก็มักจะออกไปเกเรทำตัวเสเพลกับเพื่อน ๆ และเหมยอิ๋งรายนั้นมักจะออกไปเดินเล่นที่ห้างเลือกซื้อเครื่องสำอางและเครื่องแต่งกายที่ทันสมัย พวกเขาใช้เงินของสกุลไป๋อย่างเบิกบานใจ
หลังจากที่ทุกคนกินอิ่มหลิวหลิวให้น้องทั้งสองไปอาบน้ำเข้านอนก่อนส่วนตัวเองจะเก็บชามล้างเอง ตอนนี้ในหม้อข้าวเหลือข้าวเพียงแค่นิดหน่อยและไก่ต้มทั้งตัวเหลือเพียงแค่กระดูกเท่านั้น เธอใส่จานและนำใส่ตู้กับข้าวไว้เช่นเดิมคอยดูว่าทั้งสามกลับมาไม่มีอะไรกินสักอย่างจะอาละวาดขนาดไหน
“ฮึ ฮึ หมั่นไส้ตั้งนานแล้ววันนี้ถึงเวลาที่ฉันจะเอาคืน ต่อจากนี้ฉันจะแก้เผ็ดป้าและลูก ๆ ของเธอที่กลั่นแกล้งนางเอกผู้น่าสงสารของฉัน ฮ่า ฮ่า” หลิวหลิวหัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจก่อนจะรีบเดินกลับห้อง เห็นน้อง ๆ หลับอย่างสบายเธอเองก็สบายใจจึงได้ไปอาบน้ำล้างกายกี่วันมาแล้วที่ร่างกายนี้นอนเป็นผักเป็นปลาอยู่ เมื่อเธอถอดเสื้อผ้าเพื่อล้างร่างกาย ได้เห็นอะไรบางอย่างที่สะดุดตา แขนข้างซ้ายของเธอมีปานวงกลมสีแดงไม่ใหญ่มากนักนูนขึ้นมา
“เอ๊ะ! ปานนี้มาจากไหนกัน ฉันจำได้ว่าชิงฮวาไม่มีปานนี่น่าร่างกายของเธอสะอาดหมดจด ทำไมถึงมีปานสีแดงเล็กที่แขนนี่นะ โชคดีที่อยู่ในเสื้อ” หลิวหลิวใช้มือลูบที่ปานอย่างสงสัยจู่ ๆ เกิดแสงสว่างจ้าทำให้เธอแสบตารีบหลับตาทันที แต่เมื่อลืมตาขึ้นมาเธอต้องตกใจตะลึงอ้าปากค้าง
“นี่มันอะไรกันเนี้ยะ!!!. .” ภาพเบื้องหน้าคือมิติห้างที่มีของกินของใช้มากมายอยู่ต่อหน้าเธออย่างไม่น่าเชื่อ เธอหยิกแขนตัวเองอย่างแรงเพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เห็นอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ความฝันหรือเธอเบลอไปเอง
“โอ๊ย!! เจ็บชะมัดนี่มันไม่ใช่ความฝันแต่เป็นความจริง ฉันทะลุมิติมาในซีรี่ย์ไม่พอยังมีมิติติดตัวมาด้วยอย่างนั้นเหรอ ว๊าวว^ ^นี่มันสวรรค์เมตตาชัด ๆ ต่อจากนี้เด็ก ๆ จะไม่ต้องอดอยากอีกแล้ว ชิงฮวาคนใหม่จะดูแลน้อง ๆ ให้เติบโตเอง ฮึ! ต่อให้ป้ามหาภัยทำโทษไม่ให้ข้าวให้น้ำต่อจากนี้ฉันก็ไม่กลัวอีกต่อไป ฮ่า ฮ่า” หลิวหลิวเพลิดเพลินกับมิติและคิดหาทางเลี้ยงดูน้องต่อจากนี้ เมื่อเธอเดินสำรวจของในมิติห้างจนพึงพอใจเธอจึงลูบปานที่แขนอีกครั้งมิติได้หายไปในพริบตา หลิวหลิวอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเธอเดินมานอนบนเตียงเดียวกับเด็กทั้งสอง จ้องมองด้วยความสงสาร
“ฉันไม่รู้ว่าฉันจะมาอยู่ในร่างพี่สาวพวกเธอได้นานแค่ไหน แต่เมื่อตอนนี้ฉันอยู่ที่นี่ในร่างนี้ฉันจะไม่ให้ใครมารังแกพวกเธอได้อีก” เธอพูดพลางใช้มือลูบที่หัวของเด็ก ๆ อย่างอ่อนโยนก่อนจะดึงผ้าห่มมาห่มกายให้และเธอกำลังเอนกายลงนอนกับเด็ก ๆ
ครั้นนั้นเสียงกรีดร้องด้วยความไม่พอใจของผู้เป็นป้าดังขึ้นและเหมือนเสียงเท้ากำลังมุ่งหน้ามาที่ห้องของชิงฮวาอีกด้วย
“มาแล้วสินะ ป้าซิ่นเจี่ยว” หลิวหลิวแสยะยิ้มพลางลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูดูสีหน้าของคนที่หิวโหยกลับมา
“เด็กระยำ พวกแกกล้านักนะที่มากินไก่ของฉันจนหมดหายหัวไปอยู่ไหนกัน หรืออยู่ในห้องออกมาจากห้องเดี๋ยวนี้เลยนะวันนี้ฉันจะต้องสั่งสอนให้พวกแกได้รู้สึกนึกต้องตีใจเข็ดจะได้ไม่กล้าทำอีก” ซิ่นเจี่ยวที่เสียการพนันกลับมาบ้านด้วยความหิวเมื่อเปิดหม้อข้าวดูเห็นข้าวเหลือเพียงนิดหน่อยทำให้เธอแปลกใจและยิ่งมาเห็นไก่ต้มทั้งตัวเหลือเพียงกระดูกทำให้เธอโมโหเลือดขึ้นหน้า และคิดว่าคงเป็นใครไม่ได้นอกจากเด็กทั้งสองในเมื่อตอนนี้พี่สาวของพวกมันยังนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงเลยมาแอบกินไก่
