บทที่ 5 ทำน้ำซุป
ฝั่งด้านซิ่นเจี่ยว
หลังจากที่ขับไล่ชิงฮวากับน้องของเธอออกไปจากบ้านได้ ซิ่นเจี่ยวมีความสุขที่ไม่ต้องทนเห็นใบหน้าของหลานอีก ต่อจากนี้บ้านหลังนี้เงินทองมากมายของน้องชายจะเป็นของเธอเพียงคนเดียว
“คุณแม่คะวันนี้ฉันจะออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนขอเงินหน่อยสิยิ่งตอนนี้มีกระเป๋าเข้ามาใหม่ ฉันไม่อยากจะตกยุคให้เพื่อนคนอื่นดูถูกต่อว่า” ซิ่นเจี่ยวดื่มน้ำชาอยู่ในห้องโถงของบ้านกำลังครุ่นคิดว่าวันนี้เธอจะไปเข้าบ่อนเพื่อเอาคืนที่เสียไปเมื่อวานครันนั้นเหมยอิ๋งได้เดินออกมาจากห้องแต่งกายสีฉูดฉาดแต่งแต้มใบหน้าเตรียมพร้อมจะออกไปข้างนอกเอ่ยขอเงินผู้เป็นแม่
“เหมยอิ๋งแกเองก็ต้องรู้จักประหยัดช่วยกันสิ เราไม่ได้ทำงานต่อให้เงินที่มีอยู่ตอนนี้มากแค่ไหนใช้ฟุ่มเฟือยสักวันมันต้องหมดแล้วกระเป๋าแกพึ่งไปซื้อมาใหม่ไม่กี่วันก่อนไม่ใช่หรือไงกัน”
“เฮอะ! แล้วทีคุณแม่ล่ะคะออกไปบ่อนทุกวันเสียทุกวันฉันยังไม่เคยว่าอะไรเลย ฉันซื้อของได้ของแต่คุณแม่เสียเงินแถมยังไม่ได้อะไรอีกด้วย”
“เจ้าลูกคนนี้ยอกย้อนจริง ๆ เอานี่เอาไปจะได้ไม่ต้องมาบ่นให้อารมณ์เสีย” ซิ่นเจี่ยวแม้ปากจะบ่นแต่ก็หยิบกระเป๋าล้วงนำเงินออกมาให้แก่เหมยอิ๋งไปเที่ยวเล่น เมื่อเธอได้เงินตามที่ต้องการแล้วรีบรับมาใส่กระเป๋าและเดินออกจากบ้าน
“ขอบคุณนะคะคุณแม่ขอให้คุณแม่เล่นชนะนะคะ” เหมยอิ๋งยิ้มระรื่นโบกมือลาแม่ของตน สักพักต้าหลงก็ได้เดินออกมาจากห้องของตัวเองเมื่อเห็นน้องสาวได้เงินเขาเองก็ไม่พอใจที่แม่เอ็นดูและตามใจแต่เหมยอิ๋ง
“คุณแม่วันนี้ฉันจะไปเที่ยวก่อนคุณแม่ออกไปอย่าลืมทำกับข้าวและเอาเงินไว้ให้ด้วยนะ รู้ใช่มั้ยว่าการที่ชิงฮวาออกจากบ้านหลังนี้เพราะใคร เพราะฉันข่มขู่มันแม่ต้องให้ค่าตอบแทนฉันสมน้ำสมเนื้อด้วยล่ะ”
“รู้แล้วน่า ส่วนเรื่องกับข้าวออกไปกินข้าวนอกแล้วกันตอนนี้ถึงเวลาที่แม่ต้องออกจากบ้านแล้ว” ซิ่นเจี่ยวจ้องมองนาฬิกาเห็นว่าตอนนี้บ่อนเปิดแล้วจึงรีบล้วงเงินให้ต้าหลงและลุกเดินออกไป ต้าหลงเห็นเงินจำนวนมากรอยยิ้มบนใบหน้าปรากฏออกมาพร้อมหยิบเงินขึ้นไปสูดดม
“เงินนี่มันหอมจริง ๆ คุณแม่ให้เยอะแบบนี้คืนนี้จะดื่มด่ำให้สนุกเลย ฮ่า ฮ่า” พูดจบต้าหลงเดินเข้าห้องไปนอนต่อ
ดวงตะวันเริ่มคล้อยต่ำลงหลิวหลิวเดินสำรวจทั่วตัวบ้านหาสิ่งของที่ได้มาจัดการทำเป็นโต๊ะเก้าอี้ และจัดหน้าบ้านให้สวยงามเมื่อเงยหน้ามองท้องฟ้าเห็นว่าใกล้จะค่ำแล้วเธอจึงบอกให้น้องไปอาบน้ำล้างกาย
“ชิงเทียน ชิงหนี่ว์พวกเธอทั้งสองพากันไปอาบน้ำล้างตัวรอพี่นะ พี่จะเข้าครัวทำอาหารเย็นให้กิน”
“ได้ค่ะ/ได้ครับ” เด็ก ๆ คิดถึงอาหารที่พี่เอามาให้กินตอนกลางวันน้ำลายเริ่มสอออกมารีบพากันวิ่งไปอาบน้ำตามที่พี่บอก
“เด็ก ๆ คงหิวมากสินะทันทีที่บอกก็รีบไปอาบน้ำกันเลย ดีล่ะฉันจะเข้าในมิติเพื่อหากับข้าวมาทำให้เด็ก ๆ ได้กิน” พูดจบหลิวหลิวเดินเข้าไปในครัวเข้าไปในมิติเลือกหยิบของใช้ข้าวสารและอาหารสดในมิติห้างออกมาเพื่อปรุงอาหาร ไม่นานเธอก็สามารถทำอาหารมากมายเสร็จสิ้นและวางบนโต๊ะอาหารเพื่อรอน้อง ๆ
“โชคดีนะที่ฉันชอบทำอาหารและอยู่ตัวคนเดียวตั้งแต่เรียนจบ จึงพอมีฝีมืออยู่บ้างหวังว่ากับข้าววันนี้จะถูกใจเด็กทั้งสองนะ คืนนี้คงยังอีกยาวไกลเมื่อเด็ก ๆ นอนหลับแล้วฉันจะเข้าไปที่มิติอีกครั้งเพื่อไปนำของมาทำหมาล่าก่อนจะเปิดร้านฉันจะทำชิมก่อน” หลิวหลิวกอดอกมองกับข้าวที่น่ากินอย่างภูมิใจและคิดเรื่องที่หมาล่าที่เธอจะทำขาย
ไม่นานน้อง ๆ ก็พากันลงมาจากชั้นบนเห็นอาหารและข้าวสารที่เรียงตัวสวยอยู่ในชามข้าวทำให้ทั้งสองตาลุกวาวราวกับเห็นของมีค่าแถมของกินยังส่งกลิ่นหอมโชยเย้ายวน
“พี่ชิงฮวาเรากินทั้งหมดนี่ได้จริง ๆ หรือครับ”