“เอะอะโวยวายทำไมกันคะคุณป้า มีอะไรหรือคะ”
“นี่แกฟื้นแล้วสินะ หรือว่าเป็นแกที่กินไก่ของฉัน”
“อะไรไก่ของป้า อ้อ..ถ้าหมายถึงไก่ต้มที่อยู่ในตู้กับข้าวใช่ค่ะฉันกินเอง อีกอย่างมันไม่ใช่ไก่ของป้าเสียหน่อย ทุกวันนี้ป้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะคนอาศัยเงินในบ้านข้าวในบ้านและของกินของใช้ทุกอย่างเป็นของฉันกับน้อง ๆ ทำไมพวกฉันถึงไม่มีสิทธิ์กินมัน” หลิวหลิวทำท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาวก่อนจะตอบกลับผู้เป็นป้าอย่างเหลืออด
“อ๊ายยย! นี่แกเดี๋ยวนี้กล้าเถียงฉันเหรอ? ได้วันนี้ฉันจัดการแกกับน้องของแกไม่ให้กล้าทำตัวแบบนี้กับผู้มีพระคุณอย่างฉันอีก ถ้าวันนั้นฉันไม่มาที่นี่มาดูแลเธอกับน้องป่านนี้เธอคงไม่ได้อยู่สบายอย่างนี้หรอกนะ”
“ฮ่า ฮ่า น่าตลกจังถ้าวันนั้นไม่มีป้าป่านนี้ชีวิตของฉันกับน้อง ๆ คงสบายกว่านี้และผู้มีพระคุณที่เลวร้ายอย่างป้าฉันไม่ขอมีดีกว่า อ้อ! จริงสิผู้ที่มีพระคุณนะต้องเป็นคำพูดของฉันต่างหาก” หลิวหลิวรอคอยเวลานี้มานานเธอจ้องซิ่นเจี่ยวไม่หลบสายตา พร้อมปะทะลมปากอย่างไม่หวาดหวั่นแต่สิ่งนั้นทำให้ซิ่นเจี่ยวที่ไม่เคยถูกต่อเถียงโมโหตาจ้องเขม็งใบหน้าบึ้งตึง เพราะเมื่อก่อนไม่ว่าเธอจะต่อว่าหรือลงไม้ลงมือชิงฮวาไม่แม้จะกล้าสบตาและต่อปากต่อคำกับเธอเช่นนี้เลยสักครั้ง ร่างกายของซิ่นเจี่ยวสั่นเทาด้วยความโมโหง้างมือขึ้นหวังตบเข้าที่ใบหน้าของชิงฮวาเพื่อสั่งสอน
บทที่ 3 โดนไล่ออกจากบ้านมับ!!หลิวหลิวคิดเอาไว้แล้วว่าซิ่นเจี่ยวต้องลงไม้ลงมือทำร้ายเธอแน่ ๆ เธอจะไม่ยอมให้เรื่องอย่างนั้นเกิดขึ้นได้อีก เธอยกมือของเธอจับมือของป้าเอาไว้ทันก่อนที่มันจะฟาดลงที่ใบหน้าของเธอ หลิวหลิวใช้แรงทั้งหมดที่มือบีบที่ข้อมือของป้าอย่างเต็มแรง“คิดว่าฉันจะยอมให้ป้าลงไม้ลงมือกับฉันตามอำเภอใจได้อีกอย่างนั้นเหรอฝันไปเถอะ ตอนนี้ชิงฮวาคนเก่าไม่มีอีกแล้วคนที่อ่อนแอให้ป้าคอยรังแกข่มเหง ต่อจากนี้จะมีเพียงไป๋ชิงฮวาคนใหม่ที่ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายร่างกายได้อีก” เธอดันแขนของผู้เป็นป้าออกจากมือแต่ทว่าแรงของเธอที่บีบข้อมือของซิ่นเจี่ยวแน่นทำให้เธอถลาล้มลงกับพื้น จัวหวะนั้นเองที่ต้าหลงกับเหมยอิ๋งกลับมาจากด้านนอกได้เห็นพอดี“โอ๊ย! นี่แก แกมันบ้าไปแล้วตื่นจากเจ็บไข้มาเปลี่ยนไปคนละคนอย่างนี้หรือว่าผีร้ายจะเข้าแกไม่ได้การล่ะฉันจะต้องจัดการไล่ผีชั่ว ๆ ตัวนี้ออกไป”“คุณแม่เกิดอะไรขึ้นคะ นี่ไป๋ชิงฮวาเธอกล้าลงไม้ลงมือกับแม่ฉันเหรอ” เหมยอิ๋งรีบเดินกึ่งวิ่งเข้ามาพยุงกายของซิ่นเจี่ยวให้ลุกขึ้น“ใช่นี่เธอกล้ามากนะที่ทำร้ายแม่ของฉัน ฉันเห็นว่าเธอมีสายเลือดเดียวกันกับฉันหรอกนะฉันถึงปล่อยเธออยู่ม
บทที่ 4 ป้าใจดีทั้งสามจึงพากันเดินไปนั่งที่นั่นก่อน หลิวหลิวเริ่มครุ่นคิดคืนนี้เธอจะพาน้องของเธอไปนอนที่ไหนกันดี เธอถูกขับไล่ออกแม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่ให้เธอติดตัวมาเงินสักหยวนก็ไม่มี เธอเริ่มเป็นกังวลคิดไม่ตกจนกระทั่งเจ้าของร้านค้าออกมาจากร้านเพื่อเอาขยะมาทิ้งเห็นเด็กทั้งสามที่เห็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ นั่งอยู่หน้าร้านด้วยใบหน้าเศร้าหมอง