“ใช่นะสิ ต่อไปนี้ไม่ว่าชิงเทียนกับชิงหนี่ว์อยากกินอะไรเมื่อไหร่สามารถกินได้เสมอ ไม่มีใครกล้ามาว่าหรือรังแกเราได้อีก เอาล่ะมานั่งที่เก้าอี้ได้แล้วเดี๋ยวกับข้าวจะเย็นและไม่อร่อย” หลิวหลิวยิ้มกริ่มรีบกวักมือให้เด็ก ๆ มานั่งที่เก้าอี้ทั้งสามคนกินข้าวกันอย่างมีความสุข
หลังจากที่ทุกคนกินอิ่มหลิวหลิวให้ทั้งสองขึ้นไปนอนหลับเพราะพรุ่งนี้มีงานให้เด็ก ๆ ได้ทำ น้อง ๆ เป็นเด็กที่เชื่อฟังพี่สาวไม่ว่าเธอจะให้ทำอะไรย่อมทำตามทุกอย่าง
หลิวหลิวได้เวลาเข้ามิติอีกครั้งเพื่อเลือกหยิบของมาทำซุปหมาล่า เธอเดินเลือกของอย่างเพลิดเพลินจนได้ของครบแล้วเธอได้ปิดมิติและตั้งหม้อเพื่อทำซุปหมาล่าต่อ
เธอจัดการก่อไฟอีกครั้งแม้ที่นี่จะมีไฟฟ้าแต่ทว่ายุคนี้เครื่องใช้ครัวเรือนยังคงไม่พัฒนาเหมือนยุคปัจจุบันมากนักและยังคงใช้เตาฟืน เธอตั้งกระทะใส่น้ำมันงาลงไปจากนั้นใส่เครื่องเทศลงไปผัดโดยมีเครื่องเทศมากมายได้แก่ ลูกกระวาน โป๊ยกั๊ก อบเชยแท่ง เก๋ากี้ ผัดให้หอม ใส่พริกแห้งลงไปในกระทะ ต่อด้วยขิงและกระเทียมผัดจนหอมก่อนใส่น้ำซุป
ตั้งหม้อใส่น้ำซุปกระดูกหมูและใส่เครื่องเทศที่เธอเอาไปผัดลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เกลือสมุทร ซีอิ๊วขาว พริกหมาล่า เพียงเท่านี้น้ำซุปของเธอก็เสร็จสิ้น
จากนั้นเธอมาจัดการในส่วนของเนื้อและผัก วันนี้หลิวหลิวทำเพียงหั่นหมูเป็นชิ้นพร้อมนำไปหมักกับเครื่องหมักหมูที่เธอหยิบมาจากมิติห้าง ก่อนจะมาหั่นผักและทำน้ำจิ้ม เธอจะทำน้ำจิ้มแค่อย่างเดียวก่อนลองดูว่าลูกค้าที่มากินพึงพอใจระดับไหนเธอค่อยทำน้ำจิ้มสูตรใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง น้ำจิ้มของเธอเป็นน้ำจิ้มน้ำมันงา โดยมีส่วนผสมดังนี้
ซอสงา 2 ช้อนชา น้ำมันหอย 2 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว ครึ่งช้อน
น้ำมันพริกหม่าล่า 1 ช้อนชา ซอสเห็ดสับ 2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา น้ำมันงา 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา ผงชูรส เกือบครึ่งช้อน
กระเทียมสับ พริกขี้หนู ผงพริกหม่าล่า งาคั่ว ต้นหอม
ผักชี เมื่อใส่ทุกอย่างครบแล้วเธอคนเครื่องให้เข้ากันแล้วค่อย ๆ ตักมาชิมอย่างคาดหวัง
“อื้มม..อร่อยเหมือนกันนะเนี้ยะไม่คิดเลยว่าฉันจะทำมันออกมาได้อร่อยขนาดนี้ไม่ผิดหวังเลยที่เป็นคนชอบหมาล่า ต่อไปคงต้องรอให้ซุปเข้าที่และเนื้อนุ่ม ค่อยมาชินอีกครั้งแล้วกัน” หลิวหลิววางช้อนลงก่อนจะเดินออกไปที่ด้านนอกเพื่อจัดเตรียมโต๊ะเก้าอี้สำหรับเปิดร้านขายหมาล่า โชคดีที่ในมิติมีทุกอย่างที่เธอต้องการ เธอวาดรูปวางแผนการจัดร้านก่อนจะเปิดมิติไปนำเอาโต๊ะเก้าอี้ ออกมาจัดพร้อมทั้งหม้อถ้วยชามไว้สำหรับไว้ให้ลูกค้าเมื่อเข้ามากินที่นี่ เธอใช้แรงและเวลานานพอสมควรในการจัดแจงร้านจนตอนนี้ทุกอย่างลงตัว
“เฮ้อ! ในที่สุดร้านเล็ก ๆ ของฉันก็สำเร็จเสียทีมีโต๊ะไว้สำหรับตอนรับลูกค้าสามโต๊ะ เท่านี้ก็พอแล้วสำหรับร้านใหม่ เอาล่ะตอนนี้ถึงเวลาชิมซุปหมาล่าแล้ว” พูดจบหลิวหลิวเดินเข้าไปในครัวตักซุปหมาล่าใส่หม้อสำหรับตั้งโต๊ะเธอเริ่มชิมของที่เธอทำเอาไว้ คิดไม่ถึงเลยว่าน้ำซุปที่ทำจะออกมาได้อร่อยขนาดนี้
“ว๊าวว น้ำซุปเผ็ดกำลังดีเนื้อนี่ฉันคงต้องหมักผงปรุงรสเพิ่มสักหน่อย เท่านี้ถือว่าดีมาก ๆ แล้ว พรุ่งนี้ร้านหมาล่าสกุลไป๋พร้อมที่จะเปิดร้านแล้ว” หลิวหลิวคลี่ยิ้มเต็มดวงหน้าจัดการกินของที่อยู่ตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อยก่อนจะเก็บของและขึ้นนอน เมื่อหัวถึงหมอนเธอก็หลับในทันที
บทที่ 6 แจกฟรีรุ่งเช้าวันต่อมาเด็ก ๆ ลงมาจากห้องนอนต้องพากันตกตะลึงเพราะเมื่อวานบ้านหลังนี้ด้านล่างยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าแต่ทว่าตอนนี้ถูกจัดเป็นร้านอาหารมีของมากมาย“โอ้โห่ชิงเทียนนี่คือบ้านที่เราเข้ามาเมื่อวานจริง ๆ หรือของพวกนี้มาจากไหนกัน… ก่อนที่เราจะไปนอนยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ”“นั่นสิคงเป็นฝีมือของพี่ชิงฮวาเราไปดูที่ครัวกันเถอะพี่น่าจะอยู่ที่นั่น” เด็กทั้งสองรีบเดินไปที่ครัวอย่างตื่นเต้นและสงสัยว่าพี่จะทำอะไรหลิวหลิวอยู่ในครัวจัดการอุ่นซุปวันนี้เธอตั้งใจจะแจกให้กินฟรี เพราะเธอยังไม่รู้ว่าคนในยุคนี้จะรู้จักและกินอาหารแบบนี้มั้ย ครั้นนั้นเสียงฝีเท้ากำลังเดินเข้ามาในครัวเธอวางของหันกลับไปมอง"ตื่นกันแล้วเหรอมานี่สิพี่จะเอาอะไรให้กิน ""อะไรหรือคะ? ว่าแต่ในบ้านของเรามีโต๊ะเต็มไปหมดพี่ชิงฮวาจะทำอะไรเหรอคะ ""สิ่งที่เราทั้งสองเห็นคือธุรกิจของครอบครัวเรา พี่จะขายซุปหมาล่าเลี้ยงดูทั้งสองคน ถ้าขายได้ดีพี่จะส่งเราทั้งคู่เข้าเรียนหนังสือ เอาล่ะมากินซาลาเปาเพื่อลองท้องก่อนพี่จะให้ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์ไปป่าวประกาศให้คนที่ผ่านมาละแวกนี้ได้เข้ามาชิมเพื่อเป็นการโปรโมทและดึงดูดลูกค้า ""โปรโมทดึงด
บทที่ 7 ฉันจะไปดูงานเองแม่ของซุนเย่ถึงกับถอนหายใจเมื่อเห็นท่าทีของลูกชาย เธออยากให้เขามีครอบครัวมีภรรยาคอยดูแล ตอนนี้ทุกอย่างก็มีพร้อมแล้วเธอเองก็แก่มากขึ้นทุกวันหากมีหลานตัวน้อย ๆ ก่อนที่เธอจะตายคงจะดี“คุณป้าคะดูท่าวันนี้พี่ซุนเย่จะอารมณ์ไม่ดีเอาไว้วันหน้าฉันจะมาหาใหม่แล้วกันค่ะ”“หนูหวางลี่อิงป้าต้องขอโทษด้วยนะที่ซุนเย่เสียมารยาทกับหนู”“ไม่เป็นอะไรค่ะคุณป้าไม่ต้องคิดมากพี่เขาคงเหนื่อยมาจากงาน ฉันขอตัวนะคะ” หวางลี่อินลูกสาวคนรองของท่านนายพลเธอเพรียบพร้อมทุกอย่างแต่ชายที่เธอปักใจคือซุนเย่ทั้งฐานะครอบครัว และชื่อเสียงหากทั้งสองตระกูลได้เป็นครอบครัวเดียวกัน อำนาจอิทธิพลจะยิ่งใหญ่ที่สุดในมณฑลนี้ เขาทั้งรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าคมคายไม่ว่าจะมองตรงใดก็ไม่มีที่ติแม้แต่น้อย ทำให้สาว ๆ ในมณฑลนี้ต่างพากันหลงใหลเข้าหาเขาจนเขาเกิดความรำคาญ แต่หวางลี่อิงไม่ได้ใส่ใจและยอมแพ้อย่างไรก็ตามเธอจะเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลเว่ยให้ได้ฝั่งด้านซุนเย่เขาเข้ามาในห้องกำลังจะถอดเสื้อเนคไทด์ออกจากเสื้อสูทด้วยความอึกอันครั้นนั้นเสียงประตูได้ดังขึ้นก๊อก ๆ“คุณชายผมขอเข้าไปด้านในนะครับมีเรื่องมารายงาน” เสียงของลูกน้องค
บทที่ 8 เป็นไปได้อย่างไรกัน!!เมื่อถึงเวลาเปิดร้านชิงเทียนกับชิงหนี่ว์ทำหน้าที่เรียกขานเชิญชวนทุกคนที่ผ่านมา อีกทั้งมีโปรโมชั่นเปิดร้านใหม่ราคาเพียง 30 หยวนเท่านั้น ในยุคที่เงินเดือนเดือนละ2000 หยวนต่อเดือน หลิวหลิวจึงคิดว่าราคานี้ไม่ได้แพงเท่าไหร่นักพอที่คนจะเจียดเงินมาซื้อซุปหมาล่าของเธอได้คนที่เคยชิมเมื่อวานรู้รสชาติได้กลับมาอุดหนุนหมาล่าเพราะอยากกินเยอะกว่าที่แจกฟรี“เชิญด้านในเลยค่ะ”“เมื่อวานฉันได้ชิมที่เจ้าของร้านแจกฟรีทำให้ติดใจและยังไม่อิ่มวันนี้เลยชวนสามีมากินด้วยกัน”“ได้เลยค่ะร้านหมาล่าของเราขายเป็นชุด ชุดหนึ่งสามารถกินได้สองถึงสามคนเชิญลูกค้านั่งด้านนี้เลยค่ะ ฉันจะรีบเข้าไปเตรียมหม้อน้ำซุปมาให้นะคะ” หลิวหลิวผายมือให้ลูกค้าที่มากันสองคนไปนั่งเก้าอี้ก่อนที่เธอจะเข้าไปจัดเตรียมหม้อน้ำซุปมาให้ลูกค้าและเครื่องเคียงที่จัดเตรียมเป็นชุดเอาไว้ ไม่นานลูกค้าเข้ามานั่งที่โต๊ะจนเต็มทุกตัว หลิวหลิวมีความสุขมากที่หมาล่าของเธอขายได้และได้รับคำชมเมื่อลูกค้ากินอิ่มต่างชมว่าอร่อยและจะไปบอกต่อให้วันเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วของที่หลิวหลิวเตรียมเอาไว้ 10 ชุดได้หมดลงทำให้เธอปิดร้านตั้งแต่ยัง