แม้เขาจะรู้ว่าตั้งแต่พ่อกับแม่ของพวกเธอจากไปถูกป้ารังแกแต่ไม่เคยเห็นทั้งสามพี่น้องมานั่งที่นี่ในยามกลางคืนสักครั้ง“ชิงฮวาเธอพาน้อง ๆ มานั่งทำอะไรที่นี่ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วพาน้อง ๆ เข้าบ้านเถอะ” หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามขึ้นเธอพอได้เห็นในซีรี่ย์แม้ว่าหญิงคนนี้จะโผล่มาเพียงไม่กี่ฉากแต่เธอก็จำได้ดี“ป้ามิ่งจูฉันกับน้องขอนั่งอยู่ที่นี่สักครู่เถอะนะ ตอนนี้ฉันมีเรื่องให้ต้องคิดนิดหน่อยค่ะ”“มีเรื่องอะไรอีกหรือว่าเธอทะเลาะกับซิ่งเจี่ยวอีกแล้ว โธ่ ๆ น่าสงสารจริง ๆ ทำไมป้าของเธอต้องใจร้ายกับเธอด้วย”“เรื่องนั้นฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน คงเป็นเพราะป้าอยากได้สมบัติของคุณพ่อคุณแม่มั่งคะตอนนี้ฉันไม่มีที่ไป ฉันกับน้อง ๆ ถูกขับไล่ออกจากบ้านเพราะฉันทนไม่ไหวต่อปากต่อคำกับป้า ทำให้เธอ
บทที่ 5 ทำน้ำซุปฝั่งด้านซิ่นเจี่ยวหลังจากที่ขับไล่ชิงฮวากับน้องของเธอออกไปจากบ้านได้ ซิ่นเจี่ยวมีความสุขที่ไม่ต้องทนเห็นใบหน้าของหลานอีก ต่อจากนี้บ้านหลังนี้เงินทองมากมายของน้องชายจะเป็นของเธอเพียงคนเดียว“คุณแม่คะวันนี้ฉันจะออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนขอเงินหน่อยสิยิ่งตอนนี้มีกระเป๋าเข้ามาใหม่ ฉันไม่อยากจะตกยุคให้เพื่อนคนอื่นดูถูกต่อว่า” ซิ่นเจี่ยวดื่มน้ำชาอยู่ในห้องโถงของบ้านกำลังครุ่นคิดว่าวันนี้เธอจะไปเข้าบ่อนเพื่อเอาคืนที่เสียไปเมื่อวานครันนั้นเหมยอิ๋งได้เดินออกมาจากห้องแต่งกายสีฉูดฉาดแต่งแต้มใบหน้าเตรียมพร้อมจะออกไปข้างนอกเอ่ยขอเงินผู้เป็นแม่“เหมยอิ๋งแกเองก็ต้องรู้จักประหยัดช่วยกันสิ เราไม่ได้ทำงานต่อให้เงินที่มีอยู่ตอนนี้มากแค่ไหนใช้ฟุ่มเฟือยสักวันมันต้องหมดแล้วกระเป๋าแกพึ่งไปซื้อมาใหม่ไม่กี่วันก่อนไม่ใช่หรือไงกัน”“เฮอะ! แล้วทีคุณแม่ล่ะคะออกไปบ่อนทุกวันเสียทุกวันฉันยังไม่เคยว่าอะไรเลย ฉันซื้อของได้ของแต่คุณแม่เสียเงินแถมยังไม่ได้อะไรอีกด้วย”“เจ้าลูกคนนี้ยอกย้อนจริง ๆ เอานี่เอาไปจะได้ไม่ต้องมาบ่นให้อารมณ์เสีย” ซิ่นเจี่ยวแม้ปากจะบ่นแต่ก็หยิบกระเป๋าล้วงนำเงินออกมาให้แก่เหมยอิ๋งไป
บทที่ 6 แจกฟรีรุ่งเช้าวันต่อมาเด็ก ๆ ลงมาจากห้องนอนต้องพากันตกตะลึงเพราะเมื่อวานบ้านหลังนี้ด้านล่างยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าแต่ทว่าตอนนี้ถูกจัดเป็นร้านอาหารมีของมากมาย“โอ้โห่ชิงเทียนนี่คือบ้านที่เราเข้ามาเมื่อวานจริง ๆ หรือของพวกนี้มาจากไหนกัน… ก่อนที่เราจะไปนอนยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ”“นั่นสิคงเป็นฝีมือของพี่ชิงฮวาเราไปดูที่ครัวกันเถอะพี่น่าจะอยู่ที่นั่น” เด็กทั้งสองรีบเดินไปที่ครัวอย่างตื่นเต้นและสงสัยว่าพี่จะทำอะไรหลิวหลิวอยู่ในครัวจัดการอุ่นซุปวันนี้เธอตั้งใจจะแจกให้กินฟรี เพราะเธอยังไม่รู้ว่าคนในยุคนี้จะรู้จักและกินอาหารแบบนี้มั้ย ครั้นนั้นเสียงฝีเท้ากำลังเดินเข้ามาในครัวเธอวางของหันกลับไปมอง"ตื่นกันแล้วเหรอมานี่สิพี่จะเอาอะไรให้กิน ""อะไรหรือคะ? ว่าแต่ในบ้านของเรามีโต๊ะเต็มไปหมดพี่ชิงฮวาจะทำอะไรเหรอคะ ""สิ่งที่เราทั้งสองเห็นคือธุรกิจของครอบครัวเรา พี่จะขายซุปหมาล่าเลี้ยงดูทั้งสองคน ถ้าขายได้ดีพี่จะส่งเราทั้งคู่เข้าเรียนหนังสือ เอาล่ะมากินซาลาเปาเพื่อลองท้องก่อนพี่จะให้ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์ไปป่าวประกาศให้คนที่ผ่านมาละแวกนี้ได้เข้ามาชิมเพื่อเป็นการโปรโมทและดึงดูดลูกค้า ""โปรโมทดึงด
บทที่ 7 ฉันจะไปดูงานเองแม่ของซุนเย่ถึงกับถอนหายใจเมื่อเห็นท่าทีของลูกชาย เธออยากให้เขามีครอบครัวมีภรรยาคอยดูแล ตอนนี้ทุกอย่างก็มีพร้อมแล้วเธอเองก็แก่มากขึ้นทุกวันหากมีหลานตัวน้อย ๆ ก่อนที่เธอจะตายคงจะดี“คุณป้าคะดูท่าวันนี้พี่ซุนเย่จะอารมณ์ไม่ดีเอาไว้วันหน้าฉันจะมาหาใหม่แล้วกันค่ะ”“หนูหวางลี่อิงป้าต้องขอโทษด้วยนะที่ซุนเย่เสียมารยาทกับหนู”“ไม่เป็นอะไรค่ะคุณป้าไม่ต้องคิดมากพี่เขาคงเหนื่อยมาจากงาน ฉันขอตัวนะคะ” หวางลี่อินลูกสาวคนรองของท่านนายพลเธอเพรียบพร้อมทุกอย่างแต่ชายที่เธอปักใจคือซุนเย่ทั้งฐานะครอบครัว และชื่อเสียงหากทั้งสองตระกูลได้เป็นครอบครัวเดียวกัน อำนาจอิทธิพลจะยิ่งใหญ่ที่สุดในมณฑลนี้ เขาทั้งรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าคมคายไม่ว่าจะมองตรงใดก็ไม่มีที่ติแม้แต่น้อย ทำให้สาว ๆ ในมณฑลนี้ต่างพากันหลงใหลเข้าหาเขาจนเขาเกิดความรำคาญ แต่หวางลี่อิงไม่ได้ใส่ใจและยอมแพ้อย่างไรก็ตามเธอจะเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลเว่ยให้ได้ฝั่งด้านซุนเย่เขาเข้ามาในห้องกำลังจะถอดเสื้อเนคไทด์ออกจากเสื้อสูทด้วยความอึกอันครั้นนั้นเสียงประตูได้ดังขึ้นก๊อก ๆ“คุณชายผมขอเข้าไปด้านในนะครับมีเรื่องมารายงาน” เสียงของลูกน้องค
บทที่ 8 เป็นไปได้อย่างไรกัน!!เมื่อถึงเวลาเปิดร้านชิงเทียนกับชิงหนี่ว์ทำหน้าที่เรียกขานเชิญชวนทุกคนที่ผ่านมา อีกทั้งมีโปรโมชั่นเปิดร้านใหม่ราคาเพียง 30 หยวนเท่านั้น ในยุคที่เงินเดือนเดือนละ2000 หยวนต่อเดือน หลิวหลิวจึงคิดว่าราคานี้ไม่ได้แพงเท่าไหร่นักพอที่คนจะเจียดเงินมาซื้อซุปหมาล่าของเธอได้คนที่เคยชิมเมื่อวานรู้รสชาติได้กลับมาอุดหนุนหมาล่าเพราะอยากกินเยอะกว่าที่แจกฟรี“เชิญด้านในเลยค่ะ”“เมื่อวานฉันได้ชิมที่เจ้าของร้านแจกฟรีทำให้ติดใจและยังไม่อิ่มวันนี้เลยชวนสามีมากินด้วยกัน”“ได้เลยค่ะร้านหมาล่าของเราขายเป็นชุด ชุดหนึ่งสามารถกินได้สองถึงสามคนเชิญลูกค้านั่งด้านนี้เลยค่ะ ฉันจะรีบเข้าไปเตรียมหม้อน้ำซุปมาให้นะคะ” หลิวหลิวผายมือให้ลูกค้าที่มากันสองคนไปนั่งเก้าอี้ก่อนที่เธอจะเข้าไปจัดเตรียมหม้อน้ำซุปมาให้ลูกค้าและเครื่องเคียงที่จัดเตรียมเป็นชุดเอาไว้ ไม่นานลูกค้าเข้ามานั่งที่โต๊ะจนเต็มทุกตัว หลิวหลิวมีความสุขมากที่หมาล่าของเธอขายได้และได้รับคำชมเมื่อลูกค้ากินอิ่มต่างชมว่าอร่อยและจะไปบอกต่อให้วันเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วของที่หลิวหลิวเตรียมเอาไว้ 10 ชุดได้หมดลงทำให้เธอปิดร้านตั้งแต่ยัง
บทที่ 9 หาเรื่องฝั่งด้านหลิวหลิวหลังจากที่ลูกค้าชุดแรกออกไปจากร้านจนหมดทุกโต๊ะเธอจึงเก็บถ้วยชามจะนำไปล้างโดยให้น้องทั้งสองเฝ้าอยู่หน้าร้านหากมีลูกค้ามาให้ไปเรียกเธอที่ครัว แต่ทว่าเมื่อเธอกำลังเดินเข้าไปหลังร้านได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามา หลิวหลิวคิดว่าลูกค้าจึงหันกลับมายิ้มกว้างกล่าวตอนรับทันที“ร้านหมาล่าสกุลไป๋ยินดีต้อนรับค่ะ ชะ..” หลิวหลิวพูดไม่ทันจบรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอกลับหลายเป็นบูดบึ้งทันทีเพราะคนที่เข้ามาในร้านตอนนี้เป็นคนที่เธอไม่อยากพบเจอหน้าแม้แต่น้อย คงได้ยินเรื่องร้านของเธอแล้วสินะถึงได้พากันมาที่นี่“แหม ๆ ฉันก็คิดว่าหลานของฉันจะไปอยู่ที่ไหนที่แท้ก็มาเปิดร้านขายของอะไรเนี้ยะ! ฉันไม่เห็นจะรู้จัก”“คุณป้ามาทำอะไรที่นี่หากจะมาหาเรื่องเชิญกลับไปด้วยค่ะอย่ามาทำให้ร้านของฉันเสียหายและรบกวนเวลาลูกค้าคนอื่น”“นี่แกจะมากไปแล้วนะ มีเงินเปิดร้านเลยปีกกล้าขาแข็งขับไล่ฉันกับคุณแม่สินะ เงินที่เธอนำมาเปิดร้านคงเป็นเงินที่เธอขโมยมาจากบ้านของฉันล่ะสิไม่ว่า” ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์เห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามายืนตรงหน้าพี่สาวพร้อมอธิบายให้เหมยอิ๋งกับคุณป้าได้รู้“ไม่ใช่นะครับพี่ชิงฮวาไม่เคยไปขโมยของ