บทที่ 9 หาเรื่องฝั่งด้านหลิวหลิวหลังจากที่ลูกค้าชุดแรกออกไปจากร้านจนหมดทุกโต๊ะเธอจึงเก็บถ้วยชามจะนำไปล้างโดยให้น้องทั้งสองเฝ้าอยู่หน้าร้านหากมีลูกค้ามาให้ไปเรียกเธอที่ครัว แต่ทว่าเมื่อเธอกำลังเดินเข้าไปหลังร้านได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามา หลิวหลิวคิดว่าลูกค้าจึงหันกลับมายิ้มกว้างกล่าวตอนรับทันที“ร้านหมาล่าสกุลไป๋ยินดีต้อนรับค่ะ ชะ..” หลิวหลิวพูดไม่ทันจบรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอกลับหลายเป็นบูดบึ้งทันทีเพราะคนที่เข้ามาในร้านตอนนี้เป็นคนที่เธอไม่อยากพบเจอหน้าแม้แต่น้อย คงได้ยินเรื่องร้านของเธอแล้วสินะถึงได้พากันมาที่นี่“แหม ๆ ฉันก็คิดว่าหลานของฉันจะไปอยู่ที่ไหนที่แท้ก็มาเปิดร้านขายของอะไรเนี้ยะ! ฉันไม่เห็นจะรู้จัก”“คุณป้ามาทำอะไรที่นี่หากจะมาหาเรื่องเชิญกลับไปด้วยค่ะอย่ามาทำให้ร้านของฉันเสียหายและรบกวนเวลาลูกค้าคนอื่น”“นี่แกจะมากไปแล้วนะ มีเงินเปิดร้านเลยปีกกล้าขาแข็งขับไล่ฉันกับคุณแม่สินะ เงินที่เธอนำมาเปิดร้านคงเป็นเงินที่เธอขโมยมาจากบ้านของฉันล่ะสิไม่ว่า” ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์เห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามายืนตรงหน้าพี่สาวพร้อมอธิบายให้เหมยอิ๋งกับคุณป้าได้รู้“ไม่ใช่นะครับพี่ชิงฮวาไม่เคยไปขโมยของ
บทที่ 10 คิดมากดวงตะวันเปลี่ยนผลันเป็นดวงจันทร์ที่ขึ้นแทนที่ตอนนี้ร้านหมาล่าสกุลไป๋ได้ปิดร้านเมื่อของที่เธอเตรียมเอาไว้ได้หมดก่อนเวลา หลิวหลิวเฝ้าแต่คิดเรื่องที่ซิ่นเจี่ยวกับเหมยอิ๋งที่เข้ามาวุ่นวายที่ร้านเหมือนทั้งสองไม่รู้จักพอ หลิวหลิวเริ่มเป็นกังวลเกรงว่าทั้งสองต้องกลับมาอีกครั้งแน่ ๆ“พี่ชิงฮวาคิดอะไรอยู่หรือคะทำไมสีหน้าพี่ดูไม่ดีเลย”“นั่นสิครับหรือว่าพี่ชิงฮวาจะคิดมากเรื่องคุณป้าที่เข้ามาวุ่นวายกับเราวันนี้” เด็กทั้งสองเห็นพี่สาวนั่งนิ่งเหม่อลอยแถมยังถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า น่าจะดีใจที่ขายของได้ดีขนาดหากมีเรื่องให้เคลียดคงมีเรื่องเดียวคือเรื่องที่ป้าเข้ามาหาเรื่องวันนี้ เด็ก ๆ เห็นพี่ไม่สบายจึงพากันเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง“พี่มีเรื่องเป็นห่วงนิดหน่อยกลัวว่าป้าซิ่นเจี่ยวจะไม่ยอมเลิกลามาวุ่นวายกับเราอีกนะสิ ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์คงกลัวมากเลยสินะมานี่หน่อยสิ” หลิวหลิวอ้าแขนให้น้องเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะโอบกอดทั้งสองคนแนบแน่น“พี่ชิงฮวาพวกเราไม่กลัวเลยครับ ถ้าครั้งหน้าป้ามาอีกผมจะปกป้องพี่กับชิงหนี่ว์เอง”“หนูก็ไม่กลัวเหมือนกันค่ะ ถ้าป้ามาอีกหนูจะเอาไม้ไล่ไปไกล ๆ เลยพี่ไม่ต้อง
บทที่ 1 น่าเหลือเชื่อในคืนที่ฟ้าเต็มไปด้วยแสงดาวระยิบระยับบ้านเช่าหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวง มีหญิงสาวอายุ 26 ปีพักอาศัยอยู่เพียงลำพังกำลังนั่งดูซีรี่ย์นักแสดงคนโปรดที่เธอตั้งหน้าตั้งตารอหลังจากเลิกงานและพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์เธอจึงเตรียมขนมเครื่องดื่มเพื่อจะดื่มด่ำในคืนวันศุกร์อย่างมีความสุขจนซีรี่ย์เล่นมาถึงจุดที่นางเอกกับน้อง ๆ ของเธอถูกพี่สาวพ่อหรือว่าป้ากำลังทำร้ายร่างกายมิหนำซ้ำยังถูกลูก ๆ ของป้าใช้งานยิ่งกว่าสาวใช้ด้วยซ้ำ“ฮึ! ทำไมต้องทนแบบนั้นฉันไม่เข้าใจไป๋ชิงฮวาเลยสักนิด ลองเป็นฉันดูสิฉันจะสู้สุดใจให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย สมบัติก็ของครอบครัวนางเอกเป็นคนสร้างมาแท้ ๆ ป้านี่ก็เลวจริง ๆ อยากได้ของหลานจนไม่มีสามัญสำนึกชั่วดีแม้แต่น้อย ชิ!! ดูแล้วอยากจะทะลุเข้าไปในทีวีเพื่อจัดการป้าชั่วแบบนี้จริง ๆ” หลิวหลิวกินขนมไปพร้อมกับบ่นเรื่องที่นางเอกกำลังพบเจอจนทำให้ขนมติดคอจนสำลักแค่ก ๆๆ!! เธอรีบลุกขึ้นวิ่งไปเอาน้ำที่ตู้เย็นจังหวะนั้นนั่นเองเท้าของเธอได้ไปสะดุดสายไฟทำให้เกิดกระแสไฟปะทุออกมาจากจอทีวี สายตาของเธอจับจ้องไปหน้าจอทีวีอย่างตื่นตระหนกอีกทั้งยังทรมานกับขนมติดคอเริ่มทำ