บทที่ 10 คิดมากดวงตะวันเปลี่ยนผลันเป็นดวงจันทร์ที่ขึ้นแทนที่ตอนนี้ร้านหมาล่าสกุลไป๋ได้ปิดร้านเมื่อของที่เธอเตรียมเอาไว้ได้หมดก่อนเวลา หลิวหลิวเฝ้าแต่คิดเรื่องที่ซิ่นเจี่ยวกับเหมยอิ๋งที่เข้ามาวุ่นวายที่ร้านเหมือนทั้งสองไม่รู้จักพอ หลิวหลิวเริ่มเป็นกังวลเกรงว่าทั้งสองต้องกลับมาอีกครั้งแน่ ๆ“พี่ชิงฮวาคิดอะไรอยู่หรือคะทำไมสีหน้าพี่ดูไม่ดีเลย”“นั่นสิครับหรือว่าพี่ชิงฮวาจะคิดมากเรื่องคุณป้าที่เข้ามาวุ่นวายกับเราวันนี้” เด็กทั้งสองเห็นพี่สาวนั่งนิ่งเหม่อลอยแถมยังถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า น่าจะดีใจที่ขายของได้ดีขนาดหากมีเรื่องให้เคลียดคงมีเรื่องเดียวคือเรื่องที่ป้าเข้ามาหาเรื่องวันนี้ เด็ก ๆ เห็นพี่ไม่สบายจึงพากันเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง“พี่มีเรื่องเป็นห่วงนิดหน่อยกลัวว่าป้าซิ่นเจี่ยวจะไม่ยอมเลิกลามาวุ่นวายกับเราอีกนะสิ ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์คงกลัวมากเลยสินะมานี่หน่อยสิ” หลิวหลิวอ้าแขนให้น้องเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะโอบกอดทั้งสองคนแนบแน่น“พี่ชิงฮวาพวกเราไม่กลัวเลยครับ ถ้าครั้งหน้าป้ามาอีกผมจะปกป้องพี่กับชิงหนี่ว์เอง”“หนูก็ไม่กลัวเหมือนกันค่ะ ถ้าป้ามาอีกหนูจะเอาไม้ไล่ไปไกล ๆ เลยพี่ไม่ต้อง
บทที่ 10 คิดมากดวงตะวันเปลี่ยนผลันเป็นดวงจันทร์ที่ขึ้นแทนที่ตอนนี้ร้านหมาล่าสกุลไป๋ได้ปิดร้านเมื่อของที่เธอเตรียมเอาไว้ได้หมดก่อนเวลา หลิวหลิวเฝ้าแต่คิดเรื่องที่ซิ่นเจี่ยวกับเหมยอิ๋งที่เข้ามาวุ่นวายที่ร้านเหมือนทั้งสองไม่รู้จักพอ หลิวหลิวเริ่มเป็นกังวลเกรงว่าทั้งสองต้องกลับมาอีกครั้งแน่ ๆ“พี่ชิงฮวาคิดอะไรอยู่หรือคะทำไมสีหน้าพี่ดูไม่ดีเลย”“นั่นสิครับหรือว่าพี่ชิงฮวาจะคิดมากเรื่องคุณป้าที่เข้ามาวุ่นวายกับเราวันนี้” เด็กทั้งสองเห็นพี่สาวนั่งนิ่งเหม่อลอยแถมยังถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า น่าจะดีใจที่ขายของได้ดีขนาดหากมีเรื่องให้เคลียดคงมีเรื่องเดียวคือเรื่องที่ป้าเข้ามาหาเรื่องวันนี้ เด็ก ๆ เห็นพี่ไม่สบายจึงพากันเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง“พี่มีเรื่องเป็นห่วงนิดหน่อยกลัวว่าป้าซิ่นเจี่ยวจะไม่ยอมเลิกลามาวุ่นวายกับเราอีกนะสิ ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์คงกลัวมากเลยสินะมานี่หน่อยสิ” หลิวหลิวอ้าแขนให้น้องเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะโอบกอดทั้งสองคนแนบแน่น“พี่ชิงฮวาพวกเราไม่กลัวเลยครับ ถ้าครั้งหน้าป้ามาอีกผมจะปกป้องพี่กับชิงหนี่ว์เอง”“หนูก็ไม่กลัวเหมือนกันค่ะ ถ้าป้ามาอีกหนูจะเอาไม้ไล่ไปไกล ๆ เลยพี่ไม่ต้อง