บทที่ 2 ปะทะป้ามหาภัยหลิวหลิวเดินออกจากห้อง ชิงเทียนน้องชายเห็นท่าไม่ดีกลัวว่าจะทำให้เกิดเรื่องใหญ่ตามมาทีหลังรีบดึงมือเธอเอาไว้ก่อน“พี่ชิงฮวา พี่พึ่งหายจากการเป็นไข้อย่าหาเรื่องให้คุณป้าทำร้ายพี่อีกเลย แค่ได้กินก้อนแป้งพวกเราก็อิ่มมากแล้วไม่อยากให้พี่ต้องมานอนไม่ได้สติแบบนี้อีก” หลิวหลิวหันกลับมามองมือเล็กที่สั่นเทาจับเธอเอาไว้แน่นสายสัมพันธ์ความเป็นห่วงเป็นใยต่อพี่ทำให้หลิวหลิวเจ็บจี้ดที่ใจ ยกมือลูบที่หัวของเด็ก ๆ อย่างเอ็นดู“ชิงเทียนพี่จะไม่ยอมทนคุณป้าอีกต่อไป บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณพ่อเป็นบ้านของเรา พี่จะไม่ทนให้ป้าใช้งานเราและโขกสับเราอีกต่อไป ไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่จะไม่ให้คนพวกนั้นทำอะไรเราได้อีก”"จะทำแบบนั้นได้จริง ๆ หรือครับ ""ได้สิ มาเถอะไปที่ห้องครัวกัน "หลิวหลิวเห็นร่างกายของเด็กทั้งสองที่ผอมแทบเหลือแต่กระดูกคงไม่ได้กินอะไรดี ๆ เลยสินะ เธอไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้นแค่ดูในทีวีเธอแทบอยากจะเข้ามาจัดการผู้เป็นป้า ในเมื่อตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้วเธอจะไม่ให้พวกนั้นมาทำอะไรเธอกับน้อง ๆ ได้อีกสกุลไป๋เป็นตระกูลที่ร่ำรวยมีลูกสามคนด้วยกัน คือไป๋ชิงฮวา ไป๋ชิงเทียนและไป๋ชิงหนี่
บทที่ 3 โดนไล่ออกจากบ้านมับ!!หลิวหลิวคิดเอาไว้แล้วว่าซิ่นเจี่ยวต้องลงไม้ลงมือทำร้ายเธอแน่ ๆ เธอจะไม่ยอมให้เรื่องอย่างนั้นเกิดขึ้นได้อีก เธอยกมือของเธอจับมือของป้าเอาไว้ทันก่อนที่มันจะฟาดลงที่ใบหน้าของเธอ หลิวหลิวใช้แรงทั้งหมดที่มือบีบที่ข้อมือของป้าอย่างเต็มแรง“คิดว่าฉันจะยอมให้ป้าลงไม้ลงมือกับฉันตามอำเภอใจได้อีกอย่างนั้นเหรอฝันไปเถอะ ตอนนี้ชิงฮวาคนเก่าไม่มีอีกแล้วคนที่อ่อนแอให้ป้าคอยรังแกข่มเหง ต่อจากนี้จะมีเพียงไป๋ชิงฮวาคนใหม่ที่ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายร่างกายได้อีก” เธอดันแขนของผู้เป็นป้าออกจากมือแต่ทว่าแรงของเธอที่บีบข้อมือของซิ่นเจี่ยวแน่นทำให้เธอถลาล้มลงกับพื้น จัวหวะนั้นเองที่ต้าหลงกับเหมยอิ๋งกลับมาจากด้านนอกได้เห็นพอดี“โอ๊ย! นี่แก แกมันบ้าไปแล้วตื่นจากเจ็บไข้มาเปลี่ยนไปคนละคนอย่างนี้หรือว่าผีร้ายจะเข้าแกไม่ได้การล่ะฉันจะต้องจัดการไล่ผีชั่ว ๆ ตัวนี้ออกไป”“คุณแม่เกิดอะไรขึ้นคะ นี่ไป๋ชิงฮวาเธอกล้าลงไม้ลงมือกับแม่ฉันเหรอ” เหมยอิ๋งรีบเดินกึ่งวิ่งเข้ามาพยุงกายของซิ่นเจี่ยวให้ลุกขึ้น“ใช่นี่เธอกล้ามากนะที่ทำร้ายแม่ของฉัน ฉันเห็นว่าเธอมีสายเลือดเดียวกันกับฉันหรอกนะฉันถึงปล่อยเธออยู่ม
บทที่ 10 คิดมากดวงตะวันเปลี่ยนผลันเป็นดวงจันทร์ที่ขึ้นแทนที่ตอนนี้ร้านหมาล่าสกุลไป๋ได้ปิดร้านเมื่อของที่เธอเตรียมเอาไว้ได้หมดก่อนเวลา หลิวหลิวเฝ้าแต่คิดเรื่องที่ซิ่นเจี่ยวกับเหมยอิ๋งที่เข้ามาวุ่นวายที่ร้านเหมือนทั้งสองไม่รู้จักพอ หลิวหลิวเริ่มเป็นกังวลเกรงว่าทั้งสองต้องกลับมาอีกครั้งแน่ ๆ“พี่ชิงฮวาคิดอะไรอยู่หรือคะทำไมสีหน้าพี่ดูไม่ดีเลย”“นั่นสิครับหรือว่าพี่ชิงฮวาจะคิดมากเรื่องคุณป้าที่เข้ามาวุ่นวายกับเราวันนี้” เด็กทั้งสองเห็นพี่สาวนั่งนิ่งเหม่อลอยแถมยังถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า น่าจะดีใจที่ขายของได้ดีขนาดหากมีเรื่องให้เคลียดคงมีเรื่องเดียวคือเรื่องที่ป้าเข้ามาหาเรื่องวันนี้ เด็ก ๆ เห็นพี่ไม่สบายจึงพากันเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง“พี่มีเรื่องเป็นห่วงนิดหน่อยกลัวว่าป้าซิ่นเจี่ยวจะไม่ยอมเลิกลามาวุ่นวายกับเราอีกนะสิ ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์คงกลัวมากเลยสินะมานี่หน่อยสิ” หลิวหลิวอ้าแขนให้น้องเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะโอบกอดทั้งสองคนแนบแน่น“พี่ชิงฮวาพวกเราไม่กลัวเลยครับ ถ้าครั้งหน้าป้ามาอีกผมจะปกป้องพี่กับชิงหนี่ว์เอง”“หนูก็ไม่กลัวเหมือนกันค่ะ ถ้าป้ามาอีกหนูจะเอาไม้ไล่ไปไกล ๆ เลยพี่ไม่ต้อง
บทที่ 9 หาเรื่องฝั่งด้านหลิวหลิวหลังจากที่ลูกค้าชุดแรกออกไปจากร้านจนหมดทุกโต๊ะเธอจึงเก็บถ้วยชามจะนำไปล้างโดยให้น้องทั้งสองเฝ้าอยู่หน้าร้านหากมีลูกค้ามาให้ไปเรียกเธอที่ครัว แต่ทว่าเมื่อเธอกำลังเดินเข้าไปหลังร้านได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามา หลิวหลิวคิดว่าลูกค้าจึงหันกลับมายิ้มกว้างกล่าวตอนรับทันที“ร้านหมาล่าสกุลไป๋ยินดีต้อนรับค่ะ ชะ..” หลิวหลิวพูดไม่ทันจบรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอกลับหลายเป็นบูดบึ้งทันทีเพราะคนที่เข้ามาในร้านตอนนี้เป็นคนที่เธอไม่อยากพบเจอหน้าแม้แต่น้อย คงได้ยินเรื่องร้านของเธอแล้วสินะถึงได้พากันมาที่นี่“แหม ๆ ฉันก็คิดว่าหลานของฉันจะไปอยู่ที่ไหนที่แท้ก็มาเปิดร้านขายของอะไรเนี้ยะ! ฉันไม่เห็นจะรู้จัก”“คุณป้ามาทำอะไรที่นี่หากจะมาหาเรื่องเชิญกลับไปด้วยค่ะอย่ามาทำให้ร้านของฉันเสียหายและรบกวนเวลาลูกค้าคนอื่น”“นี่แกจะมากไปแล้วนะ มีเงินเปิดร้านเลยปีกกล้าขาแข็งขับไล่ฉันกับคุณแม่สินะ เงินที่เธอนำมาเปิดร้านคงเป็นเงินที่เธอขโมยมาจากบ้านของฉันล่ะสิไม่ว่า” ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์เห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามายืนตรงหน้าพี่สาวพร้อมอธิบายให้เหมยอิ๋งกับคุณป้าได้รู้“ไม่ใช่นะครับพี่ชิงฮวาไม่เคยไปขโมยของ
บทที่ 8 เป็นไปได้อย่างไรกัน!!เมื่อถึงเวลาเปิดร้านชิงเทียนกับชิงหนี่ว์ทำหน้าที่เรียกขานเชิญชวนทุกคนที่ผ่านมา อีกทั้งมีโปรโมชั่นเปิดร้านใหม่ราคาเพียง 30 หยวนเท่านั้น ในยุคที่เงินเดือนเดือนละ2000 หยวนต่อเดือน หลิวหลิวจึงคิดว่าราคานี้ไม่ได้แพงเท่าไหร่นักพอที่คนจะเจียดเงินมาซื้อซุปหมาล่าของเธอได้คนที่เคยชิมเมื่อวานรู้รสชาติได้กลับมาอุดหนุนหมาล่าเพราะอยากกินเยอะกว่าที่แจกฟรี“เชิญด้านในเลยค่ะ”“เมื่อวานฉันได้ชิมที่เจ้าของร้านแจกฟรีทำให้ติดใจและยังไม่อิ่มวันนี้เลยชวนสามีมากินด้วยกัน”“ได้เลยค่ะร้านหมาล่าของเราขายเป็นชุด ชุดหนึ่งสามารถกินได้สองถึงสามคนเชิญลูกค้านั่งด้านนี้เลยค่ะ ฉันจะรีบเข้าไปเตรียมหม้อน้ำซุปมาให้นะคะ” หลิวหลิวผายมือให้ลูกค้าที่มากันสองคนไปนั่งเก้าอี้ก่อนที่เธอจะเข้าไปจัดเตรียมหม้อน้ำซุปมาให้ลูกค้าและเครื่องเคียงที่จัดเตรียมเป็นชุดเอาไว้ ไม่นานลูกค้าเข้ามานั่งที่โต๊ะจนเต็มทุกตัว หลิวหลิวมีความสุขมากที่หมาล่าของเธอขายได้และได้รับคำชมเมื่อลูกค้ากินอิ่มต่างชมว่าอร่อยและจะไปบอกต่อให้วันเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วของที่หลิวหลิวเตรียมเอาไว้ 10 ชุดได้หมดลงทำให้เธอปิดร้านตั้งแต่ยัง