บทที่ 9 หาเรื่องฝั่งด้านหลิวหลิวหลังจากที่ลูกค้าชุดแรกออกไปจากร้านจนหมดทุกโต๊ะเธอจึงเก็บถ้วยชามจะนำไปล้างโดยให้น้องทั้งสองเฝ้าอยู่หน้าร้านหากมีลูกค้ามาให้ไปเรียกเธอที่ครัว แต่ทว่าเมื่อเธอกำลังเดินเข้าไปหลังร้านได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามา หลิวหลิวคิดว่าลูกค้าจึงหันกลับมายิ้มกว้างกล่าวตอนรับทันที“ร้านหมาล่าสกุลไป๋ยินดีต้อนรับค่ะ ชะ..” หลิวหลิวพูดไม่ทันจบรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอกลับหลายเป็นบูดบึ้งทันทีเพราะคนที่เข้ามาในร้านตอนนี้เป็นคนที่เธอไม่อยากพบเจอหน้าแม้แต่น้อย คงได้ยินเรื่องร้านของเธอแล้วสินะถึงได้พากันมาที่นี่“แหม ๆ ฉันก็คิดว่าหลานของฉันจะไปอยู่ที่ไหนที่แท้ก็มาเปิดร้านขายของอะไรเนี้ยะ! ฉันไม่เห็นจะรู้จัก”“คุณป้ามาทำอะไรที่นี่หากจะมาหาเรื่องเชิญกลับไปด้วยค่ะอย่ามาทำให้ร้านของฉันเสียหายและรบกวนเวลาลูกค้าคนอื่น”“นี่แกจะมากไปแล้วนะ มีเงินเปิดร้านเลยปีกกล้าขาแข็งขับไล่ฉันกับคุณแม่สินะ เงินที่เธอนำมาเปิดร้านคงเป็นเงินที่เธอขโมยมาจากบ้านของฉันล่ะสิไม่ว่า” ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์เห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามายืนตรงหน้าพี่สาวพร้อมอธิบายให้เหมยอิ๋งกับคุณป้าได้รู้“ไม่ใช่นะครับพี่ชิงฮวาไม่เคยไปขโมยของ
บทที่ 8 เป็นไปได้อย่างไรกัน!!เมื่อถึงเวลาเปิดร้านชิงเทียนกับชิงหนี่ว์ทำหน้าที่เรียกขานเชิญชวนทุกคนที่ผ่านมา อีกทั้งมีโปรโมชั่นเปิดร้านใหม่ราคาเพียง 30 หยวนเท่านั้น ในยุคที่เงินเดือนเดือนละ2000 หยวนต่อเดือน หลิวหลิวจึงคิดว่าราคานี้ไม่ได้แพงเท่าไหร่นักพอที่คนจะเจียดเงินมาซื้อซุปหมาล่าของเธอได้คนที่เคยชิมเมื่อวานรู้รสชาติได้กลับมาอุดหนุนหมาล่าเพราะอยากกินเยอะกว่าที่แจกฟรี“เชิญด้านในเลยค่ะ”“เมื่อวานฉันได้ชิมที่เจ้าของร้านแจกฟรีทำให้ติดใจและยังไม่อิ่มวันนี้เลยชวนสามีมากินด้วยกัน”“ได้เลยค่ะร้านหมาล่าของเราขายเป็นชุด ชุดหนึ่งสามารถกินได้สองถึงสามคนเชิญลูกค้านั่งด้านนี้เลยค่ะ ฉันจะรีบเข้าไปเตรียมหม้อน้ำซุปมาให้นะคะ” หลิวหลิวผายมือให้ลูกค้าที่มากันสองคนไปนั่งเก้าอี้ก่อนที่เธอจะเข้าไปจัดเตรียมหม้อน้ำซุปมาให้ลูกค้าและเครื่องเคียงที่จัดเตรียมเป็นชุดเอาไว้ ไม่นานลูกค้าเข้ามานั่งที่โต๊ะจนเต็มทุกตัว หลิวหลิวมีความสุขมากที่หมาล่าของเธอขายได้และได้รับคำชมเมื่อลูกค้ากินอิ่มต่างชมว่าอร่อยและจะไปบอกต่อให้วันเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วของที่หลิวหลิวเตรียมเอาไว้ 10 ชุดได้หมดลงทำให้เธอปิดร้านตั้งแต่ยัง
บทที่ 7 ฉันจะไปดูงานเองแม่ของซุนเย่ถึงกับถอนหายใจเมื่อเห็นท่าทีของลูกชาย เธออยากให้เขามีครอบครัวมีภรรยาคอยดูแล ตอนนี้ทุกอย่างก็มีพร้อมแล้วเธอเองก็แก่มากขึ้นทุกวันหากมีหลานตัวน้อย ๆ ก่อนที่เธอจะตายคงจะดี“คุณป้าคะดูท่าวันนี้พี่ซุนเย่จะอารมณ์ไม่ดีเอาไว้วันหน้าฉันจะมาหาใหม่แล้วกันค่ะ”“หนูหวางลี่อิงป้าต้องขอโทษด้วยนะที่ซุนเย่เสียมารยาทกับหนู”“ไม่เป็นอะไรค่ะคุณป้าไม่ต้องคิดมากพี่เขาคงเหนื่อยมาจากงาน ฉันขอตัวนะคะ” หวางลี่อินลูกสาวคนรองของท่านนายพลเธอเพรียบพร้อมทุกอย่างแต่ชายที่เธอปักใจคือซุนเย่ทั้งฐานะครอบครัว และชื่อเสียงหากทั้งสองตระกูลได้เป็นครอบครัวเดียวกัน อำนาจอิทธิพลจะยิ่งใหญ่ที่สุดในมณฑลนี้ เขาทั้งรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าคมคายไม่ว่าจะมองตรงใดก็ไม่มีที่ติแม้แต่น้อย ทำให้สาว ๆ ในมณฑลนี้ต่างพากันหลงใหลเข้าหาเขาจนเขาเกิดความรำคาญ แต่หวางลี่อิงไม่ได้ใส่ใจและยอมแพ้อย่างไรก็ตามเธอจะเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลเว่ยให้ได้ฝั่งด้านซุนเย่เขาเข้ามาในห้องกำลังจะถอดเสื้อเนคไทด์ออกจากเสื้อสูทด้วยความอึกอันครั้นนั้นเสียงประตูได้ดังขึ้นก๊อก ๆ“คุณชายผมขอเข้าไปด้านในนะครับมีเรื่องมารายงาน” เสียงของลูกน้องค
บทที่ 6 แจกฟรีรุ่งเช้าวันต่อมาเด็ก ๆ ลงมาจากห้องนอนต้องพากันตกตะลึงเพราะเมื่อวานบ้านหลังนี้ด้านล่างยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าแต่ทว่าตอนนี้ถูกจัดเป็นร้านอาหารมีของมากมาย“โอ้โห่ชิงเทียนนี่คือบ้านที่เราเข้ามาเมื่อวานจริง ๆ หรือของพวกนี้มาจากไหนกัน… ก่อนที่เราจะไปนอนยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ”“นั่นสิคงเป็นฝีมือของพี่ชิงฮวาเราไปดูที่ครัวกันเถอะพี่น่าจะอยู่ที่นั่น” เด็กทั้งสองรีบเดินไปที่ครัวอย่างตื่นเต้นและสงสัยว่าพี่จะทำอะไรหลิวหลิวอยู่ในครัวจัดการอุ่นซุปวันนี้เธอตั้งใจจะแจกให้กินฟรี เพราะเธอยังไม่รู้ว่าคนในยุคนี้จะรู้จักและกินอาหารแบบนี้มั้ย ครั้นนั้นเสียงฝีเท้ากำลังเดินเข้ามาในครัวเธอวางของหันกลับไปมอง"ตื่นกันแล้วเหรอมานี่สิพี่จะเอาอะไรให้กิน ""อะไรหรือคะ? ว่าแต่ในบ้านของเรามีโต๊ะเต็มไปหมดพี่ชิงฮวาจะทำอะไรเหรอคะ ""สิ่งที่เราทั้งสองเห็นคือธุรกิจของครอบครัวเรา พี่จะขายซุปหมาล่าเลี้ยงดูทั้งสองคน ถ้าขายได้ดีพี่จะส่งเราทั้งคู่เข้าเรียนหนังสือ เอาล่ะมากินซาลาเปาเพื่อลองท้องก่อนพี่จะให้ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์ไปป่าวประกาศให้คนที่ผ่านมาละแวกนี้ได้เข้ามาชิมเพื่อเป็นการโปรโมทและดึงดูดลูกค้า ""โปรโมทดึงด
บทที่ 5 ทำน้ำซุปฝั่งด้านซิ่นเจี่ยวหลังจากที่ขับไล่ชิงฮวากับน้องของเธอออกไปจากบ้านได้ ซิ่นเจี่ยวมีความสุขที่ไม่ต้องทนเห็นใบหน้าของหลานอีก ต่อจากนี้บ้านหลังนี้เงินทองมากมายของน้องชายจะเป็นของเธอเพียงคนเดียว“คุณแม่คะวันนี้ฉันจะออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนขอเงินหน่อยสิยิ่งตอนนี้มีกระเป๋าเข้ามาใหม่ ฉันไม่อยากจะตกยุคให้เพื่อนคนอื่นดูถูกต่อว่า” ซิ่นเจี่ยวดื่มน้ำชาอยู่ในห้องโถงของบ้านกำลังครุ่นคิดว่าวันนี้เธอจะไปเข้าบ่อนเพื่อเอาคืนที่เสียไปเมื่อวานครันนั้นเหมยอิ๋งได้เดินออกมาจากห้องแต่งกายสีฉูดฉาดแต่งแต้มใบหน้าเตรียมพร้อมจะออกไปข้างนอกเอ่ยขอเงินผู้เป็นแม่“เหมยอิ๋งแกเองก็ต้องรู้จักประหยัดช่วยกันสิ เราไม่ได้ทำงานต่อให้เงินที่มีอยู่ตอนนี้มากแค่ไหนใช้ฟุ่มเฟือยสักวันมันต้องหมดแล้วกระเป๋าแกพึ่งไปซื้อมาใหม่ไม่กี่วันก่อนไม่ใช่หรือไงกัน”“เฮอะ! แล้วทีคุณแม่ล่ะคะออกไปบ่อนทุกวันเสียทุกวันฉันยังไม่เคยว่าอะไรเลย ฉันซื้อของได้ของแต่คุณแม่เสียเงินแถมยังไม่ได้อะไรอีกด้วย”“เจ้าลูกคนนี้ยอกย้อนจริง ๆ เอานี่เอาไปจะได้ไม่ต้องมาบ่นให้อารมณ์เสีย” ซิ่นเจี่ยวแม้ปากจะบ่นแต่ก็หยิบกระเป๋าล้วงนำเงินออกมาให้แก่เหมยอิ๋งไป
บทที่ 4 ป้าใจดีทั้งสามจึงพากันเดินไปนั่งที่นั่นก่อน หลิวหลิวเริ่มครุ่นคิดคืนนี้เธอจะพาน้องของเธอไปนอนที่ไหนกันดี เธอถูกขับไล่ออกแม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่ให้เธอติดตัวมาเงินสักหยวนก็ไม่มี เธอเริ่มเป็นกังวลคิดไม่ตกจนกระทั่งเจ้าของร้านค้าออกมาจากร้านเพื่อเอาขยะมาทิ้งเห็นเด็กทั้งสามที่เห็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ นั่งอยู่หน้าร้านด้วยใบหน้าเศร้าหมอง แม้เขาจะรู้ว่าตั้งแต่พ่อกับแม่ของพวกเธอจากไปถูกป้ารังแกแต่ไม่เคยเห็นทั้งสามพี่น้องมานั่งที่นี่ในยามกลางคืนสักครั้ง“ชิงฮวาเธอพาน้อง ๆ มานั่งทำอะไรที่นี่ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วพาน้อง ๆ เข้าบ้านเถอะ” หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามขึ้นเธอพอได้เห็นในซีรี่ย์แม้ว่าหญิงคนนี้จะโผล่มาเพียงไม่กี่ฉากแต่เธอก็จำได้ดี“ป้ามิ่งจูฉันกับน้องขอนั่งอยู่ที่นี่สักครู่เถอะนะ ตอนนี้ฉันมีเรื่องให้ต้องคิดนิดหน่อยค่ะ”“มีเรื่องอะไรอีกหรือว่าเธอทะเลาะกับซิ่งเจี่ยวอีกแล้ว โธ่ ๆ น่าสงสารจริง ๆ ทำไมป้าของเธอต้องใจร้ายกับเธอด้วย”“เรื่องนั้นฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน คงเป็นเพราะป้าอยากได้สมบัติของคุณพ่อคุณแม่มั่งคะตอนนี้ฉันไม่มีที่ไป ฉันกับน้อง ๆ ถูกขับไล่ออกจากบ้านเพราะฉันทนไม่ไหวต่อปากต่อคำกับป้า ทำให้เธอ
บทที่ 3 โดนไล่ออกจากบ้านมับ!!หลิวหลิวคิดเอาไว้แล้วว่าซิ่นเจี่ยวต้องลงไม้ลงมือทำร้ายเธอแน่ ๆ เธอจะไม่ยอมให้เรื่องอย่างนั้นเกิดขึ้นได้อีก เธอยกมือของเธอจับมือของป้าเอาไว้ทันก่อนที่มันจะฟาดลงที่ใบหน้าของเธอ หลิวหลิวใช้แรงทั้งหมดที่มือบีบที่ข้อมือของป้าอย่างเต็มแรง“คิดว่าฉันจะยอมให้ป้าลงไม้ลงมือกับฉันตามอำเภอใจได้อีกอย่างนั้นเหรอฝันไปเถอะ ตอนนี้ชิงฮวาคนเก่าไม่มีอีกแล้วคนที่อ่อนแอให้ป้าคอยรังแกข่มเหง ต่อจากนี้จะมีเพียงไป๋ชิงฮวาคนใหม่ที่ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายร่างกายได้อีก” เธอดันแขนของผู้เป็นป้าออกจากมือแต่ทว่าแรงของเธอที่บีบข้อมือของซิ่นเจี่ยวแน่นทำให้เธอถลาล้มลงกับพื้น จัวหวะนั้นเองที่ต้าหลงกับเหมยอิ๋งกลับมาจากด้านนอกได้เห็นพอดี“โอ๊ย! นี่แก แกมันบ้าไปแล้วตื่นจากเจ็บไข้มาเปลี่ยนไปคนละคนอย่างนี้หรือว่าผีร้ายจะเข้าแกไม่ได้การล่ะฉันจะต้องจัดการไล่ผีชั่ว ๆ ตัวนี้ออกไป”“คุณแม่เกิดอะไรขึ้นคะ นี่ไป๋ชิงฮวาเธอกล้าลงไม้ลงมือกับแม่ฉันเหรอ” เหมยอิ๋งรีบเดินกึ่งวิ่งเข้ามาพยุงกายของซิ่นเจี่ยวให้ลุกขึ้น“ใช่นี่เธอกล้ามากนะที่ทำร้ายแม่ของฉัน ฉันเห็นว่าเธอมีสายเลือดเดียวกันกับฉันหรอกนะฉันถึงปล่อยเธออยู่ม
บทที่ 2 ปะทะป้ามหาภัยหลิวหลิวเดินออกจากห้อง ชิงเทียนน้องชายเห็นท่าไม่ดีกลัวว่าจะทำให้เกิดเรื่องใหญ่ตามมาทีหลังรีบดึงมือเธอเอาไว้ก่อน“พี่ชิงฮวา พี่พึ่งหายจากการเป็นไข้อย่าหาเรื่องให้คุณป้าทำร้ายพี่อีกเลย แค่ได้กินก้อนแป้งพวกเราก็อิ่มมากแล้วไม่อยากให้พี่ต้องมานอนไม่ได้สติแบบนี้อีก” หลิวหลิวหันกลับมามองมือเล็กที่สั่นเทาจับเธอเอาไว้แน่นสายสัมพันธ์ความเป็นห่วงเป็นใยต่อพี่ทำให้หลิวหลิวเจ็บจี้ดที่ใจ ยกมือลูบที่หัวของเด็ก ๆ อย่างเอ็นดู“ชิงเทียนพี่จะไม่ยอมทนคุณป้าอีกต่อไป บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณพ่อเป็นบ้านของเรา พี่จะไม่ทนให้ป้าใช้งานเราและโขกสับเราอีกต่อไป ไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่จะไม่ให้คนพวกนั้นทำอะไรเราได้อีก”"จะทำแบบนั้นได้จริง ๆ หรือครับ ""ได้สิ มาเถอะไปที่ห้องครัวกัน "หลิวหลิวเห็นร่างกายของเด็กทั้งสองที่ผอมแทบเหลือแต่กระดูกคงไม่ได้กินอะไรดี ๆ เลยสินะ เธอไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้นแค่ดูในทีวีเธอแทบอยากจะเข้ามาจัดการผู้เป็นป้า ในเมื่อตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้วเธอจะไม่ให้พวกนั้นมาทำอะไรเธอกับน้อง ๆ ได้อีกสกุลไป๋เป็นตระกูลที่ร่ำรวยมีลูกสามคนด้วยกัน คือไป๋ชิงฮวา ไป๋ชิงเทียนและไป๋ชิงหนี่