บทที่ 7 ฉันจะไปดูงานเองแม่ของซุนเย่ถึงกับถอนหายใจเมื่อเห็นท่าทีของลูกชาย เธออยากให้เขามีครอบครัวมีภรรยาคอยดูแล ตอนนี้ทุกอย่างก็มีพร้อมแล้วเธอเองก็แก่มากขึ้นทุกวันหากมีหลานตัวน้อย ๆ ก่อนที่เธอจะตายคงจะดี“คุณป้าคะดูท่าวันนี้พี่ซุนเย่จะอารมณ์ไม่ดีเอาไว้วันหน้าฉันจะมาหาใหม่แล้วกันค่ะ”“หนูหวางลี่อิงป้าต้องขอโทษด้วยนะที่ซุนเย่เสียมารยาทกับหนู”“ไม่เป็นอะไรค่ะคุณป้าไม่ต้องคิดมากพี่เขาคงเหนื่อยมาจากงาน ฉันขอตัวนะคะ” หวางลี่อินลูกสาวคนรองของท่านนายพลเธอเพรียบพร้อมทุกอย่างแต่ชายที่เธอปักใจคือซุนเย่ทั้งฐานะครอบครัว และชื่อเสียงหากทั้งสองตระกูลได้เป็นครอบครัวเดียวกัน อำนาจอิทธิพลจะยิ่งใหญ่ที่สุดในมณฑลนี้ เขาทั้งรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าคมคายไม่ว่าจะมองตรงใดก็ไม่มีที่ติแม้แต่น้อย ทำให้สาว ๆ ในมณฑลนี้ต่างพากันหลงใหลเข้าหาเขาจนเขาเกิดความรำคาญ แต่หวางลี่อิงไม่ได้ใส่ใจและยอมแพ้อย่างไรก็ตามเธอจะเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลเว่ยให้ได้ฝั่งด้านซุนเย่เขาเข้ามาในห้องกำลังจะถอดเสื้อเนคไทด์ออกจากเสื้อสูทด้วยความอึกอันครั้นนั้นเสียงประตูได้ดังขึ้นก๊อก ๆ“คุณชายผมขอเข้าไปด้านในนะครับมีเรื่องมารายงาน” เสียงของลูกน้องค
บทที่ 6 แจกฟรีรุ่งเช้าวันต่อมาเด็ก ๆ ลงมาจากห้องนอนต้องพากันตกตะลึงเพราะเมื่อวานบ้านหลังนี้ด้านล่างยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าแต่ทว่าตอนนี้ถูกจัดเป็นร้านอาหารมีของมากมาย“โอ้โห่ชิงเทียนนี่คือบ้านที่เราเข้ามาเมื่อวานจริง ๆ หรือของพวกนี้มาจากไหนกัน… ก่อนที่เราจะไปนอนยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ”“นั่นสิคงเป็นฝีมือของพี่ชิงฮวาเราไปดูที่ครัวกันเถอะพี่น่าจะอยู่ที่นั่น” เด็กทั้งสองรีบเดินไปที่ครัวอย่างตื่นเต้นและสงสัยว่าพี่จะทำอะไรหลิวหลิวอยู่ในครัวจัดการอุ่นซุปวันนี้เธอตั้งใจจะแจกให้กินฟรี เพราะเธอยังไม่รู้ว่าคนในยุคนี้จะรู้จักและกินอาหารแบบนี้มั้ย ครั้นนั้นเสียงฝีเท้ากำลังเดินเข้ามาในครัวเธอวางของหันกลับไปมอง"ตื่นกันแล้วเหรอมานี่สิพี่จะเอาอะไรให้กิน ""อะไรหรือคะ? ว่าแต่ในบ้านของเรามีโต๊ะเต็มไปหมดพี่ชิงฮวาจะทำอะไรเหรอคะ ""สิ่งที่เราทั้งสองเห็นคือธุรกิจของครอบครัวเรา พี่จะขายซุปหมาล่าเลี้ยงดูทั้งสองคน ถ้าขายได้ดีพี่จะส่งเราทั้งคู่เข้าเรียนหนังสือ เอาล่ะมากินซาลาเปาเพื่อลองท้องก่อนพี่จะให้ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์ไปป่าวประกาศให้คนที่ผ่านมาละแวกนี้ได้เข้ามาชิมเพื่อเป็นการโปรโมทและดึงดูดลูกค้า ""โปรโมทดึงด
บทที่ 5 ทำน้ำซุปฝั่งด้านซิ่นเจี่ยวหลังจากที่ขับไล่ชิงฮวากับน้องของเธอออกไปจากบ้านได้ ซิ่นเจี่ยวมีความสุขที่ไม่ต้องทนเห็นใบหน้าของหลานอีก ต่อจากนี้บ้านหลังนี้เงินทองมากมายของน้องชายจะเป็นของเธอเพียงคนเดียว“คุณแม่คะวันนี้ฉันจะออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนขอเงินหน่อยสิยิ่งตอนนี้มีกระเป๋าเข้ามาใหม่ ฉันไม่อยากจะตกยุคให้เพื่อนคนอื่นดูถูกต่อว่า” ซิ่นเจี่ยวดื่มน้ำชาอยู่ในห้องโถงของบ้านกำลังครุ่นคิดว่าวันนี้เธอจะไปเข้าบ่อนเพื่อเอาคืนที่เสียไปเมื่อวานครันนั้นเหมยอิ๋งได้เดินออกมาจากห้องแต่งกายสีฉูดฉาดแต่งแต้มใบหน้าเตรียมพร้อมจะออกไปข้างนอกเอ่ยขอเงินผู้เป็นแม่“เหมยอิ๋งแกเองก็ต้องรู้จักประหยัดช่วยกันสิ เราไม่ได้ทำงานต่อให้เงินที่มีอยู่ตอนนี้มากแค่ไหนใช้ฟุ่มเฟือยสักวันมันต้องหมดแล้วกระเป๋าแกพึ่งไปซื้อมาใหม่ไม่กี่วันก่อนไม่ใช่หรือไงกัน”“เฮอะ! แล้วทีคุณแม่ล่ะคะออกไปบ่อนทุกวันเสียทุกวันฉันยังไม่เคยว่าอะไรเลย ฉันซื้อของได้ของแต่คุณแม่เสียเงินแถมยังไม่ได้อะไรอีกด้วย”“เจ้าลูกคนนี้ยอกย้อนจริง ๆ เอานี่เอาไปจะได้ไม่ต้องมาบ่นให้อารมณ์เสีย” ซิ่นเจี่ยวแม้ปากจะบ่นแต่ก็หยิบกระเป๋าล้วงนำเงินออกมาให้แก่เหมยอิ๋งไป
บทที่ 4 ป้าใจดีทั้งสามจึงพากันเดินไปนั่งที่นั่นก่อน หลิวหลิวเริ่มครุ่นคิดคืนนี้เธอจะพาน้องของเธอไปนอนที่ไหนกันดี เธอถูกขับไล่ออกแม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่ให้เธอติดตัวมาเงินสักหยวนก็ไม่มี เธอเริ่มเป็นกังวลคิดไม่ตกจนกระทั่งเจ้าของร้านค้าออกมาจากร้านเพื่อเอาขยะมาทิ้งเห็นเด็กทั้งสามที่เห็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ นั่งอยู่หน้าร้านด้วยใบหน้าเศร้าหมอง แม้เขาจะรู้ว่าตั้งแต่พ่อกับแม่ของพวกเธอจากไปถูกป้ารังแกแต่ไม่เคยเห็นทั้งสามพี่น้องมานั่งที่นี่ในยามกลางคืนสักครั้ง“ชิงฮวาเธอพาน้อง ๆ มานั่งทำอะไรที่นี่ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วพาน้อง ๆ เข้าบ้านเถอะ” หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามขึ้นเธอพอได้เห็นในซีรี่ย์แม้ว่าหญิงคนนี้จะโผล่มาเพียงไม่กี่ฉากแต่เธอก็จำได้ดี“ป้ามิ่งจูฉันกับน้องขอนั่งอยู่ที่นี่สักครู่เถอะนะ ตอนนี้ฉันมีเรื่องให้ต้องคิดนิดหน่อยค่ะ”“มีเรื่องอะไรอีกหรือว่าเธอทะเลาะกับซิ่งเจี่ยวอีกแล้ว โธ่ ๆ น่าสงสารจริง ๆ ทำไมป้าของเธอต้องใจร้ายกับเธอด้วย”“เรื่องนั้นฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน คงเป็นเพราะป้าอยากได้สมบัติของคุณพ่อคุณแม่มั่งคะตอนนี้ฉันไม่มีที่ไป ฉันกับน้อง ๆ ถูกขับไล่ออกจากบ้านเพราะฉันทนไม่ไหวต่อปากต่อคำกับป้า ทำให้เธอ
บทที่ 3 โดนไล่ออกจากบ้านมับ!!หลิวหลิวคิดเอาไว้แล้วว่าซิ่นเจี่ยวต้องลงไม้ลงมือทำร้ายเธอแน่ ๆ เธอจะไม่ยอมให้เรื่องอย่างนั้นเกิดขึ้นได้อีก เธอยกมือของเธอจับมือของป้าเอาไว้ทันก่อนที่มันจะฟาดลงที่ใบหน้าของเธอ หลิวหลิวใช้แรงทั้งหมดที่มือบีบที่ข้อมือของป้าอย่างเต็มแรง“คิดว่าฉันจะยอมให้ป้าลงไม้ลงมือกับฉันตามอำเภอใจได้อีกอย่างนั้นเหรอฝันไปเถอะ ตอนนี้ชิงฮวาคนเก่าไม่มีอีกแล้วคนที่อ่อนแอให้ป้าคอยรังแกข่มเหง ต่อจากนี้จะมีเพียงไป๋ชิงฮวาคนใหม่ที่ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายร่างกายได้อีก” เธอดันแขนของผู้เป็นป้าออกจากมือแต่ทว่าแรงของเธอที่บีบข้อมือของซิ่นเจี่ยวแน่นทำให้เธอถลาล้มลงกับพื้น จัวหวะนั้นเองที่ต้าหลงกับเหมยอิ๋งกลับมาจากด้านนอกได้เห็นพอดี“โอ๊ย! นี่แก แกมันบ้าไปแล้วตื่นจากเจ็บไข้มาเปลี่ยนไปคนละคนอย่างนี้หรือว่าผีร้ายจะเข้าแกไม่ได้การล่ะฉันจะต้องจัดการไล่ผีชั่ว ๆ ตัวนี้ออกไป”“คุณแม่เกิดอะไรขึ้นคะ นี่ไป๋ชิงฮวาเธอกล้าลงไม้ลงมือกับแม่ฉันเหรอ” เหมยอิ๋งรีบเดินกึ่งวิ่งเข้ามาพยุงกายของซิ่นเจี่ยวให้ลุกขึ้น“ใช่นี่เธอกล้ามากนะที่ทำร้ายแม่ของฉัน ฉันเห็นว่าเธอมีสายเลือดเดียวกันกับฉันหรอกนะฉันถึงปล่อยเธออยู่ม
บทที่ 2 ปะทะป้ามหาภัยหลิวหลิวเดินออกจากห้อง ชิงเทียนน้องชายเห็นท่าไม่ดีกลัวว่าจะทำให้เกิดเรื่องใหญ่ตามมาทีหลังรีบดึงมือเธอเอาไว้ก่อน“พี่ชิงฮวา พี่พึ่งหายจากการเป็นไข้อย่าหาเรื่องให้คุณป้าทำร้ายพี่อีกเลย แค่ได้กินก้อนแป้งพวกเราก็อิ่มมากแล้วไม่อยากให้พี่ต้องมานอนไม่ได้สติแบบนี้อีก” หลิวหลิวหันกลับมามองมือเล็กที่สั่นเทาจับเธอเอาไว้แน่นสายสัมพันธ์ความเป็นห่วงเป็นใยต่อพี่ทำให้หลิวหลิวเจ็บจี้ดที่ใจ ยกมือลูบที่หัวของเด็ก ๆ อย่างเอ็นดู“ชิงเทียนพี่จะไม่ยอมทนคุณป้าอีกต่อไป บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณพ่อเป็นบ้านของเรา พี่จะไม่ทนให้ป้าใช้งานเราและโขกสับเราอีกต่อไป ไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่จะไม่ให้คนพวกนั้นทำอะไรเราได้อีก”"จะทำแบบนั้นได้จริง ๆ หรือครับ ""ได้สิ มาเถอะไปที่ห้องครัวกัน "หลิวหลิวเห็นร่างกายของเด็กทั้งสองที่ผอมแทบเหลือแต่กระดูกคงไม่ได้กินอะไรดี ๆ เลยสินะ เธอไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้นแค่ดูในทีวีเธอแทบอยากจะเข้ามาจัดการผู้เป็นป้า ในเมื่อตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้วเธอจะไม่ให้พวกนั้นมาทำอะไรเธอกับน้อง ๆ ได้อีกสกุลไป๋เป็นตระกูลที่ร่ำรวยมีลูกสามคนด้วยกัน คือไป๋ชิงฮวา ไป๋ชิงเทียนและไป๋ชิงหนี่